ท่านคุณานันทะ จุติจากชั้นดุสิตเทวโลก มาช่วยพุทธศาสนาในศรีลังกา

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย คนมีกิเลส, 8 มิถุนายน 2008.

  1. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431

    ครั้งหนึ่งนั้น พระพุทธศาสนาได้เจริญรุ่งเรืองในเกาะศรีลังกาต่อเนื่องอย่างช้านาน จนมาถึงกระทั่งยุคล่าอาณานิคม ศรีลังกาถูกชาติตะวันตกหลายชาติ เช่น ฮอลันดา โปรตุเกส และอังกฤษ ผลัดเปลี่ยนกันมารุกรานช่วงชิงทรัพยากรเป็นเวลากว่า 400 ปี นอกจากเสียเอกราชทางการเมืองการปกครองแล้ว ผู้ปกครองก็มุ่งเป้าเพื่อที่จะทำลายพระพุทธศาสนาให้หมดไปจากเกาะศรีลังกาให้ได้ นี่เป็นเรื่องจริงที่ได้รับการบันทึกไว้ในยุคนั้น ชาวศรีลังกาในยุคมืด ชาวพุทธถูกกดขี่ข่มเหงทั้งโดยตรงและโดยอ้อม ราวกับจะถูกต้อนให้ตกทะเล ชาวพุทธรู้สึกสิ้นหวังและท้อแท้ทุกหย่อมหญ้า <!--fonto:Times New Roman--><!--/fonto--><!--fontc--><!--/fontc-->

    ตัวอย่างการกดขี่ รัฐบาลสั่งห้ามชาวพุทธประกอบพิธีทางศาสนาโดยเด็ดขาด วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาถูกยกเลิก เช่น วันวิสาขบูชาไม่ให้เป็นวันหยุดอีกต่อไป แล้วประกาศวันหยุดของศาสนาผู้ที่ครอบครองแทน และสนับสนุนเฉลิมฉลองอย่างเต็มที่ ตำแหน่งระดับสูงสงวนไว้ให้กับผู้ที่นับถือศาสนาผู้ปกครองเท่านั้น ชาวพุทธหากว่าไม่ยอมเปลี่ยนศาสนาจะได้รับตำแหน่งชั้นล่างเท่านั้น มีวัดร้างเพิ่มขึ้น ที่ดินและทรัพย์สินของวัดร้างถูกยึดไปเป็นของรัฐ หรือของศาสนาอื่น พระภิกษุจะถูกวัยรุ่นศาสนาอื่นดูถูกดูหมิ่นล้อเลียนในที่สาธารณะ ศาสนิกอื่นเขียนหนังสือบทความโจมตีพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในยุคนั้นอย่างเต็มที่ <!--fonto:Times New Roman--><!--/fonto--><!--fontc--><!--/fontc-->

    แต่กรุงศรีลังกาไม่สิ้นคนดี เมื่อร้อยกว่าปีที่แล้วมา เด็กชายคนหนึ่งก็ได้ถือกำเนิดขึ้นในครอบครัวชาวสิงหล แต่เนื่องจากลังกาอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่ง เขาจึงได้ชื่อภาษาฝรั่งว่าไมเคิล ส่วนตัวแล้วหนูน้อยไมเคิลมีนิสัยดี ๆ อยู่ 3-4 ประการคือ

    1. ใฝ่รู้ใฝ่ศึกษา

    2. กล้าแสดงความคิดเห็น

    3. มีความทรงจำเป็นเยี่ยม

    4. เปี่ยมไปด้วยวาทะศิลป์และปฏิภาณ

    เมื่อหนูน้อยไมเคิลอายุได้ 12 ปี ก็ได้พบจุดหักเหในชีวิต เขาได้ไปเที่ยวงานวัดบนเขาแห่งหนึ่ง เขาได้ช่วยงานเป็นอาสาสมัคร รู้สึกอิ่มเอิบเพลิดเพลินอยู่ในบรรยากาศหลายวันก็เลยตัดสินใจขอบวชเป็นสามเณรที่วัดนั้นนั่นเอง เขาได้รับนามว่า <!--fonto:Times New Roman--><!--/fonto-->
     
