ธรรมะจากเพจต่างๆ พระสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย ธรรมะสายหลวงปู่มั่น, 6 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    อำนาจเมตตาแห่งอิทธิพุทธะ

    เรื่อง “ท่านพ่อลี แผ่เมตตาสยบช้างตกมันดุร้าย”

    “ของดีของอาตมานั้น คือ ความเมตตา”

    (จากประวัติ ท่านพ่อลี ธัมมธโร)

    ออกพรรษาในปี ๒๔๗๔ หลวงพ่อลีมีจิตผ่องใสเบิกบานเต็มที่ การเข้าโมกธรรมอย่างเต็มที่ในพรรษาที่ผ่านมา คือ ธรรมอันเป็นเครื่องหลุดพ้นจากการเกิดแก่เจ็บตาย ทำให้เบาสบายตลอดวันคืน หลวงพ่อลีได้กราบลาพระอุปัชฌาย์จากวัดสระปทุมออกธุดงค์ ผ่านจังหวัดอยุธยา สระบุรี ลพบุรี อำเภอท่าตะโก และบึงบอระเพ็ด เพื่อไปโปรดพี่ชายและเพื่อนฝูงเมื่อครั้งยังเป็นฆราวาส

    ในระหว่างที่อยู่ในจังหวัดนครสวรรค์ได้ออกไปพักอยู่ในป่า ห่างจากหมู่บ้านประมาณ ๒๐ เส้น วันหนึ่งได้ยินเสียงช้างป่ากับช้างบ้านที่ตกมันร้องเสียงดัง ชาวบ้านที่แวะเวียนมากราบนมัสการบอกให้ทราบว่าช้างทั้งสองกำลังต่อสู้กัน ช้างทั้งคู่สู้กันหลายครั้งนานถึง ๓ วัน ช้างป่าสู้ไม่ได้บาดเจ็บและหมดแรงตายไปในที่สุด ส่วนช้างบ้านตกมันไม่เป็นไร แต่ช้างผู้ชนะกลับยิ่งเพิ่มความบ้าคลั่งขนาดหนักพลุกพล่าน อาละวาดดุร้ายจนควาญช้างผู้เลี้ยงเอาไม่อยู่ เอางาไล่ทิ่มแทงผู้คนรอบบริเวณนั้น ขุนจบฯ เจ้าของช้างเห็นเหตุการณ์ไม่ดีเช่นนั้น จึงนิมนต์หลวงพ่อลีเข้าไปพักในบ้านเสียก่อน จนกว่าอาการตกมันของช้างจะหายเป็นปกติ

    หลวงพ่อลีปฏิเสธคำขอเช่นนั้น แม้จะมีอาการหวาดหวั่นต่อภัยที่อาจจะเกิดขึ้น แต่ท่านเชื่อในอำนาจเมตตาแห่งอิทธิพุทธะ คืนนั้น…ขณะที่เจริญภาวนาสำรวจภาวนาจิตของตนเอง ถึงความกลัวช้างตกมันทำร้าย และได้วิเคราะห์แล้วว่าสิ่งที่ตนกลัวก็คือ “กลัวตาย” จิตได้ถามอีกว่า “แล้วทำไมจะต้องกลัวตาย?” ด้วยเหตุนี้เองท่านจึงสืบเสาะหาที่มาของความกลัวตาย จึงได้ความว่า…ความตายนั้นเป็นของน่ากลัวสำหรับมนุษย์และสัตว์ สำหรับสัตว์เมื่อกลัวแล้วก็ได้แต่วิ่งหนีอะไรที่มันนึกว่าจะทำให้มันตายได้ มันก็หลบไปชั่วครั้งชั่วคราวไปจนกว่ามันจะตายจริง ! แต่สำหรับมนุษย์นั้น มีปัญหารู้ได้ว่า ตัวเองนั้นจะต้องตายแน่ ถึงจะไปทางไหนก็ต้องตายจนได้ในวันหนึ่งวันใด แต่ก็ไม่อยากตาย อยากมีชีวิตอยู่ไปนาน ๆ ถึงจะเจ็บไข้พิการอย่างไรก็ยังขอให้มีชีวิตเอาไว้ !!
    ดังนั้นหากมีวิธีใดที่ยืดอายุได้ก็จะรีบทำ แม้กระทั่งหาพระหาเจ้าช่วยก็ต้องเอา คนทั่วไปคิดถึงเรื่องความตายเป็นของน่ากลัวเพราะอะไรนั้นหรือ ? ก็เพราะความหวงและห่วงชีวิตนี้ประการหนึ่ง ด้วยความไม่รู้ว่าตายแล้วจะเป็นอย่างไรอีกประการหนึ่ง
    และประการสุดท้าย คือ คนไม่รู้ว่าตายแล้วไปไหน !
    เพราะตอนนี้ชีวิตอยู่ทั้งบุญและบาปที่ทำไว้นั้นจะติดตามไปหรือไม่ ?

    ด้วยเหตุนี้คนจึงกลัวความตายกันอย่างมาก ! ภาวะจิตของหลวงพ่อลียังคิดต่อไปอีกว่า เกิดก็ทุกข์ ตายก็ทุกข์..แล้วจะไปคิดถึงเรื่องความตายทำไมให้เสียเวลา…เมื่อตายแล้วยังมีที่ไป ก็แปลว่าตายแล้วก็ต้องไปเกิดอีก เมื่อเกิดอีกทีก็ต้องทุกข์อีก “สู้มานั่งคิดว่า ทำอย่างไรตายแล้วจะไม่เกิดไม่ดีกว่าหรือ ?!” ใช่แล้ว…พุทธศาสนามีคำตอบ คือ นิพพาน เป็นสถานที่ไม่มีทุกข์ เพราะไม่เกิดอีก เป็นการดับสูญโดยสิ้นเชิง
    เมื่อหลวงพ่อลีคิดได้เช่นนี้ ความกลัวตายจึงมลายหายไปสิ้น หายใจเข้าก็ตาย หายใจออกก็ตาย หลวงพ่อจึงมอง เห็นความตายเหมือนสายฟ้าแลบ เกิดขึ้นแล้วหายไปชั่วพริบตา

    รุ่งขึ้น…เวลาบ่าย ๆ ช้างตกมันเชือกนั้นตะเวนมาหยุดห่างที่หลวงพ่อปักกลดเพียง ๒๐ วา ท่านก็มิได้ตระหนักกลัว แต่อย่างใด กลับแผ่เมตตาจิตให้มัน เจ้าช้างตกมันเชือกนั้นจ้องมาทางท่านเป็นเวลาเกือบ ๑๐ นาที แล้วมันก็หันหลังกลับเดินเข้าป่า เช้าวันต่อมามีญาติโยมที่ต่าง ๆ ทราบข่าวว่าช้างตกมันไม่สามารถทำอะไรหลวงพ่อลีได้ พากันมากราบนมัสการท่านเพื่อขอของดีไปป้องกันตัวกันมากมาย
    หลวงพ่อกล่าวว่า

    “ของดีของอาตมานั้น คือ ความเมตตา”

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  2. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    อำนาจเมตตาแห่งอิทธิพุทธะ

    เรื่อง “ท่านพ่อลี แผ่เมตตาสยบช้างตกมันดุร้าย”

    “ของดีของอาตมานั้น คือ ความเมตตา”

    (จากประวัติ ท่านพ่อลี ธัมมธโร)

