~:ธรรมะโมบาย:~

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย เฮียปอ ตำมะลัง, 4 สิงหาคม 2008.

  1. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    8/2/2010 เช้า<!-- google_ad_section_end -->
    มีโยมหลายคนมาเรียนสมาธิกับอาตมา
    อาตมาบอกโยมทุกคนเอาโทรศัพท์มาก็ได้นะ แต่โยมมีสิทธิ์ใช้ก่อนอาตมาปฐมนิเทศ เท่านั้น!!
    เพราะหลังจากนี้5วัน โทรศัพท์ทั้งหมดต้องเก็บกองรวมกัน ทุกคนหน้าซีดเลย

    8/2/2010 เย็น
    เชื่อไหม 2 วันแรก ที่ไม่ได้ใช้โทรศัพท์ โยมบางคนถึงกับลงแดงอย่างเห็นได้ชัด
    อาตมาเลยบอกว่า โยมทนให้ได้สัก3วัน ถ้าผ่านวันที่3ได้ โยมจะกลับมานิ่ง
    ยมจะรู้เลยว่า อะไรคือส่วนเกินของชีวิต

    9/2/2010 เช้า
    สื่อต่างๆ ที่คุณเคยติด ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์เอย หนังสือพิมพ์เอย โทรทัศน์เอย
    พอคุณนั่งสมาธิผ่านวันที่3 คุณจะรู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว คุณสามารถมีความสุขโดยขึ้นกับตัวเองล้วนๆก็ได้

    9/2/2010 เย็น
    ถ้าโยมสามารถวางสิ่งภายนอกลงมากเท่าไร่ เราจะเป็นผู้ที่มีความ คม ชัด ลึก
    มากกว่าการคิดตามสิ่งเร้าภายนอกบางครั้งเราถูกป้อนข้อมูลมากเกินไป จนไม่เหลือเชื่อช่องว่าให้คิด<!-- google_ad_section_end -->
    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2010
  2. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    10/2/2010 เช้า
    มีโยมถามว่าทำอย่างไร จึงจะมีปัญญาลึกซึ้งทุกครั้งที่สวดมนต์แปล
    อาตมาขอตอบว่าการที่จะมีปัญญาลึกซึ้ง เข้าถึงแก่นแห่งธรรมที่แทรกอยู่บทสวดมนต์นั้น
    ต้องอาศัยการตีความของผู้สวด

    10/2/2010 เย็น
    ถ้าผู้สวดตีความบทสวดมนต์ได้มาก ก็มีปัญญามาก
    ถ้ามีปัญญาในการตีความน้อย ก็ได้ปัญญาน้อย
    แต่ถึงแม้ไม่มีความสามารถในการตีความ ขอให้เชื่อมั่นว่าครั้งที่สวดมนต์
    ไม่มีคำว่าสูญเปล่าเกิดขึ้นแน่นอน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2010
  3. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    11/2/2010 เช้า
    เราจะบริโภคอย่างไร มิให้ตกเป็นทาสของความโลภ
    นั่นคือ เราควรบริโภคโดยคุณค่าแท้ คือ ประโยชน์จริงๆของปัจจัย4
    เช่น คุณค่าของ'รถ'จริงๆ คือ พาหนะ
    คุณค่าของ นาฬิกา คิอ บอกเวลา

    11/2/2010 เย็น
    ถ้าเราบริโภคด้วยคุณค่าแท้ รถญี่ปุ่นเราก็นั่งได้
    แต่ถ้าเราบริโภคด้วยคุณค่าเทียม เราจะนั่งรถที่ผลิตในเอเชียไม่ได้ มันไม่เท่
    มันต้องรถจากฝั่งยุโรป หรือ อเมริกา เท่านั้น

    ว.วชิรเมธี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2010
  4. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    12/2/2010 เช้า
    อยากทราบว่า ถ้าเราจะต้องการจะลืมอดีตที่เกี่ยวกับคนที่เราไม่รักแล้ว
    แต่ยังมีของที่เขาเคยให้ ผมควรจะทำอย่างไรกับของเหล่านี้ ลำบากใจมาก?
    >> เก็บของเหล่านั้นไว้ ในที่ที่เราไม่ต้องพบเห็นอีกต่อไป เช่น

    12/2/2010 เย็น
    เช่น เก็บใส่กล่องแล้ววางไว้ใต้เตียง ไม่จำเป็นต้องทิ้ง หรือ คืนให้เสียเวลา
    ถ้าวันหนึ่งข้างหน้า บังเอิญไปเจอ ก็ให้นึกว่าอะไรที่จบไปแล้ว ก็ให้มันจบไป
    อย่าเอาเรื่องในวันวาน มาทำลายวันนี้

