ธรรมะจากเพจต่างๆ พระสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย ธรรมะสายหลวงปู่มั่น, 6 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    มหาปุญฺโญวาท : หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ

    ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๐

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมคำสอนนี้ ทุกๆ ท่าน

    -หลวงปู่จา.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  2. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ” ธรรมเป็นตัว ตัวเป็นธรรม ธรรมเป็นตา ตาเป็นธรรม
    ธรรมเป็นหู หูเป็นธรรม
    ธรรมเป็นขา จมูก แขน
    ขา จมูก แขน เป็นธรรม นี่แหละของจริง
    ให้รู้ไว้ อย่าไปหลง อย่าเมา ให้รู้ธรรม รู้สมมุติ.”

    หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
    เทิดไว้เหนือเศียรเกล้า ด้วยเกล้า สาธุ.

    -ตัวเป็นธรร.jpg
    ” ธรรมเป็นตัว ตัวเป็นธรรม ธรรมเป็นตา ตาเป็นธรรม
    ธรรมเป็นหู หูเป็นธรรม
    ธรรมเป็นขา จมูก แขน ขา จมูก แขน เป็นธรรม นี่แหละของจริง
    ให้รู้ไว้ อย่าไปหลง อย่าเมา ให้รู้ธรรม รู้สมมุติ.”

    หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
    เทิดไว้เหนือเศียรเกล้า ด้วยเกล้า สาธุ.

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  3. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  4. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    พระเจ้าแผ่นดินเสด็จสนทนาธรรมเป็นการส่วนพระองค์

    เมื่อ ๓๘ ปีที่แล้ว ในตอนเช้าของวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๒๒ หลวงตามหาบัวได้สั่งกำชับพระเณรในวัดว่า “วันนี้ จะมีบุคคลสำคัญเข้ามา พวกท่านทั้งหลายจงพากันทำความสะอาดวัดวาอาวาสให้เรียบร้อย อย่าให้บกพร่อง” พระทั้งหลายเมื่อได้ฟังดังนั้น ก็ไม่ได้เอะใจอะไร ต่างก็ทำข้อวัตรปฏิบัติไปตามปกติ”

    …ในบ่ายวันนั้นเอง ชาวนาคนหนึ่งเดินสะพายแห เพื่อออกไปหาปลาเป็นอาหาร มีรถยนต์คันงามวิ่งมาจอดเทียบแล้วเรียกถามด้วยเสียงอันนุ่มนวลว่า “ลุงๆ ทางที่จะไปวัดหลวงตาบัวไปทางไหน”
    “ไปทางนี้…เด้อ…” เขากล่าวห้วนๆ แบบภาษาชาวบ้านพร้อมทั้งชี้มือและแหงนหน้าดูคนที่ถามไถ่
    เมื่อเขามองดูใบหน้าบุคคลที่ถามทางอย่างเพ่งพินิจพิจารณา ภาพแห่งบุคคลผู้ยิ่งใหญ่เทียมฟ้าในสมองเริ่มปรากฏห้วงนึก เข่าเริ่มอ่อนและนั่งลงกับพื้น พร้อมกับพนมมือขึ้นเหนือเศียรเกล้า กล่าวข้อความปลาบปลื้มใจเป็นล้นพ้น ล้นเกล้าล้นกระหม่อม ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้สัมผัสสมมุติเทพด้วยตาเนื้อใกล้ๆแค่เอื้อมถึง

    “โอ! ในหลวง…สาธุเด้อในหลวง…สาธุ…สาธุ” เขาอุทานเสียงดัง น้ำตาคลอเบ้าด้วยความตื้นตันใจ

    หลังจากนั้นพระองค์ท่าน จึงเสด็จไปที่วัดป่าบ้านตาดเพื่อกราบนมัสการองค์หลวงตามหาบัว เมื่อถามไถ่สนทนากันจึงทราบว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จมากับพระบรมศานุวงศ์ จากตำหนักภูพานราชนิเวศน์ ไม่ได้บอกแม้กระทั้งทหารใกล้ชิด ทหารทั้งหลายต่างสืบข่าวเป้นการโกลาหลว่า เมื่อเวลาบ่ายโมงพระองค์ท่านทรงขับรถออกจากพระตำหนัก ไม่รู้ว่าเสด็จไป ณ ที่ใด ถ้าบอกข่าวการเสด็จมาล่วงหน้า กลัวเป็นการเอิกเกริกรบกวน ต้องการเสด็จมาเป็นการส่วนพระองค์

    หลวงตามหาบัว จึงให้โอวาทว่า “มหาบพิตร! พระองค์เป็นถึงพระเจ้าอยู่หัว เป็นเจ้าชีวิตของชนทั้งชาติ หากพระองค์เสด็จมาโดยลำพัง มีอันตรายอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น จะเป็นความเสียหายแก่ชาติบ้านเมืองอย่างใหญ่หลวง ถ้าพระองค์เป็นอะไรขึ้นมา คนทั้งชาติจะไม่เหยียบหลวงตาบัวมิดแผ่นดินหรือ?”

    “กลัวจะเป็นการรบกวนองค์หลวงตา”
    พระองค์กล่าวพร้อมพนมพระหัตถ์
    ด้วยความศรัทธาเลื่อมใส
    “รบกวน ไม่รบกวนจะเป็นอะไร
    แผ่นดินนี้เป็นของพระองค์ พระองค์พึงมาได้ทุกเมื่อ”

    บันทึกของหลวงตามหาบัว เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จไปกราบหลวงตามหาบัว เป็นการส่วนพระองค์พร้อมพระบรมสานุวงศ์ที่วัดป่าบ้านตาด มีใจความดังนี้

    “ วันที่ ๑๐ พ.ย.๒๒ เวลา ๑๖.๒๐ น.
    พระเจ้าอยู่หัว-พระราชินี พร้อมกับเจ้าฟ้าหญิงทั้งสองพระองค์
    เสด็จมาเยี่ยม ประทับอยู่ ๒ ชม.กับ ๒๐ นาที จึงเสด็จกลับสกลนคร
    คือ เสด็จมา ๑๖.๒๐ น. เสด็จกลับ ๑๙.๑๐ น.
    ทรงถวายผ้าห่มและไทยทานอื่นๆมากมาย
    พร้อมกับปัจจัย ๓ หมื่นบาท (ใบละ ๑ ร้อยล้วนๆ ๓๐๐ ใบ)
    เราได้ถวายธรรมะพอประมาณ เป็นธรรมะสำคัญหลายประโยค หลายข้อ”

    ที่องค์พระหลวงตามหาบัวเป็นห่วงเช่นนั้น เพราะสมัยนั้นคอมมิวนิสต์มีอยู่ทั่วไป หลังจากนั้นอีกไม่นาน เสียงรถทหารตำรวจที่สืบทราบว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จมาวัดป่าบ้านตาด จึงติดตามมาอารักขาเป็นทิวแถว ชาวบ้านบางคนไม่รู้เรื่อง เห็นรถทหารตำรวจบึ่งมาเป็นทางยาว บางคนวิ่งหนีเข้าบ้านนึกว่าเกิดศึกสงคราม

    คัดลอกจากหนังสือ “หลวงตามหาบัว มหัศจรรย์มหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่”
    เรียบเรียง เรียงร้อยถ้อยคำโดย พระมหาธีรนาถ อคฺคธีโร

