ธรรมไหน? ทำให้เนิ่นช้า

เณรระวังตัวนะ55

 

เณรป๊อกแปด พระป๊อกเก้า..


55555555

 

ถ่ายคลิปแบคเมย์เลยเณร55

 

อารมณ์เกิดขึ้นหลังจากผัสสะกระทบ..

แล้วที่ส่งออกนอกไปกระทบรูป ภายนอก ไม่ใช่จิต เหรอ งาบ..

 

จิตตานุปัสสานี้ต่างกัยธรรม มารม๊์มัยเณร

 

+++ ตรงนี้ ผมใช้ภาษา "อณู/ปรมาณู อยู่ใน ความว่าง"
+++ ที่ผมไม่ใช้ อากาศ เพราะ อาการของ "อากาศธาตุ" ไม่ปรากฏในบริเวณนี้

+++ ตรงนี้ "ต้องขออภัยอย่างแรง" เพราะคำว่า "ทิพย์จักษุ" ในปัจจุบัณ ทุกคนเข้าใจว่าเป็น "มโนเห็น"
+++ ดังนั้น "เพื่อป้องกัน มิให้ปฏิบัติผิด ณ ขณะ ปฏิบัติ" ผมใช้คำว่า "สติเห็น" ซึ่ง ตรงตามอาการมากกว่า และ "ปิดการเข้าใจผิด ณ ขณะปฏิบัติ ลง"

+++ น้าปราบ "สังเกตุ" ได้ว่า ผมจะไม่ใช้คำว่า "ทิพย์จักษุ ตาทิพย์" จำพวกนี้
+++ เพราะปัจจุบัณ สาธารณชน เข้าใจว่า "เป็น มโนมัย" ไปหมดแล้ว
+++ สำหรับผมแล้ว "ดีที่สุด คือ ปิดคำนี้ ทิ้งไป" จนกว่ายุคสมัยของ "คำนี้" จะเปลี่ยน

+++ ภาษาตรงนี้ "ไม่เหมือนกัน"
+++ "รูป หยาบ/ละเอียด" ต้องมี "ความ/อาการ ที่เป็น รูป" (เห็นด้วย มโนมัย ได้)
+++ "นาม หยาบ/ละเอียด" ต้องมี "ความ/อาการ ที่เป็น นาม" (รู้สึกได้)

+++ ต้องถาม น้าปราบ ก่อนว่า "ละอองฝุ่น ที่ลอยอยู่นั้น" น้าปราบเรียก สุขุมรูป หรือเปล่า
+++ แต่สำหรับผม ผมเรียก ละอองนั้นตรง ๆ ว่า "ละออง อณู ฝุ่น" ตามอาการของมัน

+++ หากจะถามว่า "ฝุ่น อณู แต่ละเม็ดนั้น ในนั้น" เป็น รูป หรือไม่
+++ ผมจะถามกลับไปว่า "ตรงนี้ ใช้ มโนมัย เห็น" ได้หรือไม่
+++ หากผู้นั้น ตอบว่า "มโนมัยเห็นได้" ผมจะถามต่อไปว่า
+++ ณ ขณะที่ มโนมัย เกิด นั้น "ตัวกู/ของกู" มีอยู่ หรือไม่
+++ หากผู้นั้นตอบ "มีอยู่" ก็สามารถ "ระบุได้ว่า ผู้นั้น มโนเห็น"
+++ เพราะบริเวณนี้ "มโนมัย/วิญญาณขัน์ธยัง เกิดไม่ได้"

+++ "มโนมัย/วิญญาณขัน์ธ" เกิด "ข้างใน" กลุ่มละอองฝุ่น ตรง "ตาพายุ" ตรงนั้น
+++ "มโนมัย/วิญญาณขัน์ธ" เกิด "ภายใต้" ความกดดันของ "ละอองฝุ่น"
+++ ตรงนี้ "ตัวดู/อัตตา/วิญญาณขันธ์" จึง ถือกำเนิด
+++ การ "รู้" ในบริเวณนี้ อยู่ "ข้างนอก กลุ่มฝุ่น"
+++ การ "รู้" ในบริเวณนี้ ไร้ "อัตตา/วิญญาณขันธ์"

+++ ภาษาในบริเวณนี้ "ไม่ใช่เรื่องง่าย" และมักเป็นไปตาม "จริต" ของผู้ใช้
+++ แค่ "การใช้ภาษา ในบริเวณนี้" เป็นสิ่งจำเป็น ของ ผู้ปฏิบัติ เพื่อ "สื่อ" เท่านั้น

+++ ตรงนี้แล... ที่ผม "หลีกเลี่ยง" การใช้คำว่า "ตาทิพย์"
+++ เพราะ "ตาทิพย์" เกี่ยวพันกับ "สุขุมรูป/รูปละเอียด"
+++ และ "ภาษาว่า ตาทิพย์" นั้นเป็น "ตาจิต หรือ ตัวดู"
+++ สาธารณชน จะเข้าใจว่า เป็น "มโน" ไปทั้งหมด

+++ ตรงนี้ "ใช่"

