ธรรมะ พระเครื่อง เรื่องเล่า เคล้าความรู้สึก...ว่าด้วยธรรมปฏิบัติ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย zต้องตาz, 9 มกราคม 2018.

  1. zต้องตาz

    zต้องตาz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +411
    1medium.jpg

    011medium.jpg

    12medium.jpg

    รูปหล่อรุ่นแรก หลวงปู่ครูบาอินทจักรรักษา(อินถา อินฺทจกฺโก) วัดน้ำบ่อหลวง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่

    เพชรน้ำเอกแห่งวงศ์พระกรรมฐานสายล้านนา ขนานแท้ องค์ท่านนับเป็นผู้ริเริ่มฟื้นฟูการปฏิบัติธุดงค์กรรมฐาน ตลอดจนการมีข้อวัตรปฏิบัติที่เคร่งครัด ของล้านนา


    ครูบาอินทจักรรักษา ได้เห็นสัจธรรมความเป็นจริงของชีวิตโดยพิจารณาว่า

    “... เออ เราเป็นคนหลงรักตัวตนมาตั้งหลายสิบปี หลงอยู่สารพัดแท้ จริงมันก็เป็นสิ่งน่ากลัวทั้งสิ้น ...”

    หลวงปู่ครูบาอินทจักรรักษา(อินถา อินฺทจกฺโก)

    ธรรมโอวาท

    “..... เออ เราเป็นคนหลงรักตัวตนมาตั้งหลายสิบปี หลงอยู่สารพัดแท้ จริงมันก็เป็นสิ่งน่ากลัวทั้งสิ้น .....”


    หลวงปู่ครูบาอินทจักรรักษา(อินถา อินฺทจกฺโก)

    ธรรมพินิจ

    "..... ผู้ที่รู้เห็นทุกข์ภัยใน สังขาร จึงใด้เชื่อว่าเป็นผู้เดินตาม
    ทางแห่ง มรรคผล ....."
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กุมภาพันธ์ 2018
  2. zต้องตาz

    zต้องตาz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +411
    11medium.jpg

    11medium.jpg

    เหรียญรุ่นสอง หลวงปู่ผ่าน ปญฺญาปทีโป วัดป่าปทีปปุญญาราม บ้านเซือม อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร

    เพชรน้ำเอกแห่งวงศ์พระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต องค์ท่านทันได้รับการอบรมจากพระอาจารย์มั่น และเป็นศิษย์ของหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ,หลวงปู่ฝัน อาจาโร,หลวงปู่อุ่น อุตฺตโม


    วันคืนแห่งมรรคผลของหลวงปู่ผ่าน ว่าด้วย ได้ดวงตาเห็นธรรม

    "... วันหนึ่ง ในปี พ.ศ.๒๕๒๘ ท่านไป กราบขอฟังธรรมเทศนากับหลวงปู่หลุย จันทสาโร ที่ภูทอก หลังจากถามไถ่กันพอได้ความแล้ว
    หลวงปู่ผ่านได้กราบเรียนหลวงปู่หลุยว่า “ครับกระผมยังอยู่ กระผมก็เคยพบท่านอาจารย์ แต่คนมากจึงไม่ได้เข้าไปหา กระผมอยากฟังเทศน์ ขอให้ท่านเทศน์ให้ฟัง”


    หลวงปู่หลุยท่านจึงเทศน์ให้ฟัง เรื่อง “ภาวิโต พหุลีกโต” เหมือนที่พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เคยเทศน์

    พอลงจากภูทอก หลวงปู่มานั่งภาวนาอยู่ข้างล่าง พอจิตรวมลง ปรากฏเห็นต้นไม้ที่ภูทอกนั้นตายหมด ท่านว่า ทำไมเป็นอย่างนี้หนอ? ท่านนั่งอยู่นานจนใกล้ค่ำจึงกลับวัด มาถึงวัด มองต้นไม้ในวัดก็เหมือนต้นไม้นั้นตายหมด จึงไปภาวนาดูว่าทำไมจึงเป็นเช่นนี้ เมื่อจิตเป็นสมาธิ จึงรู้ขึ้นมาว่า


    “โลกนี้แผ่นดินนี้มีมาอยู่ก่อนแล้ว แต่ใครมาเกิด อยู่ที่ไหนก็มายึดถือเอาว่าเป็นของเรา ไร่เรา นาเรา ยื้อแย่งกันอยู่อย่างนั้นสัตว์ทั้งหลายในโลกจึงออกจากวัฏสงสารไม่ได้ เราไม่เอาหรอก เราไม่อยู่แล้ว” จิตถามว่า “แล้วจะไปอยู่ไหน”

    ตอบว่า “ไปอยู่พระนิพพาน อยู่ที่นี่บาปนะ เราบวชอยู่นี่กินข้าวของชาวบ้านมันบาปนะ พระพุทธเจ้าท่านว่า บุคคลใดบวชแล้วไม่ได้บรรลคุณธรรม กินข้าวของชาวบ้านนั้นกินเหล็กแดงดีกว่า”


    จากนั้นก็ภาวนาเพ่งดูแต่กระดูกนั้น เกิดเสียงขึ้นมาทางหูว่า“ให้ถึงสุตธรรม” ท่านจึงพิจารณาดู ได้ความว่า สุตธรรมคือ ผู้สดับธรรมครั้งแรก รู้ขึ้นมาในจิตเรื่อง ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค

    ทุกข์ คือ ชาติ-ความเกิดเป็นทุกข์ ชรา-ความแก่เป็นทุกข์ มรณะ-ความตายเป็นทุกข์

    สมุทัย คือ ตัวสมมติ มนุษย์ทั้งหลายคิดว่า ร่างกายนี้เป็นของเรา แข้งเรา ขาเรา ยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นของตนเอง ยึดมั่นถือมั่นใน รูป รส เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และธรรมารมณ์ ว่าเป็นตัวเราของเรา

    นิโรธ คือ ความรู้แจ้ง เมื่อเกิดขึ้นแล้วจึงชื่อว่าถึงสุตธรรมเหมือนพระอัญญาโกณฑัญญะ ฟังเทศนาครั้งแรกของพระพุทธเจ้า พิจารณาเห็นความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปจึงได้ดวงตาเห็นธรรมเป็น พระโสดาบัน ..."


    หลวงปู่ผ่าน ปญฺญาปทีโป


    ธรรมโอวาท

    "..... ทำอย่างไรจิตใจถึงจะไม่หลงระเริงในรูป รส กลิ่น เสียงและสัมผัส ก็ต้องมาพิจารณาให้เห็นว่าร่างกายมันเป็นอย่างไร ลอง

    พิจารณาให้ดี ทำให้มาก ทำให้คล่อง เมื่อถึงขั้นที่เรียกว่า ปล่อยวางในร่างกายได้ นั่นแหละจึงจะเรียกว่า ผู้เห็นธรรม ....."


