ธรรมะจากเพจต่างๆ พระสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย ธรรมะสายหลวงปู่มั่น, 6 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “…ในทางสายกลาง ในวัตรปฏิบัติ ในการบวชที่ยืนหยัดด้วยธรรมะพิสุทธิ์ กับการดุ่มเดินก้าวไป ด้วยรู้ตนรู้จิตให้เท่าทัน นี้ต้องใส่ใจแท้ ๆ นะลูกหลาน…”

    โอวาทธรรมองค์หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ผู้มากมีบุญ

    ๕ กันยายน ๒๕๖๐

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมคำสอนนี้ ทุกๆ ท่าน

    -ในวัตรปฏิ.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  2. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    เมตตาตกบ่อ…เรื่องคู่วาสนาบารมี
    (เล่าเรื่องโดยพ่อแม่ครูอาจารย์)

    หลวงปู่เล่าว่า..เรื่องมาตุคามกับพระ หรือเรื่องเนื้อคู่ หรือคู่วาสนา คู่บารมี นั่นเอง ผู้ที่เป็นครูบาอาจารย์จะต้องผ่านเรื่องเหล่านี้มากันเกือบทุกรูป บางรูปถ้าไม่ได้พ่อแม่ครูบาอาจารย์ช่วยเหลือที่ดีแล้วล่ะก็พังทุกราย ดูอย่างเรื่องของหลวงปู่หลุยเป็นตัวอย่าง (หลวงปู่เล่าเรื่องหลวงปู่หลุย จันทสาโร ให้ฟังต่อไปว่า)

    หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร เป็นศิษย์ผู้ใหญ่ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
    อีกรูปหนึ่ง ในสมัยที่อยู่กับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่วัดป่าบ้านหนองผือนั้น หลวงปู่หลุย จันทสาโร ก็เป็นพระหนุ่ม แต่ค่อนข้างจะมีประวัติอะไรที่แปลกอยู่เช่นกัน…วันหนึ่งหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตปรารภกับพระในวัดซึ่งก็ได้ยินกันหมดทั้งวัดว่า “ท่านหลุย ท่านไม่สมควรที่จะอยู่ที่นี่ให้ไปหาที่อยู่ที่อื่น…หลวงปู่หลุย จันทสาโร ก็แปลกใจว่าทำไมหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จึงห้ามไม่ให้อยู่ เราก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่นา ! หลวงปู่หลุย จันทสาโร ก็เข้าไปกราบเรียนขออนุญาตหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อีกว่า

    …ขอได้โปรดเมตตาให้เกล้าอยู่รับใช้พ่อแม่ครูบาอาจารย์ต่อไปด้วยเถิด ถ้าได้กระทำอะไรผิดพลาดก็กราบเท้าขอขมาลาโทษด้วย…เมื่อหลวงปู่หลุย จันทสาโร มาบอกเช่นนั้นหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านก็เมตตาให้อยู่ต่อแต่มีข้อแม้ว่า…ถ้าจะอยู่ที่นี่อีกต่อไป ก็ห้ามไปบิณฑบาตสายที่ผมเดิน…คือ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้สั่งห้ามไม่ให้หลวงปู่หลุย จันทสาโร เดินตามท่านไปบิณฑบาตด้วยนั่นเอง…หลวงปู่หลุย จันทสาโร ก็เชื่อฟังและได้ปฏิบัติตามคำสั่งของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ด้วยดีตลอดมา…

    จนเวลาผ่านไปนานพอสมควร วันหนึ่งหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เดินทางไปวิเวกต่างสถานที่ ก่อนที่จะออกเดินทางหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ก็กำชับพระเณรในวัดอีกครั้งหนึ่งว่า คอยระวังท่านหลุย จันทสาโร ด้วย อย่าปล่อยให้ไปบิณฑบาตสายนี้อย่างเด็ดขาดนะ…

    ด้วยความกังขาต่อคำสั่งของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่สั่งห้ามไม่ให้ไปบิณฑบาตสายดังกล่าวนั้นฝังอยู่ในใจของหลวงปู่หลุย จันทสาโร มาเป็นเวลานานนั่นเอง…เมื่อหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ไม่อยู่ หลวงปู่หลุย จันทสาโร จึงคิดว่าเป็นเพราะเหตุไรหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จึงมาห้ามเราอย่างนี้..วันนี้เป็นอย่างไรก็เป็นกัน จะต้องเดินไปบิณฑบาตสายต้องห้ามนี้ให้ได้…

    ว่าแล้วเช้าวันรุ่งขึ้นหลวงปู่หลุย ก็เดินไปบิณฑบาตสายที่หลวงปู่มั่นสั่งห้ามนั่นเอง.ถึงแม้ว่าพระเณรจะช่วยกันทัดทานห้ามอย่างไรหลวงปู่หลุยก็ไม่ฟังเสียงใคร เพราะอายุพรรษามากกว่ารูปอื่นนั่นเอง พระเณรรูปอื่น ๆ มีแต่พรรษาต่ำกว่าก็เกรงใจไม่สามารถที่ห้ามเอาไว้ได้ จึงได้ปล่อยให้หลวงปู่หลุยเดินไปบิณฑบาตสายต้องห้ามนั้นอย่างไม่สามารถที่จะทัดทานได้…

    เดินไปจนสุดหมู่บ้านหลวงปู่หลุยก็นึกในใจว่า เอ๊!..หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มาห้ามเราด้วยเรื่องอันใดไม่มีเหตุไม่มีผล ก็แค่เดินบิณฑบาตธรรมดา ๆ นี่ไม่เห็นจะมีอะไร ?

    ขณะที่เดินบิณฑบาตขากลับวัดในระหว่างทางได้มีหญิงสาวนางหนึ่งลงมาใส่บาตรตามปกติที่เคยทำประจำทุกวัน ขณะที่หญิงสาวเอื้อมมือจะใส่บาตร หลวงปู่หลุยก็กำลังเปิดบาตร ฉับพลันสายตาของหลวงปู่หลุย กับ สายตาของหญิงสาวนางนั้นก็ประสานกันพอดี ไม่มีใครคาดคิดว่าเหตุการณ์จะร้ายแรงและเป็นได้ถึงขนาดนี้
    …หญิงสาวนางนั้นถึงกับเป็นลมล้มลง ช็อกหมดสติกระติบข้าวหลุดหล่นจากมือกลิ้งไปกับพื้นดินทันที…

    ฝ่ายหลวงปู่หลุยซึ่งบำเพ็ญตบะบารมีมาถึงขนาดนั้นแล้วก็ถึงกับเข่าอ่อนเป็นลมล้มพับไปเหมือนกัน บาตรที่สะพายอยู่บนบ่าถึงกับหลุดล่วง พระเณรที่เดินตามมาด้วยต้องรีบช่วยกันเข้าประคองสองปีกซ้ายขวา รูปหนึ่งก็เข้ามาช่วยรับบาตร เสร็จแล้วก็พากัน
    หิ้วปีกหลวงปู่หลุยกลับวัดทันที…

    นี่!..ดูเถิดครับ..เรื่องคู่วาสนาคู่บารมีมันไม่เข้าใครออกใคร มันร้ายถึงขนาดนี้…หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านรู้อยู่แล้วว่าคู่วาสนาของหลวงปู่หลุย จันทสาโร มาเกิดอยู่ที่นี่ถ้าได้พบกันแล้วจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น หลวงปู่มั่นจึงห้ามไม่ให้หลวงปู่หลุยอยู่ที่นั่น แต่เมื่อหลวงปู่หลุย จันทสาโร ดื้อที่จะอยู่ก็ห้ามไม่ให้ไปบิณฑบาตด้วย แต่แล้วก็(หนีกรรม)ไม่พ้นอยู่ดี…

