ธรรมะ จากเพจ พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย สายหลวงปู่มั่น, 4 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    กำหนดการกราบขอขมาและสรงน้ำพระอาจารย์หลวงปู่ เปลี่ยน ปัญญาปทีโป

    วันศุกร์ที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑

    เวลา ๐๗.๐๐ น. เคลื่อนสรีระสังขารจากกุฏิ ไปที่พระอุโบสถ วัดอรัญญวิเวก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

    เวลา ๑๓.๐๐ น. เปิดให้สาธุชนเข้ากราบขอขมาและสรงน้ำฯ

    .jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  2. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    “…ศีลพึงรู้ได้ด้วยการอยู่ร่วมกัน ความสะอาดพึงรู้ได้ด้วยการงาน
    ปัญญาพึงรู้ได้ด้วยการสนทนา…”

    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    .jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  3. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    “…แก้ให้ตกเน้อ แก้บ่ตกคาพกเจ้าไว้ แก้บ่ได้แขวนคอต่องแต่ง แก้บ่พ้นคาก้นย่างยาย คาย่างยายเวียนตายเวียนเกิด เวียนเอากำเนิดในภพทั้งสาม ภพทั้งสามเป็นเฮือน (เรือน) เจ้าอยู่…”

    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    -แก้บ่ตกคา.jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  4. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    “…ได้สมบัติทั้งปวงไม่ประเสริฐเท่าได้ตน เพราะตัวตนเป็นบ่อเกิดแห่งสมบัติทั้งปวง…”

    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    .jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  5. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    “…ดีใดไม่มีโทษ ดีนั้นชื่อว่าดีเลิศ…”

    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    -ดีนั้นชื่.png

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  6. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    “…คำว่ากล่าวของพ่อแม่เป็นคำศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์อย่างยิ่ง
    ควรทำความเคารพและนับถือเป็นหลักใจอย่างสำคัญจนวันอวสาน จะหลงลืมอะไรก็พอทำเนา แต่โปรดอย่าหลงลืมคุณ
    และคำสั่งสอนอบรมของท่าน จะเป็นผู้เจริญทั้งปัจจุบันและอนาคต เคยเห็นลูกที่ไม่เชื่อฟังคำอบรมของพ่อแม่ โดยมากมักเอาตัวไปไม่รอด จะมีความรู้ความฉลาดเพียงไรก็มีช่องโหว่พาให้เสื่อมทรามจนได้ ทั้งนี้อาจจะขึ้นอยู่กับการลืมตัวและวางตัวก็ไม่อาจทราบได้ แต่ผู้ที่เชื่อฟังท่านปรากฏมีความเจริญโดยลำดับ เวลาตกตาจนคือเวลาถึงคราวจำเป็นจริงๆ โปรดระลึกถึงพระคุณของท่านที่เราเคยทำความเอื้อเฟื้อต่อท่านมา คุณนั้นจะดลบันดาลให้ผ่านพ้นอุปสรรคไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ก็ได้ปรากฏและได้เชื่อเสียแล้ว ไม่ทราบว่างมงายหรืองมจริง ทั้งนี้เราเคยแน่ใจมาพอจะเป็นพยานแห่งความอาจหาญให้นำมาเขียน เพื่อท่านผู้อ่านซึ่งอยู่ในสภาพเช่นเดียวกันนำไปพิจารณา…”

    หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน คัดจากหนังสือ แว่นส่องธรรม

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    .jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  7. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    น้อมส่งท่านอาจารย์เปลี่ยน สู่แดนนิพพาน

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

    ระตะนัตตะเย ปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต
    ระตะนัตตะเย ปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต
    ระตะนัตตะเย ปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต

    มหาเถเร ปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต
    มหาเถเร ปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต
    มหาเถเร ปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต

    .jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  8. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    “…สละให้เพื่อน…”

    “…วันหนึ่งท่านนั่งสมาธิอยู่บนกุฏิเกิดนิมิตเห็นเพื่อนของท่าน เดินขึ้นมาบนกุฏิ มาหาท่านเขาตัดผมใหม่ เขาบอกว่าเขาตายแล้วและขออนุญาตหลวงปู่จะไปอยู่วิมาน หลวงปู่ถามว่า ทำไมไม่ไปอยู่ เขาบอกว่าอยู่ไม่ได้ต้องขออนุญาตจากหลวงปู่ก่อน เพราะท่านออกค่าใช้จ่ายมากกว่า หลวงปู่เลยบอกว่า เรายกให้เลย เรายกให้ทั้งหมด เราไม่เอา เขากราบลาแล้วลงจากกุฏิด้วยความยินดี

    หลวงปู่เล่าว่า สมัยยังไม่บวชไปสร้างกุฏิด้วยกัน โดยหลวงปู่ ออกเงินค่าใช้จ่ายมากกว่า ฉะนั้นท่านจึงมีสิทธิมากกว่าเขาถ้าตายก็ต้องอยู่ด้วยกัน เขาก็ต้องไปเกิดเป็นบริวาร เพราะบุญน้อยกว่า แต่หลวงปู่ท่านสละทานให้ เพราะบวชแล้ว และเป็นการสงเคราะห์เพื่อน

    พอต่อมาไม่นานมีญาติมาเยี่ยมท่าน จึงถามข่าวถึงเพื่อน เขาบอกว่าตายแล้ว ท่านก็หมดความสงสัยในความรู้ที่เกิดขึ้นความรู้เห็นสิ่งต่าง ๆ…”

