ธรรมะจากเพจต่างๆ พระสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย ธรรมะสายหลวงปู่มั่น, 6 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    โอวาทธรรมจากประวัติ 1f506.png หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา 1f506.png

    ๒๓-๖-๒๕๖๑

    ✴ผู้โพสต์ตัดบางส่วนธรรมะบทเป็นธรรมทาน✴

    แรก ๆ หลวงพ่อกบนั่งบำเพ็ญเพียรอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในวัดเขาสาริกา

    ตากแดดตากฝนอยู่เพียงลำพัง ชาวบ้านสงสารปลูกเพิงพักหลังคามุงแฝกหลังเล็ก ๆ ให้พอหลบแดดฝน

    ท่านก็ไม่ว่าหรือทักท้วงอะไร ยอมขึ้นไปพำนักในเพิงพักโดยดี

    นานหลายปีที่หลวงพ่อกบนั่งบำเพ็ญเพียรเพียงรูปเดียวอยู่เช่นนั้น

    ก็เริ่มมีคนต่างถิ่นและคนแปลกหน้าเดินทางมากราบไหว้

    ฝากตัวเป็นลูกศิษย์เล่าเรียนวิปัสสนากัมมัฏฐานที่วัดเขาสาริกามากขึ้นทุกที

    สร้างความแปลกใจให้ชาวบ้านและพระในวัด เพราะท่านไม่เคยออกจากวัดไปไหน

    1f506.png 1f506.png

    สอบถามทุกคนจะตอบว่า “เคยใส่บาตรกับท่าน รู้สึกศรัทธาก็เลยมาหา” บางคนมาจากเชียงใหม่บ้าง กรุงเทพฯบ้าง

    สุราษฎร์ธานีหรือภูเก็ตก็มี ไม่เว้นแม้สงขลา ยะลา ปัตตานี ยิ่งทำให้ชาวบ้านกังขามากขึ้น ซึ่งนับวันผู้คนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ท่านก็ไม่ค่อยพูดกับใครเหมือนเดิม

    ยกเว้นลูกศิษย์ใกล้ชิดไม่กี่คน

    ต่อมาเพิงหลังคามุงแฝกของหลวงพ่อผุพังลง ลูกศิษย์และชาวบ้านที่ศรัทธารวบรวมเงินบริจาคสร้างกุฎิไม้ถวาย 1 หลัง มีขนาดกว้างขวางกว่าเดิม

    ใช้เป็นที่พำนักของหลวงพ่อและลูกศิษย์ที่บ้านอยู่ไกล เผื่อเดินทางมาหาหลวงพ่อจะได้ไม่ลำบากเรื่องที่นอน

    นับวันวัดเขาสาริกาจะกลายเป็นศูนย์รวมผู้ศรัทธาในตัวหลวงพ่อ ทำให้ถูกทางการสมัยนั้นจับตามองกล่าวหาว่าเป็นแหล่งมั่วสุมผู้คน พ.ศ. 2450

    ทางการส่งเจ้าหน้าที่มาสอบถามและตรวจสอบ

    1f506.png 1f506.png 1f506.png

    แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย พบเพียงผู้คนมาปฏิบัติธรรมและไม่ได้เป็นที่ซ่องสุมผู้คนจึงกลับไป

    ต่อมามีคณะพระผู้ใหญ่เดินทางมาหา หลวงพ่อกบ อีกครั้ง เพื่อสอบสวนประวัติความเป็นมา

    เนื่องจากกลัวเป็นพวกลัทธิใหม่หรือพวกนอกรีต เนื่องจากพฤติกรรมของท่านค่อนข้างประหลาดไม่เหมือนพระทั่วไป แต่ท่านไม่ยอมบอกว่าเป็นใครและใครเป็นพระอุปัชฌาย์

    จึงมีการทดสอบความรู้เรื่องธรรมะกันขึ้น ไม่ว่าจะถามเรื่องอะไร ในพระไตรปิฎกเล่มไหน หน้าอะไร หัวข้อเท่าไหร่ หลวงพ่อกบตอบถูกทั้งหมด