    ว.วชิรเมธี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2010
  5. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    13/2/2010 เช้า<!-- google_ad_section_end -->
    ช่วงที่อยู่ในโปรโมชั่น ชายหนุ่มพาแฟนสาวไปเดินเที่ยวเยาวราช
    เดินตั้งแต่หัวถนน จนสุดถนน แดดเปรี้ยงร้อนจนตับแลบ
    วันนั้นเป็นวันที่แฟนสาวเพิ่ง ซื้อรองเท้าใหม่ และ โดนรองเท้ากัด

    13/2/2010 เย็น<!-- google_ad_section_end -->
    ชายหนุ่มเต็มใจ ก้มลงถอดรองเท้าให้แฟนสาว
    นาทีที่ก้มลงไป ชายหนุ่มรุ้เลยว่า ถุงเท้าของเธอเหม็นมาก
    แต่นึกบอกวตัวเองในใจว่า ช่างเป็นกลิ่นที่หอมที่สุด
    คือ ความรักมันกำลังขึ้นสมอง อยู่ในวินาทีนั้น

    14/2/2010 เช้า<!-- google_ad_section_end -->
    ชายหนุ่มคนนั้น มาเล่าให้อาตมาฟัง ตอนที่เลิกกันแล้ว ว่า
    เหม็นบรรลัยเลยครับ พระอาจารย์ แต่ไม่รู้ตอนนั้นผมคิดไปได้ยังไงว่ามันหอม
    เห็นหรือยัง ช่วงที่ความรักขึ้นสมอง อะไรๆก็ดีไปหมด

    14/2/2010 เย็น
    คนที่มีรักทุกคน ต้องมีคาถากันน้ำตาไหล คือ ไม่แน่ ไม่ได้ดั่งใจ ไม่มีอะไรสมบูรณ์
    คบกันอยู่ดีๆแฟนหนีไปมีคนใหม่ ก็ให้บอกตัวเองว่า พระท่านเตือนไว้แล้วว่า มันไม่แน่

    ว.วชิรเมธี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2010
  6. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    15/2/2010 เช้า
    เยาวภาพที่ท่านเขียนหมายถึงอะไร? เยาวภาพ หมายถึง ความเป็นเด็ก ความ
    นับแต่นั้น พระองค์ทรงเปลี่ยนสถานภาพเป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ผลแห่งการบ้า คิดดนอกกรอบของเจ้าชายสิทธัตถะ ทำให้โลกเกิดศาสนาใหม่

    ในที่สุดพระองค์ทรงค้นพบมรรคาแห่งความสำเร็จ ในคืนวันเพ็ญเดือนวิสาขะ
    ความอ่อนโยน ความเมตตา ความบริสุทธิ์ ในหัวใจคน
    สิ่งเหล่านี้ทุกคนมีอยู่แล้วแต่อาจหลงลืมไป (ต่อเย็นนี้)

    15/2/2010 เย็น
    เพราะถูก [โลภ โกรธ หลง] เข้ามาครอบงำ ซึ่งถ้าใครมี (ความเมตตา....) อยู่จะสดชื่นในหัวใจ
    จะไม่ยโสโอหัง เป็นที่รักของคนอื่น เพราะรากฐานของเยาวภาพ ก็คือ ความเมตตานั่นเอง

    ว.วชิรเมธี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กุมภาพันธ์ 2010
  7. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    16/2/2010 เช้า
    อินเดียในสมัยโบราณ มีความคิดว่าทางจะทำให้บรรลุสู่การดับทุกข์ก็คือ การทรมานตน และ การตามใจตน
    แต่เจ้าชายสิทธัตถะ ทรงบ้ากว่าคนยุคนั้น บ้าที่จะคิดนอกกรอบ ทรงคิดว่าต้องมีทางสายอื่นที่ดีกว่า2ทางนี้แน่นอน

    16/2/2010 เย็น
    เจ้าชายสิทธัตถะทรงแสวงหาทางเลือกใหม่ ทรงบ้าอยู่ตั้ง6ปี ผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ทรงล้มเลิก
    ใครบางคนเคยกล่าวไว้ว่า ไม่มีใครล้มเหลว หากเขาไม่ยอมล้มเลิก