+++ ตรงนี้ "ใช่"
+++ ฟิสิก นิวเคลียส อยู่ในส่วนของ "สังคตะ"
+++ แต่มัน "อยู่ใน" ความว่างของ "อสังคตะ"
+++ ตรงนี้ ผมชี้ระบุ ที่ "สภาวะ ว่าง/รู้"
+++ แต่ส่วนที่ "ยังเคลื่อนอยู่" ผมเพียงแค่ "กล่าวผ่านไป" เท่านั้น
+++ ว่า ณ บริเวณนี้ ผมเคย "ฝึกให้กลุ่มฝึก" หลายปีมาแล้ว
+++ และ เข้าใจผิดว่าเป็น "ใบไม้นอกกำมือ" แต่จริง ๆ มีในพระไตรปิฏก อยู่แล้ว

+++ ส่วนในกรณี "ฝุ่นตกกระทบ แล้ว ปล่อยผ่านให้มัน ทะลุไปเอง โดยไม่ ก่อเกิด"
+++ คงไม่กล่าวในโอกาสนี้ เพราะมันจะเป็น "คนละกรณี" ไป
+++ อีกนิด... ในกลุ่มละอองฝุ่น นั้น คือ "เนื้อธาตุ+ความกดดัน"
+++ ในยามที่ "กระทบ/ต่อติด แล้ว นิ่งเฉย" ตรงนั้นจะเป็น กำเนิดเนื้อ "อรูป"
+++ และอาการตรงนี้ "รูป" ยังก่อกำเนิด "ไม่ได้"
+++ เรื่องของ "รูป" นั้น ถือกำเนิด "ข้างใน" ตาพายุ
+++ หลังจาก "วิญญาณขันธ์" ถือกำเนิดแล้ว

+++ น่าจะ "ยาวเกินไป สำหรับ สาธารณชน" จึงขอยุติ ไว้แค่นี้ก่อน
+++ สำหรับ ภาษา นั้น แล้วแต่ "จริต" ที่ต่างกันออกไป
+++ และที่สำคัญ คือ มันมีประโยชน์ "ตามสายจริต" ทำให้ แพร่หลาย ได้

+++ ฮับ...

 

มันไม่ได้ปล่อยวางหรอก..

"เมื่อสิ่งหนึ่งเกิด อีกสิ่งหนึ่งก็ดับ.."

สติ ทำได้แค่ "ดำรง" หรือ ทรงสติตั้งมั่น..

แม้แต่สติยังดับ..

 

จิตมันเกิด ดับ ตลอดเวลา..

ธัมมารมณ์ มันเกิดหลังจากจิตส่งออกนอก ไปผัสสะแล้ว..

เรียงตามลำดับ..

จิต-ผัสสะ-ธัมมารมณ์

คือ ธัมมารมณ์จะเกิดได้ต้องหลังจากผัสสะเกิด..

 

ฮับ

 

พ่อเณร ไปเรียน ภาษาธรรม ก่อนก้ได้ฮับ

อย่ากลัว ตำรากัด

 

ตาเห็นรูปแล้วจิตไปเกาะโดยไม่ปรุงละเณร

 

เรายังไม่มีหน้าที่สอนอย่างละเอียด แยบคาย แบบใช้ภาษาพระไตรปิฏก..

เรามีหน้าที่สอนแบบ "ง่ายนิดเดียว"
55555555

เจาะจงตรงอาการ ของแต่ละบุคคล..

หรือ สอนแบบ วาป ไปเรื่อย..

เราแค่มาดู "ครู ครู" ทั้งหลาย..

มาให้คะแนนคุณครูทั้งหลาย..

นะ นะ นะ..

เข้าใจตรงกันนะ..

 

ฮับ

 

เราเคยบอกแล้ว "คนเมืองน้ำดำ พ่อทุกสถาบันพระโพธิสัตว์"

ไม่เคยพูดเล่น เราจริงล้วนๆ..

 

เปลี่ยนงานตัวเองอีกละ55

 

จิตไปเกาะปุ๊บ เรียกวิญญาณทางตา..

ถ้าไม่ปรุงแต่ง ก็เรียกรู้เฉย หรือ รู้ซื่อๆ ภาษาพระไตรปิฏกเรียก "สักว่า"..

ถ้าไม่ปรุงแต่งธัมมารมณ์ก็ไม่เกิด วิญญาณทางตาก็ดับไปเป็นธรรมดา..

เรียกตามพระไตรปิฏกว่า.. "สักว่า"

 

ว่าที่ "แม่ทัพธรรม รุ่น2"..

งานเยอะมาก ร่อน เอ๊ย!!

 

แล้ววอายตะภายในอยู่งัยเณร

 

มาเป็นกองเชียร์ด้วยกันเค้าอัพค่สแรงขึ้นให้แล้ว

 

มันก็อยู่ของมันเฉยๆ มันรู้เฉย..

แต่อายตนะภายในเป็นนาม..

ถ้าไม่ปรุงแต่ง ก็เป็นแต่เพียงวิญญาณ เกิด ดับ เกิด ดับ ธรรมดา..

"สักว่า" นั้นแล..