    หลวงปู่คำตา ทีปังกโร วัดป่าภูคันจ้อง ต.คำด้วง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    .jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  9. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    “…นักปฏิบัติเพื่อพ้นจากความหลง อันดองสันดานของตน ให้ติดให้วนอยู่ในอู่ของวัตถุนิยม แล้วไม่ปลงปัญญาลงสู่อนิจจตา ทุกข์ตา อนัตตตาแล้ว ย่อมเป็นไปได้ยาก เจริญขึ้นในธรรมชั้นสูงได้ยาก และก็มักตื่นข่าวในสังขารโลก โลกคือสังขาร สัตว์โลก โลกคือหมู่สัตว์ โอกาสโลก โลกคือแผ่นดิน ตื่นข่าวทั้งอดีต ทั้งอนาคต ทั้งปัจจุบันด้วย เมื่อตื่นข่าวก็ลังเลในปฏิปทาของตน แล้วก็คว้าหาเหมือนตกน้ำจนตรอกจนมุม ว่าในใจว่า ยังไงหนอ ยังไงหนอ อยู่อย่างนี้เสมอ ๆ

    ท่านผู้ติดอยู่ในกองนามรูปก็คือผู้สงสัยอยู่ในกองนามรูปนั่นเอง ผู้สงสัยสรรพโลกสรรพสังขารก็คือ ผู้ติดอยู่ในสรรพนิมิต นิมิต แปลว่าเครื่องหมาย หมายไว้ว่าเป็นสัตว์บุคคลตัวคนเราเขาจริง ๆ จัง ๆ จนแกะไม่ได้ คายไม่ออกพร้อมทั้งมีความเห็นผิดดิ่งลงไปมีกำลังกล้าถอนได้ยากเพราะฝังลึกแล้ว…”

    หลวงปู่หล้า เขมปัตโต

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    .jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  10. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    “…วันนี้เป็นวันตรุษจีน ตรุษจีนก็คือวันเป็นมงคลแก่คนเรานั่นแหละ ไม่ว่าจีนว่าไทยก็คือคนเหมือนกัน วันนี้เป็นวันตรุษของมนุษย์ ตรุษของคนทั่วประเทศนั่นแหละ ให้ยึดไปเป็นคติ เรื่องตรุษนั่นท่านมีมาอะไรก็ไม่ทราบ แต่เราจับได้ในจุดใหญ่ว่าเป็นวันมงคลของชาตินั้นๆ นี่ก็เป็นวันมงคลของพวกเราทั้งหลาย มาวัดมาวาวันไหนเป็นมงคลทั้งนั้น ไม่มาวัดมาวาก็ขอให้มีธรรมภายในใจเถอะ อยู่ในบ้านก็เป็นธรรม อยู่นอกบ้าน ไปไหน เคลื่อนไหวมันเกิดจากเราๆ จากคนๆ เดียวคนเดียวนี้ เคลื่อนไหวไปมาเป็นบาปหรือเป็นบุญ เป็นมงคลหรือเป็นอัปมงคล มันอยู่กับเรา ให้พิจารณาตนบ้างนะ…”

    พ่อแม่ครูอาจารย์องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
    เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด เมื่อ ๒๘ มกราคม ๒๕๔๙

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    -ต.jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  11. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    “…จะทุกข์จะยากสักเพียงใดก็ตาม.จะโสเป็นโสตายต่อพระพุทธศาสนา.มันก็หมดเรื่องเท่านั้น ถ้าจะยอมโสเป็นโสตายกับพระพุทธศาสนาก็เสียเปรียบพระพุทธเจ้า เสียเปรียบพระธรรม เสียเปรียบพระสงฆ์ อือ มันก็ลำบากอันนั้น ทีนี้เราไม่ยอมโสเป็นโสตายต่อพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ ก็เรียกว่าทิฏฐิมานะของเรามันจดฟ้าใช่ไหม…เออ…เราก็ต้องไปโสเป็นโสตายต่อผีต่อเปรตทีนี้.ถ้าไม่โสเป็นโสตายต่อพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์
    ก็ต้องไปโสเป็นโสตายต่อ…เปรตสร ณังคัจฉามิ ผีสรณังคัจฉามิ โจรสรณังคัจฉามิ มารสรณังคัจฉามิ…อือ…ฆราวาสสรณังคัจฉามิ…อือ…ลูกเมียสร ณังคัจฉามิ….นั่นน่ะ

    จะว่าพุทธังสรณังคัจฉามิก็ว่าเฉยๆ …อือ…เห็นเขาว่าก็ว่าไปตามเขา…อือ…เคยหูก็หัดปาก แก้วเจ้าขากินข้าวกับกล้วย….อือ.แต่ไม่รู้จักกล้วย…กินอยู่ก็ไม่รู้จักกล้วย…”

    หลวงปู่หล้า เขมปัตโต

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    .jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  12. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    “… เราคิดว่า “กิน” นี่แหละคงจะเป็นความสุขแน่ละ เราก็พยายามไปหามาให้มันกิน ครั้นกินๆ เข้าไปมากก็เกิดอึดอัดไม่สบายอีก

    คิดว่า “นอน” นี่แหละต้องเป็นความสุขแน่ละ เราก็นอน…นอน วันยังค่ำจนหลังมันแข็ง ก็เกิดความไม่สบายอีก

