ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรกับวิชาธรรมบรรลุ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สนังกุมารพรหม, 18 กันยายน 2010.

  1. สนังกุมารพรหม

    สนังกุมารพรหม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +992
    ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรกับวิชาธรรมบรรลุ

    วิชาธรรมบรรลุนั้นเป็นวิชาหนึ่งของชาวภาคอีสานที่สืบทอดต่อกันมานานหลายสมัย ใช่จะเฉพาะคนภาคอีสานเท่านั้นที่จะรู้ ยังครอบคลุมไปถึงชาวลาวอีกด้วยครับ

    วิชาธรรมบรรลุนั้นมีเครื่องบูชาครูดังนี้นะครับ

    ก่อนอื่นเราต้องเตรียมขันครูเสียก่อนนะครับ ขันครูนั้นจะประกอบด้วย
    1เทียน อาส 2 เล่มยาวขนาด1คืบ
    2 กรวยบูชาครู 2 อัน
    3ขันห้าขันแปด
    4เงินหนึ่งบาท
    5ผ้าขาว 1วา

    ขั้นตอนของการเล่าเรียนนะครับ

    1 ขอขึ้นครูหรือการขอบวชธรรมกับผู้ที่เป็นอาจารย์ผู้ถ่ายทอด การบวชธรรมนั้นมีอยู่ สามระดับ คือ ระดับสามเณร ระดับพระภิกษุ ระดับอุปัชฌาย์ ทั้งสามระดับนี้เป็นการเปรียบเทียบนะครับ อันที่จริงแล้วคนธรรมดาเราถือศีลห้าเนี่ยแหละครับที่บวชๆกัน แต่ละระดับนั้นต้องค่อยเป็นค่อยไปนะครับ เมื่อก่อนขั้นหนึ่งๆต้องฝึกกันเป็นปี หรือ บางท่านอาจจะหลายปีครับ ต้องมีการสอบด้วยนะครับ ถ้าสอบผ่านท่านผู้เป็นอาจารย์จึงจะเพิ่มขั้นให้ครับ

    เมื่อบวชธรรมใหม่ๆนั้นก็มีการปั่นธรรมครับ คือ ผู้เป็นอาจารย์จะนำกล่าวไหว้พระและขอขมาครูบาอาจารย์ แล้วท่านก็จะอันเชิญครูธรรมมาประสิทธิ์ ท่านให้เราท่องคำว่าพุทโธดังๆไปเรื่อยๆครับ ส่วนตัวท่านนั้นก็จะร่ายพระคาถา บทพระคาถาของท่านปู่ครูธรรมฝั้นจะออกเป็นภาษาอีสานถือว่าเป็นขั้นสูงสุดของวิชาธรรมบรรลุแล้วครับ พอเราท่องพุทโธไปเรื่อย เราก็จะเริ่มออกภาษาธรรมและออกพระคาถา ท่านผู้เป็นอาจารย์ก็จะจำพระคาถาที่เราออกมาไว้และเขียนลงแผ่นขี้ผึ้งแล้วม้วนเป็นเทียนขนาดใหญ่ สองเล่ม ที่เรียกเทียนอาสนะครับ

    เป็นอันเสร็จพิธีการบวชธรรมนะครับ

    2 ต่อไปเราก็ต้องมีการบูชาครูทุกๆเช้า บูชาด้วยข้าวเปล่า แบ่งออกเป็นข้าวสามคำ น้ำเปล่าหนึ่งแก้ว เท่านั้นครับ วันไหนเป็นวันพระเราก็ต้องทำขันดอกไม้หรือกรวยขึ้นหิ้งบูชาครูธรรมครับ

    3 ในแต่ละวันเราต้องปั่นธรรมนะครับ หมั่นเจริญกรรมฐานด้วยการปั่นธรรม ยิ่งปั่นบ่อยๆภาษาธรรมนั้นก็จะเปลี่ยนไปครับ หากเราไม่มีกิจอื่นๆท่านมักจะร่ายออกมาเป็นธรรมะสอนใจครับ แต่ถ้าหากเรากำลังทำพิธีช่วยเหลือคนอื่นเช่นการถอดของ ก็จะร่ายอย่างอื่นไปครับ ร่ายไปจนกว่าผีหรือของนั้นจะหลุดครับ ก็น่าแปลกอัศจรรย์นะครับผมเคยถอดของมาแล้วครับ คนที่โดนของร้องลั่นเลยครับ
    4 คนที่บวชธรรมต้องถือศีลให้ครบห้าข้อเป็นอย่างตำ เจริญเมตตาจิตบ่อยๆ หรือทรงเมตตาภาวนาตลอดเลยยิ่งดี

