ธรรมะจากเพจต่างๆ พระสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย ธรรมะสายหลวงปู่มั่น, 6 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ภิกษุ ทั้งหลาย ! ถ้าแม้พวกเธอพึงตั้งไว้ซึ่งความเพียรอันไม่ถอยกลับ (ด้วยการอธิษฐานจิต) ว่า “ หนัง เอ็น กระดูก จักเหลืออยู่ เนื้อและเลือดในสรีระจักเหือดแห้งไปก็ตามที ประโยชน์ใด อันบุคคลจะบรรลุได้ด้วยกำลัง ด้วยความเพียร ด้วยความบากบั่นของบุรุษ ถ้ายังไม่บรรลุประโยชน์นั้นแล้ว จักหยุดความเพียรเสีย เป็นไม่มี ” ดังนี้แล้วไซร้
    ภิกษุ ทั้งหลาย ! พวกเธอก็จักกระทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ซึ่งที่สุดแห่งพรหมจรรย์ อันไม่มีอะไรอื่นยิ่งกว่า อันเป็นประโยชน์ที่ต้องการของกุลบุตร ผู้ออกบวชจากเรือน เป็นผู้ไม่มีเรือนโดยชอบได้ต่อกาลไม่นานในทิฏฐธรรมเข้าถึงแล้วแลอยู่ เป็นแน่นอน.

    -ทั้งหลาย-ถ้าแม้พว.jpg

    ที่มา พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  2. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    วันวิสาขบูชา นั้นได้รับการยกย่องจากพุทธศาสนิกชนทั่วโลกให้เป็นวันสำคัญสากลทางพระพุทธศาสนา เนื่องจากเป็นวันที่บังเกิดเหตุการณ์สำคัญ 3 เหตุการณ์ ที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธเจ้าและจุดเริ่มต้นของศาสนาพุทธ ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดได้เกิดขึ้นเมื่อ 2,500 กว่าปีก่อน ณ ดินแดนที่เรียกว่าชมพูทวีปในสมัยพุทธกาล โดยเหตุการณ์แรก เมื่อ 80 ปี ก่อนพุทธศักราช เป็น “วันประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ” ณ ใต้ร่มสาลพฤกษ์ ในพระราชอุทยานลุมพินีวัน (อยู่ในเขตประเทศเนปาลในปัจจุบัน) และเหตุการณ์ต่อมา เมื่อ 45 ปี ก่อนพุทธศักราช เป็น “วันที่เจ้าชายสิทธัตถะได้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ ตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จธรรมไชยโย” ณ ใต้ร่มโพธิ์พฤกษ์ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม (อยู่ในเขตประเทศอินเดียในปัจจุบัน) และเหตุการณ์สุดท้าย เมื่อ 1 ปี ก่อนพุทธศักราช เป็น “วันเสด็จดับขันธปรินิพพานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า” ณ ใต้ร่มสาลพฤกษ์ ในสาลวโนทยาน พระราชอุทยานของเจ้ามัลละ เมืองกุสินารา (อยู่ในเขตประเทศอินเดียในปัจจุบัน) โดยเหตุการณ์ทั้งหมดล้วนเกิดตรงกับวันเพ็ญเดือน 6 หรือเดือนวิสาขะนี้ทั้งสิ้น ชาวพุทธจึงนับถือว่าวันเพ็ญเดือน 6 นี้ เป็นวันที่รวมวันคล้ายวันเกิดเหตุการณ์สำคัญ ๆ ของพระพุทธเจ้าไว้มากที่สุด และได้นิยมประกอบพิธีบำเพ็ญบุญกุศลและประกอบพิธีพุทธบูชาต่าง ๆ เพื่อเป็นการถวายสักการะรำลึกถึงแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสืบมาจนปัจจุบัน

    https://th.m.wikipedia.org/wiki/วันวิสาขบูชา

    -นั้นได้รับ.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  3. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  4. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  5. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    1f538.png หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต 1f538.png แสดงธรรมในวันวิสาขบูชา