    คราวนี้คิดว่า “เงินทองทรัพย์สมบัติ” นี่แหละคงเป็นความสุขแน่นอน เราก็พยายามไปหาเงินทองมาใช้จนเต็มที่ แต่มันก็ไม่สุขอีก

    แล้วอะไรเล่า…ที่เป็นความสุขอันแท้จริง

    ความสุขที่แท้จริง ย่อมเกิดจาก บุญกุศล คือ ความสงบที่เกิดขึ้นในจิตใจ ใจที่พ้นจากทุกข์โทษความดิ้นรน ไม่มีกระสับกระส่าย เดือดร้อนกระวนกระวาย ถ้าใครมานั่งหลงโลกติดโลก ว่ามันเป็นของดีวิเศษวิโสอยู่นั่น มิใช่นิสัยของบัณฑิตผู้ใฝ่ใจในธรรมของพระพุทธเจ้า

    เพราะฉะนั้นเราจงพากันตั้งอกตั้งใจประกอบบุญกุศล เพื่อจะให้เป็นทางที่พ้นไปจากโลกนี้ นั่นแหละจะเป็นหนทางที่ถูกต้อง …”

    ท่านพ่อลี ธัมมธโร วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    -กิน-นี่แหละคง.jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  13. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
  14. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    .jpg

    ..พิธีกราบขอขมาองค์หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป เช้านี้ที่ อุโบสถวัดอรัญญวิเวก....พิธีกราบขอขมาองค์หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป เช้านี้ที่ อุโบสถวัดอรัญญวิเวก..
    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  15. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    คุรุแก้วปณิธาน ( ตอนที่ 5 )

    หรือบางคนหนักเข้าที่สุด
    “ร้องบอกอยากไปนิพพาน”
    ก็ดี…ใหเอยากไว้ละดี
    อยากไว้แล้วมันจะขวนขวายตั้งใจ ใส่ใจในการดับอยากนั้น
    แต่…
    ต้องอยากให้พอดี อย่าอยากเกินไป
    อย่าให้อยากนั้นมาแต่งใจ ให้ใจแต่งอยาก

    ทางอื่นที่จะดับอยาก ดับเกิดตาย ไม่มีหรอกนอกเสียจาก
    – ๑ – ทาน
    – ๒ – ศีล
    – ๓ – ธรรมะ
    – ๔ – ปัญญา

    ธาตุที่เป็นก้อนกายเราเดี่ยวนี้
    มันมิใช่ของเราน่ะ
    อย่าหลงตัวเอง

    เรามาเกิดก็มาใช้วานกับมันเท่านั้น
    พอเราตายไป ก็ต้องคืนแก่โลก
    จึงว่า ธาตุเป็นของกลาง
    รูปนามเป็นของกลาง
    เราต้องวางคืนแก่โลกให้หมด
    จึงจะได้ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก

    อันนี้มันวางไม่เป็น ไม่รู้ที่จะวาง
    ก็เลยเป็นบ้ากาย บ้าใจ

    ธาตุขันธ์อายตนะ
    เรามายืมโลกเขาใช้
    อย่าหลงว่าเป็นตนเป็นตัว
    ยืมเขาใช้อย่างทุกข์ยากลำบากก็ไม่รู้
    มันเที่ยงไหมล่ะ คิดนึกให้ดี
    บังคับบัญชาได้ไหมล่ะ

    จิตใจ
    ไม่เป็นตนเป็นตัว
    เป็นแต่คิด เป็นแต่นึก เป็นความรู้สึกอันหนึ่งมีอยู่

    คิดดีก็จิต คิดร้ายก็จิต
    ด้วยเหตุนี้
    จึงให้เอาสติรักษาจิต

    ถ้าหากเราคุมจิตไม่อยู่ รักษาจิตก็ไม่ได้
    เป็นทุกข์ เร่าร้อน

    อย่าให้จิตไปในทางทุกข์
    ให้จิตไปในทางสุข

    สุขพาให้เป็นกุศล คือ ความฉลาด
    ทุกข์พาให้เป็นอกุศล คือ ความโง่ความเมาหลง

    เพราะตัวเรามีจิตนี้เอง
    ศีล – สมาธิ – ปัญญา – ธรรมะ
    เราจึงสามารถทำได้

    ตัวใจ ตัวแก้นั้นเป็นของกกลาง
    คือ ไม่มีอะไรดี ไม่มีอะไรชั่ว
    ไม่มีอนาคต ไม่มีปัจจุบัน
    ไม่นึกคิดปรุงแต่งในดีชั่วหรืออะไรทั้งหมด

    เป็นแต่ธรรมชาติ ธรรมดาอย่างหนึ่ง
    ท่านว่ามีธรรมชาติเป็นของผ่องใสอยู่
    มีความรู้ตัวอยู่กับปัจจุบันธรรมเท่านั้น
    ดี แล ชั่วนี้
    เป็นเพราะอาการของใจฉายออกมาแล้วมียึดถือยินดี

    ยินดีพอใจตามอารมณ์ของจากอายตนะผัสสะเท่านั้น

    เราหัดภาวนารักษาใจก็เพื่อให้ใจผ่องใสเช่นเดิม
    ให้เป็นที่รู้ทันตามอาการ

    อะไรเป็นบาทต้นของสติปัฏฐาน ๔
    องค์พระพุทธเจ้าทรงบอกกัมมัฏฐาน ๕ ให้แล้ว
    พิจารณา รูป กายนี้ก่อน
    เพราะ…
    เวทนามันก็เกิดที่กาย ปรากฏที่กาย แม้จากใจก็ตาม
    จิตจะเศร้าหมองหรือผ่องแผ้ว ก็เพราะ มารู้เวทนา
    มารู้ทันกาย