    …..สมัยที่ผมเป็นพระหนุ่มก็ต้องต่อสู้เรื่อง “คู่วาสนา” อย่างนี้อยู่ถึง ๒-๓ ครั้งเหมือนกัน แถบเอาตัวไม่รอด ก็เพราะตัวเมตตาตกบ่อนี่แหละครับ ตัวเมตตาสงสารเขานั่นแหละจะทำให้เราเสียคน ต้องกำจัดตัวเมตตาสงสารให้ได้ “ถ้าเราคิดสงสารเขาเราตายลูกเดียวจะบอกให้ !…สมัยที่ผมอยู่บ้านธาตุนาเวง สกลนคร ประเพณีทางอีสานไม่เหมือนเมืองจันท์เรานะครับ พระไปบิณฑบาตกลับมาแล้วก็จะมีพ่อออกแม่ออก(โยมผู้ชายโยมผู้หญิง)หาบกับข้าวตามมาส่งที่วัด ทางอีสานเขาเรียกว่า “มาจังหันพระ” ในบรรดาผู้ที่มาจังหันนั้นผมก็ไม่ได้สังเกตว่าใครเป็นใครผมก็สำรวมจิตใจของผมอยู่ตลอดเวลา ทีนี้เมื่อถึงคราวมันจะเป็นขณะที่กำลังแจกอาหารใส่บาตรอยู่นั้นผมก็จำไม่ได้ว่าผมกำลังมองหาอะไร มองไปมองมาก็ไปสะดุดกับสายตาของสาวน้อยรูปงามคนหนึ่งเข้าอย่างจัง สังเกตเห็นเขานั่งมองผมอย่างจดจ้องตาไม่กระพริบ…เมื่อผมกวาดสายตาไปเจอเข้าเท่านั้นก็ถึงกับใจเต้นตุบ ๆ ตับ ๆ แทบระเบิดออกมานอกอกเหมือนกัน..เสร็จแล้วผมก็ก้มลงมองบาตรพิจารณาปัจจเวกอาหารเตรียมฉัน แต่ใจมันก็ยังเต้นตุบตับ ๆ ยอมรับว่าวันนั้นผมฉันข้าวไม่ได้เลย ต้องรีบอิ่มลุกออกจากที่นั่งกลับกุฏิทันที

    ธรรมเนียมเมืองอีสานนั้นใครอิ่มก่อนลุกก่อนอยู่แล้ว ผมล้างบาตรเสร็จก็เข้าที่เดินจงกรมทันทีเกรงว่าจิตจะตกไปมากกว่านี้ เดินจงกรม พุท-โธ ๆ ๆ ตั้งแต่เช้าจนเที่ยงจิตก็สงบลงไปได้มากแต่ก็ยังไม่หมดเสียทีเดียว ยังวิตกวิจารณ์ถึงนัยน์ตาของหญิงสาวนางนั้นอยู่ดี รอบบ่ายกวาดวัดเสร็จก็เข้าที่เดินจงกรมต่ออีกจนกระทั่งดึกประมาณสองยามเห็นจะได้ขณะที่จิตสงบดิ่งอยู่กับการเดินจงกรมอยู่นั้น สัญชาติญาณของคนเราก็จะพอรู้ว่าใกล้ ๆ ตัวเราขณะนี้มีสิ่งผิดปกติอยู่ ยิ่งเป็นสิ่งมีชีวิตยิ่งรู้ได้เร็ว ขณะที่ผมเดินจงกรมกลับไปกลับมาอยู่นั้น ผมมองผ่านแสงเทียนไขที่จุดไว้ในโครมผ้าสีหมอง ๆ นั้น สังเกตว่าที่ริมทางเดินจงกรมได้มีเงาตะคุ่ม ๆ คล้ายคน ในใจก็คิดอีกว่าหรือจะเป็นผี เพราะทางเดินจงกรมของผมอยู่ในป่าช้าฝังศพ มองไปทางไหนก็มีแต่หลุมศพทั่วไปหมด หรือจะเป็นหมามาหากินเศษอาหารเครื่องเซ่นศพที่ตอนกลางวันนี้มีการฝังศพกัน ผมคิดไปเอง…

    จุ๊. จุ๊.!..ผมจุ๊ปากเพื่อไล่หมา แต่ก็ เงียบ!ไม่มีเสียงกร๊อบแกร๊บอะไรอีก ในใจก็คิดอีกว่าถ้าเป็นหมาก็ต้องวิ่งเหยียบใบไม้ให้ดังไปหมดทั้งป่าแล้ว เอ๊!..ทำไมเงียบ หรือว่าจะเป็นเด็กวัยรุ่นหัวขโมยจะมาแอบลักของวัดหรืออย่างไร? หรือว่าจะเป็นผี! เพราะเมื่อมองผ่านแสงเทียนไขออกไปก็เห็นเงาคล้ายคนเรานี่นา ผมจึงถามออกไปอย่างนั้นแหละไม่ได้หวังผลอะไรมาก? แต่ผลที่กลับมาเกินกว่าที่คาดคิด…ใครน่ะ!มาแอบทำอะไรแถวนี้…ทองเอง ค่ะ! ทองทิพย์ ค่ะ…ใจผมหายวาบ! หนูมาจังหันทุกวันจำหนูไม่ได้หรือ!เมื่อเช้าที่หลวงพี่มองมาทางหนูยังไงเล่าค๊ะ!..

    ผมก็ถึงบางอ้อทันทีเลย…มาทำไมในป่าช้าดึกดื่นมืดค่ำอย่างนี้ ไม่กลัวผีหรอกหรือ!… มาชวนหลวงพี่ไปอยู่บ้านหนู หนูแอบชอบหลวงพี่มานานแล้ว…หนูเป็นลูกคนเดียวของเตี่ย แม่หนูตายตั้งแต่เล็กไม่เคยเห็นหน้าแม่เลย เตี่ยรักหนูแต่เตี่ยก็หวงหนูไม่ให้หนูไปไหนให้คาดสายตาเลย ป่านนี้คงจะตามหาทั่วเมืองแล้วก็ไม่รู้เหมือนกัน..เสียงของเขาบาดลึกถึงหัวใจเหมือนอะไรบอกไม่ถูก ยิ่งพูดยิ่งสงสารเขา บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าสงสารเขาทำไม สงสารเขาได้อย่างไร?…ผมดูจิตของผมแล้วก็ทราบได้ดีว่า

    “..เมตตากำลังจะตกบ่อเสียแล้ว เพราะความเมตตาสงสารนี่เอง…”และก็เกรงว่าถ้าพระเณรหรือใครผ่านมารู้เห็นเข้าก็จะไม่ดีไม่งาม อีกอย่างหนึ่งก็ผิดพระวินัยด้วยที่เรามายืนคุยกับมาตุคามสองต่อสองในที่ลับหูลับตายามวิกาลเช่นนี้ ผมจึงรวบรัดตัดความว่า เอาอย่างนี้ดีไหม! วันนี้หลวงพี่ไม่ได้เตรียมสิ่งของอะไรมาด้วยเลย เพราะไม่รู้ว่าเธอจะมา ถ้าจะกลับเข้าไปเอาสิ่งของเดี๋ยวหมู่คณะพระเณรก็จะเห็น อีกอย่างหนึ่งก็ดึกมากแล้ว เราเดินทางกันไปได้คงไม่ไกลก็สว่าง คนแถวนี้ก็รู้จักเธอกันทั้งนั้น..เอาเป็นว่าวันพรุ่งนี้เรานัดเจอกันใหม่ดีไหม ? หลวงพี่จะได้จัดเตรียมสิ่งของออกมาพร้อมแล้วค่อยว่ากัน วันนี้ให้เธอกลับบ้านก่อน..เธอคงนึกว่าผมมีใจเอนเอียงเป็นไปกับเธอด้วย…ก่อนออกเดินทางกลับบ้านเธอก็หันกลับมาย้ำกับผมอีกว่า…พรุ่งนี้ ก็พรุ่งนี้…

    ผมมองเห็นเงาเธอเดินพ้นสายตาแล้ว ผมก็รีบออกจากทางจงกรมกลับกุฏิทันทีเลยเหมือนกันกลัวว่าเธอจะหวนกลับมาอีก ถึงกุฏิแล้วก็เตรียมเก็บสิ่งของอัฐบริขารใส่บาตรอย่างเร็ว ฝากพระเพื่อนกันให้ช่วยกราบลาครูบาอาจารย์แทนด้วย เสร็จแล้วก่อนสว่างคืนนั้นผมก็รีบออกเดินทางมุ่งหน้าไปถ้ำเจ้าผู้ข้าทันที เพราะเกรงว่าถ้าอยู่จนถึงสว่างแล้วเธอจะต้องมาจังหันจะต้องได้พบหน้าเธออีก อาจจะทนความสงสารเธอไม่ได้…พอถึงถ้ำเจ้าผู้ข้าผมก็เดินจงกรมนั่งสมาธิประคองจิตใจของผมไม่ให้ตกอยู่ภายใต้อำนาจของลูกสาวพญามารนางนั้นอีกต่อไป…ผมไม่ได้ฉันข้าวเป็นเวลา ๑๕ วัน เพื่อต้องการทรมานจิตของผม แล้วผมก็สามารถผ่านเหตุการณ์ในครั้งนั้นมาได้อย่างสง่างาม นึกขึ้นมาคราวใดก็ภาคภูมิใจในตัวเองเป็นที่สุด…หวุดหวิดเกือบจะเสียทีลูกสาวพญามารเข้าให้เสียแล้ว…

    พวกเราพระหนุ่มเณรน้อยทุกรูปก็ขอให้ระมัดระวังเอาไว้ให้ดี บางทีเราอาจจะคิดไม่ถึงว่าจะได้พบกับคู่วาสนาเมื่อไร ที่ไหน กับใคร ข้อสำคัญตัวเมตตาสงสารนั่นแหละสำคัญนัก จะทำให้เราตกบ่อหรือตกหลุมได้ จะเสียพระ จะเสียคน พระผู้ใหญ่หลายรูปก็พังเพราะตัวเมตตาตกบ่อนี่แหละครับ !. .จำเอาไว้…

