ธรรมะจากเพจต่างๆ พระสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย ธรรมะสายหลวงปู่มั่น, 6 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “ไม่ต้องตื่นเต้นกับวันใหม่ ปีใหม่
    อันนั้นมันหมุนไปตามเรื่องของมัน
    วันหนึ่ง เดือนหนึ่ง ปีหนึ่ง
    อันนั้นเป็นสมมุติบัญญัติขึ้นมา

    อันที่เราควรจะตื่นเต้นนั่น
    ควรตื่นเต้นที่ตัวของเราว่าวันหนึ่งๆ เดือนหนึ่ง ปีหนึ่ง
    เราเจริญขึ้นหรือว่าเราเสื่อมลง อันนั้นต่างหาก
    เราเห็นความเสื่อมความเจริญของเรา

    แท้จริงร่างกายของเรามันเจริญขึ้นไม่มีหรอก
    มีแต่เสื่อมลง มันเกิดขึ้นมาแล้วก็เสื่อมลงทุกทีๆ”

    หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  2. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “…เรื่องทุกข์ มันเป็นเรื่องสำคัญที่สุดล่ะ
    ถึงมันจนมันก็ทุกข์ ถึงมันรวยมันก็ทุกข์
    เป็นเด็กมันก็ทุกข์ แก่แล้วมันก็ทุกข์
    ถ้าคนไม่รู้จักทุกข์
    พระพุทธเจ้าท่านสอนว่าให้รู้จักทุกข์
    รู้จักเหตุเกิดของทุกข์ รู้จักความดับทุกข์
    รู้จักข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์
    แต่ว่าเราก็รู้ทุกคนทุกข์ แต่ว่ารู้ไม่ถึง รู้ไม่ถึงทุกข์
    รู้ทุกอย่าง แต่มันรู้ไม่ถึง
    ถ้าเรารู้ถึงมันซะแล้ว เป็นต้น มันก็ไม่มีอะไรจะเป็นทุกข์
    อย่างเราเห็นตนเช่นนี้เป็นต้น
    ตน ตนเราที่นั่งอยู่นี้ เป็นต้น
    ก็นึกว่าเห็นตนกันแล้ว น่ะ ที่ว่าเราเห็นตน
    ที่เห็นอยู่นี่ขาฉันนี่ นี่แขนฉันนี่ นี่เพื่อนฉันนี่
    เห็นอยู่ เค้าเรียกว่าเห็นอย่างนี้เชื่อว่าเห็นตน
    ไอ้ความจริงที่ว่าเห็นตนนั้นไม่ใช่อย่างนี้
    ตามธรรมะเห็นตนคือเห็นว่าตนนั้นน่ะ มิใช่ตน…”

    พระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา สุภัทโท) วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี

    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    -มันเป็นเรื.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  3. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    รู้
    ตื่น
    เบิกบาน
    คือภูมิแห่งพุทธะพุทโธ

    พระครูสังฆวิสุทธิ์ พระอาจารย์พวงพิด ธัมมธโร(ครูบาแจ๋ว) วัดป่าวิเวกวัฒนาราม อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร

    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    .jpg

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  4. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ” ยามขัดข้อง พระโพธิสัตว์ท่านนึกถึงบุญบารมี ”

    พระโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลาย ตามตำราท่านแสดงไว้ เวลาท่านไปเกิดอุปสรรคความขัดข้องขึ้นในชีวิตอย่างใดอย่างหนึ่ง ครั้งใดครั้งหนึ่งอย่างนี้ ท่านจะอธิษฐานใจถึงบุญญาบารมีที่ท่านได้สร้างสมอบรมมาเลย ท่านไม่ได้อธิษฐานนึกถึงพระอินทร์ พระพรหม พระยมบาล อะไรต่ออะไรให้มาช่วยเหลือตนน่ะท่านไม่ได้นึกหรอก ท่านนึกถึง “บุญบารมี” นู่น

    แล้วบุญบารมีนั้นหากไปเตือนใจพระอินทร์พระพรหม ให้มองด้วยทิพยเนตรลงมาเห็นพระองค์ท่านกำลังได้ประสบอุปสรรคความขัดข้องอย่างนั้นๆ นั่นแหละพญาอินทร์ถึงจะลงมาช่วย ให้เข้าใจอย่างนั้น

    คนส่วนมากมันไม่เข้าใจอย่างว่านี่นะ พอตนได้ประสบความอุปสรรคขัดข้องภัยพิบัติอะไรมาแล้ว ไปนึกถึงอินทร์ถึงพรหมนู่นทันทีเลย นึกถึงเทวดา อินทร์ พรหมนู่น นั่นแหละแทนที่จะมานึกถึงบุญกุศลความดีที่ตนได้กระทำมา หรือว่านึกถึงคุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ ที่ตนได้นับถือเลื่อมใสเคารพกราบไหว้บูชาอยู่เรื่อยมาอย่างนี้….ไม่ ไม่นึกแล้ว

    อันนี้ให้พึงพากันรู้ไว้ นึกอย่างนั้นไม่ถูกทางหรอก พญาอินทร์ก็ไม่รู้นะ พญาอินทร์ไม่รู้หรอกนึกเพียงแค่นั้นน่ะ ต่อเมื่อพญาอินทร์จะรู้ได้ผู้นั้นมานึกถึงบุญถึงกุศลที่ตนได้บำเพ็ญมา ถ้าบุญกุศลของตนมันมากพอ มันก็จะไปทำให้แท่นบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ของพญาอินทร์นั้นแข็งกระด้างขึ้น แล้วบัดนั้นพญาอินทร์ก็รู้ได้เลยว่า เอ๊ะ !!! มันต้องมีเหตุอันหนึ่งในมนุษย์โลกนี้ อย่างนี้นะ ก็เล็งทิพยเนตรลงมา ก็เห็นเลย ผู้ใดมีบุญวาสนาซึ่งไปเกี่ยวข้องกับพญาอินทร์แล้ว พญาอินทร์ก็รู้ได้เลย เป็นอย่างนั้น เมื่อพญาอินทร์รู้ได้อย่างนั้นแล้ว พญาอินทร์ก็ลงมาช่วย อันนี้นับว่าเป็นสิ่งที่บุคคลมองเห็นได้ยาก

