ทึ่งบารมีธรรม “หลวงพ่อคูณ” พระอาทิตย์ทรงกลดเหนือที่ตั้งสรีระสังขาร

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย แสงแข, 16 พฤษภาคม 2015.

  1. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    เวลา 12.00 น. วันนี้ 16 พ.ค. คณะแพทย์ร.พ.มหาราชนครราชสีมา และร.พ.ศิริราช ได้ประกาศแถลงการณ์ฉบับที่ 4 ระบุว่า พระเทพวิทยาคมมีอาการโดยรวมทรุดลง ได้มรณภาพลงแล้ว เมื่อเวลา 11.45 น.




    [​IMG]

    [​IMG]


    ด่วน!! "พ่อคูณ"ละสังขารแล้ว คณะแพทย์แถลงมรณภาพเมื่อเวลา 11.45 น. : ข่าวสดออนไลน์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2015
  2. oliver076

    oliver076 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    422
    ค่าพลัง:
    +564
    หลวงพ่อคุณ ปริสุทโธ มรณภาพแล้ว ด้วยวัย 92 ปี จากภาวะระบบอวัยวะทำงานล้มเหลว หลังจากที่อาการยังทรุดลงต่อเนื่อง

    (16 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ผ่านมา คณะแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ระบุว่า พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้ละสังขารแล้ว ด้วยวัย 92 ปี หลังอาการอาพาธทรุดหนักลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (15 พ.ค.)

    ตามรายงานระบุว่า หลวงพ่อคูณ ละสังขาร เมื่อเวลา 11.45 น. ที่ผ่านมา จากภาวะระบบอวัยวะภายในทำงานล้มเหลว ซึ่งก่อนหน้านี้ หลวงพ่อคูณ มีภาวะอาการแทรกซ้อน ระบบไตไม่ทำงาน อีกทั้งระบบหายใจยังขัดข้องด้วย ส่งทำให้เกิดอาการหัวใจและชีพจรหยุดต้นอีกครั้ง เมื่อเวลาประมาณ 05.30 น. เมื่อเช้าวันนี้

    สำหรับบรรยากาศที่โรงพยาบาลมหาราชฯ ลูกศิษย์และพุทธศาสนิกชนที่เคารพนับถือ หลวงพ่อคูณ ต่างร้องไห้ด้วยความโศกเศร้า ทันทีที่ได้ทราบข่าวการละสังขารของเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ เช่นเดียวกับ ชาวบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด เมื่อช่วงเช้ามีการทำพิธีสืบชะตาต่ออายุให้กับหลวงพ่อคูณ เมื่อทราบข่าวการละสังขาร ต่างก็อยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ

    REF: ข่าว ดูดวง เกมส์ ฟังเพลง หวย ช้อปปิ้ง : Sanook.com
     
  3. SP6580

    SP6580 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    518
    ค่าพลัง:
    +1,550
    กราบลาท่านผ่านทางนี้ด้วยคับ
     
  4. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    ด่วน! แพทย์แถลง “หลวงพ่อคูณ” มรณภาพแล้ว น้องสาววัย 89 ปี- ญาติ ลูกศิษย์ร่ำไห้

    [​IMG]

    ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ด่วน !แพทย์ รพ.มหาราชนครราชสีมา แถลง "หลวงพ่อคูณ" มรณภาพ แล้วอย่างสงบเมื่อเวลา 11.45 น. ขณะ น้องสาว “หลวงพ่อคูณ” วัย 89 ปีพร้อมญาติและลูกศิษย์ นั่งร่ำไห้อยู่หน้าห้องไอซียู


    ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่พักรักษาอาการอาพาธด้วยภาวะหยุดหายใจ อยู่ที่ห้องไอซียู หอผู้ป่วยหนักอายุรกรรม เตียง 8 ชั้น 2 อาคารการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา หลังถูกนำส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วนเมื่อเช้าวานนี้ ( 15 พ.ค.) และอาการยังอยู่ในขั้นวิกฤต ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่อง นั้น


    เมื่อเวลา 12.30 น.วันนี้( 16 พ.ค. ) ที่ห้องประชุม หอผู้ป่วยหนักอายุรกรรม เตียง 8 ชั้น 2 อาคารการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นพ.สมอาจ ตั้งเจริญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และ นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา พร้อมคณะแพทย์ทีมรักษาอาการอาพาธหลวงพ่อคูณ ได้ร่วมกันแถลงข่าวอาการอาพาธล่าสุด


    นพ.สมอาจ ตั้งเจริญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เปิดเผยว่า ล่าสุด หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ได้มรณภาพอย่างสงบแล้วเมื่อเวลา 11.45 น.ที่ผ่านมา (ส่วนรายละเอียด ผู้สื่อข่าวจะเสนอให้ทราบต่อไป)


    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าการแถลงข่าวของคณะแพทย์ มีบรรดาญาติโยมศิษยานุศิษย์จำนวนมากทยอยกันมาลงนามในสุดเยี่ยมอาการหลวงพ่อคูณฯ ในจำนวนนี้ มี นางคำมั่น วงศ์กายจนรัตน์ อายุ 89 ปี อาชีพทำไร่ทำนา ชาวบ้านบ้านบัวชุม ต.บัวชุม อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องสาว คนที่ 2 ของ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ได้เดินทางมาเยี่ยมอาการหลวงพ่อคูณ นั่งอยู่หน้าห้อง ไอซียู พร้อมด้วยลูกหลาน พร้อมกับนั่งร้องไห้ตลอดเวลา บอกแต่เพียงสั้นว่า ตนทำใจไม่ได้ และทนไม่ได้ที่เห็นหลวงพ่อคูณ เป็นอย่างนี้ พร้อมกับใช้ผ้าเช็ดน้ำตาอยู่ตลอดเวลา

    เปิดประวัติหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ


    พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2466 ตรงกับแรม 10 ค่ำ เดือน 10 ปีกุน ที่บ้านไร่ หมู่ 6 ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ในครอบครัวของชาวไร่ชาวนา บิดาชื่อนายบุญ ฉัตรพลกรัง มารดาชื่อนางทองขาว ฉัตรพลกรัง มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 3 คน คือ หลวงพ่อคูณ นางคำมั่น วงษ์กาญจนรัตน์ นางทองหล่อ เพ็ญจันทร์


    โดยนางทองขาวเล่าให้เพื่อนบ้านฟังว่า ก่อนตั้งครรภ์นั้นกลางดึกของคืนวันหนึ่งเวลาประมาณตี 3 ฝันเห็นเทพองค์หนึ่งมีกายเรืองแสงงดงาม ลอยลงมาจากสวรรค์ มาที่บ้านและกล่าวว่า "เจ้าและสามีเป็นผู้มีศีลธรรม เมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งปวง ประกอบการงานอาชีพด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ทั้งยังสร้างคุณงาม ความดีมาตลอดหลายชาติ เราขออำนวยพรให้เจ้า และครอบครัวมีแต่ความสุขสวัสดิ์ตลอดไป"


    และเทพองค์นั้นยังได้มอบดวงแก้วใสสะอาดสุกสว่างให้แด้วย "ดวงมณีนี้ เจ้าจงรับไปและรักษาให้ดีต่อไปภายหน้า จะได้เป็นพระพุทธสาวกหน่อเนื้อพระชินวร เพื่อสืบพระพุทธศาสนา เป็นเนื้อนาบุญ ที่พึ่งของสัตว์โลกทั้งปวง"


    เมื่อหลวงพ่ออายุครบ 11 ขวบ แม่ก็ถึงแก่กรรม พ่อได้นำไปฝากเป็นศิษย์วัดบ้านไร่ เพื่อให้เรียนหนังสือกับพระอาจารย์เชื่อม วิรโธ พระอาจารย์ฉาย และพระอาจารย์หลี ซึ่งได้เรียนทั้งภาษาไทยและภาษาขอมที่วัดบ้านไร่ ซึ่งเป็นสถานการศึกษาแห่งเดียวในหมู่บ้านขณะนั้น นอกจากเรียนภาษาไทยและขอมแล้ว พระอาจารย์ทั้ง 3 ท่านยังมีความเมตตาอบรมสั่งสอนวิชาคาถาอาคมเพื่อป้องกันอันตรายต่างๆให้แก่หลวงพ่อคูณ นับว่าหลวงพ่อคูณรู้วิชาไสยศาสตร์ตั้งแต่เป็นเด็ก


    จนอายุครบ 16 ปี ได้ออกจากวัดมาอยู่ในความอุปการะของน้าชายชื่อโหม น้าสะใภ้ชื่อน้อย ศิลปชัย ซึ่งมีอาชีพทำนา หลวงพ่อจึงได้ช่วยน้าชายทำนา แต่ด้วยอยากรู้อยากลอง และอยากเป็นหมอเพลงโคราช จึงได้ชักชวนเพื่อน คือ นายเล เพียมขุนทด เดินทาง ไปบ้านมะระ ต.ดอนชมพู อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ฝากตัวเป็นศิษย์ครูสน ซึ่งเป็นครูเพลงที่มีชื่อเสียง ลูกศิษย์ทั้งชายและหญิงของครูสนทุกคนต้องพักอยู่กินหลับนอนที่บ้านครูสนทั้งหมด โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น แต่ระหว่างหัดเพลงต้องช่วยครูสนทำนา ใช้เวลาเรียนคนละ 2-3 ปีจึงจะออกเล่นเพลงได้


    เมื่ออายุได้ 21 ปีก็ได้เข้าอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดถนนหักใหญ่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2487 ตรงกับวันศุกร์ เดือน 6 ปีวอก โดยพระครูวิจารย์ดีกิจ อดีตเจ้าคณะอำเภอด่านขุนทด เป็นพระอุปัชฌาย์ ส่วนพระกรรมวาจาจารย์ คือ พระอาจารย์สุข วัดโคกรักษ์ ได้รับฉายาว่า "ปริสุทโธ"

    หลังจากอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อแดง วัดบ้านหนองโพธิ์ ต.สำนักตะคร้อ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา พระนักปฏิบัติทางด้านคันถธุระ และวิปัสสนาธุระอย่างเคร่งครัด และทั้งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เรืองวิทยาคมเป็นอย่างยิ่ง จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้คนและลูกศิษย์เป็นอย่างมาก

    หลวงพ่อคูณปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อแดงมานานพอสมควร หลวงพ่อแดงจึงพาหลวงพ่อคูณไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อคง พุทธสโร ซึ่งเป็นเพื่อนกัน ต่างให้ความเคารพซึ่งกันและกัน เมื่อมีโอกาสได้พบปะ มักแลกเปลี่ยนธรรมะ ตลอดจนวิชาอาคมแก่กันเสมอ

    กระทั่งหลวงพ่อคงเห็นว่ามีความรอบรู้ชำนาญการปฏิบัติธรรมดีแล้ว จึงแนะนำให้ออกธุดงค์จาริกไปตามป่าเขาลำเนาไพร ฝึกปฏิบัติธรรมเบื้องสูงต่อไป แรกๆหลวงพ่อคูณก็ธุดงค์จาริกอยู่ในเขตจ.นครราชสีมา จากนั้นจึงจาริกออกไปไกล กระทั่งถึงประเทศลาว และประเทศกัมพูชา มุ่งเข้าสู่ป่าลึกเพื่อทำความเพียรให้เกิดสติปัญญา เพื่อการหลุดพ้นจากกิเลส ตัณหา และอุปทานทั้งปวง