  2. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    ผลจากการที่เป็นสามเณรที่ดี ได้รับการฝึกตนอย่างยิ่งยวด รักและหวงแหนพระพุทธศาสนาแต่เยาว์วัย ครั้นเป็นพระภิกษุที่ดี ต่อไปก็จะเป็นการเปลี่ยนแปลงพุทธศาสนาในศรีลังกาที่เกิดจากการโต้วาทะกับศาสนาที่มาครอบครองศรีลังกาเป็นจำนวนถึง 5 ครั้งโดยใช้เวลาถึง 9 ปีเศษ คือไม่ได้ต่อเนื่องกันทุกวัน พอเพลี่ยงพล้ำก็ไปซ้อมใหม่ ไปประเมินผลหาจุดบกพร่องของตัว พอพร้อมดีแล้วก็นัดกันครั้งที่ 2 โต้วาทะอีก พอเลี่ยงพล้ำก็นัดไปใหม่อีก จนถึงครั้งที่ 5 ก็ยอมจำนน จากหลักธรรมที่ประกอบด้วยเหตุและผล ด้วยกำลังใจอันสูงส่งและประกอบด้วยเมตตาธรรมในการโต้วาทะ ไม่มีการทำให้เสียหน้าหรือขายหน้า แต่ทำให้เข้าใจว่าเรื่องราวของพระพุทธศาสนานี้เป็นเรื่องที่ดีมีประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติและเทวดา คำว่ามนุษย์ คือ ทุก ๆ คนที่เกิดอยู่ในโลกใบนี้ ไม่ใช่เฉพาะชาวพุทธ ท่านทำเช่นนี้อยู่เป็นเวลา 9 ปีเศษ

    <!--fonto:Times New Roman--><!--/fonto--><!--fontc--><!--/fontc-->

    ครั้งที่ 1 เดือน ก.พ. 2408 ผลคือ ชาวพุทธที่เคยท้อแท้สิ้นหวัง ต่างเริ่มมองเห็นความหวังขึ้นมาบ้างและสิ่งที่ท่านคุณานันทะทำตลอดมานั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้อง (ชาวพุทธที่อยู่ภาคใต้ ฟังให้ดี ให้ตื่นตัวขึ้นมารักษาพระศาสนา แต่ไม่ได้ให้ไปรบกับใคร ให้รบกับกิเลสในตัว)



    ครั้งที่ 2 เดือน ส.ค. 2408 ผลคือ ผู้ฟังทั้ง 2 ศาสนาเพิ่มมากขึ้น เกิดความตื่นตัวสนใจในการโต้วาทะธรรมอย่างกว้างขวาง

    <!--fonto:Times New Roman--><!--/fonto--><!--fontc--><!--/fontc-->

    ครั้งที่ 3 ถัดไปอีก 1 ปี คือ เดือน ก.พ. 2409 ผลคือ ศาสนาอื่นเข็ดขยาด ไม่กล้ามาตอแยท่านคุณานันทะเป็นเวลาถึง 5 ปีเต็ม การย่ำยีพระพุทธศาสนาในที่สาธารณะก็หมดไป แม้ว่าการโจมตีทั่วไปจะยังไม่หมดก็ตาม

    <!--fonto:Times New Roman--><!--/fonto--><!--fontc--><!--/fontc-->

    ครั้งที่ 4 เดือน ม.ค. 2414 ผลคือ ผู้แทนศาสนาอื่นเข็ดหลาบในการโต้วาทะธรรม กลับไปปรับกระบวนทัพใหม่

    <!--fonto:Times New Roman--><!--/fonto--><!--fontc--><!--/fontc-->

    ครั้งที่ 5 เดือน ส.ค. 2416 เป็นการโต้วาทะธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุด มีผลกระทบต่อการเป็นความตายของศาสนาทั้งสองมากที่สุด เกิดจากการที่ศาสนาอื่นได้กล่าวจ้วงจาบย่ำยีพระพุทธศาสนา ท่านคุณานันทะกล่าวเชิญมาโต้วาทะกัน ณ เมืองปานะดุระ โดยแบ่งเวลาสนทนา 2 วัน รวม 5 รอบ มีเวลาพักและเบรค ผลที่เกิดขึ้นฝ่ายศาสนาอื่นพ่ายแพ้ราบคาบ ไม่กล้ามาเผชิญหน้ากับท่านอีกต่อไป ผลที่ต่อเนื่องที่ยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นคือ