    คำว่า “รู้ทัน” แปลว่า รู้อะไรกุศล
    รู้อะไรอกุศล
    ก็มารู้ทันในธรรมะนี้เอง

    ให้พิจารณากายตัวเค้าต้นให้ชัดแจ้งเสียก่อน

    คำว่า “พิจารณา” คือ ให้อบรมสติ
    เอาสติมาตั้งลงที่กาย
    ตั้งลงที่เวทนา
    ตั้งลงที่จิต
    ตั้งลงที่ธรรม
    ตั้งลงอย่างรู้ พิจารณาอย่างแจ่มแจ้งเข้าใจ

    การรู้ตัวเองนี้แหละ
    เป็นของสำคัญที่สุด

    รู้จักใจของตน รู้ว่าตนดี
    รู้ว่าตนชั่ว
    คนจะดีได้จะประเสริฐได้ต้องรู้จักเรื่องของตน

    ภาวนาก็ให้รู้ตัว
    กิริยาใดๆ ก็ให้รู้ตัวอยู่เสมอ
    อันใดบาป
    อันใดบุญ

    อันใดควรเจริญ
    อันใดควรละ ควรเว้น ควรเลิก

    สติวินโย ทาตพฺโพ
    ผู้มีสติสมบูรณ์แล้วย่อมนำชั่วออกไปได้หมด
    คำว่า “รู้เท่าทัน”
    แปลว่า มีผู้รู้ – ๑ –
    มีเรื่องมีเหตุให้รู้ทัน – ๑ –

    คือ รู้แล้วก็รู้อย่างพอดี
    ไม่รู้อย่างขาด ไม่รู้อย่างเกิน
    รู้เข้าหาทรงอยู่ในตัวใจ
    ดับกิริยาอาการจิตทั้งหมดได้

    รู้ตรงนี้ สติอยู่ตรงไหนก็ใจอยู่ตรงนั้น
    เรียกว่า อยู่ด้วยกับ ณ ที่เดี่ยวกัน

    รู้อย่างนี้เป็นผู้รู้ได้หมายเท่าทัน
    ชั่วจะเข้ามาก็รู้ ดีจะเจริญขึ้นก็รู้ กิริยาใดๆ มีผู้รู้กำกับอยู่

    แต่นี่ก็ยังเป็น ความรู้ขั้นต้น
    เป็นแต่ต้อง สงบรู้อยู่ภายใน

    ผู้รู้ชัดแจ้งอยู่เสมอแล้ว
    ก็รู้เท่าทันได้
    ความรู้เท่าทันนี้มั่นคง ทำกิเลสให้สงบอยู่
    ทำกิเลสมิให้กำกับ
    หมายถึงระงับกิเลสตัวหยาบ
    ยังเหลือตัวละเอียดภายใน

    อบรมความรู้ได้หมายทันให้มั่นคงยิ่งๆ ขึ้น
    จนที่สุด “รู้แจ้งแทงตลอด”

    รู้ทันเพราะใจสงบ อย่างหนึ่ง
    รู้แจ้งแทงตลอดเพราะ ปัญญาภายใน อย่างหนึ่ง
    คำว่า “รู้แจ้งแทงตลอด”
    แปลว่า เป็นความรู้ชัดรู้แจ้งของผู้รู้

    รู้ทั้งเบื้องต้น ท่ามกลาง ที่สุด
    รู้ถ่องแท้ในสภาวธรรมใดๆ ทั้งหมด
    รู้อย่างระงับกิเลสภายในอันละเอียดมีอยู่

    ฉะนั้นทั้งสมถะและวิปัสสนา อย่าไปทิ้งผู้รู้

    หนังสือคุรุแก้วปณิธาน (หลวงปู่จาม มหาปุญโญ) วัดป่าวิเวกวัฒนาราม คำชะอี จ.มุกดาหาร

    -ตอนที่-5.jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  16. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    “…จิตเป็นสมาธิแล้ว นั่นจึงจะมองเห็นธรรม คือ ความเกิด ความแก่ ความเจ็บไข้ และความตายได้ชัดเจน…”

    หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    -นั่นจ.jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  17. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    -มหาปุญฺโญ-กา.jpg

    หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ (การสร้างบำเพ็ญ วิริยะ บารมี ขององค์พระพุทธเจ้า พระมหาชนก) วัดป่าวิเวกวัฒนาราม ( ธ ) บ้านห้วยทราย ตำบลคำชะอี อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร
    https://www.youtube.com/attribution_link?a=jiQbcWwhHbw&u=/watch?v=bKidtAyWvys&feature=shareหลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ (การสร้างบำเพ็ญ วิริยะ บารมี ขององค์พระพุทธเจ้า พระมหาชนก) วัดป่าวิเวกวัฒนาราม ( ธ ) บ้าน…

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  18. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    ท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท)

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    .jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  19. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    “…พุทโธ ผู้รู้ผู้ตื่น พระโสดาบัน
    ธัมโม ผู้ทรงธรรมไว้ พระสกทาคามี
    สังโฆ ผู้ปฏิบัติเพื่อพ้น พระอนาคามี
    อุเบกขา พระอรหันต์ ผู้มีใจเป็นกลางต่อโลก และต่อธรรม…”