    หลังจากที่พิจารณาเห็นสมควรแก่การปฏิบัติแล้ว หลวงพ่อคูณจึงออกเดินทางจากประเทศกัมพูชาสู่ประเทศไทย ข้ามเขตด้านจ.สุรินทร์ สู่จ.นครราชสีมา กลับบ้านเกิดที่บ้านไร่ เริ่มก่อสร้างถาวรวัตถุทางพระพุทธศาสนา เริ่มจากพระอุโบสถ พ.ศ. 2496 โดยชาวบ้านได้ช่วยกันเข้าป่าตัดไม้ ซึ่งในสมัยก่อนมีอยู่มาก แต่การตัดไม้ในสมัยนั้นไม่ค่อยสะดวกนัก เพราะไม่มีเครื่องจักร ไม่มีถนน กว่าจะได้ไม้ที่เลื่อยแล้ว ต้องขนย้ายอย่างยากลำบาก อาศัยโคเทียมเกวียนบ้าง แรงงานคนลากจูงบนทางที่แสนทุรกันดารบ้าง แต่ละเที่ยวจึงต้องใช้เวลา 3-4 วัน แต่หลวงพ่อก็สามารถนำชาวบ้านช่วยกันสร้างพระอุโบสถจนสำเร็จ ซึ่งปัจจุบันได้รื้อลงแล้ว และก่อสร้างหลังใหม่แทน


    นอกจากสร้างพระอุโบสถแล้ว หลวงพ่อยังสร้างโรงเรียน กุฏิสงฆ์ ศาลาการเปรียญ รวมทั้งขุดสระน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภค ยังความสะดวกสบาย และความเจริญในบ้านไร่ยิ่งนัก แม้ปัจจุบันจะไม่ได้เห็นสิ่งดังกล่าว เนื่องจากหลวงพ่อได้เปลี่ยนสิ่งก่อสร้างทั้งหมด มาเป็นปูนเป็นอิฐให้สวยงามและทนทานยิ่งขึ้น นอกจานี้หลวงพ่อคูณยังนำเงินบริจาคที่ศิษยานุศิษย์ถวายไปใช้สร้างโรงพยาบาล ช่วยเหลือด้านสาธารณสุข สาธารณกุศล ไม่เว้นแม้แต่กับเพื่อนบ้านอยาง สปป.ลาว


    หลวงพ่อคูณ บอกว่าที่ทำแบบนี้เพราะ “หลวงพ่อเป็นคนยากจนมาแต่กำเนิด จึงอยากคิดช่วยเหลือคนอื่น การนำเงินออกไปช่วยคนอื่นก็จะมีคนบริจาคเรื่อยๆ ถ้าเก็บไว้จะทำให้อาตมาตาบอด ใจก็บอดอีกด้วย จึงอยากช่วยคนอื่นอยู่เรื่อยไป วันใดไม่มีคนมาขอเงิน ก็ไม่ค่อยสบายใจ”


    หลวงพ่อคูณ มีชื่อเสียงด้านการสร้างวัตถุมงคลตั้งแต่บวชแล้ว 7 พรรษา โดยเริ่มทำวัตถุมงคลเป็นตะกรุดโทน ตะกรุดทองคำ เพื่อฝังที่ใต้ท้องแขน ณ วัดบ้านไร่ ราว พ.ศ.2493 ซึ่งได้ชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ เพราะหลวงพ่อคูณมอบวัตถุมงคลให้แก่ทุกคน แม้แต่โจรผู้ร้ายจนศิษยานุศิษย์ถามว่าอย่างนี้ไม่บาปหรือ ซึ่งหลวงพ่อคูณมักตอบว่า “ใครขอกูก็ให้ ไม่เลือกยากดีมีจน กูจะไปรู้หรือว่ามันเป็นใคร ถ้ามันเป็นโจร เมื่อมันได้รับประโยชน์จากของที่กูแจก มันคงคิดได้ว่าเป็นเพราะพระศาสนา มันจะได้เข้ามาสนใจปฏิบัติธรรม”

    เหรียญหลวงพ่อคูณ แต่ละรุ่นเป็นที่นิยมของนักสะสม และเป็นที่ต้องการของลูกศิษย์เป็นอย่างมาก หลายรุ่นมีราคาแพงมาก โดยเฉพาะเหรียญหลวงพ่อคูณรุ่นแรก แต่การเช่าหาพระหลวงพ่อคูณต้องระมัดระวังในกรณีที่พระราคาสูง ส่วนเครื่องรางของขลังที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปถึงต่างประเทศ คือ “ตะกรุดทองคำ” ซึ่งเป็นตะกรุดทองคำฝังแขน มีข้อห้าม 2 ข้อ คือ 1.ห้ามด่าแม่ 2.ห้ามผิดลูกเมียผู้อื่น


    หลวงพ่อคูณ เคยสั่งว่า เมื่อมีวัตถุมงคลของหลวงพ่อติดตัวให้ภาวนา “พุทโธ” ทำจิตให้เป็นสมาธิแน่วแน่ ละเว้นถ้อยคำด่าทอ ด่าพ่อแม่ตน และพ่อแม่บุคคลอื่น และอย่าผิดสามี หรือภรรยาผู้อื่น ให้สวดมนต์ก่อนเข้านอนทุกคืน ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด และยังย้ำว่า “ถ้ามีใจอยู่กับพุทโธ ให้เป็นกลางๆ ไม่สอดส่ายไปที่ไหน นั่นหมายความว่า ใจเป็นสมาธิ จะช่วยปกป้องคุ้มครองเราได้ดียิ่ง ยิ่งกว่ามีวัตถุมงคลใดๆ ในโลก”


    เวลานั่งสมาธิหายใจเข้า ให้บริกรรมว่า “ตาย” หายใจออก ให้บริกรรมว่า “แน่” เป็น ตายแน่…ตายแน่…ตายแน่ไปเรื่อยๆ จะรู้สึกสบาย จิตสงบ ซึ่งคำสอนนี้น่าจะเป็นเพราะหลวงพ่อคง พุทธสโร เคยสอนให้ใช้หมวดอนุสติโดยดึงเอาวิธีกำหนดความตายเป็นอารมณ์ เรียกว่า “มรณัสสติ” เพื่อให้เกิดความรู้เท่าทัน ไม่หลงในในอารมณ์ รูป รส กลิ่น เสียง ไม่ประมาทในความโลภ ความโกรธ และความหลง กำหนดลมหายใจเข้าออกทำจิตให้เกิด สัมมาสมาธิ เรียกว่า “อานาปานสติ”