    และท่านถามกลับไปว่า “หัวใจของพระพุทธศาสนาคืออะไร”ปรากฎว่าไม่มีใครหรือพระเถรผู้ใหญ่ตอบได้แม้แต่รูปเดียว เงียบกันหมด ท่านจึงเฉลยให้ฟังว่าหัวใจพุทธศาสนาก็คือ “ศีล สมาธิ ปัญญา”เพราะเป็นหนทางแห่งการพ้นทุกข์
    เท่านั้นเองกลายเป็นสาเหตุสำคัญที่พระผู้ใหญ่ไม่พอใจ สั่งให้ หลวงพ่อกบ ลาสิกขาบท

    กล่าวหาว่าเป็นพระเถื่อนไม่มีใบสุทธิบัตร พูดจาเพ้อเจ้อไร้สาระ ไม่น่าเชื่อถือ ท่านก็ไม่สนใจหรือเถียงอะไรยอมถอดจีวรออกลาสิกขาบทโดยดี หันมานุ่งขาวห่มขาวแทน ตอนนั้นลูกศิษย์ร้องไห้ระงมทั่ววัดเขาสาริกา เพราะสงสารท่าน

    จนหลวงพ่อบอกว่า “พวกมึงจะร้องทำไมกันวะ พระก็คือพระวันยังค่ำ จะใส่อะไรก็เป็นพระ เหมือนทองจมขี้โคลน ยังไงก็เป็นทองนั่นแหละ”ทำให้ลูกศิษย์คิดได้ว่า พระไม่ได้หมายถึงการนุ่งห่มผ้าเหลือง แต่หากสามารถลดละกิเลสได้ ไม่ว่าแต่งกายชุดอะไรก็ถือว่าเป็นพระอยู่วันยังค่ำ พระแท้พระดีจึงมิไช่อยู่ที่ผ้าเหลืองด้วยประการฉะนี้

    1f506.png 1f506.png 1f506.png

    หลวงพ่อกบมรณภาพและสังขารในวันที่ 17 ธ.ค. 2497 ท่ามกลางความเศร้าโศกของศิษยานุศิษย์ทั่วหน้า และน่าแปลกใจที่ว่าเช้าวัดถัดไปคือวันที่ 18 ธ.ค.

    หลวงพ่อโอภาสีเดินทางมาถึงวัดเขาสาริกาเพื่อมาเป็นธุระในการทำพิธีฌาปนกิจศพของหลวงพ่อกบ

    ผู้เป็นอาจารย์ เหตุการณ์ครั้งนั้นสร้างความงุนงงให้ผู้คนและลูกศิษย์

    เนื่องจากสมัยก่อนการสื่อสารไม่รวดเร็วเหมือนปัจจุบัน การส่งข่าวไปหากันแต่ละครั้งใช้เวลาหลายวัน บ่งบอกได้ว่า

    หลวงพ่อโอภาสี ก็เป็นพระอภิญญาเหมือนอาจารย์ทุกประการ เพราะสามารถหยั่งรู้ความเป็นไปในโลก

    และรับรู้ว่าอาจารย์ละสังขารแล้วอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก

    1f506.png 1f506.png 1f506.png

    ที่มา https://sites.google.com/site/patihan2009/hlwng-phx-kb-khea-sa-rika-phra-xphiyya-phu-xyu-henux-3-lok

    ขอขอบคุณผู้มีส่วนเผยแพร่
    เจ้าของรูปประกอบในธรรม
    และผู้กด Like กดแชร์ ทุกท่าน

    1f506.png ขอกราบเคารพบูชาครูบาอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง 1f506.png

    ้าพเจ้าผู้โพสต์ขออนุโมทนาบุญอานิสงส์
    ันไพศาลนี้จงมีแด่ทุกท่านที่ได้สดับอ่านและเผยแพร่ครับ….