    คัดจากอรรถธรรมคำแก้ว หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    -ผู้รู้ผู้ตื่น-พระ.jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  20. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    คุรุแก้วปณิธาน ( ตอนที่ 6 )

    สังขารทั้งสิ้นล้วนแต่เป็นทุกข์
    กายสังขาร ก็เป็นทุกข์ของกาย
    วจีสังขาร ก็เป็นทุกข์ของวาจา
    มโนสังขาร ก็เป็นทุกข์ของใจ

    ปุญญาภิสังขาร ก็เป็นทุกข์อย่างผลของบุญ
    ปาปกังวาภิสังขาร ก็เป็นทุกข์อย่างผลของบาป
    อเณญชาภิสังขาร ก็เป็นทุกข์อย่างกลางๆ

    สงฺขารา ปรมา ทุกฺขา
    เรามีกายก็ทุกข์
    เรามีใจก็ทุกข์

    ทุกข์เพราะไม่รู้ไม่เห็นสังขาร

    ตา รับรูปแสงสี
    หู รับเสียง
    จมูก รับกลิ่น
    ปากลิ้น รับรส
    กาย รับผัสสะ
    ใจ รับธรรมารมณ์
    ที่นี้เมื่อรับแล้วชอบพอยินดี อย่างหนึ่ง
    และยินร้ายไม่ชอบพอ อย่างหนึ่ง

    ชอบไม่ชอบก็ล้วนแต่เป็นของเก่า อารมณ์เก่า
    หลงในของเก่า อารมณ์เก่า เมาอยู่กับของเก่า
    เบื่อแล้วก็ชอบ ชอบแล้วก็เบื่อ
    เป็นทุกข์โทมนัสโศกเศร้าเสียใจ
    หรือโสมนัสเพลิดเพลินใจอยู่เช่นนั้น

    ผู้ฝึกหัดการปฏิบัติ
    ก็ให้มารู้และเข้าใจในเรื่องนี้
    จึงจะพอรู้เรื่องของโลกได้

    จะถามไปทำไม
    เรื่องของคนอื่น
    ครูบาอาจารย์รูปนั้นองค์นั้น ที่นั้น
    ท่านจะอยู่หรือจะไป ก็เป็นเรื่องของท่าน
    ถามตนเอง ถามหาตนเองมิดีกว่าหรือ

    ท่านรู้อย่างไร
    ท่านดีอย่างไร
    มีความรู้ความสามารถในขั้นใดชั้นใด
    ก็ถวายให้เป็นเรื่องของท่านไป

    เรื่องเรานี้อย่างไร ฉลาดดีเลวหรือโง่งมอย่างไร

    ให้รู้เอง เห็นเอง ฟังเอง สังเกตเองจะดีกว่าที่อาตมาจะว่าให้ฟัง
    ท่านผู้มีธรรมะ เป็นธรรมะ ก็ไม่มีโลกแฝงอยู่

    แต่นี่เราต่างก็ยังเป็นโลกกันอยู่
    สู้ปฏิบัติไปดีกว่าจะได้เห็นเองรู้เอง

    มาถามว่า “อาตมาเป็นลูกศิษย์ใครนั้นไม่ชอบนัก”
    เพราะจะหาว่าอวดอ้างว่าตนนั้นรูปนั้นเป็นครูบาอาจารย์
    แต่ให้เชื่อเถอะว่า เพราะ ครูบาอาจารย์ของอาตมามีอยู่
    อาตมาจึงพอได้เป็นอาตมาในวันนี้ได้

    แม้การบวชก็บวชเพราะ พ่อแม่ให้บวช
    บวชเสียเถ๊อะลูกเอ๊ย เรามันคนทุกข์คนโง่ จะเอาปัญญาที่ไหนไปเป็นโลกเป็นสงสาร

    ครูบาอาจารย์ ก็เคารพกราบไหว้ท่าน
    ถือปฏิบัติของท่านตลอดมา
    ปฏิบัติตามธรรมของท่านมา
    เพื่อสืบต่อพระธรรมพระวินัยขององค์พระพุทธเจ้าเอาไว้

    พ่อก็บวชเป็นพระหลวงพ่อ หลวงตา ๖ ปี จึงตาย
    แม่ก็บวชเป็นแม่ขาวนางชี ๓๖ ปีจึงตาย
    อาตมาบวชตามแม่ – บวชตามครูบาอาจารย์

    บวชแล้วก็ตั้งใจมาโดยตลอด

    การทรมานฝึกหัดดัดกายใจตนเองนี้
    ต้องสมัครใจทำ – ต้องทำด้วยความพอใจของตน
    เพื่อให้เป็นอุบายแก้ไขความเดือดร้อนฟุ้งซ่านของใจ

    จิตสงบแล้ว เราก็พอจักเป็นสุขได้
    แม้สติปัญญาก็พอคิดอ่านแก้ไขตนเองตลอดต่อไป

    จะฉันน้อย หรือจะผ่อนอาหาร หรือจะอดอาหาร
    แต่อย่าลืมว่ากายนี้มันอยู่ด้วยอาหาร
    อาตมาเองก็ทรมานแต่พอควร คือ ผ่อนอาหารแล้ว
    มาอดนอน คือไม่นอนเลย
    ทีนี้ พอไม่นอน กายมีอาหารน้อย – กายก็เบา
    – ใจก็เบา
    ใดๆ กดถ่วงจิตก็น้อยลง
    อะไรที่เป็นข้าศึกตัวต้นของจิตก็มีกำลังน้อย
    จิตใจก็เด่นชัดขึ้นมา

