ธรณีพิบัติ ธรรมชาติ อาเพศ หรือน้ำมือมนุษย์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย คือ~ว่างเปล่า!, 9 พฤษภาคม 2012.

  1. คือ~ว่างเปล่า!

    คือ~ว่างเปล่า! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,647
    ค่าพลัง:
    +473
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ธรณีพิบัติ ธรรมชาติ อาเพศ หรือน้ำมือมนุษย์</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD height=40><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>9 พฤษภาคม 2555 11:03 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT src="https://apis.google.com/_/apps-static/_/js/gapi/plusone/rt=j/ver=rN-QFyfhU-E.th./sv=1/am=!5VdQ9Ii80V-IH20oNg/d=1/rs=AItRSTP1kIIQDHKVsFotGKCYuw8EvGmdVw/cb=gapi.loaded_0" async="true"></SCRIPT><SCRIPT src="http://platform.twitter.com/widgets.js" type=text/javascript></SCRIPT><IFRAME class="twitter-share-button twitter-count-horizontal" title="Twitter Tweet Button" style="WIDTH: 116px; HEIGHT: 20px" src="http://platform.twitter.com/widgets/tweet_button.1335513764.html#_=1336540923562&count=horizontal&id=twitter-widget-0&lang=en&original_referer=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FTravel%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9550000055997&size=m&text=%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%20%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%20%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A8%20%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B9%8C&url=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FTravel%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9550000055997&via=ASTVTravel" frameBorder=0 scrolling=no allowTransparency></IFRAME>


    <SCRIPT src="https://apis.google.com/js/plusone.js" type=text/javascript gapi_processed="true"> {lang: 'th'}</SCRIPT><?XML:NAMESPACE PREFIX = G /><G:pLUSONE size="medium"></G:pLUSONE>

    <TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; OVERFLOW: hidden; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; BORDER-BOTTOM: medium none; HEIGHT: 35px" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9550000055997&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 scrolling=no allowTransparency></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ทัศนียภาพ 3 อ่าวภูเก็ต ที่ต้องสะเทือนจากแผ่นดินไหว</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ตั้งแต่ต้นปี 2555 ที่ผ่านมา ก็เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติหลายอย่างที่ทำเอาประชาชนคนไทยตกอกตกใจ บ้างก็ตื่นตระหนกกันยกใหญ่ ไล่มาตั้งแต่แผ่นดินไหว แผ่นดินลุกเป็นไฟ ถนนยุบ เป็นต้น ซึ่งบางอย่างก็เป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว แต่บางอย่างนั้นก็เพิ่งจะเคยเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก จนทำให้เกิดความไม่แน่ใจระหว่างเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ หรือเป็นอาเพศกันแน่

    แผ่นดินไหว
    ภายหลังจากเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.9 ริกเตอร์ บริเวณชายฝั่งตะวันตกทางตอนเหนือเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งสามารถรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้ในภาคใต้ของประเทศไทย รวมถึงบนตึกสูงในบางพื้นที่ของ กทม. โดยหลังจากนั้นก็ยังมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายครั้ง

    และในวันที่ 16 เม.ย. คนภูเก็ตก็ต้องตื่นตระหนกอีกครั้งเมื่อรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือน ซึ่งในระยะแรกนั้นคาดว่าเป็นอาฟเตอร์ช็อกขนาดใหญ่ แต่ในที่สุดแล้วกลับกลายเป็นแผ่นดินไหวที่มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ขนาด 4.3 ริกเตอร์ นับว่าเป็นแผ่นดินไหวที่มีศูนย์กลางอยู่ในประเทศไทยซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ซึ่งตามข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในประเทศไทยครั้งล่าสุดคือเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2539 ขนาด 5.5 ริกเตอร์ บริเวณพรมแดนไทย-ลาว