    ณ วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่

    ✨✨

    ๒๙-๕-๒๕๖๑



    ใจความสำคัญของธรรมท่าน

    แสดงในวันนั้นมีว่า วันนี้ตรงกับวัน วิสาขบูชา

    พระพุทธเจ้าเกิดกับสัตว์โลกเกิดต่างกันมาก

    ตรงที่ท่านเกิดแล้วไม่หลงโลกที่เกิด ที่อยู่ และที่ตาย มิหนำยังกลับรู้แจ้งที่เกิด

    ที่อยู่และที่ตายของพระองค์ด้วยพระปัญญาญาณโดยตลอดทั่วถึง

    ที่เรียกว่าที่ตายของพระองค์ด้วยพระปัญญาญาณโดยตลอดทั่วถึง ที่เรียกว่าตรัสรู้นั้นเอง

    เมื่อถึงกาลอันควรจากไปทรงลาขันธ์

    ที่เคยอาศัยเป็นเครื่องมือบำเพ็ญความดี มาจนถึงขั้นสมบูรณ์เต็มที่ แล้วจากไปแบบสุคโต

    สมเป็นศาสดาของโลกทั้งสามไม่มีที่น่าตำหนิแม้นิดเดียว

    ก่อนเสด็จจากไปโดยพระกายที่หมดทางเยียวยา

    ก็ได้ประทานพระธรรมไว้เป็นองค์แทนศาสดาซึ่งเป็นที่น่ากราบไหว้บูชา

    คู่พึ่งเป็นพึ่งตายถวายชีวิตจริงๆ เราทั้งหลายต่างเกิดมาด้วยวาสนา มีบุญพอเป็นมนุษย์ได้อย่างเต็มภูมิ

    ดังที่ทราบอยู่แก่ใจ แต่อย่าลืมวาสนาของตัว โดยลืมสร้างคุณงามความดี เสริมต่อภพชาติของเราที่เคยเป็นมนุษย์

    จะเปลี่ยนแปลงและกลับกลายหายไป ชาติต่ำทรามที่ไม่ปรารถนาจะกลายเป็นตัวเข้าแล้วแก้ก็ไม่ตก

    ความสูงศักดิ์ ความต่ำทรามความสุข ทุกชั้นจนถึงบรมสุขและความทุกข์ทุกขั้นจนเข้าขั้นมหันตทุกข์เหล่านี้

    มีได้กับทุกคนตลอดสัตว์ ถ้าตนเองทำให้มี เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสมบัติกลาง

    แต่กลับกลายมาเป็นสมบัติจำเพาะของผู้ผลิตผู้ทำก็ได้ ฉะนั้น ท่านจึงสอนไม่ให้ดูถูกเหยียดหยามกัน

    เมื่อเห็นเขาตกทุกข์หรือกำลังจนจนน่าทุเรศ เราอาจมีเวลาเป็นเช่นนั้นหรือยิ่งกว่านั้นก็ได้

    เมื่อถึงวาระเข้าจริงๆ ไม่มีใครมีอำนาจหลีกเลี่ยงได้เพราะกรรมดีชั่วเรามีทางสร้างได้เช่นเดียวกับผู้อื่น

    จึงมีทางเป็นได้เช่นเดียวกับผู้อื่น และผู้อื่นก็มีทางเป็นได้เช่นที่เราเป็นและเคยเป็น

    ศาสนาเป็นหลักวิชาตรวจตราดูตัวเองและผู้อื่นได้อย่างแม่นยำ และเป็นวิชาเครื่องเลือกเฟ้นได้อย่างดีเยี่ยม

    ไม่มีวิชาใดในโลกเสมอเหมือนนับแต่บวชและปฏิบัติมาอย่างเต็มกำลังจนถึงวันนี้ มิได้ลดละการตรวจราเลือกเฟ้นสิ่งดีสิ่งชั่วที่มี และเกิดอยู่กับตนทุกระยะ

    มีใจเป็นตัวการพาสร้างกรรมประเภทต่างๆ จนเห็นได้ชัดว่า กรรมมีอยู่กับผู้ทำ มีใจเป็นต้นเหตุของกรรมทั้งมวล ไม่มีทางสงสัย ผู้สงสัยกรรมหรือไม่เชื่อกรรมมีผล

    คือคนลืมตนจนกลายเป็นผู้มืดบอดอย่างช่วยอะไรไม่ได้ คนประเภทนั้น แม้เขาจะเป็นผู้มืดบอดอย่างช่วยอะไรไม่ได้

    คนประเภทนั้น แม้เขาจะเกิดและได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่ว่าได้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูตนมาอย่างไรบ้าง