    ให้มันอดๆ อยากๆ บ้างแหล่ะดีที่สุดแล้ว

    มาชมบารมี หรือ
    มาแล้ว สมกับคำเล่าลือไหมล่ะ
    เขาว่า หลวงตาจามวัดป่าบ้านห้วยทราย
    มาเห็นแล้วเป็นอย่างไร

    มีอะไรน่าดูไหม
    ดูสิ กายนี้ก็แก่เก่าคร่ำคร่า ผิวกระด่างกระดำเต็มไปหมด
    ฟันก็หายไปเหลือไม่เท่าไหร่ เช้าเย็นก็ต้องชำระมัน
    ดูเล็บสิ ตัดเองก็ไม่ได้ ต้องอาศัยพระเณรมาช่วยตัดให้
    ขนตามกายตามตัวก็หลุดหายไป
    ผมก็ขาวก็หงอกไปแล้ว
    ไม่เห็นมีอะไรดี

    หากจะมีดีก็ดีไปหาวันตายเท่านั้น
    เมื่อไหร่มันจะตาย
    เอ้า…ดูให้หน่อย วันไหนจะตาย

    มาดูแต่ผู้เฒ่าใกล้ตาย
    อีกไม่นานก็มาดูคนตาย
    ตายแล้วมาดูกระดูก มาดูหุ่นปั้น
    ไม่ใช่พูดอวดตัวน่ะ
    นับแต่บวชมาไม่เคยทำบาปด้วยเจตนาเลยแม้แต่น้อยนิด
    ก่อนบวชก็เฝ้าพยายามรักษาไว้ตลอดมา

    แม้พระเณรในวัดก็พยายามรักษาให้รู้จัก ศีล ภาวนา
    ต่อไปจะได้เป็นประโยชน์แก่เขา

    แม้ลูกหลานญาติพี่น้องมาจากไกลแสนไกลนี้เช่นกัน
    พยายามนะพยายามทำดีของตน
    บุญมีจริง
    บาปให้ผลจริง
    นรกมีจริง
    สวรรค์มีจริง
    พรหมโลกไปได้
    ธรรมะมีอยู่
    นิพพานมีอยู่

    อาตมาเชื่อองค์พุทธะโดยแท้จริงแล้ว
    จึงทำตามคำสอนของท่าน สืบมา จนเดี๋ยวนี้
    ได้ความบ้าง ไม่ได้ความบ้าง
    แต่..ก็ตั้งใจมิได้ท้อถอย

    บางวันก็สงบราบรื่น ปรุโปร่งดี
    บางวันก็แย่หน่อย ต้องแก้ไข
    บางวันก็ได้สุขใจ
    บางวันก็ทุกข์บ้างพอกันลืม

    พุทโธ ยึดเอาพระพุทธเจ้า
    ธัมโม ปฏิบัติพระธรรม
    สังโฆ ให้ถึงพระสงฆ์
    นานา วัตถุ ต่างชื่อเรียก แต่รวมคุณลง ณ ที่เดียว

    อาตมาไม่ลดละปล่อยวางหรอกในพระไตรสรณคมณ์นี้

    ทำความยินดีให้เป็นในสมบัติมากน้อยของตน
    มีมากเท่าใดท่านไม่ห้าม
    มีน้อยเท่าใดท่านไม่ห้าม
    แต่ท่านห้ามว่า มากน้อยก็ให้มีไปตามเรื่องตามเหตุ
    ตัวเราอย่าให้เป็นบาป เป็นทุกข์

    สันโดษอย่างเดียวยังไม่มั่นคงพอ
    ให้มีความมักน้อยกำกับเข้าด้วย
    หากมีธรรม ๒ ประการนี้แล้วก็จะรู้จักประมาณตน
    ประมาณธรรม ประมาณทางไปของตนได้

    ต้องการความสงบสุข
    ให้เห็นคุณค่าของข้อปฏิบัตินี้

    ธรรมทุกหมวดเป็นเครื่องแก้ไขตนของตน
    ธรรมจึงทรงคุณค่ามากกว่าใดๆ

    ทรัพย์ของพระอริยเจ้านั้นได้มาจากความพอใจยินดีในสิ่งที่มีอยู่นี้ก่อน
    ให้เข้าใจไว้อย่างนี้นะ
    ทำอะไรให้พอดี
    ความรู้จักประมาณนั้นมันดีเสมอ

    การอยู่การกิน การไปการมา
    กิริยาใดๆ ให้รู้จักประมาณ

    ประมาณแล้วมันไม่ประมาท
    มตฺตญฺญุตา สทา สาธุ
    ความพอดีนี้เอง เป็นประโยชน์สุข

    คนมีธรรมะ กับคนไม่สนใจธรรมะ
    นั้นต่างกันตรงนี้ ประพฤติต่างกันอย่างนี้

    ปฏิบัติธรรมอยากได้ธรรมก็ปฏิบัติให้พอดี
    อยากให้พอดี ตั้งใจให้พอดี
    ศีลพาให้กายพอดี
    สมาธิพาให้ใจพอดี
    ปัญญาพาให้ธรรมะพอดี

    นี่ ไปมาหาสู่ มาหาก็หลายครั้งหลายหน
    ได้ในสิ่งที่ตนประสงค์หรือยัง
    ได้หรือยัง