    ลูกกราบนอบน้อมบูชาคุณ องค์พระหลวงตา พระอริยเจ้าผู้กู้ชาติกู้แผ่นดิน

    ลูกขอเทิดพระเกียรติสดุดี องค์พระมหาราชันย์ พระผู้เป็นดวงใจไทยทั้งชาติ

    (เครดิตข้อมูลธรรมะจาก “ท่องถิ่นธรรม พระกัมมัฏฐาน”)

    1510384651_271_พระเจ้าแผ่นดินเสด็จสนท.jpg

    ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น
     
  5. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ๑๑ พฤศจิกายน รำลึก ๖๘ ปี อาจาริยบูชาคุณ องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระบูรพาจารย์ใหญ่ฝ่ายพระกัมมัฏฐาน
    ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตมหาเถระ เป็นพระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐานแห่งอิสาน ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะอย่างสูง ของประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ ท่านได้มรณภาพไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ๒๔๙๒ แต่หลังจากการถวายเพลิงศพ ซึ่งมีขึ้นในปลายเดือนมกราคม ๒๔๙๓ ไม่นานนักก็ปรากฏว่า อัฐิของท่านได้กลายเป็นพระธาตุ มีลักษณะดังที่ผู้รู้บรรยายไว้ว่า เป็นลักษณะพระธาตุของพระอรหันตสาวก ทำให้พุทธศาสนิกชนในไทยเรามีความปีติชื่นชมโสมนัส ที่ได้ชื่อได้ว่า พระอรหันต์นั้นมิได้ว่างเว้นจากแผ่นดินไทย ความที่คิดกันว่าพระอรหันต์ยุคนี้สมัยนี้ไม่มีอีกแล้วนั้น ไม่เป็นความจริง จริงแท้ดังที่สมเด็จพระบรมศาสดาเคยมีพุทธดำรัสไว้ว่า หากปฏิบัติจริง ทำจริง การสำเร็จอรหันตผล ย่อมเป็นไปได้ ศิษย์ของท่าน หลายต่อหลายท่านที่บำเพ็ญเพียรภาวนา รับการอบรมจากท่าน มีความเคารพ รัก เลื่อมใส สืบต่อระเบียบปฏิบัติ และปฏิปทาของท่านอย่างเคร่งครัด เมื่อมีชีวิตอยู่ก็เป็นที่เคารพสักการะ เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของประชาชนชาวไทยโดยทั่วไป และเมื่อมรณภาพแล้ว อัฐิของท่านเหล่านั้นก็ได้แปรสภาพไปเป็นพระธาตุ เฉกเช่นอัฐิธาตุขององค์บูรพาจารย์ของท่าน เช่นเดียวกัน

    สำหรับเรื่องอัฐิของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต กลายเป็นพระธาตุ ปรากฏเป็นที่ทราบแพร่หลายครั้งแรกนั้น ข้าพเจ้าใคร่ขออัญเชิญข้อความจากหนังสือ “ ประวัติท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ ” ซึ่งท่านพระอาจารย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ท่านได้เขียนไว้ จะนำมาเฉพาะตอนที่เกี่ยวกับพระธาตุ มาลงไว้ให้อ่าน ด้วยความเคารพอย่างสูงสุด ดังนี้

    … จนกาลล่วงไปแล้ว ๔ ปี คุณวัน คมนามูล เจ้าของร้านศิริผลพานิชและโรงแรมสุทธิผล จังหวัดนครราชศรีมา ไปถวายผ้าป่าที่จังหวัดสกลนคร ได้รับแจกอัฐิส่วนบนของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ชิ้นหนึ่ง จากเจ้าอาวาสวัดสุทธาวาส ซึ่งเป็นวัดที่ท่านพระอาจารย์มั่นมรณภาพ กลับมาถึงบ้าน ได้อัญเชิญอัฐิชิ้นนั้น รวมลงอยู่ในผอบอันเดียวกันกับที่บรรจุอัฐิท่านพระอาจารย์อยู่แล้ว ตั้งแต่สมัยได้รับแจกมาจากงานศพของท่าน พอเปิดผอบออกมาเท่านั้น สิ่งที่ไม่เคยคาดฝันก็ปรากฏขึ้นในผอบนั้น คืออัฐิชุดแรกที่ได้รับแจกไปจากงานศพของท่านนั้น ได้กลายเป็นพระธาตุเสียหมด เจ้าของเกิดความอัศจรรย์จนตัวแทบลอย เมื่อเห็นเหตุการณ์เข่นนั้น จึงให้คนไปดูอัฐิส่วนที่เก็บไว้ที่โรงแรมสุทธิผลอีก ที่นั้นก็กลายเป็นพระธาตุเช่นกันอีก รวมทั้งสองแห่ง จึงเป็นพระธาตุ ๓๔๔ องค์ ยังเหลือติดผอบอยู่บ้างเป็นผงๆ เล็กน้อย ต่อมาไม่นานนักจำนวนผงเหล่านั้น ก็ได้กลายเป็นพระธาตุเสียจนหมดอีก และนี้จึงเป็นรายแรกที่ปรากฏความอัศจรรย์ จากอัฐิกลายเป็นพระธาตุ

    … จากนั้นเรื่องก็เล่าลือไปทุกหนทุกแห่ง ผู้คนทราบถึงไหน ก็มาขอพระธาตุกับคุณวัน คมนามูล ไปสักการะบูชากันถึงนั่น คุณวันเองก็มีนิสัยใจบุญอยู่แล้ว จึงเห็นใจท่านที่มาขอ และแจกไปคนละเล็กละน้อย คือ คนละ ๑ องค์บ้าง และ ๒ – ๓ องค์บ้าง

    … พระธาตุท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ยังเป็นที่น่าแปลกและอัศจรรย์อยู่หลายอย่างคือ พระธาตุ ๒ องค์ เจ้าของอธิฐานขอให้เป็น ๓ องค์ เพื่อให้ครบรัตนะ คือ พุทธ ธรรม สงฆ์ ก็กลายเป็น ๓ องค์ได้จริงๆ ผู้มีอยู่ ๒ องค์ อธิฐานขอให้กลายเป็น ๓ องค์ เช่นที่คนอื่นเขาเป็น แต่กลับรวมเป็นองค์เดียวก็มี เจ้าของเสียใจมาก มาเล่าให้ผู้เขียนฟังและขอคำชี้แจง ผู้เขียนได้อธิบายให้ทราบบ้างว่า พระธาตุท่านพระอาจารย์มั่น กลายเป็น ๓ องค์ก็ดี กลายเป็นองค์เดียวก็ดี หรือยังมิได้กลายเป็นพระธาตุเลยก็ดี ทั้งนี้ก็คืออัฐิธาตุที่ออกจากองค์ท่านอันเดียวกัน จึงไม่ควรเสียใจ การที่พระธาตุ ๒ องค์กลับกลายเป็นองค์เดียว ก็เป็นอภินิหารของท่านอยู่แล้ว เราจะหาความอัศจรรย์จากอะไรอีก แม้ผมที่ท่านปลงออก มีผู้เก็บไว้บูชาในที่ต่างๆ ก็กลายเป็นพระธาตุได้เช่นเดียวกับอัฐิซึ่งมีอยู่หลายแห่ง ที่เป็นดังที่เข้าใจว่า อัฐิ หรือ ผม ท่านที่เก็บไว้นานไป อาจจะกลายเป็นพระธาตุไปตามๆกัน ดังอัฐิท่านที่ค่อยๆกลายเป็นพระธาตุมาเป็นลำดับนี้แล …