    แต่เขาจะมองเห็นเฉพาะร่างกายเขา ที่เป็นคนซึ่งกำลังรกโลกอยู่โดยเจ้าตัวไม่รู้เท่านั้น

    ไม่สนใจคิดว่าเขาเกิดและเติบโตมาจากท่านทั้งสอง ซึ่งเป็นแรงหนุนร่างกาย ชีวิต จิตใจเขาให้เจริญเติบโตจนถึงปัจจุบัน

    การดื่มและการรับประทานอาหารทุกประเภท ล้วนเป็นการเสริมสร้างและความเจริญเติบโตแก่ร่างกาย

    ให้เป็นอยู่ตามกาลของมัน การทำเพื่อร่างกาย ถ้าไม่จัดว่าเป็นกรรมคือการทำจะควรจัดว่าอะไร

    สิ่งที่ร่างกายได้รับมาเป็นประจำถ้าไม่เรียกว่า ผลจะเรียกว่าอะไรจึงจะถูกตามความจริง ดี ชั่ว สุข ทุกข์ ที่สัตว์ทั่วโลกได้รับกันมาตลอดสาย

    ถ้าไม่มีแรงหนุนเป็นต้นเหตุอยู่แล้ว จะเป็นมาได้ด้วยอะไร ใจอยู่เฉยๆ ไม่คะนองคิดในลักษณะต่างๆ อันเป็นทางมาแห่งดีและชั่ว

    คนเราจะกินยาตายหรือฆ่าตัวตายได้ด้วยอะไร สาเหตุแสดงอยู่อย่างเต็มใจที่เรียกว่าตัวกรรมและทำคนจนถึงตาย

    ยังไม่ทราบว่าตนทำกรรมแล้ว ถ้าจะไม่เรียกว่ามืดบอด จะควรเรียกว่าอะไร กรรมอยู่กับตัวและตัวกรรมอยู่ทุกขณะ ผลก็เกิดอยู่ทุกเวลา ยังสงสัยหรือไม่เชื่อกรรมว่า และให้ผลแล้วก็สุดหนทาง

    ถ้ากรรมวิ่งตามคนเหมือนสุนัขวิ่งตามเจ้าของเขาก็เรียกว่า สุนัขนั้นเอง ไม่เรียกว่ากรรม นี่กรรมไม่ใช่สุนัข แต่คือการกระทำดีชั่วทางกาย วาจา ใจ ต่างหาก

    ผลจริงคือความสุขที่ได้รับกันอยู่ทั่วโลก กระทั่งสัตว์ผู้ไม่รู้จักกรรมรู้แต่กระทำคือหากิน

    ที่ทางศาสนาเรียกว่ากรรมของสัตว์ของบุคคล และผลกรรมของสัตว์ของบุคคล

    ✨✨✨



    จาก : รอยธรรม พระวิหารหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    รวบรวมโดย คณะศิษยานุศิษย์

    พิมพ์ครั้งที่ ๑ วันศุกร์ที่ ๗ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๖.

    หน้า ๔๐-๔๒

    บันทึกโดย : พระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน

    ผู้โพสต์ขอขอบพระคุณและโมทนาบุญอย่างสูง

    กับทุกท่านที่มีส่วนในบทธรรมทานนีัไม่ว่าจะเป็น

    เจ้าของภาพและผู้กด Like กดแชร์ทุกท่าน

    ขอขอบคุณท่าน pimnuttapa@dannipparn.com

    1f537.png ข้าพเจ้าผู้โพสต์นำมาเผยแพร่เป็นธรรมทาน 1f537.png

    -ภูริทัตโตแส.jpg

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  6. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  7. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    เรื่อง “กิเลสหลอกลวงสัตว์โลกให้มืดบอดทั้งที่ลืมตา”

    (โอวาทธรรม หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
    เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
    เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๓๘

