ธรรมะจากเพจต่างๆ พระสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย ธรรมะสายหลวงปู่มั่น, 6 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  2. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    *** หลวงปู่ขาวฯ…ปราบสมุนของผี ***

    “คณะของพระธุดงค์ ซึ่งมี หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เดินทางจากบ้านแม่กะตำ ไปทางอำเภอแม่สรวย อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย หลวงปู่มั่น ไปวิเวกที่ดอยจอมแจ้ง ส่วนลูกศิษย์องค์อื่นก็แยกย้ายกันไปตามสถานที่ที่ถูกจริตของแต่ละองค์ บางองค์พักที่บ้านแม่สรวยก็มี
    สำหรับหลวงปู่ขาว อนาลโย กราบลาพระอาจารย์ใหญ่ไปวิเวกองค์เดียวที่ดอยช้าง เป็นดอยที่สูงมาก อากาศหนาวเย็นตลอดปี
    หลวงปู่ เดินไปพบศาลเจ้าแห่งหนึ่ง ชาวบ้านช่วยกันทำเป็นบ้านเล็ก ๆ สร้างเสร็จใหม่ ๆ พออาศัยพักได้หนึ่งคนสบาย ๆ ท่านจึงใช้สถานที่นั้นเป็นที่พักภาวนา
    พวกชาวบ้านรู้ว่ามีพระธุดงค์มาพักที่ศาลซึ่งพวกเขาสร้างให้เป็นที่อยู่ของหัวหน้าผีประจำหมู่บ้าน พวกเขาก็ไม่พอใจ เพราะกลัวหัวหน้าผีจะโกรธแล้วจะมาแกล้งให้ชาวบ้านเดือดร้อน
    ชาวบ้านที่ทำตัวเป็นสมุนของผีจึงพากันยกพวกออกมาขับไล่ด้วยถ้อยคำรุนแรง รวมทั้งบางคนใช้คำหยาบคาย และคุกคามหลวงปู่ว่า “ถ้าไม่หนีจะฆ่าให้ตาย”
    หลวงปู่ได้แต่คิดในใจว่า “มันกรรมเวรอะไรหนอ พอพ้นจากช้างก็มาเจอกับผีอีก ตัวหัวหน้าผีก็ไม่เท่าไรนัก แต่พวกสมุนผีเหล่านี้เราจะทำกับพวกเขาอย่างไรดีหนอ”
    เมื่อโดนขับไล่หนัก หลวงปู่จึงพูดออกไปว่า
    “เราจะไม่หนี ตายเป็นตาย ถ้าหากเรากลัวตาย เราจะบ่ายหน้ามาที่นี่ทำไม เราเป็นลูกศิษย์ของพระพุทธเจ้า แผ่นดินนี้ไม่ใช่แผ่นดินผีแผ่นดินสาง เป็นแผ่นดินของพระเจ้าแผ่นดินต่างหาก ถ้าอยากรู้ก็ลองดู ถ้าคิดว่าแผ่นดินนี้เป็นของผีก็ให้ผีมาเจอกับเรา ถ้าพวกโยมจะยังมาขับไล่ให้อาตมาหนีอีกละก็ต้องเกิดเรื่องแน่ ถ้าอาตมากลัวผีละก็คงไม่กล้ามาอยู่คนเดียวอย่างนี้ ขอให้พวกโยมพากันกลับไป ถ้าหัวหน้าผีของพวกโยมเก่งจริงก็ให้มาขับไล่อาตมาเอง กลับไปได้แล้ว อาตมาจะภาวนา…”
    พวกชาวบ้านสมุนของผีมองหน้าปรึกษากันว่าจะเอาอย่างไรดี
    คนหนึ่งพูดว่า “นึกว่าผีมันเก่งแล้ว ตุ๊เจ้าองค์นี้ยังเก่งกว่าผีอีก”
    พวกเขาก้มกราบหลวงปู่ แล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน เพราะจวนจะมืดแล้ว ทิ้งให้หลวงปู่เผชิญหน้าอยู่กับผีตามลำพัง ”

    ***ขออนุโมทนา ขอขอบคุณและขออนุญาตเผยแผ่เป็นธรรมทานแก่ผู้ที่มีความศรัทธา ข้อความข้างบนนี้เป็นโอวาทธรรมส่วนหนึ่ง จากหนังสือ “หลวงปู่ขาว อนาลโย” วัดถ้ำกลองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู โครงการหนังสือบูรพาจารย์ เล่ม ๔ หน้า ๑๖๙ – ๑๗๐ สาธุๆๆ***

