ธรรมะจากเพจต่างๆ พระสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น

 

ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

 

ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

 

เรื่อง “วิชาไสยศาสตร์ ขี่หลังเสือ”

(เทศนาโดย หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)

อย่างที่พวกเขาขี่เสือมีนะ นี่ละไสยศาสตร์ขี่เสือได้นะ ขี่เสือป่านี่ขี่เสือได้ ที่บ้านหนองแวงนี่ก็มีคนหนึ่ง เราเกิดไม่ทันผู้เฒ่าตายเสียก่อน เขาเรียกพรานป้อ คนเตี้ยๆ ขี่เสือมาเรื่อย ไปในป่าพอไปเหนื่อย ๆ แล้วขี่เสือออกมา เขามีวิชาจับเสือขี่ อันนี้ก็มีคนหนึ่งอยู่ทางบ้านมาย อำเภอบ้านมายหรืออำเภอบ้านม่วง มีเสือ..ดงใหญ่ คนนี้ก็ขี่เสือได้ ไปเรียนวิชามาจากฝั่งลาว ไปเรียนกับพวกโซ่พวกข้าเขา เรียนวิชาขี่เสือ ว่าไปด้วยกัน ๕ คน ครูนำหน้าไป พอไปตั้งทัพลงตรงนี้ปั๊บแล้วก็นั่งร่ายมนต์เรียกเสือมา เสือตัวไหนอยู่ใกล้มันก็มา มาก็มานอนอยู่ตามนี้เสือ เสือโคร่งนะคนร่ายมนต์ ทีนี้เสือก็มาลูกศิษย์จนตัวสั่นแหละ อาจารย์เป็นคนร่ายเสือมา

ทีนี้พอมันมาแล้วก็สั่งคนนั้นไปขี่เสือมานี่ คือมันมานอนอยู่ตามอย่างนี้ ให้ขี่เสือตัวนั้นเข้ามาหาครูนี่ ครูนั่งอยู่นี่ ทดลองในขั้นนี้ก่อนนะ ทดลองเป็นขั้น ๆ จนกระทั่งใจกล้าหาญเชื่อวิชาตัวแล้วทีนี้ก็ปล่อย อันนี้ก็สั่งคนนี้ให้ไปขี่เสือ ไม่ยอมไปกลัวเสือกินหัวมัน อาจารย์ไล่ไม่ยอมไป เสือก็นอนดาดาษอยู่ มันดงเสือนี่นะตัวไหนอยู่ใกล้ก็มาก่อน ตัวไหนอยู่ไกลก็มา บางทีจนคนจะเลิกแล้วค่อยมาถึงก็มี ทีนี้พอถึงคนที่ห้านี้ตัดสินใจเลยตายก็ตาย ถ้าครูไม่เก่งจริงจะเรียกเสือมาไม่ได้ เอากันตรงนั้นตัดสิน ถ้าครูไม่เก่งจริงแล้วเรียกเสือมาไม่ได้ ครูต้องเก่ง นี่ครูเป็นคนบอกเองให้เราไปขี่เสือมาหาครูนี้จะเป็นอะไรไป เอ้า ตายก็ยอมตาย ไปก้าวขาจะไม่ออกมันแข็งไปหมดว่างั้น

เอ้าๆ ไปบังคับให้ไป ไปก็ไปขี่เสือมาหาครู พอขี่ตัวนี้มาแล้ว ไปๆ ขี่เสือมาอีก ขี่ตัวนี้มานอนอยู่นี้ นอนอยู่หน้าคน นี่ละไสยศาสตร์เขาเก่งไหม ก็ขี่ตัวนั้นมาขี่ตัวนี้มา กล้าหาญละ นี่เป็นครั้งหนึ่งแล้วนะทดลองพักแรก พักที่สองครูนั่งอยู่ที่นี่ให้ลูกศิษย์ไปนั่งอยู่โน้น ห่างๆ จากครูไป ให้ลูกศิษย์เป็นคนร่ายมนต์เรียกเสือมา มาหาแล้วก็ขี่เสือมาหาครู เขาทำหลายพักนะเขาทดลอง คือทีแรกเรียกมาหาครูเสียก่อน ให้ลูกศิษย์คนนี้ไปขี่เสือเข้ามาหาครู ไปขี่เสือตัวนั้นเข้ามา จากนั้นแล้วก็ให้ลูกศิษย์นี่ไปอยู่นอกๆ โน้นไกลๆ แล้วก็ไปร่ายมนต์เรียกเสือมา แล้วขี่เสือมาหาครู ทีนี้พอชำนาญแล้วถามลูกศิษย์ว่าแน่ใจแล้วไม่กลัวแล้วก็ปล่อยละ

