ธรรมะจากเพจต่างๆ พระสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย ธรรมะสายหลวงปู่มั่น, 6 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  2. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  3. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    พระพุทธศาสนาสอนไว้ยังไง
    พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์
    เรียกว่าหัวใจศาสนา ย่อๆ น้อยๆ ไม่ต้องเอามาก
    แต่ทำได้ไหม ? เท่านั้นเอง
    มันก็มาประกอบหรือบรรจุไว้ใน กาย วาจา ใจ
    หัวใจศาสนาในครั้งนั้นพระพุทธองค์ทรงตรัสว่า
    สัพพะปาปัสสสะ อะกะระณัง การไม่ทำบาปทั้งปวง เข้าใจง่ายๆ
    กุสะลัสสูปะสัมปะทา การยังกุศให้ถึงพร้อม
    สะจิตตะปะริโยทะปะนัง เอตัง พุทธานะสาสะนัง
    การทำจิตของตนให้ผ่องแผ้ว
    ถ้าไม่เข้าใจคำว่าผ่องแผ้ว ให้บริสุทธิ์
    การอยู่ การกิน อาชีพ การงาน ให้บริสุทธิ์ ผ่องแผ้วนั้น
    ถ้าเป็นนักภาวนาให้จิตใจผ่องแผ้ว ผ่องใส
    ปราศจากมลทิน คำว่าผ่องแผ้วตัวนั้น
    เราก็มาเอาคำว่า บริสุทธิ์เสียก่อน
    ทางกาย ทางวาจา ทางใจ นี้เข้าใจง่ายๆ
    จะไปแปลตรงไหนอีก คำสอนพระพุทธเจ้า
    แล้วก็มาอ่านตัวเองว่า
    สัพพะปาปัสสสะ อะกะระณัง การไม่ทำบาปทั้งปวง
    ก็อ่านตัวเองซิ ตู้พระไตรปิฏกกาย
    กองกาย กองวาจา กองใจ ก็อ่านดูซิ บริสุทธิ์หรือยัง?
    การไม่ทำบาปทั้งปวง ศีลห้ายังไม่กล่าวถึงทั้งปวงนะ
    ขนาดศีลห้ายังพากันรักษาไม่ได้
    แล้วว่าทั้งปวงมันจะขนาดไหน
    ก็กาย วาจา ใจ ของเรานั่นแหล่ะ ทั้งปวง
    หัวใจพุทธศาสนา
    โอวาทปาติโมกข์
    คำสอนพระพุทธเจ้า
    หลวงปู่พล_ยโสธโร
    วัดภูหล่มขุม อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร
    น้อมกราบพ่อแม่ครูบาอาจารย์ด้วยเศียรเกล้า

    .jpg
    พระพุทธศาสนาสอนไว้ยังไง
    พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์
    เรียกว่าหัวใจศาสนา ย่อๆ น้อยๆ ไม่ต้องเอามาก
    แต่ทำได้ไหม ? เท่านั้นเอง
    มันก็มาประกอบหรือบรรจุไว้ใน กาย วาจา ใจ
    หัวใจศาสนาในครั้งนั้นพระพุทธองค์ทรงตรัสว่า
    สัพพะปาปัสสสะ อะกะระณัง การไม่ทำบาปทั้งปวง เข้าใจง่ายๆ
    กุสะลัสสูปะสัมปะทา การยังกุศให้ถึงพร้อม
    สะจิตตะปะริโยทะปะนัง เอตัง พุทธานะสาสะนัง
    การทำจิตของตนให้ผ่องแผ้ว
    ถ้าไม่เข้าใจคำว่าผ่องแผ้ว ให้บริสุทธิ์
    การอยู่ การกิน อาชีพ การงาน ให้บริสุทธิ์ ผ่องแผ้วนั้น
    ถ้าเป็นนักภาวนาให้จิตใจผ่องแผ้ว ผ่องใส
    ปราศจากมลทิน คำว่าผ่องแผ้วตัวนั้น
    เราก็มาเอาคำว่า บริสุทธิ์เสียก่อน
    ทางกาย ทางวาจา ทางใจ นี้เข้าใจง่ายๆ
    จะไปแปลตรงไหนอีก คำสอนพระพุทธเจ้า
    แล้วก็มาอ่านตัวเองว่า
    สัพพะปาปัสสสะ อะกะระณัง การไม่ทำบาปทั้งปวง
    ก็อ่านตัวเองซิ ตู้พระไตรปิฏกกาย
    กองกาย กองวาจา กองใจ ก็อ่านดูซิ บริสุทธิ์หรือยัง?
    การไม่ทำบาปทั้งปวง ศีลห้ายังไม่กล่าวถึงทั้งปวงนะ
    ขนาดศีลห้ายังพากันรักษาไม่ได้
    แล้วว่าทั้งปวงมันจะขนาดไหน
    ก็กาย วาจา ใจ ของเรานั่นแหล่ะ ทั้งปวง
    หัวใจพุทธศาสนา
    โอวาทปาติโมกข์
    คำสอนพระพุทธเจ้า
    หลวงปู่พล_ยโสธโร
    วัดภูหล่มขุม อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร
    น้อมกราบพ่อแม่ครูบาอาจารย์ด้วยเศียรเกล้า