    (หลวงปู่เล่าเรื่องนี้ให้พระเณรฟังภายหลังจากสรงน้ำประจำวันเสร็จแล้ว) คัดจากหนังสือชีวประวัติ พระวิสุทธิญาณเถร (หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย)

    ๕ กันยายน ๒๕๖๐

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้
    พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    -เรื่องคู่วา.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  3. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “…ยึดในสิ่งใด ย่อมตกเป็นทาสของสิ่งนั้น
    เมื่อไม่ยึด ก็ไม่ทุกข์
    เมื่อไม่ถือ ก็ไม่หนัก
    เหตุของความทุกข์ ก็มีเพียงเท่านี้
    “รู้” แล้ววางเป็น ก็เย็นสบาย…”

    โอวาทธรรมองค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน

    ๕ กันยายน ๒๕๖๐

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมคำสอนนี้ ทุกๆ ท่าน

    -ย่อมตกเป็น.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  4. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    โอวาทก่อนนอน

    …เราต้องตั้งใจทุกคืน ก่อนที่เราจะหลับจะนอนให้เราตั้งใจว่าคืนนี้เราไหว้พระให้ได้ ไหว้พระแล้วเราจะทำวัตรสวดมนต์ ได้บทใดข้อใดก็สวดไป ตามที่เราท่องบ่นจดจำได้ เมื่อท่องบ่นสวดจำได้แล้วก็นั่งสมาธิภาวนา ฝึกหัดจิตใจให้ตั้งมั่น การที่จิตใจเราตั้งมั่นได้นั้นมาจากการประพฤติกระทำของเราเอง

    ก่อนจะนอนเราก็ภาวนานึกไว้ หลับไปแล้วก็ฝันดี ถ้าไม่ภาวนาไว้หลับไปก็ฝันร้าย ฝันร้ายก็ไม่ชอบ มันเป็นที่เราภาวนาขาดตกบกพร่อง ฉะนั้นจำเป็นจะต้องระลึกดูว่าตลอดวันที่เราผ่านมา จนมาถึงเวลาเราจะหลับจะนอน เราขาดตกบกพร่องอะไร

    • หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร •

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  5. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “…เพราะเราไม่อาจจะรู้ได้ว่า อดีตชาติเราได้สร้างบุญหรือสร้างบาปไว้มากน้อยเพียงใด และผลของกรรมใดจะส่งผลก่อนหรือหลัง เพื่อความไม่ประมาทจึงควรจะสร้างบุญกุศลเป็นการเพิ่มเติมไว้เสมอ ถ้าอดีตทำไว้มากแล้ว ก็จะยิ่งมีมากขึ้น ย่อมให้ผลก่อนที่มีกำลังน้อยกว่า อันเป็นกฎธรรมชาติของกรรม ฉะนั้น ด้วยความไม่ประมาท จงระลึกไว้ว่า ถ้าตนเองไม่สะสมไว้แล้ว ใครที่ไหนจะช่วยเจ้าได้ เจ้าจะมีอะไรไว้เป็นทุนเดินทางเวียนว่ายในวัฏฏทุกข์ที่ยังต้องผจญต่อไป ไม่รู้ว่าจะจบสิ้นเมื่อไหร่ จงระลึกไว้เสมอว่า เจ้าสะสมเตรียมตัวไว้เดินทางแล้วหรือยัง จะรอให้คนอื่นทำไปให้นั้น จะมั่นใจดีเท่ากับเราเตรียมหาไปเองหรือ…”

    สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

    ๗ กันยายน ๒๕๖๐

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมคำสอนนี้ ทุกๆ ท่าน

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  6. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “…ปลูกต้นธรรม…”

    ครั้งหนึ่งหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เคยเปรียบเทียบการปฏิบัติธรรม เหมือนการปลูกต้นไม้ ท่านว่า…. ทำนี้มันยาก ต้องคอยบำรุงดูแลรักษา เหมือนกับเราปลูกต้นไม้
    ศีล………………นี่คือ ดิน
    สมาธิ……………นี่คือ ลำต้น
    ปัญญา………….นี่คือ ดอก ผล

    ออกดอกเมื่อใด ก็มีกลิ่นหอมไปทั่ว การปฏิบัติธรรมก็เช่นกัน ผู้รักการปฏิบัติต้องคอยหมั่นรดน้ำ พรวนดิน ระวังรักษาต้นธรรม ตัวหนอน คือ โลภ โกรธ หลง มิให้ มากัดกินต้นธรรมได้ อย่างนี้จึงจะได้ชื่อว่า ผู้รักธรรม รักการปฏิบัติจริง

    โอวาทธรรมหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

    ๗ กันยายน ๒๕๖๐

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุก ๆ ท่าน

    1504793709_839_ปลูกต้นธรรม.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  7. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ทุกวันนี้เราแสวงหาทำบุญกัน แต่การละบาปนั้น ไม่ค่อยมีใครคิดถึง

    นี่! ในทางที่ดี มันจะต้องละบาปก่อนจึงบำเพ็ญบุญ
    ถ้าบาปไม่ละ จะเอาบุญไปไว้ตรงไหน

    หลวงปู่ชา สุภัทโท
    *****
    คลิกฟังเสียงจริงหลวงปู่ชา https://www.youtube.com/watch?v=T56exC-R5JE

    Cr . เพจสาขาวัดหนองป่าพง ขอบพระคุณและขออนุโมทนา

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  8. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “ภูเขาควาย”แดนดินถิ่นลี้ลับแห่งเมืองลาว

    ภูเขาควายเป็นสถานที่ที่เป็นป่าลึกร้อนชื้น บางช่วงเป็นป่าดิบบางช่วงเป็นป่าเบญจพรรณ มีอาณาเขตติดต่อกับฝั่งไทยลาวเป็นเทือกเขาแนวยาวไปตลอด
    สามารถติดต่อไปทางจำปาศักดิ์ปากเซซึ่งเป็นเขตทางภาคใต้ของประเทศลาว อันมีสถานที่เลื่องชื่ออีกแห่งหนึ่งเรียกว่า “แก่งลีผี”
    สถานที่ของภูเขาควายตลอดแนวไปจนถึงแก่งลีผีนี่เองที่เป็นตำนานเรื่องเล่าขานถึงความศักดิ์สิทธิ์ของป่าแถบนี้ นานมาแล้วสถานที่ดังกล่าวเป็นเขตรุกขมูล
    ของพระธุดงค์จากทั้งไทยและลาวรวมไปถึงพม่าและเขมร พระอาจารย์หลายท่านต่างพากันมาสำเร็จอภิญญาสมาบัติ ณ สถานที่แห่งนี้
    รวมไปถึงการมาของกลุ่มคนบางกลุ่ม ที่ต้องการวัตถุธาตุกายสิทธิ์เหนือโลกอย่างเหล็กไหลและหินกินเหล็ก บนภูเขาควายยังมีเทือกเขาสลับซับซ้อนกันอีกหลายภู
    ล้วนเป็นสถานที่ที่ไปมาลำบาก เสี่ยงอันตรายนานัปการ หากไม่มีความจำเป็นแล้วก็ไม่มีใครอยากเข้าไปเสี่ยงชีวิตนักหรอก แต่แทบไม่น่าเชื่อเลยว่า
    ในวันวานที่ผ่านมาจะมีผู้คนยอมเข้าไปตายถวายชีวิต เพื่อการปฎิบัติเอามรรคผลรวมไปถึงการแสวงหาธาตุกายสิทธิ์

    เป็นความจริงที่ว่าภายในภูเขาควายที่ซับซ้อน มีภูเล็กๆอีกเป็นจำนวนมากซ่อนอยู่ และเชื่อกันว่าตามภูตามเทือกเหล่านั้น
    มีของกายสิทธิ์เกิดขึ้นตามธรรมชาติมากมายนับไม่ถ้วน แต่การที่จะได้มานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะของดีย่อมมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เร้นลับมองไม่เห็นคอยดูแลรักษา
    เฝ้าติดตามหวงแหนอยู่ ต้องเป็นผู้ที่มีบุญวาสนาจริงๆเท่านั้นถึงจะสามารถไปนำมาเป็นสมบัติของตนได้