    ออกพรรษาในปี ๒๔๗๔ หลวงพ่อลีมีจิตผ่องใสเบิกบานเต็มที่ การเข้าโมกธรรมอย่างเต็มที่ในพรรษาที่ผ่านมา คือ ธรรมอันเป็นเครื่องหลุดพ้นจากการเกิดแก่เจ็บตาย ทำให้เบาสบายตลอดวันคืน หลวงพ่อลีได้กราบลาพระอุปัชฌาย์จากวัดสระปทุมออกธุดงค์ ผ่านจังหวัดอยุธยา สระบุรี ลพบุรี อำเภอท่าตะโก และบึงบอระเพ็ด เพื่อไปโปรดพี่ชายและเพื่อนฝูงเมื่อครั้งยังเป็นฆราวาส

    ในระหว่างที่อยู่ในจังหวัดนครสวรรค์ได้ออกไปพักอยู่ในป่า ห่างจากหมู่บ้านประมาณ ๒๐ เส้น วันหนึ่งได้ยินเสียงช้างป่ากับช้างบ้านที่ตกมันร้องเสียงดัง ชาวบ้านที่แวะเวียนมากราบนมัสการบอกให้ทราบว่าช้างทั้งสองกำลังต่อสู้กัน ช้างทั้งคู่สู้กันหลายครั้งนานถึง ๓ วัน ช้างป่าสู้ไม่ได้บาดเจ็บและหมดแรงตายไปในที่สุด ส่วนช้างบ้านตกมันไม่เป็นไร แต่ช้างผู้ชนะกลับยิ่งเพิ่มความบ้าคลั่งขนาดหนักพลุกพล่าน อาละวาดดุร้ายจนควาญช้างผู้เลี้ยงเอาไม่อยู่ เอางาไล่ทิ่มแทงผู้คนรอบบริเวณนั้น ขุนจบฯ เจ้าของช้างเห็นเหตุการณ์ไม่ดีเช่นนั้น จึงนิมนต์หลวงพ่อลีเข้าไปพักในบ้านเสียก่อน จนกว่าอาการตกมันของช้างจะหายเป็นปกติ

    หลวงพ่อลีปฏิเสธคำขอเช่นนั้น แม้จะมีอาการหวาดหวั่นต่อภัยที่อาจจะเกิดขึ้น แต่ท่านเชื่อในอำนาจเมตตาแห่งอิทธิพุทธะ คืนนั้น…ขณะที่เจริญภาวนาสำรวจภาวนาจิตของตนเอง ถึงความกลัวช้างตกมันทำร้าย และได้วิเคราะห์แล้วว่าสิ่งที่ตนกลัวก็คือ “กลัวตาย” จิตได้ถามอีกว่า “แล้วทำไมจะต้องกลัวตาย?” ด้วยเหตุนี้เองท่านจึงสืบเสาะหาที่มาของความกลัวตาย จึงได้ความว่า…ความตายนั้นเป็นของน่ากลัวสำหรับมนุษย์และสัตว์ สำหรับสัตว์เมื่อกลัวแล้วก็ได้แต่วิ่งหนีอะไรที่มันนึกว่าจะทำให้มันตายได้ มันก็หลบไปชั่วครั้งชั่วคราวไปจนกว่ามันจะตายจริง ! แต่สำหรับมนุษย์นั้น มีปัญหารู้ได้ว่า ตัวเองนั้นจะต้องตายแน่ ถึงจะไปทางไหนก็ต้องตายจนได้ในวันหนึ่งวันใด แต่ก็ไม่อยากตาย อยากมีชีวิตอยู่ไปนาน ๆ ถึงจะเจ็บไข้พิการอย่างไรก็ยังขอให้มีชีวิตเอาไว้ !!
    ดังนั้นหากมีวิธีใดที่ยืดอายุได้ก็จะรีบทำ แม้กระทั่งหาพระหาเจ้าช่วยก็ต้องเอา คนทั่วไปคิดถึงเรื่องความตายเป็นของน่ากลัวเพราะอะไรนั้นหรือ ? ก็เพราะความหวงและห่วงชีวิตนี้ประการหนึ่ง ด้วยความไม่รู้ว่าตายแล้วจะเป็นอย่างไรอีกประการหนึ่ง
    และประการสุดท้าย คือ คนไม่รู้ว่าตายแล้วไปไหน !
    เพราะตอนนี้ชีวิตอยู่ทั้งบุญและบาปที่ทำไว้นั้นจะติดตามไปหรือไม่ ?

    ด้วยเหตุนี้คนจึงกลัวความตายกันอย่างมาก ! ภาวะจิตของหลวงพ่อลียังคิดต่อไปอีกว่า เกิดก็ทุกข์ ตายก็ทุกข์..แล้วจะไปคิดถึงเรื่องความตายทำไมให้เสียเวลา…เมื่อตายแล้วยังมีที่ไป ก็แปลว่าตายแล้วก็ต้องไปเกิดอีก เมื่อเกิดอีกทีก็ต้องทุกข์อีก “สู้มานั่งคิดว่า ทำอย่างไรตายแล้วจะไม่เกิดไม่ดีกว่าหรือ ?!” ใช่แล้ว…พุทธศาสนามีคำตอบ คือ นิพพาน เป็นสถานที่ไม่มีทุกข์ เพราะไม่เกิดอีก เป็นการดับสูญโดยสิ้นเชิง
    เมื่อหลวงพ่อลีคิดได้เช่นนี้ ความกลัวตายจึงมลายหายไปสิ้น หายใจเข้าก็ตาย หายใจออกก็ตาย หลวงพ่อจึงมอง เห็นความตายเหมือนสายฟ้าแลบ เกิดขึ้นแล้วหายไปชั่วพริบตา

    รุ่งขึ้น…เวลาบ่าย ๆ ช้างตกมันเชือกนั้นตะเวนมาหยุดห่างที่หลวงพ่อปักกลดเพียง ๒๐ วา ท่านก็มิได้ตระหนักกลัว แต่อย่างใด กลับแผ่เมตตาจิตให้มัน เจ้าช้างตกมันเชือกนั้นจ้องมาทางท่านเป็นเวลาเกือบ ๑๐ นาที แล้วมันก็หันหลังกลับเดินเข้าป่า เช้าวันต่อมามีญาติโยมที่ต่าง ๆ ทราบข่าวว่าช้างตกมันไม่สามารถทำอะไรหลวงพ่อลีได้ พากันมากราบนมัสการท่านเพื่อขอของดีไปป้องกันตัวกันมากมาย
    หลวงพ่อกล่าวว่า

    “ของดีของอาตมานั้น คือ ความเมตตา”

    1524550505_37_อำนาจเมตตาแห่งอิทธิพุท.jpg

    ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น
     
  3. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    อำนาจเมตตาแห่งอิทธิพุทธะ

    เรื่อง “ท่านพ่อลี แผ่เมตตาสยบช้างตกมันดุร้าย”

    “ของดีของอาตมานั้น คือ ความเมตตา”

    (จากประวัติ ท่านพ่อลี ธัมมธโร)

