ธรรมกาย กำลังทำอะไรที่สกลนคร

:'(เกาะดอนสวรรค์ที่เป็นสมบัติของพี่น้องชาวสกลนครมาช้านาน แต่วันนี้ "วัดพระธรรมกาย" ได้ยื่นขอขึ้นทะเบียนวัดดอนสวรรค์ เป็นวัดร้างพร้อมทั้งขอออกโฉนดจำนวน ๘๕ ไร่ ให้เป็นที่ธรณีสงฆ์ ครอบครองโดย" ธรรมกาย" บ่ายวันนี้พี่น้องชาวบ้านท่าวัด ได้มาแจ้งให้รู้ว่า เขาออกไปหาปลาตามวิถีชีวิตปกติ แต่ไม่สามารถพักที่เกาะดอนสวรรค์ได้ เนื่องจากมีพระจากธรรมกายมาอยู่เต็มไปหมด ที่สำคัญเห็นป้ายประกาศแจ้งไว้ว่า กำลังดำเนินการออกโฉนดให้เป็นที่ธรณีสงฆ์ หากใครมีความประสงค์จะคัดค้าน ขอให้ยื่นภายในวันที่ ๖ กันยายนนี้ หากไม่มีผู้คัดค้าน จะดำเนินการออกโฉนดให้ภายในวันที่ ๙ กันยายนนี้





พระอักษร สมเด็จพระสังฆราช
ฉบับที่ ๑
๑. หากพระรูปใด บิดเบือนพระธรรม กล่าวหาพระไตรปิฎกบกพร่อง เป็นการทำ สงฆ์ให้แตกแยกเป็น 2 ฝ่ายถือเป็นกรรมหนักสุด ทางศาสนาเป็นอนันตริยกรรม มีโทษทั้ง ปัจจุบันและอนาคตที่หนัก
๒. พระรูปใด ได้ทรัพย์สิน ระหว่างที่บวชเพื่อความถูกต้อง ก็ต้องโอน สมบัติทั้งหมดเป็นของวัด

ฉบับที่ ๒
"ความบิดเบือนพระพุทธธรรมคำสอน โดยกล่าวหาว่าพระไตรปิฎกบกพร่อง เป็นการทำให้สงฆ์ที่หลงเชื่อคำบิดเบือน แตกแยกออกไปกลายเป็นสอง มีความเข้าใจความเชื่อถือพระพุทธศาสนาตรงกันข้ามเป็นการทำลายพระพุทธศาสนา ทำสงฆ์ให้แตกแยกเป็นอนันตริยกรรม มีโทษทั้งปัจจุบันและอนาคตที่หนัก ส่วนที่มิใช่เป็นการลงโทษ แต่เป็นการกระทำที่ถูกต้อง คือ ต้องมอบสมบัติทั้งหมดที่เกิดขึ้นในขณะเป็นพระให้แก่วัดทันที การไม่ยอมคืนสมบัติให้วัด ในขั้นต้นอาจมิใช่มีเจตนาถือเอาเป็นของตน แต่เมื่อถึงอย่างไร ก็ยังไม่ยอมมอบคืนสมบัติทั้งหมดที่เกิดขึ้นในขณะเป็นพระให้แก่วัดก็แสดงชัดแจ้งว่าต้องอาบัติปาราชิก ต้องพ้นจากความเป็นสมณะ โดยอัตโนมัติ ต้องถูกจัดการอย่างเด็ดขาด เช่นเดียวกับผู้ไม่ใช่พระปลอมเป็นพระ ด้วยการนำผ้ากาสาวพัสตร์ไปครอง ทำความเศร้าหมองเสื่อมเสีย ให้เกิดแก่สงฆ์ในพระพุทธศาสนา "