    หลวงปู่ผ่าน ปญฺญาปทีโป

    ธรรมพินิจ

    "..... ให้พิจารณา ร่างกายนี้ ให้ จิต คลายความยึดมั่นถือมั่นในกายนี้ นี้หละทาง มรรคผล ....."
     
  3. zต้องตาz

    zต้องตาz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +411
    01medium.jpg

    011medium.jpg

    เหรียญรุ่นแรก ขวัญถุง หลวงปู่เครื่อง สุภทฺโท วัดสระกำแพงใหญ่ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ

    พระเกจิอาจารย์บ้านคู่เมืองอุทุมพรพิสัย องค์ท่านทันการอบรมจากพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโตและเป็นศิษย์ของหลวงปู่คำมี พุทธสาโร,หลวงปู่มี ญาณมุนี


    หลวงปู่เครื่อง สุภทฺโท เล่าถึงการไปพบพระอาจารย์มั่น ไว้ดังนี้

    "... อาตมาจะเดินทางไปอยู่กับพระอาจารย์มั่น พอดีตอนนั้นท่านเดินทางจากสกล มาอยู่วัดป่าสำราญ อุบล ไปพบท่านในคืนหนึ่ง ไปศึกษาธรรมะกับท่านนิดหน่อย ท่านก็บอกว่า... เออ! ผมก็เบื่อหน่ายในทางปริยัติแล้ว มันทำมาอยู่หลายปีแล้ว ก็อยากไปวิเวก เออ! ก็ดีเหมือนกันหละ ไปอยู่ด้วยกัน ท่านบอก ท่านก็เลย...ในคืนนั้นได้คุยกันหน่อยๆ ท่านก็ให้ข้อคิดว่า เรื่องการปฏิบัตินี้ เป็นเหตุให้เราพ้นทุกข์ มันสบายกาย สบายใจ หาความสงบ ท่านบอกว่า เรื่องการฝึกจิตนี้ มันก็ต้องยากหน่อย ไม่ง่าย ..."

    หลวงปู่เครื่อง สุภทฺโท

    ธรรมโอวาท

    "..... ดูอะไร ให้ดู แต่สิ่งที่ดีๆ ฟังอะไร ให้ฟังแต่สิ่งที่ดีๆ

    ดมอะไร ให้ดมแต่สิ่งที่่ดีๆ ดื่มอะไร ให้ดื่ม แต่สิ่งที่ดีๆ

    สัมผัสอะไร ให้สัมผัสแต่สิ่งที่ดีๆ คิดอะไร ให้คิด แต่สิ่งที่ดีๆ ....."


    หลวงปู่เครื่อง สุภทฺโท

    ธรรมพินิจ

    "..... ถ้ายังเจอเรื่องเลวร้ายอยู่ แสดงว่าเรายังทำดีไม่พอ ....."
     
  4. zต้องตาz

    zต้องตาz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +411
    01medium.jpg

    011medium.jpg

    เหรียญรุ่นสามสิบ(หลังพระอาจารย์สวน) หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย วัดเขาสุกิจ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี

    เพชรน้ำเอกแห่งวงศ์กรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต องค์ท่านเป็นเณรอุปัฏฐากพระอาจารย์มั่น ในยุคหนองผือ


    หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย เล่าเรื่องเจโตปริยญาณ ของพระอาจารย์มั่น ไว้ดังนี้

    "... คืนวันหนึ่งในขณะที่ท่านได้มีโอกาสเข้าไปอุปัฏฐากหลวงปู่มั่นที่กุฏิ ท่านทำการบีบนวดเส้นถวายหลวงปู่เป็นเวลานานพอสมควรแล้ว ก็เกิดความคิดในใจขึ้นมาว่า "..เราได้ประกอบความเพียรติดต่อกันมาเป็นระยะเวลา ๒ วัน ๒ คืนแล้วยังไม่ได้พักเลย วันพรุ่งนี้ก็จะต้องออกเดินทางไปธุระที่สกลนคร เพื่อบอกลาคุณแม่นุ่ม ชุวานนท์ ในฐานะที่เป็นโยมอุปัฏฐาก ได้จัดบริขารถวายในคราวอุปสมบท จากนั้นก็จะไปกราบลาหลวงปู่ฝั้น อาจาโร เพื่อจะเดินทางไปจำพรรษาที่อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย .." เมื่อคิดแล้วก็เกิดความอยากจะไปพักผ่อนเพื่อบรรเทาความเหน็ดเหนื่อยและเก็บกำลังไว้ใช้ในการเดินทาง ตามประสาพระบวชใหม่

    ในขณะที่หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย กำลังกังวลอยู่กับความคิด เพียงคิดจบลง หลวงปู่มั่นก็ได้ปรารภขึ้นมาโดยทันทีว่า

    "... จะไปพักก็ไปได้นะ สังขารร่างกายอย่าไปหักโหมมันมากนัก พรุ่งนี้เราก็จะออกเดินทางไกล เราก็ไม่ได้พักมาสองวันสองคืนแล้ว ..."

    คำพูดของหลวงปู่มั่น ได้ไปตรงกับความคิดของหลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย ที่คิดอยู่พอดี จึงทำให้นึกสะกิดใจขึ้นมาทันทีว่า "..หลวงปู่มั่นพูดขึ้นมาลอย ๆ หรือว่าท่านจะรู้วาระจิตของเราตามที่เราเคยได้ยินมากันแน่.." และแล้วก็วิจัยวิจารณ์รำพึงอยู่ในใจคนเดียวได้ขณะหนึ่งผ่านไป จิตก็ได้หวนนึกถึงเรื่องที่จะไปพักขึ้นมาอีก หลวงปู่มั่นก็ได้พูดขึ้นมาอีกเป็นครั้งที่สอง ซึ่งก็ตรงกับความคิดในขณะนั้นอีก จึงทำให้หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย แน่ใจว่า หลวงปู่มั่นล่วงรู้วาระจิตของเราจริงๆ ทำให้เกิดความอิ่มเอิบปลื้มปีติ มีความซาบซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย หายเหน็ดเหนื่อยหายอ่อนเพลีย ความง่วงเหงาหาวนอนหายไปจนหมดสิ้น เนื่องจากเกิดความมหัศจรรย์ในเจโตปริยญาณ ญาณที่ล่วงรู้ความคิดของบุคคลอื่นของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ท่านจึงได้ตั้งหน้าตั้งตาบีบนวดถวายหลวงปู่มั่นต่อไปอย่างนอบน้อมด้วยความเคารพอย่างสูงสุด พลางก็คิดว่า".. เราจะต้องเอาวิชชาอันประเสริฐนี้ให้ได้ และได้ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวถ้าไม่ได้ไม่ยอม หลวงปู่มั่นท่านก็มีร่างกายสังขารเป็นมนุษย์เหมือนกันกับเรานี่เอง เราก็เป็นมนุษย์เหมือนกันกับท่าน ท่านทำได้เราจะทำไม่ได้อย่างท่านก็ลองดู คิดว่าคงจะไม่เหลือวิสัย .."