    ออกพรรษาในปี ๒๔๗๔ หลวงพ่อลีมีจิตผ่องใสเบิกบานเต็มที่ การเข้าโมกธรรมอย่างเต็มที่ในพรรษาที่ผ่านมา คือ ธรรมอันเป็นเครื่องหลุดพ้นจากการเกิดแก่เจ็บตาย ทำให้เบาสบายตลอดวันคืน หลวงพ่อลีได้กราบลาพระอุปัชฌาย์จากวัดสระปทุมออกธุดงค์ ผ่านจังหวัดอยุธยา สระบุรี ลพบุรี อำเภอท่าตะโก และบึงบอระเพ็ด เพื่อไปโปรดพี่ชายและเพื่อนฝูงเมื่อครั้งยังเป็นฆราวาส

    ในระหว่างที่อยู่ในจังหวัดนครสวรรค์ได้ออกไปพักอยู่ในป่า ห่างจากหมู่บ้านประมาณ ๒๐ เส้น วันหนึ่งได้ยินเสียงช้างป่ากับช้างบ้านที่ตกมันร้องเสียงดัง ชาวบ้านที่แวะเวียนมากราบนมัสการบอกให้ทราบว่าช้างทั้งสองกำลังต่อสู้กัน ช้างทั้งคู่สู้กันหลายครั้งนานถึง ๓ วัน ช้างป่าสู้ไม่ได้บาดเจ็บและหมดแรงตายไปในที่สุด ส่วนช้างบ้านตกมันไม่เป็นไร แต่ช้างผู้ชนะกลับยิ่งเพิ่มความบ้าคลั่งขนาดหนักพลุกพล่าน อาละวาดดุร้ายจนควาญช้างผู้เลี้ยงเอาไม่อยู่ เอางาไล่ทิ่มแทงผู้คนรอบบริเวณนั้น ขุนจบฯ เจ้าของช้างเห็นเหตุการณ์ไม่ดีเช่นนั้น จึงนิมนต์หลวงพ่อลีเข้าไปพักในบ้านเสียก่อน จนกว่าอาการตกมันของช้างจะหายเป็นปกติ

    หลวงพ่อลีปฏิเสธคำขอเช่นนั้น แม้จะมีอาการหวาดหวั่นต่อภัยที่อาจจะเกิดขึ้น แต่ท่านเชื่อในอำนาจเมตตาแห่งอิทธิพุทธะ คืนนั้น…ขณะที่เจริญภาวนาสำรวจภาวนาจิตของตนเอง ถึงความกลัวช้างตกมันทำร้าย และได้วิเคราะห์แล้วว่าสิ่งที่ตนกลัวก็คือ “กลัวตาย” จิตได้ถามอีกว่า “แล้วทำไมจะต้องกลัวตาย?” ด้วยเหตุนี้เองท่านจึงสืบเสาะหาที่มาของความกลัวตาย จึงได้ความว่า…ความตายนั้นเป็นของน่ากลัวสำหรับมนุษย์และสัตว์ สำหรับสัตว์เมื่อกลัวแล้วก็ได้แต่วิ่งหนีอะไรที่มันนึกว่าจะทำให้มันตายได้ มันก็หลบไปชั่วครั้งชั่วคราวไปจนกว่ามันจะตายจริง ! แต่สำหรับมนุษย์นั้น มีปัญหารู้ได้ว่า ตัวเองนั้นจะต้องตายแน่ ถึงจะไปทางไหนก็ต้องตายจนได้ในวันหนึ่งวันใด แต่ก็ไม่อยากตาย อยากมีชีวิตอยู่ไปนาน ๆ ถึงจะเจ็บไข้พิการอย่างไรก็ยังขอให้มีชีวิตเอาไว้ !!
    ดังนั้นหากมีวิธีใดที่ยืดอายุได้ก็จะรีบทำ แม้กระทั่งหาพระหาเจ้าช่วยก็ต้องเอา คนทั่วไปคิดถึงเรื่องความตายเป็นของน่ากลัวเพราะอะไรนั้นหรือ ? ก็เพราะความหวงและห่วงชีวิตนี้ประการหนึ่ง ด้วยความไม่รู้ว่าตายแล้วจะเป็นอย่างไรอีกประการหนึ่ง
    และประการสุดท้าย คือ คนไม่รู้ว่าตายแล้วไปไหน !
    เพราะตอนนี้ชีวิตอยู่ทั้งบุญและบาปที่ทำไว้นั้นจะติดตามไปหรือไม่ ?

    ด้วยเหตุนี้คนจึงกลัวความตายกันอย่างมาก ! ภาวะจิตของหลวงพ่อลียังคิดต่อไปอีกว่า เกิดก็ทุกข์ ตายก็ทุกข์..แล้วจะไปคิดถึงเรื่องความตายทำไมให้เสียเวลา…เมื่อตายแล้วยังมีที่ไป ก็แปลว่าตายแล้วก็ต้องไปเกิดอีก เมื่อเกิดอีกทีก็ต้องทุกข์อีก “สู้มานั่งคิดว่า ทำอย่างไรตายแล้วจะไม่เกิดไม่ดีกว่าหรือ ?!” ใช่แล้ว…พุทธศาสนามีคำตอบ คือ นิพพาน เป็นสถานที่ไม่มีทุกข์ เพราะไม่เกิดอีก เป็นการดับสูญโดยสิ้นเชิง
    เมื่อหลวงพ่อลีคิดได้เช่นนี้ ความกลัวตายจึงมลายหายไปสิ้น หายใจเข้าก็ตาย หายใจออกก็ตาย หลวงพ่อจึงมอง เห็นความตายเหมือนสายฟ้าแลบ เกิดขึ้นแล้วหายไปชั่วพริบตา

    รุ่งขึ้น…เวลาบ่าย ๆ ช้างตกมันเชือกนั้นตะเวนมาหยุดห่างที่หลวงพ่อปักกลดเพียง ๒๐ วา ท่านก็มิได้ตระหนักกลัว แต่อย่างใด กลับแผ่เมตตาจิตให้มัน เจ้าช้างตกมันเชือกนั้นจ้องมาทางท่านเป็นเวลาเกือบ ๑๐ นาที แล้วมันก็หันหลังกลับเดินเข้าป่า เช้าวันต่อมามีญาติโยมที่ต่าง ๆ ทราบข่าวว่าช้างตกมันไม่สามารถทำอะไรหลวงพ่อลีได้ พากันมากราบนมัสการท่านเพื่อขอของดีไปป้องกันตัวกันมากมาย
    หลวงพ่อกล่าวว่า

    “ของดีของอาตมานั้น คือ ความเมตตา”

    1524550387_574_อำนาจเมตตาแห่งอิทธิพุท.jpg

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  4. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  5. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ครูบาอาจารย์ที่จะแนะอรรถแนะธรรมทุกวันนี้มีน้อยมากแล้วนะ จะไม่มีแหละ
    พระปฏิบัติมีเต็มบ้านเต็มเมืองแต่จะหาสาระสำคัญจริง ๆ
    นำมาอวดเพื่อนฝูงด้วยกันตามความจริงที่รู้ที่เห็นมานั้นมีจำนวนน้อยมาก
    เพราะเหตุไร ก็เพราะวัตถุเหยียบย่ำทำลายนั่นเองไม่ใช่อะไรนะ
    วัตถุตัวสำคัญเหยียบย่ำทำลายมาก วัตถุเจริญเท่าไรจิตใจยิ่งเสื่อมลงมาก ๆ
    ไม่ว่าทางโลกทางธรรมเป็นอย่างนั้นเดี๋ยวนี้ กระดาษเขาเสกขึ้นมาเขาเป่าขึ้นมา
    สมมุติขึ้นมาเป็นเงินก็เผาหัวใจพระเราจนได้ ทั้ง ๆ ที่ก็รู้อยู่แล้วว่ากระดาษ
    เอาไปมวนบุหรี่สูบก็เหม็นเขียวจะตายไป ก็หลง
    .
    หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
    เทศน์อบรมพระ ณ วัดป่าบ้านตาด
    เมื่อวันที่ ๑๓ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๒๒
    “ศากยบุตรปฏิบัติอย่างไร”

