ธรรมะจากเพจต่างๆ พระสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย ธรรมะสายหลวงปู่มั่น, 6 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  2. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  3. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    เรื่อง “หลวงพ่อชาแสดงธรรมโปรดโยมมารดาในวาระสุดท้าย ก่อนที่จะละโลกละขันธ์อย่างสงบ”

    (คติธรรม หลวงพ่อชา สุภัทโท)

    อุ้มท้องเทวดา , พระสงฆ์ , พระโพธิสัตว์ , พระพุทธเจ้า ใครบ้างมีสิทธิ์ “ตั้งครรภ์อริยะบุคคล” ?

    ภาพที่เห็นคือภาพของ หลวงปู่ชา สุภทฺโท แห่งวัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี ไปแสดงธรรมโปรด “แม่ชีพิมพ์” โยมมารดาผู้อุ้มท้องให้กำเนิด ในวาระสุดท้ายแห่งชีพของแม่ชี ใจความสำคัญในการแสดงธรรมโปรดโยมมารดาครานั้นว่า

    “การปล่อยวางกายนี้ไม่ใช่ของเรา ให้ปล่อยไป สิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นธรรมชาติ เป็นธรรมะ อย่าไปอาลัยอาวรณ์กับสกนธิ์ร่างกาย ทำจิตใจให้เบิกบาน ให้อยู่กับคำบริกรรม”

    รุ่งเช้าแม่ชีพิมพ์ได้ “ละโลก ละขันธ์” อย่างสงบเมื่อ ปี พ.ศ.2517 ปฏิปทาหนึ่งของพ่อแม่ครูอาจารย์ และอริยะชนทั้งหลายคือการดูแลบุพการีอย่างดีที่สุด และ “ที่สุด” ที่พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญคือการ “ให้ธรรม ชักนำสู่ทางวิมุติ”

    เมื่อได้อ่านความกตัญญูของท่านเหล่านี้ ความหาญกล้า องอาจของสตรีเพศที่อุ้มท้องพระอริยะ (ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเพียงหญิงชาวนา ชาวบ้านธรรมดา) ฉันรู้สึกซาบซึ้ง นับถือ ในหัวใจอันหาญกล้าของท่านเหล่านั้นทุกครา และสงสัยว่า

    “ทำบุญอันไหนหนอจึงได้ให้อริยะสงฆ์หน่อเนื้อพระพุทธเจ้ามาจุติในครรภ์ตนเอง”

    กล่าวอย่างย่อในพระไตรปิฎกได้แสดงไว้ว่า สตรีผู้ที่จะมีสิทธิ์อุ้มท้องเทวดา พระสงฆ์ พระโพธิสัตว์ พระพุทธเจ้านั้น ล้วนแล้วแต่ต้องเคยมี “บุญสัมพันธ์” กันมานับอสงไขกัปป์ อย่างหยาบที่สุด คือ การทำบุญสุนทานร่วมกัน การปฏิบัติธรรมร่วมกัน และการอธิษฐานให้ได้อุ้มท้องอริยะเหล่านั้น…นอกจากนั้นสตรีเหล่านั้นต้อง”บำเพ็ญธรรม” อย่างยิ่งยวดหลายภพหลายชาติเพื่อให้กาย และจิต วิญญาณ สะอาดพอที่จะรองรับการจุติของอริยะบุคคล

    ครรภ์ของสตรีที่บริสุทธิ์ที่สุดในจักรวาลคือ “ครรภ์ของพระนางสิริมหามายา” พุทธมารดา เป็นครรภ์ที่บริสุทธิ์ และยิ่งใหญ่จนไม่มีชีวิตวิญญาณใดจะร่วมจุติในอุทรได้ นั่นจึงเป็นคำตอบว่า เพราะเหตุใดพระนางสิริมหามายาจึงสวรรคตหลังจากให้กำเนิดเจ้าชายสิทธัตถะเพียงแค่ 7 วัน

    อ่านแล้วลูกทั้งหลายพึงสังวรณ์ สำเหนียกถึงการเสียสละ ดวงใจอันประเสริฐ ความรักอันพิสุทธิ์ของมารดา และพึงสำรวจ พัฒนา ตนเองว่า มารดาของเราอุ้มท้อง…เทวดา…อริยะ…หรือสัตว์นรก !!!