    ✨✨

    -หลว.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  2. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  3. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  4. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  5. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  6. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  7. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  8. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  9. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  10. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    การสวดมนต์ตามบ้าน

    ท่านต้องการให้พระเณรนี้ปฏิบัติ พระเณรที่บวชใหม่ๆ เข้าไปอยู่กับท่าน สวดมนต์ไม่ได้ท่านก็ไม่ให้ไป ให้ผู้สวดได้น่ะไป ผู้ที่เขาจำเป็นที่จะนิมนต์เราไป ลูกเขาตาย พ่อเขาตาย แม่เขาตาย ตามประเพณีนั้น ก็ให้พระผู้สวดได้น่ะไปสวด องค์ที่สวดไม่ได้น่ะก็ให้อยู่ ไม่ให้เรียนต่อ ไม่ให้ท่องบ่น ท่านบอกว่า

    “จิตมันไปอยู่ในหนังสือ มันไม่อยู่ในเนื้อ ในตัว แล้วมันไม่รู้ของจริงที่เขาเขียน เขาอ่านมาน่ะ มันเป็นความรู้ของเขา ไม่ใข่ความรู้ของเรา ต้องทำให้มันรู้เองเห็นเองขึ้นมา สัจธรรมมันอยู่ที่นี้”

    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    ที่มา ติสฺสตฺเถรานุสรณ์ หลวงพ่อคำพอง ติสฺโส

    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  11. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    จากนี้ไปโลกมนุษย์จะไม่น่าอยู่เเล้ว จะมีแต่คนพาล คนเกเร จิตใจโหดเหี้ยม คนบาปหยาบหนามาเกิด เราๆจะอยู่ร่วมกับเขาไม่ได้หรอก ให้พากันรีบเร่งปฏิบัติ หากเเม้นชาตินี้เรายังไม่พ้นทุกข์ ก็ให้ได้ไปบำเพ็ญภาวนารออยู่ชั้นพรหมโน่น เพื่อรอลงมาเกิดในโลกมนุษย์ยุคของพระศรีอริยเมตไตย ในยุคนั้นจะมีแต่คนมีบุญเท่านั้นจึงจะได้มาเกิด ทุกคนจะมีอายุยืนเป็นหมื่นปี มีความสุข หน้าตาสวยงาม ไม่มีโรคภัย ไม่มีความยากจน และทุกคนได้บำเพ็ญภาวนา ปฏิบัติธรรม หลังจากนั้นจะได้เข้าสู่นิพพานถ้วนหน้าทุกคน

    -:- หลวงปู่อว้าน เขมโก -:-
    วัดป่านาคนิมิตต์ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร

    .jpg

    ที่มา พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  12. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    พบหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต
    .
    หลังจากกราบนมัสการองค์พระธาตุพนมแล้ว ก็ย่างเข้าเขตสกลนคร เดินทางเข้ากราบรับฟังโอวาทธรรมจากองค์หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ซึ่งขณะนั้นหลวงปู่มั่น พำนักอยู่ที่เสนาสนะป่าบ้านนามน (ซึ่งช่วงนั้น หลวงตาพระมหาบัว ญาณสมฺปนฺโน ก็จำพรรษาอยู่ด้วย) เมื่อได้โอกาส จึงได้กราบนมัสการ รับฟังโอวาทธรรมจากหลวงปู่มั่น และเกิดศรัทธาความเชื่อ ปสาทะความเลื่อมใส มีศรัทธามุ่งมั่นต่อมรรคผลนิพพานแดนพ้นทุกข์
    .
    หลวงปู่มั่น ได้กล่าวถามหลวงปู่ผางว่า “ญาพ่อมาอีหยัง เห็นว่าผู้เฒ่าผู้นี้โซบ้อจึงมา สิมาหาบังสุกุลแม่นบ่ มันบ่ทันได้บัง(สุกุล)ดอก พระกรรมฐานนี่ ไปอยู่พุ้นละไป.(หลวงพ่อมาทำไมล่ะ เห็นว่าพระผู้เฒ่าผู้นี้ป่วยหรือ จึงมา จะมาบังสุกุลหรือ ยังไม่ได้บังสุกุลหรอกพระกรรมฐานนี่ ไปอยู่ที่โน้นนะ ไป)
    .
    หลวงปู่มั่นท่านได้ให้โอวาทธรรมหลายอย่างหลายประการ ท่านเทศน์ให้ฟังแต่ละคำล้วนจับใจทั้งนั้น เป็นอุบายธรรม ให้ได้นำไปคิดพินิจพิจารณาอยู่ตลอด เทศน์มีแต่เนื้ออรรถเนื้อธรรมเรื่อง ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุติหลุดพ้น พระนิพพาน ผู้ฟังก็ฟังอย่างถึงใจสมกับที่ดั้นด้นเข้าไปหา
    .
    หลวงปู่ผาง ท่านก็มาคิดพินิจพิจารณาว่า “หลวงปู่มั่น แนะนำให้ไปเที่ยวภาวนาองค์เดียว ไม่ต้องให้มีหมู่พวกไปด้วย ไปก็ต้องไปคนเดียว อยู่คนเดียว ตายคนเดียว” ท่านพักอยู่กับหลวงปู่มั่นพอสมควร แล้วก็ได้กราบลาและเดินธุดงค์กับลงมาถึงเมืองอุบลฯ
    .
    • หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต • กราบขอบพระคุณ และอนุโมทนาบุญท่านเจ้าของภาพนี้ด้วย สาธุ สาธุ สาธุ