ฉบับที่ ๓
"การโกงสมบัติผู้อื่นตั้งแต่ 5 มาสกขึ้นไปคือประมาณไม่ถึง 300 บาทในปัจจุบัน ภิกษุนั้นต้องอาบัติปาราชิกฐานผิดพระธรรมวินัยพ้นจากความเป็นพระทันที ในกรณีนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้รู้เห็นหรือไม่ ไม่ว่าจะมีการสั่งให้สึก ไม่ว่าจะมีการจับสึกหรือไม่ก็ตาม ภิกษุผู้ละเมิดพระธรรมวินัยข้อนี้ต้องอาบัติปาราชิก พ้นจากความเป็นพระโดยอัตโนมัติ ที่ประกาศเป็นลายลักษณ์อักษรก็เพื่อเตือนให้รู้ทั่วกันว่า ผู้ต้องอาบัติปาราชิกนั้นไม่ใช่พระในพุทธศาสนา เป็นเพียงผู้นำผ้ากาสาวพัตร์ไปครอง เป็นพระปลอม ต่อจากนั้นย่อมเป็นหน้าที่โดยตรงของผู้รักษากฎหมาย หรือของผู้มีหน้าที่ในการพุทธศาสนา จะต้องรักษาพระพุทธศาสนาไม่ให้มีพระปลอมมาทำลาย ทำให้เสื่อมเสีย เช่นที่ผู้รักษากฎหมายเคยทำมาแล้ว เคยบังคับให้เป็นผู้ปลอมเป็นพระ ถอดผ้ากาสาวพัตร์ออกจากตัว การปฏิบัติต่อพระปลอมต้องไม่มีแตกต่างกัน ต้องไม่มียกเว้นว่า คนนั้นปลอมได้คนนี้ปลอมไม่ได้ เป็นพระปลอมมีอยู่ในพุทธศาสนาไม่ได้ทั้งนั้น ประกาศนั้นเป็นคำบอกเล่าเป็นคำเตือนให้รู้ เป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องกับมหาเถรฯไม่บังคับให้เชื่อ ไม่บังคับใครให้ทำอะไร แสดงความถูกผิดให้ปรากฏอยู่เท่านั้น ในฐานะที่เป็นประมุขแห่งสงฆ์ในพระพุทธศาสนา จึงต้องทำหน้าที่ส่วนตนให้เรียบร้อยถูกต้อง บอกความจริงด้วยความหวังดีมิได้บังคับ จงเข้าใจทั่วกัน"

ฉบับที่ ๔
" ในกรณีเกี่ยวกับ เรื่องวัดพระธรรมกาย เราได้ทำหน้าที่ของสมเด็จพระสังฆราชสมบูรณ์ตามอำนาจแล้ว จึงไม่มีอะไรจะพูดอีกขณะนี้ ขออนุโมทนาทุกท่านที่สนใจห่วงใยพระพุทธศาสนา แสดงความเป็นคนดี ด้วยมีกตัญญูกตเวทิตาธรรม "

ฉบับที่ ๕
" ได้แจ้งให้เป็นที่เข้าชัดเจนดีทั่วกันแล้วก่อนหน้านี้ ว่าในตำแหน่งผู้เป็นสมเด็จพระสังฆราช สกลสังฆปริณายก ได้ทำหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องอดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เพื่อเทิดทูนรักษาพระพุทธศาสนาให้พ้นถูกทำลาย สมบูรณ์ดีที่สุดแล้วตามอำนาจท่านกรรมการมหาเถรสมาคมทั้งหลายจะทำอะไรต่อไปตามความต้องการ จะไม่มานั่งฟังรับรู้ในที่ประชุมวันนี้ ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2542

CR.FB สกลนคร ซิตี้

<TABLE border=0 width="100%" height=36><TBODY><TR><TD vAlign=top width="80%" noWrap>ความคิดเห็นที่ 6</TD><TD vAlign=top width="50%" noWrap align=right> <!--InformVote=6--><SCRIPT language=JavaScript>MsgStatus(Msv[6], 6);</SCRIPT></TD></TR></TBODY></TABLE>
<!--MsgIDBody=6-->การเกิดขึ้นของหนองหารนั้น ตามความเชื่อที่ว่า แต่เดิมขอมปกครองเมืองนี้มาก่อน ยังปรากฏในตำนานนิทานพื้นบ้าน เล่าสืบกันมาจนทุกวันนี้คือ ตำนานฟานด่อน หรือ เก้งเผือก และนิทานเรื่อง กะฮอกด่อน หรือ กระรอกเผือก ตำนานฟานด่อน เป็นตำนานที่ปรากฏอยู่ในหนังสืออุรังคนิทาน เป็นเรื่องอธิบายสาเหตุที่เมืองเก่าซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณท่านางอาบ บ้านท่าศาลา บ้านน้ำพุ ริมหนองหาร ถล่มล่มลงในหนองหาร และแล้วมีการสร้างเมืองใหม่ขึ้น ที่บริเวณ ธาตุเชิงชุม อีกฝั่งหนึ่งของหนองหาร โดย พระยาสุวรรณภิงคาร โอรสพญาขอม

ตำนานเรื่องนี้ ยังมีความสอดคล้องกับชื่อหมู่บ้านอีกหลาย แห่งริมหนองหาร จึงทำให้ผู้คนเชื่อว่า เป็นเรื่องจริง จนถือกันว่า เมื่ออยู่ในหนองหารไม่ควรพูดถึงเรื่องนี้ จะได้รับอันตราย เรือจะล่ม ถูกเงือกทำร้าย หรือหาปลาไม่ได้ ในส่วน นิทานกะฮอกด่อน แม้จะเป็นการอธิบายการเกิดหนองน้ำขนาดใหญ่ทั่วไปก็ตาม แต่ชาวสกลนครก็เชื่อว่า นิทานเรื่องนี้ เป็นที่มาของการถล่มทลายหนองหาร ซึ่งเกิดจากการกระทำของพญานาค