    นอกจากท่านพระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน จะได้กรุณาเล่าเรื่องอัฐิของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต กลายเป็นพระธาตุดังกล่าวข้างต้นแล้ว ท่านยังได้อธิบายเหตุผลด้วย ถึงข้อที่มีคนสงสัยกันมากว่า “ อัฐิของพระอรหันต์ก็ดี ของสามัญชนก็ดี ต่างก็เป็นธาตุดินชนิดเดียวกัน ส่วนอัฐิของสามัญชน ทำไมจึงกลายเป็นพระธาตุไม่ได้ เฉพาะอัฐิของพระอรหันต์ ทำไมจึงกลายเป็นพระธาตุได้ ทั้งสองนี้ มีความแปลกแตกต่างกัน … อย่างไรบ้าง ”

    ในประเด็นนี้ ท่านพระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน ได้เขียนไว้ในหนังสือเล่มเดียวกัน … นั้นว่า

    “ ก็ได้อธิบายให้ฟัง เท่าที่สามารถแต่เพียงโดยย่อว่า เรื่องอัฐินั้นปัญหาส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับใจเป็นสำคัญ คำว่าจิต แม้เป็นจิตเช่นเดียวกัน แต่มีอำนาจและคุณสมบัติต่างกันอยู่มาก คือ จิตของพระอรหันต์ท่านเป็น “ อริยจิต ” เป็นจิตที่บริสุทธิ์ ส่วนจิตของสามัญชนเป็นเพียง “ สามัญจิต” เป็นจิตที่มีกิเลสโสมมต่างๆ เมื่อจิตผู้เป็นเจ้าของเข้าครองอยู่ในร่างใด และจิตเป็นจิตประเภทใด ร่างนั้นอาจกลายไปตามสภาพของจิตผู้เป็นใหญ่พาให้เป็นไป เช่น จิตพระอรหันต์เป็นจิตที่บริสุทธิ์ อาจมีอำนาจซักฟอกธาตุขันธ์ให้เป็นธาตุที่บริสุทธิ์ไปตามส่วนของตน อัฐิท่านจึงกลายเป็นพระธาตุได้ แต่อัฐิของสามัญชนทั่วๆไป แม้จะเป็นธาตุดินเช่นเดียวกัน แต่จิตผู้เป็นเจ้าของเต็มไปด้วยกิเลส และไม่มีอำนาจซักฟอกธาตุขันธ์ ให้เป็นธาตุขันธ์ที่บริสุทธิ์ได้ อัฐิจึงกลายเป็นธาตุขันธ์ที่บริสุทธิ์ไม่ได้ จำต้องเป็นสามัญธาตุไปตามจิตของคนที่มีกิเลสอยู่โดยดี หรือจะเรียกไปตามภูมิของจิต ภูมิของธาตุว่า อริยจิตหรืออริยธาตุ และสามัญจิตหรือสามัญธาตุ ก็คงจะไม่ผิด เพราะคุณสมบัติของจิตของธาตุ ระหว่างพระอรหันต์กับสามัญชนนั้นต่างกัน อัฐิก็จำต้องต่างกันโดยดี ”

    “ ผู้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ขึ้นมานั้น ทุกท่านเวลานิพพาน และอัฐิต้องกลายเป็นพระธาตุด้วยกันทั้งสิ้น … ดังนี้ ? ข้อนี้ผู้เขียนยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นไปได้อย่างนั้นทุกๆองค์ เฉพาะจิตท่านที่สำเร็จอรหันตตภูมิ เป็นจิตที่บริสุทธิ์เต็มภูมินับแต่ขณะที่สำเร็จ ส่วนร่างกายที่เกี่ยวโยงไปถึงอัฐิเวลาถูกเผา แล้วจะกลายเป็นพระธาตุได้เช่นเดียวกันทุกองค์หรือไม่ ยังเป็นปัญหาอยู่บ้างระหว่างกาลเวลาที่บรรลุจนถึงวันที่ท่านนิพพานนั้น มีเวลาสั้นยาวต่างกัน องค์ที่บรรลุแล้วมีเวลาทรงขันธ์อยู่นาน เวลานิพพานแล้ว อัฐิย่อมมีทางกลายเป็นพระธาตุได้โดยไม่มีปัญหา เพราะเวลาที่ทรงขันธ์อยู่ จิตที่บริสุทธิ์ก็ย่อมทรงขันธ์เช่นเดียวกับความสืบต่อแห่งชีวิต ด้วยการทำงานของระบบต่างๆภายในร่างกาย มีลมหายใจเป็นต้น และมีการเข้าสมาบัติประจำอริยบถ ซึ่งเป็นการซักฟอกธาตุขันธ์ให้บริสุทธิ์ไปตามส่วนของตนโดยลำดับด้วย ในขณะเดียวกันเวลานิพพานแล้วอัฐิจึงกลายเป็นพระธาตุดังที่เห็นๆกันอยู่

    ส่วนองค์ที่บรรลุแล้วมิได้ทรงขันธ์อยู่นานเท่าที่ควร แล้วนิพพานไปเสียก่อนนั้น อัฐิธาตุของท่านจะกลายเป็นพระธาตุได้เหมือนพระอรหันต์ทั้งหลายที่มีโอกาสอยู่นานหรือไม่ เป็นความไม่สนิทใจ เพราะจิตไม่มีเวลาอยู่กับธาตุขันธ์นาน และมิได้ซักฟอกด้วยสมาธิสมาบัติดังกล่าวมา ท่านที่เป็นทันทาภิญญา คือรู้ได้ช้า ค่อยเป็นค่อยไป เช่น บำเพ็ญไปถึงขั้นอนาคามีผล แล้วติดอยู่นานจนกว่าจะก้าวขึ้นสู่ขั้นอรหันตตภูมิได้ คือต้องพิจารณาท่องเที่ยวไปมาอยู่ในระหว่างอรหันตตมรรคกับอรหันตตผล จนกว่าจิตจะชำนิชำนาญและมีกำลังเต็มที่จึงจะผ่านไปได้ ในขณะที่กำลังพิจารณาอยู่ในขั้นอรหันตตมรรคเพื่ออรหันตตผล ก็เป็นอุบายวิธีซักฟอกธาตุขันธ์ไปในตัวด้วย เวลานิพพานแล้วอัฐิอาจจะกลายเป็นพระธาตุได้ ส่วนท่านที่เป็น ขิปปาภิญญา คือรู้ได้เร็ว และนิพพานไปเร็วหลังจากบรรลุแล้ว ท่านเหล่านี้ไม่แน่ใจว่า อัฐิจะกลายเป็นพระธาตุได้หรือไม่ประการใด เพราะจิตที่บริสุทธิ์ไม่มีเวลาทรงและซักฟอกธาตุขันธ์อยู่นานเท่าที่ควร ส่วนสามัญจิตของสามัญชนทั่วๆไปนั้น ไม่อยู่ในข่ายที่อัฐิจะควรแปรเป็นพระธาตุได้ด้วยกรณีใดๆ ”

    สำหรับความอัศจรรย์ที่พระธาตุท่านพระอาจารย์มั่น แสดงให้ปรากฏแก่ศิษยานุศิษย์ผู้เคารพรัก เลื่อมใส บูชา ในคุณธรรมของท่านนั้น ท่านพระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน ได้ยกมากล่าวเป็นตัวอย่างในหนังสือประวัติของท่านแต่เพียงบางราย ซึ่งจะขออัญเชิญมาในที่นี่ ดังนี้