    นี่วันที่ ๓๐ นี้เราก็จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลแผ่เมตตาทั่วแดนโลกธาตุ ยั้วเยี้ย ๆ อยู่เต็มโลกธาตุจะให้ว่ายังไง อะไรจะไปมากยิ่งกว่าสัตว์ทั้งหลายที่มีความจำเป็นเรียกร้องหาความช่วยเหลือเต็มไปหมด อันนี้ตาฝ้าตาฟางอย่างตาพวกเราไม่เห็นนั่นซิ ตาพระพุทธเจ้าตาท่านผู้วิเศษท่านเห็นนี่ จะไม่ให้ท่านพูดยังไงท่านเห็นอยู่ ถ้าเชื่อคนตาบอดมันก็จมไปด้วยกันหมด ไม่มีใครเชื่อใครได้แหละ พูดนี้ก็เป็นหยาบ ๆ นะ พูดถึงความรู้ด้วยกันเป็นเรื่องความหยาบ แต่เป็นเรื่องของความจริงเอามาพูดให้เป็นคติ ว่าความจริงเมื่อรู้อย่างเดียวกันแล้วค้านกันไม่ลง ความหมายว่างั้นนะ เหมือนพระสาวกพระพุทธเจ้ารู้ด้วยกันแล้วอะไร ๆ ค้านกันไม่ลง ไม่ว่าดีว่าชั่วเห็นด้วยกันรู้ด้วยกันแล้วค้านกันไม่ลง นี่เราก็เทียบ

    มีพระ ๒ องค์ สมัยปัจจุบันนี่นะไม่ใช่สมัยไหนแหละ แต่ไม่ระบุชื่อ พระธุดงคกรรมฐานท่านไปเที่ยวกรรมฐานเรื่องความจริงมันแสดง องค์หนึ่งไปอยู่ถ้ำหนึ่ง ๆ ไปภาวนา ถ้ำหนึ่งมันมีเปรตมีผีตายทั้งกลมผู้หญิงตายทั้งกลมคนหนึ่งอยู่นั่น กามกิเลสหนักมากเทียว พระกรรมฐานท่านไปนั่งภาวนากวนท่านทั้งคืน แผ่เมตตามันไม่เอา คืนนั้นท่านไม่ได้นอนเลย คืนที่สองอีกเอาอีก ถึงสามคืนอยู่ไม่ได้ พระองค์นั้นเผ่นเลย ทำไมมาเร็วนักล่ะ จะอยู่ได้ยังไง เรื่องมันเป็นอย่างนั้น ๆ เล่าให้ฟัง ถ้าอย่างนั้นผมไปดูน่ะเป็นยังไง ให้องค์นั้นไปอยู่ถ้ำนั้นแทน มาอยู่ ๓ คืนเหมือนกันเผ่น โอ๊ย ยอมแล้ว นั่นค้านกันที่ไหน โห ดื้อด้านจริง ๆ นะเปรตตัวนี้น่ะ แผ่เมตตาไม่เอาเลย

    จากนั้นก็ไปสอบถามญาติโยมเขาว่าถ้ำนั้นเป็นยังไง มีอะไร ๆ ไปสืบถามเขา ที่ไหนได้ผู้หญิงตายทั้งกลมอยู่ตรงนั้น ตายโหงตายทั้งกลมมันถึงรุนแรงมาก นั่นละมีสาเหตุอย่างนั้นแล้วเวลาไปถามคนเขาก็บอกมีผู้หญิงคนหนึ่งตาย ท่านไม่ได้บอกว่าท่านรู้ท่านเห็นอะไรนะ ท่านถามว่าที่นี่มันมีอะไร ๆ บ้างไหมแล้วก็ถามเหตุถามผลถามไปถามมาก็ไปเจอเอาตรงว่านั่นแหละ ว่าผู้หญิงมาตายทั้งกลมตายโหงด้วยที่หน้าถ้ำนั้น ไม่ได้ไปเกิดที่ไหนยังเป็นเปรตเป็นผีอยู่นั่น นี่ละเรื่องอุทาหรณ์ เอาความจริงมาพูดนี้หยาบไปไหน เรื่องเป็นมา-เป็นมาก่อนแล้ว หยาบหรือละเอียดก็เป็นมาแล้ว พูดตามหลักความจริงสาธกเข้ามาเพื่ออรรถเพื่อธรรมผิดที่ตรงไหน