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ประชาชนอพยพขึ้นที่สูงเมื่อครั้งที่มีการเตือนภัยสึนามิ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>แต่อย่างไรก็ตาม ความสั่นสะเทือนที่รู้สึกได้ก็ยังสั่นคลอนความรู้สึกมั่นใจของประชาชนด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นแล้วยังมีคำทำนายดวงเมืองของโหรชื่อดังว่า ในปีนี้ประเทศไทยจะเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงมาก ทั้งเรื่องแผ่นดินไหว อัคคีภัย น้ำท่วม จะเกิดความเสียหายเหมือนที่เกิดขึ้นครั้งที่แล้วช่วงปลายสมัยอยุธยา ก่อนเสียกรุงครั้งที่ 2

    และยังมีใบปลิวออกมาเตือน 2 ฉบับ ในพื้นที่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยเตือนให้คนออกจากเกาะภูเก็ตในวันที่ 28 เม.ย. เนื่องจากเกาะภูเก็ตจะจมลงในทะเลจากภัยธรรมชาติ แม้ว่าจะมีทั้งคนเชื่อและไม่เชื่อข้อความนี้ แต่ก็สร้างความตื่นตระหนกให้ชาวบ้านได้ไม่น้อย จนทางราชการต้องออกมาให้ข้อมูลข่าวสารและเตือนไม่ให้หลงเชื่อใบปลิวดังกล่าว

    แม้ว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวทั้งสองครั้งนี้จะไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายรุนแรง แต่พื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามันก็นับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ที่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามาเยี่ยมเยือน จึงทำให้เกิดความไม่มั่นใจในความปลอดภัยกับนักท่องเที่ยวบางส่วน มีการยกเลิกการเข้าพักโรงแรมในพื้นที่บ้างเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่แล้วก็เข้าใจว่าเป็นเหตุการณ์ทางธรรมชาติ


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บ้านร้าวจากแผ่นดินไหวที่ อ.ถลาง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ทางด้าน รองศาสตราจารย์ ดร. ปัญญา จารุศิริ หัวหน้าหน่วยวิจัยธรณีวิทยาแผ่นดินไหว คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ความรู้เรื่องแผ่นดินไหวว่า ในกระบวนการทางธรณีวิทยา ถือว่าเป็นเรื่องปกติอยู่ เนื่องจากแผ่นดินไหวที่ดูเหมือนเกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงนี้ ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อ 2-3 ปีก่อน เพียงแต่ความลึกของศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวนั้นอยู่ลึกกว่าในช่วงที่ผ่านมา ส่วนที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุดที่ภูเก็ตนั้น การเกิดแผ่นดินไหวอยู่ในระดับตื้น จึงทำให้รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือน

    “เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติธรรมดาอยู่แล้วในแง่ธรณีวิทยา เพียงแต่ว่ามันเกิดในระดับตื้น ก็เลยทำให้คนส่วนใหญ่อกสั่นขวัญหาย เพราะว่าบ้านสะเทือน สะพานจะพัง ซึ่งโดยปกติแล้วก็มีแผ่นดินไหวอยู่แต่คนไม่ได้รู้สึกถึงการสั่นสะเทือน แต่ช่วงหลังๆ แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นมันอยู่ในระดับตื้น เลยทำให้คนรู้สึกอกสั่นขวัญหายไปตามๆ กัน”