    สรุปคือ ก็ได้ธรรมดีครับ ได้ช่วยเหลือคนอื่นด้วย แต่หากเราหลงไปก็แย่เลยครับ จิตใจต้องน้อมไปสู่ธรรมถึงจะพัฒนายกระดับได้ มีบางท่านกลายเป็นมารไปเลยครับเพราะหลงในลาภสักการะ
    ต้องระวังครับ ช่วยคนแต่ห้ามขอค่าครูเท่านั้นเท่านี้ครับ สุดแต่เขาจะให้ครับ

    เรื่องก็มีประมาณนี้นะครับ ขอคำชี้แนะเกี่ยวกับเรื่องวิชาธรรมบรรลุนี้ครับ

    คำถาม
    1 ท่านมีทัศนคติอย่างไรเกี่ยวกับวิชาธรรมบรรลุนี้ เพราะเหตุใด?
    2 ท่านคิดว่าวิชาธรรมบรรลุนี้สามารถช่วยผู้อื่นได้จริงหรือไม่ เพราะเหตุใด?
    3 ท่านคิดว่าวิชาธรรมบรรลุนี้เป็นไสยศาสตร์หรือไม่ เพราะเหตุใด?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2010
  2. kamoochi

    kamoochi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +326
    เรียนหนังสือเก่งๆจบมาจะได้ช่วยคนได้มาก ช่วยชาติได้มาก อย่างนี้ดี
    เรียนหนังสือเก่งๆจบมาเพราะเก่งเลยทำชั่วได้ง่ายอาศัยความรู้ไปทำชั่ว อย่างนี้ไม่ดี
    ถ้าเป็นเรื่องเรียนมันก็เป็นวิชาเหมือนกัน ใครจะเรียกอะไรก็แล้วแต่นั่นแหละ เราเรียกว่าความรู้ก็แล้วกัน (ครูสอนหนังสือเขาพูดมาอย่างนี้ครับ)
     
  3. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    สิ่งที่ทำ สิ่งที่สอนต่อ ๆ กัน ได้ประโยชน์มากบ้างน้อยบ้าง ไม่ผิดศีล ไม่เป็นบาปอกุศล ไม่ก่อความเดือดร้อนให้กับตัวเองและผู้อื่นและส่วนรวม ก็ทำกันต่อ ๆ ไปครับ ดีกว่าพากันไปทำชั่ว ทำบาป ทำอกุศล
     
  4. ๛อาภากร๛

    ๛อาภากร๛ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +3,592
    ลองหาฟังหาอ่าน พระพรหมคุณาภรณ์ พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต "ป.อ.ปยุตฺโต" เรื่อง คาถาชินบัญชรเปลี่ยนชาติดูครับ
    ท่านเปรียบเทียบวิชาธรรมของญี่ปุ่น วันๆไม่ต้องทําอะไร ภาวนาแต่อมิตตาพุท อย่างเดียว เน้นศรัทธา บรรลุธรรมแต่ธรรมสูงสุดของเค้าไม่ใช่นิพพานนะครับ เค้าใช้คําว่าสุขาวดี คงจะหมายเอาแค่สวรรค์สมบัติ

    ลองฟังดูแล้วพิจรณา
    http://palungjit.org/threads/%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8A%E0%B8%A3-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%9E%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD.5809/

    ผู้อื่นที่กล่าวข้างต้นกล่าวดีแล้วครับ อนุโมทนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2010
  5. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,631
    ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ทางหลุดพ้นที่แท้จริง

    ยังติดกับ "หลง" อยู่

    อำนาจของจิต และแรงครู ก็พอจะช่วยมนุษย์ได้ในระดับหนึ่ง

    พิจารณาจากเรื่องข้อห้ามและระเบียบวิธีการปฏิบัติแล้วยังคงเป็นไสยสาศาสตร์แขนงหนึ่ง
     
  6. แสงเทียนทอง

    แสงเทียนทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +126
    วิชาธรรมบรรลุหรือธรรมส่อง เป็นศาสตร์แขนงหนึ่ง
    จะพบการใช้ศาสตร์นี้มาก ทางภาคอีสานและภาคเหนือ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    ซึ่งวิชาธรรมบรรลุหรือธรรมส่องนี้ มีไว้สำหรับช่วยเหลือผู้คนในทางที่ถูกที่ควร
    ไม่ได้ใช้ไปในทางข่มเหงรังแกใครให้ได้รับความเดือดร้อน<o:p></o:p>
    ผู้ที่ใช้วิชาธรรมบรรลุหรือธรรมส่อง มีทั้งฆราวาสและพระสงฆ์
    แต่จะเรียกชื่อศาสตร์นี้แตกต่างกันไป และที่สำคัญผู้ที่เรียนจะต้องตั้งมั่น
    ในศีลธรรมอันดีงาม ซึ่งมีข้อห้ามและข้อปฏิบัติของศาสตร์นี้อยู่แล้ว
     