    เรื่องแปลก ๆ ต่าง ๆ นี่มีเยอะนะ นี้ยกมาเพียงเอกเทศ นักภาวนาเท่านั้นที่จะรู้จะเห็นสิ่งเหล่านี้ อันตาฝ้า ๆ ฟาง ๆ เหมือนพวกเรา ไม่เคยพุทโธภายในใจเลยไม่เห็นแหละ พระพุทธเจ้าเห็นด้วยวิธีภาวนานี่นะ พระสาวกทั้งหลายท่านเห็นด้วยวิธีภาวนา เราไม่มีอะไรเราจะเอาไปแข่งท่านได้ยังไงอันตาฝ้า ๆ ฟาง ๆ นี่ มันยั้วเยี้ย ๆ เต็มโลกธาตุอย่าว่าเต็มแผ่นดินนะ ไม่ใช่แผ่นดินก็ยั้วเยี้ย ไม่ใช่อยู่แต่โลกนะมันอยู่ได้หมดธรรมชาติอันนี้ มากยิ่งกว่ามากเอาอะไรมาเทียบไม่ได้ว่างั้นเลย จะเอาล้าน ๆ ๆ มาเทียบ อย่ามาเทียบไม่มีความหมาย ธรรมชาติที่มีอยู่มากขนาดไหนฟังแต่ว่าเอา ล้าน ๆ ๆ ไปเทียบไม่ได้ มันขี้ปะติ๋ว

    สัตว์โลกทั้งหลายที่เสวยกรรมได้รับความทุกข์ความทรมานด้วยอำนาจแห่งความคะนองของตน ไม่เชื่ออรรถเชื่อธรรมไม่เชื่อคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เชื่อแต่ความอยากความทะเยอทะยานที่กิเลสมันหลอก ๆ ต้มไปเรื่อย กิเลสมีแต่หลอกทั้งนั้นบอกแล้ว กิเลสมีแต่หลอกหนา ไม่ว่าทางตาทางหู ฯ ปัจจุบันนี้มันก็หลอกอยู่ตลอดเวลาก็รู้อยู่นี่ ตาเห็นอะไรมีแต่เรื่องจะหลอกทั้งนั้นไม่ใช่เห็นเรื่องของจริงนะตาเห็น หูได้ยินอะไรสัมผัสสัมพันธ์มีแต่เรื่องกิเลสหลอกออกก่อน ๆ ทั้งนั้นแหละ

    สติปัญญาทางภาคปฏิบัติเท่านี้ก็พอ สติปัญญาทันแล้วจะรู้ทันที ๆ อะไรเคลื่อนไหวเร็วกว่า สติปัญญาที่แก่กล้าสามารถแล้วคอยจ้องหรือไม่จ้องก็เป็นหลักธรรมชาติอยู่แล้ว พออันนั้นแย็บพับรู้กันแล้วนั่นทันกันแล้ว ถ้าอันนี้ตายอยู่นี้อันนั้นออกกี่ห้าทวีปก็ไม่รู้ เวลามันรู้กันทันกันเป็นอย่างนั้น แย็บตรงไหนรู้ทันทีสังหารทันที ๆ เลย เพราะฉะนั้นมันจึงเกิดไม่ได้กิเลส เมื่อถึงขั้นมหาสติมหาปัญญาแล้วกิเลสผลิตตัวไม่ได้เลยพังทั้งนั้น เพราะความรวดเร็วของสติปัญญานี้รุนแรงมันทันกัน นี่ละอำนาจของธรรมเวลาแก่กล้าเป็นอย่างนั้น เหมือนกับกิเลสแก่กล้าเราตั้งเนื้อตั้งตัวไม่อยู่นะ กิเลสเอาไปกินหมด ๆ

    เพราะฉะนั้นคนเราถึงชั่วถึงเลวทรามได้ คนเราไม่อยากต่ำช้าเลวทราม แต่อำนาจแห่งความดึงดูดของความชั่วนั้นมันรุนแรงเกินกว่าที่สติสตังจะตั้งได้หักห้ามกันได้มันถึงเลวกันได้คนเรา เสียเนื้อเสียตัวไปมากมายก็เพราะอันนี้เอง อำนาจมันรุนแรง ทีนี้เวลาอำนาจของธรรมรุนแรงทันกันแล้วก็เป็นอย่างนั้นละ กิเลสผลิตตัวออกมาไม่ได้ แม้หลบซ่อนอยู่ไหนยังจะพังมันจะผลิตลูกผลิตหลานออกมาได้ยังไง พังด้วยกันทั้งนั้น นั่นละธรรมของพระพุทธเจ้า นี่เรียกว่าธรรม เรื่องที่มันพาสัตว์โลกหมุนเป็นบ้ากันอยู่นี้ เกิดแก่เจ็บตายกี่กัปกี่กัลป์มันยังเหมาเอาอีกว่าตายแล้วสูญอีก