    .jpg

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  6. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ูลเหตุที่หลวงตามหาบัวออกมาช่วยชาติ
    ุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดจากกรรม
    ไม่มีสิ่งใดที่ปรากฏเป็นเรื่องที่บังเอิญ

    เรื่อง “อดีตชาติท่านพ่อลี เป็นพระเจ้าอโศกมหาราช”
    “อดีตชาติหลวงตามหาบัว เป็นสมเด็จพระนเรศวรฯ”

    (ปกิณกธรรม หลวงปู่ชอบ ฐานสโม)

    หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ท่านพูดถึงอดีตของ ท่านพ่อลี ธัมมธโร และหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ไว้ดังนี้

    หลวงปู่ชอบ (ฐานสโม) ท่านกล่าวว่า

    “ท่านมหาบัว บารมีเพิ่นเคยเป็นกษัตริย์กู้ชาติศาสนามาก่อน ครั้งอยู่บ้านหนองผือนาใน สกลนคร พ่อแม่ครูอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทัตโต เว้าให้เฮากับอาจารย์ขาว (หลวงปู่ขาว อนาลโย) ฟังว่า

    “มหาบัว นี่บารมีหลาย อดีตท่านมหาบัว เคยเป็นกษัตริย์กู้ชาติศาสนาคือกันกับพระเจ้าอโศก”

    โยมแป๋ว ปนัดดา ถาม หลวงตามหาบัว ท่านเคยเกิดเป็นพระเจ้าอโศกหรือเจ้าคะหลวงปู่ ?

    หลวงปู่ชอบ(ฐานสโม) ตอบว่า

    “บ่แม่น อดีตพระเจ้าอโศกมหาราช
    คือ อาจารย์ลี วัดอโศการาม (ท่านพ่อลี ธัมมธโร)”

    หลวงปู่ชอบ(ฐานสโม) ปรารภต่ออีกว่า

    “อดีตอาจารย์มหาบัว คือพระเจ้านเรศ ผู้ขี่ซ้างฟันคอพม่า ในชาตินั้นท่านมหาบัว เกิดเป็นพระเจ้านเรศ ธรรมลี(หลวงปู่ลี กุสลธโร) เกิดเป็นซ้างคู่บารมีให้พระเจ้านเรศขี่คอรบกับพม่า”

    บันทึกโดย..ครูบากล้วย..พระวีระศักดิ์ ธีรภัทโท
    คักลอกบางส่วน จากตอน ครูบาหนูบ่อ (๒๕๓๖)

    1524583447_917_มูลเหตุที่หลวงตามหาบัว.jpg

    ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น
     
  7. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ูลเหตุที่หลวงตามหาบัวออกมาช่วยชาติ
    ุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดจากกรรม
    ไม่มีสิ่งใดที่ปรากฏเป็นเรื่องที่บังเอิญ

    เรื่อง “อดีตชาติท่านพ่อลี เป็นพระเจ้าอโศกมหาราช”
    “อดีตชาติหลวงตามหาบัว เป็นสมเด็จพระนเรศวรฯ”

    (ปกิณกธรรม หลวงปู่ชอบ ฐานสโม)

    หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ท่านพูดถึงอดีตของ ท่านพ่อลี ธัมมธโร และหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ไว้ดังนี้

    หลวงปู่ชอบ (ฐานสโม) ท่านกล่าวว่า

    “ท่านมหาบัว บารมีเพิ่นเคยเป็นกษัตริย์กู้ชาติศาสนามาก่อน ครั้งอยู่บ้านหนองผือนาใน สกลนคร พ่อแม่ครูอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทัตโต เว้าให้เฮากับอาจารย์ขาว (หลวงปู่ขาว อนาลโย) ฟังว่า

    “มหาบัว นี่บารมีหลาย อดีตท่านมหาบัว เคยเป็นกษัตริย์กู้ชาติศาสนาคือกันกับพระเจ้าอโศก”

    โยมแป๋ว ปนัดดา ถาม หลวงตามหาบัว ท่านเคยเกิดเป็นพระเจ้าอโศกหรือเจ้าคะหลวงปู่ ?

    หลวงปู่ชอบ(ฐานสโม) ตอบว่า

    “บ่แม่น อดีตพระเจ้าอโศกมหาราช
    คือ อาจารย์ลี วัดอโศการาม (ท่านพ่อลี ธัมมธโร)”

    หลวงปู่ชอบ(ฐานสโม) ปรารภต่ออีกว่า

    “อดีตอาจารย์มหาบัว คือพระเจ้านเรศ ผู้ขี่ซ้างฟันคอพม่า ในชาตินั้นท่านมหาบัว เกิดเป็นพระเจ้านเรศ ธรรมลี(หลวงปู่ลี กุสลธโร) เกิดเป็นซ้างคู่บารมีให้พระเจ้านเรศขี่คอรบกับพม่า”

    บันทึกโดย..ครูบากล้วย..พระวีระศักดิ์ ธีรภัทโท
    คักลอกบางส่วน จากตอน ครูบาหนูบ่อ (๒๕๓๖)

    .jpg

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  8. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    เรื่อง “กษัตริย์ไทยโบราณ ออกรบกู้ชาติ”

    (ปกิณกธรรม หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)

    หลวงตาท่านออกจากวัดทุ่งสามัคคีธรรมแล้ว ท่านเดินทางต่อไปดูที่เจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งหลวงตาท่านจะเดินทางไปดูอนุสาวรีย์พระนเรศวรทุกครั้งที่ท่านมาพำนักที่กรุงเทพฯ ท่านจะมองไปทุกภาพทุกมุมของอนุสาวรีย์ มีอยู่ครั้งหนึ่งท่านบอกกับลูกศิษย์จากที่ท่านเห็นภาพว่า

    “นี่คือ วิธีการรบแบบโบราณ พระเจ้าแผ่นดินออกรบ ปัจจุบันทหารออกรบ”

    (ข้อมูลจาก www.luangta.com)

    -กษัตริย์ไทยโบราณ.jpg

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  9. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    โอวาทธรรม : 1f538.png หลวงปู่เทศก์ เทศรังษี (กัณฑ์ที่ ๑๒) 1f538.png

    “วิธีเอาชนะข้าศึกภายในด้วยใจเย็น”

    อบรมคณะที่ติดตาม ณ วัดพรมวิหาร
    เมืองสิงหราช ประเทศ อินโดนีเซีย
    วันที่ ๑๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๐ เวลาค่ำ