อย่างไรก็ตาม มีประชาชนทั่วไปพากันสงสัย และซักถามกันมาก ในเรื่องที่มีวัดสร้างขึ้นในเกาะสวรรค์กลางหนองหาร โดยมีพระจำพรรษา และทำกิจกรรมของสงฆ์ตลอดมา ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า การสร้างวัดเป็นการบุกรุกพื้นที่สาธารณะหรือไม่ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบหลักฐาน โดยศึกษาธิการจังหวัดสกลนคร พบว่า ในจดหมายเหตุกล่าวเอาไว้ว่า วัดดอนสวรรค์ มีการจัดตั้งก่อนปี ๒๔๘๔ ก่อนที่จะมี พ.ร.บ.สงฆ์ออกมา แต่เป็นเพียงวัดร้าง และเก่ามาระยะหนึ่งเท่านั้น แม้จะเป็นวัดร้าง ความเป็นวัดก็ยังอยู่ จึงอยากทำความเข้าใจ ดังนี้ การบุกรุกนั้นเป็นเรื่องไม่จริง เพราะมีการสร้างวัดมาก่อน


ข่าวบางส่วนจาก คมชัดลึก ได้มาจากการถามอากู๋
ดูเหมือน เกาะดอนสวรรค์ มีวัดร้างอยู่จริงครับ มีจริงฮะแต่ก็เป็นวัดในตำนานคู่บ้านเมืองอีสาน แค่กำลังจะเป็นฐานอะไรซักอย่างให้คนภาคกลางไปแล้ว


การขอยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา มีขั้นตอนและวิธีดำเนินการ ดังนี้

1. ประชาชนที่มีศรัทธาจะบูรณะปฏิสังขรณ์วัดร้าง มีหนังสือถึงนายอำเภอหรือเจ้าคณะอำเภอ

2. เจ้าคณะอำเภอหรือนายอำเภอได้รับหนังสือตามข้อ 1 แล้วร่วมกันพิจารณาว่าสมควรจะยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา หรือไม่ โดยพิจารณาจาก

(1) วัดร้างนั้นอยู่ในสภาพที่สมควรเป็นที่อยู่อาศัยและจำพรรษาของพระภิกษุ

(2) มีประชาชนในละแวกใกล้เคียงจำนวนมากพอที่จะทำนุบำรุงให้วัดเจริญได้

(3) ตั้งอยู่ห่างจากวัดที่มีพระภิกษุอยู่จำพรรษาไม่ต่ำกว่า 2 กิโลเมตร เว้นแต่จะมีเหตุอันสมควร

(4) มีที่ดินพอที่จะขยายให้วัดเจริญได้ซึ่งไม่ต่ำกว่า 6 ไร่ เว้นแต่จะมีเหตุจำเป็น และ

(5) พอใจในหลักฐานของประชาชนตามข้อ 1 ที่จะบูรณะปฏิสังขรณ์วัดร้างนั้นให้เป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา และสามารถจัดให้มีพระภิกษุมาอยู่อาศัย และจำพรรษาในวัดได้ไม่น้อยกว่าสี่รูป โดยมีเอกสารแสดงการยินยอมของพระภิกษุที่จะเข้ามาอยู่อาศัยและจำพรรษาในวัด ร้างที่จะยกขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาทั้ง 4 รูป ประกอบมาด้วย

3. เจ้าคณะอำเภอและนายอำเภอ ร่วมกันรายงานการขอยกวัดร้างต่อเจ้าคณะจังหวัด (ตามแบบรายงานการขอยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา)

4. เจ้าคณะจังหวัดได้รับทราบแล้ว ทำความเห็นเพื่อยื่นต่อจังหวัด

5. จังหวัดนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการศาสนาจังหวัดพิจารณาให้ความเห็นชอบ

6. ส่งเรื่องให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติดำเนินการ <!--MsgFile=7--><!--MsgFile=6-->
<!--MsgEdited=3-->

 

เอกสารหลักฐานที่มาที่ไปของการอยากได้ดอนสวรรค์ของพระสงฆ์บางรูป หลังจากจังหวัดและเทศบาลเมืองสกลนครเริ่มพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว
ตอนแรกขอเพียง ๒๐ ไร่ พอได้ง่ายเลยคิดจะฮุบทั้งหมดหรือเปล่า

ข้อมูลจาก fb : ดอนสวรรค์@หนองหาร สกลนคร <!--MsgFile=13-->

<CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>
กว่าชาวบ้านอย่างผม(กรรมการการศึกษา การศาสนา และวัฒนธรรมจังหวัด)จะรู้เรื่องก็เมื่อทางจังหวัดออกหนังสือนี้ไปยังอธิบดีกรมศาสนาแล้ว