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  4. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  5. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  6. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  7. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  8. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    21 กุมภาพันธ์ 2555 วันที่หลวงปู่จันทา ถาวโร ละสังขาร ตอนนั้นหลวงปู่พึงผ่านงานมุฑิตา 90 ปีมา 11 วัน

    ไม่มีความสูญเสียใดในหัวใจของคนเป็นลูกศิษย์มากเท่า การสูญเสียพ่อแม่ทางธรรม องค์หลวงปู่จันทา ถาวโร
    ไม่เคยมีครั้งไหนไม่ระลึกถึง หรือ คิดถึงหลวงปู่ท่านเลย

    ในฐานะศิษย์สิ่งต่อจากวันนี้ ที่ท่านละสังขาร มากที่สุดเต็มกำลังที่สุดใน การถวายงาน ทุกๆวินาที นาที วัน จนถึง 48 วัน
    เราเข้าสู่การถวายเพลิงสรีระสังขารหลวงปู่ เหลือเป็นเถ้า อัฐิ ถ่าน แมค สกรูยิงโลงหลวงปู่

    แต่มากกว่าทุกอย่าง หลวงปู่จันทา ถาวโร ท่านฝากธรรมะที่หลวงปู่เมตตาเทศน์สอน พระวินัย 227 ฯลฯ

    เคยมีศิษย์คนอื่นถามแอดมินว่า หลวงปู่ท่านจากเราไปจริงๆใช่ไม๊

    สำหรับแอดมิน หลวงปู่ท่านไม่เคยจากไปไหน ทุกครั้งที่เราระลึกถึงท่าน หลวงปู่อยู่ในหัวใจเราเสมอ

    “หัวใจถาวโร” หัวใจศิษย์ในองค์หลวงปู่จันทา

    น้อม กราบ กราบ กราบ
    รักและเคารพหลวงปู่สุดชีวิต สุดหัวใจ ขน้อย

    ……………………………………………………………

    วันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑
    น้อมรำลึกวันครบรอบมรณภาพ ๖ ปี (๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕) หลวงปู่จันทา ถาวโร วัดป่าเขาน้อย อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร

    หลวงปู่จันทา ถาวโร ผู้มีความเพียรเป็นเลิศ เป็นพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ดำรงวัตรปฏิปทาตามรอยพ่อแม่ครูอาจารย์ เป็นเลิศในธุดงควัตร ซึ่งเป็นแบบอย่างแก่พระกัมมัฏฐาน มีวัตรปฏิบัติขั้นอุกฤษฎ์ สละชีวิตได้เพื่อธรรม จนบรรลุวิมุติธรรม เป็นพระอริยเจ้า ถึงซึ่งคุณธรรมขั้นสูงสุด หลุดพ้นจากสังสารวัฏ เป็นผู้เลิศ ผู้ประเสริฐ เป็นผู้แตกฉานในอรรถธรรม และวินัย เป็นผู้ทรงอภิญญาญาณ รู้เห็นในสิ่งที่ลี้ลับ ในสิ่งที่เป็นทิพย์ ภพภูมิต่างๆ เป็นที่รักใคร่ของหมู่เหล่าเทวดา มนุษย์ และ อมุษย์ทั้งหลาย
    ท่านเป็นพระปฎิบัติสายธรรมยุติกนิกายในสายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต และเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล จ.หนองบัวลำภู โดยหลังจากดูแลหลวงปู่ขาวจนมรณภาพ เมื่อปี ๒๕๒๖ ท่านได้เดินทางมาปฎิบัติธรรมที่วัดป่าเขาน้อย พร้อมสร้างทำนุบำรุงปฎิสังขรณ์วัดมากมาย เช่น เจดีย์พิพิธภัณฑ์ และพระเจดีย์ปฐมเหตุพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ

    ัตโนประวัติ
    หลวงปู่จันทา ถาวโร มีชื่อจริงว่า จันทา ชัยนิด ท่านถือกำเนิดในวันเสาร์ ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๓ ปีจอ ตรงกับวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๕ ณ หมู่บ้านแดง ต.เหนือเมือง อ.เมือง จ. ร้อยเอ็ด เป็นบุตรของนายสังข์ ไชยนิตย์ และนางเลี่ยม ชมพูวิเศษ มีพี่น้องรวม ๖ คน หลวงปูจันทาเป็นบุตรคนที่ ๔

    หลวงปู่เล่าเรื่องชีวิตในวัยเด็กไว้ว่า “อย่างข้าพเจ้านี้มันก็แสนทุกข์ยากลำบากเกิดมาชีวิตนี้ คิดแล้วน้ำตาไหล พออายุได้ ๗ ปี ได้น้อง ๒ คน แม่ก็ตาย เพราะกินผิด คือ แม่เอาอาหารไปถวายพระตอนเพล แล้วไปกินป่นปลากับผักผีพวย นั่นแหละก็เลยผิดกรรมเสีย เมื่อผิดกรรมแล้วทำอย่างไร สมัยนั้นหมอยาก็มีแต่ยารากไม้ รักษาไม่ได้ ผลสุดท้ายก็เลยตาย” ก่อนตาย แม่ก็สั่งว่า “ลูกคนเล็กๆ ๓ คนนี้ให้แม่ป้าพ่อลุงเอาไปเลี้ยง เพราะเขาเป็นเชื้อผู้ใหญ่ และมีเรือนอยู่ติดกัน ส่วนลูกคนโต ๆ นั้น ให้อยู่กับน้าบ่าวน้าสาว” พอแม่ตาย พ่อก็เลยไปเอาเมียใหม่มาเลี้ยง ให้เมียใหม่มาช่วยเลี้ยงลูก แม่ใหม่กับลูกสาวก็เหมือนหมากับแมวนะ ลูกสาวก็ด่าเอาว่า “มึงไม่ใช่แม่กู อย่ามาทำสำออยเจ้าน้อย ให้กูตักน้ำมาให้อาบ ไม่ดอก” นั่นแหละ ผลสุดท้ายก็เลยแตกกัน เหมือนนกแตกรังเหมือนควายแตกคอก พ่อก็เลยไปอยู่กับแม่ใหม่เสีย แหม…ทีนี้ ก็เร่ร่อนสัญจรไปไหนมาไหนก็แสนทุกข์ยากลำบาก ทำงานหากินเลี้ยงชีพ

    พอเติบใหญ่ อายุได้ ๒๓ ปี เขาก็บังคับให้มีครอบครัว แต่แล้วครอบครัวนั้นเป็นอย่างไร ได้แม่ร้างแม่หม้าย ลูก ๓ ผัวเขาตาย เหลือแต่ของไม่ดีนั่นแหละ ของดีเขาเอาไปกินหมดแล้วสมขี้หน้าไหมเล่า แต่แล้วเราก็เหมือนกับแมว หญิงหม้ายนั้นเหมือนกับสุนัขตัวใหญ่ มันก็คั้นคอเอาอย่างนั้นทุกวัน นั่นแหละเพราะบุญพาวาสนาส่งไม่ดี ผลสุดท้ายก็เลยแยกทางกัน … เหตุที่แยกกับภรรยานั้น หลวงปู่เคยพูดว่า “วันหนึ่งสะพายข้องและแหไปหาปลา หว่านแหดำน้ำหาปลาตั้งแต่เช้ายันค่ำ ไม่ได้ปลาสักตัว ดำน้ำจนตาแดงกล่ำ เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ตอนเย็นเดินคอตกกลับบ้านไม่ได้อะไร พอเห็นหน้าภรรยาสุดที่รัก ก็พูดบอกให้ฟัง แทนที่จะเห็นใจ กลับขู่ตะคอกต่อว่า หาว่า ไป มัวเถลไถลเที่ยวเล่น จนมืดค่ำ แล้วภรรยาก็เอาเครื่องมือหาปลามีข้องและแห เป็นต้น ถลกผ้าถุงปัสสาวะใส่ต่อหน้าต่อตา เห็นแล้วก็เกิดความสลดสังเวชอย่างใหญ่หลวง คิดว่า โอ๋….เมียเราทำไมทำได้ขนาดนี้ ทำถึงขนาดนี้แล้ว อยู่ด้วยกันไปก็ไม่เป็นมงคลอะไรจึงตัดสินใจแยกทางกับเมีย อย่างเข็ดหลาบ” …