    ✨✨✨✨✨✨
    ๒๔/๔/๒๕๖๑

    เรามาอินโดนีเซีย
    เที่ยวเกาะบาหลี

    ได้เห็นสภาพของบ้าน
    ซึ่งภัยธรรมชาติ แผ่นดินไหว

    ทำเอาบ้านเมืองแลวัดวาวินาศเสียหายไป

    เป็นอันมาก มีความรู้สึกเศร้าสลดใจเป็นอย่างยิ่ง

    แต่ก็ไม่ทราบจะทำอย่างไรได้

    เราเกิดมาพึ่งฟ้าดินอากาศเขาอยู่
    เขาเป็นไปตามสภาพของเขา

    แต่เมื่อเราพึ่งเขาอยู่
    เราก็ต้องเป็นไปตามเขา

    ที่อยู่ดีๆมาตั้งหลายปีมีความสุข
    เพิ่งมาเกิดแผ่นดินไหว

    ทำให้เดือดร้อนเป็นทุกข์หนเดียวเท่านั้น
    ขอให้อดทนสู้

    ไปคิดถึงแผ่นดินนี้
    ให้ความสุขแก่เรามาแล้วนานแสนนาน

    บุญคุณหนักหนา
    พึ่งมาได้รับทุกข์ครั้งเดียวเท่านี้

    เมื่อเอาความทุกข์มาลบกับสุขแล้ว
    สุขคงยังเหลือ มากกว่า

    เราพออยู่ไปได้
    เราคิดเสียอย่างนี้จึงไม่เป็นทุกข์

    ถึงทุกข์อย่างไร
    ของที่เราเสียไปแล้ว ก็ไม่กลับคืนมา

    ฉะนั้นจงอย่าไปคิดถึงมันเลยจะดีกว่า
    เรามีชีวิตอยู่หาใหม่ยังพอได้

    ชีวิตนี้เกิดมาเพื่อการต่อสู้
    ไหนๆเกิดมาเพื่อสู้แล้ว

    จงสู้มันไปจนกว่าจะถึงที่สุด

    ✨✨✨✨✨✨

    เราสู้สิ่งอื่น คนอื่น ไม่สำคัญเท่าสู้ตัวเราเอง
    อายตนะทั้ง ๖ ของเรามีอยู่ครบครัน

    เราไปไหนเอาไปด้วย
    ข้าศึกเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

    เพราะตาเห็นรูป
    หูฟังเสียง จมูกสูดกลิ่น ลิ้นถูกรส
    กายถูกสัมผัส ใจนึกคิดสิ่งต่างๆ

    แล้วก็เกิดความดีใจบ้าง
    เสียใจบ้าง ได้ทุกเมื่อ

    ยิ่งกว่าข้าศึกภายนอกเสียอีก
    เพราะมันเกิดได้ทุกขณะ

    ไม่ว่ากลางวัน กลางคืน แม้แต่ยืน
    เดินนั่งนอน มันก็เกิดขึ้นได้

    เด็กผู้ใหญ่ เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ไม่เลือก
    ตกลงตัวเราเป็นภัยแก่เราเอง

    เกิดมามีอวัยวะครบครัน
    แทนที่จะเป็นสุข

    อวัยวะเหล่านั้น
    และนำทุกข์มาให้ไม่มีสิ้นสุด

    นรกหกขุมนี้แวดล้อมหุ้มห่อ
    ตัวของเราอยู่
    หนีไปไหนก็ไม่พ้น

    ไหม้อยู่ตลอด ทั้งกลางวันและกลางคืน
    นี่ แหละมีของดีๆใช้ไม่เป็น จึงเป็นทุกข์

    1f537.png 1f537.png 1f537.png 1f537.png 1f537.png

    ผู้โพสต์คัดตัดตอนบางส่วนจาก
    “จากหนังสือโครงการหนังสือบูรพาจารย์”
    เล่ม ๑๐ หน้า ๕๙๗-๕๙๘

    หลวงปู่เทศก์ เทศรังษี
    วัดหินหมากเป้ง อำเภอศรีเชียงใหม่
    จังหวัดหนองคาย

    ผู้บันทึก/บอกเล่า :หลวงปู่เทสก์ เทศรังสี
    เรียบเรียงโดย : รศ.ดร ปฐม-รศ.ภัทรา นิคมานนท์

    1f537.png 1f537.png 1f537.png 1f537.png 1f537.png

    1f3c1.png จุดประสงค์ธรรมทาน
    เพื่อเตือนใจในการปฏิบัติ
    เข้าใจในบาป บุญ คุณ โทษ
    และระลึกถึงแนวคำสอนที่ถูกต้องของจริง
    ข้อปฏิบัติของครูบาอาจารย์

    ผู้โพสต์พิมพ์ใหม่จากหนังสือบทความคำสอน
    ลง Facebook
    แชร์ได้ ไม่ต้องขออนุญาต
    เพราะเป็นของครูบาอาจารย์

    หากตกหล่นประการใด
    ขออภัย สาธุชน ณ โอกาสนี้ครับ
    ขอขอบคุณผู้มีส่วนเผยแพร่
    เจ้าของรูปประกอบในธรรม
    และผู้กด Like กดแชร์ ทุกท่าน
    ้าพเจ้าผู้โพสต์ขออนุโมทนาบุญอานิสงส์
    ันไพศาลนี้จงมีแด่ทุกท่านที่ได้สดับอ่านและเผยแพร่ครับ

    1f537.png 1f537.png 1f537.png 1f537.png 1f537.png

    -หลวงปู่เทศก์.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  10. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ูลเหตุที่หลวงตามหาบัวออกมาช่วยชาติ
    ุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดจากกรรม
    ไม่มีสิ่งใดที่ปรากฏเป็นเรื่องที่บังเอิญ

    เรื่อง “อดีตชาติท่านพ่อลี เป็นพระเจ้าอโศกมหาราช”
    “อดีตชาติหลวงตามหาบัว เป็นสมเด็จพระนเรศวรฯ”

    (ปกิณกธรรม หลวงปู่ชอบ ฐานสโม)

    หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ท่านพูดถึงอดีตของ ท่านพ่อลี ธัมมธโร และหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ไว้ดังนี้

    หลวงปู่ชอบ (ฐานสโม) ท่านกล่าวว่า

    “ท่านมหาบัว บารมีเพิ่นเคยเป็นกษัตริย์กู้ชาติศาสนามาก่อน ครั้งอยู่บ้านหนองผือนาใน สกลนคร พ่อแม่ครูอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทัตโต เว้าให้เฮากับอาจารย์ขาว (หลวงปู่ขาว อนาลโย) ฟังว่า

    “มหาบัว นี่บารมีหลาย อดีตท่านมหาบัว เคยเป็นกษัตริย์กู้ชาติศาสนาคือกันกับพระเจ้าอโศก”

    โยมแป๋ว ปนัดดา ถาม หลวงตามหาบัว ท่านเคยเกิดเป็นพระเจ้าอโศกหรือเจ้าคะหลวงปู่ ?

    หลวงปู่ชอบ(ฐานสโม) ตอบว่า

    “บ่แม่น อดีตพระเจ้าอโศกมหาราช
    คือ อาจารย์ลี วัดอโศการาม (ท่านพ่อลี ธัมมธโร)”

    หลวงปู่ชอบ(ฐานสโม) ปรารภต่ออีกว่า

    “อดีตอาจารย์มหาบัว คือพระเจ้านเรศ ผู้ขี่ซ้างฟันคอพม่า ในชาตินั้นท่านมหาบัว เกิดเป็นพระเจ้านเรศ ธรรมลี(หลวงปู่ลี กุสลธโร) เกิดเป็นซ้างคู่บารมีให้พระเจ้านเรศขี่คอรบกับพม่า”

    บันทึกโดย..ครูบากล้วย..พระวีระศักดิ์ ธีรภัทโท
    คักลอกบางส่วน จากตอน ครูบาหนูบ่อ (๒๕๓๖)

    1524584888_177_มูลเหตุที่หลวงตามหาบัว.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  11. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    หลวงปู่ชา สุภทฺโท ท่านเตือนว่า … “ระวังจิตที่คิดผิด”

    ….เคยเห็นผู้ปฏิบัติธรรม ชอบเข้าวัดฟังเทศน์ฟังธรรม แต่เมื่อใดใจไม่สบาย บางทีก็ไปหาหมอดู ให้เขาดู ว่าเป็นอะไรไหม?