อะไรมันจะง่ายขนาดนั้น และที่ขอมาตามผังที่แนบมาประมาณ ๒๐ ไร่เอง (ดูภาพต่อไป)

บริเวณวัดร้างที่ขอมาครั้งแรกคือมุมขวามือของผังดอนสวรรค์(ผังนี้คือผังประกอบการจัดงบประมาณพัฒนาดอนสวรรค์เพื่อท่องเที่ยวของเทศบาลเมืองสกลนคร) ประมาณ ๒๐ ไร่
๒ ปีต่อมากรมศาสนาก็ถือว่าวัดดอนสวรรค์เป็นวัดร้างที่ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว จึงส่งเจ้าหน้าที่จัดหาผลประโยชน์มาสำรวจ

 

ตอนจะมาสำรวจทางสนง.ศึกษาธิการจังหวัด ไม่ระบุในใบทะเบียนที่ดินศาสนาสมัติและที่ดินวัดร้างว่า วัดดอนสวรรค์ มีกี่ไร่ กี่งาน กี่ ตรว.
แต่มาวันนี้จากจะเอาหมดทั้งเกาะ ทั้งๆที่ตอนแรกจะเอาประมาณ ๒๐ ไร่
เมื่อปี ๒๕๐๙ ดอนสวรรค์ยังปรากฏโบสถ์ก่ออิฐถือปูน ตามรูปแบบโบสถ์อีสานเหนือทั่วไป




ดูท่าโพสกับวัดกับวาสิ
<!--MsgFile=19-->

 

ในวันเสาร์ที่ 8 กันยายนที่จะถึง เวลา ตั้งแต่ 18.00 น.เป็นต้นไป จะมีการจัดเวทีเสวนาและแสดงจุดยืนในการร่วมคัดค้านเรื่องการออกโฉนดที่ดินดอนสวรรค์และขึ้นทะเบียนวัดในการดูแลของวัดพระธรรมกาย ณ อาคารอเนกประสงค์ศูนย์ผู้สูงอายุเทศบาลนครสกลนคร (ไฟฟ้าเก่าตรงแยกหอนาฬิกาทางขึ้นศาลากลาง) จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวสกลนครทุกคน ที่รักและหวงแหนดอนสวรรค์ทุกท่าน มาร่วมกิจกรรมดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน ช่วยสละเวลากันมาเพื่อแสดงจุดยืนของพวกเรา และร่วมแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวกันนะครับ

ปล.อย่าลืมนำบัตรประจำตัวประชาชนของท่านมาร่วมลงชื่อคัดค้านการออกโฉนดดังกล่าวกันนะครับ ช่วยกันเชิญชาวสกลนครเข้าร่วมกิจกรรมเยอะๆครับ

https://www.facebook.com/events/100151930142618/

 

หนองหารและดอนสวรรค์เมื่อ๔๐ ปีก่อน น้ำยังสะอาด หาดทรายยังขาวสวยงามดังภาพนี้


ศาลาที่ดอนสวรรค์น่าจะเป็นงบเทศบาลเมืองสกลนครจัดสร้างขึ้น

ศาลาที่ดอนสวรรค์น่าจะเป็นงบเทศบาลเมืองสกลนครจัดสร้างขึ้น

ดอนสวรรค์เป็นที่สาธารณประโยชน์ที่ทุกคนมีสิทธิ์ใช้ได้ภายใต้กรอบของกฏหมายมาช้านาน มาวันนี้ทำไมถึงมีคนอยากได้ไปครอบครอง แม้เป็นที่ธรณีสงฆ์ก็ตาม



ดอนสวรรค์ สมบัติคนสกลนคร ...... แทนที่จะส่งเสริม ปลูกป่าส่งเสริมเป็นเขตป่าอนุรักษ์ แต่กลับพยายามหาสิ่งแปลกปลอมไปปลูกสร้าง ต่างๆนาๆ หลายสมัย เห็นแก่ได้ ไม่สนใจคนพื้นที่ เค้ามีประวัติศาสตร์ จากที่มีสิมเก่าแก่โบราณ ปัจจุบันของเก่า พระเก่าสูญหาย ไปหมด เหลือแต่ขยะ ที่ไปทิ้งไว้ในเกาะ









ข้อมูลจาก fb : ดอนสวรรค์@หนองหาร สกลนคร
PANTIP.COM : Y12612696
<!--MsgFile=30-->

 

สกลนคร เป็นเมืองศูนย์กลางพระพุทธศาสนาแห่งหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ของแผ่นดินอีสาน
ข้อนี้สำคัญมาก