    แต่ที่นำมาพูดนี่ก็เพราะเหตุว่า คนทั้งหลายนั้นมักจะมีสติฟั่นเฟือน หลงละเมอนึกถึงแต่เทวดาอินทร์พรหมเมื่อเวลาได้ประสบภัยพิบัติต่างๆมา เหตุนั้นจึงได้ยกเอามาแสดงเรื่องมันน่ะ แต่บางคนผู้ที่เชื่อมั่นอยู่ในบุญในคุณพระรัตนตรัยอย่างมั่นคงในใจแล้วก็ยกไว้ เมื่อเวลาถึงภัยพิบัติมาก็จะนึกถึงเข้าแต่บุญแต่คุณ

    ผู้ที่ท่านเจริญสมถะวิปัสสนาอย่างชำนิชำนาญมา ท่านก็จะนึกถึงสังขารร่างกายนี้น่ะ จะต้องพิจารณาความจริงของร่างกายอันนี้ มันเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ไตรลักษณญาณก็จะปรากฏแก่ท่านผู้เจริญวิปัสสนาญาณอย่างนั้น เมื่อญาณสามนี้ปรากฏในจิตใของท่านแล้ว ท่านก็ไม่หวั่นไหวต่อทุกขเวทนาอย่างที่ว่ามาแล้วนั่นแหละ ท่านก็ไม่หลงไม่ลืมตัว จิตใจก็ตั้งมั่นอยู่ได้ พอเห็นว่าสังขารร่างกายทุกส่วนไม่ใช่ของเรานี่ แล้วจะไปหวั่นไหวกับมันทำไม ก็เมื่อเห็นแจ้งด้วยพระญาณอย่างว่านี้แล้ว มันก็ไม่หวั่นไหวจิตใจน่ะ ไม่เศร้าโศก ไม่สะดุ้งหวาดกลัว ย่อมกล้าหาญเต็มที่เลย ตั้งมั่นเป็นปกติอยู่ได้

    -:- หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ -:-
    วัดอรัญญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

    -พระโพธิสัตว.jpg

    ที่มา พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  5. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ที่นี่เดี๋ยวนี้
    สุขสงบ รู้ตัว
    กาลข้างหน้าวางไว้เถอะ

    พระครูสังฆวิสุทธิ์ พระอาจารย์พวงพิด ธัมมธโร(ครูบาแจ๋ว) วัดป่าวิเวกวัฒนาราม อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร

    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  6. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “…หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ได้นิมิตเห็นคนร่างสูงใหญ่…มาถามเอาชีวิต…”

    ปกติ หลวงปู่เป็นผู้ ‘อยู่ป่าอยู่เขา’ เป็นนิสัย สมกับที่ท่านถือตนเป็นศิษย์ท่านพระมหากัสสปะ ไม่ค่อยจะออกมาสู่ ‘เมือง’ และไม่ค่อยจะอยู่เป็นประจำที่ แม้แต่อยู่ตามป่าเขาแล้ว ท่านก็ยังวิเวกต่อไปจากป่านี้ ไปป่าโน้น จากเขาดอยนี้ ไปเขาดอยโน้น จากถ้ำนี้ ไปสู่ถ้ำโน้น …มิได้อยู่ประจำเป็นที่ ท่านเคยเล่าให้ผู้ใกล้ชิดฟังสมัยเมื่อท่านยังเดินได้เป็นปกติว่า…

    “..ถ้าเราเดินไม่ไหวก็จะให้เพื่อนหามไป ถ้าไม่มีใครหามก็จะกลิ้งไป ถ้ากลิ้งไปไม่ไหวก็จะเอาคางเกาะไป..”

    ในปี พ.ศ.๒๕๑๔ ท่านภาวนาเห็นกระดูกตัวเอง แตกละเอียดข้างหนึ่ง ทางด้านซ้าย ท่านยังไม่ทันพิจารณาแน่นอนว่า จะเป็นอย่างไร เย็นนั้นก็เริ่มมีอาการปวดอย่างมากตามตัว โดยเฉพาะทางแขนขาข้างซ้าย พระเณรไปช่วยนวด แต่ท่านก็เพียงรู้สึกสบายเวลานวด…หยุดเข้าก็กลับปวด ไม่ทุเลา ท่านเริ่มรู้สึกว่า ร่างกายทางซีกซ้ายชามากขึ้น แต่ท่านก็ยังฝืนเดิน วันหนึ่งกลับมาจากบิณฑบาต ท่านประคองตัวมาได้พอถึงวัด ก็ต้องล้มลง เพราะร่างกาย แขน ขา ทางซีกซ้ายนั้นชาหมดความรู้สึกไปหมด
    ท่านเล่าว่า ท่านได้นิมิต เห็นคนร่างสูงใหญ่มาขวางประตูไว้ ถามท่านว่า “จะไปวันนี้ แน่หรือ” ท่านตอบว่า “เดี๋ยวก่อน โปรดสัตว์สักหน่อยเสียก่อน”