    -ภูริทตฺโต.jpg

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  13. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  14. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    พระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการอัญเชิญพระบรมราโชวาทนี้ ทุกๆท่าน

    .jpg

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  15. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  16. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    พึงทำจิตให้ตั้งมั่นอยู่ในอารมณ์อันเดียว
    คือ พุทโธ เป็นของเลิศในโลก

    พระพุทธศาสนาสอนให้เข้าถึงจิตถึงใจอันเดียว กิเลสทั้งหลายเกิดจากจิต จิตเป็นผู้ยึดเอากิเลสมาไว้ที่จิต จิตจึงเศร้าหมอง เมื่อจิตเห็นโทษของกิเลสแล้ว สละถอนกิเลสออกจากจิตได้แล้ว จิตก็ผ่องใสบริสุทธิ์

    นี่เป็นหลักพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าสอนอย่างนี้มิใช่หรือ
    ถึงผู้จะเข้าสู่อริยภูมิ ก็ต้องเข้าถึงจิตเป็นหนึ่ง เรียกว่า มัคคสมังคี
    จิตรวม ศีล สมาธิ ปัญญา เข้ามาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จึงจะเข้าถึงอริยภูมิได้

    ปัญญาค้นคว้าหาเหตุผลของกิเลสนั้นๆ จนรู้ชัดเจนแจ่มแจ้งด้วยตนเองแล้ว นั่งอยู่ในที่เดียวนั้นก็เว้นจากความชั่วนั้นๆ ได้หมดจดสิ้นเชิง แล้วจิตก็แน่วแน่นลงเป็นสมาธิไม่ง่อนแง่นคลอนแคลนไปไหน

    หมดจากโทษนั้นๆ ก็จิตดวงนั้น ปัญญาความรู้เห็นโทษในกิเลสนั้น ๆ ก็จิตดวงนั้น แล้วรวมลงแน่วแน่น ลงสู่ในที่เดียว ก็จิตดวงนั้น แลต้องตามไปละถอนในที่ต่างๆ อยู่เฉพาะในที่เดียวในขณะจิตเดียว จิตของพระอริยเจ้าแต่ละขั้นจะเข้าถึง มัคคสมังคี รวมเป็นศีล สมาธิ ปัญญา เข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันดังนี้

    หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

    .png

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  17. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    คนเราเกิดมาแล้ว หนีความตายไปไม่ได้ มีเกิด มีดับ ให้ทำความดีให้เพียงพอ การให้ทานรักษาศีลนี้ ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง คือถ้าใครทำ คนนั้นก็ได้รับผลด้วยกัน อย่าเลือกเวลา การทำความดี ทำได้ทุกเวลา สถานที่ เพศ วัย ไม่ว่าจะเป็นคนแก่ คนหนุ่ม คนสาว ทำได้หมด ให้รีบทำความดีเสีย เดี๋ยวจะตายก่อนไม่ได้ทำนะ

    -:- หลวงปู่ผาง จิตตคุตโต -:-
    วัดอุดมคงคาคีรีเขต อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น

    -หนีความ.jpg

    ที่มา พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  18. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    จำวัดผิดกันกับคำว่า นอน