ปัจจุบันมีงานแห่ปราสาทผึ้ง สวยงามมากช่วงออกพรรษา

 

สุดท้ายนี้ขอฝาก สำนวนอีสาน ไว้ว่า


อันใดเบียดเบียดเขา เผิ่นว่าอย่าสิไปเฮ็ด
(สิ่งใดเดือดร้อนผู้อื่น พระพุทธเจ้าท่านว่าอย่าทำ)

 

ไอ้พวกนรกจะกินกบาลมัน

 

ขับไล่มันออกไป อย่าไปบินฑบาทมัน อย่าให้เงินมัน อย่าส่งเสริมมัน มันจะอู่ได้ไหม จุดปะทัดไล่มัน จัดแข่งเรือให้มันดังเปรี้ยงปรางเลย พวกมันอยู่ไม่ได้แน่พี่น้อง ทำแบบโจรใต้ไปเลย ไอ้พวกลัทธินอกคอกนี่ โลภ มากไม่มีที่สิ้นสุด

 

ต้องโทษหน่วยงานราชการ รวมผู้ว่าฯด้วยที่ไม่เหลียวแล อยู่ไปวันๆ รอเกษียร ทำแต่งานที่มีผลประโยชน์ ผมอยู่สกลฯมานาน เมืองสกลฯนี่แหล่ะ น้ำท่าบริบูรณ์ ผู้คนนิสัยดีมากถึงมากที่สุด นับแต่การเมืองแบ่งขั้วมา ก็มีแต่การแตกแยก วิถีพุทธ ที่มีมาแต่สมัยยุคหลวงปู่มั่น บ้านผือนาใน ต่างๆ ก็ค่อยๆสูญไปๆ ครูบาอาจารย์ ท่านก็ละสังขารไปแล้วไปเล่า จนจะเข้าสู่ยุค พวกลัทธืนอกคอกเต็มบ้านเต็มเมือง ว่าด้วยพุทธพานิชย์ หลงๆ โลภ ละโมภ อันนี้ถ้าจะว่ากัน ก็ไอ้พวกลูกศิษย์นั่นแหล่ะตัวดี ถ้าไม่ให้เงินมัน ไม่ตักบาตรมัน มันจะอยู่อย่างไร ในเมื่อพฤติกรรมมันบอกอบู่ ยังไม่ลืมหูลืมตา มืดบอดสนิทเป็นอาจิณไตร รุกขมูล เสนาสยังฯ บวชเสร็จไปอยู่ป่าตามเขา ให้ปฎิบัติจนตายถ้าไม่ได้ธรรม ให้ตายไปเลย ผมต้องการพระที่เป็นพระแบบนี้ ไม่ใช่หาปฎิบัติกันแต่งตัวขาวๆ แต่งหน้าทาปากกัน หน่อแก้ว หน่ออ่อน หน่อแก่ ผีบ้าอะไร ไม่เคยได้ยิน ลัทธิประหลาดชัดๆ พวกไม่มีปัญญาก็ชอบๆ เเสงสีนี่ชอบ ทำบุญกันเยอะะ ญาติธรรมเยอะ ๆ ปฎิบัติกันนั่งดมตด ดมเยี่ยวกัน อะไรกัน แน่จริงถ้าอยากได้ที่นัก ก็โน่น ภาคใต้ ๓ จังหวัดโน่นๆๆ ไปๆๆๆ ฝากบอกไว้ พวกลูกศิษย์ตัวดีทั้งหลาย ทำบุญได้บาปไปเต็มๆๆ แบบเนอะๆๆ พากันลงนรกทั้งขบวนการ ปล.โปรดตรวจสอบบัญชีวัดธรรมกายด้วย ใครดูแล ใช้ทำประโยช์อะไรแก่ชาวโลกบ้าง

 

ผมเป็นผู้หนึ่งที่ขอร่วมคัดค้านการเข้าฮุบที่ดินดอนสวรรค์ ตำนานของพระพุทธศาสนา
และของชาวสกลนคร จาก "ลัทธิจานบิน" ผู้บิดเบือนพระพุทธรรมคำสอน ใครที่มีส่วน
ร่วมในการฮุบที่ดินครั้งนี้ต้องมีอันเป็นไปทั้งตระกูล...ประชาชนที่อยู่ใกล้ๆ และโดยรอบ
สถานที่ลัทธิจานบินตั้งอยู่ (คลอง 3 ปทุมธานี) ยังไม่มีใครนับถือลัทธินี้เลย พวกนอกรีต
ยังจำภาพเก่าติดตา คนแต่งชุดขาวของลัทธิจานบินเอาไม่ไล่ตีชาวบ้าน แล้วบอกตัวเอง
ว่า ข้านี่แหละคือผู้ปฏิบัติธรรมในสายพระธรรมกาย

ในสายพระธรรมกาย ผมนับถือหลวงปู่สด ผู้ค้นพบวิชาธรรมกาย เพียงองค์เดียวเท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->

 

ให้พากันตื่น ฮักษา แพงไว้เด๊อ พี่น้องเอ๊ย...

บทกวีสำคัญในพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6
มีอยู่ว่า...

เมืองใด ไม่มี ทหารหาญ เมืองนั้น ไม่นาน เป็นข้า
เมืองใด ไร้จอมพารา เมืองนั้น ไม่ช้า อับจน
เมืองใด ไม่มี พาณิชย์เลิศ เมืองนั้น ย่อมเกิด ขัดสน
เมืองใด ไร้ศิลป์ โสภณ เมืองนั้น ไม่พ้น เสื่อมทราม
เมืองใด ไม่มี กวีแก้ว เมืองนั้น ไม่แคล้ว คนหยาม
เมืองใด ไม่มี นารีงาม เมืองนั้น หมดความ ภูมิใจ
เมืองใด ไม่มี ดนตรีเลิศ เมืองนั้น ไม่เพริศ พิสมัย
เมืองใด ไร้ธรรม อำไพ เมืองนั้น บรรลัย แน่นอน

ชาติใด ไร้รัก สมัครสมาน จะทำการ สิ่งใด ก็ไร้ผล
แม้ชาติ ย่อยยับ อับจน บุคคล จะสุข อยู่อย่างไร

(บทพระราชนิพนธ์ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖)

 

สงสัยจะมาผิดที่แล้วมั่ง ที่นี่เค้านับถือพระป่าครับ ปฏิบัติตามสายหลวงปู่มั่นทั้งนั้น เป็นแอ่งธรรมะหลวงปู่ฝั้น หลวงกงมา หลวงปู่หลุย นี่ของแท้แน่นอน ไม่จำเป็นต้องนุ่งขาว ห่มขาว เปิดเพลงฟังธรรมเน่าๆทางช่องธรรมโกยนั่น อบรมธรมมบ้าอะไรเปิดเพลงไปด้วย แสง สี ตระการตา เราขึ้นไปวัดดอยธรรมเจดีย์ ไม่เห็นญาติธรรมให้ขวางหู ขวางตาเลย ไม่จำเป็นต้องนุ่งขาว ดูดี ธรรมอยู่ที่ใจโว๊ย ไม่ต้องอวด หลงเพล้อเจ้อ ถ้าพวกมันมาอยู่จริงก็คงมันละครานี้ จะจุดบั้งไฟไล่เลย ยังๆๆไม่พอ เอาข้าวไปให้สุนัขข้างถนนดีกว่า ไปให้พวกเปรตห่มเหลือง เข้าใจว่าพวกคุณมี ปธ.๙ เยอะมาก แต่เกณฑ์แต่คนเรียนเก่งๆ เอาไว้เป็นใหญ่เป็นโตทางติดลาภ พระบ้ายศ อะไรประมาณนั้น ผมรู้แล้วกัน ขบวนการนี้ เท่าที่รู้ ตอนนี้ผ้าเหลืองปลิวว่อนอยู่เต็มเมืองนรกแทบจะเปิดรับไม่ไหว ไอ้โล้นบ้ายศนี่ กะเกณฑ์พระเณรที่เรียนเก่งมาเข้าลัทธิตัวเอง แล้วแข่งสอบเอา ปธ.โน่น ปธ.นี่ แข่งกันๆๆลงนรก พระพุทธองค์ท่านไม่เคยบัญญัติเคยสอน แต่พวกนี้ยึดติดกันแทบเป็นแทบตายว่ากูต้องสอบให้ได้ ปธ. มียศ เพื่อที่จะทำให้สำนักกูดูดีมีภูมิฐาน แต่ผู้คนแถวนี้ไม่ได้กินแกลบนะโว๊ย ลัทธินี้มาเมื่อไหร่ สนุกเเน่ มาผิดที่ละ ที่นี่เค้าเน้นพระป่า ถือธุดงวัตร ไม่ใช่....