    “ส่วนเรื่องปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้อง ยกตัวอย่างเช่น น้ำในน้ำพุร้อนที่ จ.ระนอง เพิ่มสูงขึ้นในบางบ่อ เรารู้อยู่แล้วว่าน้ำพุร้อนก็อยู่ใกล้ๆ กับรอยเลื่อน รอยเลื่อนนั้นอาจจะถูกกระทบกระทั่งได้ถ้าหากมีการเลื่อนตัวของรอยเลื่อนใหญ่ๆ อย่างเช่นการเลื่อนตัวของรอยเลื่อนใหญ่ที่สุมาตราในคราวที่แล้วแต่ไม่เกิดสึนามิ อันนั้นผลกระทบจะทำให้เกิดกับหลายๆ รอยเลื่อนที่มีพฤติกรรมในการเลื่อนตัวคล้ายๆ กัน เราเชื่อกันว่า ผลพวงของแรงดันน้ำ แรงดันของรอยเลื่อน มันอาจจะส่งผลกระทบให้รอยเลื่อนระนองเองซึ่งมีน้ำพุร้อนอยู่ด้วย มีการขยับ การสะสมพลังงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสะสมแรงดันจนกระทั่งทำให้น้ำที่อยู่ข้างในตัวน้ำพุร้อนเองได้รับการดันตัว อัดแรงสูงขึ้นจนกระทั่งมันดันขึ้นมา แต่ไม่ได้เป็นทุกบ่อเพราะว่าแต่ละรอยเลื่อนที่มีบ่อน้ำพุร้อนมีลักษณะหรือสภาวะในการสะสมแรงไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้นบางบ่อเท่านั้นที่มีปัญหา”


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>แผ่นดินลุกเป็นไฟ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>แผ่นดินลุกเป็นไฟ
    หลังจากผ่านเรื่องแผ่นดินไหวได้ไม่เท่าไหร่ ก็เกิดเหตุการณ์ที่น่าประหลาดใจขึ้นอีกครั้งในวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา บริเวณริมถนนสายนครไทย-ด่านซ้าย ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เกิดปรากฏการณ์แผ่นดินลุกเป็นไฟ โดยมีควันไฟลุกจากใต้ดินตลอดเวลา เมื่อโยนเศษกระดาษหรือเศษใบไม้เข้าไปในบริเวณนั้นจะเกิดเพลิงลุกไหม้ทันที พบว่ามีสัตว์ถูกไฟคลอกตาย และมีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บจากการถูกไฟลวก

    จากการตรวจสอบของนักธรณีวิทยาพบว่ามีการหมักหมมของขี้เลื่อยที่เกิดจากโรงไม้มานานหลายสิบปีทำให้เกิดก๊าซมีเทน เมื่อมีการขุดเจาะก๊าซจึงรั่วแล้วถูกประกายไฟทำให้ลุกไหม้ คล้ายกับกรณีไฟไหม้ในป่าพรุ โดย รศ.ดร.ปัญญา ได้อธิบายว่า ก๊าซมีเทนไม่ได้เป็นอันตราย เพียงแต่สามารถลุกเป็นไฟได้เนื่องจากการสะสมของเศษซากไม้ ซากใบไม้ที่เน่าเปื่อยผุพัง และทับถมกันเป็นเวลานาน แล้วเกิดการสันดาปกับความร้อนจนลุกเป็นไฟ ซึ่งในกรณีนี้เกิดขึ้นจากการเข้าไปตอกเสาเข็มพัฒนาพื้นที่ แล้วเกิดมีประกายไฟ ทำให้กลายเป็นเหตุการณ์นี้ขึ้นมา

    “ข้อมูลในด้านการวิจัยทางธรณีวิทยาเองเชื่อว่ามันไม่ได้เกี่ยวข้องกับรอยเลื่อนที่มีอยู่ในบริเวณแถบนั้น รอยเลื่อนที่อยู่ใกล้ที่สุดนั้นอยู่ไกลออกไปประมาณ 100 กิโลเมตร เพราะฉะนั้นอันนี้ไม่เกี่ยวข้องแน่ๆ บางคนเอาไปผนวกกับการระเบิดของภูเขาไฟ ผมก็เชื่อว่ามันไม่เกี่ยวข้องเพราะว่า การหาอายุภูเขาไฟที่อ่อนที่สุดในประเทศไทยอายุ 500,000 ปี มันดับสนิทไปแล้ว อยู่ที่วิเชียรบุรี เพราะฉะนั้นมันจึงไม่น่าที่จะเกี่ยวข้องกับการเกิดหรือการระเบิดของภูเขาไฟ”