    คณะศิษย์พาท่านไปรักษาตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั้งในต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ รวมทั้งได้มีผู้เสนอการรักษาทั้งแบบปัจจุบันและแผนโบราณ การทำกายภาพบำบัด และนวดเส้น ฯลฯ แต่ก็มิได้หายเดินได้อย่างเคย ความปวดเจ็บได้ทุเลาหายไป หากท่านคงเป็นอัมพาตทางซึกซ้ายมาแต่ต้น ต้องมีศิษย์คอยพยุงลุก พยุงนั่ง ช่วยเหลือทุกอิริยาบถ

    และถึงท่านจะอาพาธเช่นนี้ แต่ธุดงคนิสัยของท่านก็มิได้ละลดลง หลวงปู่ยังคงเมตตาเที่ยวไปโปรดญาติโยม ลูกศิษย์ลูกหาตามเมืองต่าง ๆ อยู่เป็นประจำ และยังคงกลับไปวิเวกตามสถานที่ต่าง ๆ ที่ท่านเคยเดินธุดงค์มาแล้ว เช่น ที่บ้านม่วงไข่ บ้านสานตม…จังหวัดเลย ผาแด่น ผาเด่ง ห้วยน้ำริน…จังหวัดเชียงใหม่ เป็นอาทิ เพียงแต่มิได้เป็นการธุดงค์ด้วยเท้าอย่างเก่า แต่เป็นการธุดงค์ด้วยรถ…รถเข็น

    จากหนังสือ “ชีวประวัติ พระคุณเจ้า หลวงปู่ชอบ ฐานสโม” ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๓๕ วัดป่าโคกมน ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย หน้า ๒๒๘ – ๒๒๙

    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    -ฐานสโม-ได้นิ.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  7. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  8. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    พระอาจารย์โสภา สมโณ ประธานสงฆ์วัดแสงธรรมวังเขาเขียว ผู้ดำริในการสร้างพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล อุปสมบทครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๒๗ ที่จังหวัดสุรินทร์ และได้เดินทางธุดง จากจังหวัดสุรินทร์ ไปถึงจังหวัดเชียงใหม่ ใช้ระยะเวลาในการเดินทาง 1 เดือน 25 วัน ภายหลังได้ญัตติซ้ำอีกครั้งเมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๒ โดยมีพระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) เป็นพระอุปัชฌาย์ อีก ๖ วันต่อมาจึงเดินทางไปอยู่ศึกษากรรมฐาน ณ วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี เป็นเวลา ๑๐ ปี จึงออกจากวัดป่าบ้านตาดวันที่ ๓ มีนาคม พ.ศ.๒๕๔๒ แล้วไปอยู่ที่วัดทัพไทย หมู่ที่ ๑๐ ต.สนม อ.สนม จ.สุรินทร์

    ปี พ.ศ.๒๕๔๙ พระอาจารย์โสภา มีอาการอาพาธจึงเดินทางมาจำพรรษาบนเขาสลัดได อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เพราะสถานที่แห่งนี้นอกจากอากาศสัปปายะต่อธาตุขันธ์แล้วยังดีต่อการภาวนา แต่เนื่องจากสถานที่นี้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทำให้ไม่สามารถอยู่ถาวรได้ พระอาจารย์ท่านจึงคิดหาสถานที่ที่ไม่ไกลจากบริเวณนี้มากนักอยู่แทน ประกอบกับท่านเกิดนิมิตฝันว่า แบกบาตรสะพายกลดไปถึงภูเขาสองลูก เมื่อไปยืนหน้าภูเขาก็ปรากฏมีภาษาเขมรขึ้นมาซึ่งแปลเป็นคำภาษาไทยว่า “กระเทือนเลื่อนลั่น” องค์ท่านเองก็ไม่ทราบว่านิมิตนี้หมายถึงกระเทือนเลื่อนลั่นทางดีหรือทางไม่ดีอย่างไร

    วันที่ ๖ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๐ พระอาจารย์โสภา ได้มาพบที่ดินบริเวณที่ตั้งวัดในปัจจุบันมองเห็นภูเขาเขียวเหมือนกับที่เคยนิมิตเห็นภูเขาสองลูกมาก่อน จึงคิดทำอาศรมสำหรับพักอาศัยชั่วคราว

    วันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๐ พระชินวงศาจารย์ เจ้าคณะอำเภอปักธงชัย-วังน้ำเขียว (ธรรมยุต) ออกหนังสือรับรองที่พักสงฆ์ ที่ จอ. ๐๒/๒๕๕๐

    เจ้าของบ้านไร่ปลายตะวันซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักสงฆ์บอกถวายไม้ แต่พระอาจารย์โสภา ท่านก็บอกปัดถึง ๓ ครั้ง อยู่มาวันหนึ่งพระอาจารย์ท่านเกิดนิมิตฝันว่า พ่อแม่ครูจารย์หลวงตาพระมหาบัว นั่งรถมาจอดในบริเวณที่พักสงฆ์แห่งนี้ ท่านจึงให้พระอาจารย์อำนวย สุขวัฑฒโน ไปพิจารณาดูว่าไม้นั้นจะสามารถเกิดประโยชน์แก่สมณธรรมอย่างใดได้บ้าง พระอาจารย์อำนวยพิจารณาเห็นว่าไม้นั้นสามารถทำเสาได้ ๓๒ ต้น พระอาจารย์โสภา ท่านใคร่ครวญเกี่ยวกับนิมิตที่พ่อแม่ครูจารย์หลวงตาพระมหาบัว นั่งรถมาจอดในบริเวณที่พักสงฆ์แห่งนี้ ดังนั้นท่านจึงดำริให้นำไม้นั้นมาสร้างศาลาโดยใช้เวลาเพียง ๔ เดือน

    วันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๒ เป็นวันที่ฉลองศาลาเสร็จเพียง ๑๕ วันและเป็นวันที่พ่อแม่ครูจารย์หลวงตาพระมหาบัว นั่งรถมาที่พักสงฆ์แห่งนี้เป็นครั้งแรกเหมือนกับในนิมิต ท่านอาจารย์จึงทราบทันทีว่า “กระเทือนเลื่อนลั่น” นั้นหมายความว่าอย่างไร

    วันที่ ๒๒ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๓ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ประทานนามวัดว่า “วัดแสงธรรมวังเขาเขียว” พร้อมทั้งประทานพรว่า ขอวัดที่ให้นามแล้วนี้ จงอำนวยประโยชน์เป็นที่พักผ่อน ปฏิบัติธรรม สงบกาย สงบใจ เจริญเป็นอุดมมงคล ให้เกิดความสวัสดีแก่พระภิกษุ สามเณร และพุทธศาสนิกชนทั่วไป ตลอดจิรกาล

    วันที่ ๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ประกาศสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เรื่องตั้งวัดในพระพุทธศาสนา อาศัยความตามข้อ ๔ แห่งกำกับกระทรวง ฉบับที่ ๑ (พ.ศ.๒๕๐๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.๒๕๐๕ และด้วยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจึงประกาศตั้งเป็นวัดขึ้นในพระพุทธศาสนามีนามว่า “วัดแสงธรรมวังเขาเขียว” ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

    วัดแห่งนี้ตั้งอยู่เลขที่ ๒๖ หมู่ที่ ๑๙ บ้านบุตะโกเมืองใหม่ ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ถนนสายกบินทร์บุรี – นครราชสีมา แยกตรงถนน กม. ๖๖ เข้าไปประมาณ ๑ กิโลเมตร มีเนื้อที่ ๓๗ ไร่ แปลงที่ใช้ก่อสร้างวัด 23 ไร่ และแปลงที่ใช้ก่อสร้างพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล 13 ไร่เศษ พระอาจารย์โสภา สมโณ เป็นประธานสงฆ์ พระอาจารย์อำนวย สุขวัฑฒโน เป็นเจ้าอาวาส

    -สมโณ-ประ.jpg
    1514909235_911_พระอาจารย์โสภา-สมโณ-ประ.jpg
    1514909236_147_พระอาจารย์โสภา-สมโณ-ประ.jpg
    1514909236_833_พระอาจารย์โสภา-สมโณ-ประ.jpg
    1514909237_876_พระอาจารย์โสภา-สมโณ-ประ.jpg

    ที่มา พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  9. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  10. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “…องค์เดียวก็พอแล้ว…” หลวงปู่ดู่(พรหมปัญโญ)เนี่ยนะ ท่านคือผู้ที่อยู่ข้างหน้า พระโพธิสัตว์ทุกองค์ต้องรอท่าน พลังงานไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนของทั้งสามโลกก็ต้องมาทั้งหมด เทวดาแม้ไม่ใช่ผู้ที่ปรารถนาพุทธภูมิก็ต้องมา เพราะเขาต้องฝากกระแส ถ้ายังต้องเวียนว่ายตายเกิดก็ต้องฝากกระแส มันคือการหมุนเวียน

    เขาเลือกที่จะฝากกระแสที่หลวงปู่ดู่(พรหมปัญโญ) เพราะกว้างและครอบคลุมทั้งหมด

    แล้วพวกเราละ จะเอาอะไรอีก… คนอื่นเขาอาจไปหาครูบาอาจารย์ท่านนั้นท่านนี้ แต่หลวงตาไม่…หลวงตามีหลวงปู่ดู่(พรหมปัญโญ)ท่านองค์เดียวพอแล้ว เหลือแล้ว…”

    บางส่วนของคติธรรมคำสอนโดยท่านพระอาจารย์วรงคต วิริยธโร (หลวงตาม้า) วัดพุทธพรหมปัญโญ (ถ้ำเมืองนะ) ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    -หลวง.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  11. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “…พยายามหัดเป็นพระโสดาบัน…”

    เราจะทำอะไร จะพูดอะไร จะคิดอะไร
    พยายามอย่าให้มันมีความรู้สึกลบหลู่ดูหมิ่นครูบาอาจารย์และคนอื่น

    มานะความถือตนถือตัวนี่ ภูมิของอรหัตมรรคเป็นตัวตัดขาด
    มานะความถือตนถือตัวมันเป็นกิเลสละเอียดพอสมควร
    พระอนาคามีก็ละไม่ขาด โน่น ! ต้องภูมิอรหัตมรรคจึงละได้ขาด

    พยายามหัดเป็นพระโสดาบัน โส-ตะ-ปัน-นะ แปลว่า ผู้ถึงซึ่งการฟัง
    ใครพูดดีฉันก็ฟังได้ พูดเสียฉันก็ฟังได้
    แต่ฉันจะเอาหรือไม่เอาเป็นหน้าที่ของฉันจะพิจารณาโดยเหตุผล

    โส-ตะ แปลว่า ผู้ฟัง
    ปัน-นะ แปลว่า ถึงแล้วซึ่งการฟัง
    รวมความว่า ผู้รับฟัง ซึ่งไปตรงกับมารยาทของสังคมว่า เคารพมติของผู้พูด

    การเป็นผู้ฟังที่ดีต้องหัดนั่งฟังเฉย เช่น ท่านอาจารย์วัน เพื่อนหลวงพ่อ ลูกศิษย์ท่านวิพากษ์วิจารณ์กรรมฐานคณะนั้นกรรมฐานคณะนี้ ท่านนั่งฟังเฉย พอท่านจะพูด

    ท่านก็ว่า “ทัศนะของเขาเป็นอย่างนั้น ความเห็นของเขาเป็นอย่างนั้น อย่าไปขัดคอเขา”