    เพียงแค่ความคิดจบลง หลวงปู่มั่นท่านก็พูดสวนความคิดนั้นขึ้นมาในทันทีทันใด ว่า


    "... จะเอาวิชชานี้จริง ๆ หรือ! ..."

    เมื่อหลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย ได้ฟังคำพูดของหลวงปู่มั่นเพียงเท่านั้น ความปลื้มปีติ ความอิ่มเอิบและความมีพลังใจก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เพราะความมหัศจรรย์ในความสามารถของหลวงปู่มั่นที่ท่านได้บำเพ็ญจนบรรลุวิชชาขั้นนี้ จนดำริรู้ภายในใจของผู้อื่นได้ เรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์และอภิญญาสมาบัติหรือวิชชาในทางพระพุทธศาสนา เช่น เจโตปริยญาณ การกำหนดรู้วาระจิตของคนอื่นที่ท่านได้กล่าวไว้ในคัมภีร์ แต่ก่อนเราเข้าใจว่าเป็นเพียงนวนิยาย บัดนี้กลายเป็นความจริงเสียแล้ว เราได้มีโอกาสเห็นหลวงปู่มั่นซึ่งเป็นสาวกสุดท้ายภายหลัง ยังมีความมหัศจรรย์ถึงปานนี้ ถ้าได้เห็นพระพุทธเจ้าหรือได้เห็นพระอริยสงฆ์สาวกในครั้งพุทธกาลแล้ว จะมีความมหัศจรรย์สักเพียงไร ..."

    หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย


    โอวาทธรรม

    "..... การละความชั่วอย่างเดียวยังไม่พอ แต่ต้องรู้จักบำเพ็ญบุญกุศลด้วย
    บำเพ็ญบุญกุศลอย่างเดียวยังไม่พอ


    ต้องรู้จักชำระจิตใจของตนเองให้สะอาดหมดจด สามอย่างนี้ให้ยึดเป็นหลักดำเนินชีวิต ....."

    หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย

    ธรรมพินิจ

    "..... ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา คือหลักในการดำเนินชีวิต ....."
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2018
  5. zต้องตาz

    zต้องตาz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +411
    01medium.jpg

    11medium.jpg


    ล๊อกเก็ตหินอ่อนรุ่นแรก หลวงตาแตงอ่อน กลฺยาณธมฺโม วัดกัลยาณธัมโม (วัดป่าโชคไพศาล) อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร

    เพชรน้ำเอกแห่งวงศ์กรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต หนึ่งในพระอุปัฏฐากพระอาจารย์มั่น ยุคปัจฉิมวัยของท่าน


    ความเมตตาของพระอาจารย์มั่น ต่อ หลวงตาแตงอ่อน

    “..... วันหนึ่งหลวงตาไปซักผ้าอยู่องค์เดียว ซักผ้าแล้วก็ไปนั่งพักผ่อนบนศาลา ท่านพระอาจารย์มั่นเดินลงมาจากกุฏิ ไม่มีใครในระหว่างเที่ยงวัน ท่านเดินถือผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาศาลา เดินขึ้นไปยืนตรงหน้าหลวงตา แล้วเอาผ้าเช็ดหน้ามาวางบนศรีษะหลวงตา ท่านไม่พูดอะไรแล้วก็ดินลงศาลากลับไปกุฏิท่าน .....”

    หลวงตาแตงอ่อน กลฺยาณธมฺโม


    โอวาทธรรม

    “...... คำของพ่อแม่ครูอาจารย์นั้นหลวงตายกใส่เกล้าตลอด เดินจงกรมภาวนาก็ทำตามท่านสอน สำหรับความดีของท่านพระอาจารย์มั่นนั้น

    ท่านเป็นผู้มีเมตตาสูง เยือกเย็นมาก อยู่กับท่านมีแต่ความเย็นใจ ทำอะไรก็ระลึกถึงท่านตลอด เป็นอนุสสติอย่างหนึ่ง ไม่ได้ว่างเว้นเลย .....”


    หลวงตาแตงอ่อน กลฺยาณธมฺโม

    ธรรมพินิจ

    "..... พ่อแม่ครูจารย์เมตตาสอนสั่งเราแล้ว ต้องเอาไปปฏิบัติ ถึงเรียกว่า ศิษย์ ถ้าไม่แล้ว เรียกว่า นิสัยปลิง เกาะท่านกิน ....."
     
  6. zต้องตาz

    zต้องตาz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +411
    1medium.jpg

    011medium.jpg

    เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่แสง จนฺดโชโต(ญาณวโร) วัดป่าอรัญญวิเวก บ้านไก่คำ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ

    เพชรน้ำเอกแห่งวงศ์กรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต องค์ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่เทศก์ เทสรังสี,หลวงปู่ขาว อนาลโย,หลวงปู่บัว สิริปุณโณ


    ธรรมโอวาท

    "..... รู้และหลงเกิดจากหัวใจ ฉลาดหรือโง่เกิดจากหัวใจ ละเอียดหรือปราณีตเกิดจากหัวใจ ลุ่มหลงโง่เขลาเบาปัญญาเกิดจากหัวใจ

    จะล้างม่องใด กะล้างลงตรงหัวใจแก้ไขอยู่นี้บ่ต้องแก้ไขหลาย จับบ่ถูกมันกะดิ้น จับถูกมันบ่ดิ้นกำคอมันโลด ....."


    หลวงปู่แสง จนฺดโชโต(ญาณวโร)

    ธรรมพินิจ

    "..... อยากพ้นทุกข์ให้ดูที่ จิตใจ ตัวเอง มรรคผล อยู่ตรงนี้ ....."
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2018
  7. zต้องตาz

    zต้องตาz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +411
    1medium.jpg

    011medium.jpg

    เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่แดง อมโร(พระครูอมรวิสุทธิ์) วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

    เพชรน้ำเอกแห่งวงศ์กรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต พระอริยเจ้าแห่งเมืองนักปราชญ์


    โอวาทธรรม

    "..... โดยมากคนเราเห็นไม้ทอนใหญ่ ก็เห็นแต่ว่ามันใหญ่ เพราะคิดว่าน้อยจะไม่มี ได้ไม้ทอนน้อย ก็เห็นแต่ไม้ทอนน้อย ก็คิดว่าใหญ่ไม่มี

    มันไม่มองไปข้างหน้าไม่มองไปข้างหลัง เมื่อสุขก็คิดว่ามีจะแต่สุข เมือทุกข์ก็คิดว่าจะมีแต่ทุกข์ ไม่เห็นว่าทุกข์อยู่ที่ไหนสุขก็อยู่ที่นั่น สุขอยู่ที่ไหนทุกข์ก็อยู่ที่นั่น ....."


    หลวงปู่แดง อมโร

    ธรรมพินิจ

    ".....ทางโลก ที่ว่าสุขมันก็มีทุกข์แทรกอยู่ ที่ว่าทุกข์สุขก็แทรกอยู่ มองให้เห็นตามจริง....."
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2018
  8. zต้องตาz

    zต้องตาz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +411
    21medium.jpg

    11medium.jpg

    เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อมหาทองอินทร์ กุสลจิตโต วัดสันติธรรม อ.เมือง จ.เชียงใหม่

    เพชรน้ำเอกแห่งวงศ์กรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต องค์ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่สิม พุทธาจาโร


    ธรรมโอวาท

    "..... ทุกข์ให้กำหนดรู้ !!! ทุกข์อยู่ที่ไหน โดยเฉพาะย้อนเขามาทุกข์ที่ไหน อยู่ที่นี้ทุกข์อยู่ที่รูปร่างกายนี้ รูปร่างกายของชาย ของหญิง นี้หละกองทุกข์

    แต่ไม่ใช้รูปร่างกายมันเป็นทุกข์นะ ใจผู้อยู่อาศัยนะมันเป็นทุกข์รับทุกข์ ถ้าเราพิจารณาอย่างนี้เราก็รู้ตามความเป็นจริง ...."


    หลวงพ่อมหาทองอินทร์ กุสลจิตโต

    ธรรมพินิจ

    "..... หา ผู้รู้ ให้เจอแล้วจะพบ ธรรม ....."
     
  9. zต้องตาz

    zต้องตาz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +411
    12medium.jpg

    13medium.jpg

    เหรียญรุ่นหยดน้ำ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ อ.วังสะพุง จ.เลย

    เพชรน้ำเอกแห่งวงศ์กรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต องค์ท่านเป็นศิษย์ในองค์พระอาจารย์มั่น โดยตรง พระอริยะเจ้าผู้เป็นที่รักของเหล่าเทวดาและกายทิพทั้งหลาย


    หลวงปู่เทศก์ เล่าถึงหลวงปู่ชอบ ไว้ดังนี้

    “.....เทวดารักท่านชอบมาก อันที่จริงแล้ว มากกว่าท่านอาจารย์มั่นด้วยซ้ำไป ...ในเรื่องเกี่ยวกับเทวดานี้แล้ว บางครั้งท่านอาจารย์มั่นก็ยังขอให้ท่านชอบช่วยจัดการให้เสมอ......”

    หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

    ธรรมโอวาท

    ".....เหตุเกิดที่ได ก็ต้องแก้มันที่นั่น

    ถ้าเหตุมันเกิดที่ใจ

    เราก็ต้องแก้ไขที่ใจของเรา....."


    หลวงปู่ชอบ ฐานสโม

    ธรรมพินิจ

    "..... ปัญหาหรือทุกข์ อยู่ที่ใจ แก่ไขที่ใจเรานี้ ....."
     
  10. zต้องตาz

    zต้องตาz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +411
    1medium.jpg

    11medium.jpg

    เหรียญรุ่นทูลเกล้า พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ วัดเจติยาคีรีวิหาร (ภูทอก) อ.เมือง จ.บึงกาฬ

    เพชรน้ำเอกแห่งวงศ์กรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต องค์ท่านเป็นศิษย์ของพระอาจารย์ใหญ่มั่น โดยตรง


    มูลเหตุที่พระอาจารย์จวน มีศรัทธาแรงกล้าในการนอกบวชปฏิบัติ มีดังนี้

    "... เมื่อท่านอายุได้ ๑๔-๑๕ ปี ได้พบพระธุดงค์ มาปักกลดอยู่ใกล้บ้านก็บังเกิดความเลื่อมใสตั้งปณิธานว่าต่อไปจะบวชอย่างท่านบ้าง พระธุดงค์ได้มอบหนังสือ “ไตรสรณาคมน์” ของ ท่านพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม แห่งวัดป่าสาลวัน นครราชสีมา มาให้ หนังสือนี้นอกจากสอนให้พุทธศาสนิกชน รู้จักการเข้าถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างแท้จริงแล้ว ได้สอนวิธีปฏิบัติภาวนาด้วย

    ท่านบังเกิดความคิดเลื่อมใสศรัทธา จึงจะลองปฏิบัติตามหนังสือนั้น เริ่มสวดมนต์ไหว้พระ ทำวัตรต่อ แล้วนั่งสมาธิหัดบริกรรม พุทโธ ,พุทโธ,พุทโธๆ จนกระทั่งปรากฏว่าจิตรวม จิตกับกายแยกกัน ไม่เหมือนกัน จิตอยู่เฉพาะจิต กายอยู่เฉพาะกาย เวทนาใดก็ไม่มีปรากฏเลย ท่านเล่าว่า เวลานั้นก็ไม่รู้จักอะไรลึกซึ้ง ด้วยหัดเอง ทำเอง ทำตามลำพังคนเดียว ไม่มีผู้รู้มาสอนให้ก้าวหน้าขึ้น ได้แต่รู้สึกว่า นั่งสมาธิแล้วก็สบายดี กายเบา จิตขาวนิ่มนวลผ่องใส เหมือนนั่งนอนอยู่อากาศอันนิ่มนวล ทำให้จิตใจดูดดื่มมาก นึกอยากจะภาวนาเสมอ ๆ ถ้าวันไหนใจไม่สบาย ก็ต้องเข้าที่นั่งภาวนา สงบใจเสมอ

    ภายหลังระหว่างทำงานได้รับหนังสือ “จตุราลักษณ์” ของ ท่านพระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล มาอ่านเพิ่มเติมสติปัญญาอีก เมื่อท่านอ่านไปถึง มรณานุสติ จิตก็สลดสังเวชว่า เราก็ต้องมีตายอยู่นั่นเอง และในหนังสือนั้น ท่านพระอาจารย์เสาร์ฯ ก็ได้ย้ำถึงเรื่องกรรมว่า

    "... คนเราต่างมีกรรมเป็นของของตน มีกรรมเป็นผู้ให้ผล มีกรรมเป็นแดนเกิด มีกรรมเป็นผู้ติดตาม มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย เราทำกรรมอันใดไว้ เป็นบุญหรือเป็นบาป เมื่อยังมีชีวิตอยู่ กรรมนั้นจักเป็นทายาทให้เราได้รับผลกรรมนั้นต่อ ๆ ไป คือ หมายความว่า กรรมต่างจำแนกสัตว์ให้เป็นไปต่างๆ นานา ให้เลว ให้ดี ให้ชั่ว ให้ประเสริฐ ..."

    เมื่ออ่านกันถึงตอนนี้ ท่านก็บังเกิดความสลดสังเวชใจอย่างยิ่ง นึกว่า คนเราที่เกิดมา ถ้าไม่ประกอบคุณงามความดี ก็ไม่มีประโยชน์แก่ชีวิตของตน และไม่มีโอกาส ที่จะได้รับความสุขต่อไปในชาติหน้าอีก ศรัทธาในพระศาสนาก็เพิ่มพูนขึ้น

    เมื่ออายุเพียง ๒๐ ปีถึงกับสละเงินที่เก็บหอมรอมริบระหว่างทำงานอยู่กรมทางหลวงทั้งหมด เป็นเจ้าภาพสร้างมหากฐินคนเดียว สร้างพระประธาน สร้างส้วม ในวัดจนหมดเงิน จวบจนอายุท่านครบ ๒๑ ปี จึงให้ออกบวช


    พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ


    ธรรมโอวาท

    "..... การบำเพ็ญทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ถ้าไม่มุ่งหวังที่จะทำลายกิเลสตัณหา ให้หมดไป ให้สิ้นไปแล้ว ก็ไม่มีทางพ้นไปจากทุกข์ พ้นไปจากโลกนี้ได้

    ถ้าเราบำเพ็ญทาน ศีล ภาวนา มุ่งหวังที่จะทำลายกิเลสตัณหาอย่างเดียว ให้หมดให้สิ้นไป คือ ที่ว่าพ้นไปจากโลก เป็นข้อปฏิบัติให้ถึงธรรม อันที่ดับทุกข์โดยแท้ไม่ต้องมีความสงสัยเลยดังนี้ ....."


    พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ

    ธรรมพินิจ

    "..... การทำบุญ คือการบำเพ็ญทาน ศีล ภาวนา เพื่อ ทำลายกิเลส ....."
     
  11. zต้องตาz

    zต้องตาz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +411
    01medium.jpg

    011medium.jpg

    เหรียญรุ่นสาม หลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโร วัดป่าสุนทราราม บ้านกุดแห่ อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร

    เพชรน้ำเอกแห่งวงส์กรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต องค์ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่ดี ฉนฺโน


    นิมิตรหมายสู่เส้นทางพรหมจรรย์

    "... และในปี พ.ศ. ๒๔๙๓ ท่านได้ฝันว่าตัวเองถึงแก่ความตาย ร่างถูกบรรจุลงโลงถูกหามจะนำไปเผาที่วัดป่าสุนทราราม มีผู้ชาย ๔-๕ คนหามไป ไม่มีพระมาสวดมาติกาบังสกุลเลย หามเวียนรอบกองฟอนครบสามรอบ ก็ยกโลงศพวางบนกองฟอนใกล้ต้นมะตูม วิญญาณของท่านออกจากร่างไปอยู่บนกิ่งต้นมะตูม แล้วมองดูร่างของท่านซึ่งกำลังถูกเผาไหม้ ท่านร้องตะโกนบอกว่า “สูเอากูมาเผา แต่กูไม่ร้อนดอก” แต่ไม่มีใครพูดตอบ ชายเหล่านั้นก็กลับบ้านไป ปล่อยให้ท่านอยู่เพียงคนเดียว ท่านจึงลงมาดูศพของท่านที่ถูกเผาจนหมด ไฟก็ดับมอดลง ในกองฟอนเหลือแต่เถ้ากับกระดูก จึงคิดตรองว่าจะทำอย่างไรดี ทันใดนั้นก็คิดว่าเราจะเอากระดูกมาปั้นเป็นรูปพระ จึงหาเอาครกกับสากมาบดตำให้ละเอียด เอาน้ำสะอาดมาผสม แล้วปั้นเป็นรูปพระ เมื่อปั้นเสร็จไม่รู้จะเอาไปไว้ที่ไหน คงต้องทิ้งลงกองฟอนอีกเป็นแน่ แต่แล้วท่านก็สะดุ้งตื่นจากฝัน เมื่อตั้งสติได้จึงแปลความฝันว่า ..."

    "... เราคงตายจากเพศคฤหัสถ์แน่ คงได้อุปสมบทเร็ววันนี้เป็นแน่แท้ ..."

    ธรรมโอวาท

    "..... บุญเกิดขึ้นแล้ว จะชำละจิตใจให้บริสุทธิ์ และเกิดความสุข

    บุญย้อมเกิดจากการกระทำ หรือถ่อยคำที่พูด ที่คิดเป็นสุจริตนั้นๆ ....."


    หลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโร

    ธรรมพินิจ

    "..... การทำบุญ คือ การชำละกิเลสออกจากจิตใจ ....."
     
  12. zต้องตาz

    zต้องตาz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +411
    01medium.jpg

    11medium.jpg

    เหรียญรุ่นครูบาอานนท์ หลวงพ่อครูบามนตรี ธมฺมเมธี(บุญมี) วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี อ.เด่นชัย จ.แพร่

    ต้นบุญแห่งเมืองแพร่ พระผู้บำเพ็ญธรรมเจริญรอยตามครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา องค์ท่านเป็นศิษย์ของครูบาพรหมจักรสังวร


    ธรรมโอวาท

    "..... ศาสนาพุทธจะตั้งมันถาวรอยู่ได้ ก็ด้วยการปฏิบัติ

    โดยส่วนมากปริยัติเรียนแล้วไม่ปฏิบัติตาม หาประโยชน์อะไรไม่ได้ ....."


    หลวงพ่อครูบามนตรี ธมฺมเมธี(บุญมี)

    ธรรมพินิจ

    "..... ธรรมะของพระพุทธเจ้า เรียนแล้ว ต้องปฏิบัติตาม หาไม่แล้วก็ไม่ใช้ศิษย์ตถาคต ....."
     
  13. zต้องตาz

    zต้องตาz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +411
    1-horz-vertmedium.jpg

    เหรียญรุ่นพระอุปคุต หลวงปู่ไม อินทสิริ วัดป่าเขาภูหลวง ต.ระเริง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา

    เพชรน้ำเอกแห่งวงศ์กรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต องค์ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่ศรี อุตฺจโย,หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ


    ธรรมโอวาท

    "..... ทาน ศีล ภาวนา คือบุญที่เราจะต้องทำ ถึงจะได้ดีมีสุข และพ้นทุกข์ได้ในอนาคต การภาวนาสำคัญที่สุด เพราะการภาวนานี้แหละ คือสิ่งที่จะพาพวกเราพ้นทุกข์ได้ไปโดยลำดับ

    ขอให้ลูกหลานตั้งใจภาวนา เลิกทำบาป หยุดทำในสิ่งที่ไม่ดี นี้คือคำสังสอนของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ....."


    หลวงปู่ไม อินทสิริ

    ธรรมพินิจ

    "..... การทำทาน ศีล ภาวนา เพื่อ กำจัดกิเลส จึงเรียกว่า บุญ ....."
     
  14. zต้องตาz

    zต้องตาz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +411
    1medium.jpg

    011medium.jpg

    เหรียญุรุ่นขวัญถุง หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต วัดอุดมคงคาคีรีเขต อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น

    เพชรน้ำเอกแห่งวงศ์กรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต องค์ท่านเป็นศิษย์ของพระอาจารย์มั่น โดยตรง พระเกจิอาจารย์คู่บ้านคู่เมืองหมอแคน


    ปฐมเหตุแห่งการออกบวช ครั้งที่ ๒

    "... ภรรยาของท่าน ใด้แจ้งแก่ท่านว่า มีความประสงค์ที่จะออกบวชชี ทำให้ท่านประสบกับทุกข์ทางใจที่ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก จะมาหนีออกบวชชีทิ่งท่านไป ทำให้ใด้คิดถึงว่าตัวท่านเองว่า ตัวเราเองอายุก็เริ่มมากแล้ว จะหาคนมาตกแต่งเป็นภรรยาใหม่ เขาจะรักเราแค่ไหนกันแม้นคนที่อยู่กันมานานกว่า ๑๙ ปีก็ยังทิ้งกันได้ เมื่อมองไปในวันข้างหน้าแล้วถ้าแก่เฒ่าไปลูกเต้าเราก็ไม่มี ถึงจะมีบุตรบุญธรรมที่รับมาเลี้ยงดูแต่เล็กแต่น้อย เขาจะกตัญญูต่อเรามากน้อยแค่ไหนก็ไม่อาจทราบได้เพราะพ่อแม่จริง เขาเองก็ยังอยู่ ความทุกข์ใจ และความไม่แน่นอนของชีวิตที่ท่านประสบอยู่นี้ ทำให้ท่านคิดออกบวชเพื่อหนีทุกข์ ท่านจึงอนุญาตให้ภรรยาออกบวชชีได้

    จากนั้นหลวงปู่ผาง ในเพศฆราวาสได้ มอบทรัพย์สินบางส่วนแก่บุตรบุญธรรมของท่าน ตลอดจนญาติๆ แล้วขายทรัพย์สินที่เหลือ เพื่อทำบุญแจกทาน ให้แก่ผู้อื่นจนหมดสิ้น แล้วก็ได้หันหน้าเข้าหาพระธรรม ในปีพ.ศ. ๒๔๘๗ เมื่ออายุ ๔๒ ปี หลวงปู่ได้เข้าอุปสมบทในฝ่ายมหานิกาย ที่วัดคูขาด บ้านศรีสุข อ.เขื่องใน โดยมีพระครูศรีสุตตาภรณ์ (ตื้อ พุทฺธสาโร) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า "จิตฺตคุตฺโต" อันมีความหมายว่า ผู้คุ้มครองจิตดีแล้ว

    หลังจากอุปสมบทแล้ว พระครูศรีฯพระอุปัชฌาย์ของท่านได้พิจารณา ถึงทุกข์ในใจของศิษย์แล้ว ก็เห็นจะมีแต่ท่านพระอาจารย์ใหญ่มั่น เท่านั้นที่มั่นคงพอจะแก้ปัญหาทุกข์ใจ ตลอดจนพาดำเนินตามปฏิปทาที่จนพ้นทุกข์นี้ไปได้ จึงได้ฝากให้ศิษย์บวชใหม่(หลวงปู่ผาง)ไปกับหมู่พระสงฆ์ที่จะไปนมัสการพระอาจารย์มั่น หลวงตามหาบัว พูดถึงครั้งหลวงปู่ผาง เข้ามนัสการพระอาจารย์ใหญ่มั่น ครั้งแรกไว้ดังนี้


    "... หลวงพ่อผางขอนแก่น นั่นน่ะท่านบวชทีหลังเรา ตอนท่านไปเราก็อยู่ที่นั่นวัดนามน ที่ท่านศึกษาปรารภกับหลวงปู่มั่น ท่านก็เทศน์อย่างเด็ดทีเดียว นั่นล่ะท่านได้ธรรมะนั่นล่ะมา ใส่เปรี้ยง ๆ ลง ท่านคงเล็งดูแล้ว เหมาะแล้ว ธรรมะจึงไม่มีอ่อนข้อเลย เด็ดตลอดจนจบ ใส่เปรี้ยงๆ เหมือนคนโกรธแค้นกันมาได้ห้ากัปห้ากัลป์ พอมาก็ปรี่ใส่กันเลยว่างั้นเถอะน่ะ นั่นล่ะผู้ท่านได้อันนั้นมา มาพิจารณาก็ได้คติตั้งแต่นั้นมา เอาจนทะลุไป นี่ล่ะองค์นี้หลวงพ่อผาง ..."

    หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน

    ธรรมโอวาท

    "..... ศีลมีมากหลายข้อ ไม่ต้องรักษาหมดทุกข้อดอก

    รักษาแต่ใจของเจ้าให้ดีอย่างเดียว กาย วาจา ก็จะดีไปด้วยกันนั่นแหละ ....."


    หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตโต

    ธรรมพินิจ

    "..... ศีล ให้ปฏิบัติเพื่อรักษา จิตใจ ตังเราเองนี้ ....."
     
  15. zต้องตาz

    zต้องตาz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +411
    1medium.jpg

    11medium.jpg

    12medium.jpg

    รูปหล่อรุ่นแรก หลวงปู่จันทา ถาวโร วัดป่าเขาน้อย อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร

    เพชรน้ำเอกแห่งวงศ์กรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต องค์ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล


    หลวงปู่จันทา กล่าวถึงการปฏิบัติกับ หลวงปู่ขาว พระอาจารย์ของท่านไว้ดังนี้

    "... ผมอยู่กับครูบาอาจารย์ คือ หลวงปู่ขาว อนาลโย ท่านสอนอย่างไรก็ประพฤติอย่างนั้น ท่านว่าบาปก็บาปจริง จงละ ท่านว่าบุญก็บุญจริง ก็ประพฤติปฏิบัติ ท่านสอนให้ไม่ให้ห่วงอาลัยในชีวิตสังขาร อย่าเพิ่งยึดถือมากเกินไปนะ จะเป็นเครื่องผูกมัดให้หลงในภพชาติสังขาร ยึดถือเพียงแต่ว่าเป็นปัจจัย เครื่องอาศัยชั่วคราว ร่างกายนี้เป็นโรงงานใหญ่ เราคือใจเป็นเจ้าของ สำหรับที่จะทำงานหาผลรายได้ คือบุญกุศล มรรคผล ธรรมอันวิเศษ เกิดขึ้นจากโรงงานใหญ่นี้ทั้งนั้น ..."

    หลวงปู่จันทา ถาวโร

    ธรรมโอวาท

    "..... นั่นแหละบุญในศาสนาพุทธ คือ เดินจงกรม ยืนภาวนา นั่งสมาธิ ไหว้พระสวดมนต์

    นั่นแหละ ได้บุญเยอะ ..... "


    หลวงปู่จันทา ถาวโร

    ธรรมพินิจ

    "..... ภาวนา ที่ท่านสอนนี้ คือ การปฏิบัติศีล สมาธิ ปัญญา เพื่อให้กำจัดกิเลสให้ลดน้อยถ่อยลงไปจนหมดสิ้น จึงให้เชื่อว่า บุญ ....."
     
  16. zต้องตาz

    zต้องตาz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +411
    01medium.jpg

    11medium.jpg

    เหรียญตุ้มหูยายซิ้ม รุ่นภูธร หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต วัดอุดมคงคาคีรีเขต(ดูน) อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น

    เพชรน้ำเอกแห่งวงศ์กรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต องค์ท่านเป็นศิษย์ของพระอาจารย์มั่น โดยตรง พระเกจิอาจารย์คู่บ้านคู่เมืองหมอแคน


    หลวงปู่ผาง กล่าวถึงปฏิปทาที่พระอาจารย์มั่น พาดำเนิน ไว้ดังนี้

    “... หลวงพ่อมั่นนี้เป็นพระที่ประเสริฐ นับเป็นครูบาอาจารย์ที่เสียสละมากที่สุด ทุกข์ทรมานมากที่สุด ลำบากลำเค็ญมากที่สุด หายากในพื้นพิภพปัจจุบัน ท่านล้นด้วยปัญญาบารมีทุกอย่าง ยามไปปักกลดอยู่กับท่าน ถ้าได้ยินเสือร้องอยู่ในที่ไกลๆ แต่ไม่ค่อยได้เห็นตัว เสือมันร้องรอบๆ ด้านคล้ายดังกับว่า มาเป็นกองร้อยลาดตระเวนคอยปกปักรักษาอยู่ยามให้ ท่านได้พาไปพักตามเงื้อมผาป่าดง ท่ามกลางดงเสือดงช้าง ท่านสอนเสมอว่า


    “... ให้เที่ยวไปองค์เดียว อยู่คนเดียว และตายคนเดียว... ถ้าจิตใจเรามันยังทำไม่ดีอยู่ ก็ให้เอาเสือเอาช้างนี่หละ มาแก้นิสันสันดานเรา สัตว์พวกนี้เป็นครูฝึกที่ดีกว่าอะไรเสียอีก ...”

    พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต

    ธรรมโอวาท

    "..... รู้เพียงตำรานั้นนะ ถ้ามันไม่ได้ปฏิบัติจริงแล้ว

    มันก็เป็นโมฆะเท่านั้น ....."


    หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต

    ธรรมพินิจ

    "..... ธรรมะของพระพุทธเจ้า เรียนรู้แล้วต้องปฏิบัติ หาไม่แล้วก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร ....."
     
  17. zต้องตาz

    zต้องตาz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +411
    1medium.jpg

    011medium.jpg

    เหรียญพระอาจารย์มั่น ออกวัดพระงาม หลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ วัดพระงามศรีมงคล อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย

    เพชรน้ำเอกแห่งวงศ์กรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต องค์ท่านเป็นศิษย์ของพระอาจารย์มั่น โดยตรง


    หลวงปู่อ่อนสี กล่าวถึงการไปปฏิบัติกับพระอาจารย์มั่น พระอาจารย์ของท่าน ไว้ดังนี้

    "... ปีนั้น พระอาจารย์มั่น ท่านสอนเราทั้งสองให้พิจารณา กายคตาสติอยู่ตลอดพรรษา เลยทำให้เราทั้งสองมีความเข้าใจก้าวหน้าอยู่มาก ไม่เสียแรงออกติดตามหาธรรมจากท่านพระอาจารย์มั่น ท่านพระอาจาย์เทสก์ ท่านขึ้นไปจำพรรษาบนเขา ซึ้งเหนือไปกว่าที่ซึ้งท่านอาจารย์มั่นอยู่ห่างราว ๕ เส้น ส่วนอาตมา ก็ได้อาศัยเฉลียงของกุฏิท่านอาจารย์มั่นนั้นเองแหละ อยู่เพื่อจะได้รับใช้ท่านบ้างนั้นเอง ทั้งยังได้อบรมจิตใจยามอยู่คนเดียวนับเป็นประโยชน์อย่างมหาศาล แม้ปัจจุบันนี้อาตมาก็ยังพึงพอใจที่จะอยู่โดยลำพังเช่นกัน ด้วยกาลเวลาทั้งสิ้นนี้ อาตมาก็พอจะสรุปได้ว่า ตัวของอาตมานี้ นับตั้งแต่ได้ติดตามท่านอาจารย์เทสก์ไปเริ่มแต่ออกปฏิบัติ จนไปสุดเอาที่เชียงใม่ จึงนับเวลาได้ตามปฏิบัติท่านพระอาจารย์มั่นอยู่๕พรรษาเต็มๆเลยเหมือนกัน ..."

    หลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ

    โอวาทธรรม

    "..... คนเราเกิดมาในโลกนี้มีเวลาไม่มากนัก จงรีบเร่งปฏิบัติภาวนาธรรมกันเถิด

    อย่ามัวเมาประมาทกันเลย เดี๋ยวจะเสียทีกิเลสที่จะพาเราจมดินจมโคลน ....."


    หลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ

    ธรรมพินิจ

    "..... เวลาเรามันน้อย ให้รีบเร่งภาวนาตอนนี้เลย ....."
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 111medium.jpg
      111medium.jpg
      ขนาดไฟล์:
      145.1 KB
      เปิดดู:
      100
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มีนาคม 2018
  18. zต้องตาz

    zต้องตาz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +411
    1medium.jpg

    011medium.jpg

    เหรียญรุ่นแรก พระราชมุนี(โฮม โสภโณ) วัดปทุมวนาราม เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร

    พระอภิญญาจารย์ศิษย์กรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต องค์ท่านเป็นศิษย์ของพระอาจารย์มั่น โดยตรง


    ท่านเจ้าคุณโฮม บันทึกปฐมเทศนาที่พระอาจารย์มั่น เมตตาแก่ท่าน ดังนี้

    “... เณรเอ๋ย ร่างกายของเราก็เหมือนรถ ถ้าจอดทิ้งไว้เฉยๆ ก็รังแต่จะเกิดสนิม ที่เราต้องเดินจงกรมก็เพื่อเป็นการผลัดเปลี่ยนอิริยาบถ ทำให้สุขภาพของเราดีขึ้น ภิกษุสามเณรสมควรอย่างยิ่งที่จะหัดเดินจงกรม

    ตามธรรมดาภิกษุสามเณรในจังหวัดพระนคร มีเวลาออกกำลังน้อยเหลือเกิน ถ้ามีแต่นั่งและนอนมากก็จะทำให้สุขภาพเสื่อม มีโรคร้ายเบียดเบียน จะทำงานอย่างอื่นเพื่อเป็นการจรรโลงพระพุทธศาสนาทำได้ยาก ความเพียรรีบลงมือทำเสียแต่วันนี้ ใครเล่าจะรู้ว่า ความตายจะมาถึงเมื่อไหร่

    ผู้ประมาทแล้ว อบายภูมิทั้ง ๔ เปิดรับอยู่เสมอ เมื่อคนเข้าแดนอบายภูมิมีแต่ความทุกข์ยากเดือดร้อน เสียสิทธิเสรีภาพในการที่จะสร้างคุณงามความดี เพราะเวลาที่ล่วงเลยไปก็ไม่เป็นประโยชน์อันใด เรื่องบำเพ็ญกรรมฐานจึงเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ...”


    พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต

    ธรรมโอวาท

    “..... ท่าน!!! ต้องปฏิบัติเองถึงจะรู้เห็นเอง .....”


    พระราชมุนี(โฮม โสภโณ)

    ธรรมพินิจ

    "..... รู้แบบพระพุทธเจ้า ไม่เหมือนกับ รู้แบบโลกๆเรา ....."
     
  19. zต้องตาz

    zต้องตาz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +411
    01medium.jpg

    11medium.jpg

    เหรียญรุ่นมหาเศรษฐีฯ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปัง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่

    เพชรน้ำเอกแห่งวงศ์กรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต องค์ท่านเป็นศิษย์ของพระอาจารย์มั่น โดยตรง พระผู้เปิดโลกพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ออกสู่สาธารณชน


    หลวงปู่แหวน กล่าวถึงการปฏิบัติกับพระอาจารย์มั่น ที่ป่าเมียง ไว้ดังนี้

    “..... การแสดงธรรมของพระอาจารย์แต่ละครั้ง ใช้เวลาไม่นาน แต่ธรรม ที่ท่านแสดงออกนั้น เป็นธรรมปฏิบัติล้วนๆ ละเอียดไปตามขั้นตอนของสารธรรม ทำให้ผู้ได้ฟังหายสงสัยในข้อปฏิบัติของตนๆ ที่กำลังดำเนินอยู่ ทำให้เกิดความมุ่งมั่น มานะพยายาม ประกอบความเพียรกันอย่างเต็มความสามารถ การได้ฟังธรรมจากครูอาจารย์แต่ละครั้ง เหมือนกับได้เพิ่มกำลังธรรมะเข้าไปอีก

    ดังนั้น ในด้านภาวนา ต่างองค์ต่างก็เร่งความเพียรกันอย่างไม่ท้อถอย เต็มความสามารถของ ตน อย่างไม่ขาดวรรคตอน ทั้งกลางวันและกลางคืน เว้นเฉพาะเวลาหลับเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ สติสัมปชัญญะ จึงมีกำลังอยู่เสมอ เป็นการประกอบชาคริยานุโยค( ความเพียร) โดยแท้ การอยู่ร่วมกับพระอาจารย์ใหญ่ ในคราวนั้น จึงเป็นสัปปายะ หลายอย่าง คือ
    - บุคคลสัปปายะ เพราะสหธรรมิกล้วนแต่เป็นผู้ปฏิบัติธรรมด้วยกัน
    - สถานที่สัปปายะ เพราะเป็นป่าเขาลำเนาไพร บรรยากาศสงบ วิเวกวังเวง อากาศเย็น ชาวบ้าน ก็ไม่มารบกวน
    - อาหารสัปปายะ เพราะมีพอฉันเพื่อยังอัตภาพให้เป็นไปได้ ไม่บริบูรณ์ แต่ไม่ถึงขั้นขาดแคลน
    - ธรรมสัปปายะ เพราะพระอาจารย์ผู้แสดงธรรมท่านก็ย้ำลงในธรรมปฏิบัติ ในสารธรรมอัน เป็นวิมุตติธรรม วิโมกขธรรม ชี้จุดอันควรละ และบอกจุดอันควรเจริญ ยิ่งใกล้วันเข้าพรรษา ท่านได้แสดงทางปฏิบัติย้ำลงเป็นจุดๆ เป็นขั้นตอนตามการเจริญมรรคปัญญา โดยเฉพาะ ....."


    หลวงปู่แหวน สุจิณโณ

    ธรรมโอวาท

    "..... เอกายนมัคโค เอากายนี่แหละเป็นมรรค เอากายนี้เป็นผล

    รู้กายรู้จิต รู้จิตรู้กายสองอย่างเท่านี้ละ การเรียน ....."


    หลวงปู่แหวน สุจิณโณ

    ธรรมพินิจ

    "..... พระไตรปิฎกที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้เป็นแผนที่ พระไตรปิฎกเล่มจริง คือ กายกับจิต ของตัวเองนี้หละ ให้ศึกษาให้เรียนตรงนี้ ....."
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2018
  20. zต้องตาz

    zต้องตาz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +411
    1f0e6cd59f5c2f6a95e8ec2748e9c7da.jpg

    a79c1a865eb51ebd10ea6ad7a57e2b14.jpg

    เหรียญรุ่นแรก พระญาณสิทธาจารย์(สิงห์ สุนฺทโร) หรือ หลวงปู่เมตตาหลวง วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม (วัดพระขาว) อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

    เพชรน้ำเอกแห่งวงศ์พระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต องค์ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่คำดี ปภาโส,หลวงปู่ขาว อนาลโย


    ธรรมโอวาท

    "..... พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้านั้น อุปมาเหมือน น้ำอันบริสุทธิ

    ที่สะอาด ปราศจากมลทิน ปราศจากละอองทุลี ไม่ว่าจะเทรดลาดลงไปที่ไดก็ตาม

    แม้ที่นั้นเป็นที่สกปรก เต็มไปด้วยสิ่งสกปรกโสโครก ก็สามารถทำให้บริสุทธิสะอาดขึ้นมาได้ ....."


    พระญาณสิทธาจารย์(สิงห์ สุนฺทโร) หรือ หลวงปู่เมตตาหลวง


    ธรรมพินิจ

    "..... พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ท่านให้ศึกษาเพื่อชำระจิตใจตัวเองให้สะอาดบริสุทธิ ไม่ใช้เพื่อสร้างทิฐิมาละในตัวเอง ....."
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2018

แชร์หน้านี้

Loading...