    “ … เฉพาะองค์ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต นอกจากอัฐิกลายเป็นพระธาตุให้เห็นอย่างประจักษ์แล้ว พระธาตุยังแสดงความอัศจรรย์ให้เห็นหลายอย่าง ดังที่เขียนผ่านมาแล้วว่า ผู้มีพระธาตุ ๒ องค์ อธิฐานขอให้เป็น ๓ องค์ ก็เป็น ๓ องค์มาแล้วได้ ผู้มี ๒ องค์ อธิฐานขอให้เป็น ๓ องค์ แต่กลับกลายเป็น ๑ องค์ก็ได้นั้น ซึ่งไม่น่าที่จะเป็นไปได้เลย แต่ก็ได้เป็นไปเสียแล้ว ผู้ที่ได้มา ๒ องค์ จากผู้ที่มีจิตเมตตามอบให้ พอตกเย็นมาเปิดดูกลับเป็น ๓ องค์ก็ได้ รายนี้เป็นความแปลก เพราะชั่วระยะเวลาเช้าไปถึงเย็นเท่านั้นก็มาเพิ่มได้ ท่านผู้นี้เป็นข้าราชการผู้ใหญ่ มีความศรัทธาในองค์ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต อย่างมาก และเป็นผู้ให้ความสะดวก ตลอดการช่วยเหลือเรื่องต่างๆ แทบทุกกรณีที่เกี่ยวกับงานท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต นับแต่วันแรกที่ท่านไปถึงวัดสุทธาวาส จนตลอดงาน พระผู้ใหญ่เห็นใจและสงสารมาก เมื่อคุณวัน คมนามูล ถวายพระธาตุท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต มาให้ พระผู้ใหญ่ท่านจึงมอบให้ข้าราชการผู้นี้ ตอนเช้าพอได้รับพระธาตุจากท่านแล้ว ขณะนั้นไม่มีกล่องหรือผอบที่จะใส่ มีแต่ขวดยานัตถุ์เปล่าๆติดกระเป่าเสื้ออยู่ จึงได้เอามาใส่พระธาตุไปพลาง ขณะเชิญพระธาตุเข้ากระเป่าเสื้อ ก็ปิดกระดุมเสื้อด้วยดี ขวดก็ปิดฝาดีด้วย เพราะกลัวว่าพระธาตุจะสูญหายไป

    นับแต่ขณะที่ได้รับพระธาตุจากมือพระผู้ใหญ่มาแล้ว ปรากฏว่า ใจมีความปีติยินดีล้นพ้น หลังจากลุกออกจากที่นั้นก็ไม่ทำงานเลยทีเดียว และเกิดความอิ่มเอิบตื้นตันใจตลอดทั้งวัน ประหนึ่งจิตมิได้คิดเหินห่างจากพระธาตุที่ได้รับมานั้นทั้งวันเลย พอเลิกจากงานไปถึงบ้าน ก็โฆษณาใหญ่ว่า ตนได้ของประเสริฐมา ในชีวิตไม่เคยมี คนในบ้านต่างก็รุมมาดู จากนั้นก็เอาผอบมาใส่พระธาตุทันที พอเปิดฝาขวดออก อันเชิญพระธาตุท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ออกมา โดยไม่คาดฝันว่าจะพบความอัศจรรย์ที่แสดงออกมาจากพระธาตุท่าน คือว่า พออัญเชิญพระธาตุท่านออกมาจากขวด ก็ได้เห็นกลายเป็น ๓ องค์ในขณะนั้น ยิ่งเพิ่มความอัศจรรย์ในองค์ท่าน และเกิดความปีติในพระธาตุยิ่งขึ้น แทบจะเหาะลอยไปทั้งตัว พร้อมกับประกาศความอัศจรรย์ของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ว่าเป็นองค์พระอรหันต์ ให้ภรรยาและลูกๆฟังในขณะนั้น อย่างไม่คิดว่าใครจะหาว่าเป็นบ้าเป็นบออะไรเลย ภรรยาและลูกๆยังไม่แน่ใจ เกรงว่าที่ได้รับพระธาตุมา จะจำจำนวนผิดไป ฝ่ายสามีก็เถียงใหญ่ แบบไม่ยอมฟังเสียงใครเลย ว่าพระธาตุ ๒ องค์ ที่เจ้าคุณท่านให้มาเมื่อเช้านี้จำไม่ผิดแน่ เพราะขณะรับจากท่านก็รับด้วยความสนใจ และเลื่อมใสอย่างบอกไม่ถูก แม้อยู่ที่ทำงานก็มิได้ลืมพระธาตุตลอดทั้งวัน ว่าได้พระธาตุมา ๒ องค์ จนกลายเป็นคำเหมือนคนภาวนา แล้วจะให้หลงลืมได้อย่างไร ถ้าใครๆยังไม่ลงใจว่าเป็นความจริง พรุ่งนี้เช้าเราจะไปกราบเรียนถามท่านเจ้าคุณ ท่านใหม่ เห็นจริงกันพรุ่งนี้เอง ฝ่ายคนในบ้านไม่ยอม อยากรู้วันนี้ เดี๋ยวนี้ ขอให้ไปกราบเรียนถามท่านเดี๋ยวนี้

    ตกลงต้องไปเดี๋ยวนั้น และเรียนถามท่านว่า ที่ท่านเมตตาให้พระธาตุกระผมเมื่อเช้านี้กี่องค์ ท่านตอบว่า ให้ ๒ องค์ ทำไมถามอย่างนั้น…พระธาตุหายหรือ ข้าราชการผู้นั้นตอบด้วยความตื้นตันใจว่า พระธาตุมิได้หายแต่กลับเพิ่มขึ้นได้อีก ๑ องค์ รวมเป็น ๓ องค์ ด้วยกัน ที่กระผมกราบเรียนถามก็เพราะ ไปถึงบ้านแล้วเปิดฝาขวดออกดู เพื่อที่จะอัญเชิญพระธาตุเข้าในผอบ แทนที่จะมี ๒ องค์ ตามที่เข้าใจ แต่กลับมี ๓ องค์ เลยทำให้กระผมเกิดความดีใจจนตัวสั่น รีบบอกกับลูกและเมีย แต่กลับไม่มีใครเชื่อว่าเป็นความจริงเลย เกรงว่าผมอาจจะจำผิดก็ได้ เลยเคี่ยวเข็ญให้กระผมมาถามท่านอีกครั้งหนึ่ง ผมจึงได้มาตามคำเขา แล้วก็เป็นความจริง ยิ่งทำให้กระผมดีใจเสียใหญ่ ว่าอย่างไร…เชื่อหรือยังทีนี้ นี่เป็นคำพูดกับภรรยาที่มาด้วย ส่วนภรรยายิ้ม…แล้วพูดว่า ก็เกรงจะจำผิดและหาเรื่องไปโกหกกันเล่น ก็ต้องพูดอย่างนั้น เป็นความจริงดังที่ว่าก็ต้องเชื่อ ใครจะฝืนความจริงเพื่อประโยชน์อะไร