  7. สนังกุมารพรหม

    สนังกุมารพรหม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +992
    วิชาธรรมบรรลุหรือธรรมส่อง เป็นศาสตร์แขนงหนึ่ง
    จะพบการใช้ศาสตร์นี้มาก ทางภาคอีสานและภาคเหนือ
    ซึ่งวิชาธรรมบรรลุหรือธรรมส่องนี้ มีไว้สำหรับช่วยเหลือผู้คนในทางที่ถูกที่ควร
    ไม่ได้ใช้ไปในทางข่มเหงรังแกใครให้ได้รับความเดือดร้อน<O:p</O:p
    ผู้ที่ใช้วิชาธรรมบรรลุหรือธรรมส่อง มีทั้งฆราวาสและพระสงฆ์
    แต่จะเรียกชื่อศาสตร์นี้แตกต่างกันไป และที่สำคัญผู้ที่เรียนจะต้องตั้งมั่น
    ในศีลธรรมอันดีงาม ซึ่งมีข้อห้ามและข้อปฏิบัติของศาสตร์นี้อยู่แล้ว
     
  8. guaregod

    guaregod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    962
    ค่าพลัง:
    +1,009
    ผมคิดว่าคงเป็นการเรียนเพื่อเพิ่มกำลังใจ สร้างกำลัีงใจล่ะครับ พอมีกำลังใจ ก็สามารถสะกดจิตตัวเองให้เป็นอย่างที่อยากเป็น
     
  9. phongpeera

    phongpeera เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +138
    ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่รู้สึกว่า ตา ของผมก็ใช้วิชาแบบประมาณนี้รักษาคน
    แต่เวลาใช้ท่านต้องใช้คู่กับดาบลงอักขระ อันนี้ก็ไม่ทราบมาก เพราะท่านตายไป
    ตั้งแต่ตอนพ่อของผมยังเด็กอยู่เลย ยาย เล่าให้ฟังก็เลยรู้ครับ
     
  10. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ฟันธงเลยละกันคับ
    เจ้าของกระทู้
    เป็นไสยศาสตร์

    ไสยศาสตร์ถ้าเป็นสายขาว
    ก็จะเรียกว่าหมอธรรม
     
  11. สนังกุมารพรหม

    สนังกุมารพรหม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +992
    ฮั่นแน่ มีหั่นประโยคเป็นท่อนๆด้วย เหอๆ กำกวมมิใช่พุทธะ ชัยชนะหาใช่ของพุทโธ ผู้รู้ตื่นอยู่มิบดบังแลนา เปิดเผยส่องร่าดังสุริยันจันทรา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2010
  12. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    จะดีจะชั่วขึ้นอยู่กับการกระทำไม่ใช่เพราะชื่อ วิชาก็หมายถึงความรู้เหมื่อนสิ่งทั้งหลายจะสร้างสรรค์หรือทำลายก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ต่างหาก ของดีใช้ทางดีก็เกิดประโยชน์มากหากใช้ทางไม่ดีผลเสียตามมาก็มาก....ของบางอย่างแม้เป็นสิ่งเดียวกันก็เรียกชื่อหลากหลายตามแหล่งกำเนิด...ทำไมต้องมีกฎระเบียบสำหรับผู้เล่าเรียนก็เพราะป้องกันมิให้ใช้ในทางที่ผิด...คนที่ฝ่าฝืนยอมมีบทลงโทษที่ร้ายแรง...เพือป้องกันและรักษาไว้ชึ่งความดี...ของผู้ให้และต้นกำเนิด
     
  13. kamoochi

    kamoochi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +326
    ก็อย่างที่เจ้าของกระทู้ว่านะครับ พระสงฆ์ยังมีไปยุ่งไปใช้ไปร่ำเรียนได้(แม้ไม่ใช่เรื่องหลุดพ้น)
    อีกทั้งชาวพุทธโดยมากศึกษาพุทธใช้ชื่อชาวพุทธไปหลังลาภสักการะผิดประสงค์ก็ยังมี อะไรมันจะดีจะวิเศษเลิศเลอแค่ไหนของมันเองมันจะไปผิดๆบวมๆเอาได้ก็อยู่ที่คนนี่แหละ
     
  14. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,353
    ค่าพลัง:
    +6,491
    ต่างคนต่างมีเหตุผล สรุปคือ ถูกทุกข้อครับผม...
     
  15. i2shadow

    i2shadow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2009
    โพสต์:
    129
    ค่าพลัง:
    +478

แชร์หน้านี้

Loading...