 

ยังดีนะครับ ในเวบเรายังมีคนพอเข้าใจหลักพระพุทธศาสนากันอยู่บ้าง มากน้อยตามบารมีใครมัน แต่ผมสงส่ารคนบางกลุ่มมากครับที่อยากจะได้บุญ แต่ดันไปทำไม่ถูกที่เป็นเพราะกรรมอันใดของเขาก็ไม่อาจรู้ได้ ทำไงได้ครับยุคนี้คนดีเริ่มเสียงเบาลงๆๆๆ ครูบาอาจารย์หลายท่าน ท่านรู้แต่ท่านก็ไม่พูดเพราะกลัวพระรุ่นหลังๆจะว่าตามทำให้เกิดความแตกแยก หรือสังฆเภท ท่านเลยเลือกที่จะเฉยปล่อยให้กฏแห่งกรรมลงโทษใครทำอะไรไว้ ย่อมได้แบบนั้น ถ้าท่านตาไม่ดีหรือยังไม่แจ้งในการปฏิบัิติ ท่านดูในหลวงครับ หรือดูพ่อแม่ครูบาอาจารย์เรา ดู หลวงตา ปู่หลุย ปู่ชอบ ปู่ขาว ปู่ศรี ปู่เจี้ยะปู่วัน ปู่จวน ปู่คำดี ปู่พุธ ปู่เทศน์ ปู่เหรียญ และอีกมากมาย ท่านไปมาหาสู่ใครบ้าง ในหลวงท่านไปกราบใครบ้าง ตามัวๆๆอย่างเรา เดินตามหลังท่านครับ รับประกันไม่หลงทาง กองขี้ก็คือกองขี้ ทองคำก็คือทองคำวันยังค่ำ นะจ๊ะ๊ๆๆๆๆๆๆๆ

 

ก็ไม่เข้าใจเหมิอนกันว่า ทำไมวัดธรรมกายถึงต้องแพร่กระจายตัวเองไปครอบครองที่ดินให้มากมายขนาดนี้ การมีที่ดินมากก็เท่ากับว่าวัดสะสมสินทรัพย์มาก แล้วจะเป็นการละวางหรือปล่อยวาง ตามหลักหนึ่งในพุทธศาสนาได้อย่างไร

 

สู้อำนาจเงินเพิ่นไหวบ่น้อ ถึงบ่ใส่บาตรไห่เพิ่น เพิ่นกะตั้งโฮงครัวเองได้ เพิ่นบ่ง้อดอกเด้อ

 

คนสกลนครไกลบ้านรออ่านข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ

 

ขับออกจากพื้นที่โดยด่วน ชาวสกลและพื้นที่เดิมออกมาคัดค้านกันให้มาก ๆ

 

เพราะความโลภโดยแท้
พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า
"แม้ภูเขาทอง สองลูก ยังไม่พอกับความโลภ"
เวรกรรมๆๆๆ




งานราชการที่เปิดสอบ

 