    นี่ละกิเลสประเภทนี้มันหมุนของมัน หมุนอยู่ตลอดเวลาไม่มีเวลาอ่อนตัวนะ ถ้าหากว่าเป็นวัตถุแล้วเราจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า กงจักรของมันมันจะหมุนอยู่นี้ตลอดไม่มีวันมีคืน กี่กัปกี่กัลป์ธรรมชาตินี้หมุนอยู่ในหัวใจของสัตว์ แต่ยกมาด้านวัตถุนี้ นี้คือวัฏจักร นี้คือธรรมจักร ธรรมจักรก็หมุนแต่หมุนช้า อันนี้หมุนเร็วมาก ฟังแต่ว่าเร็วมากกับช้าต่างกันอย่างไรบ้าง ท่านจึงให้สร้างความดี อันนี้ละอันจะมาทำลายตัวนี้นะ

    คนเราไม่มีความดีนี้จะพ้นไปไม่ได้เลยเป็นอันขาด ฟังแต่ว่าเป็นอันขาด ต้องมีความดีเท่านั้น คุณงามความดีที่สร้างมามากน้อยสั่งสมตัวเข้าไป ๆ ค่อยรั้ง ๆ กงจักรของตัวเองนั่นแหละค่อยรั้งให้ช้าลง ๆ ที่ยาวก็ให้ค่อยสั้นเข้ามา ที่เร็วก็ให้ช้าลงไป ที่รุนแรงก็ให้เบาลงไป ๆ เพราะอำนาจแห่งความดี ทีนี้เมื่อความดีมีมากแล้ววัฏจักรนี้จะหมุนช้าลง ๆ ทางธรรมจักรก็หมุนเร็วเข้า ๆ เปลี่ยนกันนะที่นี่ ต่อจากนั้นทางนี้ก็หมุนติ้วเลย ทางนั้นช้าเอื่อย ๆ โผล่มาอันไหนขาด ๆ นี่อำนาจของธรรม นั่นละท่านว่าธรรมกับโลกไม่เหมือนกัน อยู่ด้วยกันก็ไม่เหมือนกัน เหมือนผู้หญิงกับผู้ชายมองดูพับก็รู้ทันที

    นี่ละธรรมกับโลกไม่เหมือนกันอย่างนี้ อยู่ด้วยกันมีเป็นคู่เคียงกันมา แต่ธรรมนี้มาเป็นกาลเป็นเวลา ธรรมในหลักธรรมชาติมีอยู่ดั้งเดิมอันนี้ไม่ไปไหน แต่เมื่อไม่นำมาใช้แล้วก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร เหมือนแก้วแหวนเงินทองของเราทั้งหลายไปทิ้งไว้ในหีบก็เป็นแก้วเป็นทองคำอยู่งั้นไม่ได้เป็นเครื่องประดับอะไรเลย อันนี้ธรรมเมื่อไม่รื้อฟื้นขึ้นมาก็อยู่อย่างนั้นละ ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้แต่ละครั้ง ๆ นั้น นั่นละฟื้นธรรมขึ้นมาออกมาทำประโยชน์ให้โลก ธรรมก็เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์วิเศษขึ้นมาจากผู้ครองธรรม นี่ละธรรมมาเป็นยุคเป็นกาลเป็นสมัย

    เวลานี้ก็ยังมีอยู่ในพระพุทธเจ้าของเรา ความเชื่อความเลื่อมใสของคนจะมีอยู่แค่ห้าพันปี นอกนั้นกิเลสเอาไปกินหมดนะ คือกิเลสกลืนไปเรื่อย หนักเข้าไปเรื่อย หนักข้อเข้าไปเรื่อย กลืนเข้าไปเรื่อย วันนี้ ๕ คนวันหลัง ๑๐ คน วันหน้า ๒๕ คน วันหลัง ๓๐ คน ระวังจะเข้าในพวก ๓๐ นะจะว่าไม่บอก มันกลืนเรื่อยกิเลสกลืนหนักเข้าไปทุกที ๆ ธรรมไม่ทัน พอหมดศาสนา คำว่าหมดศาสนาคือหมดความเชื่อว่าบาปบุญมีนรกมีสวรรค์มี ไม่นึกว่าบาปว่าบุญว่าอะไรทั้งนั้น ในหัวใจมีแต่ความอยากความทะเยอทะยาน ความดีดความดิ้นนี้เป็นเรื่องของกิเลสล้วน ๆ ที่นี่หมุน เมื่อศาสนาไม่มีแล้วมีแต่หมุนอย่างเดียว