    หมอดูทายว่าปีนี้ระวังนะ ไปรถไปเรือต้องระวังอุบัติเหตุ คนที่ไม่รู้เรื่องกรรม ไม่เชื่อการกระทำของตัวเองก็กลัว

    กลัวจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้

    นี่คือ จิตที่คิดผิด ไม่มีปัญญา ไม่มีการพิจารณา

    ให้ทำจิตใจเชื่อมั่นในการกระทำ เชื่อเหตุผล เชื่อมั่นในความจริง ไม่ตื่นเต้นกับคำเล่าลือ เรื่องมงคลตื่นข่าว ไม่ตื่นเต้นกับอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ เป็นผู้อยู่นิ่งด้วยปัญญา เชื่อว่าทุกอย่างเกิดจากเหตุ ถ้าต้องการผลดี ก็ต้องทำเหตุที่ดี.

    “หลวงปู่ชา สุภทฺโท”

    -สุภทฺโท-ท่านเต.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  12. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  13. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  14. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  15. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  16. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    โอวาทธรรม : 1f538.png หลวงปู่เทศก์ เทศรังษี

    (กัณฑ์ที่ ๑๒) 1f538.png บทที่ ๒ (ตอนจบกัณฑ์)

    “วิธีเอาชนะข้าศึกภายในด้วยใจเย็น”

    อบรมคณะที่ติดตาม ณ วัดพรมวิหาร
    เมืองสิงหราช ประเทศ อินโดนีเซีย
    วันที่ ๑๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๐ เวลาค่ำ

    ✨✨✨✨✨✨

    ๒๕/๔/๒๕๖๑

    พระพุทธเจ้าสอนให้เรา
    รู้จักใช้ของเหล่านั้นให้เป็นประโยชน์

    มีตาเห็นรูปดีแล้ว
    ถ้าไม่มีตา ก็จะไม่เห็นรูป

    มีหูได้ยินเสียงก็ดีแล้ว
    ถ้าไม่มีหูจะไม่ได้ยินเสียง

    บางคนยังเอาหูเทียมมาใส่
    เพราะหูฟังไม่ได้ยิน

    มีจมูกได้ดมกลิ่นก็ดีแล้ว
    ถ้าไม่มีจมูกก็จะไม่รู้สึกกลิ่นเหม็น กลิ่นหอม

    มีกายได้รู้จักสัมผัสเย็นร้อน

    อ่อนแข็งก็ดีแล้ว
    ถ้าไม่มีกายก็จะไม่รู้สัมผัสร้อนเย็นอ่อนแข็ง

    มีใจไว้คิดนึกรู้สิ่งต่างๆก็ดีแล้ว
    ถ้าไม่มีใจ ก็คือคนตายแล้ว

    จะมีประโยชน์อะไร

    ✨✨✨✨✨✨

    มีของเหล่านั้นแล้ว
    ใช้ให้ถูกตามหน้าที่ของมัน

    ถ้าใช้ก้าวก่ายหน้าที่ ของกันแลกันแล้ว
    มันยุ่ง ตกนรกทั้งเป็น

    และเห็นจำเป็นที่ต้องใช้ประจำ
    เมื่อใช้แล้วจงเก็บไว้ให้ดี

    (คือใช้สักแต่ว่าใช้อย่าเอามาเป็นของตัว)

    ใช้อย่างนี้เรียกว่า ใช้เป็น
    เป็นคุณประโยชน์แก่ตัว

    ตาหู จมูก ลิ้น กายใจของเรา
    เลยกลายเป็นสวรรค์ ๖ ชั้น

    ขึ้นมาในตัวของเรานี้

    เราจะต้องต่อสู้กับข้าศึกภายใน
    อันเกิดจากอายตนะทั้ง ๖

    โดยจับตัวผู้สั่งการ(คือใจ)ได้เสียก่อน
    ถ้าผู้สั่งการไม่เอาเรื่องแล้ว

    อายตนะทั้ง ๖ ก็ไปไม่รอด

    อายตนะทั้ง ๖ ก็สักแต่ว่าทำงานตามหน้าที่
    ที่ไม่ได้ทำให้ใจนั้น มัวหมอง

    เพราะเรารู้เท่าเสียแล้ว
    นี้วิธีเอาชนะข้าศึกภายในด้วยใจเย็นๆ

    ✨✨✨✨✨✨

    1f537.png 1f537.png 1f537.png 1f537.png 1f537.png

    ผู้โพสต์คัดตัดตอนบางส่วนจาก
    “จากหนังสือโครงการหนังสือบูรพาจารย์”
    เล่ม ๑๐ หน้า ๕๙๘-๕๙๙

    หลวงปู่เทศก์ เทศรังษี
    วัดหินหมากเป้ง อำเภอศรีเชียงใหม่
    จังหวัดหนองคาย

    ผู้บันทึก/บอกเล่า :หลวงปู่เทสก์ เทศรังสี
    เรียบเรียงโดย : รศ.ดร ปฐม-รศ.ภัทรา นิคมานนท์

    1f537.png 1f537.png 1f537.png 1f537.png 1f537.png

    1f3c1.png จุดประสงค์ธรรมทาน
    เพื่อเตือนใจในการปฏิบัติ
    เข้าใจในบาป บุญ คุณ โทษ
    และระลึกถึงแนวคำสอนที่ถูกต้องของจริง
    ข้อปฏิบัติของครูบาอาจารย์

    ผู้โพสต์พิมพ์ใหม่จากหนังสือบทความคำสอน
    ลง Facebook
    แชร์ได้ ไม่ต้องขออนุญาต
    เพราะเป็นของครูบาอาจารย์

    หากตกหล่นประการใด
    ขออภัย สาธุชน ณ โอกาสนี้ครับ
    ขอขอบคุณผู้มีส่วนเผยแพร่
    เจ้าของรูปประกอบในธรรม
    และผู้กด Like กดแชร์ ทุกท่าน
    ้าพเจ้าผู้โพสต์ขออนุโมทนาบุญอานิสงส์
    ันไพศาลนี้จงมีแด่ทุกท่านที่ได้สดับอ่านและเผยแพร่ครับ

    1f537.png 1f537.png 1f537.png 1f537.png 1f537.png

    1524671166_46_โอวาทธรรม-หลวงปู่เทศก์.jpg

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  17. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ประมวลภาพ โครงการธรรมะสัญจรวัดป่ากรรมฐาน ครั้งที่ 8 จำนวน 11 วัด ในวันที่ 6-8 เมษายน พ.ศ.2561 ณ จังหวัดอุบลราชธานี-สุรินทร์-บุรีรัมย์-นครราชสีมา จัดโดยชุมนุมพุทธธรรมกรรมฐาน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