    หลวงปู่ขาว เล่าถึงคำสอนของหลวงปู่มั่น
    เกี่ยวกับการหลับนอนของพระ ต่อไปดังนี้

    ท่านควรขบคิดคำว่า จำวัด กับคำว่า นอน ซึ่งเป็นคำทั่วๆ ไป
    เทียบกันดูจะเห็นว่าผิดกันและมีความหมายต่างกันอยู่มาก
    ระหว่างคำว่า จำวัดของศากยบุตร กับคำว่า นอนของคนและสัตว์ทั่วไป

    ดังนั้นความรู้สึกของพระผู้เป็นศากยบุตรที่จะปลงใจจำวัดแต่ละครั้ง
    จึงควรมีความสำคัญติดตัวในขณะนั้นและเวลาอื่นๆ
    จึงจะสมชื่อว่า ผู้ประคองสติ

    ผู้มีปัญญา คิดอ่านไตร่ตรองในทุกกรณี
    ไม่สักว่าคิด สักว่าพูด สักว่าทำ สักว่านอน สักว่าตื่น
    สักว่าฉัน สักว่าเดิน สักว่านั่ง

    สัก เป็นอาการปล่อยตัวเกินเพศเกินภูมิของศากยบุตรที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง

    ในวงปฏิบัติโดยมากมักเข้าใจกันว่า
    พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลายนิพพานไปแล้ว สาปสูญไปแล้ว
    ไม่มีความหมายอะไรเกี่ยวกับท่านและตนเองเสียแล้ว
    ก็พระธรรมอันเป็นฝ่ายเหตุที่สอนกันให้ปฏิบัติอยู่เวลานี้
    เป็นธรรมของท่านผู้ใดขุดค้นขึ้นมาให้ได้เห็นและได้ปฏิบัติตามเล่า?

    ความจริง พุทธะ และ สังฆะ
    ก็คือ ดวงใจบริสุทธิ์ที่พ้นวิสัยแห่งความตาย
    และความสาปสูญอยู่แล้วโดยธรรมชาติ
    จะให้ตายให้สาปสูญให้หมดความหมายไปได้อย่างไร
    เมื่อธรรมชาตินั้นมิได้เป็นไปกับสมมติ
    มิได้อยู่อำนาจแห่งความตาย
    มิได้อยู่ใต้อำนาจแห่งความสาปสูญ
    มิได้อยู่ในอำนาจแห่งการหมดความหมายใดๆ

    พุทธะ จึงคือ พุทธะอยู่โดยดี
    ธัมมะ จึงคือธัมมะอยู่โดยดี
    และสังฆะ จึงคือสังฆะอยู่โดยดี
    มิได้สั่นสะเทือนไปกับความสำคัญใดๆ แห่งสมมติ
    ที่เสกสรรทำลายให้เป็นไปตามอำนาจของตน

    ฉะนั้นการปฏิบัติด้วย ธัมมานุธัมมะ
    จึงเป็นเหมือนการเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์
    อยู่ตลอดเวลาที่มี ธัมมานุธัมมะ ภายในใจ

    เพราะการรู้พุทธะ ธัมมะ สังฆะ
    โดยหลักธรรมชาติจำต้องรู้ขึ้นที่ใจ
    ซึ่งเป็นที่สถิตแห่งธรรมอย่างเหมาะสมสุดส่วน
    ไม่มีภาชนะใดยิ่งไปกว่า ดังนี้

    ……………………………….
    โอวาทธรรมของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
    เล่าไว้โดยพระอาจารย์ขาว อนาลโย

    -นอน.png
    1529889848_76_จำวัดผิดกันกับคำว่า-นอน.png

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  19. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  20. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    เรื่อง “หลวงปู่จาม มหาปุญโญ เป็นพระนิยตโพธิสัตว์ท่านปรารถนาพุทธภูมิ เพื่อบรรลุพระโพธิญาณเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และได้รับการพยากรณ์แล้ว”

    (ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่จาม มหาปุญโญ”)
    ในช่วงธุดงค์ไปกับหลวงปู่สิม พุทธาจาโร
    ณ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่