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ถนนคอนกรีตระเบิดจากความร้อน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>“สิ่งสำคัญก็คือ ลักษณะบริเวณแบบนี้มีที่อื่นอีกไหมในประเทศไทย ถ้าหากทั้งคู่เป็นกิจกรรมของมนุษย์และกิจกรรมของธรรมชาติ กิจกรรมของธรรมชาติที่มีลักษณะของป่าพรุแบบนี้มีอยู่มากมายทีเดียวในประเทศไทย ฉะนั้นมีโอกาสเกิดไหม ก็มีโอกาสสะสมแก๊สมีเทน แต่จะลุกเป็นไฟหรือเปล่า อยู่ที่จังหวะว่าจะมีอะไรทำให้เกิดความร้อนมากหรือน้อย ความร้อนมาจากไหน ปริมาณความร้อนที่มีอยู่ในปัจจุบัน ช่วงเวลาเดือนนี้เป็นช่วงเวลาที่ร้อนจัดอยู่แล้ว ฉะนั้นโอกาสที่จะทำให้เกิดแบบนี้มีไหม มี แต่ไม่มาก”

    แม้ว่าแผ่นดินลุกเป็นไฟจะสามารถดับไฟได้และยกเลิกการประกาศเป็นพื้นที่อันตรายแล้ว แต่มุมมองทางด้านโหราศาสตร์กลับมีมุมมองที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยเชื่อว่าเหตุการณ์แผ่นดินลุกเป็นไฟ เป็นลางร้ายของแผ่นดินไทย และเมื่อนำมาประกอบกับเหตุการณ์ไฟไหม้ที่วัดพนัญเชิง ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่และสำคัญของประเทศไทย ก็ถือว่าเป็นเครื่องเตือนภัยถึงลางร้ายของประเทศ

    คอนกรีตระเบิด-ถนนยุบ
    นอกจากแผ่นดินไหว และแผ่นดินลุกเป็นไฟแล้ว ก็ยังมีเหตุการณ์แปลกๆ ที่เกิดขึ้นกับแผ่นดินในประเทศไทยอีก เริ่มจากเหตุการณ์ถนนคอนกรีตระเบิด ที่ ต.หาดหล้า อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ ประชาชนบริเวณนั้นรู้สึกว่ามีแรงสั่นสะเทือนอย่างมาก ทำให้เข้าใจว่ามีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น และเกิดความตื่นตระหนก แต่เมื่อตรวจสอบจากเครื่องวัดการเกิดแผ่นดินไหวแล้ว ไม่พบรายงานแต่อย่างใด จึงมีการสำรวจในพื้นที่แล้วพบว่าผิวถนนคอนกรีตแตกเป็นรอยแยกยาวประมาณ 5 เมตร ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นจากสภาพความร้อนของอากาศ ส่งผลให้เนื้อคอนกรีตขยายตัวอย่างรุนแรง และเกิดการแตกระเบิดขึ้น


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ถนนยุบกลางกรุง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ส่วนเรื่องของถนนยุบที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร ทั้งที่ถนนพระราม 4 และถนนพญาไท ก็ทำให้คนกรุงตระหนกตกใจกันเป็นอย่างมาก บ้างก็คาดการณ์ว่าอาจเกิดจากอากาศร้อนทำให้เหล็กใต้ถนนโก่งตัว บางส่วนก็มีการผูกโยงไปถึงความเชื่อเรื่องโลกแตกในปี ค.ศ.2012 แต่เมื่อทาง กทม. มีการตรวจสอบอย่างจริงจังแล้วกลับพบว่า เกิดจากถนนไม่มีการบดอัดชั้นดิน และเป็นถนนลาดยางเพียงอย่างเดียว ไม่มีคอนกรีตเสริมเหล็ก ทำให้ความหนาแน่นของผิวถนนไม่ดีพอ ซึ่งนี่ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการกระทำของมนุษย์อย่างแท้จริง