    หากเป็นอย่างหลัง พึงรีบปฏิบัติ ปฏิวัติตนเองใหม่ เร่งบำรุงท่านทั้งทางโลก และทางธรรมเทอญ

    ขออนุโมทนาบุญกับผู้ที่เผยแพร่
    เป็นธรรมทานด้วยนะครับ สาธุ

    [​IMG]

    ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น
     
  4. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  5. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  6. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  7. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    เมื่อประมาณวันที่ ๔ กันยายนที่ผ่านมา มีโอกาสได้ไปร่วมแสดงความอาลัยในการบำเพ็ญกุศลศพ คุณแม่งักจวง แซ่โง้ว(แซ่เอี๊ยว) ซึ่งเป็นคุณแม่ของ คุณวิโรจน์ ภาคย์นิธิ หรือที่ชาวศิษย์วัดเขาสุกิมเรียกเขาว่า “แปะตี๋” ซึ่งได้ล่วงการบำเพ็ญกุศลนั้นไปแล้ว ณ วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพมหานคร

    ตอนที่คุณยายงักจวงป่วยอยู่นั้น เราก็มีโอกาสได้ไปเยี่ยมอยู่สองสามครั้ง ที่โรงพยาบาลศิริราช พอจะทราบเรื่องราวต่าง ๆ ของคุณยายบ้าง วันนี้คุณยายได้ล่วงไปสู่สัมปรายภพแล้ว จึงอยากจะเขียนเรื่องราวบางอย่างเก็บไว้และเป็นอนุสรณ์ให้คุณยายสักหน่อยหนึ่ง เพราะคุณยายก็เป็นอีกบุคคลหนึ่งที่เคยได้ประสบพบเจอกับองค์หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย พระบูรพาจารย์ของเรา และโดยส่วนตัวมองว่ากรณีของคุณยายถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกดีด้วย

    ครั้งนั้นน่าจะราวปี พ.ศ. ๒๕๓๑ คุณยายงักจวง เกิดอาการหมดสติไปอย่างกะทันหัน ลูกหลานก็ได้นำส่งที่โรงพยาบาลธนบุรี คุณหมอได้แจ้งให้ทราบว่าต้องทำการฉีดสีและผ่าตัดสมอง แปะตี๋ ผู้เป็นบุตรไม่มีความประสงค์ที่จะให้คณะแพทย์ทำการผ่าตัดจึงห้ามทุกคนไว้อย่าพึ่งทำการผ่าตัดใดๆ แล้วตนเองก็รีบรุดออกจากโรงพยาบาลไปกับพี่สาว

    ในสถานการณ์เช่นนี้แปะตี๋คิดออกแค่อย่างเดียวคือ “ท่านอาจารย์ช่วยด้วย” แปะจึงรีบรุดไปหาที่พึ่งพิงอันเกษม ผู้สามารถชี้ทางให้มหาชนทั้งหลายพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้ นั่นคือ “หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย” ถือว่าเป็นโชคดีที่วันนั้นองค์หลวงปู่เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจในเขตกรุงเทพมหานครพอดี แต่กระนั้นก็ยังมีอุปสรรคมาขวางกั้นให้เป็นเครื่องทดสอบความอดทนอยู่สักหน่อย เพราะเมื่อรู้ความว่าองค์หลวงปู่ไปที่ใดเขาก็รีบเดินทางไป แต่เมื่อไปถึงกลับพบว่าองค์หลวงปู่เดินทางไปอีกสถานที่หนึ่งแล้ว เป็นเช่นนี้อยู่ถึงสามครั้ง แต่ด้วยความวิริยะของแปะตี๋และพี่สาวจึงได้พบหลวงปู่ในที่สุด

    ผู้ที่เคยได้กราบนมัสการหลวงปู่สมชาย คงทราบดีว่าหลวงปู่ไปที่ใดศรัทธามหาชนจะหลั่งไหล่ไปสู่ที่นั่น ครั้งนี้คุณวิโรจน์ถึงกับเสียมารยาททั้งแหวกทั้งแซงทุกคนเพื่อให้ตัวเองเข้าไปถึงองค์หลวงปู่ให้เร็วที่สุด เมื่อหลวงปู่เห็นใบหน้าลูกศิษย์ผู้มีความทุกข์ องค์ท่านได้เอ่ยวาจาด้วยความเมตตาว่า “มีอะไร ลูกศิษย์?” “ท่านอาจารย์ช่วยแม่ผมด้วยครับ หมอบอกว่าแม่ผมต้องผ่าตัด” นี่คือคำกราบเรียนของเขาต่อองค์หลวงปู่ด้วยความร้อนใจ องค์หลวงปู่นิ่งไปชั่วอึดใจแล้วกล่าวว่า “อืม.. อาการหนักนะ ต้องผ่า” คุณวิโรจน์จึงรีบกราบเรียนสวนขึ้นทันทีอีกครั้งว่า “ผมไม่อยากให้ผ่าครับ”