    นี่แสดงว่าท่านผู้นี้รู้แจ้งเห็นจริงในธรรม ถ้าใครพูดมาไม่ถูกหูเรา เราเถียงคอเป็นเอ็น นั่นแสดงว่า เรายังเป็นผู้ฟังที่ใช้ไม่ได้

    พระราชสังวรญาณ หลวงปู่พุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน อ.เมือง
    จ.นครราชสีมา

    ที่มา หนังสือฐานิโยนุสรณ์ ที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงศพ
    พระราชสังวรญาณ (หลวงปู่พุธ ฐานิโย)

    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    .jpg

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  12. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “…ผู้ที่ไม่เคยทำบุญไว้แต่ชาติก่อน ความสมหวังแห่งผู้นั้นไม่มี ย่อมคลาดแคล้วแห่งสมบัติหลายประการ

    ทำนาข้าวตาย ค้าขายขาดทุน หาคนค้ำจุนไม่ค่อยได้ คนนั้นป่วยไข้ไปหาหมอก็ขัดข้อง รักษาไม่ได้ ให้ตกอับทุกหน้าที่ ตกลงคนนั้นต้องกอดเข่าเจ่าจุก เพราะไม่ได้ทำบุญไว้แต่ชาติปางก่อน ไม่ชวนให้คนอื่นเมตตา

    ที่พวกเราได้พากันเกิดมาในโลกนี้ ล้วนมีชาติทุกข์ ชราทุกข์ พยาธิทุกข์ มรณะทุกข์ ประจำชาติที่เกิดมา

    เพราะฉะนั้น ขอคณะอุบาสกอุบาสิกาทั้งหลาย จงพากันให้ทาน รักษาศีล บำเพ็ญภาวนา ให้เต็มไม้เต็มมือ เพื่อความสุขในอนาคตข้างหน้า เป็นอริยทรัพย์ที่ติดตามตนของเราไปได้…”

    หลวงปู่หลุย จันทสาโร

    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    .jpg

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  13. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    แล้ว ทำไมไม่ทำ ?
    เพราะไม่มีกำลัง(ใจ)
    เพราะไม่ชิน
    (รู้ แต่ไม่ทำ เท่ากับ ศูนย์)

    ขยันก็ทำ ขี้เกียจก็ทำ อย่างน้อยให้สวดมนต์จักรพรรดิ์ให้ได้วันละ ๑ จบ

    โอวาทธรรมหลวงตาม้า พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร

    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    -ทำไมไม่ทำ.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  14. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ระหว่างโลกกับธรรม
    ระหว่างความรู้ทางสากลนิยมกับความรู้ทางธรรมนิยม
    และระหว่างวิถีทางเดินแห่งความรู้ทางสากลนิยม
    กับวิถีทางเดินแห่งความรู้ทางธรรมนิยมนั้น
    จึงพอจะทราบได้ว่าต่างกันมาก
    โลกและความรู้ทางสากลนิยมหมุนไปตามกระแส
    ส่วนธรรมและความรู้ทางธรรมนิยมมักหมุนทวนกระแสโลกเสมอ
    นับแต่ขั้นเริ่มแรกคือธรรมขั้นต่ำจนถึงขั้นสูงสุด
    ซึ่งล้วนหมุนทวนกระแสโลกทั้งสิ้น

    หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน คัดจากหนังสือ “ธรรมสามัคคี” ตอน ศาสนธรรมคืออะไร

    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  15. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “…อย่ามองข้ามการสวดมนต์น่ะอานิสงส์มหาศาล หาที่เปรียบมิได้ สวดทุกวันสม่ำเสมอ เทวดาช่วยเหลือ คนมีบุญ…”

    โอวาทธรรมหลวงตาม้า พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร

    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  16. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ประสบการณ์ แก้วมณีนพรัตน์ หรือ แก้วสารพัดนึก หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

    ผมเป็นคนจังหวัดสิงห์บุรี ครอบครัวค่อนข้างยากจน มีโอกาสเรียนแค่ประถม 6 ก็ต้องออกจากโรงเรียน โดยเหตุผลว่าเรียนต่อ ม.1 ค่าเทอมและค่าเสื้อผ้ารวมกันแล้วเกือบพันบาท ผมยังจำได้ดีตอนนั้นแม่ผมกอดผมไว้ และบอกว่า

    “ลูกเรามันจนอย่าเรียนต่อเลยนะลูก”

    ผมได้ยินแม่พูดถึงกับน้ำตามร่วงอย่างไม่รู้ตัวเพราะสงสารแม่มาก เมื่อวานผมเห็นแม่ไปขอเชื่อข้าวสารร้านข้างบ้านมา 1 กิโล ตอนนั้นผมบอกกับตัวเองว่า จะไปหางานทำเพื่อหาเงินมาให้แม่ ไม่อยากเห็นแม่ลำบากแบบนี้ ผมออกจากโรงเรียนและไปเป็นลูกจ้างล้างจานที่ร้านข้าวแกงมีหน้าที่ยกข้าวแกงไปให้ลูกค้า พอว่างก็ต้องไปล้างจาน ค่าตัววันละยี่สิบบาท

    ผมทำอยู่นานเจ้าของร้านแกเป็นคนใจบุญ บอกว่าผมขยันและอดทนดี จึงขึ้นเงินให้เป็นวันละห้าสิบบาท ตามปกติเจ้าของร้านที่ผมอยู่ ถ้าวันไหนหยุดแกก็จะไปทำบุญตามวัดต่าง ๆ อยู่เสมอ มีอยู่วันหนึ่งขายดีมากอย่างไม่เคยมีมาก่อนเพียงครึ่งวันก็ขายหมด พอเก็บร้านเสร็จ เจ้าของร้านก้บอกว่า วันนี้ขายดีเลิกเร็วไม่รู้จะไปไหน ไปกราบ หลวงพ่อดู่ ที่วัดสะแก ดีกว่า แกเลยชวนผมไปด้วย ผมว่างไม่รู้จะไปไหนเหมือนกัน ก็เลยไปกับเขาด้วย