    ยังไม่ได้ก็เพราะฟังแล้วไม่ทำ
    ฟังแล้วไม่กลับเอาไปทำ
    จะให้อาตมาว่าไปข้างเดียวมันก็มีประโยชน์น้อย
    ท่านทั้งหลายต้องเอากลับไปด้วย

    ให้ทรงไว้ในใจ
    ให้เป็นผู้ตั้งใจอยู่เสมอ

    อาตมาใกล้จะตายแล้วหน๋า
    พูดอย่างนี้มิใช่ห่วงกลัวตาย
    แต่…พวกเราเท่านั้นเอง

    ปฏิบัติเป็นหรือยัง
    ได้รับผลหรือยัง
    อย่าให้เปล่าไปเปล่ามา
    มันเสียประโยชน์ เสียเวลา
    อย่าถามว่า “หลวงปู่สบายดีไหม”
    ให้ถามว่า “พอทนได้อยู่หรือ”
    ก็มันมีอะไรพาให้สบายหรือไม่ในโลกนี้

    กินก็ทุกข์
    กินเกินไปก็ทุกข์
    ถ่ายเกินไปก็ทุกข์
    นั่งเกินไป นอนเกินไป ยืนเกินไป เดินเกินไป
    ก็เป็นทุกข์ทั้งนั้น

    นุ่งห่ม หยูกยา ข้าวน้ำคาวหวานที่อยู่หลับนอนทุกข์ทั้งหมด
    ใครทนได้ดีก็พอได้สุขบ้าง
    ใครทนไม่ได้ก็ได้ทุกข์

    ซ้ำร้ายบางคนมาถามว่าอายุเท่าไหร่ ?
    บอกว่า ๙๐ ปี กับอีก ๖ ปี
    โห…ชื่นชอบยกมือสาธุ
    นี่…มานี่ก็จะมาปันพรให้อายุยืนกว่านี้อีกหรือ
    ไม่เอานะ…พอแล้วลำบากนักขันธ์นี้กายนี้

    ผู้ภาวนา “พุท-โธ” เป็นแล้ว
    จึงไปกำหนดภาวนา อานาปานสติกำหนดหายใจเข้าออก
    ก็จักจับจิตของตนได้ง่าย
    ทีแรกฝึกหัดใหม่ เอาสติคุมจิต
    เอา “พุท-โธ” จับใจ ให้รู้ตัวอยู่
    จนกว่าจะชำนาญ แล้วกำหนดพร้อม
    กับลมหายใจเข้า – พร้อมหายใจออก
    นานไปก็ให้รู้แต่ลม จนกว่าจะชัดเจน ชำนาญ แล้วตัว
    ผู้รู้เด่นชัดขึ้นมาก็ค่อยๆ วางลมหายใจนี้
    จนลมละเอียดสุด
    เหลือแต่ผู้รู้ รู้อยู่ ชัดเจนอยู่
    เป็นอารมณ์ ของผู้รู้อยู่

    ให้รู้อย่างนั้น อย่าทิ้งผู้รู้ – รู้สงบ
    – สงบก็รู้
    ปัญญาไม่พอก็ถอนออกมา
    กำลังใจไม่พอก็ถอนออกมา

    ตั้งต้นใหม่ ไม่อยากไม่หลง
    ทำดีประกอบใจเข้าไว้

    เอาล่ะ…จากนี้ไป
    ให้ตั้งใจภาวนา
    กำหนดรู้ใจของตน
    ให้รู้สึกอยู่ วางผู้รู้
    จดจ่อไว้ บริกรรมต่อเนื่อง

    อย่าอยาก
    อย่าโกรธตังเอง
    อย่าน้อยใจในตัวเอง
    อย่าแสดงความรำคาญใจ
    อย่าคิดไปอย่างอื่น ให้ฟุ้งซ่าน
    อย่าด่วนเบื่อหน่าย

    ตั้งใจ…ทำไปของตนทุกคน
    ให้รู้สึกตัวอยู่ – อันนี้กาย
    – อันนี้ใจ

    อยู่ด้วยกันที่ลำปางอำเภอแม่ทะ
    ท่านพ่อลีเอาพระธาตุมาให้ดูก็กราบไหว้บูชา
    แต่ยังไม่สนใจนักในเรื่องนี้
    ทีนี้กลับลงมาอยู่วัดนี้ สร้างศาลาแล้วเสร็จปี ๒๕๑๘ ภาวนาไปรู้ได้ว่าตนของตนเคยได้เกี่ยวข้องกับพระธาตุมาหลายภพหลายชาติ ก็มาคิดว่า ชีวิตนี้เกิดเป็นคนทุกข์ คงมิได้กราบไหว้บูชาหรือได้บำรุงพระธาตุ แต่อย่างใด

    ก็เศร้าใจอยู่หลายวัน
    พอวันที่ ๗ เทวดามาบอกว่า “จะเอาพระธาตุมาให้ท่าน พระอาจารย์ได้กราบไหว้ อภิบาลบำรุง”
    ได้เตรียมภาชนะไว้รอท่า
    จากนั้นก็เสด็จเรื่อยมา จนมากเท่าที่เห็นอยู่
    คนไม่เชื่อก็หาว่าเอาทรายมากราบไหว้
    คนเชื่อก็กราบไหว้บูชา
    เรื่องของใครของมัน