    เมื่อเราเอ่ยถึง”ภูเขาควาย”สิ่งหนึ่งที่หลายคนคิดขึ้นมาย่อมไม่พ้นเรื่อง “เหล็กไหล”ธาตุกายสิทธิ์สุดยอดแห่งเครื่องรางของขลัง
    เป็นที่เล่าสืบต่อกันมานานหลายชั่วอายุคนว่าที่ภูแห่งนี้มีเหล็กไหลซุกซ่อนอยู่ “หลวงปู่จันดี เกสาโร”ท่านเคยเล่าไว้ว่า สมัยที่ท่านเป็นเณร
    เคยมีพระอาจารย์ของท่าน ๕ รูปขึ้นไปตัดเอาเหล็กไหลบนยอดภูเขาควาย โดยทราบตรงกันเป็นที่แน่ใจแล้วว่าเหล็กไหลนั้นอยู่ภายในผนังถ้ำ
    ใกล้กับต้นตะเคียนยักษ์อายุนับร้อยนับพันปีเป็นจุดสังเกต!เมื่อพระอาจารย์ทั้ง ๕ ขึ้นไปถึงยังที่หมายแล้วได้ทำการลองเอาน้ำผึ้งเทลงใส่บนฝ่ามือ
    ยื่นล่อเหล็กไหล ผลปรากฎว่า เหล็กไหลได้ย้อยตัวลงมาเป็นดุจเส้นใยบัวเพื่อมาเสพน้ำผึ้ง!พระอาจารย์ทั้ง ๕ เห็นเป็นอัศจรรย์ดังนั้นจึงเตรียมการ
    ทำพิธีเรียกเหล็กไหล โดยสั่งให้สามเณรจันดีคอยเตรียมหุงหาอาหารไว้ให้ ส่วนพระอาจารย์ทั้ง ๕ ก็เริ่มทำพิธีกัน โดยคราวนี้ตกลงที่จะล่อเหล็กไหลออกมาหน้าปากถ้ำแล้วเดินวนรอบผูกไว้กับต้นตะเคียนยักษ์ที่ขึ้นเด่นอยู่หน้าปากถ้ำ จากนั้นจึงค่อยใช้มีดอาคมตัด

    การดำเนินพิธีเป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ คือเริ่มเอาน้ำผึ้งล่อเหล็กไหลดังกล่าว จากนั้นพอเหล็กไหลย้อยตัวลงมาตามแผนก็ล่อหลอกให้เหล็กไหล
    ยืดยาวที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วค่อยๆถือน้ำผึ้งเดินวนรอบต้นตะเคียนยักษ์ พระอาจารย์จันดีย้อนความหลังให้ฟังในคราวครั้งนั้นว่าท่านเองได้เห็นกับตา
    ถึงสิ่งเร้นลับนามเหล็กไหลมีลักษณะเป็นเส้นๆคล้ายผมคนหรือเส้นใยบัว สีเขียวปีกแมลงทับยามต้องกับแสงแดดดูมันวาวเป็นประกายน่าจับตามอง
    สวยงามมาก แต่ทว่า!สิ่งหนึ่งที่อยู่ในใจสามเณรจันดีในขณะนั้นก็คือ ท่านมีความรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก คงเป็นเพราะเหล็กไหลนั้น
    มีอาถรรพณ์พลังบางอย่างซ่อนเร้นอยู่เป็นแน่ สามเณรจันดีมองอยู่ได้ไม่นานก็โดนพระอาจารย์ท่านอื่นไล่ลงไปเตรียมสำรับกับข้าวเอาไว้ เพราะตรงนี้
    ไม่ใช่ที่ที่เด็กอย่างสามเณรจันดีจะเข้ามายุ่งย่าม จากนั้นท่านพระอาจารย์ทั้ง ๕ ก็เริ่มทำพิธีกันต่อไป

    พิธียังคงดำเนินเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แต่แล้วพอสามเณรจันดีเดินลับหลังหายไปได้สักพักหนึ่ง โศกนาฎกรรมก็บังเกิดขึ้นทันที!
    เมื่อพระอาจารย์ท่านหนึ่งในกลุ่มนั้น ได้ทำการลงมีดอาคมเพื่อหวังตัดเอาเหล็กไหลที่ยืดย้อยตัวออกมาจนถึงที่สุดแล้ว…
    ทันที่ที่มีดอาคมถูกต้องสัมผัสเข้ากับเหล็กไหล ก็บังเกิดเสียงดังครืนๆๆๆ คล้ายกับถ้ำบนภูที่สถิตย์อยู่ของเหล็กไหลจะถล่มทลายลงมา
    พร้อมกับมีแสงประกายวาบดุจว่ามีการระเบิดเกิดขึ้น พระอาจารย์หลวงปู่จันดีเองในขณะนั้นกำลังเตรียมหุงหาอาหารหากจากตัวถ้ำ
    ลงไปด้านล่างเมื่อได้ยินเสียงดังคล้ายกับถ้ำระเบิดจึงรีบวิ่งกลับขึ้นไปดูทันที ปรากฎว่าภาพที่สามเณรจันดีเห็นในขณะนั้นเป็นศพพระอาจารย์
    ทั้ง ๕ นอนตายอยู่มีลักษณะแขนขาและหัวขาดกระจายไปคนละทิศละทางเป็นที่น่าสยดสยองสลดใจยิ่งนัก!ที่น่าแปลกประหลาดใจอีกอย่างก็คือ
    ไม่มีเลือดสักหยดไหลให้เห็นบนพื้นดินเลย!…และนี่คือประสบการณ์ในการล่าแสวงหาเหล็กไหลบนภูเขาควาย
    ที่มีทั้งพระและฆราวาสนับไม่ถ้วนต่างพากันไปสังเวยชีวิตมาแล้ว

    เรื่องการตัดเหล็กไหลบนภูเขาควายในสมัยนั้นเป็นที่โดงดังเอามากๆ มีคนตายไปหลายศพสังเวยต่อความโลภและความอาถรรพณ์ของเหล็กไหลบนภู
    จนข่าวเรื่องเหล็กไหลอาถรรพณ์ฆ่าคนมานักต่อนัก แพร่ไปถึงหูท่านพระอาจารย์มั่นและพระอาจารย์เสาร์ ในกาลนั้นเองเมื่อออกพรรษาแล้วพระอาจารย์ทั้งสอง
    ได้ออกเดินทางจาริกไปยังภูเขาควายเพื่อกำราบเหล็กไหล ในครั้งนั้นได้มีหลวงปู่ฝั้นศิษย์เอกท่านพระอาจารย์มั่นติดตามไปด้วย
    เมื่อพระอาจารย์มั่นและพระอาจารย์เสาร์ได้เดินทางไปถึงยังสถานที่ที่เล่าลือว่ามีเหล็กไหลสิงสถิตอยู่แล้ว ได้ทำการแสดงพระธรรมเทศนาสั่งสอนเหล็กไหล
    ดุจว่าเป็นญาติโยมสาธุชนคนหนึ่ง ท่านได้เทศน์อะไรมิทราบได้ แต่คงเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการละเว้นปาณาติบาตเป็นแน่แท้
    การที่ท่านพระอาจารย์มั่นและท่านพระอาจารย์เสาร์ขึ้นไปภูเขาควายนั้นเพื่อโปรดเหล็กไหล มิได้ไปตัดดังที่หลายคนเคยเข้าใจผิด ปรากฎอัศจรรย์เป็น
    “อนุสาสนีปาฎิหาริย์”คือการแสดงพระธรรมเทศนาเป็นอัศจรรย์ จนเหล็กไหลเข้าใจถึงข้ออรรถข้อธรรมที่ท่านแสดงนั้น เกิดสำนึกผิดเห็นบาปบุญคุณโทษ
    เหล็กไหลในถ้ำเดียวกันกับที่มีต้นตะเคียนยักษ์นั้นเอง ได้ทำการย้อยตัวลงมาจากผนังถ้ำแล้วตกลงในบาตรของท่านพระอาจารย์มั่นโดยดุสดี!

    เหล็กไหลของมีค่าสุดยอดความปรารถนาชิ้นนั้นที่หลายคนต่างพากันไปสังเวยชีวิต ท่านเชื่อหรือไม่ว่าพระอาจารย์มั่นท่านกลับไม่มีความต้องการ
    เมื่อท่านได้มาแล้วกลับนำไปโยนทิ้งลงแม่น้ำโขง ทั้งนี้เพื่อตัดปัญหาในอนาคตไม่ให้ผู้ใดขึ้นมาแก่งแย่งมาตัดเหล็กไหลในถ้ำนี้อีก เรียกว่าเป็นการตัดปัญหา
    ความโลภของมนุษย์นั่นเอง มนต์ขลังของเหล็กไหลบนภูเขาควายยังคงเป็นสิ่งที่ล่อใจใครต่อใครอีกเป็นจำนวนมากแม้ว่าต้องแลกด้วยชีวิตก็ยอม!