    17/2/2010 เช้า
    เยาวภาพที่ท่านเขียนหมายถึงอะไร? เยาวภาพ หมายถึง ความเป็นเด็ก ความ
    นับแต่นั้น พระองค์ทรงเปลี่ยนสถานภาพเป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ผลแห่งการบ้า คิดดนอกกรอบของเจ้าชายสิทธัตถะ ทำให้โลกเกิดศาสนาใหม่

    ในที่สุดพระองค์ทรงค้นพบมรรคาแห่งความสำเร็จ ในคืนวันเพ็ญเดือนวิสาขะ
    ความอ่อนโยน ความเมตตา ความบริสุทธิ์ ในหัวใจคน
    สิ่งเหล่านี้ทุกคนมีอยู่แล้วแต่อาจหลงลืมไป (ต่อเย็นนี้)

    17/2/2010 เย็น
    ผลแห่งการบ้าของโคลัมบัส ทำให้เกิดประเทศใหม่ อย่าง อเมริกา
    คนบ้าๆนี่แหละ ที่จะเปลี่ยนแปลงโลก สังคมไทยเราต้องการคนบ้าอย่างเร่งด่วน
    เราต้องการนักการเมืองบ้าๆ ที่กล้าประกาศว่าจะเล่นการเมืองแบบไม่โกง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กุมภาพันธ์ 2010
  8. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    18/2/2010 เช้า
    เราต้องการตำรวจบ้าๆ ที่กล้าประกาศว่าจะไม่รับส่วย
    เราต้องการพระบ้าๆ ที่จะไม่พาคนโง่ลงกว่าเดิม
    เราต้องการคนไทยบ้าๆ ที่กล้าประกาศร่วมกันว่านักการเมืองที่ฉ้แรษฎร์บังหลวง ไม่ควรมีที่ยืนบนแผ่นเดินไทยที่รักของเรา

    18/2/2010 เย็น
    พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า ตนทำชั่วเอง จิตก็จะเศร้าหมองเอง
    ตนทำดีเอง จิตก็จะบริสุทธิ์เอง
    คนอื่นจะมาช่วยทำพิธีตัดกรรมแทนหาได้ไม่
    นี่ไม่ใช่แนวทางของ พระพุทธศาสนา

    ว.วชิรเมธี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กุมภาพันธ์ 2010
  9. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    19/2/2010 เช้า - เย็น
    มีกฏอยู่2กฏ ที่อยู่คู่โลกมานานแล้ว พอกับ กฏแห่งกรรม
    นั่นคือ กฏแห่งกำ และ กฏแห่งแบ
    ๏ กฏแห่งกำ คือ ถ้าเราพยายามจะกำทุกอย่าง สุดท้ายเราจะสูญเสียทุกอย่าง
    เช่น
    - ฮิตเลอร์ พยายามที่จะกำอำนาจให้มากที่สุด
    สุดท้ายฮิตเลอร์ก็ต้องฆ่าตัวตาย
    - นโปเลียนต้องการจะกำยุโรปทั้งทวีป
    สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้ไป

    ๏ ส่วนกฏแห่งแบนั้น หมายถึง ในการดำเนินชีวิต เราต้องหากินหาใช้
    แต่เมื่อไร่ก็ตามที่เรามีเหลือกินเหลือใช้ เราก็รู้จักที่จะแบ ออกมาแบ่งปัน
    คนที่รู้จักกฎแห่งแบ จะเป็นผู้ที่มีชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข
    ยิ่งให้ ยิ่งได้ยิ่งได้ ยิ่งแบ่งปัน
    แต่ยิ่งหวง ก็จะยิ่งหาย

    กฎแห่งกำ เป็นกฏแห่งความทุกข์
    กฏแห่งแบ เป็กฏแห่งความสุข
    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กุมภาพันธ์ 2010
  10. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    20/2/2010 เย็น
    พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ความโลภเป็นอันตรายต่อความดีงาม
    นั่นหมายถึง เมื่อความโลภ เข้าครอบงำจิตใจแล้ว
    เขาจะทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้ สมปรารถนา
    แม้กระทั่งต้องฆ่าคนที่เขารัก เขาก็ทำ

    ว.วชิรเมธี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กุมภาพันธ์ 2010
  11. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    21/2/2010 เช้า
    ลูกน้องแอบไปมีเมียน้อย ซึ่งเป็นเลขาของนายใหญ่
    จะตักเตือนลูกน้องก็กลัวผิดใจกัน และ มีผลกระทบต่องาน
    แต่ถ้าไม่เตือน ก็รู้สึกว่าตนเองขาดคุณธรรม
    ควรจะทำอย่างไรดีค่ะ ?