    -โครงการธรรมะส.jpg
    ประมวลภาพ โครงการธรรมะสัญจรวัดป่ากรรมฐาน ครั้งที่ 8 จำนวน 11 วัด ในวันที่ 6-8 เมษายน พ.ศ.2561 ณ จังหวัดอุบลราชธานี-สุรินทร์-บุรีรัมย์-นครราชสีมา จัดโดยชุมนุมพุทธธรรมกรรมฐาน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

    ****************************

    1. วัดป่าศรีมงคล ต.โนนกาเล็น อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี (หลวงปู่สี สิริญาโณ)
    2. วัดแสงธรรมวังเขาเขียว ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา (หลวงพ่อโสภา สมโณ)
    3. วัดป่าเขาภูหลวง ต.ระเริง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา (หลวงปู่ไม อินทสิริ)
    4. วัดป่าทรัพย์ทวี ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา (หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม)
    5. วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา (หลวงปู่เมตตาหลวง)
    6. สำนักสงฆ์บ้านไร่ทอสี ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา (พระอาจารย์ชยสาโร)
    7. วัดถ้ำซับมืด จ.จันทึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา (หลวงปู่ทา จารุธัมโม , หลวงปู่สุพีร์ สุสัญญโม)
    8. วัดป่าภูหายหลง ต.วังกะทะ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา (หลวงพ่อประพันธ์ อนาวิโล)
    9. วัดเขาใหญ่เจริญธรรมญาณสัมปันโน ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา (หลวงปู่อุทัย สิริธโร)
    10. วัดกระดึงทอง ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ (หลวงปู่เหลือง ฉันทาคโม)
    11. วัดบูรพาราม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ (หลวงปู่ดูลย์ อตุโล , หลวงปู่สมศักดิ์ ปัณฑิโต)

    ****************************

    กำหนดการ

    -:- วัน ศุกร์ ที่ 6 เมษายน 2561 -:-

    เวลา 05.00 น. เริ่มลงทะเบียนที่ห้องประชุม ชั้น 1 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
    เวลา 05.30 น. จัดที่นั่งบนรถ
    เวลา 06.00 น. รถบัสออกเดินทางจากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
    เวลา 07.00 น. ถึงวัดป่าศรีมงคล ต.โนนกาเล็น อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี , ตักบาตรและนมัสการหลวงปู่สี สิริญาโณ , รับประทานอาหารเช้าที่วัด
    เวลา 09.30 น. ออกเดินทางไปวัดแสงธรรมวังเขาเขียว ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
    เวลา 14.30 น. ถึงวัดแสงธรรมวังเขาเขียว ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา , สักการะเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล และนมัสการหลวงพ่อโสภา สมโณ
    เวลา 16.00 น. ออกเดินทางไปวัดป่าเขาภูหลวง ต.ระเริง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
    เวลา 17.00 น. ถึงวัดป่าเขาภูหลวง ต.ระเริง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา , นมัสการหลวงปู่ไม อินทสิริ , เก็บสัมภาระเข้าที่พัก , ทำภารกิจส่วนตัว
    เวลา 19.00 น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น , อบรมธรรมะ , นั่งสมาธิภาวนา , ตอบปัญหาธรรมะ
    เวลา 20.30 น. แยกย้ายกันพักผ่อนตามอัธยาศัย

    -:- วัน เสาร์ ที่ 7 เมษายน 2561 -:-

    เวลา 05.00 น. ตื่นนอน , ทำภารกิจส่วนตัว
    เวลา 06.00 น. ออกเดินทางไปวัดป่าทรัพย์ทวี ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
    เวลา 07.00 น. ถึงวัดป่าทรัพย์ทวี ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา , ตักบาตรและนมัสการหลวงพ่อกัณหา สุขกาโม , รับประทานอาหารเช้าที่วัด
    เวลา 09.30 น. ออกเดินทางไปวัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
    เวลา 10.30 น. ถึงวัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา (หลวงปู่เมตตาหลวง) , สักการะพระพุทธสกลสีมามงคล หรือ หลวงพ่อขาว
    เวลา 12.00 น. ออกเดินทางไปสำนักสงฆ์บ้านไร่ทอสี ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
    เวลา 13.00 น. ถึงสำนักสงฆ์บ้านไร่ทอสี ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา , นมัสการพระอาจารย์ชยสาโร
    เวลา 14.15 น. ออกเดินทางไปวัดถ้ำซับมืด ต.จันทึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
    เวลา 15.00 น. ถึงวัดถ้ำซับมืด ต.จันทึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา , สักการะเจดีย์หลวงปู่ทา จารุธัมโม และนมัสการหลวงปู่สุพีร์ สุสัญญโม
    เวลา 16.15 น. ออกเดินทางไปวัดป่าภูหายหลง ต.วังกะทะ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
    เวลา 17.30 น. ถึงวัดป่าภูหายหลง ต.วังกะทะ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา , นมัสการหลวงพ่อประพันธ์ อนาวิโล , เก็บสัมภาระเข้าที่พัก , ทำภารกิจส่วนตัว
    เวลา 19.00 น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น , อบรมธรรมะ , นั่งสมาธิภาวนา ,ตอบปัญหาธรรมะ
    เวลา 20.30 น. แยกย้ายกันพักผ่อนตามอัธยาศัย

    -:- วัน อาทิตย์ ที่ 8 เมษายน 2561 -:-

    เวลา 05.00 น. ตื่นนอน , ทำภารกิจส่วนตัว
    เวลา 06.00 น. ออกเดินทางไปวัดเขาใหญ่เจริญธรรมญาณสัมปันโน ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
    เวลา 07.00 น. ถึงวัดเขาใหญ่เจริญธรรมญาณสัมปันโน ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา , ตักบาตรและนมัสการหลวงปู่อุทัย สิริธโร , รับประทานอาหารเช้าที่วัด
    เวลา 09.30 น. ออกเดินทางไปวัดกระดึงทอง ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์
    เวลา 12.30 น. ถึงวัดกระดึงทอง ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ , นมัสการหลวงปู่เหลือง ฉันทาคโม
    เวลา 13.30 น. ออกเดินทางไปวัดบูรพาราม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์
    เวลา 15.00 น. ถึงวัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ , ชมพิพิธภัณฑ์กัมมัฏฐานหลวงปู่ดูลย์ อตุโล และนมัสการหลวงปู่สมศักดิ์ ปัณฑิโต
    เวลา 16.30 น. ออกเดินทางกลับอุบลราชธานี
    เวลา 19.30 น. ถึงมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี โดยสวัสดิภาพ

    ****************************

    ที่มา พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  18. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    เรื่อง “พระนิพพานไม่มีเพศ จิตไม่มีเพศ”

    (ข้อมูลจาก คุณNiti Wattana)
    (เพจ กลุ่มเด็กวัดป่า ฯ มดงาน)

    อริยสาวิกาผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบในอดีตจนถึงปัจจุบัน

    ๑. คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม แห่งวัดอาวุธวิกสิตาราม ผู้ได้ฌาน ๔ และอภิญญา ๖ มรณภาพแล้ว อัฐิธาตุแปรเป็นพระธาตุ

    ๒.แม่ชีแพง โลหิตดี โยมแม่ขององค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

    ๓.ท่าน ก.เขาสวนหลวง ผู้เป็นอริยสาวิกาที่องค์หลวงตารับรอง แห่งสำนักปฏิบัติธรรมเขาสวนหลวง