    หินกินเหล็กเป็นแร่ชนิดหนึ่งที่มีอยู่บนยอดภูเขาควาย ครั้งแรกของการพบเจอหินชนิดนี้ท่านว่าเกิดจากการที่ชาวบ้านไปขุดต้นไม้บนภูเขาควาย
    แล้วปรากฎเป็นเรื่องแปลกว่าจอบเสียมของชาวบ้านที่ขุดลงไปบนพื้นดิน เกิดการผุกร่อนแล้วหักลงอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ ทั้งที่ยังเป็นของใหม่!
    ใช้ไปได้ดีๆอยู่แท้ๆ จนกระทั้งชาวบ้านสืบค้นพบสาเหตุที่แท้จริงว่า ภายในแผ่นดินภูเขาควายนั้นมีแร่อัศจรรย์อยู่มันคือ “หินกินเหล็ก”นั่นเอง

    อำนาจจากหินกินเหล็กสามารถทำลายเนื้อเหล็กกล้าดีๆให้ผุกร่อนลงไปภายในระยะเวลาอันสั้น นอกจากนั้นยังเชื่อกันว่ามันมีอำนาจทางมหาอุดหยุดกระสุน
    เฉกเช่นเดียวกับเหล็กไหล ดังนั้นผู้รู้จึงสันนิฐานและเชื่อกันว่าน่าจะเป็นเผ่าพันธ์เดียวกันกับเหล็กไหลเหมือนกัน แต่เป็นอีกชนิดหนึ่ง อย่างเหล็กไหลแท้ๆนั้น
    เขาจะมีอำนาจด้านการกินและไฟและไฟฟ้าซึ่งของเหล่านี้นับว่าเป็นของแปลกอาถรรพณ์มีจิตวิญาญาณอยู่ในตัวแร่นั้น

    “หินกินเหล็ก”เคยเป็นเรื่องราวทางหน้าหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่มาแล้วหลายครั้ง เชื่อว่าหลายท่านคงเคยได้ยินชื่อแร่กายสิทธิ์ชนิดนี้ เพราะเท่าที่ผ่านมาในวงการ
    ก็ได้เอาชื่อแร่หินชนิดนี้มาหลอกขายตั้งเป็นแก๊งหินกินเหล็ก มีพฤติกรรมคล้ายแก๊งเหล็กไหลที่ชอบหลอกต้มตุ๋นเอาเงินชาวบ้าน ที่ไม่รู้เท่าทันมานักต่อนักแล้ว
    การโกงหินกินเหล็กชนิดนี้พวก ๑๘ มงกุฎที่รู้ๆเขาจะเอาน้ำยาชนิดหนึ่งที่มีอานุภาพทำลาย”รถถัง”ซึ่งถูกสั่งนำเข้ามาจากรัสเซีย น้ำยาชนิดนี้
    สามารถทำลายเหล็กได้โดยที่ไม่ต้องนำมาแช่ เพียงแค่อยู่ในระยะที่ตัวน้ำยาระเหยไปถึงเหล็กและวัตถุโลหะที่อยู่ในรัศมีใกล้ๆก็จะหมดสภาพผุกร่อนลงไป
    ภายในระยะเวลาอันสั้น น้ำยาชนิดนี้ทราบว่าเป็นเคมีจำพวกกรดกัดกร่อนที่ทำให้เกิดสนิมเหล็กอย่างรวดเร็ว ปกติของจำพวกนี้จะใช้ในสนามรบเพื่อให้รถถัง
    ของฝ่ายตรงข้ามหมดสภาพใช้งานไม่ได้ พวกหัวใสกลับหาวิธีนำเอาของพวกนี้มาบรรจุใส่ผสมลงในวัตถุเลียนแบบคล้ายเหล็กไหล หรือหินกินเหล็กเพื่อหวัง
    ต้มตุ๋นหลอกลวง หาเงินกับผู้รู้เท่าไม่ถึงการมานักต่อนักแล้ว

    ดั่งที่กล่าวมาในข้างต้นว่าชัยภูมิของภูเขาควายนั้นล้วนเต็มไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ แดดส่องไม่ค่อยถึง แม้บางช่วงจะมีแดดส่องลงมาบ้างก็ไม่ทำให้รู้สึกร้อน
    อากาศค่อนข้างเย็นและมีหมอกลงปกคลุมตลอดทั้งปี!สังเกตว่ามันจะมีหมอกหนักเรี่ยเท้าขึ้นอยู่เป็นระยะๆยิ่งเข้าใกล้แหล่งน้ำเท่าไหร่ยิ่งมีมาก
    ทางเจ้าหน้าที่ที่พาขึ้นไปกล่าวว่าแอ่งน้ำบนภูเขาควายแห่งนี้แปลกกว่าแหล่งน้ำธรรมดาที่พบเห็นโดยทั่วไป คือจะมีหมอกหนักขึ้นปกคลุมในแอ่งตลอดทั้งปี
    บางส่วนของแอ่งจะมีลักษณะเป็นดินเลนอันเกิดจากซากพืชซากสัตว์ทับถมกัน เมื่อให้ท่านผู้มีจิตสัมผัสตรวจสอบดูพบว่า เป็นสถานที่ที่มี”ปรอทกายสิทธิ์”
    ซ่อนตัวอยู่ ชัยภูมิที่มีหมอกหนักเรี่ยติดดิน!ยิ่งมีแหล่งน้ำที่มีดินเลนแบบนี้อยู่ด้วยแล้วยิ่งเป็นไปได้สูงมาก ปรอทที่กล่าวถึงนี้มิใช่ปรอทในเทอร์โมมิเตอร์แต่อย่างใด
    แต่หมายถึงปรอทธาตุกายสิทธิ์จัดว่าเป็นเหล็กไหลสายพันธุ์หนึ่ง ปรอทประเภทนี้มีความพิศดารมากเพราะมันสามารถซ่อนตัวอยู่ในหมอก
    โดยหมอกที่มันอาศัยซ่อนตัวอยู่นั้นเรียกว่าปรอทหนัก ที่เราสังเกตเห็นว่าหมอกมันลอยตัวต่ำเรี่ยติดพื้นดินเป็นเพราะว่าปรอทต้องการเสพของหมักเปื่อยเน่า
    อันมีเศษซากสัตว์และใบไม้หมักหมมทับทมกันนั้นเอง ยิ่งของสดของคาวก็ยิ่งชอบ!เพราะแร่ปรอทป่านั้นจัดว่าเป็นภูตชนิดหนึ่งที่มีฤทธิ์ในตัวอีกด้วย

    ผู้รู้ยังกล่าวอีกว่าในป่าเมืองไทยอย่างที่เขาใหญ่นั้นก็มีหมอกหนักเช่นนี้เหมือนกันมีอีกชื่อหนึ่งเรียกว่า “ปรอทหมอก”ผู้ใดเดินป่าต้องระวังให้มาก
    เพราะใครก็ตามที่ดวงอ่อนหรือมีเคราะห์ เมื่อหลับนอนในป่าโดยมิทันระวังเพราะขาดความรู้หรือรู้แล้วไม่เชื่อ อาจหมดสิทธิ์กลับบ้าน
    ต้องมาตายกลายเป็นผีเฝ้าป่าไป เพราะครั้งหนึ่งเคยมีผู้เดินป่าในเขาใหญ่เจอปรอทหมอกเช่นนี้แล้วไม่หาทางป้องกันตัว
    คือเวลานอนไม่ยอมล้างเท้าให้สะอาด และไม่สวมถุงเท้าก่อนเข้านอนในป่า เจ้าปรอทหมอกซึ่งถือว่าเป็นภูตอย่างหนึ่ง ได้กลิ่นของเน่าๆแล้วค่อยๆลอยเข้ามาใกล้
    “นิ้วหัวแม่โป้งเท้า”จากนั้นมันก็แทรกซึมเข้าสู่ร่างกายดูดเลือดผู้นั้นจนหมดตัว!แบบเดียวกันกับผีโป่งที่ชอบย่องมาดูดเลือดที่ปลายเท้าของนักเดิน
    ทางในยามหลับนอน จึงต้องระวังให้มากเพราะมิเช่นนั้นท่านอาจโดนผีปรอทและผีโป่ง สูบเลือดหมดตัวเอาได้ง่ายๆ