    21/2/2010 เย็น
    ให้ชั่งน้ำหนักว่า ระหว่างเตือน กับ ไม่เตือน
    อย่างไหนจะดีกว่ากัน ถ้าเตือนแล้วดีกว่า ก็ไปเตือนเขา
    แต่ถ้าเตือนแล้วไม่ดีกว่า ก็อย่าไปทำ
     
  12. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    22/2/2010 เช้า
    ชีวิตเราไหลมาเจอพ่อเจอแม่ อยู่ด้วยกันไม่กี่ปี พ่อแม่ก็ตายจาก
    ไหลมาเจอสามมีหรือภรรยาในดวงใจ อยู่ด้วยกันไม่กี่ปี บางทีไม่ตายจาก ก็จากกันไปเอง
    ฉะนั้น วิถีชีวิตของมนุษย์ เราจะเจอกัน แค่ชั่วครู่ชั่วคราวเท่านั้น

    21/2/2010 เย็น
    ต่อให้เรารักกันมากปานใดก็ตาม หรือจะดีต่อกันแค่ไหนก็ตาม ก็เจอกันเพียงชั่วคราวเท่านั้น
    เพราะฉะนั้นเราควรดูแลโมงยามที่แสนสั้นนี้ให้ดีที่สุด ให้เป็นชั่วคราวที่งดงามที่สุด

    ว.วชิรเมธี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กุมภาพันธ์ 2010
  13. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    23เช้า
    วันนี้อาตมาขออธิบาย 'ศีล5' แบบใหม่ ไม่ใช่แบบเดิมที่เป็นการห้ามโน้นห้ามนี่
    แต่อาตมามาเรียบเรียงใหม่ในเชิงบวก
    ศีลข้อที่1 เป็นหลักประกันในการมีชีวิตที่ยืนยาว
    ถ้าโยมไม่ฆ่าชีวิตใคร แล้วใครจะมาฆ่าชีวิตโยม

    23เย็น
    ศีลข้อที่2 เป็นหลักประกันในการมีทรัพย์สิน
    ถ้าคุณไม่ขโมยทรัพย์ใคร แล้วใครจะมาขโมยทรัพย์คุณ

    ศีลข้อที่3 เป็นหลักประกันในการมีสถาบันครอบครัว
    ถ้าคุณอยากมีครอบครัวที่มั่นคง ไม่คลอนแคลน

    24เช้า
    ศีลข้อ4 คือหลักประกันในการรับข้อมูลข่าวสารที่เป็นความจริง
    คุณอยากถูกใครหลอกด้วยข้อมูลเท็จไหม

    ศีลข้อ5 คือหลักประกันในการมีสุขภาพที่ดี
    ด้วยการไม่เสพยาเสพติด


    ศีล5คือหลักประกันชีวิตนั่นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กุมภาพันธ์ 2010
  14. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    25เช้า
    อยากทราบว่า สตรีที่มีประจำเดือน ห้ามเข้าห้องพระ สวดมนต์ทำสมาธิ
    จริงหรือไม่คะ เพราะอะไร ดิฉัน โดนห้ามมาคะ
    ดิฉันว่า ไม่น่าจะเกี่ยวนะคะ เพราในสมัยพุทธกาล ผู้หญิงยังบวชได้?

    25เย็น
    เป็นเรื่องไร้สาระอย่างสิ้นเชิง เป็นอคติทางเพศที่มีขึ้นในสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่
    ในทางพุทธศาสนา ถือว่ามนุษย์ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเข้าห้องพระ มีสิทธิ์ที่จะไหว้พระสวดมนต์

    ว.วชิรเมธี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กุมภาพันธ์ 2010
  15. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    26เช้า
    พระพุทธเจ้าตรัสว่า เราจะเก็บฟืนจากไม้ชนิดใด ก็ได้มาก่อไฟ สุดท้ายไฟจะเป็นสีแดงเพลิงเหมือนกันหมด
    น้ำไม่ว่าจะมาจากสายไหนก็ตาม แต่ถ้าไหลมารวมกันที่ทะเลแล้ว เราก็จะเรียก น้ำทะเล