    ๔.แม่ชีนารี การุณ ผู้ที่เคยอยู่ปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต โดยองค์หลวงปู่มั่นท่าน ทราบด้วยญาณจึงส่งพระมา ๓ รูป คือ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หลวงพ่อสมบูรณ์ ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก พร้อมด้วยบริขาลมาทำการบวชให้ และในอดีตชาติท่านเคยเป็นมารดาของหลวงปู่หลุย จันทาสาโร และยังเคยเป็นน้องของหลวงปู่คำคะนิง (ในอดีตชาติ) ที่ผู้เคยทดลองวิชากับหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค

    ๕.แม่จันดี โลหิตดี โยมน้องสาวหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หลวงปู่ลี กุสลธโร วัดเกษรศีลคุณธรรมเจดีย์ (วัดภูผาแดง) อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ท่านกล่าวว่า “คุณแม่จันดีจิตเพิ้นสะอาดดีแล้ว บ่ต้องสรงน้ำให้เพิ้นก็ได้” (ขาวสะอาดทั้งกายและใจ ตลอดจนจิตของท่านเอง)

    ๖.แม่ชีแก้ว เสียงล้ำ มหาอริยสาวิกา ผู้ที่ถวายที่ดินให้กับองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ในการสร้างวัดหนองน่อง และก่อนองค์ท่านหลวงปู่มั่นกับคณะพระจะธุดงค์จากไป หลวงปู่มั่นได้ปรารภกับคุณแม่ชีแก้วว่า “หากเจ้าเป็นผู้ชาย เราจะให้บวชเป็นเณรและให้ติดตามไปด้วย แต่นี่เป็นหญิงไปด้วยก็ลำบากต่อพระธรรมพระวินัย และสั่งว่าให้หยุดภาวนา ตั้งแต่นี้ต่อไปให้ใช้กรรมไปตามประสาโลก กาลต่อไปข้างหน้าจะมีผู้มาสั่งสอน” และต่อมาผู้สั่งสอนแม่ชีแก้ว ก็คือ องค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน จนท่านได้บรรลุธรรม และอัฐิธาตุของท่านได้แปรเป็นพระธาตุ

    ๗.แม่ชียายวัลย์ นานายน น้องสาวของท่าน ก.เขาสวนหลวง เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมเขาสวนหลวง คนที่สองต่อจากพี่สาวของท่านเอง

    ๘.หลวงแม่ชีอุ่น ไร่พิมาย โยมแม่หลวงพ่อฉลวย อาภาธโร (หลวงพ่อผู้ติดดิน) ผู้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ แห่งวัดโคกปราสาท อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา และท่านบรรลุธรรมในวินาทีสุดท้ายก่อนละสังขารบนศาลาวัดโคกปราสาท

    ๙.แม่ชีโสดา โสสุด ธิดาธรรมพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ “ผู้ถอดกายทิพย์ เหาะเหนือภูทอก” และฉายา”โสสุด”นี้องค์ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ท่านเป็นผู้ตั้งฉายาให้คุณแม่ในอุบายทางธรรม ถ้าท่านใดแวะไป อ.บ้านม่วง จ.สกลรคร ก็สามารถแวะเข้าไปกราบเจดีย์บรรจุอัฐิธาตคุณแม่ที่แปรเป็นพระธาตุได้ที่สำนักปฏิบัติธรรมทิพยสถานวิสุทธิมรรค บ้านดงหม้อทอง

    ๑๐.อาจารย์รัญจวน อินทรกำแหง ศิษย์หลวงปู่ชา สุภัทโท และท่านพุทธทาสภิกขุผู้ที่ให้ความไว้วางใจแก่เพศหญิงอย่างเต็มที่ด้วยประโยคที่ว่า “เพศหญิงสอนเพศหญิงด้วยกันได้ดีกว่า สะดวกกว่า ผลแนบเนียนกว่า” “ใช่ว่าบุรุษจะเป็นบัณฑิตไปเสียในที่ทุกแห่ง ก็หาไม่, แม้สตรี เมื่อใช้วิจักขณญาณ อยู่ในที่นั้นๆ ก็เป็นบัณฑิตได้” และการที่ท่านอาจารย์ได้ดำริให้จัดตั้งธรรมาศรมธรรมมาตา เพื่อให้เพศหญิงได้มีโอกาสศึกษาธรรมและปฏิบัติธรรมได้เต็มที่ แล้วเผยแผ่และสืบอายุพระพุทธศาสนาได้สูงสุด ในลักษณะธรรมฑูตหญิง เป็นการเสริมแทนภิกษุณีบริษัทที่ยังขาดอยู่”

    ๑๑.คุณยายหมออุไรวรรณ ผู้ถวายที่ดินสร้างสวนแสงธรรมคุณยายถวายที่ดินให้หลวงตามหาบัว ท่านจะไม่รับของใครง่ายๆ แต่สำหรับรายคุณยาย หลวงตาได้รับไว้ด้วยความเมตตา และท่านคงเล็งเห็นว่าสถานที่นี้จะทำประโยชน์ให้กับพุทธศาสนาได้มาก คุณยายรู้ถึงนิสัยอาจารย์ของท่านว่า ละเอียด รอบคอบ คุณยายเองก็เร่งจิตตภาวนาไปด้วย เช่นการงดพูด ดูจิต ออกจากการเร่งความเพียรคุณยายก็จะตรวจสอบอารมณ์ของท่านเสมอ

    ๑๒.แม่ชีพิมพา วงศาอุดม ผู้ที่หลวงปู่เทสก์ ยกย่องและได้รับสมยานามจากหลวงปู่ว่า “ผู้หญิงใจสิงห์” และหลวงปู่เขียนได้พูดไว้ว่า “ชีพิมพาเป็นผู้หญิงใจสิงห์คนหนึ่ง ออกปฏิบัติกัมมัฎฐานยอมสละชีวิตอย่างไม่เสียดายอะไรเลย ไม่ยอมแพ้ผู้ชายอกสามศอก ได้ต่อสู้กับโจรปล้นฆ่าคนมาสองครั้ง เสือและงูใหญ่อย่างละครั้ง ผีนับครั้งไม่ถ้วน อย่างไม่มีอาวุธอะไร นอกจากบารมี และอธิษฐานเป็นอาวุธ แต่ก็ได้ชัยชนะอย่างที่ทึ่งใจ”

    ๑๓.คุณยายชีนวล แสงทอง ผู้ดำเนินตามรอยสำเร็จลุน อริยสาวิกาผู้ซ่อนกายแห่งวัดภูฆ้องคำ บ.ดงตาหวาน อ.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี ผู้มีความเป็นอยู่อย่างไร้ร่อยรอย หลวงปู่คำพันธ์ได้เห็นยายชีนวลครั้งแรกได้ออกปากว่า ‘ยายชีผู้นี้ไม่ใช่เล่น เป็นคนมีวิชาเต็มตัว’

    ปล.ยังมีอุบาสิกาผู้ฏิบัติดีปฏิบัติชอบอีกหลายท่าน ที่ข้าน้อยไม่ไดนำมาลงโดยมิได้มีเจตนาจะปรามาสประการใดเพียงแต่ไม่สามารถสืบค้นหาข้อมูลมา ณ โอกาสนี้ได้ ข้าน้อยขอน้อมกราบในธรรมทุกประการด้วยขอรับ

    Cr. ข้อมูลและภาพจากหลายแหล่ง อนุโมทนาครับ

    -พระนิพพานไม่มีเพ.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  19. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  20. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...