    ทีนี้จะทำอย่างไรเล่า ทำอะไรก็ไม่ทันสมัยกับเขา เลี้ยงแต่ควาย ทำแต่นา ทำอะไรก็ไม่ดีกับเขาสักอย่าง สร้างโลก (มีครอบครัว) ก็สร้างแล้ว มีแต่จมกับจม สิ่งใดก็ไม่ดีทั้งหมดผลสุดท้ายก็มาคิดว่าทำอย่างไรมันจึงจะดี

    การบรรพชาและอุปสมบท
    ก็มาคิดปรารภถึงแม่ผู้บังเกิดเกล้านั่นแหละ คิดถึงแม่เวลาใด น้ำตาไหลนะ ถามนักปราชญ์ทั้งหลายว่า ทำอย่างไรจึงจะตอบแทนบุญคุณแม่ได้ นักปราชญ์ท่านก็ว่า จะทำนาค้าขายตอบแทนก็ไม่ได้ดอก มีแต่ออกบวชเท่านั้นแหละ บวชแล้วบำเพ็ญบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้

    ทีนี้ก็เลยตั้งใจใฝ่ฝันว่าจะบวช บำเพ็ญบุญให้แม่สัก ๒ – ๓ พรรษา แล้วก็จะสึก จากนั้นก็เข้าวัดฝึกหัดขานนาค เพราะไม่ได้เรียนหนังสือ เขียนไม่เป็น อ่านไม่ออก นั่นแหละ มันปึก (โง่) จึงท่องไม่ได้ ท่องแล้วท่องเล่า จนจะถอยหลังนะ เอ้าตั้งใจใหม่ โอ๋…..คนอื่นเขายังได้เว้ย ! เอาวันละคำนะ “เอสาหัง ภันเตฯ…..” อยู่นั่นแหละ มักน้อยเอาวันละคำก็เลยได้ เข้าวัดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พอขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๖ (พฤษภาคม) จึงได้บวช ในปี พ.ศ. ๒๔๙๐ โดยมี หลวงปู่หนู ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ อยู่ที่วัดบ้านปลาฝา ซึ่งเป็นวัดฝ่ายมหานิกายมาบวชให้ แล้วจำพรรษาอยู่วัดบ้านขมิ้น ๑ พรรษา จากนั้นจึงมาจำพรรษาที่วัดศรีจันทร์ ซึ่งเป็นวัดประจำหมู่บ้านแดงมีหลวงปู่นัน ตาปโส เป็นเจ้าอาวาส

    หลวงปู่เล่าว่า พอบวชแล้วออกจากโบสถ์มาก็อุทิศส่วนบุญให้แม่เลย “บุญ ที่ข้าพเจ้าบวชในวันนี้ ขอฝากแต่แม่เจ้าธรณีเทพเจ้าเหล่าเทวา นำบุญนี้ไปให้แม่ข้าพเจ้า มีนามว่า นางเลี่ยม ชมภูวิเศษ ดวงจิตของเขานั้น ไปอยู่สถานที่ใด ไปตกนรกก็ดี หรือไปมนุษย์ก็ดี หรือไปเป็นเปรต เป็นผี ก็ดี ขอให้ได้รับส่วนบุญนั้น ขอให้พ้นทุกข์ ให้กลับมาเกิดในตระกูลเดิม จะได้เห็นอำนาจในการบำเพ็ญบุญ ส่วนผู้นำข่าวบุญไปนั้น ก็ขอแบ่งส่วนบุญให้”

    จากนั้นก็ตั้งใจบำเพ็ญบุญ ไหว้พระ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ยืนภาวนา เดินจงกรม วันยังค่ำ บางกาลสมัย ๕ ปีนะ ไม่นอนตลอดไตรมาส ๓ เดือน เดิน ยืน นั่ง เท่านั้นแหละ ๔ – ๕ วัน ฉันครั้ง เพราะวิตกวิจารณ์ใจ กลัวว่าจะได้บุญน้อย จะไม่ไปช่วยเหลือแม่ นั่นแหละ ก็ทำอยู่อย่างนั้นเป็นนิจ

