ท่านอยู่อย่างไรไม่มีทุกข์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 22 กุมภาพันธ์ 2021.

  1. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    อยู่อย่างไรที่ทุกขณะจิต ไม่มีตัณหา
    ไม่มีอุปปาทาน ไม่มีทุกข์
    ลุงแมวอยูแบบไม่ยึด แต่อยู่แบบรู้ว่า
    ขณะจิตไหนกำลังเป็นสังขาร และขณะจิต
    ไหนกำลังเป็นวิสังขาร
    โดยไม่ยึดทั้งจิตสังขาร และไม่ยึดจิต
    วิสังขาร
    แน่นอนมันไม่ใช่เรื่องที่ต้องกระทำ เพราะมันไมาสามารถกระทำได้
    เนื่องจากมันเป็นอนัตตา เพราะจิตมันเกิดดับตามเหตุปัจจัย
    ทำได้แค่สังเกต สังเกต สังเกต เมื่อมีสติเกิด
    เท่านั้น
    ฉะนั้น สิ่งใดที่ต้องมีความพยายามที่จะกระทำ
    สิ่งนั้นย่อมเป็นสังปรุงแต่ง(สังขาร)
    มันเป็นทุกข์ ยึดทำไม??
    ถ้ายึดก็จะกลายเป็นเราทุกข์ ถ้าไม่ยึด
    ก๋ไม่มีใครทุกข์ แต่ความทุกข์มันก็ยังคง
    เกิดดับไปตามเหตุปัจจัย
    เดินทางนี้ดีมั้ยคับ
     
  2. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    ปัญญาบางคนมีได้เพราะเล่าเรียน
    บางคนมีได้เพราะลงมือทำงาน
    สุดท้ายคนเราต้องทำงานเลี้ยงตัวเอง
    แสงสว่างเกิดขึ้นจึงเห็น
    เห็นได้จึงเกิดปัญญา
    ปัญญารู้ได้จึงเกิดวิชา
    วิชาเกิดจึงเลี้ยงชีพได้
     
  3. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    ปัญญาอันไหนจะใช้
    เพื่อการหลีกลี้หนีพ้นจากทุกข์
    ที่ทำให้ต้องดิ้นรนหาอยู่หากิน ดิ้นรนหา
    สิ่งเสพสม หาความเพลิดความเพลิน
    ปัญญาแบบนั้น นั่นแหล่ะที่ต้อง
    ขวนขวายให้หายจากความ
    ทุกข์ทน(แต่ความเคยชินหลอกหลอน
    ว่ามันเป็นธรรมดา)
    จริงมิจริง
     
  4. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    ยังต้องอาศัยความพยายามอยู่ครับลุงแมว
    เราปล่อยวางความยึดลงถาวรไม่ได้
    การทำในใจถึงความปล่อยวางแบบลุงแมว
    เป็นสิ่งที่ดีครับ ช่วยให้หายทุกข์ได้
    เรียกว่า "ฉลาดในการจัดการกับทุกข์"
    ทุกข์เบาบางลงได้ ข้อนี้เป็นจริง
    แต่... สักพักจิตจะหยิบฉวยมายึดอีก
    กลายเป็นทุกข์อีก วางอีก ทุกข์อีกไปเรื่อยๆ
    เหมือนการพ้นทุกข์เพียงชั่วคราว

    แต่ถ้าแบบถาวรแบบพระอรหันต์ท่าน
    ต้องให้จิตบอกเลิกตัณหา
    วางอุปทานด้วยจิตเอง
    ด้วยการพาจิตไปเห็นความจริง
    ด้วยสติ แบบธรรมดาๆนั่นแหละครับ
    จนจิตยอมรับของมันเอง
    ยอมรับ คือ มันเห็นความจริงเข้าจังๆ
    มันก็จะวางของมันเอง
    โดยเราไม่ต้องไปพยายามปล่อยวาง
    เพราะเราปล่อยวางมันทุกขณะจิตไม่ได้
    จิตเกิดดับเร็วเกินไป
    เราทันหนึ่งขณะ .. ทำใจให้วางลงได้
    เเต่มันไหลไปเกิดอุปาทาน
    เป็นร้อยเป็นหมื่นขณะ

    พระพุทธเจ้าจึงมีมรรคแปดไว้
    อาศัยความพยายามให้เรามีสติ
    เพื่อรู้เห็นตามจริง
    เพราะบางทีที่เรามี "สติ"
    รู้เห็นจังๆซักที ขอแค่ทีเดียว
    มันใช้แค่ขณะเดียว มันเห็นแจ้งเลย
    ไปถึงบางที
    พ้นตัณหา สิ้นอุปาทานกันเลยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...