    ไปถึงวัดสะแกประมาณสามโมงเย็น มีลูกศิษย์ของหลวงพ่อดู่ นั่งอยู่กับท่านสองคน เจ้าของร้านเข้าไปถึงก็ก้มลงกราบหลวงพ่อ ผมก็กราบตาม เจ้าของร้านพูดทักทายลูกศิษย์ที่อยู่ก่อนแล้วอย่างคุ้นเคย แสดงว่ารู้จักกันมานานแล้ว หลวงพ่อท่านท่าทางเมตตามากท่านยิ้มอย่างอารมณ์ดี และส่งถ้วยที่มีน้ำชาให้ผมและเจ้าของร้าน ท่านมองผมด้วยความเมตตา ผมขนลุกขึ้นไปถึงหัวไม่รู้เพราะอะไร ท่านบอกผมวา “กินซะน้ำมนต์” ผมก็ยกขึ้นดื่มจนหมดถ้วย พอกินหมดวางถ้วยลงกับพื้น ผมรู้สึกสว่างไปทั่ว ตัวเบา ตาดูมองอะไรก็สว่างใสไปหมด ทั้งหูก็ได้ยินชัดเจนขึ้นมากกว่ที่เคยเป็นมา จึงนึกไปว่าเราไม่เคยกินน้ำชาบ่อยนักพอมากินเข้าร่างกายถึงสดชื่น เจ้าของร้านคุยกับหลวงพ่อดู่นานมากจนเย็น วันนั้นเขาเช่าพระองค์ละหนึ่งร้อยบ้างสิบบาทยี่สิบบาทก็หลายองค์แหวนวงละสามร้อยบาทถึงห้าองค์

    หลวงพ่อดู่บอกเขาว่าเอาเงินไปใส่ตู้ทำบุญไว้ ไม่ต้องเอาให้ท่าน วันนั้นผมไม่ได้พูดกับหลวงพ่อเลยสักคำ เจ้าของร้านเห็นว่าเย็นมากแล้วจึงลาหลวงพ่อกลับ เขากราบท่านผมจึงกราบตามแล้วเขาก็ลุกขึ้นเดินไปที่รถ ผมก็ลุกขึ้นจะเดินตาม เสียงหลวงพ่อพูดว่า “เดี๋ยวก่อนมานี่” ผมหันไปตามเสียง เห็นท่านยิ้มอย่างเมตตา จึงเข้าไปหาท่านใกล้ ๆ ท่านหยิบลูกกลม ๆ เล็ก ๆ สีขาวอมเหลืองให้ผมหนึ่งเม็ด และท่านก็พูดว่า

    “เก็บติดตัวไว้ให้ดีในนั้นมีพระอยู่ อีกหน่อยจะทำให้แกรอดตายแล้วแกจะรวยเป็นเศรษฐี”

    ผมมองดูเม็ดกลม ๆ เล็ก ๆ ที่ท่านให้ก็ไม่เห็นมีพระอะไร อย่างที่ท่านบอกเลยสักองค์ท่านคงเห็นผมทำท่าแปลกใจ เลยพูดว่า “แกไปได้แล้ว” ผมรีบกราบท่านอีกครั้งแล้วรีบวิ่งไปที่รถเพรากลัวเจ้าของร้านจะรอนาน ผมขึ้นรถเจ้าของร้านก็ถามว่า “หลวงพ่อท่านเรียกทำไม” ผมบอกเขาว่า “ท่านให้เม็ดกลม ๆ ผมครับ” เจ้าของร้านหันมามองดูสิ่งที่อยู่ในมือของผมแล้วพูด ‘เฮ้ยนี่ของดีหายาก’ “พี่มาหาหลวงพ่อหลายครั้งแล้วยังไม่เคยได้เลย เก็บไว้ให้ดีนะโว้ย” ผมรับคำว่า “ครับพี่”

    หลังจากนั้นนานสักสิบกว่าวัน เจ้าของร้านก็ไปหาหลวงพ่อดู่อีก แต่ผมไม่ได้ไปกับเขาด้วย พอเขากลับมาวันรุ่งขึ้นก็บอกผมว่าหลวงพ่อท่านฝากของดีมาให้ผม แกส่งกระดาษให้ผมใบหนึ่ง พอผมเปิดดูในนั้นมีหนังสือเขียนว่า

    ‘พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ’

    ให้ภาวนามาก ๆ ผมนึกกราบท่านในใจผมเป็นเด็กจน ๆ คนหนี่ง คิดว่าท่านคงลืมผมไปนานแล้ว แต่นี่ท่านยังเมตตาจำผมได้ และเมตตาให้คำภาวนามาด้วย ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยไปกราบพระที่ไหน พอมาเจอแบบนี้ทำให้ผมเกิดความศรัทธา หลวงพ่อดู่เป็นอย่างมาก ด้วยความศรัทธาท่านผมจึงภาวนา ไตรสรณคมณ์ เรื่อยมา ผมไปไหนต้องมีลูกกลม ๆ ที่หลวงพ่อท่านให้ติดตัวอยู่ตลอดเวลา