    -กิเลสหลอกลวงสัตว.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  8. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  9. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  10. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  11. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  12. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  13. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  14. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  15. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    เรามีตาเท่ากับว่าไม่มีตา มีหูเท่ากับว่าไม่มีหู
    มีท้องก็ฉันอยู่ได้ไปวันๆเท่านั้น
    ไม่ต้องแสดงความโลภและตะกละ
    ให้พากันสำเหนียกไว้เรื่องของความโลภ
    ความโกรธ ความหลง จะต้องมีด้วยกันทุกคน
    ถ้าพูดถึงความโลภ เมื่อมันมีเจตนาบันดาลเกิดขึ้นมาแล้ว
    มันจะมืด ไม่รู้จักบาปบุญ ไม่กลัวคุกกลัวตะราง
    อันนี้เรียกว่าฤทธิ์ของมัน
    .
    หลวงปู่คำดี ปภาโส

    .jpg

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  16. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  17. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  18. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    โอวาทธรรมคำสอน :

    1f538.png สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี 1f538.png

    ๓๑-๕-๒๕๖๑

    ✨ ✨

    “สังคายนาพระไตรปิฎก”

    ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

    มีพระราชดำริจัดสังคายนาพระไตรปิฎก

    รัชกาลทื่ ๔ โปรดให้ท่านเจ้าประคุณสมเด็จ(โต)

    เข้าร่วมสัมมนาด้วย

    แต่ท่านไม่ยอมไปเป็นดังนี้ถึง ๓ ครั้ง

    รัชกาลที่ ๔ ทรงเรียกท่านเจ่าประคุณสมเด็จไปในวัง

    ตรัสถามว่า
    “เพราะเหตุใดขรัวโตจึงไม่ยอมเข้าร่วมสัมมนา

    ในการปรับปรุงพระไตรปิฎก”

    ท่านจึงกราบทูลว่า

    “ขอถวายพระพรมหาบพิตร

    ขรัวโตนี้เกิดในยุครัตนโกสินทร์

    ขรัวโตยังไม่สำเร็จเป็นพระอรหันต์

    ถ้าในพระไตรปิฎกนั้น

    บางคำพูดเป็นขององค์

    สัมมาสัมพุทธเจ้าที่แท้จริง

    สันดานว่าขรัวโตเกิดว่าไอ้นี่มันไม่ไพเราะ

    ไม่เพราะพริ้ง ตัดมันออกไป

    เติมคำหวานๆสละสลวยลงไป

    ฟังแล้วน้ำลายไหล

    อาตมาภาพหรือจะหนีพ้นการลงนรก

    การที่อาตมาภาพไม่มา

    ก็เพราะกลัวตกนรกพระเจ้าค่ะ”

    รัชกาลที่ ๔ ตรัสว่า จริงของขรัวโต

    จึงเลิกสัมมนาแต่นั้นมา

    และไม่เอาเรื่องกับท่าน

    ✨ ✨

    ที่มา : ผู้โพสต์พิมพ์คัดลอกลง
    facebook
    เป็นธรรมทาน
    จากหนังสือ อมตเถระ หน้า ๕๐
    สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี

    1f538.png 1f538.png

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  19. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  20. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “ใจ คือสมบัติอันล้ำค่า
    จึงไม่ควรอย่างยิ่งที่จะมองข้ามไป
    คนพลาดใจ คือ คนไม่สนใจปฏิบัติ
    ต่อดวงใจดวงวิเศษในร่างนี้
    แม้จะเกิดสักพันร้อยพันชาติ
    ก็คือ ผู้เกิดพลาดอยู่นั่นเอง”

    หลวงปู่มั่น ภูริทตฺตเถระ

    -คือสมบัติอันล้ำค่า.jpg

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...