    ตั้งแต่ออกบวช ปี พ.ศ.๒๔๙๐ ก็ตั้งใจบำเพ็ญบุญไม่ลดละ เดินจงกรม ยืนภาวนา ไหว้พระสวดมนต์ เสร็จแล้ว ๔ ทุ่ม ๕ ทุ่ม ก็อุทิศส่วนกุศลไปให้แม่ผู้บังเกิดเกล้าทุกวัน “ปุญญัง อุททิสสะ ทานัง สัพเพ สัตตา สุขิตา โหนตุ ขอบุญจงไปช่วยเหลือแม่ของข้าพเจ้านะ ชื่อว่า นางเลี่ยม ชมภูวิเศษ ดวงจิตเขานั้นไปสิงสถิตอยู่สถานที่ใด ไกลหรือใกล้นั้น ขอบุญจงไปช่วยเหลือ ให้พ้นจากทุกข์นั้น” นั่นแหละ ก็อุทิศส่วนบุญไปให้อย่างนั้น จนกระทั่งอายุพรรษาล่วงมาได้ ๒๕ พรรษา แม่ก็พ้นจากนรกมืดมาเกิดกับหลานสาว พออายุ ๒ ปี ก็พูดจาได้ความรู้เรื่อง

    แม่ยายเขาเรียกใช้ “อีหล้า ไปหยิบของมาให้แม่หน่อย”
    “มึงอย่ามาเรียกกู อีหล้า กูเป็นแม่มึงนะ”
    “เป็นแม่ได้อย่างไร เพิ่งเกิดมาได้ ๒ ปี”
    “สมบัติร่างกายนี้ไม่ใช่แม่หรอก เป็นหลาน แต่ว่าใจของฉันนั้นเป็นแม่ของพวกท่าน”
    นั่นแหละ เขาก็เลยมานิมนต์ให้ไปซักไซ้ไต่ถามดู ก็เลยได้ความว่า เคยเป็นแม่ในชาติก่อน เมื่อถามว่า เป็นแม่นั้น มีบุตรกี่คน
    เขาก็ตอบได้ว่า มีบุตร ๖ คน คนที่ ๑, ๒, ๓, ๔, ๕, และ ๖ เขาก็ไล่ชื่อเสียงเรียงนามได้ทั้งหมด รวมทั้งสามี ภรรยา ญาติมิตรสายโลหิต ปู่ ย่า ตา ยาย เพื่อนบ้าน เขาบอกได้ถูกต้องทุกอย่าง ตลอดจนเรื่องเรือกสวนไร่นานั้น ก็บอกได้ถูกต้อง รวมทั้งหลักฐาน เครื่องหมายต่างๆ ก็บอกได้ ไม่ผิด
    แต่แล้วก็ยังไม่ลงเอยกันนะ จึงได้ถามเขาต่อไปอีกว่า “หลวงพ่อ คิดถึงเจ้านั่นแหละ จึงได้ออกบวช แล้วอุทิศส่วนบุญไปให้ ได้รับหรือไม่ ?”

    เขาว่า “ได้รับ ได้รับแต่ตอนกลางคืน ๕ ทุ่ม ได้รับทุกคืน แต่ตอนเช้าไม่ได้รับ ไปอยู่ที่ไหนเล่า ?”
    เขาต่อว่ากลับมาอีก “โอ๋…..ตอนเช้าหลวงพ่อ ทำบุญน้อย พอตี ๒ ก็ลุกขึ้นมาทุกวันแล้วนั่งสมาธิตั้งแต่นั้นไป จนกระทั่งรุ่งเช้าของวันใหม่ แล้วก็สวดมนต์ทำวัตรเช้า จากนั้นก็ไปทำกิจวัตร จึงไม่ได้อุทิศส่วนบุญไปให้ อุทิศให้เฉพาะตอนเย็น เพราะตอนเย็นเดินจงกรมตั้งแต่ ๖ โมงเย็นไปจนถึง ๕ ทุ่ม ทุกวัน แล้วก็หยุดยืน นั่งสมาธิ ไหว้พระ สวดมนต์ อุทิศส่วนบุญไปให้ เพราะตอนเย็นนั้น ได้บำเพ็ญบุญมาก”
    เขาว่า “ถ้าได้ทั้งเช้าและเย็น ก็คงจะพ้นจากนรกมืดได้ เร็วกว่านี้”
    ก็ถามเขาต่อไปว่า ”ไปอยู่นรกมืดนั้นเป็นอย่างไร ?”
    เขาก็ว่า “เมื่อขาดใจแล้ว นายนิริยบาลมาคุมตัวไปฝากไว้ในนรกมืด ไม่มีแสงสว่างเลย มืดทั้งวัน ทั้งคืน ไม่ได้เห็นแสงพระอาทิตย์ พระจันทร์เลย”
    “ในนรกมีคนมากเท่าไร ?”
    “โอ๋…..ดวงวิญญาณในนรกมืดนั้นแน่นขนัด อัดแอกันอยู่เหมือนข้าวสารยัดกระสอบนั่นแหละ”