    ท่านเจ้าคุณก็ยิ้ม และเล่าความจริงให้ภรรยาของข้าราชการผู้นั้นฟังว่า “ อาตมาได้ให้คุณ ๒ องค์จริงเมื่อเช้านี้ เพราะเห็นว่าเป็นผู้มีคุณต่อท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต มาก ตลอดพระสงฆ์เรื่อยมา จนถึงวันที่ท่านมรณภาพและเสร็จงานไป อาตมายังไม่ลืม และเมื่อได้พระธาตุมาจากคุณวัน คมนามูล ก็เลยสงวนไว้ เพื่อที่จะมอบให้เป็นที่ระลึก ซึ่งเป็นของหายากในปัจจุบัน เพิ่งจะพบอัฐิกลายเป็นพระธาตุเฉพาะของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เพียงท่านเดียว ส่วนนอกนั้นก็ได้ยินแต่ตามตำราที่บอกไว้ ยังไม่เห็นตัวจริงประจักษ์ตา บัดนี้ได้เห็นเป็นพยานหลักฐานอย่างแท้จริงเสียแล้ว กรุณารักษาไว้ในที่อันสมควร เดี๋ยวท่านไปก็จะยิ่งลำบากมากกว่าเป็นสุขใจในเวลาที่ท่านมาเพิ่มให้เป็นไหนๆ แล้วจะว่าอาตมาไม่บอก เพราะพระธาตุท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เป็นของอัศจรรย์มาก ยิ่งท่านมาได้ง่ายๆอย่างนี้ บทเวลาท่านไปเพราะความเคารพของเราไม่พอ…ยิ่งไปง่ายกว่า กรุณาอัญเชิญท่านไว้ในที่สูง เคารพบูชาท่านทุกเช้าทุกเย็น ท่านอาจจะบันดาลความเป็นศิริมงคลเกินคาด ให้เวลาใดก็ได้ อาตมาเชื่อท่าน ๑๐๐ เปอร์เซ็นว่า ท่านเป็นพระผู้บริสุทธิ์มานานแล้ว แต่ไม่กล้าบอกใครได้ง่ายๆ กลัวเขาจะหาว่าเป็นบ้า เพราะคนเรามีนิสัยที่จะเชื่อในสิ่งดีได้ยาก…หาคนชั่วได้ง่าย แม้นในตัวเราเองถ้าสังเกตดูก็พอทราบได้ว่า ใจชอบคิดในทางชั่วมากกว่าทางดีเป็นประจำนิสัย พอท่านแนะจบลง ท่านข้าราชการกับภรรยาก็กราบนมัสการลาท่านกลับ ด้วยความชื่นบานหรรษาอย่างบอกไม่ถูกทั้ง ๒ คน … ”

    ในเรื่องมูลเหตุแห่งความแปลก และอัศจรรย์ของพระธาตุ ที่จะทำให้เกิดปาฏิหาริย์เพิ่มขึ้น หรือเปลี่ยนแปลงจำนวนนั้น ท่านพระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน ได้เขียนเอาไว้ว่า

    “ …นี่แลพระธาตุท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เป็นความแปลกและความอัศจรรย์ดังที่นำมาลง เพื่อท่านผู้อ่านจะได้พิจารณา หามูลเหตุแห่งความอัศจรรย์ของพระธาตุดังกล่าวนี้ต่อไป ส่วนการค้นหาหลักฐาน และเหตุผลมาพิสูจน์ดังที่โลกใช้กันนั้น รู้สึกจะพิสูจน์ได้ยาก อาจมองไม่เห็นร่องรอยเลยก็ได้ สำหรับเรื่องทำนองนี้ เพราะสุดวิสัยสำหรับพวกเรา ที่มีกิเลสจะตามรู้ได้ เพียงแต่ธาตุดินที่อยู่ในส่วนร่างกายของท่านผู้บริสุทธิ์กับอยู่ในตัวพวกเรา ก็แสดงให้เห็นเป็นของแปลกแตกต่างกัน อย่างชัดเจนอยู่แล้ว ว่าอัฐิธาตุท่านกลายเป็นพระธาตุได้อย่างประจักษ์ตา ส่วนร่างกายพวกเราที่มีกิเลส แม้จะมีจำนวนเป็นล้านๆคน ก็ไม่มีรายใดเลย ที่สามารถจะเป็นไปได้อย่างท่าน จึงควรเรียกได้ว่า ท่านเป็นบุคคลที่แปลกแตกต่างจากมนุษย์ทั้งหลายอยู่มาก จนเทียบกันไม่ได้ ยิ่งใจที่บริสุทธิ์ด้วยแล้ว ก็ยิ่งเพิ่มความประเสริฐและความอัศจรรย์ จนไม่มีนิมิตเครื่องหมายใดๆมาเทียบได้เลย เป็นจิตที่โลกทั้งหลายควรเคารพบูชาจริงๆ จึงต้องยอมบูชากัน … ”

    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จากหนังสือ ” ท่านพระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล พระปรมาจารย์ใหญ่ฝ่ายพระกัมมัฏฐาน ”

    ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๐

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของภาพถ่ายนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    -พฤศจิกายน-รำลึก-๖๘-ปี-อ.jpg

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  6. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “…องค์หลวงตา ท่านบอกว่า อย่านั่งภาวนาด้วยการนั่งหลับ…

    ….การนั่งก็ให้สังเกต ถ้าจะมีอาการโงกง่วง ให้รีบเปลียนทันที ลงไปเดินเสียบ้าง เปลี่ยนสถานที่บ่อยๆ เปลี่ยนอาการของตน คือ อิริยาบถของตนเสมอ อย่าปล่อยให้ง่วงอยู่เฉยๆ ถ้าปล่อยให้ง่วงเฉยๆ ง่วงแล้วก็หลับเท่านั้นเองไม่ไปอื่น

    จากง่วงก็หลับ ถ้าตั้งใจจะหลับ ก็ให้หลับเสียด้วยการตั้งใจนอน อย่านั่งภาวนาด้วยความหลับ แล้วตื่นขึ้นมาว่าเรานั่งภาวนา
    นั่งภาวนาอะไร นั่งหลับ นี่อันหนึ่ง ก็ไม่เกิดประโยชน์เหมือนกัน…

    โอวาทธรรมองค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน

    ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๐

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมคำสอนนี้ ทุกๆ ท่าน

    -ท่านบอกว่า-อ.jpg

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  7. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ปัจฉิมโอวาทของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ในวาระสุดท้ายของชีวิต

    ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ
    ตอนสุดท้ายแห่งธรรมที่พอยึดได้ว่าเป็นปัจฉิมโอวาท เพราะท่านมาลงเอยในสังขารธรรมเช่นเดียวกับพระปัจฉิมโอวาทที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่สงฆ์เวลาจะเสด็จปรินิพพาน โดยท่านยกเอาพระธรรมบทนั้นขึ้นมาว่า

    “…ดูก่อนพระภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราเตือนท่านทั้งหลาย สังขารธรรมทั้งหลายไม่เที่ยง มีความเกิดหรือเจริญขึ้นแล้ว เสื่อมไปดับไป จงอยู่ด้วยความไม่ประมาทเถิด…”