อีตาคนนี้แกขี่เสือ คนบ้านมายนี่ เขาเห็นกันหมดทั้งบ้านปฏิเสธได้ยังไง ทีนี้จึงรู้ว่าเสือสติมันดี รู้กันตามนี้ว่างั้น แกขี่เสือไปนี้ไปตามด่านในดง ขี่เสือไปตามด่านในดง คนมาทางโน้นเสือมันดิ้นแล้วทางนี้ คนมาไม่ใช่คนธรรมดา คนธรรมดาก็เป็นอย่างหนึ่งพูดกันจอแจมา แต่นายพรานมานั่นซิ นายพรานเขาไม่ได้จอแจนี่ เขามาจ้อเลยหายิงเนื้อล่าเนื้อ นายพรานก็รู้ พอนายพรานมาข้างหน้าโน้นทางนี้ดิ้นแล้วจะออกจากทาง พอเห็นท่าไม่ดีก็ปล่อย ปล่อยก็วิ่งเลยเข้าป่าปั๊บ สักเดี๋ยวนายพรานก็มา

คือสติมันดีอย่างนั้นนะว่างั้น รู้ได้เร็วมาก ไอ้ที่จะไปเจอกันจริงๆ ไม่ได้เจอง่ายๆ แหละ มันดุกดิกๆ แล้ว พอจวนเท่าไรมันดิ้นจะไป พอปล่อยปั๊บนี้วิ่งเลยเข้าป่า สักเดี๋ยวนายพรานก็มา บางทีเวลานอนกลางคืนเหมือนกับว่าเอาเสือเป็นหมา เจ้าของนอนอยู่กลางคืนพอตื่นขึ้นมานี้เสือมานอนอยู่ด้วยแล้ว มานอนอยู่กับคน มันไม่กลัวคนเพราะเป็นครูเขานี่ครูเสือ นี่ละเรียกไสยศาสตร์



ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น

 

“ความดีต้องอาศัยความยากลำบากเป็นบาทเบื้องต้น คือให้มีสติสัมปชัญญะ วิตกวิจารอยู่ในกรรมฐานของตนเสมอๆ นั่นแหละ ความสำเร็จก็จะต้องตามมาในภายหลัง”

-:- ท่านพ่อลี ธัมมธโร -:-
วัดอโศการาม อ.เมือง จ.สมุทรปราการ



ที่มา พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

 

พระธรรมเสนาบดีพระสารีบุตรนิพพาน ในวันลอยกระทง รำลึกสังฆะปูชา ปี๒,๕๖๑ พระธรรมเสนาบดีพระสารีบุตร…”

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

วันลอยกระทง ตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๑๒ ซึ่งในวันนี้มีเหตุการณ์สำคัญในอดีตที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาดังนี้

พระสารีบุตรนิพพาน

พระสารีบุตร พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญท่านไว้เป็นอันมาก ดังเช่นที่พระองค์ตรัสไว้ว่า สารีบุตรอยู่ที่ทิศหรือสถานที่ใด ทิศหรือสถานที่นั้นก็เหมือนมีพระพุทธเจ้าเพราะ พระสารีบุตรมีปัญญามาก และพระสารีบุตรยังมีพระคุณที่ทำให้เราได้มีโอกาสศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าด้วย ในพระธรรมที่มี ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ๒,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ เป็นคำที่พระสารีบุตรกล่าวไว้

พระอานนท์กล่าวไว้ว่า
ธรรมเหล่าใด ที่ขึ้นปากขึ้นใจข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเรียนธรรมเหล่านั้นจากพระพุทธเจ้า ๘๒,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ เรียนจากภิกษุ ๒,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ รวม ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์.