    ๐ เกิดความรู้แจ้งประจักษ์อนาคตอันไกลโพ้น

    หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ได้เดินธุดงค์ไปจังหวัดเชียงใหม่ ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดโรงธรรม อำเภอสันกำแพง อยู่กับ หลวงปู่สิม พุทธาจาโร ๒ พรรษา ในช่วงนั้นได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ ท่านจึงอยู่ที่นี่เป็นหลัก ในบางโอกาสก็ออกไปหาวิเวกตามดอยต่างๆ

    ต่อมาได้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดเจดีย์หลวง เชียงใหม่ ในช่วงนั้นได้มีการทิ้งระเบิดในเมืองบ่อยครั้ง จึงเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะปลอดภัย หลวงปู่สิมจึงชวนหลวงปู่จามออกไปอยู่ที่จอมทองระยะหนึ่ง

    การปฏิบัติธรรมเจริญจิตภาวนาที่จอมทองแห่งนี้ ได้พบกับความแปลกใหม่ของจิตตัวเอง เพราะเป็นสถานที่สัปปายะเหมาะสมแก่การบำเพ็ญพากเพียร และบุคคลสัปปายะเนื่องด้วยหลวงปู่สิมเคยเป็นสามเณรอยู่ด้วยกัน ขณะที่อยู่กับหลวงปู่มั่น จึงมีความเข้าใจสนิทสนมกันดี

    ในช่วงแรกของการภาวนา จิตไม่สงบแส่ส่ายออกนอกเกิดสัญญาปรุงแต่งลักษณะเดียวกันกับที่เคยปรากฏมาก่อนแล้ว แม้ว่าจิตจะเคยสงบถึงขั้นอัปปนาสมาธิหลายครั้งแล้วก็ตาม เกิดเสื่อมลงอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งๆ ที่ได้ใช้อุบายต่างๆ แก้ไขมาหลายครั้งต่อหลายหนแล้ว บางคืนจิตร้อนรนเสมือนว่ากิเลสไม่เบาบางเลยทั้งๆ ที่ปกติธรรมดาจะไม่ปรากฏ แต่พอเริ่มอธิฐานจิตเข้าที่ภาวนาจะเกิดอาการลักษณะนี้ขึ้นมา คิดทบทวนเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่บำเพ็ญพากเพียรอย่างจริงจัง แต่ผลที่ได้ดูเหมือนไม่คุ้มค่า รู้สึกว่าเกือบหมดกำลังใจ

    แต่เนื่องด้วยอุปนิสัยของท่านเด็ดเดี่ยว มุ่งมั่นไม่ย่อท้อ ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ท่านระลึกถึงหลวงปู่มั่น ตลอดจนครูบาอาจารย์ที่เคยให้คำแนะนำสั่งสอน และปฏิปทาของท่านเหล่านั้นแล้ว จึงเกิดพลังใจตั้งสัจจะอธิฐานว่า

    “ถ้าจิตจะสงบหรือไม่สงบก็ไม่ว่า จะเกิดหรือไม่เกิดอะไรก็ไม่ว่า เราไม่หวังอะไรอีกแล้ว ต่อไปนี้จะเอาเฉพาะพุทโธให้แนบแน่นกับลมหายใจที่ตรงหัวใจของเรา จะไม่ยอมให้หนีไปไหน”

    ต่อจากนั้นอีกไม่นาน จิตค่อยๆ สงบละเอียดรวมลงเป็นสมาธิ กายเบาจนไม่มีกายเหลือแต่จิตดวงเดียว เกิดนิมิตภาพเจดีย์ปรักหักพังมากมาย พระพุทธรูปเก่าแก่ปางต่างๆ มากมาย ต้นโพธิ์ ต้นจิก และอื่นๆ เป็นภาพแล้วภาพเล่า ต่อจากนั้นก็เห็นภาพตนเองในอดีตชาติเกิดขึ้นมาจนนับไม่ไหว ท่านได้กำหนดรู้ในภาพนิมิตที่เกิดขึ้นมาโดยลำดับ ปัญญารู้แจ้งในแต่ละชาติในอดีตทั้งกรรมดีกรรมชั่วคละเคล้าปะปนกันไป ตลอดจนบุญบารมีที่สร้างไว้แต่อดีตชาติ ทั้งขึ้นสูงและลงต่ำ สวรรค์ นรก มนุษย์ สัตว์เดรัจฉาน