    จากนั้นท่านก็อธิบายต่อใจความว่า คำว่าสังขารในพระปัจฉิมโอวาทนั้นเป็นยอดธรรม พระองค์ทรงประมวลมาในคำว่าสังขารทั้งสิ้น แต่พระประสงค์ทรงมุ่งสังขารภายในมากกว่าสังขารอื่นใดในขณะนั้น เพื่อเห็นความสำคัญของสังขารอันเป็นตัวสมุทัย เครื่องก่อกวนจิตให้หลงตาม ไม่สงบลงเป็นตัวของตัวได้ เมื่อพิจารณาสังขารคือ ความคิดปรุงของใจทั้งหลายละเอียด รู้ตลอดทั่วถึงแล้วสังขารเหล่านั้นก็ดับ เมื่อสังขารดับ ใจก็หมดการก่อกวน แม้มีการคิดปรุงอยู่บ้างก็เป็นไปตามปกติขันธ์ ที่เรียกว่าขันธ์ล้วนๆ ไม่แฝงขึ้นมาด้วยกิเลสตัณหาอวิชชา ถ้าเทียบกับการนอนก็เป็นการนอนหลับอย่างสนิทไม่มีการละเมอเพ้อฝันมาก่อกวนในเวลาหลับ

    ถ้าหมายถึงจิตก็คือ “วูปสมจิต” เป็นจิตสงบที่ไม่มีกิเลสนอนเนื่องอยู่ภายใน จิตของพระพุทธเจ้าและสาวกทั้งปวงเป็นจิตประเภทนี้ทั้งนั้น ท่านจึงไม่หลงใหลใฝ่ฝันหาอะไรกันอีก นับแต่ขณะที่จิตประเภทนี้ปรากฏขึ้น คำว่า สอุปาทิเลสนิพพาน ก็มีมาพร้อมกันความสิ้นกิเลสก็สิ้นไปในขณะเดียวกัน ความเป็นพระอรหันต์ก็เป็นขึ้นพร้อมในขณะเดียวกัน จึงเป็นธรรมอัศจรรย์ก็ไม่มีอะไรเทียบได้ในโลกทั้งสาม พอแสดงธรรมถึงที่นี้แล้วท่านก็หยุด นับแต่วันนั้นมาไม่ปรากฏว่าได้แสดงที่ไหนในเวลาใดอีกเลย จึงได้ยึดเอาว่าเป็นปัจฉิมโอวาท และได้นำลงในประวัติท่านเป็นวาระสุดท้าย สมนามว่าเป็นปัจฉิมโอวาท

    ปัจฉิมโอวาทธรรมพ่อแม่บูรพาจารย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    ประวัติพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ, ๒๕๓๘. หน้า ๓๓๓-๓๓๔ เขียนและเรียบเรียงโดยพระธรรมวิสุทธิมงคล หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี

    ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๐

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมคำสอนนี้ ทุกๆ ท่าน

    .jpg

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  8. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “…เรียนสรีระศาสตร์นี้ เพื่อแก้โรคแก้ภัย เรียนสรีระศาสตร์ทางพุทธศาสนานี้ เพื่อแก้กิเลส เข้าใจไหม? มันต่างกัน พระพุทธเจ้าพระสาวกอรหันต์นี้แก้กิเลสทั้งนั้น เรียนสรีระศาสตร์จบ อัฐิกลายเป็นพระธาตุ ใจบริสุทธิ์ นั่น ส่วนเรียนทางแพทย์ทางหมอนี้ เรียนเพื่อแก้โรคแก้ภัย เรียนสรีระศาสตร์ทางพุทธศาสนาเพื่อแก้กิเลสๆ ต่างกันอย่างนี้ละ…”

    หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน

    ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๐

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมคำสอนนี้ ทุกๆ ท่าน

    -เพ.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  9. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “…ท่านทั้งหลายจงอย่าทำตัวเป็นตัวบุ้งตัวหนอนคอยกัดแทะกระดาษแห่งคัมภีร์ใบลานเปล่าๆ โดยไม่สนใจพิจารณาสัจธรรมอันประเสริฐที่มีอยู่กับตัว แต่มัวไปยึดธรรมที่ศึกษามาถ่ายเดียว ซึ่งเป็นสมบัติของพระะพุทธเจ้า มาเป็นสมบัติของตน ด้วยความเข้าใจผิด ว่าตนเรียนรู้และฉลาดพอตัวแล้ว ทั้งที่กิเลสยังกองเต็มหัวใจยิ่งกว่าภูเขาไฟ มิได้ลดน้อยลงบ้างเลย จงพากันมีสติคอยระวังตัว อย่าให้เป็นคนประเภทใบลานเปล่าๆ เรียนเปล่าและตายทิ้งเปล่า ไม่มีธรรมอันเป็นสมบัติของตัวอย่างแท้จริงติดตัวบ้างเลย…”

    ภูริทัตตะธัมโมวาท หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ๑๑ พ.ย.๒๕๖๐ ครบรอบวันมรณภาพปีที่ ๖๘ ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๐

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมคำสอนนี้ ทุกๆ ท่าน

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  10. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ๏ พระสยามเทวาธิราช มานมัสการหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ๏

    คราวหนึ่งหลวงปู่มั้น ภูริทัตโต พักอยู่บนดอยมูเซอ วันหนึ่ง พระสยามเทวาธิราช พร้อมคณะเทพบริวาร ไปกราบนมัสการหลวงปู่มั่น ซึ่งกำลังเดินจงกรมอยู่ พอรายงานตัวเสร็จ หลวงปู่มั่นถามวัตถุประสงค์ที่มาพบ พระสยามเทวาธิราชกราบเรียนท่านว่า

    ” เวลานี้ฝ่ายสัมพันธมิตรได้มาทิ้งระเบิดที่กรุงเทพอย่างหนักหน่วง พวกข้าพเจ้าได้ป้องกันเต็มที่ ”

    ท่านถามว่า “มีคนบาดเจ็บล้มตายไหม ”

    พระสยามเทวาธิราช เรียนตอบว่า ” มี ”

    หลวงปู่มั่น ถาม ” ทำไมไม่ช่วย ”

    พระสยามเทวาธิราช ตอบว่า ” ช่วยไม่ได้ เพราะเขามีเวรกรรมกับฝ่ายข้าศึก จะช่วยได้แต่ผู้ไม่มีกรรม สถานที่สำคัญ และพระพุทธศาสนาเท่านั้น ”

    หลวงปู่มั่น ถามต่อไปว่า ” พวกท่านมานี่ ประสงค์อะไร ”

    เขาได้กราบเรียนว่า ” ขอให้ท่านบอกคาถาปัดเป่าลูกระเบิดไม่ตกถูกในที่สำคัญ ”

    หลวงปู่มั่น กำหนดจิตพิจารณาหน่อยหนึ่ง ได้ความว่า ” นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา ”

    เท่านั้น เทพพวกนั้นที่สาธุการแล้วก็ลากลับไป ไม่เห็นกลับมาอีกเลย

    ที่มา : หนังสือ “รำลึกวันวาน” บันทึกโดย หลวงตาทองคำ จารุวัณโณ

    -พระสยามเทวาธิราช-มานมั.jpg

    ที่มา พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  11. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    เรื่อง “หลวงพ่อพุธ แก้วิปลาสด้วยตาทิพย์”

    (วิสัชนาธรรมโดย หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)