    ทีนี้เมื่อพวกท่านอุทิศส่วนบุญไปให้ จ่ายมบาลก็ว่า “นางเลี่ยม ชมภูวิเศษ จงมารับเอาส่วนบุญ ที่ลูกบวชในศาสนาอุทิศมาให้ทุกวันคืน” นั่นแหละ ฉันก็ดีใจ เมื่อรับเอาบุญทุกวันคืน ตั้งแต่ปี ๒๔๙๐ ไปถึง ๒๕ พรรษา ก็เลยพ้นจากกรรมชั่วช้าลามกทั้งหลายทั้งปวงนั้น มาอยู่เหนืออำนาจการบังคับของจ่ายมบาล เพราะอำนาจของบุญนั้นตัดกระแสของบาปกรรมในนรกออกได้ เขาก็เลยปล่อยไปตามเรื่อง หมดกรรมเวรแล้ว ขอแม่เจ้าจงไปตามเรื่องเถิดจงไปเกิดที่เมืองมนุษย์ แล้วเขาก็เปิดประตูเหล็กให้ เสียงประตูดังสนั่นเหมือนฟ้าร้อง ได้เห็นแสงพระอาทิตย์สว่างจ้าก็ดีใจ แล้วก็หันหน้าไปร้องบอกลาพวกที่ยังอยู่ในนรกว่า
    “พี่น้องทั้งหลาย ฉันขอลาไปเกิดเมืองมนุษย์ก่อนนะ”
    พวกที่เหลืออยู่ก็ร้องไห้กันสนั่นหวั่นไหว เหมือนอึ่งอ่างในฤดูฝน ไปไหนไม่ได้ เพราะบาปกรรมรึงรัดผูกมัดไว้กับสถานที่นั้น บาปไม่อนุญาตให้ไป เพราะยังไม่หมดเขตเวรกรรม

    จากนั้น จ่ายมบาลก็ว่า ”ขอให้ไปดี โชคแม่มีแล้ว เพราะได้ลูกเป็นนักปราชญ์ชาติเมธี ใจดีมีศีลธรรม ออกบวชบำเพ็ญบุญ ส่งมาให้ก็ดีมาก นับว่าหาได้ยากในโลกนี้”
    นั่นแหละ ก็เห็นอำนาจของการบวชบำเพ็ญบุญอุทิศส่วนบุญไปให้ แม่ไปตกนรกมืด บุญก็ไปช่วยเหลือให้มาเกิดในตระกูลเดิมได้ ก็หมดความห่วงใยอาลัยแล้ว ได้เห็นผลประจักษ์อย่างนั้น

    พ.ศ. ๒๕๔๕ อันเป็นปีที่องค์หลวงปู่จันทา ถาวโร มีชนมายุครบ ๘๐ ปี แล้ว องค์หลวงปู่ฯ ก็มิได้ไปจำพรรษา ณ ที่อื่นใด ยังคงจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าเขาน้อย ตลอดมาจวบจนถึงวาระสุดท้าย จะมีก็แต่เพียงในปี พ.ศ. ๒๕๔๘ ซึ่งองค์หลวงปู่ฯ และ ลูกศิษย์คณะพระอุปัฏฐากประมาณ ๑๐ รูป ได้ไปจำพรรษาที่วัดถ้ำกองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ซึ่งเป็นวัดเดิมที่องค์หลวงปู่ฯเคยฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงปู่ขาว อนาลโย ผู้เป็นเจ้าอาวาสในขณะนั้น และองค์ท่านก็ได้บำเพ็ญเพียรอย่างกล้าหาญ เด็ดเดี่ยวถึงขั้นอุกฤษฏ์ ชนิดตายเป็นตาย ไม่เสียดายชีวิต จนเป็นที่ยอมรับของครูบา- อาจารย์ และเพื่อนสหธรรมิกมาแล้ว ในการที่หลวงปู่ไปจำพรรษาที่วัดถ้ำกองเพลครั้งนี้ ได้มีคณะญาตฺโยม มากราบอารธนานิมนต์องค์ท่านโปรดคณะศรัทธาที่ประเทศสาธารณะรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาวอีกด้วย