    ด้วยเมตตาบารมีอันหาประมาณมิได้ขององค์บูรพาจารย์ หลวงปู่ใช้มือทั้งสองข้างจับที่กระหม่อมของแปะตี๋ ด้วยอาการอันสงบนิ่งใช้เวลาเพียงนาทีเศษๆ ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างเงียบกริบและจดจ่อไปที่หลวงปู่เพื่อดูว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไป ในท่ามกลางความเงียบสงบนั้น สุรเสียงแห่งผู้ขจัดทุกข์กล่าวขึ้นเบาๆ ว่า “หายแล้ว” เพียงแค่สองพยางค์ก็ทำให้ใจของแปะตี๋ พ้นจากความทุกข์ไปได้แล้ว

    และเมื่อกลับมาถึงโรงพยาบาลก็ปรากฏว่าคุณยายงักจวง กลับคืนสติ อาการหายเป็นปกติ ดุจว่าไม่มีอะไรเคยเกิดขึ้น สิ่งที่เหลือเชื่อเช่นนี้ทำให้ทีมแพทย์เจ้าของไข้ก็ถึงกับงุนงง และไม่รู้ว่าจะอธิบายว่าอย่างไรดี จากนั้นมาคุณแม่ของแปะตี๋ก็มีสุขภาพพลานามัยที่ดีโดยสมควรแก่วัย จนมาถึงกาลแห่งกาละ ด้วยอายุถึง ๙๓ ปี

    เหตุอนุสรณ์นี้นับว่าเป็นเมตตากรุณาแก่ศิษยานุศิษย์ผู้อาศัยพึ่งพาบารมีของพระเดชพระคุณ พระวิสุทธิญาณเถร(หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย) เป็นที่สุด เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องยากที่ท่านทั้งหลายจะไม่คิดสงสัย แต่ในส่วนของผู้ที่เคยได้รับกระแสบารมีจากองค์หลวงปู่มาแล้วนั้นไม่มีอะไรที่ต้องมานั่งคิดสงสัยเลย

    ด้วยความเคารพแด่องค์หลวงปู่ และระลึกถึงคุณยาย

    ทิวา จ.

    -๔-กันย.jpg

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  8. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  9. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  10. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  11. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ปลง คือวางลงอย่าแบกมัน

    ” .. คำที่ว่า “ปลง” นั้นก็คือ “วางลง อย่าไปหอบไว้ อย่าไปหิ้วมันไว้ อย่าไปแบกมันไว้” สังขารคือร่างกายนี้ให้โยมยอมรับเสียว่า “สังขารร่างกายนี้ถึงแม้ว่ามันจะเป็นยังไง ๆ ก็ตามมันเถอะ” เราก็ได้อาศัยสกลร่างกายนี้มาตั้งแต่กำเนิดเกิดขึ้นมาก็พอแล้ว จนถึงเฒ่าชแลแก่ชราบัดนี้

    เหมือนเปรียบประหนึ่งว่า “เครื่องใช้ไม้สอยของเราต่าง ๆ ที่อยู่ในบ้าน ซึ่งเราเก็บกำไว้นมนานมาแล้ว” เช่น ถ้วยโถโอจาน บ้านช่องของเรานี้ “เบื้องแรกมันก็สดใสใหม่สะอาดดี เมื่อเราใช้มันมาตลอดกาลนาน บัดนี้สิ่งทั้งหลายนั้นมันก็ทรุดไปโทรมไป” บางวัตถุก็แตกไปบ้าง หายไปบ้าง “ชิ้นที่มันเหลืออยู่นี้ก็แปรไปเปลี่ยนไป ไม่คงที่” มันก็เป็นอย่างนั้น .. ”
    …..