    ระยะหลังแม่ของผมเริ่มเจ็บป่วยอยู่บ่อยครั้งไปทำงานไม่ไหว ผมจึงขอเจ้าของร้านหยุดงานเพื่อพาแม่ไปหาหมอ ผลออกมาว่าแม่ของผมเป็นเบาหวานความดัน ไขมันในเส้นเลือด และอย่างอื่นด้วย ยาแต่ละอย่างแพงมาก ผมไม่มีเงินซื้อยาดี ๆ ทางโรงพยาบาลจึงให้ตัวที่ถูก ๆ คือยาที่ไม่มีมาตรฐาน ผมเสียใจที่ตนเองไม่มีปัญญารักษาแม่ คิดอย่างไรก็คิดไม่ออกว่าทำยังไงถึงจะมีเงินซื้อยาดี ๆ ให้แม่

    ก่อนออกจากบ้านเช้ามืดของทุกวันผมจะยกลูกกลม ๆ ที่แขวนอยู่ในคอขึ้นมาพนมและภาวนาไตรสรณคมณ์ทุกวัน เช้านี้ไม่เหมือนกับทุกเช้า พอผมภาวนาไตรสรณคมณ์จบก็อธิษฐานว่า “หลวงพ่อดู่ครับ ผมขอเงินมาซื้อยารักษาแม่ด้วยเทอญ สาธุ” และก็ออกไปทำงานตามปกติ ตอนสาย ๆ ของวันนั้นมีผู้ชายคนหนึ่งที่ผมพอจำได้ว่านาน ๆ หลาย ๆ เดือนจะมากินข้าวแกงสักครั้ง ก็มานั่งกินอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เพราะผมไม่ทันสังเกตุ ผมจึงตักน้ำแข็งใส่แก้วและเดินไปให้เขาตามปกติเหมือนทุกครั้ง

    ดีที่ผมจำคำสอนของหลวงพ่อดู่ได้ตลอดไม่เคยลืมคำว่า พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ และภาวนาอยู่ทุกวัน

    ถ้าไม่มีพุทธัง ธัมมัง สังฆัง ผมคงตายไปแล้ว !!

    ผมรอดตายโดยไม่มีบาดแผลไม่สามารถเอามือปืนและคนว่าจ้างมาลงโทษได้ตามกฏหมายทั้งตำรวจก็ไม่สนใจในเรื่องคดีเพราะคนที่ว่าจ้างเป็นลูกของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ผมไม่ตายยิ่งเพิ่มความโกรธแค้นให้กับคนที่ว่าจ้างคนมาฆ่าผมหลายเดือนผ่านไป เมื่อเขารู้ว่ากระสุนปืน ไม่อาจฆ่าผมได้จึงเปลี่ยนวิธิใหม่เขาไปจ้างหมออิสลามหรือที่เรียกกันว่าหมอแขกเพระพวกนี้มีวิชาอาคมเข้มขลังมาก สามารถทำคุณไสยให้คนตายมามากต่อมาก ที่นั่นคนอยู่เรือเขาไม่นิยมใส่รองเท้ากัน เพราะเวลาเดินบนเรือมันจะลื่นง่ายเลยเป็นเรื่องไม่ยากนักที่เขาจะให้คนแอบมาเอารอยเท้าของผมไปทำพิธีกรรมทางไสยศาสตร์มนต์ดำ

    ช่วงนั้นผมคงกำลังดวงตก อยุ่ ๆ เชือกแขวนพระขาด เลยยังหาเชือกใหม่ไม่ได้ ผมเก็บลูกกลม ๆ ของหลวงพ่อดู่ไว้หัวนอนรุ่งเช้าก็ลืมนำติดตัวไปด้วย เที่ยวนั้นเรือดูดแร่ออกไปได้เพียงวันเดียวผมก็ปวดท้องอย่างแรง จนพี่เจ้าของเรือจะเอาเรือเข้าฝั่ง

    ผมบอกว่าอย่าเลยพี่เดี๋ยวนอนพักก็หาย แต่ไม่เป็นอย่างนั้น ผมเริ่มปวดจากท้องแต่เดี๋ยวก็ปวดหัวจนลูกตาแทบจะหลุดออกมาจากเบ้าตา หนักเข้าไม่ใช่หัวอย่างเดียว ในที่สุดก็ปวดไปทั้งตัว แม้แต่กระดูกยังปวด คิดในใจว่าจะรอดหรือเปล่า กลางคืนนอนก็ฝันเห็นแต่ผีปีศาจจะมาเอาชีวิตบางครั้งเหมือนกับครึ่งหลับครึ่งตื่นผีแขกใส่หมวกแบบอิสลามมาบังคับให้ผมเอาเชือกมาผูกคอ ผมไม่ยอมทำตามมันก็บอกว่าให้ไปโดดทะเล ผมนอนดิ้นไปดิ้นมาปวดทรมานไปทั้งตัว ผีเข้ามาบังคับจะเอาชีวิตอีก ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ตอนหลังมันมากันเป็นสิบ ๆ ตัว มันพูดว่ามึงต้องตาย บางตัวก็จับแขนกดเอาไว้อีกตัวก็กดขา ไอ้ตัวดำสูงใหญ่เข้ามาบีบคอ จนผมเริ่มหายใจไม่ออก ตอนนั้นผมร้องไห้คิดถึงแม่คิดว่าคงไม่ได้กลับไปเห็นหน้าแม่อีกแล้ว ครั้งนี้ต้องตายแน่นอน !!