    อาการ “วิปลาส” เป็นอาการทางจิตที่เกิดขึ้นกับพระนักปฏิบัติ อาการนี้พระที่เป็นจะมีความคิดผิดๆ หลงอยู่ในโลกแห่งนิมิต หรือมีมิจฉาทิฐิ มีทัศนคติที่ผิดๆ หรือ หลงเข้าใจว่าตนเองสำเร็จธรรมขั้นสูงแล้ว อาการเหล่านี้เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เช่น มาจากการหลงติดอยู่ในนิมิตที่ตนเองเห็น แล้วหลงในนิมิตนั้นว่าเป็นจริงเป็นจัง จนแยกความจริงกับนิมิตไม่ออกจากกัน อีกสาเหตุหนึ่งคือ วิปัสสนูปกิเลส หรือ กิเลสอย่างละเอียดมากอันเกิดขึ้นกับอารมณ์วิปัสสนา เช่น ความอิ่มใจ ความหยั่งรู้ เป็นต้น กิเลสอย่างละเอียดนี้ผู้ปฏิบัติที่ละ “การพิจารณาลงสู่ไตรลักษณ์” มักจะติดกับกิเลสอย่างละเอียดนี้ จนหลงผิดเข้าใจว่า ตนเองสำเร็จมรรคผลแล้ว

    ครั้งหนึ่งหลวงพ่อพุธได้รับการไหว้วานให้ช่วยแก้วิปลาสให้กับหลวงปู่บุญ ชินวังโส ซึ่งท่านเป็นพระผู้ใหญ่มากในหมู่คณะพระป่ากรรมฐาน อาการวิปลาสของหลวงปู่บุญคือ ท่านเพ่งกสิณแล้วเห็นโลกแตกทั้งยังหลงในนิมิตว่ามีผู้หญิงคนรักรอท่านอยู่ หลวงพ่อพุธก็ค่อยๆ แก้ไปทีละอย่าง หลวงปู่บุญก็อาการดีขึ้นมาก แต่ยังติดหลงอยู่ในเรื่องที่ว่า ผู้หญิงคนรักนั้นยังรอท่านอยู่จนถึงทุกวันนี้ที่บ้านเกิดของท่าน ท่านจะสึกเพื่อไปแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ให้ได้

    หลวงพ่อพุธจึงบอกว่า จะพาไปที่บ้านเกิดของท่านเพื่อกลับไปหาผู้หญิงคนนี้ก็ได้ แต่มีข้อแม้อย่างหนึ่งคือ ถ้าหากว่าผู้หญิงคนนี้แต่งงานไปแล้ว หลวงปู่จะต้องไม่สึก แต่ถ้าผู้หญิงคนนี้ยังไม่แต่งงาน หลวงพ่อพุธจะเป็นเถ้าแก่งานแต่งให้เอง พอหลวงปู่บุญรับปาก หลวงพ่อพุธก็บอก (ราวกับมีตาทิพย์) ว่าไม่มีทางเป็นไปได้หรอก เพราะผู้หญิงคนนี้แต่งงานแล้ว!

    เมื่อเดินทางไปถึงที่บ้านเกิดของท่านแล้ว หลวงปู่บุญไม่รอช้าเดินดุ่มๆ เข้าหมู่บ้านทันที ด้วยความรักเพรียกหา หลวงพ่อพุธและหลวงตาพี่ชายหลวงปู่บุญและพระองค์อื่นๆ ก็มานั่งใจจดใจจ่อรออยู่ที่วัดในหมู่บ้าน

    พอหลวงปู่บุญโผล่ออกมาแต่ไกลเท่านั้น (โดยไม่มีผู้หญิงออกมาด้วย) หลวงพ่อพุธและพระทั้งหลายที่รออยู่ก็รู้แล้ว พากันหัวเราะขำกันยกใหญ่

    “เป็นไง?” หลวงพ่อพุธแกล้งถาม
    “โอ๊ย…! เขาเอาไปกินจ้อย!” หลวงปู่บุญตอบอายๆ
    “สัญญาต้องเป็นสัญญานะ”
    หลวงปู่บุญก็ตอบรับ “เออ!” แล้วจึงถามต่อ “รู้ได้ยังไงว่าเขาแต่งงานไปแล้ว?” หลวงพ่อพุธจึงเฉลยอิทธิฤทธิ์ตาทิพย์ของท่าน ให้ได้ฮาอีกครั้ง “ไม่รู้หรอก พูดเอาชนะคนเฉยๆ นี่แหล่ะ! ก็เขาเด็กรุ่นเหลนเรานี่ เขาจะมาแต่งงานกับ “ไอ้แก่ๆ รุ่นราวคราวปู่” อย่างงี้ได้ยังไง ฮึ ?!?!”

    -หลวงพ่อพุธ-แก้วิ.jpg

    ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น
     
  12. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “ สิ่งที่ล่วงไปแล้ว
    ไม่ควรทำความผูกพัน
    เพราะเป็นสิ่งที่ล่วงไปแล้วอย่างแท้จริง
    กลับมาเป็นปัจจุบันไม่ได้
    ผู้ทำความสำคัญมั่นหมายนั้น
    เป็นทุกข์แต่ผู้เดียว ”

    โอวาทธรรม
    ( หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต )

    ….สาธุธรรมอันประเสริฐ…..

    .jpg

    ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น
     
  13. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ขอเชิญร่วมนมัสการ และรับฟังพระธรรมเทศนา พระอาจารย์เชาวรัตน์ กัมมสุทโธ (ศิษย์ของหลวงปู่สิม พุทธาจาโร) วัดท่าวังหิน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ในวันพุธ ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2560 เวลา 17.00-19.00 น. ณ ศาลาธรรม (ศาลา 6 เหลี่ยม) บริเวณสนามหญ้าด้านข้างคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

    จัดโดย : ชุมนุมพุทธธรรมกรรมฐาน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

    ๏ กำหนดการ ๏

    -:- วันพุธ ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2560 -:-

    เวลา 17.00 น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น ณ ศาลาธรรม (ศาลา 6 เหลี่ยม) บริเวณสนามหญ้าด้านข้างคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี
    เวลา 17.30 น. ประธานฝ่ายฆราวาส จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ,ไหว้พระ , รับศีล , แสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ โดย พระอาจารย์เชาวรัตน์ กัมมสุทโธ วัดท่าวังหิน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
    เวลา 18.30 น. พิธีทำวัตรขอขมา , ถวายจตุปัจจัยไทยทาน , รับพร/รับของที่ระลึก
    เวลา 19.00 น. เสร็จพิธี.

    **************************

    สอบถามรายละเอียด โทร. 086-4017809 , 063-5082286

    -และรั.jpg

    ที่มา พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  14. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  15. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ” ที่ให้บริกรรมพุทโธ
    ก็เพื่อไม่ให้จิตวิ่งไปตามอารมณ์ต่างๆ
    ถึงให้บริกรรมพุทโธไว้

    ถ้ามีพุทโธแล้ว เสือก็ไม่กลัว ผีก็ไม่กลัว ไม่มีสิ่งที่กลัวเลย
    เพราะจิตไม่ได้ส่งออกไปภายนอกเลย
    ให้อยู่แต่ภายใน ให้อยู่กับพุทโธ

    แต่ที่ทำให้เรากลัว ก็เพราะจิตเราคิดไปหาผี
    หาสิ่งที่เรากลัว ที่นั่นที่นี่ก็เลยกลัว
    บางครั้งตุ๊กแกตีฝาก็ว่าเป็นผีแล้ว หลอกตัวเองไปเลย
    คิดอะไรเห็นอะไรเป็นผีไปหมดเลย

    เพราะใจไม่มีพุทโธนะ ถ้าใจมีพุทโธแล้ว ไม่กลัวอะไรนะ
    ทั้งความแก่ ความเจ็บ ความตาย ถ้ามีพุทโธแล้วหายหมด.”