    การพิจารณากลับไปกลับมาปรากฏความรู้แจ้งชัดขึ้นมาว่า การที่มุ่งทำความเพียรเพื่อละกิเลสอาสวะให้หมดสิ้นเพื่อความหลุดพ้นทุกข์ในชาตินี้ คงเป็นไปไม่ได้เสียแล้ว เสมือนว่ามีอะไรสักสิ่งหนึ่งปิดกั้นไว้ ปัญญาไม่ทะลุแจ้ง ฉุกคิดถึงแนวทางปฏิบัติของพระโพธิสัตว์ที่ปรารถนาพุทธภูมิมาแล้ว ชะรอยเราจะเคยปรารถนา……………. มาแล้วกระมัง ท่านจึงถอนจิตออกจากสมาธิแล้วไปที่หน้าองค์พระพุทธรูป ห่มผ้าจีวรจรดไหล่เรียบร้อย กราบแล้วตั้งจิตอธิษฐานว่า “ถ้าได้เคยปรารถนา……………. ที่บำเพ็ญมาเพื่อการเป็น……………. ในภายภาคหน้าแล้วก็ขอให้จิตสงบเยือกเย็นขอให้ภาพนิมิตเหล่านั้นหายไปและให้เกิดความรู้แจ้งเห็นชัดเป็นที่ประจักษ์เถิด” จึงได้พักผ่อนหลับ

    ในคืนต่อมาการภาวนาได้ผลดี จิตสงบรวดเร็ว จิตใจที่เคยร้อนมีแต่เยือกเย็น เบาสบาย จิตรวมลงถึงฐานอัปปนาสมาธิ พักในสมาธิเพื่อให้เกิดพลังเต็มที่แล้วจิตถอนขึ้นมาเองอยู่ในขั้นอุปจารสมาธิ เกิดญาณทัศนะสามารถรู้เห็นเหตุการณ์ต่างๆ อย่างที่ไม่เคยรู้เห็นมาก่อน หยั่งรู้เข้าใจภาพนิมิตที่เคยปรากฏมาแล้วอย่างปราศจากข้อสงสัย รู้แจ้งแล้วว่าชาตินี้ยังไม่สามารถบำเพ็ญพากเพียรให้สิ้นอาสวะกิเลสได้ ได้รู้เห็นจิตใจของตนในส่วนลึกอย่างละเอียดว่า ได้เคยอธิษฐานตั้งความปรารถนา……………. ไว้แล้วในอดีตชาติและได้รับการ……………. แล้ว ไม่สามารถถอนออกได้ จึงจะต้องบำเพ็ญบารมีเพิ่มขึ้น จะต้องเกิดตายอีกหลายชาติ จนกว่าบารมีจะเต็ม และถึงระยะเวลาที่จะต้องลงมาอีกเพื่อการ……………. ที่จะต้องมาโปรดสัตว์ที่โลกกำลังร้อนระอุ ซึ่งเป็นระยะเวลาอีกนานเท่าใดไม่สามารถจะประมาณได้

    การสั่งสมอุปนิสัยบุญบารมีในแนวทางของความเป็น……………. และได้รับการ……………. แล้วนั้น ก็เป็นเรื่องเฉพาะตน การจะบำเพ็ญบารมีเพื่อเป็นใครก็เป็นเรื่องเฉพาะของการเป็นใครคนนั้น กรณีบำเพ็ญสาวกบารมีก็จะเป็นสาวก บำเพ็ญอัครสาวกบารมีก็จะเป็นอัครสาวก บำเพ็ญปัจเจกบารมีก็เป็นปัจเจกพุทธเจ้า ถ้าบำเพ็ญพุทธบารมีก็ต้องเป็นพระพุทธเจ้า

    ผู้เขียน (พระอาจารย์อินทร์ถวาย สนฺตุสฺสโก) ได้ถามหลวงปู่ว่า “เกิดตายอีกหลายชาติไม่เบื่อหรือ”

    ท่านตอบว่า “เบื่อไม่ได้เพราะเป็นหน้าที่ต้องมาเกิดตายจนกว่าจะหมดภาระหน้าที่นั้น”

    -หลวงปู่จาม-มหาปุ.jpg

    ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...