    จากการเดินทางจาริกไปของท่านพระอาจารย์มั่น ยิ่งเป็นที่รับรองว่า “ภูเขาควาย”เป็นสถานที่เหมาะสมในการบำเพ็ญเพียรอย่างที่สุด
    เพราะท่านจะให้ศิษย์ชั้นหัวกะทิไปลองปฎิบัติภาวนาในภูเขาควายแทบทุกรูป เรียกได้ว่าศิษย์คนไหนเคยได้ไปภาวนาผ่านด่านภูเขาควายมาแล้ว
    แสดงว่าต้องไม่ธรรมดา ทั้งนี้กล่าวขานกันว่ามีสิ่งแปลกๆที่เข้ามาทดสอบจิต เช่นเสือ หมีควาย งูจงอาง รวมไปถึงภูตผีปีศาจและเทวดา ท่านใดที่มีจิตเข้มแข็ง
    ฝึกมาดีแล้วจะถูกส่งขึ้นไปเพื่อทดสอบสภาวจิต และปรากฎพบว่าหลายท่านต่างก็ได้สภาวะธรรมกลับมาเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง
    ไม่เพียงภูเขาควายจะเป็นสถานที่วิเวกสงัดจากการรบกวนของมนุษย์แล้ว ยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์จากคำบอกเล่าของครูบาอาจารย์เล่าว่าเป็นที่อาศัยอยู่ของ
    พระอรหันต์ผู้ทรงอภิญญา พระฤาษี สิทธาดาบสจำนวนมาก เมื่อท่านเหล่านั้นได้มาบรรลุธรรม บารมีธรรมต่างๆจึงซึมซับลงในแผ่นดินหล่อเลี้ยงพลังอำนาจ
    คุณวิเศษอันศักดิ์สิทธิ์ เอื้ออำนวยต่อการบำเพ็ญภาวนาแก่ทุกดวงจิตที่เข้าไปสัมผัส หากผู้ใดปฎิบัติจนสามารถเข้าสมาธิได้ก็จักเป็นการต่อยอดให้เจริญก้าวหน้า
    ในการบำเพ็ญภาวนาในชั้นสูงยิ่งๆขึ้นไป บางท่านอาจเกิดหัวข้อธรรมได้พบเห็นสัจจธรรมความจริงตามที่วาสนาเคยสั่งสมอบรมณ์มา

    เนื่องจากภูเขาควายมีกระแสพลังงานทางจิตที่แรงมาก ไม่ว่าใครก็ตามที่ตั้งใจเข้าไปบำเพ็ญสมณธรรมก็จักสามารถสงบจิตรวมลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นผู้แสวงหา
    วิโมขธรรมในครั้งอดีตจึงนิยมเข้ามาพักภาวนากันมากกว่าสถานที่อื่นๆ ภูเขาควายยังคงเป็นดินแดนแห่งมนต์ขลังมาจนถึงทุกวันนี้ คงเชื่อกันอยู่ว่าภายในภูเขาควาย
    แห่งนี้ยังมีพระอริยเจ้าที่ซ่อนตัวบำเพ็ญโปรดสัตว์โลกบรรเทาภัยพิบัติต่างๆ รวมไปถึงมหาฤษีผู้ทรงฌานสมาบัติมีอายุนับพันๆปี
    แม้กระทั้งเรื่องราวของหลวงปู่เทพโลกอุดรก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของตำนานเล่าขานในภูเขาควาย!นอกจากนั้นภูเขาควาย
    ยังเป็นแหล่งที่รวมเอาทรัพยากรธรรมชาติต่างๆที่หาได้ยาก เช่นว่านยา เหล็กไหล ไพรดำ ปรอท ฯลฯ ครบหมดทุกอย่างยากจะหาสถานที่ใดมาเทียบได้
    เเละชาวบ้านทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาวยังเชื่อว่ามีพระบังบดที่บำเพ็ญภาวนาบนภูเขาควายแห่งนี้ด้วย

    .png
    1504875366_318_ภูเขาควายแดนดินถิ่นลี้.png

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  9. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “พระพุทธเจ้าว่า สกนธ์กายของเรานี้มันเป็นทุกข์ สกนธ์กายนี้ไม่เที่ยง ก้อนอันนี้ไม่ใช่คนไม่ใช่สัตว์ ธรรมทั้งหลายไม่ใช่คนไม่ใช่สัตว์ มันอยากจะเป็นไปอย่างใด ก็เป็นไปตามธรรมชาติของมัน กิริยาของมัน มันไม่ฟังคำเรา อยากแก่ มันก็แก่ไป อยากเจ็บ มันก็เจ็บไป อยากตาย มันก็ตายไป ธรรมเหล่านี้ไม่ใช่ของใคร ให้พิจารณาดูให้เห็นเป็นก้อนธรรม มันไม่อยู่ในบังคับบัญชาของใครทั้งนั้น มันเป็นทุกข์ มันเป็นอนิจจัง มันเป็นอนัตตา ตกอยู่ในไตรลักษณ์ เป็นผู้หญิง ผู้ชายก็สมมติทั้งนั้น”

    หลวงปู่ขาว อนาลาโย

    -สกนธ์กาย.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  10. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  11. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    คนโง่ชอบเงินมากกว่าคนดีและความดี ขอแต่ได้เงินตัวจะเป็นอย่างไรไม่สนใจคิดถึง จะชั่วช้าลามกแสนโสมเพียงไรก็ตาม ขนาดนายยมบาลเกลียดกลัวไม่อยากนับเข้าบัญชีผู้ต้องหา กลัวจะไปทำลายสัตว์นรกด้วยกันให้เดือดร้อนชิปหายก็ไม่ว่า ขอแต่ได้เงินก็เป็นที่พอใจ ส่วนจะผิดถูกประการใด ถ้าบาปมีค่อยคิดบัญชีกันเองโดยเขาไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนดีกับคนชั่วและสมบัติเงินทองกับธรรม คือคุณงามความดีผิดกันอย่างนี้แล ใครมีหูมีตาก็คิดแต่บัดนี้ อย่าทำให้สายเกินไป จะหมดทางเลือกเฟ้น การให้ผลก็ต่างกันสุดแต่กรรมจะอำนวย จะทักท้วงหรือคัดค้านไม่ได้ กรรมอำนวยให้อย่างใดต้องยอมรับเอาอย่างนั้น
    แต่คนดีมีคุณค่ามากกว่าเงินเป็นก่ายกองและเห็นคุณค่าแห่งความดีของตนที่จะกระทำต่อไปมากกว่าเงิน แม้จะจนก็ยอมจน ขอแค่ให้ตัวดีและโลกมีความสุข
    ฉะนั้นสัตว์โลกจึงต่างกัน ทั้งภพกำเนิด รูปร่าง ลักษณะ จริต นิสัย สุข ทุกข์ อันเป็นสมบัติประจำตัวของแต่ละราย แบ่งเบาแบ่งหนักกันไม่ได้ ใครมีอย่างไรก็หอบหิ้วกันไปเอง ดีชั่ว สุขทุกข์ก็ยอมรับ ไม่มีอำนาจปฏิเสธได้ เพราะไม่ใช่แง่กฎหมาย แต่เป็นกฎแห่งกรรม

    ตอบปัญหาชาวโคราช
    โดยหลวงปู่มั่น ภูริทัตตมหาเถระ

    .png

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  12. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ขอเชิญร่วมบุญบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ บนเศียรพระประธาน ณ วัดป่านาคำน้อย 22-23 มี.ค.2557

    วันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม 2557 นี้ หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก ท่านจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ บนเศียรพระประธานที่ศาลาใหม่ ใครมีเวลาหรือว่างช่วงนี้ ขอเชิญร่วมบุญที่วัดป่านาคำน้อยด้วยเทอญ

    กำหนดการงานบุญประจำปี 2557

    พิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระพุทธอุดมมงคล(2)พร้อมฉลองศาลาใหญ่แห่งใหม่ และบำเพ็ญกุศลอุทิศบุพการีชน ท่านผู้มีพระคุณ ตลอดจนญาติมิตรที่ล่วงลับ พร้อมทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่บรรดาท่านผู้มีพระคณ ที่ยังมีชีวิตอยู่

    วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม 2557

    เวลา 18.00 น. เจริญพระพุทธมนต์เย็น

    วันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม 2557

    เวลา 07.00 น. ร่วมตักบาตราและถวายจังหันเช้า
    เวลา 10.29 น. เริ่มพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระเกศมาลาพระพุทธอุดมมงคล(2)

    จึงเรียนมาเพื่อแจ้งกำหนดการให้เหล่าศิษย์และผู้สนใจ ได้ทราบและเข้าร่วมพิธีอันสำคัญนี้โดยทั่วกัน..สาธุๆๆ

    หากท่านไม่สามารถร่วมงานได้ แต่มีความประสงค์จะร่วมทำบุญบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ บนเศียรพระประธาน ณ วัดป่านาคำน้อย อุดรธานี ในคราวนี้ สามารถร่วมทำบุญ โดยวิธีดังนี้

    โอนปัจจัยเข้าบัญชีธนาคาร ดังนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาบ้านผือ เลขที่บัญชี 403-340-664-3 ชื่อบัญชี “วัดนาคำน้อย ”

    หรือติดต่อ 081-829-5213

    การติดต่อกับวัด

    วัดป่านาคำน้อย หมู่ 7 บ้านนาคำน้อย ตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี 41380