    26เย็น
    ไม่ว่าก่อนหน้านั้น น้ำนั้นจะมาจาก ปิง วัง ยม น่าน หรือ คงคา เราก็เรียก ทะเล
    เช่นเดียวกับ พระสงฆ์ที่มาบวชในพระพุทธศาสนา จะมาจากวรรณะสูง หรือ วรรณะต่ำ
    ก็เรียกว่า พุทธบุตร เหมือนกัน ไม่มีวรรณะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กุมภาพันธ์ 2010
  16. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    27เช้า
    คำว่า หลงบุญ หมายความว่าอะไรเจ้าคะ?
    หมายถึง การทำบุญโดยไม่มีปัญญา ทำบุญโดยขาดการใช้เหตุผล
    เช่น บริจาคทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อแลกกับการได้บุญเพียงอย่างเดียว
    แล้วทำให้ตัวเองเดือดร้อน

    27เย็น
    การทำบุญที่ถูกต้องคือ ทำเท่าที่เราทำได้
    ไม่ใช่ทำโดยที่ตนเองและคนอื่นเดือดร้อน
    ถ้าทำบุญแล้วตัวเองและคนอื่นเดือดร้อน นั่นคือการหลงบุญหรือบ้าบุญ
    เพราะฉะนั้นการทำบุญต้องใช้เหตุผลเสมอ
     
  17. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    28เช้า
    เงินที่หามาได้โดยไม่สุจริตนั้น มันเป็นเงินร้อนนะ
    ถึงจะทำให้เรามีกินมีใช้ แต่ถ้าวันไหนที่เราถูกจับได้
    ความสุขที่เราได้รับ มันก็แค่ความฝัน
    เพราะเวลาหลังจากนั้น คือความทุกข์อันแสนยาวนาน

    28เย็น
    เราต้องไม่หลงคิดว่าน้ำบ่อน้อยที่เรามีอยู่นั้น คือ ทะเลอันไพศาล
    ถ้ากบทุกตัวยอมทิ้งน้ำบ่อน้อย แล้วไปสัมผัสทะเลจริงๆ
    จะรู้ว่ามีนมีอะไรอีกมากมายบนโลกนี้ ที่เราสามารถเรียนรู้ได้

    ว.วชิรเมธี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กุมภาพันธ์ 2010
  18. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    มีนาคม 2553

    1 เช้า
    ไม่ว่าจะเป็นคนไทย หรือเป็นฝรั่ง กิเลสมันก็เหมือนกัน
    และไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ห้วงเวลา มนุษย์ก็เป็นเช่นนี้
    แย่งอาหารกันกิน แย่งสวาท แย่งชิงอำนาจความเป็นใหญ่
    ว.วชิรเมธี

    1 เย็น
    คนส่วนใหญ่ทำงานอะไรก็หวังคำชม แต่สำหรับอาตมา อาตมาให้ราคาเท่ากันเลย
    สำหรับคำชม และ คำด่า เพราะมันเป็นด้านทั้ง2ของเหรียญเดียวกัน
    ว.วชิรเมธี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2010
  19. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    2เช้า
    พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า พระภิกษุสามารถนำอาหารจากการบิณฑบาตมาเลี้ยงดูพ่อแม่ได้ โดยไม่เป็นบาป
    และ การตอบแทนพระคุณพ่อแม่ที่ดีที่สุดนั้น คือ การนำพ่อแม่เข้าสู่เส้นทางธรรม

    2เย็น
    พระพุทธองค์ ทรงทำเป็นแบบอย่างให้ดู
    พระองค์ทรงเสด็จกลับสู่พระนคร เพื่อทรงป้อนข้าวป้อนน้ำพระพุทธบิดา
    คนที่สำคัญที่สุดในชีวิตเรา คือ พ่อแม่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2010
  20. Mohk

    Mohk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +0
    3เช้า 3เย็น 4เช้า
    ก่อนเข้าวัด ต้องวัดจิตวัดใจเราด้วย ว่าก่อนเข้าไป เราโง่อย่างไร และ กลับวัดออกมา เราฉลาดขึ้นหรือไม่
    อย่างอาตมาถือคติ ว่าไม่รับสังฆทานคนโง่นะ เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่ญาติโยมถวายสังฆทาน อาตมาต้องเทศน์ 1กัณฑ์
    โยมจะชอบหรือไม่ชอบ อาตมาไม่รู้ ถือว่าถ้ามาหาอาตมา ต้องได้ธรรมะทุกครั้งกลับไป
    ส่วนโยมบางคนเวลามาหาอาตมา เขาต้องเก็บสะสมเงินที่มีอยู่น้อย จัดหาทำกับข้าวอย่างดีมาถวายให้อาตมา
    ยกอาหารจรดหน้าผากเลยนะ จบแล้วตบอีก อาตมาจะฉันข้าวฟรีๆ ได้อย่างไร ก็เลยต้องเอาธรรมะให้ไป ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งหวงยิ่งหาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...