    มีเสียงหนึ่งซึ่งผมจำได้ว่าเป็นเสียงของ หลวงพ่อดู่ ท่านพูดว่า พุทธัง ธัมมัง สังฆัง พอผมได้ยินหลวงพ่อท่านบอก ผมก็ตั้งจิตภาวนาว่า พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ก็มีรัศมีเป็นแสงสว่างหลายสีพุ่งออกมาจากตัวผมรอบตัวทำให้แสงรัศมีนั้นโดนปีศาจทุกตัวมันร้องอย่างเจ็บปวดแสงสว่างนั้นกลายเป็นไฟเผาพวกปีศาจทั้งหมดละลายไปกับอากาศ

    ผมเห็นดังนั้นก็ลุกขึ้นกราบหลวงพ่อดู่ ใจก็บอกตัวเองว่ารอดตายแล้ว คืนนั้นผมไม่ยอมนอน ผมนั่งสมาธิทั้งคืนจนเช้า ประมาณแปดโมงเช้ามีเรือผ่านมาจะเข้าฝั่ง เจ้าของเรือที่ผมอยู่ รีบเรียกเรือลำนั้น ผมนอนอยู่ใต้ท้องเรือได้ยินเสียงเขาชัดเจน เขาบอกคนคุมเรือลำนั้นว่า “น้องกูไม่สบายฝากเข้าฝั่งด้วย” แกรักและเป็นห่วงผมแบบน้องชาย พอเรือเข้าถึงฝั่งผมรีบตรงไปยังห้องพักแทนที่จะไปหาหมอ ถึงห้องก็ไปที่หัวนอนหยิบลูกกลม ๆ ยกมือพนมพระ ถึงหลวงพ่อดู่ ตั้งนะโมสามจบ แล้วภาวนาไตรสรณคมณ์ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ

    ผมจำได้ตอนที่หลวงพ่อดู่ให้ลูกแก้วสารพัดนึกท่านบอกว่า

    “เก็บติดตัวไว้ให้ดีในนั้นมีพระอยู่ อีกหน่อยจะทำให้แกรอดตาย แล้วแกจะรวยเป็นเศรษฐี”

    คำพูดของหลวงพ่อดู่ ท่านศักดิ์สิทธิ์ เป็นจริงทุกคำ ผมอยู่ที่ภูเก็ตนานจึงมีเพื่อนมากเคยมีเพื่อนคนหนึ่งมันชอบสะสมพระดัง ๆ ที่มีราคาแพงมาก ๆ มันถามผมว่า “มึงเป็นเถ้าแก่ใหญ่เงินทองมากมาย ทำไมเอาลูกอมกลม ๆ มาแขวนคอลูกเดียววะ ไม่หาสมเด็จวัดระฆังมาแขวนคอสักองค์”

    ผมตอบมันว่า

    “พระสมเด็จน่ะดีต้องคนมีบุญมีวาสนาถึงจะได้มีไว้ครอบครอง สำหรับกูลูกกลม ๆ นี่แหละดีที่สุดแล้ว มึงรู้ไว้เลยนะที่กูมีวันนี้ได้ก็เพราะลูกกลม ๆ นี้แหละ”

    ข้อมูลจาก: นโภคทรัพย์ ฉบับที่ 5

    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    -แก้วมณีนพรัต.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  17. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ขอเรียนเชิญร่วมบำเพ็ญกุศลสรีระสังขาร พระโสภณวิสุทธิคุณ (หลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโก)

    ในวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๖๑ ณ วัดป่าวิเวกธรรม อ.เมือง
    จ.ขอนแก่น

    แสดงพระธรรมเทศนาโดยหลวงปู่ไม อินทสิริ

    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    .jpg

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  18. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    วันนี้กับพรุ่งนี้มีผลเท่ากัน
    ถ้าทำดี วัน คืน เดือน ปี
    จะทำอะไรเราได้

    หลวงปู่ขาว อนาลโย

    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  19. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ผมหน๋า(พ่ออุ้ยส่างมณฑา)ท่านอาจารย์ อายุได้ 59 ปี เมียแรกตายหนีจาก ทุกข์ใจเป็นล้ำเป็นเหลือ พอดีกับครูบาอาจารย์ท่านอาจารย์มั่นเดินเข้ามา แบกกลด สะพายบาตร ท่านกระแอมไอขึ้น ผมก็รู้ตัว จึงถามว่า

    “ตุ๊เจ้ามาแต่ที่ไหน จะไปไหน?”

    หลวงปู่มั่นท่านว่า

    “จะมาพักที่นี่ได้ไหม ใกล้แถบนี้มีหนองน้ำไหม?”

    ได้กราบเรียนท่านว่า

    “มี แต่ที่นี่เป็นป่าช้า อยู่พักไม่ได้ ต้องไปที่นาของผมก็ได้ เพราะมีบ่อน้ำ”

    จึงได้พาท่านไปพักอยู่โฮงนา ให้นอนพักที่โฮงนา ตื่นเช้าวันใหม่จึงไปทำที่พักให้ ท่านอยู่โปรดผม 16 วัน แล้วก็ลาไป

    “ครูอาจารย์มั่น เพิ่นสอนอะหยังพ่อส่างบ้าง?”

    1f33b.png “สอนให้ละความอาลัย ละความโศกเศร้า ให้รู้จักเหตุทุกข์ การปฏิบัติก็แต่การไหว้พระสวดมนต์ การรักษาศีล การปฏิบัติระเบียบพระธุดงค์”

    ตอนนั้นผมเองยังไม่รู้จักกับท่านหรอกว่า เป็นครูบาอาจารย์ผู้ทรงธรรม ถามชื่อท่านๆ ก็ว่า

    “ตุ๊เฒ่ามั่น”

    ผ้าผ่อนบริขารของใช้ของเพิ่น ก็มีแต่ของเก่าๆ สีเหลืองซีด กลดที่เพิ่นใช้ก็เอาจ้องบ่อสร้างมาใช้ ผ้ามุ้งกลดก็เก่าๆ ตัวผมเองก็เป็นแต่ยินดีพอใจกับกิริยาคำว่าคำสอนของท่านว่า สอนมีหลักมีเหตุมีผล…

    ที่มา: ประวัติหลวงปู่จาม มหาปุญโญ

    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  20. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...