    หลังจากปี พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งเป็นปีที่หลวงปู่จันทา ถาวโร มีอายุสังขารล่วงสู่ปัจฉิมวัยชราภาพ นับได้ ๘๐ ปี แล้ว รวมทั้งเป็นพรรษาที่ ๕๓ ของการ ดำรงตนอยู่ในผ้ากาสาวพัสตร์ภายใต้นิกายธรรมยุต ถึงแม้ว่าสุขภาพร่างกายและธาตุขันธ์ขององค์หลวงปู่ฯ จะมีความเสื่อมทรุดไปตามวัยตามวันเวลา อัน เป็นผลทำให้ความเกี่ยวข้องที่มีกับเหล่าพระภิกษุสงฆ์ และสามเณร ตลอดจนถึงญาติธรรมผู้มีความศรัทธา โดยทั่วไปนั้น มีความเปลี่ยนแปลงไปบ้าง เนื่องจาก สาเหตุของการที่องค์หลวงปู่ฯ งดเว้นการแสดงพระ- ธรรมเทศนา และยกเลิกการรับกิจนิมนต์ในโอกาส ต่างๆ แต่ถึงกระนั้นก็ตาม หลวงปู่ฯ ก็ยังคงให้ความเมตตาโดยการรับบิณฑบาตโปรด เหล่าฆราวาสญาติโยม ณ บริเวณพื้นที่บนศาลาการเปรียญหลังใหญ่ของวัดป่าเขาน้อย อย่างสม่ำเสมอเป็นเนืองนิตย์ไม่เว้นวัน อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้บรรดาญาติโยมและ สาธุชนทั้งหลาย เข้ากราบไหว้ทุกๆ วันตามเวลาที่กำหนด จนกระทั่งย่างเข้าสู่ปี พ.ศ. ๒๕๕๒ อันเป็นปีที่องค์หลวงปู่ฯ มีสังขารวัยมาก ถึง ๘๗ ปี และเป็นปีของการครองพรรษาที่ ๖๐ ในช่วงเวลานั้นองค์หลวงปู่ฯ ไม่สามารถ เคลื่อนขยับกายให้ลุกขึ้นได้ด้วยตัวเอง ต้องอาศัยบรรดาพระอุปัฏฐากคอยให้การปรนนิบัติ ในการประคองและพยุงร่างสำหรับการลุกขึ้นเคลื่อนที่ในระยะใกล้ๆ และถ้าหากเป็น ระยะไกลก็จะเคลื่อนที่โดยผ่านรถเข็น โดยอิริยาบถส่วนใหญ่ขององค์หลวงปู่ฯ นั้น จะ เป็นอิริยาบถของการนอน ด้วยสาเหตุนี้ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ ทำให้การรับบิณฑบาต ขององค์หลวงปู่ฯ บน ศาลาการเปรียญหลังใหญ่ค่อยๆ เริ่มลดน้อยลงไปอย่างต่อเนื่องตามลำดับ และในที่สุด ก็หยุดการลงสู่ศาลาฯ เพื่อรับบิณฑบาตจากญาติโยม หลังจากที่สิ้นสุดช่วงฤดูเทศกาล เข้าพรรษาในปีนั้น ทั้งนี้เนื่องมาจากสาเหตุของสุขภาพร่างกายและธาตุขันธ์ที่ทรุดโทรม ลงตามวัย ซึ่งไม่เอื้ออำนวยต่อการรับบิณฑบาตนั่นเอง แต่หากว่าการเปิดโอกาสให้ เหล่าศิษยานุศิษย์เข้ากราบนมัสการนั้น ก็ยังคงดำเนินต่อไปตามปกติโดยไม่มีงดเว้น ขณะเดียวกันในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ องค์หลวงปู่ฯ เริ่มมีการสื่อสารด้วยถ้อยคำ พูดจาลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งโดยส่วนใหญ่นั้นมักจะเป็นการพูดในลักษณะของ การตอบรับคำกับผู้สนทนาด้วย หรือไม่เช่นนั้นก็จะเป็นเพียงการแสดงออกให้เข้าใจ ด้วยอวัจนภาษา อันเป็นภาษาทางอากัปกิริยาท่าทางนั่นเอง แต่หากเป็นการกล่าวด้วยถ้อยคำแล้ว องค์หลวงปู่ฯ จะพูดกล่าวด้วยประโยค ที่สั้นและกระชับ และที่สำคัญคือ มักจะเป็นลักษณะของปริศนาธรรมที่ซ่อนนัยยะอย่าง ลึกซึ้ง อันจะต้องใคร่ครวญขบคิดพิจารณา จึงจะเข้าใจในเนื้อแท้ของความหมายได้ ถ่องแท้และสมบูรณ์ โดยลักษณะดังกล่าวนี้นับได้ว่าเป็นการอบรมสอนเหล่าลูกศิษย์ เพื่อให้เกิดปัญญา และสร้างความฉลาดรอบรู้ในทางธรรม

    การมรณภาพ
    หลวงปู่จันทา ถาวโร เคยได้พยากรณ์ชีวิตตนเองไว้ให้กับลูกศิษย์ได้รับฟังไว้เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ มีใจความว่า “..องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปรินิพพานเมื่อมีพระชนมายุ ๘๐ พรรษา …พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ละสังขารลงเมื่ออายุ ๘๐ ปี …หลวงปู่ขาว อนาลโย อาจารย์เรา ละสังขารลงเมื่ออายุ ๙๔ ปี …ส่วนเรา ขอแค่ ๙๐ ปีก็เพียงพอแล้ว..”