    แหล่งอ้างอิงภาพและข้อมูลที่ได้นำมาเผยแพร่นี้ ได้นำมาจาก

    https://www.facebook.com/Watpanakhamnoi?fref=ts

    https://www.facebook.com/ataesuwan?fref=ts

    watpanakamnoi.com

    .jpg
    1504602219_717_ขอเชิญร่วมบุญบรรจุพระบ.jpg
    1504602220_951_ขอเชิญร่วมบุญบรรจุพระบ.jpg
    1504602220_33_ขอเชิญร่วมบุญบรรจุพระบ.jpg
    1504602220_952_ขอเชิญร่วมบุญบรรจุพระบ.jpg
    1504602221_883_ขอเชิญร่วมบุญบรรจุพระบ.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  13. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ขอเชิญร่วมสมทบทุนกองทุนอภิบาลสงฆ์อาพาธ พระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก กองทุนอภิบาลสงฆ์อาพาธของโรงพยาบาลอุดรธานี

    โดยท่านสามารถบริจาคโดยตรงได้ที่โรงพยาบาลอุดรธานี หรือสามารถโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ดังนี้

    ธนาคารกรุงไทย สาขาอุดรธานี
    ชื่อบัญชี กองทุนอภิบาลสงฆ์อาพาธ พระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก
    บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 401-3-36091-8

    เมื่อโอนเงินแล้วหากต้องการการใบอนุโมทนาบัตรเพื่อใช้ในการลดหย่อนภาษี.กรุณาแจ้งโรงพยาบาลอุดรธานี หรือแฟ๊กซ์หลักฐานการโอนเงินมาที่
    โรงพยาบาลอุดรธานี

    โรงพยาบาลอุดรธานี
    33 ถ.เพาะนิยม ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000
    โทร. 0 4224 5555
    โทรสาร 0 4224 7711
    โทรสาร 0 4224 8260

    E-mail Address โรงพยาบาลอุดรธานี
    : phh4101@health2.moph.go.th

    แหล่งอ้างอิง โรงพยาบาลอุดรธานี

    1504602197_643_ขอเชิญร่วมสมทบทุนกองทุ.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  14. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ขอเชิญร่วมสร้างกุฏิสงฆ์ถวายพระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก ณ วัดป่ารวมธรรม อุดรธานี

    สามารถร่วมสร้างกุฏิสงฆ์ ถวายพระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก ณ วัดป่ารวมธรรม อุดรธานี ได้ที่:

    ธ.กสิกรไทย สาขาสยามสแควร์ บัญชีออมทรัพย์ ชื่อ “มูลนิธิธรรมดีเพื่อร่วมบุญสาธารณประโยชน์” เลขที่ 026-2-38513-4

    สอบถามรายละเอียดได้ที่ 02-6852255

    ต้องการใบอนุโมทนาบัตร กรุณา เขียนชื่อ/ที่อยู่ ให้ชัดเจน แล้วส่งมาได้ที่ โทรสาร 02 610 2378 หรือdhamdeeonline@gmail.com หมายเหตุ ใบอนุโมทนาบัตรของมูลนิธิธรรมดี ไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้

    หมายเหตุ สามารถร่วมบุญสร้างกุฏิสงฆ์ ถวายพระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก ณ วัดป่ารวมธรรม อุดรธานี ได้ จนกว่าจะสร้างกุฏิสำเร็จ

    แหล่งอ้างอิง

    https://www.facebook.com/DoDFoundation

    .jpg
    1504602178_985_ขอเชิญร่วมสร้างกุฏิสงฆ.jpg
    1504602178_387_ขอเชิญร่วมสร้างกุฏิสงฆ.jpg
    1504602179_716_ขอเชิญร่วมสร้างกุฏิสงฆ.jpg
    1504602179_433_ขอเชิญร่วมสร้างกุฏิสงฆ.jpg
    1504602179_251_ขอเชิญร่วมสร้างกุฏิสงฆ.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  15. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างเจดีย์ถวายหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด

    โดยท่านสามารถบริจาคโดยตรงที่วัดป่าบ้านตาด หรือสามารถโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ดังนี้

    ชื่อบัญชี “ร่วมสร้างเจดีย์ถวายหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    โดยพระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน”
    เป็นบัญชีออมทรัพย์ทั้งหมด

    1. ธนาคาร กสิกรไทย สำนักงานสาขาอุดรธานี
    เลขที่บัญชี 110-2-33344-4
    2. ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขาเซ็นทรัลพลาซ่า (อุดรธานี ไม่เสียค่าโอน)
    เลขที่บัญชี 859-223576-1
    3. ธนาคาร กรุงเทพ สาขาอุดรธานี
    เลขที่บัญชี 284-7-38388-8
    4. ธนาคาร กรุงไทย สาขาอุดรธานี
    เลขที่บัญชี 401-3-13864-6
    5. ธนาคาร กรุงไทย สาขาตลาดหนองบัว
    เลขที่บัญชี 426-0-35998-3

    ชื่อบัญชี “กองทุนสร้างเจดีย์พระอาจารย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน โดยพระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน”
    เป็นบัญชีออมทรัพย์ทุกบัญชี

    6. ธนาคาร กรุงเทพ สาขาเอกมัย
    เลขที่บัญชี 063-0-30191-9
    7. ธนาคาร กสิกรไทย สาขาเอกมัย
    เลขที่บัญชี 059-2-63333-9
    8. ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขาเอกมัย (ไม่เสียค่าโอน)
    เลขที่บัญชี 078-233067-4

    หมายเหตุ :
    ท่านผู้ใดต้องการให้ออกใบอนุโมทนาบัตรของวัดป่าบ้านตาด
    ให้ส่งรายละเอียดการโอนพร้อมที่อยู่ติดต่อได้ มาที่
    สถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน
    309/1 ม.1 ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000
    โทร. 042-214114 (แฟกซ์) 042-214115

    Email: sbttvfm@hotmail.com
    sbt_radio@hotmail.com

    บัญชีร่วมสร้างเจดีย์พิพิธภัณฑ์ถวายองค์หลวงตา
    ชื่อบัญชี “มูลนิธิจุฬาภรณ์ เพื่อสร้างพิพิธภัณฑ์ฯ หลวงตามหาบัว
    ณ วัดป่าบ้านตาด”
    เป็นบัญชีสะสมทรัพย์ ธนาคารกรุงเทพ สาขาหลักสี่พลาซ่า
    เลขที่บัญชี 229-0-98333-3

    ส่งแบบฟอร์มพร้อมสำเนาการโอนเงินมาที่ สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์
    54 ถนนกำแพงเพชร 6 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่
    กรุงเทพฯ 10210
    (เพื่อดำเนินการจัดส่งใบเสร็จรับเงิน นำไปลดหย่อนภาษีได้)

    แหล่งอ้างอิง Luangta.Com –

    ==================================

    1504602157_420_ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างเจ.jpg
    1504602157_955_ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างเจ.jpg
    1504602158_678_ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างเจ.jpg
    1504602158_659_ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างเจ.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  16. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ขอเชิญร่วมทำบุญมหากุศลที่ยิ่งใหญ่กับองค์หลวงปู่ลี กุสลธโร พระมหาเถระผู้ทรงคุณธรรมและเปี่ยมด้วยความเมตตาอันหาประมาณมิได้ โดยร่วมสร้างพุทธมหาเจดีย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าภูผาแดง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี

    โดยท่านสามารถบริจาคโดยตรงที่วัดป่าภูผาแดง หรือโอนปัจจัยเข้าบัญชีธนาคาร ดังนี้

    1. ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอุดรธานี บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 510-426899-0 ชื่อบัญชี ร่วมสร้างเจดีย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าภูผาแดง โดยหลวงปู่ลี กุสลธโร
    2. ธนาคารกสิกรไทย สาขาอุดรธานี บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 110-236788-8 ชื่อบัญชี ร่วมสร้างเจดีย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าภูผาแดง โดยหลวงปู่ลี กุสลธโร

    แหล่งอ้างอิง facebook.com/พุทธมหาเจดีย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

    ========================================

    แหล่งอ้างอิง facebook.com/พุทธมหาเจดีย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

    1504602139_249_ขอเชิญร่วมทำบุญมหากุศล.jpg
    1504602140_826_ขอเชิญร่วมทำบุญมหากุศล.jpg
    1504602140_75_ขอเชิญร่วมทำบุญมหากุศล.jpg
    1504602140_425_ขอเชิญร่วมทำบุญมหากุศล.jpg
    1504602142_706_ขอเชิญร่วมทำบุญมหากุศล.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  17. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ขอเชิญร่วมทำบุญหนังสือธรรมะองค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ของวัดป่าบ้านตาดโดยตรง

    โดยท่านสามารถบริจาคโดยตรงที่วัดป่าบ้านตาด หรือสามารถโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ดังนี้

    1. ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเซ็นทรัล อุดรธานี
    ชื่อบัญชี “กองทุนเพื่อจัดพิมพ์หนังสือธรรมะหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน โดยพระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน
    บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 859-225999-3