    -ปราบสมุนขอ.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  3. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    จดหมายที่ไม่มีผู้รับ_ย่อมถูกตีกลับไปหาผู้ส่ง

    เรื่อง “พระพุทธเจ้าทรงแก้มิจฉาทิฏฐิ พลิกจิตของพราหมณ์ที่มาต่อว่าด่าทอ จนบรรลุเป็นพระอรหันต์”

    (พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย)
    (สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ – หน้าที่ ๒๐๑)

    “อักโกสกสูตร” พระสูตรว่าด้วย
    คนที่ด่าต่อว่าพระพุทธองค์

    พระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน “อักโกสกสูตร” คือ พระสูตรว่าด้วย คนที่ด่าต่อว่าพระพุทธองค์ ด้วยพระปัญญาญาณ ทรงพระปรีชาสามารถทำให้พราหมณ์คนหนึ่งที่เกลียดพระพุทธองค์ชนิดเข้ากระดูกดำ ทรงสามารถแก้มิจฉาทิฏฐิ พลิกจิตกลับใจพราหมณ์ ให้กลับมาบวชจนบรรลุกลายเป็นพระอรหันต์ในที่สุด

    มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ประสบกับพระพุทธองค์เอง ครั้งหนึ่งมีพราหมณ์คนหนึ่งรู้สึกโกรธแค้นพระพุทธเจ้า เพราะพระองค์ทรงบวชให้กับน้องชายของท่าน พราหมณ์จึงเดินทางไปหาพระพุทธเจ้า พอไปถึงก็ไม่ฟังอีร้าค้าอีรมใดๆ ตั้งต้นบริภาษพระพุทธองค์ฉอดๆ ด้วยวาจาที่หยาบคาย และมิใช่ของสัปปุรุษ พระพุทธองค์ทรงสะดับตรับฟังถ้อยคำที่พราหมณ์นั้นกล่าว ด้วยท่าทีอันสงบ ดุจดั่งไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น ต่อเมื่อพราหมณ์คนนั้นบริภาษพระองค์ท่านจนพอใจแล้ว

    พระพุทธองค์จึงทรงเริ่มสนทนากับเขาว่า
    “พราหมณ์เอ๋ย ที่บ้านท่านมีแขก
    ไปมาหาสู่กันกับท่านบ้างหรือไม่ ?”

    “มีสิ ข้าฯ มิใช่คนกระจอกที่ไม่มีมิตรสหายนี่” พราหมณ์ตอบด้วยความภาคภูมิใจ พระพุทธองค์ทรงตรัสถามต่อไปว่า “เออหนอ พราหมณ์ เวลาที่แขกของท่านมาเยี่ยม ท่านเอาสิ่งใดต้อนรับพวกเขา” “ก็เอาน้ำท่า ของขบเคี้ยวออกมาต้อนรับพวกเขาสิ” “ถ้าแขกเหล่านั้นไม่ทานของต้อนรับของพราหมณ์ แล้วของพวกนั้นจะเป็นของใคร” พราหมณ์นิ่งนึกอยู่สักครู่จึงตอบว่า “ก็ตกเป็นของข้าฯตามเดิมน่ะสิ”

    พระพุทธองค์จึงทรงตรัสต่อไปว่า “เช่นเดียวกันนั่นละพราหมณ์ ท่านบริภาษเราด้วยถ้อยคำที่หยาบคายมากมาย เราไม่รับคำบริภาษนั้น คำบริภาษที่ท่านกล่าวออกมาเมื่อครู่ก็คงตกเป็นของท่านเองสินะ”

    พราหมณ์ได้ฟังพระพุทธเจ้าตรัสอย่างนี้ ถึงกับสะอึกไปในบันดล พระองค์ทรงตรัสต่อไปอีกว่า “ผู้โกรธตอบผู้ที่ด่า แย่กว่าผู้ที่ด่าเสียอีก ผู้ที่ไม่โกรธตอบผู้ที่ด่า นับว่าเป็นผู้ที่สามารถชนะสงครามที่ชนะได้ยากยิ่ง ผู้ที่มีสติรู้จักยับยั้งชั่งใจและไม่โกรธตอบเวลาที่ผู้อื่นด่าได้ นับว่าเป็นผู้ที่ทำประโยชน์ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น หากแต่ผู้คนเช่นนี้ผู้อื่นที่ไม่เข้าถึงธรรมมักจะกล่าวหาว่าเป็นคนโง่”

    พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมจบพราหมณ์ขี้โมโห จึงรู้สึกสำนึกตน และได้กราบขอขมาพระพุทธเจ้า พร้อมกับทูลขอบวชเป็นพระสาวกของพระพุทธองค์ และท่านได้ปฏิบัติตามสายทางแห่งอริยมรรค จวบจนบรรลุมรรคผลเป็นพระอรหันต์ในที่สุด

    _ย.jpg

    ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น
     
  4. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  5. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    เรื่อง “อจินไตย พุทธศาสนานี้ลึกล้ำที่สุด”

    โอ๊ย… เจี๊ยะเอ้ย แม้รูเท่านิ้วก้อย นี่ท่านยังมุดเข้าไปได้ หายตัวไปเลย ทะลุฟ้า ทะลุดิน แผ่นดิน แผ่นน้ำ ทะลุได้หมด จะไปไหนเพียงแค่ลัดเดียว

    (ปกิณกธรรม หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)
    (จากธรรมประวัติ หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท)

    “ศาสนานี้เรียนให้ดีลึกล้ำที่สุด ผมไปเที่ยวภาวนาอยู่ในป่า มีสหธรรมิกของผมรูปหนึ่งอยู่ในป่าโน่นน่ะ โอ๊ย… เจี๊ยะเอ้ย แม้รูเท่านิ้วก้อย นี่ท่านยังมุดเข้าไปได้ หายตัวไปเลย ทะลุฟ้า ทะลุดิน แผ่นดิน แผ่นน้ำ ทะลุได้หมด จะไปไหนเพียงแค่ลัดเดียว ตอนนี้ท่านตายอยู่ในป่าไปแล้ว”

    “โอ้…ขนาดนั้นหรือครูบาจารย์…ถ้าไปอยู่ในเมืองหลวง เมืองไทย ป่านนี้ดังระเบิดเถิดเทิงไปแล้ว เสียดายไม่น่าตายไปเปล่าๆ อยากเห็นบ้างแบบนี้” กราบเรียนท่านด้วยความตื่นเต้น

    “ก็มีแต่อย่างนี่แหละ พวกตาบอด เจี๊ยะเอ้ย
    ใครไม่ได้รู้ไม่ได้เห็นเสียชาติเกิดทีเดียว”

    [​IMG]

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  6. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    *** สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ***

    ” เราทั้งหลายต่างเกิดมาด้วยวาสนา
    มีบุญพอเป็นมนุษย์ได้อย่างเต็มภูมิดังที่ทราบอยู่แก่ใจ
    อย่าลืมตัวลืมวาสนา โดยลืมสร้างคุณงามความดีเสริมต่อ
    ภพชาติของเราที่เคยเป็นมนุษย์จะเปลี่ยนแปลง
    และกลับกลายหายไปเป็นชาติที่ต่ำทราม
    ไม่ปรารถนาจะกลายมาเป็นตัวเราเข้าแล้วแก้ไม่ตก
    ความสูงศักดิ์ ความต่ำทราม ความสุขทุกขั้นจนถึง บรมสุข
    และความทุกข์จนเข้าขั้น มหันตทุกข์
    เหล่านี้มีได้กับทุกคนตลอดสัตว์ ถ้าตนเองทำให้มี
    อย่าเข้าใจว่ามีได้เฉพาะผู้กำลังเสวยอยู่เท่านั้น โดยผู้อื่นไม่มี
    เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสมบัติกลาง
    แต่กลับกลายมาเป็นสมบัติจำเพาะของผู้ผลิตผู้ทำเองได้
    ท่านจึงสอนไม่ให้ดูถูกเหยียดหยามกัน

    เมื่อเห็นเขาตกทุกข์หรือกำลังจน จนน่าทุเรศ
    เราอาจมีเวลาเป็นเช่นนั้นหรือยิ่งกว่านั้นก็ได้
    เมื่อถึงวาระเข้าจริงๆ ไม่มีใครมีอำนาจหลีกเลี่ยงได้
    เพราะกรรมดีกรรมชั่วเรามีทางสร้างได้เช่นเดียวกับผู้อื่น
    จึงมีทางเป็นได้เช่นเดียวกับผู้อื่น
    และผู้อื่นก็มีทางเป็นได้เช่นเดียวกับที่เราเคยเป็น
    ศาสนาเป็นหลักวิชาตรวจตราดูตัวเองและผู้อื่นได้อย่างแม่นยำ
    ไม่มีวิชาใดในโลกเสมอเหมือน
    สิ่งดีชั่วที่มีและเกิดอยู่กับตนทุกระยะ
    มีใจเป็นตัวการพาให้สร้างกรรมประเภทต่างๆ
    จนเห็นได้ชัดว่ากรรมมีอยู่กับผู้ทำ มีใจเป็นเหตุของกรรมทั้งมวล