    นอกจากวัตถุมงคลแล้ว หลวงพ่อคูณ ยังมีเอกลักษณ์ประจำตัว คือ ท่านั่งยอง ซึ่งหลวงพ่อคูณให้เหตุผลว่าเป็นท่าที่สบายที่สุด อีกทั้งเป็นลักษณะของคนเตรียมพร้อมที่ลุกเดินไปไหนมาไหนได้ทันที จะหยิบจับอะไรก็ง่าย และสะดวกในการทำงาน


    หลวงพ่อคูณ มักถูกมองว่าเป็นพระที่เก่งกล้าอาคม แต่หากได้พบ และได้สนทนาธรรม จะทราบทันทีว่า คือ “ปราชญ์แห่งที่ราบสูง” สนทนาธรรมแบบไปตรงมา พูดจา “มึง-กู” แต่แท้จริงหลวงพ่อคูณ เป็นพระที่เป็นพระจริงๆ คือ มีจิตเมตตาเป็นที่ตั้ง แม้ในยามที่วัดบ้านไร่มีปัญหา หรือมีความขัดแย้งระหว่างลูกศิษย์ หลวงพ่อคูณ ตัดสินใจเดินจากวัดบ้านไร่ไปอย่างเงียบๆ พร้อมปรัญชาที่ว่า “เป็นธรรมดา เปรียบเสมือนต้นไม้หากมีลูกไม้ ย่อมจะเป็นที่จิกกินของสัตว์ หรือนก แม้ กระทั่งคนหากแม้นเมื่อหมดลูกหมดผล ก็หมดการแก่งแย่ง แต่อีกไม่นานต้นไม้นั้นก็จะออกลูกออกผลมาให้ เป็นเช่นนี้เรื่อยไป”


    ไม่เคยมีใครเคยเห็นหลวงพ่อคูณ กราดเกรี้ยว หรือทุกขเวทนาต่อเหตุการณ์ร้ายๆ ที่เกิดขึ้นภายในวัด ทั้งที่วัดมีรายได้มากมายจากประชาชนที่ศรัทธาในบารมีของหลวงพ่อคูณ แสดงให้เห็นว่ามีจิตที่แจ่มใส หมดสิ้นแล้วซึ่งกิเลส เป็นที่พึ่งทางธรรมอย่างแท้จริง


    หลวงพ่อคูณ ถูกนิมนต์ไปทั่วประเทศ ทั้งทางรถ ทางเรือ เฮลิคอปเตอร์ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว อาคาร ห้างร้าน จึงเต็มไปด้วยสารพัดเหรียญหลวงพ่อ รูปหลวงพ่อนั่งยองๆ สูบยา สร้างความความมั่งคั่งร่ำรวยให้แก่ผู้ขอนุญาตสร้างเหรียญออกสู่ตลาด เงินสะพัดจนธนาคารส่งพนักงานมาบริการให้ถึงที่วัด


    ทานบารมีของหลวงพ่อคูณ ปรากฏชัดเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2535 พร้อมกับเรื่องเลาขานที่กลายเป็นตำนานของหลวงพ่อ เมื่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทรงยกช่อฟ้าอุโบสถ เททองหล่อพระประธานวัดบ้านไร่ มีเรื่องเล่าขานกันว่า ก่อนถึงเสด็จฯ ข้าราชการหลายคนเข้ามาแนะนำการใช้คำราชาศัพย์ง่ายๆ ให้หลวงพ่อคูณ พร้อมกำชับว่าให้ระมัดระวังภาษาที่หลวงพ่อใช้อยู่ประจำ เมื่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ และจนพิธีแล้ว ได้เสด็จฯ โดยมีหลวงพ่อคูณ และผู้ว่าราชการจังหวัด เดินตามมา หลวงพ่อคูณดูมีท่าทางอึดอัดจนผิดปกติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงตรัสถามก็มีแต่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่คอยถวายคำอธิบายอยู่เช่นนั้น จนพระองค์ตรัสถามว่า “ทำไมหลวงพ่อไม่พูดกับหนูล่ะคะ” คำตอบสั้นๆ ของหลวงพ่อคูณ ที่ทำให้ข้าราชการแทบจะเป็นลมล้มลงกับพื้น คือ “ก็ไอ้นี่มันไม่ให้กูพูดกับมึง” พร้อมชี้นิ้วไปที่ที่นายอำเภอด่านขุนทด


    และเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2538 เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ มายังวัดบ้านไร่ เพื่อทรงประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่บุษบกเหนือพระอุโบสถวัดบ้านไร่ ครั้งนี้มีการจัดสร้างพระยอดธงรุ่นแรก หรือรุ่นทูลเกล้าฯ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทราบว่า ชาวด่านขุนทด มีปัญหาขาดแคลนน้ำทุกปีในช่วงหน้าแล้ง จึงมีพระราชดำริ และพระราชทานเงินให้กรมชลประทาน จัดทำโครงการพัฒนาลำน้ำสาขาห้วยสามบาท อันเนื่องมาจากโครงการพระราชดำริ ซึ่งหลวงพ่อคูณคูณ ได้ทูลเกล้าฯ ถวายเงิน 72 ล้านบาทโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย

    หลวงพ่อคูณ กล่าวต่อศิษยานุศิษย์ว่า “กูรู้สึกดีใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ บุญทานอื่นทำมามาก แต่ทำบุญกับพระเจ้าอยู่หัว ยังไม่ได้ทำ ภูมิใจมหาศาล เงินที่ลูกหลานบริจาคทีละเล็กละน้อยสะสมรวมไว้เพื่อทูลเกล้าฯ ถวาย พี่น้องจะได้รับอานิสงส์ด้วย พี่น้องรู้ว่าทูลเกล้าฯ ถวายพระเจ้าอยู่หัว ก็ดีใจมาก ชาวต่างประเทศก็มากันมาก จีนก็มา เกาหลีก็มา อินเดียก็มา ทำแล้วแต่กำลัง คนละสิบบาท ยี่สิบบาท มากันทุกวัน ยิ่งถ้ามาช่วยกันแล้วก็ไม่ได้มาหาสิ่งตอบแทนอะไร เขามาด้วยศรัทธากันจริงๆ”