    แต่ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความรู้ความเข้าใจของประชาชน เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกมากจนเกินเหตุ และสามารถเตรียมตัวเพื่อรับมือได้ โดย รศ.ดร.ปัญญา ได้กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับมือแผ่นดินไหวว่า ในอนาคตนั้น เรื่องแผ่นดินไหวก็สามารถเกิดขึ้นได้เป็นปกติเช่นกัน และหากเกิดแล้วอาจจะไม่รู้สึกตัวเพราะกลับไปสู่สภาพความลึกเหมือนเดิม ประชาชนก็จะสบายใจ แต่เราก็ไม่สามารถบอกได้ว่าจะเกิดลึกเท่าไหร่ จะเกิดขึ้นตอนไหน หรือแค่การทำนายก็ยังยาก ฉะนั้น ประชาชนต้องมีการเตรียมพร้อม

    “ประชาชนควรจะต้องเตรียมพร้อม บ้านเรือนต่างๆ ที่คิดว่าจะโยกจะพังได้ง่ายๆ คงจะต้องมีการซ่อมแซมแน่นอนที่สุด ถ้าหากว่าเป็นบ้านอิฐบ้านปูนก็อาจจะต้องมีการยึด เอาขอเกี่ยว หรือลักษณะจะเอาพังพืดที่มันยืดหยุ่นได้ง่ายมายึดก็ยังดี สำหรับประชาชนที่อยู่ในบริเวณแถบนั้น ถ้าหากว่ารู้ว่าเกิดแผ่นดินไหวก็คงจะต้องรีบออกนอกบ้าน ในกรณีที่ต้องการป้องกันก็ต้องรู้ให้ได้ว่าแนวรอยเลื่อนมันใกล้บ้านเราหรือเปล่า อันนั้นก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะมาบอกชาวบ้านว่าคุณอยู่ใกล้ อยู่ในพื้นที่คุณนะ เพราะฉะนั้นคุณจะย้ายออก หรือคุณจะเป็นอันตรายถ้าคุณยังอยู่ต่อไป ถ้าอยู่ต่อไปก็เสี่ยงนะจะเลือกเอายังไง ข้อมูลพวกนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลต้องบอกประชาชน เป็นการการเตรียมความพร้อมของรัฐบาล รัฐบาลต้องบอกประชาชนเพราะรัฐบาลไม่ตาย ประชาชนที่อยู่ตรงนั้นตาย ประชาชนต้องรับรู้ก่อนว่าตัวเขาเองต้องปฏิบัติตัวยังไง รัฐบาลก็ต้องมีหน้าที่ในการบอกว่า ถ้ายังอยู่อย่างนี้ ถ้าเกิดแผ่นดินไหวขึ้นมาอย่าใช้ลิฟท์นะ อะไรทำนองนั้น หรือถ้าหากว่ากำลังใช้รถไฟใต้ดินกรุณารีบไปอยู่ในที่กำบังที่ปลอดภัย ใครเป็นคนทำล่ะ ก็ต้องเป็นรัฐบาล”

    สุดท้ายแล้ว การเตรียมความพร้อมของประชาชนก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลที่ต้องออกมาให้ความรู้ที่ถูกต้องและทันท่วงที ไม่ใช่เกิดเหตุขึ้นแล้วค่อยมาแจ้งไม่ให้ตกใจ หรือเกิดเหตุการณ์จบไปแล้วค่อยแจ้งว่าควรจะทำตัวอย่างไร ไม่เช่นนั้นก็อาจเกิดความเสียหายที่ประเมินค่าไม่ได้

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ------------------
    Travel - Manager Online - ธรณีพิบัติ ธรรมชาติ อาเพศ หรือน้ำมือมนุษย์
     

แชร์หน้านี้

Loading...