    กรรม เป็นของลึกลับและมีอำนาจมาก
    ไม่มีผู้ใดหนีกฎแห่งกรรมได้เลย
    ถ้าเราสามารถรู้เห็นกรรมดีกรรมชั่วที่ตนและผู้อื่นทำขึ้น
    เหมือนเห็นวัตถุต่างๆ จะไม่กล้าทำบาป
    แต่จะกระตือรือค้นทำแต่ความดีซึ่งเป็นของเย็นเหมือนน้ำ
    ความเดือนร้อนในโลกก็จะลดน้อยลง
    เพราะต่างก็รักษาตัว กลัวบาปอันตราย

    ท่านว่า ดี ชั่ว มิได้เกิดขึ้นมาเอง แต่อาศัยการทำบ่อยก็ชินไปเอง
    เมื่อชินแล้วก็กลายเป็นนิสัย ถ้าเป็น ฝ่ายชั่ว ก็แก้ไขยาก
    คอยแต่จะไหลลงตามนิสัยที่เคยทำอยู่เสมอ
    ถ้าเป็น ฝ่ายดี ก็นับว่าคล่องแคล่วกล้าขึ้นเป็นลำดับ

    เราเกิดเป็นมนุษย์ มีความสูงศักดิ์มาก อย่านำเรื่องของสัตว์มาประพฤติ
    มนุษย์เราจะต่ำลงกว่าสัตว์และจะเลวกว่าสัตว์อีกมากมาย
    อย่าพากันทำ ให้พากันละบาป บำเพ็ญบุญ ทำแต่ความดี
    อย่าให้เสียชีวิตเปล่าที่มีวาสนาเกิดมาเป็นมนุษย์

    การทำความเข้าใจเรื่องของกรรม
    เป็นการศึกษาธรรมะเพื่อเตรียมพร้อมที่จะรับภาวะของตัวเราเอง
    ซึ่งจะต้องเป็นไปตามกรรมที่ได้ทำไว้ ตามสุภาษิตที่มีว่า
    “กรรมจำแนกสัตว์ให้ทรามและประณีตต่างกัน”

    ผู้สงสัยกรรม หรือไม่เชื่อกรรมว่ามีผล
    คือลืมตนจนกลายเป็นผู้มืดบอดอย่างช่วยไม่ได้
    แม้เขาจะเกิดและได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่มาเป็นอย่างดี
    เหมือนโลกทั้งหลายก็ตาม เขาก็มองไม่เห็นคุณของพ่อแม่
    ว่าได้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูตนมาอย่างไรบ้าง
    แต่เขาจะมองเห็นเฉพาะร่างกายเขา
    ที่เป็นคนหนึ่งกำลังรกโลกอยู่โดยเจ้าตัวไม่รู้เท่านั้น
    ไม่สนใจคิดว่าเขาเติบโตมาจากท่านทั้งสอง
    ซึ่งเป็นแรงหนุนร่างกายชีวิตจิตใจเขา ให้เจริญเติบโตมาจนถึงปัจจุบัน

    การดื่มกินเป็นการสร้างสุขภาพ
    ความเจริญเติบโตแก่ร่างกาย ไม่จัดว่าเป็นกรรม
    กรรม คือ การกระทำ ดี ชั่ว ทางกาย วาจา ใจ ต่างหาก
    ผลจริง คือ ความสุข ทุกข์ที่ได้รับกันอยู่ทั่วโลก กระทั่งสัตว์ผู้ไม่รู้จักรรม
    รู้แต่กระทำคือหากินอยู่ ทางศาสนาเรียกว่า กรรมของสัตว์ ของบุคคล
    และผลกรรมของสัตว์ ของบุคคล

    ควรมีเมตตาสงสารในสัตว์ทั้งหลาย
    ซึ่งมีความเกิด แก่ เจ็บ ตาย
    เช่นเดียวกับเรา ไม่มีอะไรยิ่งหย่อนกว่ากัน