    มีเรื่องเล่าว่า ก่อนหน้าที่จะมีงานใหญ่ ลูกศิษย์ต่างเป็นห่วงกลัวว่าหลวงพ่อคูณจะพูดราชาศัพท์ไม่ได้ ซึ่งหลวงพ่อบอกว่า “จะไปยากอะไร ก็พูดว่าขอถวายพระพรมหาบพิตร หรือไม่ก็ถวายพระพรคุณโยม ท่านสบายดีหรือ ท่านคงจะไม่ถือ เพราะท่านเป็นจอมปราชญ์ พูดอย่างไรกับท่าน ท่านก็ย่อมรู้ดี”


    ลูกศิษย์เลยถามหลวงพ่อว่า “ในหลวง” ทรงตรัสอะไรกับหลวงพ่อบ้าง หลวงพ่อคูณตอบมาว่า “มึงรู้ไหม มือพระองค์เป็นมือคนทำงานอย่างก๊ะชาวไร่ชาวนา แข็งกระด้างมากๆ”


    เมื่อถูกถามอีกว่า หลวงพ่อใช้คำเรียกพระองค์ว่าอะไร หลวงพ่อก็ตอบว่า พระองค์ตรัสประโยคแรกว่า “หลวงพ่อครับ พูดตามปกตินะครับ ผมเป็นคนไทย”


    ล่วงเข้าวันที่ 4 ตุลาคม 2550 คณะศิษยานุศิษย์จัดสร้าง “พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ” เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความศรัทธา และบารมีทานอันยิ่งใหญ่ของหลวงพ่อ เนื่องในโอกาสอายุครบ 86 ปี การก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยเมื่อปี 2552 และเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2552 เวลา 14.45 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทรงเป็นประธานเปิดพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ


    ล่าสุด วันที่ 4 ตุลาคม 2556 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานผ้าไตร น้ำสรง และพุ่มดอกบัวถวายแด่หลวงพ่อคูณพระเทพ เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 90 ปี และวันที่ 3 ตุลาคม 2557 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานน้ำสรง และกระเช้าดอกไม้สด แด่หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 91 ปี


    ซึ่งทั้ง 2 โอกาสอันเป็นมงคลนี้ หลวงพ่อคูณ อาพาธหนัก เข้า-ออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น แต่ก็ยังมีศิษยานุศิษย์ไปกราบนมัสการกันไม่เว้นวัน จนวันสุดท้ายที่โรงพยาบาลทหาราชนครราชสีมา


    หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ พระญาณวิทยาคมเถร วันที่ 12 สิงหาคม 2535 พระราชาคณะชั้นราชฝ่ายวิปัสสนาธุระที่ พระราชวิทยาคม อุดมกิจจานุกิจจาทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี วันที่ 10 มิถุนายน 2539 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพฝ่ายวิปัสสนาธุระที่ พระเทพวิทยาคม อุดมธรรมสุนทร ปสาทกรวรกิจ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี วันที่ 12 สิงหาคม 2547


    “กูให้มึง...” คือ คำคมที่หลวงพ่อคูณ หรือเทพเจ้าแห่งที่ราบสูง มักชอบบอกกับลูกหลานที่มาขอพึ่งใบบุญ แต่ยังมีคำสอนทิ้งไว้ให้ลูกหลานอีกมากมาย เช่น


    “ยิ่งเอามันยิ่งอด ยิ่งสละให้หมดมันยิ่งได้”


    “กูไม่เคยยินดียินร้ายในลาภยศสรรเสริญ”


    “กูดีใจที่เกิดมาเป็นคนจน เพราะได้สร้างทานบารมี ถ้ากูเกิดมาเป็นคนรวยป่านนี้คำว่าบุญก็ไม่รู้จักกัน”


    “เงินเป็นทาสกู กูไม่ยอมเป็นทาสเงิน”


    “เกิดมาแล้ว...รักความสงบ ให้มีศีลธรรมไว้ประจำใจทุกๆ คน โลกจะได้อยู่ชุ่มกินเย็น”

    “คนเรา เมื่อมีเมตตาให้กับผู้อื่น ผู้อื่นเขาก็จะ ห้ความเมตตาตอบสนองต่อเรา ถ้าเราโกรธเขา เขาก็จะโกรธเราตอบเช่นกัน ความเมตตานี่แหละ คือ อาวุธ ที่จะปกป้องตัวเราเอง ห้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง เป็นอาวุธที่ใครๆ จะนำเอาไปใช้ก็ได้ จัดว่าเป็นของดีนักแล”

    คิดได้ ปฏิบัติได้หรือไม่ คงเป็นเรื่องของแต่ละคน!!!


    [​IMG]

    พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา มรณภาพอย่างสงบเมื่อเวลา 11.45 น. วันนี้ ( 16 พ.ค.)


