ธรรมใดเป็นปฏิเวธ ธรรมใดเป็นสัญญา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 12 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    หรอ พอดีรู้สึกว่าจิตใจเรามันเหมือนลิงไง ไม่เคยอยู่นิ่ง อยู่ไม่สุข
    ชอบออกเอ๊กเซอร์ไซส์ เล่นยิมนาสติกห้อยหัวตีลังกา ถึงจะมีแรง ถ้านิ่งๆแล้วจะหลับ
    จริตใครจริตมันเนาะ
     
  2. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    น้ำหนักเท่าไหร่แล้วครับ
    จะมาออกเอ๊กเซอร์ไซส์ ห้อยหัว อีกต่างหาก
     
  3. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    เขาหมายถึง จิตใจ มันซนเหมือนลิง
    ไม่ได้หมายถึงร่า่งกาย
     
  4. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    อย่างนั้นก็แสดงว่าห้อยหัวใจลงมาน่ะสิครับ
    อย่างนี้ก็ยิ่งผิดแนวทางในการปฏิบัติ

    การปฏิบัติต้องตั้งหัวใจปลุกหัวใจขึ้นมา
    ให้มีความแน่นหนามั่นคงในจิตใจให้เหมือนหินผา
    ไม่ว่าสิ่งใดกระทบต่อจิตใจ จิตใจก็ไม่หวั่นไหว
    นี่คือจิตเป็นสมาธิครับ

    ช่วยบอกต่อพี่ ๆ น้อง ๆ ด้วยนะครับ
     
  5. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +3,154
    ขอร่วมลงชื่อด้วยคนครับ

    ปัญญาผมยังมีไม่มาก แต่ปฏิเวธทางสมาธิผมแน่นเอียดครับตอนนี้
     
  6. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    พูดไปเรื่อย ไม่ได้เข้าแก๊บเล้ย!!!
    จริตใครก็จริตใคร ทำอย่างไรก็ได้ที่ถูกจริตแล้วมีสติรู้ตัวเอง
    บางคนเขามีธรรมชาติที่พอจิตนิ่งมันก็เคลิ้มมันก็หลับ เรียกว่าขาดสติ
    แต่เวลาเคลื่อนไหวมันมีสติพิจารณา

    บางคนเขามีธรรมชาติฟุ้งซ่าน ต้องฝึกให้จิตสงบถึงจะมีสติพิจารณา

    มันอยู่ที่คนจะรู้ตัวเองหรือเปล่าว่าต้องทำไงถึงจะมีสติพิจารณา

    จะแนะนำใคร มันต้องรู้จริตต่างๆให้กว้างขวาง
    ไม่ใช่เอาตัวเองเป็นหลัก เรียกว่าคนโลกแคบ
    ไม่เข้าใจโลกของคนอื่น รู้จักแต่โลกของตัวเอง มันก็พูดถึงแต่โลกตัวเอง
    คนที่เขาท่องโลกกว้างรู้ว่าโลกนี้มีหลายแบบ เขาถึงจะรู้ว่าอยู่โลกนี้เขาเห็นแบบนี้
    อยู่โลกแบบนั้นเขาเห็นโลกแบบนั้น ถึงจะคุยเรื่องโลกของคนอื่นได้ถูก
    ไม่งั้น เขาพูดถึง 1 แต่ตัวเองมีแต่2 ไม่รู้จัก1 จะแนะนำคนที่เขาเห็น1ได้ไง
    ในเมื่อไม่รู้จัก1 มันก็มีแต่ยัดเยียดทิฏฐิของตนให้คนอื่นทำตามได้แค่นั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มีนาคม 2012
  7. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    มันเป็นมุมมองของกิเลสไงครับ
    จะให้ธรรมไปเข้าแก๊ปของกิเลสมันเป็นไปไม่ได้

    ความคิดของกิเลสย่อมต่างจากธรรมอย่างสิ้นเชิง
    จะให้กิเลส มันมาทำสมาธิก็ไม่ได้
    เพราะมันกลัวธรรมมีอำนาจเหนือมัน

    กิเลสมันก็หลอกให้คิดตามมันไป
    แล้วก็หลอกว่านี่ไงปัญญาเธอมีปัญญาแล้ว
    หารู้ไม่กิเลสมันหลอกให้โง่เต็ม ๆ
    ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอครับ

    สมาธิยังไม่มี แล้วมาบอกว่าตนมีปัญญา
    มันเป็นการแสดงความโง่โดยสิ้นเชิงครับ
     
  8. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    หรอ เพิ่งจะรู้ ว่าคนที่ชอบสู่รู้ ชอบประมาณคนอื่น แต่ไม่เคยประมาณตน
    คือพวกคนมีธรรม เนอะ

    บ๊ายบาย คนมีธรรม ละกัน คุยไปก็ออกทะเล ป่าวๆ
     
  9. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    ไม่ต้องไปสู่รู้หรอกครับ
    มีหูมีตามันก็รู้ได้
    และยิ่งเป็นความรู้โดยธรรมรู้จริงเห็นจริงแล้วประมาณได้หมด
    แม้แต่อาจารย์ของใครก็ตามเถอะรู้ได้ครับว่าขั้นไหนขั้นไหน
    คนรู้เหนือกว่า ก็ต้องรู้คนที่รู้ด้อยกว่าใช่มั้ยครับ
     
  10. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,862
    ค่าพลัง:
    +1,818
    ธรรมะทุกชนิด ทุกข้อ ทุกหมวด ล้วน ต้อง สัญญา และ ล้วนต้อง ปฏิเวธ
     
  11. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    ธรรมใดเป็นสัญญา


    จับเอาสัญญาของตน มาปรุงแต่งไปตามอำนาจกิเลสตนเอง นี่คือปัญญา นี่คือทางหลุดพ้น
    นั่งนึกจินตนาการนั่งเทียนเอาเอง คิดว่า....ต้องเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้

    เพราะหัวใจตนเองหลอกลวงตน ธรรมที่เกิดจึงเป็นเพียงแค่ สัญญาหลอกลวงตน
    ธรรมที่สอน จึงเป็นแค่นิยายประโลมโลก หลงชมเชยยกย่องเชิดชูตนเอง

    คำสอน ที่ลอกดัดแปลงเอามาจากต้นฉบับของคนอื่นเอามาเป็นของตน
    คำสอน จึงเป็นลักษณะเข้าข่าย ที่เรียกว่า กระแดะหรือดัดจริต ไม่เป็นธรรมแท้

    เพราะเกิดจากใจ ที่มีกิเลสขี่หัวครอบครองเต็มหัวใจ ไม่ได้เกิดจากใจที่มีธรรมครองในหัวใจ
    จึงเป็นเพียง คำสอนที่ที่เกิดจากสัญญา เงาของกิเลสแฝงมากับธรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มีนาคม 2012
  12. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    เพราะยังภาวนาไม่เป็น ยังไม่มีหลักใจของตัวเอง

    จีงแยกไม่ออกว่า อันไหนจริงอันไหนปลอม

    ใครสร้างสรรค์คำพูดหรูๆ ออกมาสอน

    ก็นึกว่า ผู้นั้นบรรลุเป็นพระอริยะหรือพระระดับสูงๆไปหมด

    พวกที่มีศรัทธามากๆ ก็มักจะตกเป็นเหยื่อของพวกนี้ แบบถอนตัวยาก

    เป็นแบบนี้มานานทุกๆยุคทุกๆสมัย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มีนาคม 2012
  13. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +1,073
    วิสุทธิธรรม คือ ธรรมที่สละ สลวย
     

แชร์หน้านี้

Loading...