    ความยิ่งหย่อนแห่งวาสนาบารมีนั้นมีได้ทั้งคนและสัตว์
    สัตว์บางตัวมีวาสนาบารมีและอัธยาศัยดีกว่ามนุษย์บางคน
    แต่เขาตกอยู่ในภาวะความเป็นสัตว์ ก็จำต้องทนรับเสวยไป
    สัตว์เดรัจฉานก็ยังมีและเสวยกรรมไปตามวิบากของมัน
    มิให้ประมาทเขาว่าเป็นสัตว์ที่เกิดในกำเนิดต่ำทราม
    ความจริงเขาเพียงเสวยกรรมตามวาระที่เวียนมาถึงเท่านั้น
    เช่นเดียวกับมนุษย์ ขณะที่ตกอยู่ในความทุกข์จนข้นแค้น
    ก็จำต้องทนเอาจนกว่าจะสิ้นกรรม เมื่อมนุษย์เราเกิดเสวยชาติเป็นคน
    มีสุขบ้าง ทุกข์บ้าง ตามวาระของกรรมที่อำนวย
    มนุษย์ก็มีกรรมชนิดหนึ่งที่พาให้มาเป็นอย่างนี้
    ซึ่งล้วนผ่านกำเนิดต่างๆ จนนับไม่ถ้วน
    ให้ตระหนักในกรรมของสัตว์ว่ามีต่างๆ กัน
    เพราะฉะนั้นไม่ให้ดูถูกเหยียดหยาม
    ในชาติกำเนิดความเป็นอยู่ของกันและกัน
    และสอนให้รู้ว่าสัตว์ทั้งหลายมีกรรมดี กรรมชั่วเป็นของๆ ตน ”

    (ภูริทตฺตธมฺโมวาท จากหนังสือภูริทตฺตมหาเถรานุสรณ์)

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่าน
    เจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมใน
    การเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ทุกๆท่าน…

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  7. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  8. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  9. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  10. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  11. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  12. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    เรื่อง “ตั้งสัจจะถือเนสัชชิ ภาวนาสละเป็นสละตาย”

    (ธรรมประวัติ หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท)

    ในพรรษาแรกของการบวช ท่าน(หลวงปู่เจี๊ยะ)เกิดความขี้เกียจและมักจะหลบนอน พอมาถึงกลางพรรษาท่านก็มานึกตำหนิตัวเอง ว่าเรากินข้าวชาวบ้านแล้ว ทำไมถึงมาขี้เกียจอย่างนี้ มันเหมาะสมแล้วหรือสำหรับนักบวชที่สละบ้านเรือนออกมา แต่ก่อนทำงานหนักๆ แจวเรือทั้งวันยังทำได้ พระแบบเรานี้จะต่างอะไรกับฆราวาสหัวดำๆ เราทำแบบนี้ควรแล้วหรือที่ให้ญาติโยมเขากราบไหว้บูชา ท่านจึงด่าตัวเองดังๆในใจว่า

    “ไอ้ห่า…มึงเป็นพระให้เขากราบไหว้ แล้วมึงภาวนานั่งสู้โยมแก่ๆไม่ได้ แล้วมึงจะบวชมาทำไม”

    ในพรรษาที่ ๒ หลวงปู่เจี๊ยะได้ถือธุดงค์ปฏิบัติว่าด้วยการไม่นอน คือบำเพ็ญความเพียรไม่นอนในตอนกลางคืนเลย ตลอดช่วงเวลาเข้าพรรษา ๓ เดือน แต่พักผ่อนเล็กน้อยในเวลากลางวัน ท่านได้ตั้งหน้าประกอบความเพียร ทั้งเดินจงกรม และนั่งสมาธิภาวนา และได้ตั้งสัจจะว่า

    “ข้าพเจ้าจะถือ “เนสัชชิ” คือ การไม่นอนตลอดทั้งพรรษา ในเวลาค่ำคืนไม่นอน ด้วยพุทธานุภาพ ธัมมานุภาพ สังฆานุภาพ ถ้าแม้นว่าข้าพเจ้าไม่ทำตามสัจจะนี้ ขอให้ข้าพเจ้าถูกฟ้าผ่าตาย ถูกไฟไหม้ตาย ถูกแผ่นดินสูบ ถูกน้ำท่วมตาย”

    จากนั้นท่านได้ภาวนาอยู่ไม่รู้คำว่าหยุดถอย จนกระทั่งในพรรษาที่ ๓ เกิดจิตรวมครั้งใหญ่ใต้ต้นกระบก ปรากฏประหนึ่งว่า แผ่นดินแผ่นฟ้าละลายหมด กายกับใจนี้ขาดออกจากกัน เหมือนโลกนี้ขาดพรึบลงไปไม่มีอะไรเหลือเลยเหลือแต่ความบริสุทธิ์ของใจดวงเดียว ท่านถึงกับอุทานภายในใจว่า

    “นี่แหละชีวิตอันประเสริฐ เราได้พานพบแล้ว”

    [​IMG]

    ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น
     
  13. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  14. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  15. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  16. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  17. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  18. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  19. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  20. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...