    [​IMG]
    นพ.สมอาจ ตั้งเจริญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

    [​IMG]

    นางคำมั่น วงศ์กายจนรัตน์ อายุ 89 ปี น้องสาวหลวงพ่อคูณ

    [​IMG]

    น้องสาวหลวงพ่อคูณ และญาติร่ำไห้



    ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000055733
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤษภาคม 2015
  5. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    เผยพินัยกรรม"หลวงพ่อคูณ" บริจาคร่างคณะแพทย์"ม.ขอนแก่น"เป็นอจ.ใหญ่ อัฐิลอยน้ำโขง


    เมื่อเวลาประมาณ 12.15 น. วันที่ 16 มิถุนายน 2558 คณะแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แถลงความคืบหน้าอาการอาพาธของ พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) ล่าสุด ฉบับที่ 4 ว่า หลวงพ่อคูณได้มรณภาพแล้ว เมื่อเวลา 11.45 น. ที่ผ่านมา วันที่ 16 พฤษภาคม 2558


    สำหรับประวัติ พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อายุ 92 ปี เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม 2466 ตรงกับแรม 10 ค่ำ เดือน 10 ปีกุน ที่บ้านไร่ หมู่ 6 ต.กุดพิมาน ในครอบครัวของชาวไร่ชาวนาที่อยู่ห่างไกลความเจริญ บิดาชื่อ นายบุญ ฉัตรพลกรัง มารดาชื่อ นางทองขาว ฉัตรพลกรัง มีพี่น้อง 3 คน คือ พระเทพวิทยาคม (คูณ ปริสุทโธ) นางคำมั่น วงษ์กาญจนรัตน์ และนางทองหล่อ เพ็ญจันทร์ หลวงพ่อคูณ อุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดถนนหักใหญ่ ต.กุดพิมาน เมื่อวันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม 2487 ปีวอก ได้รับฉายา ปริสุทโธ


    [​IMG]


    เปิดพินัยกรรมหลวงพ่อคูณ

    บริจาคศพให้คณะแพทย์มหาวิทยาลัยขอนแก่น ก่อนนำมาฌาปนกิจแบบเรียบง่าย ห้ามขอพระราชทานเพลิงศพ อัฐิ อังคารลอยแม่น้ำโขง
    โดยมีพยานรับรอง 4 คน ร.ศ.สุขชาติ เกิดผล รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นายประทีป วงษ์กาญจนรัตน์ นายธวัช เรืองหร่าย ไวยาวัจกรวัดบ้านไร่ และ นายเนาวรัตน์ สังการกำแหง นิติกร 8 (ชำนาญการ) มหาวิทยาลัยขอนแก่น


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    สำหรับเนื้อหาสำคัญใจความว่า อาตมาหลวงพ่อคูณ อายุ 77 ปี ในขณะนั้น ถิ่นพำนักวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ลงวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2543 ขอทำพินัยกรรมกำหนดการ เผื่อถึงการมรณภาพ เกี่ยวกับเรื่องการจัดงานศพของอาตมา ภายหลังที่อาตมาถึงมรณภาพลง


    1.ศพของอาตมา ให้มอบแก่มหาวิทยาลัยขอนแก่นภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากละสังขาร เพื่อให้มหาวิทยาลัยขอนแก่น มอบให้กับภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำไปศึกษาค้นคว้าตามวัตถุประสงค์ของภาคต่อไป


    2.พิธีกรรมศาสนา การสวดอภิธรรมศพ ให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำพิธีสวด พระอภิธรรมศพ ที่คณะแพทยศาสตร์ 7 วัน


    3.การจัดทำพิธีบำเพ็ญกุศล เมื่อสิ้นสุดการศึกษาค้นคว้าของภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นแล้ว ให้จัดงานแบบเรียบง่าย ละเว้นการพิธีสมโภชน์ใดๆ และห้ามขอพระราชทานเพลิงศพ โกฏิและพระราชพิธีอื่นๆ เป็นกรณีพิเศษเป็นการเฉพาะ โดยให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กระทำพิธีเช่นเดียวกับการจัดพิธีศพของอาจารย์ใหญ่นักศึกษาแพทย์ประจำปีร่วมกับอาจารย์ใหญ่ท่านอื่น แล้วเผา ณ ฌาปนสถานวัดหนองแวง พระอารามหลวง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น หรือวัดอื่น


    4.เมื่อดำเนินเสร็จสิ้นแล้ว อัฐิ เถ้าถ่าน และเศษอังคารทั้งหมด ให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำไปลอยที่แม่น้ำโขง จ.หนองคาย ตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม




    ขอบคุณ มติชนออนไลน์ เผยพินัยกรรม"หลวงพ่อคูณ" บริจาคร่างคณะแพทย์"ม.ขอนแก่น"เป็นอจ.ใหญ่ อัฐิลอยน้ำโขง : มติชนออน��
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2015
  6. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    ประชาชนแห่กราบสังขาร"หลวงพ่อคูณ"แน่นรพ.ที่โคราช

    [​IMG]



    ผู้สื่อข่าวรายงานจากร.พ.มหาราชนครราชสีมาว่า หลังจากที่หลวงพ่อคูณจะมรณภาพอย่างสงบเมื่อเวลา 11.45 น.นั้น ทางโรงพยาบาลเปิดโอกาสให้ลูกศิษย์คนใกล้ชิด และญาติของหลวงพ่อคูณเข้ากราบศพ จากนั้นเวลา 13.30 น. เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ากราบศพ แต่ไม่ได้ให้เข้าไปในห้อง โดยให้เดินผ่านห้องกระจกแล้ว ยกมือไหว้แทน


    ประชาชนแห่กราบสังขาร"หลวงพ่อคูณ"แน่นรพ.ที่โคราช : ข่าวสดออนไลน์
     
  7. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    เบื้องหลังพินัยกรรมหลวงพ่อคูณ

    ทำไมไม่ให้เก็บศพไว้บูชาเหมือนเกจิรูปอื่นๆ

    [​IMG]

    [​IMG]


    หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ กล่าวกับ "คม ชัด ลึก" ถึงเหตุผลการพินัยกรรมฉบับดังกล่าวว่า การทำพินัยกรรมฉบับนี้ขึ้นมา เพื่อไม่ต้องการให้ศิษยานุศิษย์เดือดร้อน หรือเกิดความวุ่นวายขึ้นเมื่อยามที่ล่วงลับไปแล้ว และเพื่อไม่ต้องการให้เกิดเป็นปัญหาระหว่างลูกศิษย์ด้วยกัน อย่างน้อยก็เป็นการลดภาระลงไปได้ เพราะเมื่อได้ทำพินัยกรรมฉบับนี้ขึ้นมาลูกศิษย์จะได้ไม่ต้องเกิดความขัดแย้งกันเอง