    “หลวงปู่จันทา ถาวโร” พระอริยสงฆ์แห่งวัดป่าเขาน้อย บ้านเนินหัวโล้ ต.วังทรายพูน อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร ได้ละสังขารด้วยอาการสงบ ณ กุฏิของท่าน วัดป่าเขาน้อย เมื่อเช้าวันอังคารที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ตรงกับวันพระแรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๓ เวลาประมาณ ๐๕.๐๐ น.

    … สิริรวมอายุได้ ๙๐ ปี ๑๑ วัน …
    พรรษาในฝ่ายมหานิกาย ๓ พรรษา
    และพรรษาในฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ๖๒ พรรษา

    วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๕ เวลา ๑๕.๐๐ น.
    พระราชทานเพลิงสรีระสังขารองค์หลวงปู่จันทา ถาวโร

    21-กุมภาพันธ์-2555-วันที่หลวงป.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  9. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  10. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    …..ผู้ศึกษาธรรมแต่ไม่ประพฤติธรรม…..

    “เวลานี้เรามีนักศึกษาธรรมเต็มบ้านเต็มเมือง แต่เท่าที่สังเกตุดูผู้มีความซึ้งในพระศาสนา รู้สึกว่ามีจำนวนน้อยมาก บางคนบางท่านเป็นถึงนักสอนธรรม นักเทศน์ บ้างบอกเป็นผู้สะสมบุญบารมี บ้างประกาศตนเป็นผู้ประพฤติธรรม แต่กลับมีความประพฤติไม่สมกับเป็นผู้ศึกษาธรรม เช่น เล่นการพนันบ้าง ดื่มสุราบ้าง ประพฤติตนไปในทางอบาย เป็นต้น

    ความประพฤติดังกล่าวนี้เป็นความประพฤติที่ไม่เหมาะสมกับฐานะตัวเอง

    แต่ว่ามีสิ่งที่น่าคิดนั้นคือ ถ้าเขามาตำหนิถูกจุดที่ไม่ดีของเรา พวกเราก็น่าจะแก้ไข

    ถ้าปฏิบัติธรรมเรียกว่าเป็นผู้เทิดทูนพระศาสนา
    ถ้าทำตรงกันข้ามก็คือผู้ย่ำยีพระศาสนา”

    .jpg
    …..ผู้ศึกษาธรรมแต่ไม่ประพฤติธรรม…..

    “เวลานี้เรามีนักศึกษาธรรมเต็มบ้านเต็มเมือง แต่เท่าที่สังเกตุดูผู้มีความซึ้งในพระศาสนา รู้สึกว่ามีจำนวนน้อยมาก บางคนบางท่านเป็นถึงนักสอนธรรม นักเทศน์ บ้างบอกเป็นผู้สะสมบุญบารมี บ้างประกาศตนเป็นผู้ประพฤติธรรม แต่กลับมีความประพฤติไม่สมกับเป็นผู้ศึกษาธรรม เช่น เล่นการพนันบ้าง ดื่มสุราบ้าง ประพฤติตนไปในทางอบาย เป็นต้น

    ความประพฤติดังกล่าวนี้เป็นความประพฤติที่ไม่เหมาะสมกับฐานะตัวเอง

    แต่ว่ามีสิ่งที่น่าคิดนั้นคือ ถ้าเขามาตำหนิถูกจุดที่ไม่ดีของเรา พวกเราก็น่าจะแก้ไข

    ถ้าปฏิบัติธรรมเรียกว่าเป็นผู้เทิดทูนพระศาสนา
    ถ้าทำตรงกันข้ามก็คือผู้ย่ำยีพระศาสนา”

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  11. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  12. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  13. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  14. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  15. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  16. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    กำหนดการงานพิธีถวายเพลิงสรีระสังขาร
    หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป
    ณ เมรุพิเศษ วัดป่าคำแคนเหนือ ต.คำแคน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น

    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่ข่าวสารงานบุญนี้ ทุกๆท่าน

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  17. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  18. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  19. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  20. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...