ท่านพระสารีบุตรพิจารณาคุณธรรมและปัญญาของท่านเอง ก็หาที่สิ้นสุดไม่ได้ เม็ดทรายในแม่น้ำคงคายังนับได้แต่ปัญญาของพระสารีบุตรนั้นนับไม่ได้

วันเพ็ญเดือน ๑๒ (ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒) เป็นวันปริพนิพพานของพระสารีบุตรเถระพระอัครสาวกเบื้องขวาผู้เลิศด้วยปัญญา พระอัครสาวกทั้งสอง (ท่านพระสารีบุตรเถระ,พระมหาโมคคัลลานะ) ย่อมปรินิพพานก่อนพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้ากล่าวคือท่านพระสารีบุตร ปรินิพพาน ในวันเพ็ญเดือน ๑๒ ต่อจากนั้นอีก ๖ เดือนพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงได้เสด็จดับขันธปรินิพพาน (และ ท่านพระสารีบุตรปรินิพพานก่อนท่านพระมหาโมคคัลลานะ ๑๕ วัน) ดังนั้น เมื่อถึงวันเพ็ญเดือน ๑๒ แทนที่จะนึกถึง คิดถึงอย่างอื่น ก็ควรที่จะได้น้อมระลึกถึงพระรัตนตรัย พร้อมทั้งน้อมระลึกถึงพระคุณของท่านพระสารีบุตร ที่ท่านได้กระทำไว้ต่อพุทธบริษัท

ก็ บรรดาพระอัครสาวกทั้งสองนั้น พระธรรมเสนาบดี นิพพานในวันเพ็ญเดือนสิบสอง จากนั้นล่วงมาครึ่งเดือน ในวันอุโบสถแห่งกาฬปักข์กึ่งเดือนนั้น พระมหาโมคคัลลานะจึงนิพพาน

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ – หน้าที่ ๔๔๕

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน



ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น

 

“บุคคลฆ่าความโกรธ คือ มีสติระลึกถึงโทษของความโกรธเสมอได้แล้วจึงเป็นสุข ฆ่าความโกรธได้แล้วจึงไม่เศร้าโศก พระอริยเจ้าทั้งหลายย่อมสรรเสริญการฆ่าความโกรธอันมีรากเป็นพิษมียอดหวาน เพราะบุคคลนั้นฆ่าความโกรธนั้นแล้วนั้นย่อมเป็นที่เสน่หาของคนทั่วไป”

หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย
วัดเขาสุกิม จ.จันทบุรี



ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

 

สันทิฏฐิโก_ต้องปฏิบัติเองรู้เองเห็นเอง



ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น

 

พระพุทธเจ้าสอนว่าพระภิกษุต้องเป็นผู้เลี้ยงง่าย
เรื่องอาหารการกินการอยู่นุ่งห่มขบฉันต่างๆนั้น
พระธรรมวินัยท่านบัญญัติไว้หมดสมบูรณ์ดีแล้ว



ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น

 

สันทิฏฐิโก_ต้องปฏิบัติเองรู้เองเห็นเอง



ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น

 