    "กูเองไม่อยากเป็นภาระกับคนอื่น เมื่อตายไปแล้วก็อยากให้ทุกคนได้ดำเนินการทุกอย่างตามที่ได้ระบุเอาไว้ในพินัยกรรม โดยกูเองก็ได้ให้ลูกศิษย์ทั้งสี่คนเป็นผู้ดูแลทุกอย่าง หลังที่กูตายไปแล้ว ส่วนเหตุผลที่กูให้เผาศพกู ก็เพราะกูไม่อยากให้เป็นภาระ ไม่อยากให้เกิดการแสวงหาประโยชน์ใดๆ จากตัวกู นี่แหละที่กูอยากให้ทำนะไอ้ลูกหลานเอ้ย" หลวงพ่อคูณกล่าว


    เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง http://www.facebook.com/home.php
     
  8. DEEJAI243

    DEEJAI243 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2015
    โพสต์:
    427
    ค่าพลัง:
    +1,449
    ยกสิบนิ้ว ประนม ก้มลงกราบ
    น้ำตาอาบ เอิ่อแก้ม รดรินไหล
    แสนโศก เศร้าสลด กำสรดใจ
    ด้วยอาลัย การจากไป ไม่หวนคืน

    อันสังขาร ร่างกาย ย่อมแตกดับ
    ชีพลาลับ ล่วงไป ไม่อาจฝืน
    เหลือไว้แต่ ความดี ที่ยั่งยืน
    เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน

    แต่งโดย: wanwisa 2517
    ขอบน้อมก้มกราบท่านด้วยความอาลัย
    และเคารพยิ่ง ขอให้ท่านเข้าสู่แดนนิพพาน
    สาธุ... สาธุ..... สาธุ......
     
  9. a5g1aeka

    a5g1aeka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    728
    ค่าพลัง:
    +1,578
    ท่านทำพินัยกรรมไว้อย่างดีแล้ว กราบอนุโมทนาหลวงพ่อมา ณ. โอกาสนี้ด้วยความเคารพอย่างสูง
     
  10. navycom33

    navycom33 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    676
    ค่าพลัง:
    +6,732
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต้ อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ

    หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยกายก็ดี วาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี

    ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดอดโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ

    ขอบน้อมกราบนมัสการด้วยความอาลัย
     
  11. alkuwaiti

    alkuwaiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    372
    ค่าพลัง:
    +1,257
    ผมเคยไปวัดบ้านไร่ตอนยังเรียนอยู่ประถม ก็ถือว่าโชคดีที่ยังมีโอกาสเห็นตัวจริงท่านตอนที่ยังอยู่วัด กราบลาหลวงพ่อด้วยนะครับ

    ผมเองก็สงสัยว่าการบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ และเอาอัฐิไปลอยแม่น้ำ ไม่ทราบว่าเหล่าลูกศิษย์จะเหลืออัฐิบางส่วนไปสร้างเจดีย์ให้ท่านด้วยหรือเปล่า แบบของหลวงตามหาบัวอะครับ เพราะถ้าไม่มีเจดีย์หลวงพ่อคูณไว้บ้างเลยมันก็น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน ถ้าเอาพระธาตุของพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์บรรจุเข้าไปด้วยก็จะยิ่งดีมากขึ้น

    ถ้ามีการสร้างเจดีย์แบบที่ผมคิดไว้จริง แล้วมีการประชาสัมพันธ์ร่วมทำบุญสร้างเจดีย์ผมเองก็อยากจะร่วมทำบุญด้วย
     
  12. masshi

    masshi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    312
    ค่าพลัง:
    +553
    กราบน้อมส่งพ่อแม่ครูอาจารย์ ผู้ให้ชีวิตและโอกาสกับศิษย์ ด้วยความเคารพอย่างสูงสุดด้วยศียรเกล้า
    สาธุ.... สาธุ...... สาธุ
     
  13. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    ย้าย สรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ไปรพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ตามเจตนารมณ์


    คณะแพทย์และศิษยานุศิษย์ ได้ข้อสรุปการดำเนินการตามพินัยกรรมของหลวงพ่อคูณ โดยจะเคลื่อนย้ายสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณไปไว้ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ตามเจตนารมณ์



    คณะแพทย์และศิษยานุศิษย์ ได้ข้อสรุปการดำเนินการตามพินัยกรรมของหลวงพ่อคูณ โดยจะเคลื่อนย้ายสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณไปไว้ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ตามเจตนารมณ์


    เจ้าหน้าที่และศิษยานุศิษย์เคลื่อนสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณไปที่ชั้น 9 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เพื่อประกอบพิธีรดน้ำร่างสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณ โดยมีศิษยานุศิษย์จำนวนมากมาเฝ้ารอ


    ส่วนการจัดการเรื่องสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณนั้น นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ร่วมประชุมกับคณะลูกศิษย์ โดยมีข้อสรุปว่าจะมีการเคลื่อนย้ายร่างสรีระสังขารหลวงพ่อคูณไปไว้ที่ รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ตามเจตนารมณ์ โดยคณะแพทย์จะเคลื่อนย้ายสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาในเวลา 19.30 น.วันนี้ (16 พ.ค.2558) แต่จะมีการเปิดให้ประชาชนและศิษยานุศิษย์ได้กราบสักการะร่างสรีระของหลวงพ่อคูณก่อน


    ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ระบุว่า จะนำร่างสรีระสังขารหลวงพ่อคูณไปเก็บไว้ที่ชั้น 2 หอประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นเวลา 7 วัน จากนั้นจะดำเนินการทางการแพทย์และจะนำสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณไปเก็บรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์เป็นเวลา 1 ปีและในอีก 2 ปี จึงจะนำสรีระสังขารหลวงพ่อคูณมาเป็นอาจารย์ใหญ่ เพื่อประโยชน์ในการศึกษา ก่อนจะมีการฌาปนกิจและนำอัฐิไปลอยอังคารที่แม่น้ำโขงฝั่ง จ.หนองคาย ตามเจตนารมณ์ของหลวงพ่อคูณต่อไป