    <!--fonto:Times New Roman--><!--/fonto--><!--fontc--><!--/fontc-->

    1. มีการตีพิมพ์บทโต้วาทะเป็นภาษาอังกฤษ โดยหนังสือพิมพ์ <!--fonto:Times New Roman--><!--/fonto-->TIMES OF SRIRUN<!--fontc--><!--/fontc--> และอีกหลายภาษา

    2. ชาวอเมริกันคนหนึ่งชื่อ เฮนรี่ สตีลโอกอด ได้ไปอ่านพบเข้าและมีบทบาทในการเข้าไปแก้กฏหมายต่าง ๆ เช่น ให้อังกฤษยกเลิกกฏหมายห้ามชาวพุทธเฉลิมฉลองวันสำคัญทางศาสนาของตน ดังนั้นชาวพุทธจึงทำพิธีฉลองวันวิสาขบูชาได้เป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.2428 หลังจากว่างเว้นมายาวนาน

    3. ศาสนิกอื่นที่มาร่วมฟังการโต้วาทะธรรมในครั้งนั้น บางคนถึงกับเสื่อมศรัทธาในศาสนาของตนหันมานับถือพุทธศาสนา

    4. การข่มเหงและเบียดเบียนชาวพุทธก็หมดไป



    ตลอดชีวิตของท่านนั้นเป็นไปเพื่อความอยู่เป็นสุขของชาวพุทธทั้งประเทศไม่ให้ตกอยู่อำนาจ อยุติธรรมจากศาสนาอื่น จนถึงกับมีผู้ที่เขียนพรรณาโวหารเป็นภาษาสิงหลไว้ว่า <!--fonto:Times New Roman--><!--/fonto-->
     
  3. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    [​IMG]

    เทวดาจะไปชุมนุมกันที่เทวสมาคมในวันพระ ซึ่งสวรรค์แต่ละชั้นก็แตกต่างกันไปตามกำลังบุญ เช่น ชั้นดาวดึงส์ ชั้นยามา ชั้นดุสิต เหล่เทวดาประชุมกันว่า พระพุทธศาสนาในศรีลังกากำลังจะย่ำแย่ พวกเราควรจะทำกันอย่างไรดี ในที่ประชุมของธรรมสภาบอกว่า เราต้องไปอาราธนาพระโพธิสัตว์เทวบุตรให้มาบังเกิดในเมืองมนุษย์เพื่อที่จะแก้ไขเหตุการณ์ครั้งนี้ ท้าวสักกะเทวราชรับทราบในที่ประชุม จึงคอยวันเวลาที่จะมีเทวดาจากชั้นดุสิตมากราบไหว้พระธาตุจุฬามณี ซึ่งเป็นเนื้อนาบุญของสวรรค์ เนื่องจากเทวดาในสวรรค์ชั้นล่างขึ้นบนไม่ได้ แต่บนลงล่างได้ จนกระทั่งวันหนึ่งเทวดาจากชั้นดุสิตมาบูชาพระธาตุจุฬามณี โดยท้าวสักกะเทวราชเห็นจากรัศมีกายที่สว่าง จึงฝากความไปถึงท้าวสันตดุสิตบนสวรรค์ชั้นดุสิต