    บางคนมาขอพระธาตุอาตมาบอกว่าให้ขอเอากับเทวดา
    เทวดาให้มาคงได้ เพราะมิใช่อาตมาไปหามาเอง จึงมิใช่ของอาตมา
    แต่เป็นของกลางพระศาสนา เป็นวัตถุเครื่องหมายแห่งอัฐิสรีรังคารของพระพุทธเจ้าและเหล่าพระอรหันต์

    มาถึงวัดนี้แล้วให้ขึ้นไปไหว้พระธาตุบนพระเจดีย์
    ตั้งใจ…กราบไหว้
    กล่าวคำบูชา
    แล้วจากนั้น ให้กำหนดใจ ภาวนาอย่างน้อย
    ให้ได้ ๑๐ นาที

    มาถึงแล้วอย่ารีบด่วนแต่จะไป ปะหลกๆ ไหว้ ยังไม่ได้ดูยังไม่ได้เห็น ยังไม่ได้พิจารณา ยังไม่ได้ทำความซาบซึ้งก็รีบไปแล้วจะได้อะไร

    พระธาตุของพระพุทธเจ้า ของพระอรหันต์หรือหมู่พระอริยเจ้า
    เสด็จมาให้ได้กราบไหว้สักการะบูชา ทำการระลึกผู้มีคุณอันดีอันสูงแก่โลก

    ไม่ใช่หลวงตาไปเสาะหามา
    เทพเทวดา เอามาไว้ให้ได้กราบไหว้
    มนุษย์เอามาก็มีบ้าง

    ให้ตั้งใจกราบไหว้บูชา
    ได้บุญได้ผลจริงๆ นะ
    ให้เร่งรัดในตนของตน
    จัดการแก้ไขตนของตน
    ตนที่แก้ไขได้แล้วย่อมมีคุณ

    ครั้นมีคุณเท่านั้นแหละ
    ศรัทธามันก็เพิ่มขึ้นในตนของตน

    เดี๋ยวนี้ศรัทธาของเรายังไม่มั่นคงพอ
    จึงให้เร่งภายใน คือ วิริยะความเพียร
    ศรัทธาความเชื่อ
    สติ รู้ตัวทั่วพร้อม
    ปัญญาก็จักผ่องใสได้

    ตั้งใจของตน
    ไม่ต้องอ้างกาลสถานที่ใดๆ ดอก
    อยู่ไหนๆ ก็ให้ทำได้ ขอให้ระลึกรู้สึกตัวอยู่เสมอ
    ความสงบมันอยู่ในนี้
    พิจารณาให้ดี ปัญญาก็อยู่ในนี้

    หนทางที่จะนำไปสู่ความสงบสุข
    พระพุทธเจ้าได้ประกาศไว้แล้ว
    เราต้องสนใจ ใส่ใจ พอใจตั้งใจทำ
    ผลนั้นเราต้องได้รับแน่นอน

    ทุกสิ่งทุกอย่าง สัพพะใดๆ ทำไว้แล้วไม่สูญหาย
    ผลก็เป็นผลตอบแทนแก่ผู้ทำทั้งหมด

    กุสลากรรม อกุสลากรรม อพฺยกตกรรม
    ความดีก็ดี
    ความฉลาดก็ดี
    ไม่สุขไม่ทุกข์ก็ดี
    เป็นผลตอบแทนทั้งหมด

    ให้ผลตอบแทนแก่ผู้ปฏิบัติเสมอกัน
    แต่…
    จะให้ผลสุข หรือ
    จะให้ผลทุกข์ เท่านั้น

    พระพุทธเจ้าทรงชี้แจงแนะนำ
    ครูบาอาจารย์ได้พร่ำสอนมา
    ท่านก็ชี้ลงที่ปัจจัยต้น คือ กรรมฐาน ๕

    ให้จิตรู้ที่สกลกายนี้เอง ให้รู้ในร่างกายนี้เอง
    คำว่า “รู้” ก็ให้รู้ว่าเป็นของกลาง
    ให้รู้ว่าก้อนกายจิตใจนี้มิใช่ของใคร

    เพราะรู้อย่างนี้เองหล่ะ
    จึงออกจากโลกได้

    ทางออกจากโลก
    ทุกคนต้องทำเอง เดินออกไปเอง
    ทำเองทั้งนั้น
    ตนของตนทำให้ตน

    ท่านผู้พร่ำสอนอยู่นี้เป็นแต่ชี้ช่องหนทางให้

    พระ แปลว่า ผู้ปฏิบัติตนให้ประเสริฐ
    พร แปลว่า ทางมาของธรรมอันประเสริฐ

    ทีนี้ตัวดีหรือตัวทราม ตัวก็ควรรู้ตัว
    เราเป็นพระ ก็เป็นผู้ประพฤติตน
    เป็นผู้ให้พร
    คือให้แบบอย่างแก่ชาวโลก
    สันโดษในวัตถุ
    มักน้อยในอารมณ์
    ใจทรงคุณค่านี้ก็ให้เอาธรรมวินัยสรวมลงไป
    ให้พิจารณาอันใดควร
    อันใดไม่ควร
    ให้ระมัดระวังรักษาตัว
    ตัวเองเป็นผู้รับผิดชอบตัวอยู่เสมอ

    อันนี้แหละ เป็นพรของพระ

    หนังสือคุรุแก้วปณิธาน หลวงปู่จาม มหาปุญโญ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม คำชะอี จ.มุกดาหาร

    -ตอนที่-6.jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...