    หลวงปู่ลี กุสลธโร
    เทิดไว้เหนือเศียรเกล้า ด้วยเกล้า สาธุ.

    .jpg
    ” ที่ให้บริกรรมพุทโธ ก็เพื่อไม่ให้จิตวิ่งไปตามอารมณ์ต่างๆ ถึงให้บริกรรมพุทโธไว้
    ถ้ามีพุทโธแล้ว เสือก็ไม่กลัว ผีก็ไม่กลัว ไม่มีสิ่งที่กลัวเลย
    เพราะจิตไม่ได้ส่งออกไปภายนอกเลย ให้อยู่แต่ภายใน ให้อยู่กับพุทโธ
    แต่ที่ทำให้เรากลัว ก็เพราะจิตเราคิดไปหาผี หาสิ่งที่เรากลัว ที่นั่นที่นี่ก็เลยกลัว
    บางครั้งตุ๊กแกตีฝาก็ว่าเป็นผีแล้ว หลอกตัวเองไปเลย คิดอะไรเห็นอะไรเป็นผีไปหมดเลย
    เพราะใจไม่มีพุทโธนะ ถ้าใจมีพุทโธแล้ว ไม่กลัวอะไรนะ
    ทั้งความแก่ ความเจ็บ ความตาย ถ้ามีพุทโธแล้วหายหมด.”

    หลวงปู่ลี กุสลธโร
    เทิดไว้เหนือเศียรเกล้า ด้วยเกล้า สาธุ.

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  16. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ” ชาตินี้ไม่ดี
    ชาติหน้าจะดีได้อย่างไร.
    เมื่อชาตินี้เกิดมาแล้ว
    ทำไม..ไม่ทำให้มันดีเล่าจ๊ะ ”

    ๛๛คติธรรมคำสอน… สมเด็จฯโต๛๛

    ….สาธุธรรมอันประเสริฐ…..

    .jpg

    ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น
     
  17. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  18. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    กำหนดการงานถวายเพลิงสรีระสังขารพระครูญาณวราจาร
    หลวงปู่วิไลย์ เขมิโย ณ เมรุถาวร ถ้ำพญาช้างเผือก บ้านปากช่อง ต.ห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ในวันที่ ๑ -๓ ธันวาคม ๒๕๖๐

    หลวงปู่วิไลย์ เขมิโย พระอริยสงฆ์แห่งวัดถ้ำพญาช้างเผือก บ้านปากช่อง ต.ห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ พระผู้มีปฏิปทาอันซ่อนเร้นดำรงตนอย่างช้างเผือกในหุบเขาอันห่างไกลความเจริญ

    หลวงปู่วิไลย์ เขมิโย ท่านเป็นศิษย์องค์สำคัญองค์หนึ่งของหลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู

    สาธุ สาธุ สาธุ ขอน้อมจิตส่งองค์หลวงปู่สู่แดนพระนิพพาน กรรมใดในอดีตและปัจจุบัน ที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจก็ดี ขอองค์ท่านจงอดโทษให้แก่ลูกหลานด้วยเทอญ และธรรมอันใดที่หลวงปู่รู้เห็นแล้ว ขอลูกหลานรู้ตามเห็นตามด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ

    ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๐

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของภาพถ่ายนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    .jpg
    1510483671_812_กำหนดการงานถวายเพลิงสร.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  19. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    *** ยอดปัจจัยสมทบค่าพาหนะและค่าภัตตาหารถวายพ่อแม่ครูอาจารย์ ณ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2560 จำนวน 9,909 บาท ( ปิดยอดรับบริจาควันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 เวลา 15.30 น.) ***

    ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคปัจจัยตามกำลังศรัทธา เพื่อถวายเป็นค่าพาหนะและค่าภัตตาหารถวายพ่อแม่ครูอาจารย์ ในโครงการตักบาตรพระกรรมฐาน จำนวน 20 รูป ในวันเสาร์ ที่ 25 พฤศจิกายน 2560 ณ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เนื่องในโอกาสครบรอบ 3 ปี แห่งการก่อตั้งชุมนุมพุทธธรรมกรรมฐาน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

    *** รายนามพ่อแม่ครูอาจารย์ที่กราบอาราธนามาร่วมงานในครั้งนี้ ***

    1. พระราชภาวนาวิกรม (หลวงปู่เลี่ยม ฐิตธัมโม) วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
    2. พระครูพัฒนกิจวิศาล (หลวงปู่คำ นิสโสโก) วัดไทยพัฒนา อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี
    3. พระครูสุวรรณโพธิเขต (หลวงปู่คูณ อัคคธัมโม) วัดป่าโพธิ์สุวรรณ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
    4. หลวงพ่อไพฑูรย์ ขันติโก วัดสุภัททมงคล อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี
    5. พระครูสุชีพภาวนาภิวัตร (หลวงปู่เข็ม สุชีโว) วัดป่าโนนนิเวศน์ (ห้วยซันเหนือ) อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี
    6. พระวิบูลธรรมาภรณ์ (หลวงเตี่ย/ชาย ชาคโร) วัดสุปัฏนาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
    7. พระวิชัยมุนี (หลวงพ่อไพฑูรย์ เมตตจิตโต) วัดสำราญนิเวศ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ
    8. พระครูบรรหารอุบลคุณ (หลวงพ่อกิตติ ติสโร) วัดป่าสนามชัย อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
    9. พระครูอุบลธรรมวิศิษฏ์ (พระอาจารย์วิศิษฏ์ศักดิ์ กัลยาโณ) วัดบูรพา อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
    10. พระครูสมุห์มงคล เตชธโร วัดสระประสานสุข อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

    ( รวมพ่อแม่ครูอาจารย์และพระติดตามเป็นทั้งหมด 20 รูป)

    ➥ ผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมทำบุญค่าภัตตาหาร และ ค่าพาหนะถวายพ่อแม่ครูอาจารย์ ได้ที่ : ธนาคารกรุงไทย ประเภทออมทรัพย์ สาขายิ่งเจริญปาร์ค (อุบลราชธานี) เลขที่บัญชี 452-0-51078-3 ชื่อบัญชี นายอริยเดช สุดถนอม

    จัดโดย : ชุมนุมพุทธธรรมกรรมฐาน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

    ****************************

    ➥ กำหนดการจัดงาน : https://www.facebook.com/1376384156...384156019597/1941815932809747/?type=3&theater

    1510498171_154_ยอดปัจจัยสมทบค่าพาหนะ.jpg

    ที่มา พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  20. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    …. สังขาร ความปรุงแต่ง อันเป็นความสมมติ
    ว่าโน่นเป็นของของเรา โน่นเป็นเรา
    เป็นความไม่เที่ยง อาศัยอุปทานความยึดถือ จึงเป็นทุกข์

    ก็แล ธาตุทั้งหลายเขาหากมี หากเป็นอยู่อย่างนี้
    ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา เกิด แก่ เจ็บ ตาย
    เกิดขึ้น เสื่อมไปอยู่อย่างนี้ มาก่อนเราเกิด
    ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ ก็เป็นอยู่อย่างนี้

    อาศัยอาการของจิต ของขันธ์ ๕
    ได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
    ไปปรุงแต่ง สำคัญมั่นหมายทุกภพทุกชาติ
    นับเป็นอเนกชาติเหลือประมาณ มาจนถึงปัจจุบันชาติ
    จึงทำให้จิตหลงอยู่ตามสมมติ…

    พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

    -ความปรุงแต่ง-อัน.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...