    <!--fonto:Times New Roman--><!--/fonto--><!--fontc--><!--/fontc-->

    เทวบุตรที่รับฝากข้อความก็นำความนั้นไปกราบทูลให้ท้าวสันตดุสิตทราบ ซึ่งเป็นผู้ปกครองภพสวรรค์ชั้นดุสิตให้รับทราบเรื่องราวทั้งหมด ที่ต้องเป็นชั้นดุสิต เพราะชั้นนี้เป็นที่อยู่ของพระโพธิสัตว์ มีนิยตโพธิสัตว์ ซึ่งปรารถนาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาลภายภาคเบื้องหน้าและได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว เป็นที่ชุมนุมของพระบรมโพธิสัตว์ ท้าวสันตดุสิตจึงเรียกประชุมเทวสมาคมในกรณีพิเศษ การเข้าประชุมในเทวสมาคมจะแบ่งเป็นเขต คือแบ่งตั้งแต่นิยตโพธิสัตว์และอนิยตโพธิสัตว์ หัวข้อในการประชุมคือเรื่องราวที่รับฝากมาจากท้าวสักกะเทวราชถึงความเป็นไปในพระพุทธศาสนาในศรีลังกา เมื่อประชุมเสร็จก็ปรึกษากันว่า ในเทวสมาคมชั้นดุสิตบุรี เทวบุตรองค์ไหนจะอาสาสมัครลงไปกู้วิกฤตในครั้งนี้ ซึ่งเป็นปกติของสวรรค์ชั้นดุสิตของบรมโพธิสัตว์เขตนั้น ก็มีเทวบุตรองค์หนึ่งพนมมือขึ้นหันไปทางท้าวสันตดุสิต รัศมีของท่านจะสว่างเมื่อใจไปถึงท่านประธาน ทำให้สายตาของสวรรค์มองไปที่ท่านผู้นี้ ท่านเป็นนิยตโพธิสัตว์ คือผู้ที่จะสร้างบารมีปรารถนาที่จะไปเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตและได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว ท่านรับอาสาว่าจะลงมาแก้ไขเหตุการณ์นี้ เทวบุตรองค์นี้มีรัศมีมาก ปรารถนาจะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประเภทปัญญาธิกพุทธเจ้า สมบูรณ์ไปด้วยดวงปัญญา มีรัศมีสว่างไสว มีวิมานที่สวยงาม วิมานจะใสเป็นแก้ว แตกต่างจากวิมานทองของเทวบุตรอื่น ที่วิมานใสก็เพราะท่านมีบารมีมาก เมื่อท่านรับอาสา เสียงพูดจะได้ยินถึงกันหมดโดยไม่ต้องใช้ไมค์ เหล่าเทวดาทั้งหมดในเทวสมาคมต่างก็อนุโมทนาสาธุลั่นเทวสภาด้วยความยินดี แล้วท่านก็กลับวิมานของท่านไปทำสมาธิ โดยไม่ได้หมดบุญ แต่เป็นการอาราธนาลงมา เทวดาที่จะหมดบุญ รัศมีจะหมอง เครื่องประดับหมอง มีเหงื่อออก แต่ถ้ามีบุญแล้วไปอาราธนา จะมีรัศมีจะวาบ ๆ


    เมื่อสมาธิถึงจุด ๆ หนึ่งก็อธิษฐานจิตลงมาเกิดที่เกาะศรีลังกามาเป็นสามเณรคุณานันทะ และคุณานันทะภิกขุก็เป็นวีรบุรุษกองทัพธรรมที่มีอนุสาวรีย์อยู่ที่ตรงนั้น ท่านได้มากอบกู้พระพุทธศาสนา ซึ่งในตอนนี้ท่านก็ยังนั่งอยู่กลางวิมานของท่าน ระลึกนึกถึงผลบุญที่ท่านได้กู้พระพุทธศาสนาขึ้นมาจากศาสนาอื่นที่ศรีลังกา ท่านยังรำพึงอยู่บนรัตนบัลลังก์อยู่เลย เพราะเวลาในโลกมนุษย์ผ่านไป 100 กว่าปี เท่ากับเวลาผ่านไปแค่ไม่กี่นาทีบนสวรรค์ชั้นดุสิต

    http://www.dmc.tv/forum/index.php?showtopic=14547

    ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต<O:p</O:p
     
  4. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลายโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่รู้ ไม่มี จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
     
  5. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,236
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +114,964
    อ่านแล้ว ได้ความอิ่มเอมใจมากครับ ศาสนาพุทธได้เจริญขึ้นอีกแล้วในศรีลังกา สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...