ผมปฏิบัติธรรมมานาน เคยศึกษาสายธรรมกายอยู่ แต่รู้สึกญาติธรรมเยอะแบ่งพรรคแบ่งพวก หนักๆเข้าก็แบ่งว่ากูจบมหาลัยโน่น มหาลัยนี้ หนักๆเข้า กูลูกเจ้าของบริษัทนั่นบริษัทนี่ หนักๆเข้า กูคือพรรคการเมืองนั้นการเมืองนี่ นี่แหล่ะที่เจอมาเต็มๆ จริงอยู่อุบายการทำบุญท่านได้บุญ จริงอยู่ว่าบ้าบุญติดในบุญ จริงอยู่ว่าสอนสมาธิให้ได้ธรรม ธรรมในใจ ผมโมทนาบุญกับท่านผู้ได้เห็นธรรมจริงๆ ด้วยความจริงใจจริงๆ ไม่คิดจะต่อต้านหรอก แล้วแต่ศรัทธาญาติโยม ญาติธรรมทั้งหลาย สำหรับผม ผมอยู่บ้านไหว้พ่อไหว้แม่ทุกเช้า เอาน้ำล้างเท้าท่านตามเวลาสมควร ไหว้พวงมาลัยท่าน บางก็เอาเท้ามาเหยียบศรีษะเราบ้าง คำสอนเหล่านี้ครูบาอาจารย์ท่านสอนเป็นปฐมก่อนที่จะทำบุญนอกบ้าน บางคนและหลายคนผมเห็นกะตาบริจาคเงินให้กับวัดเป็นหมื่นๆแสนๆแต่พ่อแม่ที่บ้านไม่เคยแหลวแล นี่ลัทธินอกรีดเคยสอนบ้างไหม ไม่จำเป็นต้องมาที่วัดเลย นี่ก็เป็นคำสอนของท่านครูบาอาจารย์วัดป่า ไม่รับเงินเราเลยที่เดียว เตรียมเงินมาต้องเยอะ กับสะดุดกับคำที่ว่า บุญคืออะไร กะเกียกตะกายไปทำไมกะบุญ บ้าบุญ ใบบุญ โลภในบุญ อิ่มในบุญ โน่นการปฎิบัติที่บ้านโน่นสำคัญ ผลสุดท้ายผมก็เลยนึกถึงแต่บิดามารดาท่าน ฯลฯ ถ้าพระท่านเป็นอริยะจริงต้องจริงอย่างงนี้ เป็นอย่างงี้ ท่านไม่กลัวอดตายหรอก เพราะการปฏิบัติท่านยิ่งกว่านี้ ไม่ฉันเลย ๑๐ - ๒๐ วัน ให้ป่วยตายไปเลย นั่นนะของจริง อันนี้รู้ได้ตามบุญตามวาสนาของเราเป็นปัตจัตตังเฉพาะคน ถ้าผมจะตายผมไม่เสียดายที่พบพระแท้ พระจริงๆ ภายในลัทธิธรรมกายนี้ยังมีอีกหลายเรื่องที่ท่านไม่รู้ อย่างที่รู้มาว่า ทำไมๆๆ สายนี้ เค้าถึงได้ ปธ.๖ ปธ. ๙ กันเยอะแยะๆๆ ก็เพราะอะไรละๆๆๆๆ คิดดี่ๆๆๆ ก็บ้ายศไง บ้าอย่างงี้ ลุงยมท่านเบื่อผ้าเหลืองปลิวว่อนเต็มไปหมด โน่นนรกโน่น ถ้าคุณคิดจะเป็นใหญ่ว่าลัทธินี่สอบได้ ปธ.กันเยอะ แต่การปฏิบัติท่านไปถึงไหน ได้ธรรมไม่ รู้ว่ามีบริษัทยักษ์เป็นญาติธรรมท่าน รู้ว่ามีนักการเมืองอยู่กะท่าน ทำไมๆๆๆ หลวงปู่แหวน หลวงปู่หลุย ปู่จวน หลวงปู๋กงมา ท่านเหล่านี้ท่านสนไม เงินนะๆๆ น่ะเงิน ท่านปฏิบัติจนเกิดธรรมในใจท่าน เรากราบท่านได้สนิทใจ ที่วัดท่านไฟฟ้าแทบไม่มีใช้ อยู่ในถ้ำบ้าง ผาบ้าง อดๆอยากๆ กลัวไมๆๆๆ เดินบิณทบาตรจากเขาเป็น ๑๐ กิโลฯ ธุดงด์ในดงเสือกลัวตายไหม(ไม่ใช่พวกนอกรีด ธุดงด์ตามตึกรามบ้านช่อง ตามถนนเมืองกรุงฯ ปักกฎแทบจะติดเสาบ้านเสาเรือน เดินแทบจะชนรถเมล์เรือเมล์ บิณฑบาตรก็กลัวอดตาย กลัวไม่ได้กินกัน ตกลงโยมโปรดสัตว์ หรืออะไรกัน...แถมยังทำให้รถติดวินาศสันตโล หนำซำยังให้โยมพ่อโยมแม่มากราบเท้าตัวเอง ซึ้งๆๆๆจริงๆๆ สร้างภาพได้ด่างพรอยไม่มีที่ติ แยบยลด้วยกิเลศเต็มๆ นอกจากจะศรัทธาลัทธินี่แล้ว มีเงินแล้ว ต้องบอกว่า.....มีเงินอย่างเดียวไม่พอต้องบรมโง่ โง่เต็มพิกัดจริงๆ สนับสนุนกันไป กูได้บุญ อิ่มในบุญ บุญมีสวรรค์ ทำบุญเยอะๆๆๆๆ นะจะ นะจ้าาาา โมนาบุญๆๆๆ บุญๆๆๆๆๆ ติดในบุญ หลงในบุญ อาสวะมันจะสิ้นได้ยังไงวะ ไม่เข้าใจ โน่น อยู่บ้านเราก็ทำได้ ตื่นมาไหว้พระสวดมนต์ก็เป็นบุญ ไหว้พ่อไหว้แม่ครูอาจารย์ ทำบุญเพื่อสาธารณะ นี่ก็บุญ อภัยทานนี่ก็บุญ บุญเป็นอกาลิโก มีได้ทุกกาลทุกสมัย ไม่ต้องมารวมพลกันใหญ่โตอลังการณ์งานสร้าง มีสิ่งก่อสร้าง คนเยอะๆ ญาติธรรมเเยะๆ เลิศหรูด้วยเทคโนมิวสิค ล้นโลกล้นสงสาร มานั่ง ดมขี้ ดมเยี่ยวกัน แต่งหน้าทาปากกัน ยอดหน่อแก้ว หน่ออ่อน หน่อแก่ หน่อเฒ่า จิปาถะ ไม่เข้าใจ โอ๋อนิจจา สัต ตะ วะ โลก มดหนูปูปลวกแมลงเม่าแมลงวันทั้งหลาย เงินทำได้ทุกอย่าง แต่ไม่ใช่เราที่บ้าเงิน บ้าฝูงชน บ้าวัตถุ อนิจจา เอวัง