ตัดกรรมตัดเวร

“…ตราบใดที่มนุษย์ยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพทั้งสามต้องมีบาปมีบุญคู่กัน บางชาติก็บุญกับบาปพอๆกัน บางชาติก็บุญหนักกว่าบาปสบาย บางชาติก็บาปหนักกว่าบุญทุกข์มากกว่าสุข แต่บางชาติมันเสมอกันนี่สิ สุขกับทุกข์พอๆกัน ถัาเราเชื่อเรื่องกรรมเราไม่สงสัยคำว่า เศษบาปเศษกรรมที่มันติดไปๆ นี่แหละที่พวกจอมขมังเวทย์ก็เลยได้เงิน พวกจอมขมังเวทย์ในเพศพระเพศอะไร หรือในกลุ่มของพวกฤาษีเขาก็ได้เงินเยอะ ก็นี่ล่ะ หาเงินหาทองกับคนที่เขลาเบาปัญญา ไปสะเดาะเคราะห์ไปตัดกรรมตัดเวร ความคิดของคนที่งี่เง่าโง่เขลาเบาปัญญา ถ้าคนตัดกรรมตัดเวรได้ก็คงไม่มีการเกิด อย่างพระอรหันต์นี่ตัดกรรมตัดเวรได้อย่างสมบูรณ์ก็เข้าสู่เมืองพระนิพพาน แต่ว่าตราบใดที่มนุษย์ยังเกิดอยู่ก็ต้องอาศัยกรรม กรรมดีเรียกว่ากุศล กรรมไม่ดีเรียกว่าอกุศล บางชาติกรรมทางด้านกุศลดีกว่าบาปอกุศลมันก็มีความสุข มีความสุขมากกว่าความทุกข์ แต่บางชาติมีบาปอกุศลมากกว่าบุญกุศล มันก็ต้องรับทางบาปอกุศลหนัก มีความทุกข์มากกว่าความสุข บางชาติมันเสมอกันนี่ลูกเป็นสุขกับทุกข์ ชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดหน ได้รับความชั่วออกจากความชั่วก็ได้รับดี พอจะดีหน่อยก็ลงไปชั่วมันจะเป็นอย่างนี้แหละลูกเสมอกันมันเสมอกัน แต่ถ้าบุญกุศลมีมากก็เลยมีความสุขในชาตินั้น แต่ว่าพวกเราไม่เข้าใจคำว่ากรรม ก็ว่าตกทุกข์ได้ยากมาก็บอกว่ากรรม เรียกกรรมว่าเป็นบาปไปเลย ไม่เรียกตามภาษาธรรมว่ากรรมมีสองอย่างมีกุศลกรรมและอกุศลกรรม แต่ว่ากรรมอีกอย่างที่เรียกว่ากรรมที่เป็นกลางๆ ที่ไม่เป็นบุญและไม่เป็นบาป เป็นกรรมที่กลางๆตัวนี้ไม่เข้าบุญและไม่เข้าบาป ตัวนี้จะเลยทั้งสองอย่างกรรมที่เป็นกลางๆ เวลาบาปขึ้นตัวกลางรู้ก็เข้าหาบาป เวลาบุญเกิดตัวกลางทราบก็เข้าหาบุญ เพราะตัวกลางไม่มีปัญญา เมื่อตัวกลางมีปัญญา ก็มีสติอยู่ตรงกลาง เมื่อมีสติอยู่ตรงกลาง บาปทราบว่าไม่ดีตัวเป็นกลางๆไม่เข้าหา บุญทราบว่าดีตัวเป็นกลางๆก็เข้าหา นี่ถ้ามีสติถ้าได้ศึกษาหาความรู้จะเข้าใจเรื่อง จิตที่เป็นกลางไม่ จิตที่ไม่เป็นกุศล และจิตที่ไม่เป็นอกุศล จิตเป็นกลางๆอยู่จิตตัวนั้นมันจะพัฒนาได้ก็เมื่อเนื่องด้วยเรามีสติอยู่ นี่แหละการประพฤติปฏิบัติธรรมคุณงามความดีก็ต้องอาศัยสติ ถ้าขาดสติก็ไม่สามารถสร้างคุณงามความดีได้ พวกเราก็คิดว่าเป็นกรรม ไปตัดกรรมตัดเวรเสีย ก็เลยไม่ทราบว่ากรรมมันมีกี่ประเภท ที่ภาษาบ้านเราก็ว่าไปตัดกรรมตัดเวรซะ เข้าโลงชักบังสุกุลตัดกรรมตัดเวร หรือไปทำอะไรที่มันตัดกรรมตัดเวร ไปเสียเงินให้หมอดูหมอเดาว่าตัดกรรมตัดเวรได้ สร้างพระพุทธรูปตัดกรรมตัดเวร ใส่บาตรพระปางวันเกิดตัดกรรมตัดเวร ไปใส่บาตรพระ ๑๐๘ ตัดกรรมตัดเวร ว่าไป ความจริงมันไม่มีในคำสอนพุทธศาสนาไม่รู้ใครเอามาจากไหน มันก็เลยไม่อยู่ในหลักคำสอนของพุทธศาสนา และก็ไม่อยู่ในสัมมาทิฏฐิ มันเป็นมิจฉาทิฏฐิเพราะไม่มีบัญญัติในของพวกนี้ ว่าให้ทำแบบนี้ดังที่พวกเราเห็นกันในปัจจุบัน…”