    “บ้านที่แท้จริง”
    หลวงปู่ชา สุภัทโท

    -คือวางลงอย่าแบกมัน.jpg

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  12. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    1f506.png ปุจฉา-วิสัชนา โดยพระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม 1f506.png

    วัดป่าสัมมานุสรณ์ อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย

    ==============

    1f341.png ปุจฉา: หลวงปู่เจ้าคะ เวลาภาวนาทำอย่างไรจิตจึงจะรวม

    1f342.png วิสัชนา: ให้พิจารณาความตาย

    1f341.png ปุจฉา: หนูนั่งภาวนาครั้งหนึ่งเกิดมีกลิ่นเหม็นร่างกายของตัวเองอย่างรุนแรงจนแทบอาเจียน
    แต่หนู่พยายามฝืนทนนั่งภาวนาอยู่ต่อไป คิดว่าเหม็นก็ช่างมัน ทนเอา อีกสักครู่เกิดอาเจียนออกมา
    คล้ายเสลดกองอยู่บนตักเต็มไปหมดประมาณได้สัก ๑ กระโถน พอหนูออกจากการภาวนาเอามือมาจับดู
    ปรากฏว่าไม่เห็นมีอะไร มันเป็นอะไรคะหลวงปู่

    1f342.png วิสัชนา: ธรรม

    1f341.png ปุจฉา: หลวงปู่ครับ กระผมนั่งสมาธิอยู่มันเกิดมีแสงสีม่วงมาแยงเข้าตาจะทำอย่างไรครับ

    1f342.png วิสัชนา: เกิดขึ้นมันกะหายไปเอง

    1f341.png ปุจฉา: ไม่ต้องไปสนใจมันใช่ไหมครับ หลวงปู่

    1f342.png วิสัชนา: อื้อ บ่ต้องดีใจ บ่ต้องเสียใจ ฮ้ายกะซ่าง ดีกะซ่าง (ร้ายก็ช่าง ดีก็ช่าง)

    1f341.png ปุจฉา: หลวงปู่ครับ กระผมและครอบครัวเดินทางมาไกลเพื่อกราบนมัสการหลวงปู่ โอกาสนี้ขอฟังธรรมะหรือเทศน์สั้นๆเพื่อจะได้นำไปเป็นหลักปฏิบัติในชีวิตต่อไป

    1f342.png วิสัชนา: (นิ่งสักครู่ประมาณ ๒ – ๓ นาที) แล้วตอบว่า “เอาใจใส่” และว่า “มนุสโส ปฏิลาโภ”

    1f341.png ปุจฉา: คำถามของคนหูหนัก (เกือบหนวก) ผู้หนึ่งชื่อนายคำ เป็นคนมีสัตย์มีศีลธรรมดคนหนึ่ง และเป็นนักภาวนาที่หาตัวจับยากในบรรดาชาวบ้านด้วยกัน แกมีอาการแปลกๆ เกี่ยวกับการภาวนา มาเล่าถวายหลวงปู่เสมอ ซึ่งท่านก็เมตตาแนะนำ เมื่อแกหายหน้าไปท่านจะถามหาและเมตตาแกมาตลอดเวลาร่วม ๒๐ ปี วันหนึ่งได้มีโอกาส แกเรียนถามหลวงปู่ว่า หลวงปู่ครับเป็นเพราะกรรมอันใดหรือ ทำไมหูผมจึงหนวก ผมเคยได้ทำกรรมอะไรไว้บ้างครับ

    1f342.png วิสัชนา: แต่ก่อนเวลาพระกำลังเทศน์ มีญาติโยมนั่งฟังอยู่หลายที่ศาลาโรงธรรม แล้วบ่สนใจฟัง ซ้ำยังเป่าแคน ตีฉิ่ง ตีกลอง มารอบศาลาที่พระเทศน์ให้โยมฟังอยู่ แล้วเว้าหยอกผู้สาว เวลาผู้สาวเหลียวมากะพากันเฮ จนพระที่กำลังเทศน์อยู่เสียสมาธิ ทำให้ลืมคำเทศน์ ต้องตั้งนะโมขึ้นใหม่ ตั้งเทื่อสองเทื่อ (ครั้งสองครั้ง) กรรมอันนี้จึงทำให้หูหนวก

    1f341.png ปุจฉา: ชาตินี้สิพ้นกรรมบ่ หลวงปู่

    1f342.png วิสัชนา: อือ

    1f341.png ปุจฉา: มีญาติโยมคนหนึ่งมาปรารภว่าตนมักจะมีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียนอยู่เสมอ และฝันร้ายเป็นนิจ กราบเรียนถามหลวงปู่ว่า จะให้ทำอย่างไรจึงจะหายจากฝันร้าย และอยู่เย็นเป็นสุขเสียที

    1f342.png วิสัชนา: ให้ตั้งสติให้คักๆ(แน่วแน่,ดีๆ) และระลึกถึงพระรัตนตรัยและสวดยันทุนนิมิตตัง

    1f341.png ปุจฉา: คนฆ่าตัวตายนี่บาปไหมครับ หลวงปู่

    1f342.png วิสัชนา: บาป มันต้องตาย (ฆ่าตัวเองตาย) อีกห้าร้อยชาติ

    1f341.png ปุจฉา: มันมีกรรมแม่นบ่ หลวงปู่

    1f342.png วิสัชนา: อือ

    1f341.png ปุจฉา: หลวงปู่คะ ผู้หญิงถ้าบวชเป็นแม่ชี ถ้าแม่นบุญบารมีหลายสมาธิเก่งๆก็อาจจะฮู้ (รู้ภายใน) คือกันบ่ หลวงปู่

    1f342.png วิสัชนา: อื้อ ฮู้ได้ ๓๐ ปีรักษาศีลแปดนุ่งขาวห่มขาว กะได้ไปขึ้นสวรรค์ เหาะได้ครือกันนั้นแหล่ว ไปนิพพานได้ครือกัน มีหญิงคนหนึ่งอยู่เมืองพม่า

    1f341.png ปุจฉา: เหาะได้ตั้งแต่ยังบ่ทันตายหรือคะ

    1f342.png วิสัชนา: อื้อ…เหาะได้ตั้งแต่บ่ทันตาย

    1f341.png ปุจฉา: เขาบวชมาได้จั๊กปีคะ (กี่ปีคะ)

    1f342.png วิสัชนา: ๓ ปี

    1f341.png ปุจฉา: อันนี้เพิ่มสร้างบุญบารมีมาแต่ชาติก่อนหรือคะ หลวงปู่

    1f342.png วิสัชนา: เทิ่งชาติก่อน เทิ่งชาตินี้ (เทิ่ง = ทั้ง) ปู่เคยไปอยู่ที่นั่นคืนหนึ่ง แม่ชีเอาผ้าขาวงามมาถวาย มาให้พระอาบน้ำ

    1f341.png ปุจฉา: ทุกวันนี้ก็ยังหรือคะหลวงปู่

    1f342.png วิสัชนา: คงจะยังอยู่ เพราะตอนนั้นยังหนุ่มๆ (สาว)อยู่

    1f341.png ปุจฉา: ในเมืองไทยมีไหมคะ คนที่สำเร็จแบบแม่ชีพม่านี้

    1f342.png วิสัชนา: ภาวนาเก่งๆ นี้มีอยู่ที่คำชะอี

    1f341.png ปุจฉา: เดี๋ยวนี้ยังมีอยู่ไหมคะ (ถาม พ.ศ. ๒๕๒๖)

    1f342.png วิสัชนา: ยังอยู่

    1f341.png ปุจฉา: หลวงปู่…ข้าน้อยทำมาหากินอยู่อย่างสุจริต แต่มีคนมาบังเบียด อิจฉาริษยา แกล้งต่างๆนานา เขาว่าหมอธรรม (หมอไสยศาสตร์) มาเสกก้อนหิน แล้วขว้างใส่หลังคาบ้าน ๓ ก้อน ได้ยินเสียงแล้ว มันสิเป็นอันตรายบ่หลวงปู่

    1f342.png วิสัชนา: บ่เป็นหยัง

    1f341.png ปุจฉา: เขาจะจ้างมือปืนมาฆ่า เขาขู่เข็ญให้หนี ว่าขืนไม่หนีต้องตาย มันเป็นยังไงคะหลวงปู่ มันจะตายเพราะเขาจริงๆหรือคะ

    1f342.png วิสัชนา: บ่เป็นหยัง ถ้าไหว้พระ สวดมนต์ภาวนาอยู่ บ่เป็นหยัง เขาขู่…นานๆมันกะจืดจางไปเอง

    1f341.png ปุจฉา: โยมผู้หญิงเคยไปภาวนาที่วัด แต่เกิดกลัวผีเพราะที่วัดเป็นป่าช้า มีการเผาศพเป็นประจำ เลยมากราบเรียนหลวงปู่ตรงๆหนูกลัวผีเจ้าค่ะหลวงปู่ หลวงปู่มีคาถากันผีไหมเจ้าคะ
    ขอให้หนูด้วย

    1f342.png วิสัชนา: สุขัง สุปะติ (เป็นคาถาแผ่เมตตา นิสังสะสตตะปาโฐ คาถาเต็มบท สุขัง สุปะติ สุขัง ปฏิพุชฌะติ นะปาปะกัง สุปินัง ปัสสะติฯ มนุสสานัง ปิโย โหติ อะมะนุสสานัง ปิโย โหติ)

    1f341.png ปุจฉา: หลวงปู่เจ้าคะ ทำอย่างไรจึงจะพ้นทุกข์ ไม่ต้องมาเกิดแก่เจ็บตายอีก

    1f342.png วิสัชนา: ไปบวช

    1f341.png ปุจฉา: หลวงปู่ครับ เพื่อมันแกล้งนินทาว่าร้ายผมต่างๆนานา ทำอย่างไรดีครับ

    1f342.png วิสัชนา: บ่ต้องสนใจ

    1f341.png ปุจฉา: มันอดไม่ได้นี่ครับ

    1f342.png วิสัชนา: แผ่เมตตา

    1f341.png ปุจฉา: หลวงปู่เจ้าคะ พวกเพื่อนฝูงหนูเขาร่ำรวยมีเงินกันทั้งนั้น ทำยังไงหนุถึงจะรวยอย่างเขากันบ้างล่ะเจ้าคะ

    1f342.png วิสัชนา: ทำงาน

    1f341.png ปุจฉา: (ผู้ถามนิ่งไป คงจะคิดตามหลวงปู่ไม่ค่อยทัน ครั้นแล้วเธอก็ถามซ้ำอีกอย่างไม่ค่อยจะแน่ใจ) ทำงานแล้วจะรวยแน่นะเจ้าคะ

    1f342.png วิสัชนา: ทำบุญด้วย

    1f341.png ปุจฉา: หลวงปู่เจ้าคะพวกเราเคารพเลื่อมใสศรัทธาหลวงปู่กันมากที่สุด อยากบำเพ็ญบุญ ทำกุศลถวายหลวงปู่เท่าใดก็ไม่อิ่ม หลวงปู่บำเพ็ญบารมีทำบุญอะไรไว้ในชาติก่อนเจ้าคะ จึงได้บวชมาเป็นหลวงปู่ให้พวกเราได้กราบไหว้เคารพบูชาอย่างนี้

    1f342.png วิสัชนา: ไปธาตุพนม สร้างธาตุพนม ไปกับพ่อเชียงหมุน (ชาติก่อนซึ่งเป็นสหายกัน) ช่วยกันสร้างธาตุพนมเอาเงิน ๕๐ สตางค์กับผ้าขาววาหนึ่งเอาไปทานกับเพิ่น

    1f341.png ปุจฉา: หลวงปู่ทำบุญแล้วอธิษฐานหรือเปล่าเจ้าคะ อธิษฐานว่าอย่างไร ตอนให้ทานเงิน ๕๐ สตางค์

    1f342.png วิสัชนา: อธิษฐานว่าให้ได้บวช ให้พ้นทุกข์ว่าอย่างนี้แหละ

    1f4cd.png ที่มา:http://www.thatphanom.com/forum-3/272/ปุจฉา-วิสัชนา-หลวงปู่ชอบ-ฐานสโม.html

    1f4cd.png เรียบเรียงย่อหน้าวรรคตอนลงfacebook :ธนารักษ์

    ☀ขออนุโมทนากับทุกท่านที่มีส่วนเผยแพร่ครับ☀

    -วิสัชนา-โดยพระคุณเ.jpg

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  13. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    เรื่อง “ดวงชะตาราศี ก็คือ ดวงของกรรม”
    “ลายมือ ก็คือ ลายของกรรมนั่นแล”

    (คติธรรม หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)