    ที่มา ข่าวไทยพีบีเอส - Thai PBS News
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤษภาคม 2015
  14. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    เร่งจัดเตรียมงานพิธีรับร่าง 'พ่อคูณ' เป็นอาจารย์ใหญ่

    คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น เร่งทำความสะอาด จัดเตรียมสถานที่เต็มกำลัง รองรับร่าง "หลวงพ่อคูณ" เผยขั้นตอน สวดอภิธรรม 7 วัน ก่อนเก็บร่างไว้ 1 ปี จึงกลายเป็น "อาจารย์ใหญ่"



    [​IMG]


    เมื่อวันที่ 16 พ.ค. หลังจากที่ พระเททวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) ละสังขารอย่างสงบเมื่อเวลา 11.45 น. พร้อมกับบริจาคร่างกายให้กับคณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น เพื่อใช้ในการศึกษา ล่าสุด ที่ศูนย์กาญจนาภิเษก ม.ขอนแก่น รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ รศ.พิพัฒน์พงษ์ แคนลา รองคณบดีฝ่ายกายภาพและสภาพแวดล้อม ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งจัดเตรียมสถานที่สำหรับรอรับร่างหลวงพ่อคูณมาทำพิธีภายในอาคารดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. – 22 พ.ค. ตามพินัยกรรมที่ได้ระบุไว้ รศ.พิพัฒน์พงษ์ เปิดเผยว่า หลวงพ่อคูณได้ทำพินัยกรรมไว้ที่คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น เพื่อมอบร่างที่เสียชีวิตแล้วให้เป็น”ครูใหญ่”ของนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ จึงต้องจัดเตรียมสถานที่รับร่างของท่านให้เพียบพร้อมภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งหลังร่างของหลวงพ่อคูณมาถึงจะมีการสวดอภิธรรม 7 วัน จากนั้นต้องเก็บร่างท่านไว้ 1 ปี ก่อนให้นักเรียนได้ศึกษา ซึ่งจะใช้เวลา 2 –3 ปี ก็จะนำร่างไปฌาปณกิจเหมือน อาจารย์ใหญ่ทั่วๆไป รวมถึงการลอยอังคารที่แม่น้ำโขงตามที่ความประสงค์ของท่านด้วย


    [​IMG]


    อีกด้านหนึ่งที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา เจ้าหน้าที่ ได้มีการเคลื่อนย้ายสังขารของหลวงพ่อคูณออกจากห้องไอซียู ชั้น 2 อาคารการไฟฟ้า ไปยังที่ชั้น 9 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นห้องประชุมขนาดใหญ่ เพื่อเปิดโอกาสให้ญาติโยมและศิษยานุศิษย์ได้ไปกราบนมัสการเป็นครั้งสุดท้ายจนถึงเวลา 20.00 น. จากนั้นจะมีรถพยาบาลจาก รพ.ศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มารับสังขารของหลวงพ่อคูณไปประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมศพเป็นเวลา 7 วันที่ รพ.ศรีนครินทร์ เมื่อเสร็จสิ้นพิธีครบ 7 วันแล้ว คณะแพทย์จะเก็บรักษาสังขารของหลวงพ่อคูณไว้ เพื่อทำการศึกษาตามกระบวนการทางการแพทย์เป็นเวลา 3 ปี ก่อนนำร่างมาประกอบพิธีฌาปนกิจอย่างเรียบง่าย โดยไม่มีพีพระราชทานเพลิงศพ จากนั้นนำเถ้าอัฐิไปลอยอังคารที่แม่น้ำโขง จ.หนองคาย ทั้งนี้เป็นไปตามพินัยกรรมฉบับล่าสุดที่หลวงพ่อคูณเขียนระบุไว้ชัดเจน


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    อ่านต่อที่ : เร่งจัดเตรียมงานพิธีรับร่าง 'พ่อคูณ' เป็นอาจารย์ใหญ่ | เดลินิวส์
     
  15. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,270
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,095
    น้อมส่งหลวงพ่อเข้าสู่สุคติภูมิครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤษภาคม 2015
  16. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ท่านปรารถนาพระโพธิญาณครับ
     
  17. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
  18. rt5038

    rt5038 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,141
    ค่าพลัง:
    +2,615
    กราบนอบน้อมนมัสการ หลวงพ่อคุณ ปริสุทโธ ที่เคารพยิ่ง

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

    ระตะนัตตะเย ปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต
    ระตะนัตตะเย ปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต
    ระตะนัตตะเย ปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต

    มหาเถเร ปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต
    มหาเถเร ปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต
    มหาเถเร ปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต

    กรรมใดที่ลูกได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อหลวงพ่อทั้ง กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ทั้งที่ระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยทางกาย หรือวาจาก็ดีหรือ ด้วยใจก็ดี ด้วยเจตนาก็ดีหรือไม่เจนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขอหลวงพ่อได้โปรดเมตตาประทานงดโทษให้แก่ข้าพเจ้านับจากนี้เป็นต้นไปเทอญ
    ข้าพเจ้าขอกราบนมัสการน้อมส่งหลวงพ่อ เข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพานตามแนวทางคำสอนแห่งองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

    ธรรมใดที่หลวงพ่อรู้แจ้งประจักษ์ใจแล้ว ขอให้ข้าพเจ้าได้มีส่วนแห่งการรู้แจ้งประจักษ์ในธรรมนั้นด้วยเช่นกันเทอญ
    ขอแสดงมุทิตาจิตอาลัยต่อการจากไปของท่านอริยสงฆ์.
     
  19. TNWD

    TNWD Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +39
    พินัยกรรมท่านแฝงไปด้วยธรรม สาธุ
     
  20. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,100
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,974
    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...