    2. ธนาคารกสิกรไทย สาขาอุดรธานี
    ชื่อบัญชี “กองทุนเพื่อจัดพิมพ์หนังสือธรรมะหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน โดยพระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน
    บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 110-2-35570-7

    แหล่งอ้างอิง http://www.facebook.com/watpabaantaad.luangta?fref=ts

    ==================================

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  18. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ขอเชิญร่วมทำบุญ บริจาคเข้ามูลนิธิเสียงธรรมเพื่่อประชาชน เพื่่อร่วมกันเผยแผ่ธรรมมะขององค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

    โดยท่านสามารถบริจาคโดยตรงที่วัดป่าบ้านตาด หรือสามารถโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ดังนี้

    ชื่อบัญชี “มูลนิธิเสียงธรรมเพื่อประชาชน”
    – ธนาคารกรุงไทย สาขาอุดรธานี
    เลขที่บัญชี 401-0-77610-2

    – ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอุดรธานี (ไม่เสียค่าโอน)
    เลขที่บัญชี 510-4-25579-3

    ชื่อบัญชี “กองทุนสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน”
    – ธนาคารกรุงไทย สาขาอุดรธานี
    เลขที่บัญชี 401-0-66484-3

    – ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอุดรธานี (ไม่เสียค่าโอน)
    เลขที่บัญชี 510-4-25577-7

    *** ท่านผู้ใดมีความประสงค์ ต้องการให้ออกใบอนุโมทนาบัตร ให้ส่งรายละเอียดการโอนพร้อมที่อยู่ติดต่อได้ ***

    ส่งมาที่
    สถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน
    309/1 ม.1 บ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000

    โทร. 042-214114 , (แฟกซ์) 042-214115
    Email: sbttvfm@hotmail.com
    sbt_radio@hotmail.com

    แหล่งอ้างอิง Luangta.Com –

    ==================================

    -บริจาคเ.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  19. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ขอเชิญร่วมทำบุญกองบุญแจก “วิทยุเสียงธรรมระบบดิจิตอล” เป็นธรรมทาน ในการศึกษาทดลองออกอากาศ ของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

    ด้วยมูลนิธิเสียงธรรมเพื่อประชาชนในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ได้เผยแผ่ธรรมะสายกรรมฐานพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต โดยมุ่งหวังในการยกระดับจิตใจทรัพยากรบุคคลในชาติให้สูงขึ้นเจริญด้วยคุณธรรมจริยธรรมยิ่งๆ ขึ้นไป และมุ่งมั่นกระจายเสียงธรรมะเป็นธรรมทานเพื่อประโยชน์สาธารณะโดยไม่แสวงหากำไร ผ่านเครือข่ายสถานีวิทยุภาคประชาชนในระดับชาติจำนวนมากถึง 129 สถานี ซึ่งเป็นการกระจายเสียงในระบบอนาล็อกมาเป็นเวลากว่าสิบปี อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังมิได้รับประโยชน์จากการรับฟังอย่างเต็มที่โดยมีสาเหตุสำคัญมาจาก กสทช. ที่ไม่กล้าปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ส่งผลให้การใช้คลื่นความถี่ซึ่งเป็นทรัพยากรของชาติถูกนำไปใช้สอยอย่างฟุ่มเฟือยไร้ประสิทธิภาพ กว่า 90 % เป็นไปเพื่อตอบสนองทุนธุรกิจการบันเทิงเท่านั้น การที่ กสทช. ไม่ควบคุมสัดส่วนให้เป็นไปตามกฎหมายและกีดกันความรู้การบริการตรวจสภาพระบบเครื่องส่งแก่สถานีวิทยุต่างๆ เหล่านี้ย่อมเป็นเหตุให้เกิดปัญหาการรบกวนระหว่างกันอย่างรุนแรง ไม่เว้นแม้ในกิจการวิทยุการบิน

    ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาโดยรวมของชาติได้อย่างเด็ดขาด ส่งผลพลอยได้ช่วยให้ประชาชนผู้ฟังเครือข่ายวิทยุเสียงธรรมสามารถรับฟังธรรมะได้อย่างชัดเจน มูลนิธิฯ จึงร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในโครงการศึกษาวิจัยวิทยุระบบดิจิตอลในประเทศไทย มีวัตถุประสงค์ตรงกันที่จะทำการศึกษาและวิจัยเพื่อผลิตทรัพยากรมนุษย์ที่มีความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในระบบดิจิตอล ควบคู่ไปกับการส่งเสริมจริยธรรม และรักษาไว้ซึ่งศิลปวัฒนธรรมอันดีของประเทศ นับเป็นการก้าวนำทางเทคโนโลยีไปพร้อมๆ กับการสร้างภูมิคุ้มกันในทุกมิติของชาติ เพื่อรองรับการแข่งขันในระดับชาติ และระดับนานาชาติ ที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา

    วัตถุประสงค์
    1. สร้างและพัฒนา “วิทยุระบบดิจิตอลต้นแบบ” ทั้งระบบ ในลักษณะการพัฒนาเทคโนโลยีของชาติควบคู่กับการส่งเสริมจริยธรรม
    2. ให้ช่องรายการวิทยุเสียงธรรมกระจายเสียงก้าวหน้าไปในเทคโนโลยีระบบต่างๆ
    3. แจกจ่ายเครื่องรับวิทยุระบบดิจิตอลเป็นธรรมทาน
    4. ศึกษาผลการรับฟังเครื่องรับวิทยุระบบดิจิตอล
    5. เปรียบเทียบผลการรับฟังเครื่องรับวิทยุ “ระบบดิจิตอล” กับ “ระบบอนาล็อก”

    กรอบการดำเนินโครงการ

    ผู้ฟังสถานีวิทยุเสียงธรรมฯ อย่างน้อยจำนวน 1,000 ครัวเรือน ครอบคลุมการกระจายเสียงเบื้องต้นในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล อาจขยายการทดลองต่อไปยังภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ

    วิธีการดำเนินการโครงการ สถานที่ทำการทดลอง และหรือเก็บข้อมูล

    ผู้ฟังวิทยุเสียงธรรมที่อาสาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ จะได้รับมอบเครื่องรับวิทยุระบบดิจิตอลเป็นธรรมทาน พร้อมได้รับแบบสอบถามผลการรับฟัง และรายงานผลต่อมูลนิธิฯ

    งบประมาณในการดำเนินโครงการเบื้องต้น

    มูลนิธิฯ ดำเนินการจัดซื้อเครื่องรับวิทยุดิจิตอล อย่างน้อยจำนวน 1,000 เครื่อง ๆ ละ 850 บาท รวม 850,000 บาท

    เนื่องจากโครงการนี้เป็นความร่วมมือกันหวังให้เกิดประโยชน์อย่างใหญ่หลวงต่อประเทศชาติและประชาชน จึงไม่รบกวนงบประมาณจากทางมหาวิทยาลัยแต่เพียงฝ่ายเดียว มูลนิธิฯ ตระหนักถึงความสำคัญของโครงการจะเป็นประโยชน์ทั้งทางโลกทางธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อการเผยแผ่พระธรรมคำสอนของพ่อแม่ครูอาจารย์สายกรรมฐาน จึงนำมาประชาสัมพันธ์ให้ทุกท่านทราบ เพื่อมีส่วนร่วมในกองบุญแจกจ่าย “เครื่องรับวิทยุเสียงธรรมระบบดิจิตอล” เป็นธรรมทานในครั้งนี้

    โดยท่านผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบุญได้โดยการโอนปัจจัยสมทบโครงการผ่านบัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี “กองบุญแจกวิทยุเสียงธรรมดิจิตอลเป็นธรรมทาน” โดย “พระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน พระอาจารย์บำรุง นวพโล และพระอาจารย์รัฐวีร์ ฐิตวีโร” เลขที่บัญชี 510-431666-2 ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอุดรธานี

    ขออนุโมทนาในจิตอันเป็นกุศลของทุกท่านเป็นอย่างยิ่ง

    ==================================

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  20. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างอาคารวิริยะชัยวัดธรรมมงคล

    เพื่อเป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรม สถานที่สำหรับการสอนความรู้ทางพุทธศาสนา
    สถานที่ก่อสร้างอาคาร วัดธรรมมงคล สุขุมวิท101 กรุงเทพมหานครฯ

    สามารถทำบุญได้ที่ ธ.กรุงไทย สาขา สุขุมวิท64 ชื่อบัญชี วัดธรรมมงคล เลขที่บัญชี 017-1-349008 ทำบุญครบหนึ่งพันบาทสามารถขอรับล็อคเกตรูปหลวงพ่อได้ไว้เป็นบูชา ติดต่อ 02 311 1387

    แหล่งที่อ้างอิง http://www.samathi.com/

    .jpg
    1504602039_752_ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างอา.jpg
    1504602039_598_ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างอา.jpg
    1504602040_204_ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างอา.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...