โอวาทธรรม : องค์หลวงปู่น้อย ญาณวโร
๘ มีนาคม ๒๕๕๘ การเกิดอาศัยกรรม
วัดป่าห้วยริน.



ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

 

ประมวลภาพ กลุ่มพุทธธรรมกรรมฐาน มหาวิทยาลัยรามคำแหง จัดงานรับฟังพระธรรมเทศนา พระอาจารย์สุธรรม สุธัมโม วัดป่าหนองไผ่ อ.เมือง จ.สกลนคร ในวันศุกร์ ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2561 เวลา 17.00-19.30 น. ณ ห้องประชุมชั้น 2 ตึกสถาบันคอมพิวเตอร์ (ใกล้ประตูทางออกฝั่งห้างบิ๊กซี) มหาวิทยาลัยรามคำแหง (หัวหมาก)














ที่มา พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

 

พระพุทธเจ้าสอนว่าพระภิกษุต้องเป็นผู้เลี้ยงง่าย
เรื่องอาหารการกินการอยู่นุ่งห่มขบฉันต่างๆนั้น
พระธรรมวินัยท่านบัญญัติไว้หมดสมบูรณ์ดีแล้ว



ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น

 

ตัดกรรมตัดเวร

“…ตราบใดที่มนุษย์ยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพทั้งสามต้องมีบาปมีบุญคู่กัน บางชาติก็บุญกับบาปพอๆกัน บางชาติก็บุญหนักกว่าบาปสบาย บางชาติก็บาปหนักกว่าบุญทุกข์มากกว่าสุข แต่บางชาติมันเสมอกันนี่สิ สุขกับทุกข์พอๆกัน ถัาเราเชื่อเรื่องกรรมเราไม่สงสัยคำว่า เศษบาปเศษกรรมที่มันติดไปๆ นี่แหละที่พวกจอมขมังเวทย์ก็เลยได้เงิน พวกจอมขมังเวทย์ในเพศพระเพศอะไร หรือในกลุ่มของพวกฤาษีเขาก็ได้เงินเยอะ ก็นี่ล่ะ หาเงินหาทองกับคนที่เขลาเบาปัญญา ไปสะเดาะเคราะห์ไปตัดกรรมตัดเวร ความคิดของคนที่งี่เง่าโง่เขลาเบาปัญญา ถ้าคนตัดกรรมตัดเวรได้ก็คงไม่มีการเกิด อย่างพระอรหันต์นี่ตัดกรรมตัดเวรได้อย่างสมบูรณ์ก็เข้าสู่เมืองพระนิพพาน แต่ว่าตราบใดที่มนุษย์ยังเกิดอยู่ก็ต้องอาศัยกรรม กรรมดีเรียกว่ากุศล กรรมไม่ดีเรียกว่าอกุศล บางชาติกรรมทางด้านกุศลดีกว่าบาปอกุศลมันก็มีความสุข มีความสุขมากกว่าความทุกข์ แต่บางชาติมีบาปอกุศลมากกว่าบุญกุศล มันก็ต้องรับทางบาปอกุศลหนัก มีความทุกข์มากกว่าความสุข บางชาติมันเสมอกันนี่ลูกเป็นสุขกับทุกข์ ชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดหน ได้รับความชั่วออกจากความชั่วก็ได้รับดี พอจะดีหน่อยก็ลงไปชั่วมันจะเป็นอย่างนี้แหละลูกเสมอกันมันเสมอกัน แต่ถ้าบุญกุศลมีมากก็เลยมีความสุขในชาตินั้น แต่ว่าพวกเราไม่เข้าใจคำว่ากรรม