    คำว่า ดวงชะตาราศี ก็คือดวงของกรรม ลายมือ ก็คือลายของกรรมนั่นแล ที่เขาดูลายมือถูก ดูดวงถูก ผูกดวงถูก เขาก็เรียนหลักวิชามาผูก หลักวิชาที่เขาเรียนมาก็ออกมาจากตัวของคนนี้แหละ ซึ่งมีกรรมดีชั่วเป็นรากฐานอยู่แล้ว ถ้าเรามีความฉลาดสามารถเรียนผูกดวง หรือเรียนดูลายมือให้รู้ตามความเป็นจริงแล้ว ก็ไม่จำเป็นจะต้องมาดูลายมือเท่านั้น จะสามารถเข้าใจจนกระทั่งลายเท้า ดูข้างหลังก็เข้าใจ ดูข้างหน้าก็เข้าใจเพราะร่างกายเราทุกส่วนมันเป็นตัวกรรม เป็นรูปลักษณะของกรรมดีชั่วบอกไว้รอบตัว และเป็นผลของกรรมแสดงออกมาด้วยกันทั้งนั้น แต่เราไม่สามารถรู้ได้ตลอดทั่วถึงตามความเป็นจริงของร่างกายส่วนต่างๆ เท่านั้น รู้เพียงงูๆ ปลาๆ จับต้นชนปลายก็ไม่ถูกแต่ก็ชอบดูกัน เพราะมนุษย์มีนิสัยชอบโกหก ไม่ชอบของจริง ถ้าเรื่องโกหกแล้วเพลิดเพลินจนลืมเวล่ำเวลา ลืมหมด ลืมยังเงินเกลี้ยงกระเป๋า ใจก็ไม่เศร้าโศก เพราะความชอบความเพลินพาให้เป็นไป

    ส่วนมากก็มารู้เพียงฝ่ามือ ดูลายมือ ดูดวงเกิดวันนั้น เดือนนี้ ปีนั้นเท่านั้น ก็ยังพอเป็นแบบเป็นฉบับพอทายกันให้เพลินๆ ผู้ที่เชื่อก็พอเชื่อให้เพลิน บางทีก็ถูก บางทีก็ผิด ถ้าจะดูให้ถูกจริงๆ ก็ดูตัวของเรานี้แหละเป็นสิ่งที่เหมาะที่สุด คือดูความเคลื่อนไหวทางกาย วาจา ใจของเราเองว่า มันเคลื่อนไหวไปในทางดีหรือทางชั่ว ก็รู้ว่าดวงเราตัวเราดีและไม่ดีไปตามการกระทำของตนนั่นแล

    คนที่เชื่อกรรมก็ทำตัวให้ถูกต้องดีงามอยู่โดยสม่ำเสมอ จัดว่าเป็นผู้ที่มีดวงดี ดีอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าระยะนั้นดวงมันขึ้นมันลง เราพาขึ้นดวงก็ขึ้น เราพาลงดวงก็ลง เพราะดวงมันอยู่กับเรา เราพาดีมันก็ดี พาชั่วมันก็ชั่ว ดูไม่ดูมันก็ดีกับชั่วของมันอยู่นั้นแล เราหากไปดูเวลานั้นมันดียังงั้น มันชั่วยังงี้นะ ความจริงมันก็ดีกับชั่วเป็นประจำอยู่แล้ว จากการกระทำดีและชั่วของเรา จากตัวของเรา ซึ่งเป็นตัวดวงหรือเป็นตัวลายของลายมือ ดูตรงนี้เป็นเหมาะที่สุดสำหรับชาวพุทธเรา

    [​IMG]

    ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น
     
  14. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    หลงขี้
    “คนเรามันหลงอะไรกันแค่หนังบางหุ้มไว้ (หลวงปู่ชี้ใส่ผิวหนังท่านให้ดู)ถ้าได้ลอกออกดูสิ จะหาความสวยงามมาจากไหน ดูทวารต่างๆสิมีแต่ของเสียขับออกมา ขี้หู ขี้ตา ชี้ฟัน ของเน่าของเหม็น เรายังเพลิดเพลินยินดีว่ามีสุข มันจะหาสุขจากไหน อาตมาพิจารณาละเอียดละออมาแล้ว จึงมาบอกมาสอน ให้พากันเบื่อหน่าย จะได้ไม่กลับมาเกิดอีก ติดมากนะของแบบนี้คนเรามันว่าสวยว่างาม”
    โอวาทธรรมหลวงปู่ แสง ญาณวโร
    ัดจากหนังสือรวมพระธรรมเทศนาแสงธรรมส่องใจ

    .jpg

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  15. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  16. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  17. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  18. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  19. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  20. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...