ก็ว่าตกทุกข์ได้ยากมาก็บอกว่ากรรม เรียกกรรมว่าเป็นบาปไปเลย ไม่เรียกตามภาษาธรรมว่ากรรมมีสองอย่างมีกุศลกรรมและอกุศลกรรม แต่ว่ากรรมอีกอย่างที่เรียกว่ากรรมที่เป็นกลางๆ ที่ไม่เป็นบุญและไม่เป็นบาป เป็นกรรมที่กลางๆตัวนี้ไม่เข้าบุญและไม่เข้าบาป ตัวนี้จะเลยทั้งสองอย่างกรรมที่เป็นกลางๆ เวลาบาปขึ้นตัวกลางรู้ก็เข้าหาบาป เวลาบุญเกิดตัวกลางทราบก็เข้าหาบุญ เพราะตัวกลางไม่มีปัญญา เมื่อตัวกลางมีปัญญา ก็มีสติอยู่ตรงกลาง เมื่อมีสติอยู่ตรงกลาง บาปทราบว่าไม่ดีตัวเป็นกลางๆไม่เข้าหา บุญทราบว่าดีตัวเป็นกลางๆก็เข้าหา นี่ถ้ามีสติถ้าได้ศึกษาหาความรู้จะเข้าใจเรื่อง จิตที่เป็นกลางไม่ จิตที่ไม่เป็นกุศล และจิตที่ไม่เป็นอกุศล จิตเป็นกลางๆอยู่จิตตัวนั้นมันจะพัฒนาได้ก็เมื่อเนื่องด้วยเรามีสติอยู่ นี่แหละการประพฤติปฏิบัติธรรมคุณงามความดีก็ต้องอาศัยสติ ถ้าขาดสติก็ไม่สามารถสร้างคุณงามความดีได้ พวกเราก็คิดว่าเป็นกรรม ไปตัดกรรมตัดเวรเสีย ก็เลยไม่ทราบว่ากรรมมันมีกี่ประเภท ที่ภาษาบ้านเราก็ว่าไปตัดกรรมตัดเวรซะ เข้าโลงชักบังสุกุลตัดกรรมตัดเวร หรือไปทำอะไรที่มันตัดกรรมตัดเวร ไปเสียเงินให้หมอดูหมอเดาว่าตัดกรรมตัดเวรได้ สร้างพระพุทธรูปตัดกรรมตัดเวร ใส่บาตรพระปางวันเกิดตัดกรรมตัดเวร ไปใส่บาตรพระ ๑๐๘ ตัดกรรมตัดเวร ว่าไป ความจริงมันไม่มีในคำสอนพุทธศาสนาไม่รู้ใครเอามาจากไหน มันก็เลยไม่อยู่ในหลักคำสอนของพุทธศาสนา และก็ไม่อยู่ในสัมมาทิฏฐิ มันเป็นมิจฉาทิฏฐิเพราะไม่มีบัญญัติในของพวกนี้ ว่าให้ทำแบบนี้ดังที่พวกเราเห็นกันในปัจจุบัน…”

โอวาทธรรม : องค์หลวงปู่น้อย ญาณวโร
๘ มีนาคม ๒๕๕๘ การเกิดอาศัยกรรม
วัดป่าห้วยริน.



ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น

 

ผู้มีธรรมมีสติปัญญาท่านเชื่อในสิ่งที่ควรเชื่อ



ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น

 

ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

 

ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

 

ผู้มีธรรมมีสติปัญญาท่านเชื่อในสิ่งที่ควรเชื่อ



ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น

 

ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

 

ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต