นรก - กฎนรกไร้ความปรานี

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย นิรยะ, 4 ธันวาคม 2015.

แท็ก: แก้ไข
  1. นิรยะ

    นิรยะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2015
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +30
    หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือธรรมะที่แปลมาจากหนังสือธรรมะต้นฉบับภาษาจีน เนื้อหาเกี่ยวกับการทำผิดศีลข้อสามเป็นส่วนใหญ่ เนื้อหาตามสารบัญด้านล่าง

    คำนำ

    อารัมภบท

    ๑ . มูลเหตุในการเขียนหนังสือ (๑)

    ๒. มูลเหตุในการเขียนหนังสือ (๒)

    ๓. ฟังการไต่สวนคดีในนรกขุมที่ ๗

    ๔. ผู้พิพากษาบอกว่า “ตายแล้วจึงสำนึกขอขมาแก้ไขความผิดบาปก็สายไปเสียแล้ว”

    ๕. สำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง (ชักว่าว) รับโทษในมหานรกอย่างโหดเหี้ยมน่าเวทนา

    ๖. นักเที่ยวโสเภณีรับผลกรรมในมหานรกหนึ่งแสนปี

    ๗. สภาพเหตุการณ์จริงในนรกฝ้าเพดานน้ำแข็งกงล้อหมุนและนรกป่าดาบบุปผชาติ บทลงทัณฑ์สำหรับผู้มีเพศสัมพันธ์ในหมู่เครือญาติ

    ๘. วัยรุ่นหมกมุ่นกับสิ่งลามกในอินเตอร์เน็ตจนบุญวาสนาและอายุขัยถูกบั่นทอนลงจนหมด จบชีวิตลงตอนอายุเพิ่งจะแค่๒๐กว่าๆ

    ๙ . บทลงโทษที่น่าเวทนาเป็นอย่างยิ่งจากการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง (ชักว่าว) นรกแสงกระทบตาอัณฑะเหล็ก

    ๑๐. อายุขัยบนโลกยังไม่หมด จับวิญญาณคนเป็นมาลงโทษก่อน

    ๑๑. ผู้พิพากษาตอบกลับมาอย่างจริงจังว่า “ที่แดนยมโลก พญายมราชของเราเห็นโลกมนุษย์ปล่อยบรรยากาศอัปมงคลที่แบกรับไว้จนเกินพิกัดออกมา”

    ๑๒. นรกล้อเฟืองงูและหมาป่า

    ๑๓. ได้พบพญายมราชฟงตูผู้บัญชาการสูงสุดแห่งยมโลก

    ๑๔. นรกขุมใหม่แสงไฟฟ้าหน้าจอเรืองแสง-ซัดเข็มน้ำแข็งไฟฟ้า

    ๑๕. ไขความลี้ลับของการดำรงชีวิตในภูมินรกเขตแดนสามัญชน

    ๑๖. ผู้สร้างภาพลามกอนาจารในสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตกเมื่อประมาณ ๑๙๐๐ กว่าปีก่อน ถึงตอนนี้ก็ยังคงรับทุกข์อยู่ในมหานรก

    ๑๗. ร่วมฟังการไต่สวนพิพากษาคดี-ได้พบเห็นท่านสุวรรณและท่านสุวานด้วยตาของตัวเอง

    ๑๘. ผลกรรมในนรกของผู้ที่นำหนังสือและนิตยสารรวมทั้งซีดีลามก ไปแบ่งปันให้ผู้อื่นหมุนเวียนเปลี่ยนกันดูอย่างทั่วถึง

    ๑๙. กอบกู้ร่างกายที่เปี่ยมด้วยพลังหยางของเวไนยกลับคืนมา

    ๒๐. ผลกรรมตอบสนองของการทำแท้งและวิญญาณเด็กทารกใน “เมืองร้องไห้ตายอย่างไม่เป็นธรรม”

    ๒๑. วิญญาณเด็กทารกฟ้องร้องครั้งใหญ่-คทาสิทธิ์สีเหลืองของ “เอี๋ยนหลัวหวัง”

    ๒๒. ผลกรรมตอบสนองของหมอที่ทำแท้งทั้งชาตินี้และชาติหน้า-นรกแหลกเป็นชิ้นลงทัณฑ์นักโทษหนี่งแสนปี

    ๒๓. เด็กน้อยอย่าร้องไห้เลย-ผู้พิพากษาอธิบายวิธีแก้ไขผลกรรมทำแท้งอย่างละเอียด

    ๒๔. ลูกจ๋า ! แม่รักลูก-คำพูดที่จริงใจแฝงด้วยความหมายอันลึกซึ้งของผู้พิพากษา ชี้แนะคุณแม่ทั่วหล้า

    ๒๕.《กฎนรก》ผู้หญิงที่บริสุทธิ์ไร้มลทินกับผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน

    ๒๖. 《กฎนรก》ปริศนาของฟ้าผ่าคนตาย

    ๒๗. ที่ไปของคนรักร่วมเพศ-นรกเชื่อมโยงใจ

    ๒๘. เข้าสักการะพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ที่ “หมิงกวงชูจ่วนถัง”

    ๒๙. คาถาแก้ววิเศษ อานุภาพไร้ขอบเขต-ได้เห็นสามอริยเจ้าแห่งทิศทักษิณกอบกู้ความทุกข์ยากในแดนนรก

    ๓๐. ผู้พิพากษาเปิดเผยความเป็นจริงของ “อวี้ลี่เป่าเชา” - ปกป้อง “อวี้ลี่เป่าเชา” และ “กฎนรกไร้ความปรานี” สุดกำลัง

    ๓๑. การลงทัณฑ์ในนรกอเวจีโหดเหี้ยมจนไม่อาจทนมองดูได้-สัตว์เทวะตี้ทิงชี้แนะให้บำเพ็ญประโยชน์แก่ผู้อื่น

    ๓๒. ผู้พิพากษาบอกว่า : พระแม่มารีคือนิรมาณกายของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์

    บทส่งท้าย




    คำนำ
    *กฎนรกไร้ความปรานีเล่มนี้ซั่งกวนอวี้ฮว๋าได้ทุ่มเทกายใจและสมาธิจิตเขียนออกมา เป็นงานเขียนที่สำคัญชิ้นหนึ่งของยมโลกที่ทั้งสามภพต่างก็ร่วม มือกัน ทั้งสวรรค์ นรก รวมทั้งผี เทพต่างๆ ต่างก็ฝากฝังความหวังไว้อย่างมาก มายกับหนังสือเล่มนี้ หวังว่าหนังสือเล่มนี้จะสามารถช่วยโน้มนำสภาพสังคมและจิตใจของคนให้เที่ยงตรง
    *ปัจจุบันนี้ใจคนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เลวร้าย ศีลธรรมจรรยานับวันก็ยิ่งเสื่อมถอยลง ดังนั้นจึงได้นำสภาพความเป็นจริงของนรกออกมาป่าวประกาศเพื่อกอบกู้คนที่มีรากบุญกลับคืนมา
    *ครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์เป็นพิเศษจากยมโลก เพราะพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ประสงค์ให้ป่าวประกาศสิ่งที่ได้ยินสิ่งที่ได้เห็นทั้งหมดออกมาให้ชาวโลกได้รับรู้เป็นกรณีพิเศษและในปีนี้หนังสือกฎนรกไร้ความปรานีเล่มที่๑ได้เขียนเสร็จแล้ว หวังว่าหนังสือเล่มนี้จะช่วยสลายภัยพิบัติให้ลดน้อยลง


    เหวินซูหมอเจี๋ย ปีเยิ่นเฉิน ๒๐๑๒
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2015
  2. นิรยะ

    นิรยะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2015
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +30
    อารัมภบท

    *อาหมีถัวฝอ! สวัสดีทุกๆท่าน
    *ขอให้โลกนี้สงบสุขเกิดสันติภาพศึกสงครามยุติลง
    *ขอให้สรรพชีวิตทั้งปวงในอากาศธรรมธาตุเบิกบานมีความสุข สงบร่มเย็น
    *ขอให้สรรพชีวิตทั้งปวงในธรรมธาตุหลุดพ้นเกิดตาย ออกจากสามภพ พ้นจากกองทุกข์ได้รับความสุข
    *ขอให้สรรพชีวิตทั้งปวงในธรรมธาตุได้สดับฟังพระสัทธรรม ประคองรักษาศีลวินัยให้บริสุทธิ์
    *ขอให้โลกของพวกเราสามารถฟื้นฟูสนามแม่เหล็กกลับคืนสู่ความสมดุลได้ในเร็ววัน
    *ขอให้เวไนยทั้งหลายที่มีบุญสัมพันธ์ได้พบเจอหนังสือเล่มนี้และสามารถกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนใหม่ นำหนังสือนี้ไปเผยแพร่บอกต่อคนใกล้ชิด รู้จักรักและทะนุถนอมกายสังขารอันล้ำค่าของมนุษย์ที่ได้มาโดยยากนี้ ประคองรักษาศีล๕ให้สะอาดบริสุทธิ์ บำเพ็ญปฏิบัติธรรมให้ดีๆ ยกระดับพุทธจิตของตัวเอง สามารถหลุดพ้นเกิดตายได้ในเร็ววัน ให้พุทธจิตของพวกเราก้าวเข้าสู่แสงสว่าง ถ้าหากพุทธจิตของทุกคนเกิดความสว่างไสวก็จะนำมาซึ่งความสมดุลของธรรมชาติและจักรวาล พวกเราก็จะไม่ต้องมีกรรมร่วมขนาดใหญ่และภัยธรรมชาติที่มากมาย ดังนั้นจึงสามารถพูดได้ว่าจักรวาลทั้งหมดมีความเชื่อมโยงกับตัวเรา เราต้องปฏิบัติตัวเองให้ดีก่อน เพราะตัวเราเองก็คือจักรวาลน้อยที่เชื่อมโยงถึงจักรวาลใหญ่ จาก๑เกิด๒ จาก๒เกิดสรรพสิ่ง ทุกสรรพสิ่งกลับคืนสู่ความเป็นหนึ่ง ทุกคนไม่แบ่งเขาแบ่งเรา ทุกสิ่งล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่น อย่าสำคัญผิดคิดว่าทำเรื่องที่ปิดๆบังๆซ่อนเร้นแล้วจะไม่มีใครรู้ ความคิดดีเลวเพียงชั่วขณะความคิด ก็เชื่อมตรงถึงยมโลกถูกบันทึกไว้ในบัญชีบุญบาป
    *พระพุทธะโพธิสัตว์เมตตาเห็นว่าสภาพสังคมในปัจจุบันนี้กำลังตกต่ำ เพราะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีความเจริญก้าวหน้า ใจคนก็เริ่มเปลี่ยนไปในทางที่เลวร้าย ไม่เชื่อในกฎแห่งกรรม คิดว่านี่เป็นความคิดที่ล้าหลังไม่สอดคล้องกับสมัยนิยม แม้แต่จิตใจของเด็กๆก็ไม่บริสุทธิ์เหมือนสมัยก่อนแล้ว แล้วนับประสาอะไรกับผู้ใหญ่ หารู้ไม่ ว่าได้สูญเสียประเพณีโบราณอันดีงามในอดีตที่ปราชญ์ขงจื่อ เมิ่งจื่อ ถ่ายทอดสืบต่อกันมา
    *ความคิดและจิตใจของคนในยุคนี้ยอมรับและเปิดกว้างมากขึ้นยกตัวอย่างเช่น อยู่ในตลาดขายเสื้อผ้าจะเห็นว่ามีทั้งเสื้อในสายเดี่ยว เกาะอก ทุกวันนี้ทุกๆคนต่างก็เห็นเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่ในสมัยโบราณถ้าผู้หญิงจะสวมใส่แบบนี้ย่อมเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้อย่างเด็ดขาด ปัจจุบันจะเห็นร้านเฉพาะสำหรับผู้ใหญ่ได้ทั่วทุกที่ แม้แต่ตามแผงหนังสือก็จะพบเห็นนิตยสาร วารสารที่หน้าปกรวมทั้งเนื้อหาภายในเป็นรูปนายแบบนางแบบที่สวมใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นเผยให้เห็นสัดส่วนต่างๆของร่างกาย เด็กๆไปโรงเรียนต้องพบเห็นทุกวันหากไม่คิดอยากจะไปเรียนรู้สิ่งที่ไม่ดีเหล่านี้ก็เป็นที่เรื่องยาก พระพุทธะโพธิสัตว์รู้สึกว่าโลกมนุษย์ขาดการอบรมสั่งสอนทางด้านจิตวิญญาณอย่างร้ายแรง เป็นกังวลกลัวว่าจิตญาณของเวไนยจะตกต่ำ ภัยพิบัติก็จะมาเยือนติดต่อกันอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย ถึงแม้ในโลกนี้จะมีคนที่มีกุศลจิตพิมพ์บทความหรือข่าวสารที่ช่วยกอบกู้สภาพสังคมที่เลวร้ายในปัจจุบันออกมาแจกจ่ายบ้าง แต่เวไนยก็ยังไม่ละความชั่วแล้วหันมาทำความดี เมื่อสิ้นอายุขัยก็จะต้องตกนรกรับการลงโทษที่โหดร้ายทารุณต่างๆอย่างถึงที่สุดไม่มีวันได้หลุดออกมาแม้แต่วันเดียว
    *เง็กเซียนฮ่องเต้เมตตา เห็นนรกเต็มจนล้นทะลักแล้ว และยังต้องสร้างนรกขุมใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างต่อเนื่อง ที่ยิ่งกว่านั้นคือในนรกแห่งกามามีเด็กๆอายุน้อยจำนวนมากที่ได้รับการลงโทษอย่างทุกข์ทรมานอยู่ในนั้น ทั้งหมดก็มาจากการที่พวกเขาขาดการอบรมสั่งสอนทางด้านความคิดในเรื่องเหตุต้นผลกรรม
    *ดังนั้นเง็กเซียนฮ่องเต้จึงขอคำชี้แนะเป็นพิเศษจากพระพุทธะ ให้พระพุทธะจัดหาลูกศิษย์ในพระรัตนตรัยที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์คนหนึ่งซึ่งมีความเหมาะสมพร้อมแบกรับหน้าที่นี้ และต้องเป็นคนที่รักษาศีลวินัยอย่างสะอาดบริสุทธิ์ มีสภาวะที่รู้ตื่น มีสติเข้าใจอะไรได้กระจ่างชัดเจนลงไปเยี่ยมชมนรกแล้วกลับมายังโลกมนุษย์เขียนออกมาเป็นหนังสือที่บันทึกถึงสภาพเหตุการณ์ในนรกอย่างละเอียดให้เวไนยบนโลกมนุษย์ได้รับรู้โดยใช้ชื่อหนังสือว่า “กฎนรกไร้ความปรานี” หนังสือนี้ถูกเขียนขึ้นหลังจากที่ได้ไปเข้าชมนรกในแต่ละครั้งด้วยภาษาที่ธรรมดาๆเข้าใจง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกครั้งที่เขียนเสร็จจะต้องผ่านการแก้ไขให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงที่ได้ดูมาจึงสามารถตีพิมพ์ออกมาได้ บางครั้งเพื่อเขียนบทความเพียงแผ่นเดียวอาอวี้จะต้องไปๆมาๆในนรกหลายครั้งเพื่อตรวจสอบเนื้อหาว่าเป็นความจริง ดังนั้นจึงไม่เหมือนกับในสมัยก่อนที่นิยมเขียนหนังสือธรรมะประเภทนี้ออกมาด้วยการทับประทรงประคองไม้เขียนบนกระบะทราย หรือการประทับทรงแบบเต็มร่าง รวมทั้งการพูดถึงสิ่งลี้ลับปาฏิหาริย์ที่ได้พบเจอในความฝัน
    *เง็กเซียนฮ่องเต้หวังว่าครั้งนี้เป็นครั้งบุกเบิก ให้ข้าพเจ้าซั่งกวนอวี้ฮว๋านำสภาพเหตุการณ์ในนรกออกมาป่าวประกาศให้คนรู้ไปทั่วโลก สามารถทำให้คนบนโลกเกิดความตื่นตัวบำเพ็ญจิตหล่อเลี้ยงธรรมญาณ จากนี้ไปไม่ทำผิดบาปอีก ก็จะทำให้โอกาสที่จะต้องตกนรกลดน้อยลง ถ้าหากสามารถกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนใหม่และนำสภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในนรกเหล่านี้ไปบอกต่อๆกัน ทำให้คนจำนวนมากเกิดความตื่นตัวแก้ไขความชั่วหันมาทำความดีสร้างบุญสร้างกุศล บางทีอาจจะสามารถได้รับการยกเว้นผ่อนผันผลกรรมในนรกที่เคยทำไว้ในอดีต ได้ไปเกิดในแดนสุขาวดี หรือหากเป็นผู้หญิงก็สามารถได้เกิดใหม่เป็นผู้ชาย ซึ่งผลสรุปที่แน่นอนจะต้องให้พระพุทธะโพธิสัตว์รวมทั้งเหตุต้นผลกรรมของแต่ละคนมาเป็นผู้ตัดสิน
    *ชีวิตของแต่ละคนจะต้องก้าวขึ้นสู่บันไดแห่งแสงสว่าง ต้องหลงเหลือก้าวย่างที่มั่นคงไว้ให้เวไนยที่มีจิตสำนึกขอขมาแก้ไขความผิดบาปอย่างจริงใจได้ก้าวย่างต่อไป ให้เวไนยได้รู้ว่าปลูกเหตุดีย่อมได้รับผลดี ปลูกเหตุที่ไม่ดีก็ต้องได้รับผลที่ไม่ดีตอบสนอง เหตุต้นผลกรรมดุจดั่งเงาตามตัว ไม่ใช่ไม่ตอบสนอง เพียงแต่เวลายังมาไม่ถึง
    *เมื่อไม่นานมานี้พระพุทธะได้ชี้แนะอาอวี้ ให้อาอวี้ไปเข้าชมนรก แล้วกลับมาเขียนหนังสือเพื่อให้ทุกท่านได้เข้าใจในเหตุต้นผลกรรม จะได้ประคองรักษาศีลวินัยให้สะอาดบริสุทธิ์ ใครที่ยังไม่ได้รักษาศีลจะได้รักษาศีลให้ดีๆ สำหรับใครที่รักษาศีลอยู่แล้วก็ยิ่งต้องเพิ่มความก้าวหน้าขึ้นอีกขั้น หมั่นยก ระดับจิตของตนเองอย่างต่อเนื่องและหมั่นทำเรื่องที่เป็นประโยชน์แก่เวไนย
    *อาอวี้คือศิษย์สาวกของพระพุทธะ ถือศีล๕และยึดพระรัตนตรัยเป็นสรณะ รู้สึกว่าช่างโชคดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่พระพุทธะเมตตาให้อาอวี้ได้ลองทำงานในส่วนนี้ ในกษิติครรภ์โพธิสัตว์มูลปณิธานสูตรกล่าวว่า “หากไม่ใช่ด้วยฤทธานุภาพก็จะต้องเป็นแรงกรรม” แท้ที่จริงแล้วถ้าหากไม่มีพุทธานุภาพคอยปกปักคุ้มครอง ลำพังเพียงแค่วาสนา คุณธรรมและสติปัญญาของตัวอาอวี้เองนั้น ยังไม่เพียงพอที่จะแบกรับภาระหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์นี้ได้ แต่อาอวี้จะทะนุถนอมโอกาสนี้ไว้ให้ดีและพยายามอย่างสุดความสามารถไปทำภาระหน้าที่นี้ให้สำเร็จลุล่วงตามพระประสงค์ของพระพุทธะทีเมตตาจัดวางมอบหมายภาระหน้าที่นี้ให้
    *มีคำพูดประโยคหนึ่งกล่าวว่า “ปกป้องธรรมคือพุทธะ เผยแพร่ธรรมะออกไปให้ยิ่งใหญ่คือโพธิสัตว์” ความจริงแล้วบุญกุศลทั้งปวงที่มี ล้วนมาจากพระพุทธะ พระพุทธะอยู่เบื้องหลังคอยจัดการวางแผนต่างๆมากมาย อีกทั้งคอยสนับสนุน เพียงแต่ว่าพวกเราทุกคนไม่รู้และไม่สามารถสัมผัสได้เท่านั้นเอง ดังนั้นทุกคนต้องพยายามรักษาศีลตอบแทนพระคุณของพระพุทธะและพระคุณของอาจารย์

    *ศิษย์ผู้ละอายใจ ซั่งกวนอวี้ฮว๋าจรดปากกาด้วยความเคารพ
     
  3. นิรยะ

    นิรยะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2015
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +30
    *รูปเคารพของสามอริยเจ้าแห่งทิศทักษิณ ได้แก่รูปของพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์(องค์กลาง) เต้าหมิงฝ่าซือ(องค์ขวา) หมิ่นกงฮู่ฝ่า(องค์ซ้าย) และสัตว์เทวะตี้ทิง(อยู่ใต้บัลลังก์บัว) อุบาสิกาซั่งกวนอวี้ฮว๋าเขียนหนังสือเล่มนี้จากประสบการณ์ที่ได้พบเห็นด้วยตาตัวเองจริงๆและได้เชิญจิตรกรให้วาดออกมาด้วยความเคารพ จากนั้นให้พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ชี้แนะแก้ไขจนสำเร็จลุล่วงอย่างถูกต้อง เป็นสิ่งที่ล้ำค่าและหาได้ยากยิ่งจนไม่คาดคิดว่าจะได้มา
    *หากผู้อ่านและผู้ร่วมบำเพ็ญมองด้วยความเคารพมีจริยะ กราบไหว้และสวดท่องจะสามารถสลายเภทภัยและเพิ่มบุญวาสนา ครอบครัวจะร่มเย็นเป็นสุข ได้ร่วมเกิดในแดนวิสุทธิภูมิและได้สำเร็จพุทธมรรคในชาติต่อไป
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. นิรยะ

    นิรยะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2015
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +30
    กฎนรกไร้ความปรานี ตอนที่ ๑
    มูลเหตุในการเขียนหนังสือ (๑)
    -อาศัยพลานุภาพของพระตถาคตขึ้นสวรรค์

    สำนึกคุณพุทธานุภาพปกปักคุ้มครอง ! ขึ้นบัวขาวออกเดินทาง !
    อาหมีถัวฝอ ! อาอวี้ยกมือไหว้ผู้พิพากษาคดีความในนรกภูมิ !
    *อาอวี้ขอเรียนถามผู้พิพากษา : “ตอนที่พญายมราชฟงตูถวายรายงานเง็กเซียนฮ่องเต้ว่าต้องการแต่งหนังสือ《กฎนรกไร้ความปรานี》เพื่อตักเตือนชาวโลกนั้น เง็กเซียนฮ่องเต้มีชี้แนะว่าอย่างไรบ้างค่ะ ?”
    *ผู้พิพากษาพูดว่า : “เรากำลังมีงานราชการจะขึ้นไปรายงานเง็กเซียนฮ่องเต้บนสวรรค์อยู่พอดี เดี๋ยวจะพาท่านขึ้นบนสวรรค์ไปเข้าเฝ้าเง็กเซียนฮ่องเต้พร้อมกันเลย”
    *ข้าพเจ้ารู้สึกเบิกบานใจและสำนึกคุณผู้พิพากษา พวกเราเหาะไปบนสวรรค์แล้ว ตอนที่ข้าพเจ้าเหาะสูงขึ้นจากพื้นดินประมาณ ๖๐๐๐ เมตรนั้น รู้สึกถึงความวิสุทธิ์สงบอย่างชัดเจน มองเห็นเทวดาจำนวนหนึ่งเหาะเหินไปมาและมองเห็นพระราชวัง ปราสาทราชวังบนสวรรค์เปล่งแสงได้ด้วย ทั้งยังประณีตงดงามต่างจากตึกรามบ้านช่องในโลกมนุษย์ที่ไม่มีสีสันแวววาว
    *ตอนนี้มาถึงหน้าประตูทางเข้ามหาราชวังแล้ว บนหน้าปะตูทางเข้ามีตัวอักษรใหญ่ๆ ๓ ตัว เขียนว่า “ท้าวสักกะ”「帝釋天ตี้ซื่อเทียน」และมีขุนพลสวรรค์ ๒ นาย ถืออาวุธไว้ในมือ รูปร่างสูงใหญ่ลักษณะน่าเกรงขาม ดูเหมือนพวกเขาจะรู้จักพวกเรา ๒ คน พวกเขายิ้มให้แล้วต้อนรับพวกเราอย่างมีมารยาท ผู้พิพากษาแจ้งให้พวกเขาทราบว่าพวกเราต้องการเข้าเฝ้าเง็กเซียนฮ่องเต้ ขุนพลสวรรค์ทั้ง ๒ นาย บอกว่าเมื่อครู่นี้เง็กเซียนฮ่องเต้กำชับไว้ว่าถ้าหากพวกเรามาถึง ไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบ สามารถเข้าไปด้านในได้ทันที เมื่อขุนพลสวรรค์ทั้ง ๒ นายพูดจบก็ไปยืนที่ ๒ ฟากข้างของประตู แล้วประตูก็ขยับเปิดเอง จากนั้นพวกเราก็เดินเข้าไปข้างใน
    *พระราชวังแห่งนี้ไม่เพียงแต่ใหญ่โตเท่านั้นยังมีความอลังการสง่างามเป็นอย่างยิ่ง เปล่งแสงเป็นประกาย เหล่านางฟ้าทุกนางก็ล้วนหน้าตางดงามมีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวที่ไม่ธรรมดา หญิงสาวที่สวยที่สุดในโลกมนุษย์เมื่อมาถึงที่นี่ก็จะดูหมองมัวหมดราศีลงไปในทันที ร่างของเทวดาก็คือร่างที่ผุดขึ้นเป็นตัวเป็นตนและโตเต็มที่ในทันทีแบบโอปปาติกะเช่นเดียวกันกับเวไนยในนรก แต่ความรู้สึกนั้นแตกต่างกัน เหล่าเทวดามีความอิสระเสรีดูเพลิดเพลินมีความสุข บนสวรรค์ไม่มีความทุกข์ทรมานใดๆ เสื้อผ้าอาภรณ์ที่สวมใส่ก็เบาหวิวและมองไม่เห็นร่องรอยของการเย็บ เสื้อผ้าอาภรณ์บนสวรรค์ไร้ตะเข็บรอยต่อจริงๆ ตอนที่ข้าพเจ้าขึ้นมาบนสวรรค์รู้สึกว่าความจริงแล้วโลกมนุษย์ช่างสกปรกเหลือเกิน ส่วนตอนที่ข้าพเจ้าลงไปในนรกก็รู้สึกว่าความจริงนั้นโลกมนุษย์ช่างดีเหลือเกิน ด้วยเหตุนี้มนุษย์จะต้องยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น ยิ่งสูงขึ้นก็ยิ่งวิสุทธิ์สงบ ยิ่งตกต่ำก็ยิ่งทุกข์ทรมาน
    *มีนางฟ้านางหนึ่งเข้ามานำทางให้พวกเรา ตอนนี้เบื้องหน้าปรากฏมหาราชวังสีทองเหลืองอร่ามให้เห็น พระราชวังใหญ่โตมโหฬารจริงๆ เมื่อพวกเราเข้าไปด้านในแล้วนางฟ้าได้กราบทูลเง็กเซียนฮ่องเต้ว่า ผู้พิพากษาคดีความในนรกภูมิพร้อมด้วยหญิงสามัญชนจากโลกมนุษย์ซั่งกวนอวี้ฮว๋ามาขอเข้าเฝ้า
    *ที่นั่งอยู่ด้านบนสุดกลางพระราชวังก็คือเง็กเซียนฮ่องเต้ เง็กเซียนฮ่องเต้ดูสง่างามและมีเมตตา พระเศียรสวมมหามงกุฎจักรพรรดิแบบจีนสมัยโบราณเป็นมงกุฎสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีแผงม่านลูกปัดห้อยระย้าประดับลงมาทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พระพักตร์ของเง็กเซียนฮ่องเต้มองแล้วทำให้เกิดจิตที่เคารพเลื่อมใส ฉลองพระองค์ของเง็กเซียนฮ่องเต้มีสีสันจางๆแผ่กระจายออกมาอย่างนุ่มนวลถึงเจ็ดสี ถึงแม้ว่าจะมีถึงเจ็ดสี แต่ว่าไม่ได้ทำให้แสบตาแม้แต่นิดเดียว ทั้งยังรู้สึกมีลำดับขั้นที่เป็นมิติอย่างมาก มองแล้วรู้สึกสบายใจยิ่งนัก แสงอันโชติช่วงชัชวาลที่ออกมาจากดวงจิตอันสว่างไสวของเง็กเซียนฮ่องเต้ปกแผ่ครอบคลุมไปทั่วทั้งสวรรค์
    *ผู้พิพากษาถวายบังคมเง็กเซียนฮ่องเต้ ข้าพเจ้าก็คุกเข่าลงแล้วถวายบังคมด้วยเช่นกัน เวลานี้เง็กเซียนฮ่องเต้ทรงตรัสด้วยน้ำเสียงที่เมตตาว่า : “ซั่งกวนอวี้ฮว๋า เธอลุกขึ้นเถอะ เธออยากจะถามเราเรื่องการแต่งหนังสือ《กฎนรกไร้ความปรานี》ใช่หรือไม่ ?”
    *ฉลองพระองค์ของเง็กเซียนฮ่องเต้เปลี่ยนสีไปแล้ว ! เมื่อครู่นี้ยังเป็นเจ็ดสีอยู่เลยแต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีขาว สีเมล็ดข้าว สีเขียวอ่อน สีทอง เสื้อผ้าอาภรณ์ของสวรรค์ไร้ตะเข็บรอยต่อ ประหยัดเวลาตัดเย็บ แถมยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามใจ ช่างเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ขาดคิดไม่ถึงเลยจริงๆ
    *ข้าพเจ้าตอบว่า : “ใช่ เพค่ะฝ่าบาท ! หม่อมฉันอยากทูลถามพระองค์ถึงมูลเหตุในการแต่งหนังสือ《กฎนรกไร้ความปรานี》เพค่ะ”
    *เง็กเซียนฮ่องเต้ทรงทอดถอนพระราชหฤทัยด้วยความหดหู่แล้วทรงตรัสว่า : “เวไนยบนโลกมนุษย์รวมทั้งเวไนยทั้งหลายในทุคติภูมิทั้ง ๓ ไม่นับรวมเวไนยจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นส่วนน้อยนิดที่มีบุญสัมพันธ์กับพระพุทธะโพธิสัตว์จากพุทธภูมิอื่น ซึ่งพระพุทธะโพธิสัตว์เหล่านั้นก็มีปณิธานลงมายังโลกมนุษย์เพื่อฉุดช่วยเวไนยที่มีบุญสัมพันธ์กับตนเองภายนอกพุทธภูมิของตน นอกจากนั้นเวไนยที่เหลืออยู่ทั้งหมดล้วนเป็นเวไนยที่อยู่ภายใต้การปกครองของสวรรค์ ต่างก็เป็นขุนนางและชาวประชาของเราทั้งสิ้น ภายหลัง หลังจากที่พวกเขาได้ลงไปเกิดยังโลกมนุษย์ด้วยตัวเอง ก็คล้อยตามไปตามกระแสของคนบนโลก เจอสิ่งไม่ดีต่างๆทำให้จิตใจแปดเปื้อนจนเกิดเป็นนิสัยความเคยชินที่ไม่ดี ยิ่งนับวันก็ยิ่งทำให้เกิดระยะห่างระหว่างพวกเขากับสวรรค์มากยิ่งขึ้น คนที่จะสามารถกลับคืนสู่สวรรค์บ้านเกิดได้ก็ยิ่งลดน้อยลง ความคิดที่ไม่ดีของเวไนยบนโลกมนุษย์ที่ส่งออกไปภายนอกทุกวันนั้น ทำลายสภาวะแวดล้อมและที่อยู่อาศัยบนสวรรค์อย่างรุนแรง ทำให้มหาราชวังของเรามืดสลัวหมดราศีลง ในช่วงระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ จิตใจคนเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ดูถูกดูแคลนและไม่เชื่อในกฎแห่งกรรม มองเห็นเรื่องกามตัณหาลามกเป็นพฤติกรรมที่น่ายกย่อง ทำให้เกิดบรรยากาศที่เป็นอัปมงคลอย่างยิ่ง บรรยากาศอัปมงคลจากกามตัณหาลามกเหล่านี้พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าดุจดั่งดาบคม เมฆหมอกที่มีพิษร้ายแรงนี้แผ่ปกคลุมไปทั่วทั้งสวรรค์ เมื่อเป็นเช่นนี้ ต่อไปอีกไม่นานเวไนยบนโลกมนุษย์ก็จะต้องตกนรกกันหมด
    *ตอนที่เรากำลังครุ่นคิดอยู่ว่าจะแก้ไขปัญหามหันตภัยของโลกนี้อย่างไรดีนั้น พญายมราชฟงตูก็ได้ส่งหนังสือราชการสารด่วนยมโลกถวายรายงานขอคำชี้แนะจากเรา อธิบายว่านรกเต็มจนล้นทะลักแล้ว เจ้าหน้าที่ๆทำงานก็ขาดแคลนอย่างมาก ดังนั้นจึงกำหนดให้แพร่งพรายความลับสวรรค์ครั้งใหญ่ ต้องการหาชาวโลกที่มีความเหมาะสม มาเข้าเยี่ยมชมนรกแล้วกลับไปเขียนหนังสือชื่อว่า「陰律無情อินลวี่อู๋ฉิง」《กฎนรกไร้ความปรานี》เผยแพร่สู่โลกมนุษย์ อาศัยหนังสือนี้มากอบกู้สภาพสังคมให้สำเร็จลุล่วง ชำระจิตใจคนให้สะอาดบริสุทธิ์ หลังจากนั้นเราก็เชิญพุทธะวาสนาปัญญาสมบูรณ์มา เพื่อสอบถามถึงผู้บำเพ็ญในโลกมนุษย์ที่มีความเหมาะสม พร้อมที่จะแบกรับภาระนี้ แน่นอนว่าคนๆนั้นจะต้องเป็นคนทีมีสภาวะรู้ตื่นมีสติเข้าใจอะไรๆได้กระจ่าง ลงไปเยี่ยมชมนรกแล้วนำสภาพความเป็นจริงที่ได้พบเห็นกลับมาเขียนเป็นหนังสือบนโลกมนุษย์ ดังนั้นเธอจะต้องแบกรับภาระหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ในส่วนนี้ให้ดี จะได้ไม่ผิดต่อเราที่มอบหมายภารกิจนี้ให้
    *ภูมิลำเนาเดิมของเวไนยทั้งหลายล้วนมีต้นกำเนิดอยู่ในสวรรค์ ตอนนี้พวกเธอได้แยกภูมิลำเนาไปเกิดยังโลกมนุษย์ การตกนรกก็เป็นการแยกภูมิลำเนาไปอยู่ในนรก นรกก็เหมือนกับคุกตะรางที่เอาไว้ขังเวไนยที่ทำผิด รอจนกระทั่งเวไนยเกิดจิตสำนึกขอขมาแก้ไขความผิดบาปกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนใหม่ จึงได้กลับคืนสู่สวรรค์ 《กฎนรกไร้ความปรานี》นรกคือ ยมโลกนรก กฎคือ กฎของของพุทธะ กฎของฟ้า กฎของดิน กฎของมนุษย์ หากเวไนยบนโลกมนุษย์ละเมิดศีลวินัย ฝ่าฝืนกฎหมายก็จะต้องตกสู่ยมโลกนรก ได้รับผลกรรมตอบสนองที่ไร้ความเมตตาปรานีอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้ยามที่มีชีวิตอยู่ คนที่ทำความดีก็จะไม่ตกนรก คนที่สร้างบาปกรรม กฎนรกก็จะไร้ความปรานีต่อพวกเขา หากต้องการหลีกเลี่ยงผลกรรมตอบสนองที่ไร้ความปรานีของกฎนรก ทุกคนจะต้องทำความดี บำเพ็ญธรรมชำระจิตใจให้สะอาด ก็จะสามารถยกระดับให้สูงขึ้นไปถึงสวรรค์ได้อย่างแน่นอน
    *เราได้แต่งตั้งเทวดาให้ไปคอยปกปักคุ้มครองเธอในการเขียนหนังสือเล่มนี้แล้ว หวังว่าหนังสือเล่มนี้จะออกมาเผยแพร่บนโลกมนุษย์ให้ไวที่สุดเท่าที่จะไวได้ เพื่อชำระล้างจิตใจของผู้คนให้สะอาดบริสุทธิ์ ให้เวไนยล้วนสามารถกลับคืนสวรรค์บ้านเดิมได้ตามกำหนดเวลา
    *หากชาวโลกได้อ่านหนังสือ《กฎนรกไร้ความปรานี》เล่มนี้แล้ว สามารถกลับตัวเป็นคนใหม่อีกทั้งพิมพ์หนังสือนี้เผยแพร่ ทุกสิ่งที่เขาปรารถนาจะวอนขอหากเป็นสิ่งที่ดี เราจะส่งเทวดาที่มีบุญสัมพันธ์กับเขาไปช่วยทำให้ความปรารถนาของเขาสมบูรณ์ หวังว่าเวไนยจะไปสัมผัสรู้และเข้าใจถึงเจตนาลึกๆของเรา ซั่งกวนอวี้ฮว๋า ! ผลไม้นี่เธอกินหรือยัง !”
    *ข้าพเจ้ารู้สึกเบิกบานใจ มือทั้งคู่รับผลไม้ไว้แต่ยังไม่ได้กิน ภายในใจกำลังคิดว่าควรถวายอะไรเป็นของขวัญให้เง็กเซียนฮ่องเต้ดี
    *ได้ยินเง็กเซียนฮ่องเต้ถามว่า : “ทำไมเธอไม่กิน?”
    *ข้าพเจ้าตอบด้วยจิตที่สำนึกคุณว่า : “พระมหากรุณาธิคุณของฝ่าบาท หม่อมฉันจะขอนำกลับไปให้คุณพ่อที่อยู่บนโลกมนุษย์เพค่ะ”
    *เง็กเซียนฮ่องเต้ทรงตรัสว่า : “ จิตที่กตัญญูของเธอนี้ ช่างน่ายกย่องสรรเสริญ แต่บุญวาสนาของพ่อเธอในตอนนี้ ยังไม่เพียงพอที่จะสามารถกินผลไม้นี้ได้ ผลไม้เซียนนี่เธอยังจะกินอยู่รึป่าว ! ต่อไปภายหน้าเมื่อ《กฎนรกไร้ความปรานี》เขียนเสร็จและออกเผยแพร่สู่โลกมนุษย์ ก็พูดได้ว่านี่คือของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับเราแล้ว ”
    *ข้าพเจ้ากินผลไม้เซียนนี้แล้ว ผลไม้เซียนนี้นอกจากจะดูสดใหม่ ยังหวานสดชื่นในปาก ทำให้ร่างกายสะอาดและเบาสบาย อยู่บนโลกมนุษย์ไม่เคยได้กินผลไม้ที่งดงาม หวาน และสดสะอาดเช่นนี้มาก่อนเลยจริงๆ ร่างกายของอาอวี้เปี่ยมไปด้วยพลังในทันที กลับไปแล้วจะต้องเอาสิ่งที่ได้พบได้เห็น ได้ยินได้ฟัง ไปเขียนออกมาอย่างจริงจัง ขอสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่เง็กเซียนฮ่องเต้คอยดูแลเอาใจใส่ ให้ความเป็นห่วงเป็นใย
    *“อาหมีถัวฝอ ! หม่อมฉันซั่งกวนอวี้ฮว๋า ขอบพระทัยฝ่าบาท หม่อมฉันขอทูลลา”
    *หลังจากที่ผู้พิพากษาให้ข้าพเจ้ายึดเวลาของเขาไปใช้ซะนาน ในที่สุดผู้พิพากษาก็สามารถเริ่มถวายรายงานของเขาได้ซะที
    *ขอสำนึกคุณผู้พิพากษา อาอวี้พนมมือลา
    *สวรรค์วิสุทธิ์สงบเช่นนี้ ถ้าหากไม่ใช่ว่าจะต้องรีบกลับไปเขียนหนังสือแล้วล่ะก็ ใจจริงก็อยากจะนั่งบำเพ็ญฌานสมาธิอยู่ที่นี่ แต่เวลาก็เร่งกระชั้น คงต้องขึ้นบัวขาวกลับไปก่อน
     
  5. นิรยะ

    นิรยะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2015
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +30
    กฎนรกไร้ความปรานี ตอนที่ ๒

    มูลเหตุในการเขียนหนังสือ ( ๒ )
    -เข้าพบพญายมราชฟงตูผู้บัญชาการสูงสุดในยมโลก

    สำนึกคุณพุทธานุภาพปกปักคุ้มครอง ! ขึ้นดอกบัวขาวออกเดินทาง !
    อาหมีถัวฝอ ! อาอวี้พนมมือสวัสดีผู้พิพากษาคดีความในนรกภูมิ
    *“ขอเรียนถามผู้พิพากษา อาอวี้อยากทราบว่าการเขียนหนังสือ《กฎนรกไร้ความปรานี》ในช่วงแรกสุดควรจะเริ่มต้นอย่างไรดีค่ะ ?”
    *ผู้พิพากษา : “ ช่วงก่อนหน้านี้นรกของพวกเราได้เรียกประชุมเร่งด่วนไปแล้วครั้งหนึ่ง พญายมรวมทั้งข้าราชการในนรกทั้ง ๑๒ ขุม ต่างได้รับหนังสือราชการสารด่วนยมโลกที่พญายมราชฟงตูส่งมา ผู้บัญชาการสูงสุดในนรกของพวกเราคือพญายมราชฟงตู พญายมราชที่เป็นผู้บัญชาการสูงสุดมีเพียงท่านเดียวเท่านั้น ผู้ที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของพญายมราชยังมีพญายมจากนรกอีก ๑๒ ขุม ในสมัยก่อน นรกมีเพียง ๑๐ ขุม มีพญายมเพียง ๑๐ ท่าน ปัจจุบันได้มีการสร้างนรกขุมใหม่ๆเพิ่มขึ้นมา ที่นรกขุมใหม่มีพญายมเพิ่มขึ้นอีก ๒ ท่าน นรก ๑๒ ขุมมีพญายมทั้งหมด ๑๒ ท่าน แบ่งออกเป็นผู้บัญชาการ ๑๒ ขุม มีนรกน้อยใหญ่ต่างๆอยู่ภายใต้บังคับบัญชา และพญายมทั้ง ๑๒ ขุมนี้ก็รับคำสั่งจากพญายมราชฟงตู
    *สาระสำคัญภายในหนังสือราชการสารด่วนยมโลกคือ พญายมราชฟงตูเห็นว่านรกเต็มจนล้นทะลักแล้ว ขณะนี้ต้องสร้างนรกขุมใหม่ๆเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งข้าราชการและเจ้าหน้าที่รวมทั้งพนักงานที่ทำงานในนรกตอนนี้กำลังขาดแคลนอย่างหนัก ยิ่งไปกว่านั้น ทนไม่ได้ที่จะเห็นเวไนยบนโลกมนุษย์จะต้องตกนรกครั้งแล้วครั้งเล่า จึงกราบทูลเง็กเซียนฮ่องเต้ให้จัดส่งมนุษย์โลกที่ถือศีลสะอาดบริสุทธิ์ ๑ คน มาเข้าชมการลงโทษในนรก แล้วกลับไปเขียนหนังสือชื่อว่า《กฎนรกไร้ความปรานี》อาศัยหนังสือเล่มนี้มากล่อมเกลาชำระล้างจิตใจคนให้สะอาดบริสุทธิ์ กอบกู้จิตวิญญาณของเวไนยที่กำลังหลงทางให้รู้จักทำความดีสะสมบุญ ทำให้สามารถได้รับความสงบสุขตลอดอายุขัย เมื่อสิ้นอายุขัยแล้วก็ได้ไปเกิดในแดนสุขาวดีไม่ต้องตกนรก และมนุษย์ที่รับภาระหน้าที่นี้ก็คือท่าน “ซั่งกวนอวี้ฮว๋า” ยมโลกได้มอบคทาอาญาสิทธิ์ให้ท่านไว้ติดตัวในระหว่างที่เขียนหนังสือ เพื่อให้ท่านสามารถเข้าออกนรกได้ตามใจปรารถนา อีกทั้งได้จัดผู้พิพากษาไว้เป็นกรณีพิเศษ ๑ ท่านเพื่อมาคอยนำพาท่าน “ซั่งกวนอวี้ฮว๋า” หรือก็คือ “อาอวี้” เข้าชมนรกอย่างใกล้ชิด และคอยตอบปัญหาข้อสงสัยของท่าน ถ้าหากว่าผู้พิพากษามีงานยุ่งมากไม่สามารถปลีกตัวได้ ข้าราชการทั้งหลายในนรกก็จะให้ความกรุณาช่วยเหลือท่าน เพราะว่านรกนั้นกว้างใหญ่ไพศาลการจะเข้าชมให้หมดทุกส่วนจะต้องใช้เวลาที่ยาวนานมาก แต่หนังสือ《กฎนรกไร้ความปรานี》นี้จะต้องเผยแพร่ในโลกมนุษย์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ด้วยเหตุนี้จึงให้ท่านไปเข้าชมเฉพาะกรณีที่มีความเหมาะสมและสามารถที่จะใช้เป็นตัวแทนในการหยิบยกขึ้นมาเป็นข้อเปรียบเทียบให้ทุกคนได้เห็นและเข้าใจอย่างชัดเจน
    *ในหนังสือราชการสารด่วนยมโลกยังได้กล่าวถึง คนที่มีสภาวะตื่นแจ้ง มีสติสามารถเข้าใจอะไรๆได้กระจ่างและมีความสามารถในการใช้ฌานสมาธิถอดจิตมาเข้าชมนรก ซึ่งทั้งหมดนี้ก็คือสิ่งที่มีอยู่ในตัวท่าน “อาอวี้” หวังว่าเมื่อหนังสือ《กฎนรกไร้ความปรานี》นี้ ตีพิมพ์ออกมาเผยแพร่แล้ว จะทำให้เวไนยจำนวนมากที่ต้องตกนรกในแต่ละวันสามารถลดจำนวนลง แล้วปริมาณงานที่มากเกินพิกัดในแต่ละวันของพวกเราในขณะนี้ก็จะลดลงไปด้วย ตอนนี้ข้าราชการรวมทั้งเจ้าหน้าที่และพนักงานที่ทำงานในนรกภูมิของพวกเราต่างต้องทำงานกันอย่างหนักมาก แต่ขอเพียงท่านมาปฏิบัติภารกิจ พวกเราก็จะเจียดเวลามาต้อนรับท่าน นำข้อมูลทั้งหมดที่ท่านต้องการมาแจ้งให้ท่านทราบ สำหรับมูลเหตุในการเขียนหนังสือ《กฎนรกไร้ความปรานี》คือคำบัญชาของพญายมราชฟงตู ถ้าหากท่านต้องการรู้รายละเอียดที่มากกว่านี้ เราจะพาท่านไปเข้าพบท่านพญายมราช ท่านพญายมราชจะอธิบายข้อสงสัยนี้ให้ท่านฟัง”
    *“ดีจังค่ะ ! อาอวี้สำนึกคุณผู้พิพากษาเป็นอย่างยิ่ง”
    พวกเราเริ่มเดินไปข้างหน้า นรกช่างกว้างใหญ่จริงๆ แต่ละครั้งที่เข้ามา เส้นทางก็จะแตกต่างกันไป ถึงแม้จะบอกว่ามานรก แต่ก็มาด้วยอาศัยแรงปณิธานที่จะฉุดช่วยเวไนย ขอเพียงสรรพชีวิตทั้งหลายไม่ต้องตกสู่นรกภูมิ
    *ตอนนี้ทิศทางที่พวกเราเดินไปไม่มีเสียงร้องอันเจ็บปวดทุกข์ทรมาน และก็ไม่มีความรู้สึกที่น่าหวาดกลัว เบื้องหน้ามีสะพานเล็กๆ มีน้ำไหล มีป่าขนาดย่อมๆ ทำให้รู้สึกดีจริงๆ ผู้พิพากษาบอกว่าที่นี่คือสถานที่ ที่เป็นที่อยู่อาศัยของพญายม ตอนนี้พวกเรากำลังจะไปพบพญายมราชที่ห้องประชุมปรึกษาหารืองานราชการ ความจริงแล้วที่อยู่อาศัยของข้าราชการในนรกภูมิก็ไม่เลวเหมือนกันนะ ก็เหมือนกับข้าราชการในโลกมนุษย์ที่รัฐมีสวัสดิการให้
    *เดินต่อไปข้างหน้ามีตึกอาคารใหญ่อยู่ ภายในอาคารมีการตกแต่งและติดตั้งประตูหน้าต่างที่งดงามและสุภาพแบบสมัยโบราณ ด้านบนสุดของห้องโถงใหญ่มีป้ายแนวขวางเขียนอักษร ๔ ตัวคือ “เที่ยงตรง เปิดเผย” 「正大光明เจิ้งต้ากวงหมิง」พญายมราชก็นั่งอยู่ที่ใต้ป้ายนี้ บนกำแพงทั้ง ๒ ข้างแขวนภาพคนสมัยโบราณที่ทำความดี ทั้ง ๒ ฟากข้างมีข้าราชการจากทำเนียบนรกส่วนหนึ่งนั่งอยู่ พญายมราชฟงตูกับเหล่าข้าราชการกำลังศึกษาปัญหาเรื่องการก่อสร้างนรกเพิ่มเติม ยุ่งเป็นอย่างมาก
    *ตอนนี้ข้าพเจ้าคุกเข่าลงทันทีพร้อมทั้งพูดว่า : “หญิงสามัญชนจากโลกมนุษย์ซั่งกวนอวี้ฮว๋า กราบคารวะพญายมราชฟงตู ! สำนึกคุณพญายมราชที่ให้เขียนหนังสือ《กฎนรกไร้ความปรานี》ทำให้หญิงสามัญชนคนนี้สามารถได้เปิดหูเปิดตาได้พบเห็นอะไรมากยิ่งขึ้น ทั้งยังมีโอกาสได้สลายบาปกรรมเพิ่มพูนบุญกุศล หญิงสามัญชนคนนี้อยากเรียนถามท่านพญายมราชฟงตูว่ามีเหตุปัจจัยเช่นไรจึงต้องเขียนหนังสือ《กฎนรกไร้ความปรานี》เล่มนี้ ?”
    *พญายมราชฟงตูตอบกลับมาว่า : “โลกมนุษย์ในสมัยโบราณแรกเริ่มนั้นจิตธรรมญาณของทุกคนล้วนดีงาม ทุกคนต่างรักษาศีล ๕ และกุศลกรรมบถ ๑๐ ในเวลานั้นฟ้าดิน อินและหยางมีความสมดุลกัน แสงสีรุ้งทอประกาย ธัญพืชอุดมสมบูรณ์ โลกมนุษย์ปรากฏบรรยากาศที่เป็นมงคล ไม่มีทั้งภัยธรรมชาติและภัยจากน้ำมือของมนุษย์ ทุกคนอยู่กันอย่างผาสุกตลอดจนสิ้นอายุขัย เมื่อสิ้นอายุขัยก็ได้กลับคืนสู่สวรรค์ แต่จะให้ทำอย่างไรได้ในเมื่อจิตธรรมญาณเดิมของมนุษย์ถูกแปดเปื้อนมากขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่หยุดยั้ง นับวันก็ยิ่งตกต่ำถลำลึก มูลเหตุนั้น มาจากกามตัณหาในอสงไขยกัปที่ไม่อาจประมาณได้ในอดีต จนกลายเป็นนิสัยที่ไม่ดีของมนุษย์ ทำให้ต้องตกอยู่ในวัฏสงสารและ ๖ ภูมิวิถีแห่งการเวียนว่าย เหตุที่มนุษย์ไม่ยอมหยุดพฤติกรรมที่ต่ำทราม ทุศีล สร้างอกุศลกรรมบถ ๑๐ จนถึงช่วงยุคโบราณตอนกลาง ฟ้าเบื้องบนจึงเริ่มสร้างนรกขึ้นมาเพื่อใช้ลงโทษสั่งสอนมนุษย์ที่ฝ่าฝืนทำผิดศีลวินัย ให้พวกเขาได้ย้อนสำรวจตนอยู่ในนรก
    *ตอนนั้นนรกมีขนาดเล็กมากและมนุษย์ที่ตกนรกก็มีไม่เยอะ แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป ความแปดเปื้อนสกปรกโสมมก็เพิ่มมากยิ่งขึ้นตามกาลเวลา จิตธรรมญาณเดิมที่ดีงามของมนุษย์ในสมัยโบราณแรกเริ่มก็ค่อยๆสูญสิ้นไปจนเกือบหมด ปัจจุบันจิตใจของมนุษย์เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่เลวร้ายอย่างมาก บรรยากาศของความคิดอันชั่วร้ายพวยพุ่งขึ้นสู่สวรรค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรยากาศอันอัปมงคลของกามตัณหาลามกนั้น ยิ่งทำลายกฎความสมดุลของธรรมชาติอย่างร้ายแรง ทำให้บรรยากาศของฟ้าดินขุ่นมัวไม่ใสสะอาด จนในที่สุดก็ไม่สามารถแยกออกได้อย่างชัดเจนถึงความแตกต่างระหว่างฟ้ากับดิน สูญเสียความสมดุลของอิน-หยางในอดีต ทำให้เกิดภัยธรรมชาติในโลกมนุษย์ครั้งแล้วครั้งเล่า สิ่งเหล่านี้คือสัญญาณเตือนภัยอย่างหนึ่ง ในภายภาคหน้ายังจะมีภัยธรรมชาติที่ทยอยเกิดขึ้นตามกันมาอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย โดยที่มนุษยชาติไม่สามารถที่จะใช้วิทยาศาสตร์หรือเทคโนโลยีใดๆมาสกัดกั้นภัยธรรมชาติที่กำลังเยื้องกรายเข้ามาได้เลย
    *สามารถช่วยเวไนยให้พ้นจากภัยธรรมชาติได้นั้นไม่ใช่วิทยาศาสตร์หรือเทคโนโลยีชั้นสูง แต่เป็นการประคองรักษาศีล ๕ อย่างจริงใจ บำเพ็ญปฏิบัติในกุศลกรรมบถ ๑๐ มีความจริงใจที่จะสำนึกขอขมาแก้ไขความผิดบาปในอดีต บำเพ็ญธรรมอย่างสะอาดบริสุทธิ์ หากปฏิบัติได้เช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ นี่ก็คือวิธีการที่จะทำให้จักรวาลและธรรมชาติกลับคืนสู่ความสมดุลได้ด้วยตัวของมันเอง โลกมนุษย์จะต้องพบเจอกับมหันตภัยทั้งจากธรรมชาติและจากน้ำมือของมนุษย์ มนุษย์ที่ทำชั่วทั้งหมดจะต้องตกนรกอย่างแน่นอน
    *ตอนนี้นรกเต็มจนล้นทะลักแล้ว งานของพวกเราในนรกนี้ก็มีมากมายจนเกินพิกัด ตัวเรานั้นไม่อาจทนดูโลกมนุษย์เดินเข้าไปสู่ความหายนะได้ เพราะจริยธรรมของมนุษย์ตกต่ำเสื่อมทราม ด้วยเหตุนี้จึงได้แพร่งพรายความลับสวรรค์ครั้งใหญ่ กราบทูลเง็กเซียนฮ่องเต้ให้ส่งมนุษย์โลกที่ถือศีลสะอาดบริสุทธิ์ มีความตื่นแจ้ง มีสติสามารถเข้าใจอะไรๆได้กระจ่าง มาเข้าชมการลงโทษในนรกขุมต่างๆ แล้วกลับไปเขียนหนังสือเพื่อตักเตือนกล่อมเกลาชาวโลกให้ละทิ้งความชั่วหันมาทำความดี ฟื้นฟูจิตธรรมญาณเดิมอันสว่างไสวของฟ้าปางก่อนให้กลับคืนมาในเร็ววัน
    *หากชาวโลกได้อ่านหนังสือ《กฎนรกไร้ความปรานี》แล้ว สามารถกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนใหม่ ทั้งยังบอกต่อหรือพิมพ์หนังสือนี้แจกฟรี เพื่อเป็นการเผยแพร่ออกไปให้กว้างขวาง และความคิดของตัวเขาเองก็เป็นความคิดที่สะอาดบริสุทธิ์ปรารถนาวอนขอในสิ่งที่ดี ทุกความปรารถนาของเขาก็จะสมหวัง และยมโลกจะจดบันทึกเป็น ๑ มหากุศลลงในบัญชีเกิดตายของพวกเขาแต่ละคน สามารถได้รับการงดเว้นโทษในนรกจากผลกรรมชั่วในอดีตที่เคยทำไว้ เมื่อสิ้นอายุขัยผู้ที่ดำเนินปฏิบัติตามมหากุศลนี้ก็จะได้ขึ้นสู่สวรรค์
    *หากใครใส่ร้ายป้ายสีหรือขัดขวางการเผยแพร่หนังสือธรรมะ《กฎนรกไร้ความปรานี》ก็จะถูกยมโลกจดบันทึกเป็น ๑ มหาอกุศลในบัญชีเกิดตายของพวกเขาแต่ละคน เมื่อสิ้นอายุขัยจะต้องไปรับการลงโทษในนรกร้องตะโกน นรกดึงลิ้น นรกควักตา และนรกขุมอื่นๆ ถึงแม้ยังไม่สิ้นอายุขัยก็จะได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคภัยไข้เจ็บจนตายในที่สุด ซึ่งผลกรรมที่เป็นรูปธรรมนั้นจะต้องพิจารณาตัดสินจากรายละเอียดของการใส่ร้ายป้ายสีหรือขัดขวางการเผยแพร่หนังสือธรรมมะ《กฎนรกไร้ความปรานี》แล้วจึงตัดสินว่าจะลงโทษอย่างไร ถ้าหากมีเวไนยจำนวนมาก หลงเชื่อคำใส่ร้ายป้ายสีนั้น ผู้ที่ใส่ร้ายป้ายสีนอกจากจะถูกตัดสินให้รับโทษต่างๆดังกล่าวข้างต้นแล้ว ยังต้องตกนรกอเวจี ยากยิ่งนักที่จะได้ไปผุดไปเกิด
    *เอาล่ะ! ตอนนี้พวกเรากำลังยุ่งมาก วันนี้เธอก็กลับไปเขียนเหตุปัจจัยในการเขียนหนังสือธรรมะที่เราได้พูดไว้ข้างต้นลงไปในหนังสือก่อน หวังว่าชาวโลกจะให้กำลังใจซึ่งกันและกัน กลับเนื้อกลับตัวบอกต่อซึ่งกันและกัน บำเพ็ญกายหล่อเลี้ยงจิตธรรมญาณให้ดีๆ ทำความดีสะสมบุญกุศล”
    *อาหมีถัวฝอ ! อาอวี้กราบขอบคุณพญายมราชฟงตู !
    *ขอขอบคุณผู้พิพากษาและข้าราชการทุกๆท่าน !
    *ขึ้นบัวขาวเดินทางกลับ
     
  6. นิรยะ

    นิรยะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2015
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +30
    กฎนรกไร้ความปรานี ตอนที่ ๓
    ฟังการไต่สวนคดีในนรกขุมที่ ๗
    *สำนึกคุณพระพุทธะโพธิสัตว์ทั้งหลายที่เมตตาประทานพร ให้ครั้งนี้ข้าพเจ้าได้ไปเปิดหูเปิดตาในนรก ทำให้ยิ่งเพิ่มความศรัทธาให้กับตัวเอง ทำให้ตัวเองรักษาศีลวินัยได้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น จะว่าไปแล้วอันที่จริงตัวของข้าพเจ้าเองก็มีสัมผัสพิเศษต่อเรื่องประเภทนี้มาตั้งแต่เด็กๆ เรื่องราวบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ได้ปรากฏออกมาให้เห็นก่อนในความฝัน รู้สึกเหมือนความฝัน แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่ความฝัน ข้าพเจ้าสามารถเข้าใจได้อย่างชัดเจนว่าตอนนั้นวิญญาณของตัวเองได้ออกมาจากร่างแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ข้าพเจ้ามองเห็นร่างของตัวเองนอนอยู่บนเตียง เรื่องราวต่างๆที่ข้าพเจ้าได้พบเห็นในขณะที่วิญญาณออกจากร่างไปนั้น ข้าพเจ้าจะสามารถจดจำได้อย่างชัดเจน เรื่องราวประเภทนี้ล้วนเป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นจริงในภายหลัง ซึ่งเป็นการบอกเหตุเตือนล่วงหน้าให้ข้าพเจ้าสามารถจัดการแก้ไขปัญหาให้เรียบร้อยก่อนที่ปัญหาต่างๆเหล่านั้นจะเกิดขึ้น
    *เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตเหล่านั้น ถ้าหากไม่ใช่เรื่องส่วนตัวก็เป็นเรื่องของคนในครอบครัวซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคนอื่นๆ แต่ในครั้งนี้พิเศษกว่าครั้งที่ผ่านๆมาในอดีต เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ปัญหาส่วนตัวหรือเรื่องในครอบครัวของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะต้องแบ่งปันเรื่องนี้ร่วมกับทุกๆท่าน เพื่อให้ทุกๆท่านได้รู้และเข้าใจถึงความสำคัญของความนึกคิด ทุกวันนี้มีเรื่องราวต่างๆมากมายในชีวิตประจำวันที่ทุกคนทำผิดไปโดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ได้ทำลงไปนั้นเป็นความผิดบาป ก็เหมือนกับสามี-ภรรยา ที่ถูกต้องตามกฎหมายคู่หนึ่ง ซึ่งทั้ง ๒ ฝ่ายต่างก็ไม่ได้ร่านสวาทออกไปมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นๆ แต่กลับกลายเป็นว่าพวกเขาได้ประพฤติผิดในกามโดยไม่รู้ตัวไปซะแล้ว นี่เป็นเพราะอะไรกันนะ ? ก็เป็นเพราะว่าการร่วมเพศของพวกเขาไม่ถูกเวลา ไม่ถูกสถานที่ และไม่ถูกอวัยวะ
    *เมื่อวานตอนกลางคืน ข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนกับว่าได้ฝันไป ว่าตัวเองได้ไปเยือนนรกมา เมื่อมาถึงนรก ข้าพเจ้ารู้สึกได้ถึงบรรยากาศอึมครึมที่หนักหน่วงรุนแรง ชาย-หญิงทั้งหลายในนี้ต่างร้องตะโกนออกมาด้วยความทุกข์ทรมาน เป็นเสียงกรีดร้องที่น่าเวทนา ไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเขา ไม่มีความอิสระเสรี ร่างกายของพวกเขาถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวน นายนิรยบาลทั้งฉุดลาก ทั้งทุบตี ทั้งใช้หอกง่ามแทง ฯลฯ นายนิรยบาลและผู้พิพากษาคดีความในนรกต่างมีท่าทีที่จริงจังน่าเกรงกลัว ไม่มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มและดูดุร้ายมาก มีข้าราชการในนรกเพียงบางส่วนเท่านั้นที่ดูแล้วไม่ค่อยดุร้ายเท่าไหร่ นายนิรยบาลล้วนมีลักษณะท่าทีที่โหดเหี้ยมน่ากลัว ในนรกไม่มีแสงตะวันเหมือนบนโลกมนุษย์ บรรยากาศในนี้มืดๆทึมๆออกแดงๆ ทำให้รู้สึกอึดอัดไม่สบายอย่างบอกไม่ถูก
    *ตอนนี้ข้าพเจ้าอยู่ในนรกขุมที่ ๗ ทำเนียบนรกกำลังไต่สวนคดีความของวิญญาณชายคนหนึ่งที่ประพฤติผิดในกามอยู่พอดี ข้าพเจ้าจึงได้รับอนุญาตจากผู้พิพากษาให้เข้าร่วมฟังในฐานะผู้สังเกตการณ์ ผู้รับผิดชอบหน้าที่พิพากษาคดีนี้ที่นั่งอยู่ตรงกลางห้องโถงใหญ่มีนามว่า “ไท่ซันหวัง” ท่านคือพญายมผู้มีหน้าที่ควบคุมบริหารนรกขุมนี้ ถ้าหากอ้างอิงตามข้อมูลเก่า นรกขุมที่ ๗ นี้แบ่งเป็น ๑๖ ขุมย่อย ทุกขุมอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของไท่ซันหวัง ผู้บัญชาการสูงสุดในนรกคือ “พญายมราชฟงตู” พญายมราชฟงตูมีหน้าที่ควบคุมบริหารนรกทั้งหมด ครอบคลุมทั้ง ๑๐ ขุม ทุกขุมมีพญายมขุมละ ๑ ท่าน พญายมแต่ละขุมจะรับผิดชอบควบคุมบริหารนรก ๑๖ ขุมย่อย ข้างๆไท่ซันหวังมีข้าราชการอยู่ ๒ ท่าน หนึ่งในนั้นคือผู้พิพากษา และยังมีนายนิรยบาลผู้ปฏิบัติหน้าที่ ในมือของนายนิรยบาลถือมีดใหญ่และโซ่เหล็กไว้ พวกเขากำลังร่วมฟังการไต่สวนพิจารณาคดีด้วยท่าทีที่ขึงขังน่าเกรงขาม บรรยากาศช่างน่าขนลุกขนพอง รู้สึกได้ถึงความเย็นเยือก
    *ลักษณะท่าทางของพญายมไท่ซันหวังที่ข้าพเจ้าพบเห็นในเวลานี้ ท่านดูดุร้ายมาก กำลังสอบสวนวิญญาณชายคนหนึ่งที่ประพฤติผิดในกาม เมื่อครั้งสมัยที่เขายังมีชีวิตอยู่ วิญญาณชายคนนั้นกำลังเถียงข้างๆคูๆ พญายมไท่ซันหวังใช้มือวาดไปบนพื้นที่ว่างกลางอากาศ ๑ ครั้ง กระจกส่องกรรมก็ปรากฏขึ้นทันที กระจกส่องกรรมฉายภาพของวิญญาณชายคนนั้นในสมัยที่เขายังเป็นวัยรุ่นกำลังร่วมเพศแบบไม่ถูกเวลา ไม่ถูกสถานที่ และไม่ถูกอวัยวะกับภรรยาของเขาเองรวมทั้งหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาของเขา และยังมีความผิดบาปอื่นๆในศีลข้อกาเมสุมิจฉาจารที่เขาได้ล่วงละเมิด เช่น ดูหนังสือลามก ดูซีดีลามก ฯลฯ วิญญาณชายคนนั้นตกใจกลัวจนตัวสั่นเทิ้มไปหมด คุกเข่าลงกับพื้นแล้วร้องขอความเมตตาแต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว พญายมไท่ซันหวังได้สั่งให้นายนิรยบาลควบคุมตัวของเขาไปรับโทษที่นรกโอบเสาทองแดงแล้ว
    *นายนิรยบาลถือมีดใหญ่ใช้โซ่เหล็กลากดึงวิญญาณชายคนนั้นออกไปรับการลงโทษ ข้าพเจ้าก็เดินตามไปดูด้วยว่าสภาพเหตุการณ์นั้นเป็นอย่างไร แต่ดูเหมือนว่าไม่ดูซะยังจะดีกว่า โอ้ ! ช่างน่ากลัวเหลือเกิน ! วิญญาณนักโทษทั้งหมดในนรกขุมนี้กำลังส่งเสียงกรีดร้องอย่างทุกข์ทรมาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสียงกรีดร้องที่น่าเวทนาของพวกเขามีลักษณะที่ทอดยาวติดต่อกันอย่างต่อเนื่องโดยไม่ได้หยุดพักเลย
    *วิญญาณชายที่ข้าพเจ้าเดินตามมาเมื่อครู่นี้เดินตรงเข้าไปที่เสาทองแดงอย่างเบิกบานใจ เมื่อเขาโอบเสาทองแดงทันใดนั้นก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างเจ็บปวดทรมาน ข้าพเจ้าจึงถามผู้พิพากษาว่าเพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ ?
    *ผู้พิพากษาบอกว่าเมื่อครู่นี้วิญญาณชายคนนั้นเห็นเสาทองแดงที่ลุกเป็นไฟกลายเป็นหญิงงาม ดังนั้นเขาจึงเกิดความเบิกบานใจ แต่ความจริงแล้ว มันก็คือเสาทองแดง เมื่อเขาเข้าไปโอบกอดจึงถูกไฟเผาไหม้ไปทั้งตัว จนต้องร้องออกมาอย่างเจ็บปวดทรมาน
    *ข้าพเจ้าถามผู้พิพากษาต่อไปอีกว่า อย่างไรที่เรียกว่าไม่ถูกเวลา ไม่ถูกสถานที่ ไม่ถูกอวัยวะ ? เดิมทีแล้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องอย่างเป็นทางการ ก็ยังต้องรักษาศีลวินัยเหล่านี้ มิฉะนั้นก็ถือว่าประพฤติผิดในกาม
    *ไม่ถูกเวลาก็คือในวันประสูติของพระพุทธะโพธิสัตว์ หรือวันอุโบสถศีลทั้ง ๖ วันของแต่ละเดือน ( คือวันแรม ๘ ค่ำ, ๑๔ ค่ำ, ๑๕ ค่ำ และวันขึ้น ๘ ค่ำ, ๑๔ ค่ำ, ๑๕ ค่ำ ตามจันทรคติ ) รวมถึงเดือนอุโบสถศีลยาว ตลอดทั้ง ๓ เดือน ของทุกปี ( คือเดือน ๑ เดือน ๕ และเดือน ๙ ตามจันทรคติ ) ควรรักษาศีล จะทำเรื่องบนเตียงหรือร่วมเพศกันไม่ได้ ในวันเหล่านี้ อาทิเช่น ๑, ๑๐, ๑๕ ของทุกเดือน ( ตามจันทรคติ ) เป็นต้น ท้าวจตุโลกบาลจะตระเวนสังเกตการณ์บนโลกมนุษย์คอยจดบันทึกความดีความชั่ว แล้วกลับไปรายงานเง็กเซียนฮ่องเต้ (ท้าวสักกะ ) บนสวรรค์ ( นอกจากนี้ วันเกิดของพ่อแม่ วันครบรอบวันตายของพ่อแม่ ช่วงระหว่างกำลังไว้ทุกข์ให้พ่อแม่ ฯลฯ ก็ห้ามทำเรื่องบนเตียงเช่นกัน ดีที่สุดควรไว้ทุกข์ให้พ่อแม่อย่างน้อย ๓ ปี ทำไมต้อง ๓ ปี ? เพราะกว่าลูกน้อยคนหนึ่งจะยอมพ้นจากอ้อมอกของพ่อแม่ได้ พ่อแม่ต้องใช้เวลาเลี้ยงดูฟูมฟักนานถึง ๓ ปี)
    *ไม่ถูกสถานที่ก็คือความสัมพันธ์ระหว่างสามี-ภรรยาควรจะแค่พอเหมาะพอควร นอกจากบนเตียงของสามี-ภรรยาแล้ว ไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ในสถานที่อื่นๆได้ อาทิเช่น ห้องรับแขก ห้องครัว ห้องน้ำ เอ้าดอร์ ( นอกสถานที่, นอกบ้าน, กลางที่โล่งแจ้ง ) เบื้องหน้าองค์พระพุทธรูป ฯลฯ
    *ไม่ถูกอวัยวะก็คือ นอกจากอวัยวะสืบพันธุ์ของชายหญิงแล้ว สามี-ภรรยาห้ามนำส่วนอื่นๆของร่างกายมาใช้ร่วมเพศเด็ดขาด ( อาทิเช่น ห้ามใช้ปากกับอวัยวะเพศ ห้ามร่วมเพศกันทางทวารหนัก และอื่นๆอีกเป็นต้น ) มิฉะนั้นจะต้องตกนรกรับความทุกข์ทรมาน เมื่อรับความทุกข์ทรมานในนรกจนหมดสิ้นแล้ว ยังต้องตกสู่เดรัจฉานภูมิ ไปเกิดเป็นหมู หมา เป็ดแมนดาริน งู และเกิดในร่างของสัตว์ชนิดอื่นๆอีกเป็นต้น
    *ปัจจุบันนี้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีความเจริญก้าวหน้า บนอินเตอร์เน็ตมีเว็บไซต์ลามกมากมาย สิ่งลามกเหล่านั้นห้ามดูเด็ดขาด ถ้าดูก็ถือว่าผิดศีล จะต้องถูกบั่นทอนบุญวาสนา ลดอายุขัย แม้แต่ตำแหน่งหน้าที่การงานหรือผลตอบแทนต่างๆที่สมควรจะได้รับก็จะถูกตัดทอนให้เหลือน้อยลงหรืออาจจะไม่ได้รับอะไรเลย ถึงแม้จะดูเพียงอย่างเดียว ไม่ได้นำไปสู่การปฏิบัติ เพียงแค่เกิดความคิดเท่านั้น เทพสหเทวา「俱生神เทพจวี้เซิงเสิน」ก็จะจดบันทึกลงสมุดทันที ทุกคนต่างก็มีเทพสหเทวาคนละ ๒ องค์ องค์หนึ่งคอยจดบันทึกกรรมชั่ว ส่วนอีกองค์หนึ่งคอยจดบันทึกกรรมดี
    *ผู้พิพากษาบอกว่า : “ เกิดเป็นคนต้องสงวนน้ำกาม หากหมกมุ่นกับเรื่องบนเตียงมากเกินไปจะเป็นการทำลายสุขภาพ เวลาที่ชายหญิงร่วมเพศกัน บรรยากาศที่ไม่เป็นมงคลก็จะยิ่งกระจายออกมา ทำลายสัจพลังท่ามกลางฟ้าดิน ถ้าหากเป็นสามี-ภรรยากันอย่างถูกต้องอย่างเป็นทางการ แล้วประพฤติผิดในกามตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น คือ ร่วมเพศกันแบบไม่ถูกเวลา ไม่ถูกสถานที่ และไม่ถูกอวัยวะ ขอให้รีบสำนึกขอขมาแก้ไขความผิดบาปให้เร็วที่สุด กลับเนื้อกลับตัวอีกทั้งนำข่าวสารนี้ไปเผยแพร่บอกต่อ ให้ผู้คนทั้งหลายในโลกนี้ได้รับทราบ ไม่เพียงแค่ตัวเองดีเท่านั้น ยังต้องปรารถนาให้ผู้อื่นดีด้วย ให้ทุกคนสามารถประคองรักษาตัวเองให้สะอาดบริสุทธิ์ไม่ไหลไปตามกระแสอันโสมม ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของจริยธรรม และคุณธรรมสัมพันธ์ เช่นนี้แล้ว ก็จะทำให้สัจพลังท่ามกลางฟ้าดินสามารถกลับคืนสู่ความสมดุล
    *ถ้าหากเคยถูกสามีหรือภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายบีบบังคับให้ร่วมเพศแบบไม่ถูกเวลา ไม่ถูกสถานที่ และไม่ถูกอวัยวะ แต่ในขณะที่ร่วมเพศนั้นภายในใจไม่ได้รู้สึกมีความสุขเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังสำนึกขอขมาแก้ไขความผิดบาป กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนใหม่ได้ทันเวลา และในขณะเดียวกันก็ตั้งปณิธานว่านับจากนี้เป็นต้นไปจะต้องไปตักเตือนกล่อมเกลาคนอื่นๆ เช่นนี้ก็จะอนุญาตให้ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องรับความทุกข์ทรมานในนรก
    *แต่ถ้าหากมีเจตนาที่จะละเมิดฝ่าฝืนข้อห้ามนี้เพื่อแสวงหาความสุขในรสกาม ก็จะต้องไปรับการลงโทษในนรกโอบเสาทองแดง เมื่อรับโทษหมดแล้ว ยังต้องไปเกิดในเดรัจฉานภูมิ จากนั้นจึงได้มาเกิดใหม่เป็นหญิงคาวโลกีย์ ”
    *ด้านล่างนี้คือการวินิจฉัยตัดสินโทษผู้ประพฤติผิดในกาม
    *อันดับแรกคือชายหญิงที่ยังไม่ได้แต่งงาน หากเป็นโสดยังไม่ได้แต่งงาน ชายหญิงจะต้องประคองรักษาร่างกายนี้ให้บริสุทธิ์ไร้ราคี ( ผู้ชายเป็นหนุ่มพรหมจรรย์ ส่วนผู้หญิงก็เป็นสาวพรหมจรรย์ที่ไม่เคยเสียตัว ไม่เคยผ่านการร่วมเพศมาก่อน ) หากดูหนังสือลามกหรือเว็บไซต์ลามกก็ถือว่าได้ประพฤติผิดในกามแล้ว จะต้องถูกบั่นทอนบุญวาสนา ถูกลดอายุขัย รวมถึงตำแหน่งหน้าที่การงาน หรือผลตอบแทนต่างๆที่สมควรได้รับก็จะถูกตัดทอนให้เหลือน้อยลงหรืออาจจะไม่ได้รับอะไรเลย หากดูแค่ครั้งเดียว ถูกลดอายุขัย ๑ เดือน ถ้าดูอย่างต่อเนื่องต้องถูกลดอายุขัยตั้งแต่ ๑ ปีขึ้นไป ถ้าหากแค่ดูอย่างเดียวไม่ได้นำไปสู่การปฏิบัติ อีกทั้งยังสามารถสำนึกขอขมาแก้ไขความผิดบาปได้ทันเวลาก็สามารถลดบาปกรรมให้เบาลงได้
    *ถ้าหากยังไม่ได้แต่งงานก็มีเพศสัมพันธ์กันก่อนกับคนรักของตนเพียงแค่คนเดียว ถึงแม้ว่าต่อมาภายหลังทั้งคู่จะได้แต่งงานกันก็ตาม แต่ทั้งคู่ก็จะต้องถูกตัดทอนบุญวาสนาเพราะไม่ปฏิบัติตามจารีตประเพณีอันดีงาม
    *ถ้าหากยังไม่ได้แต่งงานก็มีพฤติกรรมมั่วกาม สำส่อน มีเพศสัมพันธ์แบบฉาบฉวย เปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อยๆไม่ซ้ำ อย่างเช่น วันนี้นอนกับ A พรุ่งนี้นอนกับ B วันมะรืนก็นอนกับ C เช่นนี้ ซึ่งในปัจจุบันนี้เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ผู้ชายยิ่งได้มีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงยิ่งมาก ยิ่งเยอะ ก็จะยิ่งมีเกียรติ ยิ่งมีหน้ามีตา ส่วนผู้หญิงก็นอนกับใครก็ได้แบบส่งเดช เปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อยๆ เป็นต้น พฤติกรรมอย่างนี้เมื่อสิ้นอายุขัยก็ยิ่งจะต้องตกนรกโอบเสาทองแดงเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ต่อจากนั้นยังต้องไปเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในเดรัจฉานภูมิ แล้วจึงได้ไปเกิดใหม่เป็นมนุษย์รับผลกรรมต่างๆที่เคยทำไว้
    *ถ้าหากแต่งงานแล้ว แต่ยังนอกใจคู่ครองไปมีชู้ มีกิ๊ก ก็ต้องดูว่ามีลักษณะของการใช้ความรุนแรงทำร้าย ทำอันตรายแก่กันหรือไม่ และระยะเวลาที่สร้างบาปกรรมนั้น มีระยะเวลาที่ยาวนานเท่าไหร่ รวมทั้งความหนักเบาของการทำอันตรายแก่กันมีความหนักหรือเบาแค่ไหน อย่างน้อยที่สุดต้องโอบเสาทองแดงหนึ่งหมื่นปี
    *ถ้าหากข่มขืนกระทำชำเรา วางแผนคิดกลอุบายให้ฝ่ายหญิงสูญเสียเกียรติศักดิ์ศรีและพรหมจารี หรือฝ่ายหญิงอาจจะเป็นผู้ที่มักมากในกามคุณ เมื่อสิ้นอายุขัยจะต้องตกนรกโอบเสาทองแดงสองหมื่นปี หลังจากนั้นต้องไปรับโทษต่อในนรกร้องตะโกนอีกหนึ่งหมื่นปี แล้วจึงได้ไปเกิดใหม่ในโลกมนุษย์ รับผลกรรมที่ตัวเองเคยทำไว้
    *ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากประพฤติผิดในกาม แล้วยังทำบาปเพิ่มขึ้นอีก ด้วยการวางยาพิษทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จะต้องตกนรกโอบเสาทองแดงสี่หมื่นปี จึงได้ไปเกิดใหม่ในโลกมนุษย์ รับผลกรรมที่ตัวเองเคยทำไว้
    *อาหมีถัวฝอ !
    *หากข้าพเจ้าเขียนออกมาได้ไม่สมบูรณ์ นั่นคือความผิดพลาดของตัวข้าพเจ้าเอง ไม่เกี่ยวข้องกับการอบรมสอนสั่งของท่านผู้พิพากษาแต่ประการใด ขอสำนึกคุณพระพุทธะโพธิสัตว์ที่ประทานพรให้ข้าพเจ้าได้ไปเข้าชมนรก และสามารถเขียนหนังสือเล่มนี้ออกมาร่วมแบ่งปันกับทุกๆท่าน
    *หากมีบุญกุศล ขออุทิศกุศลผลบุญนี้ให้กับสรรพสัตว์ทั้งปวงในอากาศธรรมธาตุให้พวกเขาได้ห่างไกลจากกามตัณหาราคะและความกำหนัดทั้งปวง ประคองรักษาศีลวินัยให้สะอาดบริสุทธิ์ และประจักษ์ในอนุตตรสัมมาสัมโพธิถ้วนหน้ากัน

    *คำอธิบายเพิ่มเติม

    *คุณธรรมสัมพันธ์ ( บทความนี้คัดลอกตัดตอนจาก mindcyber.com )
    ๑. คุณธรรมสัมพันธ์ระหว่างเจ้าแผ่นดินกับขุนนาง( ผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชา ) เจ้าแผ่นดินใช้ขุนนางด้วยจริยธรรม ขุนนางรับใช้เจ้าแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์ จงรักภักดี
    ๒. คุณธรรมสัมพันธ์ระหว่างสามีกับภรรยา สามีทำหน้าที่รับชอบต่อภรรยาด้วยดี ให้ความรักและคุ้มครองภรรยา ภรรยาปฏิบัติต่อสามีด้วยความอ่อนโยน ให้ความเคารพรักต่อสามี สามีภรรยาปรองดองกัน
    ๓.คุณธรรมสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูก พ่อให้การอบรมสั่งสอนลูกด้วยความเมตตาปรานี ลูกปรนนิบัติรับใช้พ่อแม่ด้วยความกตัญญู
    ๔. คุณธรรมสัมพันธ์ระหว่างพี่กับน้อง พี่ให้ความรักความเอ็นดูน้อง รู้ให้อภัยใจกว้าง น้องเคารพนับถือพี่ มีความอดทน อยู่ร่วมกันด้วยความสมัครสมาน ไม่โลภมากแก่งแย่งสมบัติ
    ๕. คุณธรรมสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนกับเพื่อน คบหาเพื่อนให้มีวาจาสัตย์ เพื่อนมีสิ่งใดผิดพลาดต้องช่วยตักเตือน เพื่อนทำสิ่งที่ดีต้องช่วยสนับสนุน คบเพื่อนต้องคบกันที่คุณธรรมไม่คำนึงถึงความร่ำรวยหรือยากจน
     
  7. นิรยะ

    นิรยะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2015
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +30
    กฎนรกไร้ความปรานี ตอนที่ ๔
    ผู้พิพากษาบอกว่า “ตายแล้วจึงสำนึกขอขมาแก้ไขความผิดบาปก็สายไปเสียแล้ว”

    *ขอสำนึกคุณพระพุทธะโพธิสัตว์ที่ประทานพรให้ข้าพเจ้าได้มาเปิดหูเปิดตาในนรกอย่างใกล้ชิดอีกครั้ง ข้าพเจ้ารู้สึกว่านรกเป็นสนามแม่เหล็กที่มีพลังด้านลบ เต็มไปด้วยความมืดมนสิ้นหวังและทุกข์ทรมานยาวนานชั่วนิรันดร์ ขอให้ทุกคนอย่าได้สร้างเหตุแห่งกรรมที่จะทำให้ตัวเองต้องตกนรกเลย มันทุกข์ทรมานจนไม่สามารถจะพูดออกมาได้จริงๆ
    *ในครั้งนี้ ทันทีที่ข้าพเจ้ามาถึงนรกขุมที่ ๗ ก็เป็นช่วงเวลาที่กำลังพิจารณาและตัดสินคดีของวิญญาณชายคนหนึ่งอยู่พอดี วิญญาณชายคนนี้ดูสุภาพเรียบร้อยและดูเป็นผู้ดี ไม่รู้ว่าเขาได้ทำผิดบาปอะไรถึงได้ถูกผู้พิพากษาตัดสินให้รับโทษในนรกอมอัณฑะทองแดง ๕๐๐ ปี แต่เมื่อดูอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ที่แท้ตอนที่เขามีชีวิตอยู่ มีเมียหลวง ๑ คน กับคนรักอีก ๒ คน และเขายังชอบร่วมเพศแบบไม่ถูกเวลา ไม่ถูกสถานที่ และไม่ถูกอวัยวะ ซึ่งเมียหลวงกับคนรักอีก ๒ คนของเขาก็ยอมสนองตัณหาราคะให้กับเขาด้วย ตลอดชีวิตของเขาก็มีผู้หญิงเพียง ๓ คนนี้เท่านั้น
    *ตอนนี้ข้าพเจ้าได้ยินและได้เห็นวิญญาณชายคนนั้นกำลังแก้ต่าง หาเหตุผลมาปกป้องตัวเอง ว่าทำไมถึงได้รับการยกเว้นโทษ ไม่ต้องรับโทษในนรกโอบเสาทองแดง ๕๐๐ ปี แล้วทำไมถึงไม่ได้รับการยกเว้นโทษ ยังคงต้องรับโทษในนรกอมอัณฑะทองแดงอีก ๕๐๐ ปี เวลานี้ผู้พิพากษาก็พูดขึ้นว่า “ เดี๋ยวดูภาพยนตร์ ” ที่แท้ในสมัยที่วิญญาณชายยังมีชีวิตอยู่ เขาได้ขอร้องให้เมียหลวงร่วมเพศกับเขาแบบไม่ถูกอวัยวะ แต่เมียหลวงของเขาได้ตอบปฏิเสธอีกทั้งยังพูดเตือนว่า “อย่าทำแบบนี้ เพราะมันไม่สอดคล้องกับหลักจริยะ” เมียหลวงของเขาเพียงแค่ร่วมเพศกับเขาแบบไม่ถูกเวลา และไม่ถูกสถานที่เท่านั้น ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือเมียหลวงของเขามีตัณหาราคะความกำหนัดที่ไม่มาก ดังนั้นบาปของเมียหลวงจึงเบาบางมากเพียงแค่ถูกตัดทอนบุญวาสนาเท่านั้น และเนื่องจากว่าเมียหลวงของเขาได้ตอบปฏิเสธอีกทั้งยังพูดเตือนว่าอย่าร่วมเพศแบบไม่ถูกอวัยวะ ดังนั้นจึงกลับกลายเป็นการสะสมบุญวาสนาเอาไว้ส่วนหนึ่ง
    *ถึงแม้ว่าวิญญาณชายคนนั้นจะไม่ได้บีบบังคับให้เมียหลวงของเขาร่วมเพศแบบไม่ถูกอวัยวะ แต่เมื่อเขาอยู่นอกบ้าน เขายังมีผู้หญิงอื่นอีก ๒ คน และมีการร่วมเพศที่เป็นการประพฤติผิดในกามทั้ง ๓ ข้อนี้ ผู้พิพากษาพูดขึ้นว่า “ ความคิดของเธอมีจิตที่สำนึกขอขมาแก้ไขความผิดบาป อีกทั้งยังเป็นลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่ ต่อส่วนรวมและประเทศชาติก็มีความจงรักภักดีอย่างถึงที่สุด และยังเป็นคนที่ปฏิบัติตามกฎหมาย เพียงแต่ประพฤติผิดในกาม ๓ ข้อนี้ ดั้งนั้นจึงได้รับการยกเว้นโทษในนรกโอบเสาทองแดง ๕๐๐ ปี ” เวลานี้วิญญาณชายคนนั้นก็ไม่มีคำพูดใดๆมาแก้ต่างให้ตัวเองอีกต่อไปแล้ว เขาถูกนายนิรยบาลนำตัวไปที่นรกอมอัณฑะทองแดง นายนิรยบาลผลักเขาเข้าไปข้างใน เขามองเห็นคนรักของตัวเองมาปรากฏตัวอยู่ในนรกขุมนี้จึงรีบเข้าไปดู ที่จริงแล้วนั่นไม่ใช่คนรักของเขา แต่นั่นคือนกใหญ่ตัวหนึ่ง เจ้านกใหญ่ใช้ปากของมันครอบลงไปที่องคชาตของเขาได้อย่างพอเหมาะพอดี เมื่อครอบลงไปแล้ว เจ้านกก็ลากดึงองคชาตของเขาไปข้างหน้าจนขาด วิญญาณชายคนนั้นแผดเสียงกรีดร้องอย่างดังด้วยความเจ็บปวดทรมานอย่างสุดแสน เนื่องจากโหดเหี้ยมเกินไป เมื่อดูถึงตรงนี้ข้าพเจ้าก็ไม่สามารถทนดูต่อไปได้อีกแล้ว
    *หลังจากที่ข้าพเจ้าเดินออกไป ก็ขอคำแนะนำจากผู้พิพากษาเกี่ยวกับเรื่องการลงโทษผู้ที่ประพฤติผิดในกาม
    *ตามที่ผู้พิพากษาได้บอกให้ทราบ อันดับแรกจะต้องมีสติสัมปชัญญะ ทุกๆเวลาต้องคอยระมัดระวังตัวเอง รู้จักประคองรักษาตนเองให้สะอาดบริสุทธิ์ไม่ไหลไปตามกระแสอันโสมม อีกทั้งคอยตักเตือนผู้อื่น หากมีความคิดที่จะล่วงประเวณีหรือประพฤติผิดในกาม เพียงแค่คิด แต่ไม่ได้ออกไปดำเนินปฏิบัติ ก็ต้องถูกลดบุญวาสนาลง ๑สัปดาห์ หากดูนิตยสารลามก เพียงแค่ดูอย่างเดียวแต่ไม่ได้นำไปสู่การปฏิบัติ ไม่ได้มีการประพฤติผิดในกามข้ออื่นๆตามมาหลังจากที่ได้ดูแล้ว ก็ต้องถูกลดบุญวาสนาและอายุขัยลง ๑สัปดาห์ แต่ถ้าหากการดูนิตยสารลามกนั้น นำไปสู่การปฏิบัติ มีการประพฤติผิดในกามข้ออื่นๆตามมาหลังจากที่ได้ดูแล้ว ในครั้งแรกจะถูกลดบุญวาสนาและอายุขัยลง ๑ เดือน หากดูครั้งที่ ๒ และนำไปสู่การปฏิบัติอีกเป็นครั้งที่ ๒ จะต้องถูกลดบุญวาสนาและอายุขัยลง ๒ เดือน คาดคะเนตามหลักการและเหตุผลเช่นนี้
    *ชายหญิงที่มีเพศสัมพันธ์กันก่อนแต่งงานทั้งหมด จะต้องถูกลดบุญวาสนาและอายุขัย ซึ่งผลกรรมที่แต่ละคนได้รับนั้นจะไม่เหมือนกัน แล้วแต่กรณีและเหตุปัจจัยของแต่ละคน แบ่งหยาบๆตามสภาพเนื้อหากว้างๆ สามารถสรุปออกมาได้ ๓ ประเภท คือ
    *ประเภทที่ ๑ ตลอดชีวิตมีคู่ครองแค่คนเดียว และอีกฝ่ายมีตัณหาราคะน้อย ต่อมาภายหลังทั้งคู่ได้แต่งงานกัน ประเภทนี้ถ้าหากไม่ได้ละเมิดฝ่าฝืนข้อห้ามที่ว่า คือ ไม่ถูกเวลา ไม่ถูกสถานที่ ไม่ถูกอวัยวะ พวกเขาก็เพียงแค่ถูกลดบุญวาสนาลง ให้รีบสำนึกขอขมาแก้ไขความผิดบาปให้เร็วที่สุดก็จะสามารถสลายกรรมได้
    *ประเภทที่ ๒ มีคู่ครองแค่คนเดียว แต่ว่าทั้งก่อนแต่งงานและหลังแต่งงาน ได้ละเมิดฝ่าฝืนข้อห้าม คือ ไม่ถูกเวลา ไม่ถูกสถานที่ ไม่ถูกอวัยวะ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีตัณหาราคะความกำหนัดสูง ทั้งก่อนแต่งงานและหลังแต่งงาน จะต้องถูกลดบุญวาสนาและอายุขัยลง เมื่อสิ้นอายุขัยจะต้องตกนรกโอบเสาทองแดง ๕๐๐ ปี นรกอมอัณฑะทองแดงอีก ๕๐๐ ปี หากตอนมีชีวิตอยู่ได้สำนึกขอขมาแก้ไขความผิดบาปที่ทำไว้อย่างจริงใจจริงๆ ไม่กลับไปทำผิดซ้ำอีก และพลังในการสำนึกขอขมาแก้ไขความผิดบาปนั้นก็มีพลังมากกว่าแรงกรรมที่ทำลงไป อีกทั้งยังเพิ่มพลังมากยิ่งขึ้นอีกในการชักชวนตักเตือนผู้อื่นให้ผู้อื่นไม่ประพฤติผิดในกาม นำบุญกุศลเหล่านี้มาชดใช้ความผิดบาป บางทีก็อาจจะสามารถพ้นจากผลกรรมในนรกได้
    *ประเภทที่ ๓ ทั้งก่อนแต่งงานและหลังแต่งงานก็ละเมิดฝ่าฝืนข้อห้ามกาเมสุมิจฉาจาร มั่วกาม สำส่อน มีเพศสัมพันธ์แบบฉาบฉวย มีตัณหาราคะความหิวกระหายในกามรุนแรงมากเป็นพิเศษ ตลอดทั้งวันใช้ชีวิตอย่างลุ่มหลงมัวเมากับสิ่งเหล่านี้ ในชาตินี้จะต้องถูกลดบุญวาสนาและอายุขัยลง เมื่อสิ้นอายุขัยก็จะต้องตกนรก รับโทษในนรกโอบเสาทองแดง นรกนอนเตียงเหล็ก นรกอมอัณฑะทองแดงและนรกขุมอื่นๆ จะต้องรับโทษในนรกแต่ละขุมอย่างน้อยที่สุดขุมละหนึ่งหมื่นปี ซึ่งการตัดสินโทษออกมาอย่างเป็นรูปธรรมนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละคนแต่ละกรณี เมื่อรับโทษในนรกจนหมดสิ้นแล้วก็จะต้องไปเกิดในเดรัจฉานภูมิ บ้างไปเกิดเป็นเป็ดแมนดาริน บ้างไปเกิดเป็นหมา เป็นงูเป็นต้น
    *วิญญาณบาปที่มีมากที่สุดในนรกขณะนี้ ก็คือวิญญาณบาปประเภทที่ ๓ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้นรกได้ขยายใหญ่ขึ้นกว่าสมัยก่อนอย่างมากมาย ในปัจจุบันนี้คนบนโลกมนุษย์จำนวนมากล้วนเป็นพวกประเภทที่ ๓ ต่อไปในภายภาคหน้าพวกเขาเหล่านั้นก็จะต้องมารับโทษในนรกกันทุกคน
    *ผู้พิพากษายังบอกต่อไปอีกว่า เวลาที่ผู้หญิงมีประจำเดือน สามี-ภรรยา ห้ามมีเพศสัมพันธ์กันโดยเด็ดขาด ขณะที่ผู้หญิงกำลังตั้งครรภ์รวมไปถึงช่วงเวลาที่ยังให้นมลูกอยู่ ก็จะมีเพศสัมพันธ์กันไม่ได้ มิฉะนั้นจะต้องถูกลดบุญวาสนา และที่ยิ่งแย่ไปกว่านั้น การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีประจำเดือน เท่ากับเป็นการกวักมือเชื้อเชิญภูติ ผี ปีศาจทุกชนิดทุกประเภทที่ดูดกินเลือดและน้ำกามเป็นอาหาร ให้มาดูดกินเลือด ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ก็จะมีผีที่ดูดกินน้ำกามมาดูดกินน้ำกาม (ดูดกินพลังธาตุ ) ซึ่งต่อมาภายหลังจะทำให้ร่างกายเกิดโรคภัยไข้เจ็บ และยังทำให้ชะตาชีวิตไม่ดี เกิดเคราะห์ภัยขึ้นมากมาย
    *ผู้พิพากษายังบอกให้รู้อีกว่า ในฤดูร้อนถ้าหากผู้หญิงสวมใส่เสื้อผ้าที่โป๊เปลือย เผยให้เห็นเนื้อหนังมากเกินไป ก็จะต้องถูกลดบุญวาสนาลง ๑สัปดาห์ เพราะว่าไปกระตุ้นให้เพศตรงข้ามเกิดความคิดในเรื่องกามตัณหาลามกมากขึ้น หลังจากที่ได้ฟังผู้พิพากษาพูดแล้วก็รู้สึกว่าการบังเกิดความคิดเป็นสิ่งที่สำคัญมากจริงๆ ที่จริงแล้วท่ามกลางโลกที่ตาเนื้อของมนุษย์มองไม่เห็นนั้น ยังมีผีและเทพที่รับผิดชอบหน้าที่คอยตรวจตราและจดบันทึกพฤติกรรมต่างๆของพวกเราอยู่
    *สำนึกคุณผู้พิพากษาเป็นอย่างยิ่งที่ได้ให้ข้อมูลสำคัญ เปิดเผยความลับสวรรค์ กราบลาตรงนี้ เพียงหวังว่าทุกคนทั่วหล้าจะบำเพ็ญพรหมจรรย์ได้สะอาดบริสุทธิ์ ไม่ต้องรับความทุกข์ในนรก
     
  8. นิรยะ

    นิรยะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2015
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +30
    กฎนรกไร้ความปรานี ตอนที่ ๕
    สำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง ( ชักว่าว ) รับโทษในมหานรกอย่างโหดเหี้ยมน่าเวทนา
    - ผู้พิพากษาแพร่งพรายความลับสวรรค์จนหมดสิ้น

    *เมื่อวานนี้ ข้าพเจ้าได้รับพลังแห่งพุทธานุภาพให้ได้ไปเยือนนรกอีกครั้งหนึ่ง พระพุทธะโพธิสัตว์ฉุดช่วยเวไนยเหมือนกับมหาสมุทรที่ไม่ออกห่างจากคลื่น ไม่มีเวลาหยุดพัก ครั้งแล้วครั้งเล่าเกิดความคิดอย่างต่อเนื่องที่จะฉุดช่วยเวไนยทั้งหลาย เหมือนกับคลื่นลูกแล้วลูกเล่าที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย ปรารถนาให้สรรพสัตว์ทั่วหล้าใต้ฟ้านี้สามารถเข้าใจและซาบซึ้งในพุทธธรรม ปฏิบัติตนให้อยู่ในกรอบไม่ออกนอกลู่นอกทาง รักษาศีล ๕ ถนอมรักษาร่างกายของมนุษย์ที่ได้มาโดยยากลำบากนี้ให้สะอาดบริสุทธิ์ ไม่ไหลไปตามกระแสอันโสมม ข้าพเจ้าหวังเพียงให้ตนเองก็สามารถเลียนแบบจิตอันเปี่ยมด้วยมหาเมตตามหากรุณาของพระพุทธะโพธิสัตว์ที่บริการรับใช้เวไนยอย่างกว้างขวางโดยไม่หยุดพักผ่อน
    *ขอคุกเข่ากราบสำนึกคุณพลังแห่งพุทธานุภาพและพรของพระพุทธะ ด้วยการสวดพุทธนามเพียงครั้งเดียวก็ทำให้ข้าพเจ้าสามารถมาถึงนรกภูมิที่แสนทุกข์ทรมานนี้ หากไม่ได้พลังแห่งพุทธานุภาพแผ่รัศมีล้อมรอบปกป้องคุ้มครองกายของข้าพเจ้าอยู่ แน่นอนว่าข้าพเจ้าจะต้องเหนื่อยและอ่อนเพลียเป็นอย่างยิ่ง พลังสนามแม่เหล็กของนรกเป็นพลังด้านลบที่มีพลังมหาศาลราวกับว่าสามารถจะโค่นล้มภูเขาและคว่ำทะเลได้โดยที่พลังของมันไม่มีวันหมดไปอย่างนั้นแหละ หากว่าโลกมนุษย์มีฝนตกติดต่อกัน ๗ วันไม่หยุด ท้องฟ้ามืดครึ้ม แถมยังมีไข้หวัด เชื่อว่าจะต้องมีหลายคนบ่นว่าทุกข์จริงๆ ทุกๆวันท้องฟ้ามืดครึ้มมีฝนตก ร่างกายก็เจ็บป่วย หัวก็หนัก เท้าก็ไม่มีแรง แถมยังต้องไปทำงานอีก แต่ความจริงแล้วความทุกข์ในโลกมนุษย์ยังน้อยกว่าความทุกข์ในนรกเป็นร้อยเท่าพันเท่า ความทุกข์ในนรกนั้นยาวนานต่อเนื่องไม่มีขาดตอนเลย
    *ตอนนี้ข้าพเจ้าได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนด้วยความทุกข์ทรมานแล้ว เราลองตามเสียงร้องนั้นไปดูๆกันซักหน่อยเถอะ ! โอ้ ! วิญญาณชายมากมายเปลือยกายล่อนจ้อน พวกเขากำลังถูกเปลวไฟสีแดงอันอ่อนนุ่มที่ดูเหมือนกับงูไฟ ๒หัวพันรัดตัวของพวกเขาอยู่ แต่วิญญาณชายเหล่านั้นกลับมองเห็นงูไฟ ๒หัวเป็นสาวสวยมากอดรัด และเล้าโลมลูบไล้อย่างอ่อนโยน เมื่องูไฟ ๒หัวเจอองคชาตของวิญญาณชายเหล่านั้น มันก็กัดองคชาตของวิญญาณชายจนขาดทันที วิญญาณชายร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่งด้วยความเจ็บปวดทรมานและเป็นลมหมดสติไป จากนั้นงูไฟ ๒หัวก็พ่นลมออกมา ๑ครั้ง วิญญาณชายเหล่านั้นก็ฟื้นขึ้นมาและกลับคืนสู่สภาพเดิมทันที องคชาตที่ถูกกัดจนขาดไปก็ได้กลับคืนมาอย่างครบถ้วนไม่มีบุบสลาย แล้วงูไฟ ๒หัวก็เริ่มเปิดฉากการลงโทษวิญญาณชายเหล่านั้นใหม่อีกครั้ง ไม่อยากดูต่อแล้วจริงๆ รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง
    *ที่นี่มีวิญญาณชายประเภทนี้อยู่มากมาย พวกเขาต่างได้รับความทุกข์ทรมานอันแสนสาหัสนี้ ข้าพเจ้าออกจากนรกขุมนี้แล้วขอคำชี้แนะจากผู้พิพากษาว่าเพราะเหตุใดพวกเขาจึงต้องรับผลกรรมเช่นนี้ ?
    *ผู้พิพากษาบอกว่านี่คือ ๑ในผลกรรมตอบสนองของนรกสำหรับคนที่ชอบใช้มือสำเร็จความใคร่ให้ตัวเอง (ชักว่าว ) พวกเขาจะต้องรับการลงโทษจากงูไฟ ๒หัว โดยคิดคำนวณตามเวลาในนรกเป็นระยะเวลาหนึ่งหมื่นปี เป็น ๑ในผลกรรมตอบสนองของคนปกติทั่วๆไปที่ชอบใช้มือสำเร็จความใคร่ให้ตัวเองแบบธรรมดาๆ
    *ยังมีพวกที่ชอบสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองอีกประเภทหนึ่งที่จะต้องรับผลกรรมในนรกนานถึงสองหมื่นปี ก็คือพวกที่ชอบแสวงหาสิ่งของมากระตุ้นรสสัมผัสทางอวัยวะ เช่น ใช้น้ำแข็ง ใช้น้ำอุ่น ใช้พริก ใช้ยาหล่อลื่น และอื่นๆเป็นต้น หรือบางคนอาจจะนำเอาสิ่งของและวิธีที่ตัวเองชอบใช้ในการสำเร็จความใคร่ให้ตัวเองออกมาสอน มาเผยแพร่ให้คนอื่นๆรู้จักวิธีการและทำตามแบบอย่างวิธีเหล่านั้น คนพวกนี้เมื่อสิ้นอายุขัย จะต้องตกนรกน้ำแข็ง-ไฟ๕ซ้ำ
    *ข้าพเจ้าขอเรียนถามผู้พิพากษาว่า เพราะเหตุใดการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองจึงถูกตัดสินลงโทษรุนแรงขนาดนั้น เพียงแค่ละเมิดความผิดแบบเบาๆเท่านั้นเอง ทำไมถึงลงโทษตั้งหนึ่งหมื่นปี ?
    *ผู้พิพากษาบอกว่า เป็นเพราะการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองนั้นเป็นการทำร้ายร่างกายของตัวเองและทำลายศีลธรรมจรรยา การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองยังทำให้สูญเสีย ๓สิ่งวิเศษในกายมนุษย์ คือ กายธาตุ พลังธาตุ และวิญญาณธาตุ ก็เหมือนกับการฆ่าตัวเอง ซึ่งก็เท่ากับไม่กตัญญูต่อพ่อแม่เป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้ไม่ได้ทำร้ายใครแต่การฆ่าตัวเองก็คือการฆ่าชีวิตหนึ่งชีวิต ดังนั้นจึงตัดสินโทษอย่างหนัก โดยปกติทั่วไปคนที่ชอบสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองมักจะชอบสำเร็จความใคร่ให้ตัวเองเป็นประจำถี่ๆและบ่อยๆ เมื่อสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง ๑ครั้ง ลดบุญวาสนาและอายุขัยลงครึ่งเดือน ทำครั้งที่ ๒ ลดบุญวาสนาและอายุขัยลง ๑เดือน เมื่อสิ้นอายุขัยจะต้องรับผลกรรมในนรก หากตอนมีชีวิตอยู่ได้สำนึกขอขมาแก้ไขความผิดบาปอย่างจริงใจไม่กลับไปทำความผิดซ้ำ ทำความดีสะสมบุญกุศลชดใช้ความผิดบาป เมื่อสิ้นอายุขัยบางทีก็อาจจะไม่ต้องไปรับความทุกข์ทรมานในนรก ซึ่งจะตัดสินโดยดูจากการประพฤติปฏิบัติของแต่ละคนแต่ละกรณี
    *ผู้พิพากษาถามข้าพเจ้าว่าต้องการไปเข้าชมนรกน้ำแข็ง-ไฟ ๕ซ้ำ ใช่หรือไม่ ? ข้าพเจ้าคิดว่าก็ดีนะ ไปดูๆกันเถอะ
    *ที่นี่ยังโหดเหี้ยมยิ่งกว่านรกงูไฟ ๒หัวมากนัก แถมยังมีเครื่องมือทรมานนักโทษเยอะมาก เครื่องมือทรมานนักโทษมีลักษณะเป็นเบ้าพิมพ์ทรงกรวยที่แหลมคมมีความโปร่งแสงคล้ายๆกับจะมีสีขาวอยู่บ้างและดูเหมือนว่าไม่มีอะไรที่จะแช่แข็งได้แข็งและแหลมคมได้เท่ากับเจ้าเบ้าพิมพ์นี้อีกแล้ว เมื่อองคชาตของวิญญาณชายแข็งตัวก็จะถูกเบ้าพิมพ์น้ำแข็งแช่แข็งจนแข็งและแตกละเอียด รับโทษซ้ำไปซ้ำมาเช่นนี้จนครบตามจำนวน
    *เมื่อรับการลงโทษจากน้ำแข็งจนครบแล้ว ก็รับการลงโทษจากภูเขาไฟทับยอดอย่างต่อเนื่องโดยทันทีไม่มีหยุด ภูเขาไฟทับยอดนี้คือการลงโทษผู้ที่ชอบใช้น้ำอุ่น ใช้พริกมาช่วยในการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง เครื่องมือทรมานนักโทษรูปร่างลักษณะเหมือนภูเขาไฟสีแดงลูกเล็กๆได้เข้ามาหาวิญญาณชาย ซึ่งดูเหมือนกับว่ามันกำลังวัดขนาดและปรับขนาดให้พอดีกับส่วนหัวสีแดงขององคชาตแล้วจึงกดทับลงไปทำให้องคชาตถูกไฟลุกไหม้แผดเผา ทั้งเสียงกรีดร้อง เสียงโหยหวน เสียงเจ็บปวดทุกข์ทรมาน และเสียงทิ้งตัวสลบจากการเป็นลมล้มพับเต็มไปหมดทั่วทั้งบริเวณ หลังจากนั้นพวกเขาก็จะฟื้นขึ้นมาใหม่ด้วยแรงกรรมและรับโทษซ้ำจนกว่าจะครบตามจำนวน ต้องรับโทษวนเวียนอยู่เช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ช่างเจ็บปวดทุกข์ทรมานเหลือเกิน น่าสงสารจริงๆ
    *การเข้าชมนรกในค่ำคืนนี้ทำให้รู้สึกคลื่นไส้อาเจียน ผู้พิพากษาบอกว่านรกขุมนี้เป็นนรกที่สร้างขึ้นมาใหม่ แต่ยังไม่พอใช้ยังต้องสร้างเพิ่มขึ้นอีกเพราะว่าบนโลกมนุษย์มีเวไนยประเภทนี้เยอะมาก เมื่อสิ้นอายุขัยพวกเขาจะต้องมารับโทษในนรกขุมนี้
    *นรกขุมอื่นๆที่ข้าพเจ้าเห็นกำลังสร้างเพิ่มเติมอยู่นั้น มีอยู่จำนวนหนึ่งที่สร้างขึ้นเป็นร้านเสริมสวยโดยเฉพาะ เพื่อคุณผู้หญิงที่ทำศัลยกรรมยกกระชับช่วงล่าง เสริมหน้าอก เป็นต้น และยังมีนรกเสริมสวยอีกเพียบ บนโลกมนุษย์มีบริษัทเสริมความงามและศูนย์การแพทย์มากมายที่ไม่ถูกทำนองคลองธรรม มุ่งทำให้ผู้หญิงหมกมุ่นลุ่มหลงอยู่ในกามตัณหาราคะ ละเมิดฝ่าฝืนข้อห้ามประพฤติผิดในกาม ตอนมีชีวิตอยู่จะต้องถูกลดบุญวาสนาและตัดทอนอายุขัย เมื่อสิ้นอายุขัยจะต้องรับโทษในนรกหนึ่งหมื่นปี
    *ผู้พิพากษารู้ว่าข้าพเจ้ามีปัญหาสงสัย ที่จริงแล้วพวกเรากำลังสื่อสารกันโดยใช้จิตสื่อจิต
    *ในใจของข้าพเจ้าคิดอยากจะถามว่าเพราะเหตุใดการร่วมเพศแบบไม่ถูกสถานที่จึงเป็นการละเมิดศีล แต่ยังไม่ทันได้ถาม ผู้พิพากษาก็ให้ดูภาพยนตร์ซะแล้ว
    *ที่แท้ เอ้าดอร์ (นอกสถานที่, ที่โล่งแจ้ง ) ในห้องน้ำ หรือค่ำคืนที่เกิดฟ้าร้องฟ้าแลบ จะมีภูตผีปีศาจมากมายหลายประเภท บ้างเป็นเปรต มาร ปีศาจที่มาดูดกินน้ำกาม ( ดูดกินพลังธาตุ ) บ้างก็มาเกาะร่าง มาอาศัยร่างครอบงำจิตใจ บ้างมาเข้าสิง หากอยู่ในสถานที่เหล่านั้นแล้วร่วมเพศกัน ย่อมไม่เป็นผลดีกับร่างกายของตนเองและยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการทำลายสัจพลังอันเที่ยงตรงของสนามแม่เหล็กในธรรมชาติ เรียกว่าทำเรื่องแบบนี้แล้วจะมีแต่เรื่องที่ไม่ดี เรื่องที่ดีมีประโยชน์แม้แต่เรื่องเดียวก็ไม่มี ดังนั้นเวไนยที่ละเมิดฝ่าฝืนจะต้องไปรับความทุกข์ตอบสนองด้วยตัวเอง
    *ก่อนที่ข้าพเจ้าจะกลับ ผู้พิพากษากำชับกับข้าพเจ้าว่า : “ ครั้งนี้ท่านอาศัยพุทธานุภาพมาถึงที่นี่ ก็เพราะได้รับอนุญาตจากเง็กเซียนฮ่องเต้และพญายมราช ทั้งยังมีคำสั่งให้เราอธิบายสภาพอันแท้จริงในนรก เรียกว่าแพร่งพรายความลับสวรรค์จนหมด ซึ่งหาได้ยากยิ่ง หวังว่าท่านกลับไปบนโลกมนุษย์จะถ่ายทอดคำพูดเหล่านี้ตักเตือนชาวโลก อย่าได้ประพฤติผิดในกาม อย่าทำลายศีลธรรมจรรยา อย่าบกพร่องต่อคุณธรรมสัมพันธ์ นรกนั้นตัวเองเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง ปริมาณงานในนรกและภัยพิบัติทั้งจากธรรมชาติและจากน้ำมือมนุษย์ก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ท่านดูหน้าตาของเราช่างน่าหวาดกลัวขนาดนี้ หวังว่าชาวโลกเมื่อตายแล้วจะไม่ต้องมาเจอหน้ากับเรา ก็นับว่าโชคดีเป็นอย่างยิ่ง”
    *ความชั่วทั้งปวงกามตัณหามาเป็นอันดับหนึ่ง !
    *กราบลาผู้พิพากษา สำนึกคุณผู้พิพากษาอบรมสั่งสอน โอกาสหน้าพบกันใหม่
     
  9. นิรยะ

    นิรยะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2015
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +30
    กฎนรกไร้ความปรานี ตอนที่ ๖
    นักเที่ยวโสเภณีรับผลกรรมในมหานรกหนึ่งแสนปี

    *สำนึกคุณพระพุทธะประทานยานดอกบัวขาวให้ข้าพเจ้าใช้เดินทาง ทำไมวันนี้ถึงได้รู้สึกว่านรกไม่เหมือนนรก หรือว่าจะมาผิดทางซะแล้ว ปกตินรกจะเต็มไปด้วยบรรยากาศที่อึมครึมอย่างหนักหน่วง แต่วันนี้มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ปรากฏแสงสีทองอันโชติช่วงชัชวาลสว่างไสวไปหมด เป็นพุทธรังสีที่ทำให้เกิดความรู้สึกสบายเป็นอย่างยิ่ง เมื่อแหงนหน้าขึ้นมองดู ที่แท้คือพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ น้ำตาของข้าพเจ้าก็ปริ่มจนแทบจะไหลออกมาเอง รีบกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ต่อองค์พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ทันที พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ชี้แนะข้าพเจ้าว่า จะต้องทะนุถนอมกายเนื้อกายสังขารของมนุษย์นี้ไว้ให้ดีๆ เพื่อมาทำงานที่มีคุณค่ามีความหมายชิ้นนี้ให้สำเร็จลุล่วง จะต้องประกาศพระสัทธรรมให้กว้างไกลออกไปอย่างจริงๆจังๆ นำความทุกข์ยากในนรกออกไปเปิดเผย กลับไปเตือนเวไนยบนโลกมนุษย์ให้เวไนยบนโลกมนุษย์กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี ละทิ้งความชั่วหันมาทำความดี ข้าพเจ้าปลื้มปิติใจตอบพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์กลับไปว่า ข้าพเจ้าจะพยายามอย่างสุดความสามารถ อาศัยคำสอนนี้ไปดำเนินปฏิบัติ
    *คารวะผู้พิพากษาที่อยู่เบื้องหน้า ! วันนี้อยากถามผู้พิพากษาว่า : “ นักเที่ยวโสเภณี โสเภณี รวมทั้งแมงดาและคนที่ล่อลวงหรือฉุดผู้หญิงมาค้าประเวณี มีผลกรรมอย่างไร ?”
    *ผู้พิพากษาบอกข้าพเจ้าว่า นักเที่ยวโสเภณีแบ่งออกเป็น ๒ประเภท
    ประเภทที่ ๑ คือ มีความต้องการทางกายภาพที่ตนเองไม่สามารถควบคุมได้ และเมียหลวงก็ไม่สามารถสนองความต้องการให้ได้ จึงต้องไปหาโสเภณีที่เป็นขาประจำอยู่บ่อยครั้ง แต่ละครั้งที่ละเมิดความผิดบาปนี้ จะต้องถูกลดบุญวาสนาและบั่นทอนอายุขัยลง ๑เดือน เมื่อสิ้นอายุขัยจะต้องไปรับโทษในนรกกามาตามความผิดบาปที่ได้ละเมิดไว้ ระยะเวลาในการรับโทษจะพิจารณาดูจากพฤติกรรมที่ปฏิบัติออกมาของแต่ละคนแต่ละกรณีมาใช้ประกอบในการตัดสิน โดยทั่วไปวิญญาณบาปส่วนใหญ่จะรับโทษเป็นเวลา ๘๐๐ปี
    *ประเภทที่ ๒ คือ มีไฟแห่งตัณหาราคะที่คุโชน หมกมุ่นในกามตัณหาอยู่กับโสเภณีเป็นเวลายาวนาน ฟุ่มเฟือยไม่ทะนุถนอมร่างกาย ใช้ชีวิตอย่างสำมะเลเทเมา เอาร่างกายมาใช้เป็นเครื่องมือในการแสวงหาความสุขในกาม แต่ละครั้งที่ละเมิดความผิดบาปนี้ จะต้องถูกลดบุญวาสนาและบั่นทอนอายุขัยลง ๑เดือนครึ่ง เมื่อสิ้นอายุขัยจะต้องไปรับโทษในนรกกามาตามความผิดบาปที่ได้ละเมิดไว้หนึ่งแสนปี เมื่อรับโทษในนรกจนหมดแล้วยังต้องไปเกิดในเดรัจฉานภูมิเป็นสัตว์ชั้นต่ำ ๑๐๐๐ปี ภายหลังถึงแม้จะได้กลับมาเกิดเป็นคนอีก ก็เป็นคนสมองทื่อปัญญาทึบ
    *สำหรับผลกรรมของโสเภณีแบ่งเป็น ๓ประเภท
    *ประเภทที่ ๑ คือ ถูกคนอื่นควบคุม บังคับขู่เข็ญให้ขายตัวโดยที่ตัวเองไม่สามารถขัดขืนหรือหนีเอาตัวรอดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกครั้งที่ร่วมเพศไม่ได้รู้สึกมีความสุขเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ต่อมาภายหลังจะได้รับการช่วยเหลือให้รอดพ้นออกมาได้ แต่ก็จะต้องสำนึกขอขมาแก้ไขความผิดบาป ต่อไปจะต้องไม่ทำผิดซ้ำอีกอย่างเด็ดขาด ก็อาจจะได้รับการยกเว้นโทษในนรก
    *ประเภทที่ ๒ คือ เพื่อเงินทอง จึงมาใช้ชีวิตเป็นโสเภณี แต่ละครั้งที่ละเมิดความผิดบาป จะต้องถูกลดบุญวาสนาและตัดทอนอายุขัยลง ๑เดือน เมื่อสิ้นอายุขัย จะต้องไปรับโทษในนรกกามาตามความผิดบาปที่ได้ละเมิดไว้แปดหมื่นปี เมื่อรับโทษในนรกจนหมดแล้วจึงได้ไปเกิดในเดรัจฉานภูมิ ๘๐๐ปี ภายหลังถึงแม้ว่าจะได้กลับมาเกิดเป็นคนอีก ก็เป็นคนต่ำต้อย หยาบช้าเลวทราม
    *ประเภทที่ ๓ โสเภณีในประเภทที่ ๓นี้จะเหมือนกับนักเที่ยวโสเภณีประเภทที่ ๒ ที่บอกว่าเหมือนกันก็คือ มีไฟแห่งตัณหาราคะที่คุโชน ฟุ่มเฟือยไม่ทะนุถนอมร่างกาย ใช้ชีวิตอย่างสำมะเลเทเมา เอาร่างกายมาใช้เป็นเครื่องมือในการแสวงหาความสุขในกาม แต่ละครั้งที่ละเมิดความผิดบาปนี้ จะต้องถูกลดบุญวาสนาและบั่นทอนอายุขัยลง ๒เดือน เมื่อสิ้นอายุขัยจะต้องไปรับโทษในนรกกามาตามความผิดบาปที่ได้ละเมิดไว้ หนึ่งแสนห้าหมื่นปี เมื่อรับโทษในนรกจนหมดแล้วจึงได้ไปเกิดในเดรัจฉานภูมิเป็นสัตว์ชั้นต่ำ ๒๐๐๐ปี ภายหลังถึงแม้จะได้กลับมาเกิดเป็นคนอีก ก็เกิดเป็นคนต่ำต้อย หยาบช้าเลวทราม

    *อาชีพแมงดาและคนที่ล่อลวงหรือฉุดผู้หญิงไปค้าประเวณี แบ่งเป็น ๒ประเภท
    *ประเภทที่ ๑ เพื่อเงินทองจึงมาทำอาชีพนี้ชั่วคราวเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ละครั้งที่ละเมิดความผิดบาปนี้ จะต้องถูกลดบุญวาสนาและบั่นทอนอายุขัยลง ๑เดือนครึ่ง เมื่อสิ้นอายุขัย จะต้องรับโทษในนรกเกลือกกลิ้งประเวณีหนึ่งแสนปี แต่ถ้าหากตอนมีชีวิตอยู่สามารถเกิดจิตรู้สึกสำนึกและตีตัวออกห่างไม่กลับไปทำความผิดเดิมนี้ซ้ำอีกอย่างเด็ดขาด อีกทั้งยังสำนึกขอขมาแก้ไขความผิดบาปอย่างจริงจัง ทำความดีชดใช้ความผิด บางทีก็อาจจะลดโทษในนรกให้เบาลงได้ส่วนหนึ่ง
    *ประเภทที่ ๒ มีเจตนาอันไม่สุจริต ควบคุมโสเภณีไว้ในกำมือ และตัวเองก็คุโชนไปด้วยไฟแห่งตัณหาราคะความกำหนัดที่โหมไหม้อย่างรุนแรง เห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ มุ่งวางแผนคิดกลอุบายใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น เป็นต้น ตอนมีชีวิตอยู่จะต้องถูกลดบุญวาสนาและบั่นทอนอายุขัยลง เมื่อสิ้นอายุขัยจะต้องรับโทษในนรกเกลือกกลิ้งประเวณีเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน จนกว่าโสเภณีทั้งหลายที่ถูกบังคับขู่เข็ญและถูกคุกคามให้ได้รับอันตรายเหล่านั้นจะได้ไปเกิดใหม่เป็นมนุษย์ คนประเภทนี้จึงสามารถมีโอกาสได้พ้นออกไปจากนรกและได้ไปเกิดในเดรัจฉานภูมิ เมื่อรับโทษในเดรัจฉานภูมิจนหมดแล้ว จึงได้ไปเกิดเป็นคนต่ำต้อย หยาบช้าเลวทราม
    *“ ผู้พิพากษาค่ะ คนที่มีอาชีพแมงดาและคนที่ล่อลวงหรือฉุดผู้หญิงไปค้าประเวณีเหล่านี้มีกรรมที่หนักมาก หลังจากที่ได้ฟังท่านอธิบายแล้ว ในใจของข้าพเจ้ารู้สึกว่าช่างทุกข์ยากลำบากเหลือเกิน น่าเห็นใจคนที่ก่อกรรมประเภทนี้ ”
    *ผู้พิพากษาบอกว่า : “ ผู้ที่ก่อกรรมประเภทนี้เป็นการทำลายสังคมและวัฒนธรรมอย่างรุนแรง ทำลายศีลธรรมจรรยา ทำลายระเบียบแบบแผนของจริยธรรม ทำลายคุณธรรมสัมพันธ์ ส่งผลกระทบต่อจิตเดิมแท้อันดีงามของมนุษย์อย่างร้ายแรง ดังนั้น พญายมจึงต้องลงโทษคนที่ละเมิดความผิดบาปประเภทนี้อย่างหนัก แต่ตามที่เรารู้มา พระพุทธะโพธิสัตว์ทรงเมตตาต่อเวไนยประเภทนี้ ด้วยการนิรมาณกายเป็นมนุษย์ไปที่นั่น เพื่อฉุดช่วยคนที่มีรากบุญให้กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี ”*วันนี้ได้มาถึงที่นี่ สำนึกคุณผู้พิพากษา ! อาหมีถัวฝอ ! นั่งดอกบัวขาวกลับบ้าน
    ครั้งนี้รู้สึกปลาบปลื้มใจเป็นอย่างยิ่ง ในขณะที่อยู่ท่ามกลางนรกไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะได้พบกับพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ ทั่วทั้งกายของพระโพธิสัตว์ล้อมรอบด้วยรัศมีสีทอง และยังประทานพรให้แก่ข้าพเจ้า แรงปณิธานของพระโพธิสัตว์ช่างกว้างใหญ่และเป็นสิ่งที่คาดคิดไม่ถึงเลยจริงๆ
    *กลับมาถึงโลกมนุษย์รู้สึกอ่อนเพลียมาก เป็นเพราะแต่ละครั้งที่ไปนรกจะต้องสิ้นเปลืองพลังไปไม่ใช่น้อย กลับมาแล้วจะต้องรีบสวดมนตร์เพิ่มเติมทันที หวังว่าท่านผู้อ่านทุกๆท่านจะไม่มองว่านี่เป็นนวนิยาย จะได้ไม่ผิดต่อความตั้งใจอันดีของพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ อาอวี้ขอขอบคุณทุกๆท่านอีกครั้ง
    *นาโม ต้าเอวี้ยนตี้จั้งหวังผูซ่าหมอเฮอซ่า ( นะโม มหาปณิธานกษิติครรภราชาโพธิสัตว์มหาสัตว์ )
     
  10. นิรยะ

    นิรยะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2015
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +30
    กฎนรกไร้ความปรานี ตอนที่ ๗
    สภาพเหตุการณ์จริงในนรกฝ้าเพดานน้ำแข็งกงล้อหมุนและนรกป่าดาบบุปผชาติ บทลงทัณฑ์สำหรับผู้มีเพศสัมพันธ์ในหมู่เครือญาติ

    *อาอวี้ขอคุกเข่ากราบพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ ข้าพเจ้ารู้สึกปลาบปลื้มใจอย่างยิ่ง อีกทั้งยังได้ชุ่มชื่นในน้ำพระธรรมที่มีประโยชน์
    *พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ชี้แนะเรื่องศีล ๕ ให้แก่อาอวี้ รักษาศีล ๕ จึงสามารถรักษากายของมนุษย์ให้คงอยู่ เพราะศีล ๕ คือพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ ไม่ให้มนุษย์ต้องตกต่ำ ฟังดูแล้วเหมือนเป็นเรื่องที่ธรรมดาพื้นๆมาก แต่มีเวไนยมากมายที่ไม่รู้ว่าตนเองได้ละเมิดศีลไปแล้ว
    *พวกเรามักจะได้ยินคนรอบๆตัวพูดว่า “ฉันไม่เคยทำเรื่องฆ่าคน วางเพลิง ทำร้ายคน” โดยทั่วไปคนๆหนึ่งจะคิดว่าการฆ่าคน วางเพลิง เป็นความผิดบาปที่ร้ายแรงของชีวิต จะต้องไปรับโทษในนรก ตอนนี้พวกเราลองมาฟังพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์เมตตาให้คำชี้แนะดูบ้าง หากมีข้อผิดพลาดนั่นคือความผิดพลาดของตัวข้าพเจ้าเองที่ถ่ายทอดข้อความได้ไม่สมบูรณ์ อาอวี้นำคำชี้แนะของพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์มาบรรยายซ้ำอย่างรวบรัดสั้นๆย่อๆดังต่อไปนี้

    ๑.ไม่ฆ่าชีวิต ห้ามยึดชิงเอาชีวิตของสรรพสัตว์ทุกชนิด อาหารเจบริสุทธิ์คือพื้นฐานของการรักษาศีลข้อนี้ อย่างไรจึงเรียกว่าบริสุทธิ์ ? ในศุรางคมสูตรสอนว่า ไม่กินไม่ใช้สิ่งที่มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับร่างกายของเขา ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆที่มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับสัตว์จึงกินไม่ได้ เช่น ไข่ น้ำผึ้ง เนย และอื่นๆเป็นต้น สิ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับสัตว์ล้วนต้องระวัง นอกจากนี้ยังมีเครื่องสำอางอีกมากมายที่มีส่วนผสมของสัตว์ นั่นก็ใช้ไม่ได้เช่นกัน ในยามที่พวกเราเจ็บป่วยต้องกินยาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มียาจีนมากมายหลายขนานที่ใช้สัตว์เป็นส่วนประกอบ นั่นก็กินไม่ได้เหมือนกัน
    ๒.ไม่ลักทรัพย์ การยึดเอาสิ่งของมาครอบครองไว้เป็นของตนโดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากผู้ที่มีกรรมสิทธิ์ก็คือขโมย มีคนจำนวนมากอยู่ในที่ทำงานต่างก็นำเครื่องเขียนจำนวนหนึ่งของที่ทำงานไปใช้ส่วนตัวหรือแม้แต่หยิบกลับไปใช้ที่บ้าน นอกจากนี้บางครั้งอยู่ในที่ทำงานก็ใช้โทรศัพท์ของที่ทำงานพูดคุยธุระส่วนตัว ใช้ไฟฟ้าของที่ทำงานชาร์จแบตให้กับมือถือของตนเอง ใช้เครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องแฟกซ์ ตู้เก็บเอกสารของที่ทำงานเพื่อทำธุระส่วนตัวของตนเองเป็นต้น ถ้าหากไม่ได้รับความเห็นชอบจากผู้ที่มีกรรมสิทธิ์ในที่ทำงาน ของเหล่านี้ก็ถือว่าเป็นของลักขโมยทั้งสิ้น
    ๓.ไม่ประพฤติผิดในกาม การที่สามี-ภรรยาร่วมเพศกันแบบไม่ถูกเวลา ไม่ถูกสถานที่ และไม่ถูกอวัยวะ ถือว่าเป็นการประพฤติผิดในกาม นอกจากนี้การดูซีดีลามก การนำเครื่องมือหรืออุปกรณ์มาช่วยในการเสพสังวาส การใช้เซ็กซ์ทอย ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการประพฤติผิดในกามทั้งสิ้น
    ๔.ไม่พูดปด พูดความจริง ไม่พูดโกหกหลอกลวงคนอื่น มีก็บอกว่ามี ถ้าหากไม่มีก็อย่าบอกว่ามี ยิ่งใช้ความพยายามในการโกหกมาก ก็ยิ่งละเมิดความผิดบาปในศีลข้อนี้มาก พยายามอย่าพูดคำโกหกเพื่อความสะดวกของตัวเอง เพราะเมื่อพูดโกหกบ่อยๆก็จะเป็นการบ่มเพาะจิตสำนึกที่ไม่ดี และกลายเป็นนิสัยความเคยชินที่ไม่ดี
    ๕.ไม่ดื่มสุราเมรัย งดสุรารวมทั้งสิ่งเสพติด ผลิตภัณฑ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับเหล้าก็กินไม่ได้ เช่น เต้าหู้ยี้ เพราะเต้าหู้ยี้ส่วนใหญ่มักจะใส่เหล้าลงไปจึงกินไม่ได้ ถึงแม้คนขายจะบอกว่าใส่นิดเดียวเอง แต่นิดเดียวก็คือเหล้า นอกจากยาที่ใช้ช่วยชีวิตจึงสามารถใช้ได้เพื่อความสะดวก ยังมีเครื่องสำอางอีกมากมายที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ดีที่สุดควรหลีกเลี่ยงอย่าไปใช้
    *หลังจากน้อมรับฟังคำชี้แนะของพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์แล้ว อาอวี้ก็มุ่งหน้าไปพบกับท่านผู้พิพากษาต่อ
    *ผู้พิพากษาค่ะ อาหมีถัวฝอ !
    *วันนี้อยากขอคำแนะนำจากผู้พิพากษาเกี่ยวกับผลกรรมที่จะได้รับ จากการมีเพศสัมพันธ์ในหมู่เครือญาติหน่อยค่ะ !
    *ผู้พิพากษาบอกว่า การมีเพศสัมพันธ์ในหมู่เครือญาติเป็นการทำลายศีลธรรมจรรยา ก่อให้เกิดความวุ่นวายในวัฒนธรรมและสังคม เป็นพฤติกรรมที่ทำลายคุณธรรมสัมพันธ์ และสัจพลังของฟ้าดิน นรกจะลงโทษคนประเภทนี้อย่างหนัก คนที่ละเมิดความผิดบาปนี้ แต่ละครั้งที่ทำผิดบาปจะถูกลดบุญวาสนาและอายุขัยลง ๒เดือนครึ่ง เมื่อสิ้นอายุขัยลง จะต้องตกสู่นรกกามารับทุกข์ในนรกกงล้อหมุน ๕๐๐ปี นรกโอบเสาทองแดง ๕๐๐ปี นรกเตียงเหล็ก ๕๐๐ปี นรกเกลือกกลิ้งประเวณี ๕๐๐ปี นรกป่าดาบ ๕๐๐ปี นี่เป็นเพียงการตัดสินลงโทษโดยทั่วไป แต่ข้อสรุปที่แน่นอนเป็นรูปธรรมต้องดูจากเหตุการณ์ตามความเป็นจริงมาใช้ในการพิพากษาตัดสิน
    *ชั่วพริบตาเดียวก็ขึ้นดอกบัวขาวมาถึงนรกกงล้อหมุนแล้ว ที่นี่วิญญาณชายมากกว่าวิญญาณหญิง
    วิญญาณบาปในนรกขุมนี้ก็คือ ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์กับเครือญาติที่เป็นเครือญาติในรุ่นเดียวกันกับตนเอง เครือญาติในรุ่นเดียวกันกับตัวเองได้แก่ พี่ชาย น้องชาย พี่สาว น้องสาว พี่เขย น้องเขย พี่สะใภ้ น้องสะใภ้ ในกรณีที่แต่งงานแล้วอาจจะครอบคลุมไปถึงเครือญาติในรุ่นเดียวกันในฝั่งครอบครัวของคู่สมรสด้วย ได้แก่ พี่ชาย น้องชาย พี่สาว น้องสาวของคู่สมรส และพี่เขย น้องเขย พี่สะใภ้ น้องสะใภ้ของคู่สมรส
    *ที่นรกฝ้าเพดานน้ำแข็งกงล้อหมุน มีกงล้อหมุนขนาดใหญ่ ทั้ง ๔ด้านของนรกขุมนี้เป็นกำแพงน้ำแข็งที่หนาวเย็น ด้านบนเป็นฝ้าเพดานน้ำแข็งที่มีลักษณะคล้ายแผ่นกระจกบานหนึ่ง ขอเรียกว่ากระจกน้ำแข็งก็แล้วกัน น้ำแข็งของฝ้าเพดานกระจกน้ำแข็งนี้ มีความแตกต่างจากน้ำแข็งของกำแพงน้ำแข็งทั้ง ๔ด้าน ฝ้าเพดานกระจกน้ำแข็งมีลักษณะที่โปร่งแสงและส่องสว่าง อีกทั้งยังสามารถปล่อยน้ำแข็งที่โปร่งแสงออกมาทำอันตรายร่างกายของวิญญาณบาปที่กำลังรับโทษอยู่ในกงล้อหมุนและยังสามารถฉายส่องให้เห็นสภาพเหตุการณ์ของวิญญาณบาปที่กำลังถูกลงโทษอยู่ภายในกงล้อหมุนนั้น
    *เวลานี้เห็นวิญญาณชายคนหนึ่งทั้งตัวเปลือยเปล่าล่อนจ้อนเดินไปที่กงล้อขนาดใหญ่นั้น จากนั้นกงล้อขนาดใหญ่ก็ดูดตัวเขาเข้าไปแล้วขังเขาให้หมุนอยู่ในกงล้อนั้น ฝ้ากระจกน้ำแข็งก็ปล่อยน้ำแข็งออกมาใส่ร่างของวิญญาณบาป น้ำแข็งแต่ละชิ้นทำให้วิญญาณบาปบาดเจ็บเลือดไหล แขนขาด ขาขาด เจ็บปวดทรมานเป็นอย่างยิ่ง วิญญาณบาปพยายามอย่างสุดชีวิตที่จะหนีออกมาจากกงล้อ แต่นั่นยิ่งเท่ากับเป็นการทำให้ร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บมากยิ่งขึ้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยที่จะสามารถหนีรอดออกมาจากกงล้อได้ นายนิรยบาลที่อยู่ด้านนอกก็หยิบหอกง่ามพุ่งโยนเข้าไปข้างใน เป็นสภาพที่น่าเวทนาเป็นอย่างยิ่ง อาหมีถัวฝอ !
    *เวลานี้ผู้พิพากษาเรียกข้าพเจ้าให้ไปดูนรกป่าดาบบุปผชาติที่อยู่ข้างๆ วิญญาณบาปในนรกขุมนี้คือวิญญาณบาปที่มีเพศสัมพันธ์กับเครือญาติสายตรงของตัวเอง ( เครือญาติสายตรงของตัวเองได้แก่ ปู่ย่าตายายของตัวเอง พ่อแม่ของตัวเอง ลูกชายลูกสาวของตัวเอง หลานชายหลานสาวของตัวเอง ในกรณีที่แต่งงานแล้วอาจจะครอบคลุมไปถึงเครือญาติสายตรงในฝั่งครอบครัวของคู่สมรสด้วย ) บ้างถูกบังคับข่มขู่ บ้างสมัครใจ ถ้าหากว่าถูกบังคับข่มขู่ ถูกคุกคาม โดยที่จิตใจไม่ได้รู้สึกมีความสุขในขณะที่ร่วมเพศเลยแม้แต่น้อย อาศัยการสำนึกขอขมาแก้ไขความผิดบาปก็จะไม่ต้องรับการลงโทษ แต่ถ้าจิตใจรู้สึกมีความสุขในการร่วมเพศนั้น ก็จะต้องรับการลงโทษ ภายในนรกขุมนี้ดูเหมือนว่าจะมีดอกไม้ที่สวยสดงดงามอยู่มากมายสุดคณานับ ดอกไม้เหล่านี้มีกลไกต่างๆมากมาย สามารถเปลี่ยนสีสันได้ ดูราวกับว่าดอกไม้กำลังดึงดูดให้คนมาสนใจ
    *เวลานี้ มีวิญญาณชายที่ร่างกายเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย กระสันอยากในกาม อยากจะไปเด็ดดอกไม้นั้นมาเก็บไว้กับตัว ดอกไม้นั้นก็เปลี่ยนรูปร่างอย่างรวดเร็วและพันรัดตามร่างกายของเขา ดอกไม้ค่อยๆพันรัดลงมาจนถึงตำแหน่งขององคชาตของวิญญาณชาย จากนั้นก็จัดการหั่นองคชาตเป็นชิ้นๆทันที เลือดสาดกระเด็นไปทั่ว ทั้งเลือดและชิ้นเนื้อหยาดหยดลงเต็มพื้น ต่อจากนั้นดอกไม้ก็เปลี่ยนรูปร่างเป็นแผ่นดอกไม้แข็งบินว่อนเข้ามาโจมตีวิญญาณชายอย่างไม่หยุดยั้งจนกระทั่งวิญญาณชายเป็นลมหมดสติไป แล้วนายนิรยบาลก็ใช้น้ำแข็งเย็นๆราดลงไปบนหน้าของวิญญาณชาย ทำให้เขาฟื้นขึ้นมารับโทษใหม่ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ได้หยุดพัก รับความเจ็บปวดทรมานแสนสาหัสครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างต่อเนื่อง ถ้าหากรู้ก่อนตั้งแต่แรกว่าจะเป็นแบบนี้ แล้วไฉนจะต้องไปทำเรื่องที่ผิดบาปเหล่านี้ด้วยล่ะ !
    *ผู้พิพากษาบอกว่า : “ การร่วมเพศในหมู่เครือญาติเป็นพฤติกรรมที่ชั่วช้าและไม่ถูกทำนองคลองธรรม ฟ้าดินไม่อนุญาตให้มนุษย์ทำเรื่องเช่นนี้ ผู้ที่ร่วมเพศในหมู่เครือญาติถือเป็นบาปมหันต์ที่จะต้องตัดสินโทษอย่างหนัก ไม่สามารถได้รับการให้อภัยโทษ กฎนรกนั้นมีความเที่ยงธรรม ชัดเจนเป็นที่ประจักษ์”
    *วันนี้ก็พอแค่นี้ก่อน วันหลังค่อยมาใหม่
    *กราบลาผู้พิพากษา ขอบคุณผู้พิพากษาที่คอยนำพา
     
  11. นิรยะ

    นิรยะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2015
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +30
    กฎนรกไร้ความปรานี ตอนที่ ๘
    วัยรุ่นหมกมุ่นกับสิ่งลามกในอินเตอร์เน็ตจนบุญวาสนาและอายุขัยถูกบั่นทอนลงจนหมด จบชีวิตลงตอนอายุเพิ่งจะแค่ ๒๐กว่าๆ

    *ขอสำนึกคุณพระพุทธะโพธิสัตว์ทั้งหลาย ! ขึ้นดอกบัวขาวออกเดินทาง
    *อาอวี้คารวะผู้พิพากษาค่ะ ! อาหมีถัวฝอ !
    *วันนี้ผู้พิพากษาพาข้าพเจ้าไปชมนรกแสงกระทบตา นรกขุมนี้เป็น ๑ในนรกกามา
    *วิญญาณบาปในนรกขุมนี้ ตอนสมัยที่มีชีวิตอยู่ชอบดูหนังสือลามกและเว็บไซต์ลามก เมื่อสิ้นอายุขัยลงจึงมารับโทษในนรกขุมนี้ วิญญาณบาปที่รับโทษเบาที่สุดในนรกขุมนี้คือรับโทษ ๕๐ปี ถ้าหากเป็นคนอายุน้อยแต่หมกมุ่นในกามมากยิ่งตัดสินให้รับโทษหนัก
    *คนจำนวนมากหลังจากที่ได้ดูเว็บไซต์ลามกแล้วก็จะไปทำเรื่องที่เป็นการประพฤติผิดในกามข้ออื่นๆเพิ่มเติมตามมาอีกอย่างต่อเนื่อง เช่น เมื่อดูเว็บไซต์ลามกแล้ว บางคนอาจจะไปสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองต่อ (ชักว่าวต่อ ) หรือบางคนอาจจะไปร่วมเพศแบบไม่ถูกเวลา ไม่ถูกสถานที่ และไม่ถูกอวัยวะต่อ เป็นต้น ยิ่งไปกว่านั้นบางคนก็ประพฤติผิดในกามโดยหาเครื่องมือหรืออุปกรณ์มาช่วยในการสำเร็จความใคร่ให้ตัวเอง การดูสิ่งลามกเหล่านี้เป็นการทำลายจิตเดิมแท้อันดีงามของมนุษย์อย่างร้ายแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการทำลายจิตธรรมญาณอันสะอาดบริสุทธิ์ในกายของเด็กน้อยที่เปี่ยมด้วยพลังหยาง ผู้ใหญ่ทั้งหลายไม่สมควรดูสิ่งลามกเหล่านี้ ยิ่งเป็นเด็กที่ยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่ยิ่งไม่สมควรดูเป็นอย่างยิ่ง
    *ปัจจุบันนี้ ในโลกมนุษย์มีเด็กวัยรุ่นเยาวชนมากมายที่วันๆนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ดูเว็บไซต์ลามกเหล่านี้ ใครก็ตามที่หมกมุ่นอยู่ในกามตัณหาราคะย่อมส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตแข็งแรงทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจของพวกเขาโดยตรงในทุกๆด้าน การดำรงชีวิตของคนเราในแต่ละวันต้องอาศัยความคิดมาเป็นตัวขับเคลื่อน ความคิดผลักดันให้เกิดการกระทำ การกระทำก่อให้เกิดกรรมดีและกรรมชั่ว กรรมดีและกรรมชั่วเป็นตัวกำหนดชะตาชีวิต ชะตาชีวิตมีเหตุมาจากแรงกรรม เมื่อมีแรงกรรมเกิดขึ้นจึงต้องมารับผลกรรมตอบสนองไม่ว่าผลกรรมนั้นจะดีหรือร้ายก็ตาม
    *เมื่อดูเว็บไซต์ลามกเป็นประจำบ่อยๆความคิดของคนก็จะมืดบอดบริหารจัดการเรื่องราวต่างๆได้ไม่ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านลบที่ส่งผลกระทบต่อเด็กๆยุวชนและวัยรุ่นเยาวชนทั้งหลายยิ่งกว้างมาก และทำให้สูญเสียโอกาสอันดีงามที่อุตส่าห์ได้มาเกิดในกายสังขารของมนุษย์ซึ่งเหมาะสมจะใช้ในการบำเพ็ญปฏิบัติธรรมมากที่สุด มีคำกล่าวว่า “ คำว่ากามบนหัวมีมีดปักอยู่ ๑เล่ม ตั้งแต่อดีตโบราณมาจนถึงปัจจุบัน นายพลและเหล่าทหารหาญที่มีชื่อเสียงมากมายตั้งเท่าไหร่ที่ไม่สามารถผ่านด่านกามนี้ไปได้ ”
    *ผู้พิพากษาบอกว่า : “ อันดับแรกคือ ดูหนังสือลามกหรือเว็บไซต์ลามก ทุกครั้งที่ดูจะถูกลดบุญวาสนาและอายุขัยลง อันดับต่อมาคือ หลังจากที่ดูหนังสือลามกหรือเว็บไซต์ลามกแล้ว การดูนั้นนำไปสู่การประพฤติผิดในกามด้านอื่นๆต่อ ซึ่งก็จะต้องถูกลดบุญวาสนาและอายุขัยลงอีกเช่นกัน นี่ก็เท่ากับว่าเป็นการฆ่าตัวเองให้ตายอย่างช้าๆ ”
    *“ปัจจุบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเจริญก้าวหน้า เด็กๆต่างก็ใช้คอมพิวเตอร์เป็น มีเด็กๆจำนวนมากที่ดูเว็บไซต์ลามก โดยที่พ่อแม่ผู้ปกครองบางคนไม่รู้ เพราะพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กๆเองก็ใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็น เลยปล่อยให้เด็กๆศึกษาเรียนรู้คอมพิวเตอร์ด้วยตัวเองโดยที่ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยว ทุกๆวันก็มัวแต่ทำงานยุ่งเหลือเกิน แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยมีเวลาว่างมาคอยดูแลเอาใจใส่เรื่องของเด็กๆ หรือบางทีก็เป็นเพราะเศรษฐกิจการเงินดีมาก จึงจ้างคนมาเป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลเด็กๆแทน พี่เลี้ยงก็อาจจะไม่ได้ดูแลให้ดีเท่าที่ควร ดังนั้นเรื่องเหล่านี้พ่อแม่ผู้ปกครองก็จะต้องถูกบั่นทอนบุญวาสนาลงด้วย ไม่สามารถที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบใดๆได้ ได้แต่เลี้ยงแต่ไม่อบรมสั่งสอนก็เป็นความผิดของพ่อแม่ผู้ปกครอง พ่อแม่ผู้ปกครองควรจะเอาใจใส่และอบรมสั่งสอนเด็กๆให้เติบโตแข็งแรงทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจด้วยตัวเอง สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองบางคนที่รู้ทั้งรู้อยู่ว่าเด็กๆในปกครองของตัวเองดูสื่อลามกแต่กลับไม่ห้ามปราม บางครั้งยังเอาเรื่องเพศมาสอน อีกทั้งยังส่งเสริมให้ท้ายให้เด็กๆดูสื่อลามกเหล่านี้ บางคนยังพูดอีกว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้เป็นยุคสมัยที่เปิดกว้าง แม้แต่ในโรงเรียนก็มีการสอนหลักสูตรเกี่ยวกับเรื่องเพศศึกษาให้เด็กๆได้เรียน นี่คือความผิดพลาดอย่างรุนแรงที่ได้พบเห็น ความหวังของยมโลกหวังว่า ในครั้งนี้ท่านมาเยี่ยมชมนรกเพื่อเขียนหนังสือ เมื่อกลับไปยังโลกมนุษย์จะสามารถช่วยตักเตือนเวไนยทั้งหลายให้กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี รู้จักหวงแหนทะนุถนอมช่วงเวลาไม่กี่สิบปีที่มีชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์ ทำเรื่องที่มีประโยชน์ต่อกระแสสังคมและจิตใจของผู้คนให้มาก อย่าทำเรื่องที่ไม่ดีเรื่องที่เป็นภัยต่อตนเองและผู้อื่น มิฉะนั้นเมื่อสิ้นลมหายใจแล้ว ตายไปก็ต้องมาพบกับเราที่นี่ ! ”
    *ตอนนี้ได้ยินเสียงกรีดร้องที่น่าเวทนาแล้ว ที่แท้ก็คือเสียงของวิญญาณบาปที่ได้รับการลงโทษอย่างโหดร้ายทารุณในนรกแสงกระทบตา นรกขุมนี้ติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ไว้มากมายหลายเครื่อง วิญญาณบาป ๑คน ต่อคอมพิวเตอร์ ๑เครื่อง ในเครื่องคอมพิวเตอร์มีของอะไรให้ดูด้วย วิญญาณบาปแต่ละคนต่างจ้องมองที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของตัวเอง แต่ไม่มองซะยังจะดีกว่า เพราะเมื่อพวกเขามองแล้วต่างก็ร้องออกมาอย่างน่าเวทนาด้วยเสียงอันดังลั่น
    *มีวิญญาณเด็กวัยรุ่นชายคนหนึ่งอายุยังน้อยมาก ลักษณะเหมือนอายุประมาณซัก ๒๐กว่าๆ ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของเขาปล่อยแสงไฟสีแดงออกมาเป็นตะขอเกี่ยวที่ดวงตาทั้ง ๒ข้างแล้วควักเกี่ยวเอาลูกตาดึงออกมาข้างนอก เลือดสดๆเต็มไปทั่วพื้น วิญญาณเด็กวัยรุ่นคนนั้นเจ็บปวดทุกข์ทรมานและเศร้าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง นี่คือผลกรรมตอบสนองของผู้ที่เข้าเว็บไซต์ดูหนังลามก ภาพลามก รวมทั้งอ่านนวนิยายลามก ประสบการณ์เสียวและอื่นๆเป็นต้น
    *ผู้พิพากษาพูดว่า : “ วัยรุ่นคนนี้เริ่มดูเว็บไซต์ลามกมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว และที่ยิ่งไปกว่านั้นเขายังใช้มือสำเร็จความใคร่ให้ตัวเองด้วย เป็นเพราะเขามักจะละเมิดความผิดบาปเช่นนี้อยู่บ่อยครั้งเป็นประจำ ดังนั้นบุญวาสนาตลอดชั่วชีวิตของเขาจึงถูกบั่นทอนลงจนหมดสิ้นไปอย่างรวดเร็วและตกสู่นรกขุมนี้ พ่อแม่ของเขาที่อยู่บนโลกมนุษย์โศกเศร้าเสียใจที่ต้องสูญเสียลูกชายไป จนถึงตอนนี้ก็ยังร่ำไห้คร่ำครวญอยู่เลย ”
    *ด้านข้างยังมีวิญญาณบาปอีกคนหนึ่งกำลังนั่งดูหนังสือลามกอยู่บนโต๊ะ วิญญาณบาปคนนี้ก็ได้รับโทษตะขอเกี่ยวตาเหมือนกับวิญญาณเด็กวัยรุ่นเมื่อครู่นี้ การลงโทษนั้นรุนแรงเหมือนกัน แต่อัตราความเร็วในการรับโทษช้ากว่า ข้าพเจ้าจึงขอคำชี้แนะจากผู้พิพากษาว่าเพราะเหตุใดอัตราความเร็วในการรับโทษจึงไม่เท่ากัน ?
    *ผู้พิพากษาบอกว่า : “ เป็นเพราะว่าการใช้คอมพิวเตอร์ดูเว็บไซต์ลามกใช้เวลาเพียงนิดเดียวก็สามารถดูสิ่งลามกต่างๆได้เป็นจำนวนมาก และคนที่ดูเว็บไซต์ลามกก็ใช้เวลาในการดูสิ่งลามกต่างๆเป็นเวลานาน แต่สำหรับการดูหนังสือลามก การอ่านนวนิยายลามก ฯลฯ มีขีดจำกัดในการดูทำให้ดูได้เพียงไม่กี่เล่มเท่านั้น ถ้าหากว่าดูไม่มากและต่อมาภายหลังสามารถเกิดจิตสำนึก สำนึกขอขมาแก้ไขความผิดบาป ต่อจากนี้ไปจะไม่ทำผิดซ้ำอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางกลับกันกลับยิ่งทุ่มเทความจริงใจโฆษณาป่าวประกาศหนังสือธรรมะเล่มนี้เพื่อแนะนำตักเตือนผู้คนว่าอย่าได้ดูเว็บไซต์ลามก ซีดีลามก รวมทั้งหนังสือลามกเหล่านั้นอีก และยิ่งไปกว่านั้นตัวเองยังใช้เงินส่วนตัวของตัวเองพยายามอย่างสุดความสามารถในการซื้อหนังสือลามก รวมทั้งซีดีลามกอื่นๆมาเผาทำลาย ที่เรียกว่าทำความดีชดใช้ความผิด เช่นนี้ก็สามารถได้รับการยกเว้นไม่ต้องถูกลงโทษในนรก ”
    *ผู้พิพากษาพูดอย่างเข้มงวดว่า : “ วิญญาณบาปที่รับโทษอยู่ในนรกแสงกระทบตา โดยทั่วไปแล้วยังต้องไปรับโทษในนรกกามาขุมอื่นๆอีก ไม่ว่าจะเป็นการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง หรือร่วมเพศไม่ถูกเวลา ไม่ถูกสถานที่ ไม่ถูกอวัยวะ และการละเมิดความผิดบาปอื่นๆในกามเหล่านี้ จะต้องถูกส่งตัวไปรับการลงโทษในนรกอมอัณฑะทองแดง นรกโอบเสาทองแดง นรกเกลือกกลิ้งประเวณี และรับการลงโทษอื่นๆอีกมากมายหลากหลายรูปแบบในนรกไม่ถูกอวัยวะ”
    *วันนี้ได้เวลาพอสมควรแล้ว กราบลาผู้พิพากษา อาอวี้ขอคารวะ ขอสำนึกคุณผู้พิพากษา ขึ้นดอกบัวขาวกลับ
    *เว็บไซต์ลามกและซีดีลามก ทำร้ายคนไม่ใช่น้อยเลยจริงๆ ภายในนรกแต่ละขุมนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด ทำให้อาอวี้ยากที่จะทนได้ นรกแต่ละขุมทำไมถึงมีวิญญาณบาปมากมายอะไรขนาดนั้น ทั้งถูกนายนิรยบาลตัดหัว ตัดมือ ตัดเท้า ถูกแล่เนื้อ ร้องตะโกนจนเสียงแหบแห้ง ภาพฉากกลิ่นคาวเลือดที่น่าหวาดผวา หลังจากกลับถึงบ้านอาอวี้จะต้องปรับจิตปรับใจใหม่อีกครั้งจึงสามารถฟื้นฟูกลับสู่สภาพเดิม
     
  12. นิรยะ

    นิรยะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2015
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +30
    กฎนรกไร้ความปรานี ตอนที่ ๙
    บทลงโทษที่น่าเวทนาเป็นอย่างยิ่งจากการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง ( ชักว่าว )
    นรกแสงกระทบตาอัณฑะเหล็ก

    *ขอสำนึกคุณพระพุทธะโพธิสัตว์ทั้งหลาย ! ขึ้นดอกบัวขาวออกเดินทาง ! อาอวี้คารวะผู้พิพากษา อาหมีถัวฝอ !
    *วันนี้ผู้พิพากษาพาข้าพเจ้าไปเยี่ยมชมนรกแสงกระทบตาอัณฑะเหล็ก อีก ๑ในนรกกามา
    *นรกแสงกระทบตาอัณฑะเหล็ก คือนรกสำหรับคนที่หมกมุ่นอยู่ในสิ่งลามก ชอบดูภาพลามก นิตยสารลามก ชอบอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ดูเว็บไซต์ลามกต่างๆ ในขณะที่ดูสิ่งลามกเหล่านั้นก็ใช้มือสำเร็จความใคร่ให้ตัวเองไปด้วยในเวลาเดียวกัน เมื่อสิ้นอายุขัยแล้วจะต้องมารับการลงโทษในนรกขุมนี้ เป็นเวลา ๘๐๐ปี หลังจากนั้นจะดูว่าวิญญาณบาปเหล่านั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร แล้วจึงตัดสินว่าจะให้รับการลงโทษอยู่ในนรกขุมนี้ต่อไปหรือไม่
    *ก่อนหน้านี้เคยบอกไปแล้วว่า แต่ละครั้งที่ดูหนังสือลามกหรือเว็บไซต์ลามกก็ถือว่าได้ประพฤติผิดในกามแล้ว และจะต้องถูกลดบุญวาสนาและอายุขัยลง ๑เดือน ยกเว้นครั้งแรกเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่ลดบุญวาสนาและอายุขัยลงครึ่งเดือน หลังจากนั้นในครั้งต่อๆไปจะถูกลดบุญวาสนาและอายุขัยลงครั้งละ ๑เดือน ถ้าหากดูเป็นประจำบ่อยๆและยังสำเร็จความใคร่ให้ตัวเองเพิ่มขึ้นอีก บุญวาสนาตลอดชั่วชีวิตก็จะถูกบั่นทอนลงจนหมดไปอย่างรวดเร็ว
    *นรกขุมนี้อยู่ข้างๆนรกแสงกระทบตา เมื่อเทียบกันแล้วยังทุกข์ทรมานกว่านรกแสงกระทบตาเป็นพันเท่าหมื่นเท่า วิญญาณบาปเกือบทั้งหมดในนรกขุมนี้ล้วนเป็นวัยรุ่นเยาวชน โถ ! ช่างน่าเวทนาจริงๆ แต่ละคนอายุยังน้อยๆกันทั้งนั้น จำได้ว่าตอนที่ข้าพเจ้าอายุขนาดพวกเขา ตอนนั้นข้าพเจ้ายังเรียนหนังสืออยู่ในโรงเรียนยังเป็นเด็กโง่ๆที่อะไรๆก็ไม่รู้ ทำไมพวกเขาไม่ไปเรียนหนังสือ แต่กลับวิ่งมารับโทษอยู่ในนรกนี่ เห็นแล้วน่าใจหาย ! พวกเด็กผู้ชายทั้งหลายจะต้องประคองรักษาตัวเองให้สะอาดบริสุทธิ์อย่าได้ไหลไปตามกระแสอันโสมม นรกทุกข์ทรมานเหลือเกิน ทุกข์ทรมานเหลือเกิน จะต้องหลีกห่างออกมา อยู่บนโลกมนุษย์จะต้องรักทะนุถนอมช่วงชีวิตที่สวยสดงดงามนี้ไว้ ตั้งใจศึกษาหาความรู้ ตั้งใจบำเพ็ญปฏิบัติธรรม
    *ในนี้มีวิญญาณของเด็กมัธยมชายอยู่คนหนึ่ง ดูๆแล้วรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตา เหมือนเคยพบเห็นที่ไหนนะ ? อ๋อ ! นึกออกแล้ว ! เมื่อประมาณครึ่งปีก่อนเคยเห็นรูปถ่ายของเขาในหอประกอบพิธีฌาปนกิจ ในตอนนั้นข้าพเจ้าจัดพิธีศพให้ญาติ ศาลาตั้งศพของเขาก็อยู่ข้างๆศาลาตั้งศพของญาติข้าพเจ้า ที่ศาลาตั้งศพของญาติข้าพเจ้ามีคนอยู่กันเป็นจำนวนมากอีกทั้งเด็กๆก็เยอะเลยทำให้รู้สึกอบอุ่นมีชีวิตชีวา แต่ที่ศาลาตั้งศพของเขากลับรู้สึกเงียบเหงา มีเพียงพ่อแม่ของเขากับญาติๆอีก ๒-๓ คนเท่านั้น ในเวลานั้นบรรดาญาติๆของข้าพเจ้าที่อยู่ที่นั่นต่างก็แสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์กันว่าเด็กคนนี้อายุยังน้อย ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เหตุใดจึงอายุสั้นนัก น่าสงสารพ่อแม่ของเขา แม่ของเขาเจ็บปวดรวดร้าวจนแทบขาดใจ แม้แต่ตัวข้าพเจ้าเองเพียงแค่ได้เห็นรูปถ่ายของเขาที่ตั้งอยู่ในงานศพก็สวดอาหมีถัวฝออุทิศให้เขาไปหลายคำ มาวันนี้คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้พบกับเขาในนรก ช่างเป็นเรื่องที่เกินความคาดหมายจริงๆ ชีวิตคนนั้นอนิจจังเหลือเกิน
    *ผู้พิพากษาบอกว่า : “ พ่อแม่ของเขามีเขาเป็นลูกโทนเพียงคนเดียว ตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ หมกมุ่นอยู่ในเรื่องกามตัณหาลามก ดูเว็บไซต์ลามก นิตยสารลามก อีกทั้งยังเลียนแบบทำตามในสิ่งที่ไม่ดี อย่างเช่นการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง ( ชักว่าว ) และยังประดิษฐ์เครื่องมือขึ้นมาใช้ในการสำเร็จความใคร่ให้ตัวเองอีกด้วย อายุแค่ ๖ขวบก็เริ่มใช้มือสำเร็จความใคร่ให้ตัวเอง พออายุ ๑๐ขวบก็เริ่มมีภาวะไตบกพร่อง แม่ของเขาพาเขาไปทั่วทุกๆที่เพื่อเสาะหาหมอที่เก่งและมีชื่อเสียงมาทำการรักษา กินยารักษามากมายหลายขนาน เวลาเดินต้องใช้ไม้เท้าเดินเหมือนคนแก่ นี่เป็นเพราะตัวเขาเองไม่รู้จักรักและทะนุถนอมชีวิตของตัวเอง ไม่รู้จักรักทะนุถนอมสุขภาพร่างกายของตัวเอง คิดไม่ถึงเลยว่าในระหว่างที่ยังกินยารักษาอยู่นั้นเขายังคงสำเร็จความใคร่ให้ตัวเองอยู่เรื่อยๆไม่หยุด ดังนั้นพอถึงอายุ ๑๒ขวบ บุญวาสนาและอายุขัยตลอดชั่วชีวิตของเขาก็ถูกบั่นทอนลงจนหมดสิ้น ต้องถูกส่งตัวมารับการลงโทษในนรกแสงกระทบตาอัณฑะเหล็ก ๘๐๐ปี ”
    *สิ่งที่ข้าพเจ้ามองเห็นในขณะนี้คือ ที่ข้างๆตัวของเด็กวัยรุ่นคนนั้นมีเครื่องคอมพิวเตอร์ ๑ เครื่อง และบนตัวของเด็กวัยรุ่นก็กำลังถูกงูไฟเลื้อยรัดพันรอบตัวเหมือนกับกำลังคลึงเคล้าเล้าโลม เครื่องคอมพิวเตอร์ปล่อยแสงสีแดงออกมาเป็นตะขอเกี่ยวควักที่ลูกตาทั้ง ๒ข้างของเขา เลือดสาดกระเด็นเซ็นซ่าน ส่วนงูไฟที่พันรัดรอบตัวของเขาก็กัดองคชาตของเขาจนขาด เลือดไหลนองเต็มพื้นดิน และโดยที่เด็กวัยรุ่นคนนั้นยังไม่ทันที่จะมีปฏิกิริยาใดๆตอบสนอง หมาป่าที่ดุร้าย ๒ตัวก็เข้ามาฉีกกัดมือทั้ง ๒ข้างของเขาจนขาด ช่างโหดเหี้ยมจริงๆ นี่เป็นการลงโทษที่โหดร้ายทารุณโดยแท้ เจ็บปวดทรมานจนยากเกินที่จะทนได้
    *ข้าพเจ้าถามผู้พิพากษาว่า : “ เพราะเหตุใดจึงต้องรับการลงโทษหลายๆอย่างพร้อมกันในเวลาเดียวกัน ? แล้วทำไมถึงไม่รอให้ดวงตาของเขาฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติเสียก่อน แล้วจึงค่อยรับการลงโทษจากงูไฟและหมาป่า ? ”
    *ผู้พิพากษาบอกว่า : “ แยกการลงโทษออกจากกันไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพราะว่าสมัยเมื่อตอนที่เขามีชีวิตอยู่ เขาอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ด้านหนึ่งดูสื่อลามกในคอมพิวเตอร์ ส่วนอีกด้านหนึ่งก็ใช้มือสำเร็จความใคร่ให้ตัวเองไปด้วยพร้อมๆกันในทันที ต่อมาภายหลังยังละเมิดความผิดบาปเพิ่มขึ้นอีกด้วยการประดิษฐ์เครื่องมือมาใช้ในการสำเร็จความใคร่ให้ตัวเอง ดังนั้นจึงทำให้เขายิ่งตกนรกไวขึ้น หลังจากที่เขารับการลงโทษในนรกขุมนี้จนหมดแล้ว เขายังต้องไปรับการลงโทษในนรกร้องตะโกนต่ออีก เนื่องจากเขาละเมิดความผิดบาปด้วยการสำเร็จความใคร่ให้ตัวเองตั้งแต่ยังเป็นเด็กก่อนถึงวัยอันควร บั่นทอนบุญวาสนาที่ตัวเองมีอยู่ ทำให้พ่อแม่โศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง คนผมขาวต้องไปส่งคนผมดำ นี่ก็คือไม่มีความกตัญญู ดังนั้นจึงต้องรับโทษเช่นนี้ ปัจจุบันคนบนโลกมนุษย์อายุยังน้อยๆก็ไร้คุณธรรมจริยธรรมกันแล้ว อกตัญญูเถียงพ่อเถียงแม่ ด่าว่าพ่อแม่อย่างเหยียดหยาม ที่แย่ยิ่งกว่านั้นบางคนยังกล้าลงไม้ลงมือกับพ่อกับแม่ทั้งต่อยทั้งถีบ บางคนพฤติกรรมยังเลวทรามยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานชั้นต่ำซะอีก อยู่ท่ามกลางฟ้าดินนี้ คนที่เนรคุณอกตัญญูเมื่อตายแล้วก็จะต้องมารับโทษในนรก เพื่อชำระล้างดวงวิญญาณให้สะอาดบริสุทธิ์เหมือน กับจิตวิญญาณแรกเริ่ม จนกระทั่งสามารถใช้ความจริงใจที่มีอยู่ทั้งหมดมาสำนึกขอขมาแก้ไขความผิดบาปของตน ”
    *“ วันนี้ก็พอเพียงเท่านี้ก่อน เรายังมีงานอื่นที่สำคัญอีก ท่านค่อยมาใหม่วันหลัง ”
    *อาอวี้กราบลาผู้พิพากษา ขอขอบคุณผู้พิพากษา
     
  13. นิรยะ

    นิรยะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2015
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +30
    กฎนรกไร้ความปรานี ตอนที่ ๑๐
    อายุขัยบนโลกยังไม่หมด จับวิญญาณคนเป็นมาลงโทษก่อน

    *ขอสำนึกคุณพุทธานุภาพปกปักคุ้มครอง ! ขึ้นดอกบัวขาวออกเดินทาง ! อาหมีถัวฝอ ! อาอวี้สวัสดีผู้พิพากษาค่ะ !
    *วันนี้ผู้พิพากษาพาข้าพเจ้าไปชมนรกกระบองเหล็ก อีก ๑ในนรกกามา
    *นรกกระบองเหล็กเป็นอย่างไร ? เนื่องจากเวไนยที่ละเมิดความผิดบาปในกามตัณหาเหล่านั้นยังไม่หมดสิ้นอายุขัย เวไนยเหล่านั้นยังคงมีชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์และยังคงประพฤติผิดในกามอย่างต่อเนื่อง วิญญาณของพวกเขาส่วนหนึ่งจะถูกนายนิรยบาลจับมาลงโทษในนรกทั้งเป็น โดยที่พวกเขายังคงมีชีวิตอยู่ มนุษย์มีสามอมตะวิญญาณและเจ็ดมรรตยวิญญาณ นายนิรยบาลจะจับสามอมตะวิญญาณของคนบาปมาลงโทษ เวไนยบนโลกมนุษย์ที่ถูกจับวิญญาณเป็นๆมาลงโทษจะรู้สึกเวียนหัว ปวดหัว หน้ามืด วิงเวียน ระหว่างที่มีอาการเหล่านี้บางคนอาจจะรู้สึกว่าเหมือนถูกฟาดถูกตี แต่พวกเขาส่วนใหญ่ต่างคิดว่าตัวเองกำลังฝันร้าย บางคนที่อาการหนักก็จะเป็นไข้ตัวร้อนต้องการพักผ่อน หลังจากที่วิญญาณรับโทษเสร็จและกลับเข้าร่างแล้ว บางคนอาจจะรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งตัว รู้สึกเหมือนเจ็บเข้าไปถึงกระดูก
    *นรกกระบองเหล็กขุมนี้กว้างใหญ่มากจริงๆ สามารถพูดได้เลยว่า ช่างกว้างใหญ่ไพศาลไกลแบบสุดลูกหูลูกตา เหมือนกับมหาสมุทรบนโลกมนุษย์ที่มองไม่เห็นขอบฝั่งว่าจะสิ้นสุดที่ตรงไหน นรกขุมนี้เป็นนรกขุมที่ใหญ่มากที่สุดเท่าที่ข้าพเจ้าเคยเข้าชมมา ในนรกกระบองเหล็กขุมนี้มีวิญญาณคนเป็นมากมายจากหลายประเทศ เช่น ประเทศจีน ประเทศไทย ประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา ประเทศฝรั่งเศส ประเทศญี่ปุ่น ยังมีอินเดีย แอฟริกา ปากีสถาน เป็นต้น มากมายหลากหลายเชื้อชาติ และสิ่งที่โชคร้ายมากๆเหมือนกันของทุกประเทศก็คือ มีเด็กวัยรุ่นเยาวชนและเด็กๆยุวชนมากมายอย่างสุดคณานับกำลังรับการลงโทษอยู่ในนรกขุมนี้
    *ข้าพเจ้าขอเรียนถามผู้พิพากษา : “ นรกกระบองเหล็กทำไมถึงมีวิญญาณคนเป็นเยอะแยะมากมายขนาดนี้ ? นรกขุมนี้กว้างใหญ่มากจริงๆ กว้างใหญ่ซะจนน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง ”
    *ผู้พิพากษาพูดว่า : “ เพราะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้า บนโลกมนุษย์ได้ประดิษฐ์คิดค้นคอมพิวเตอร์ขึ้นมา เว็บไซต์ลามกต่างๆก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างน่าตกตะลึง เว็บไซต์ลามกต่างๆเหล่านี้เป็นพิษภัยต่อเด็กวัยรุ่นเยาวชนและเด็กๆยุวชน ทำให้เด็กๆเหล่านี้ต้องแปดเปื้อน พวกเขาต่างก็ฝ่าฝืนข้อห้าม ประพฤติผิดในกามเป็นเหตุให้ต้องตกสู่นรก ตัวเลขของ เวไนยที่ก่อกรรมทำชั่วเหล่านี้กำลังเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว ดังนั้นพระพุทธะจึงส่งท่านมาเยี่ยมชมสภาพความเป็นจริงในนรกเป็นกรณีพิเศษ ให้ท่านกลับไปเตือนเวไนยบนโลกมนุษย์ ให้ปฏิบัติตามหลักคุณธรรมสามัญ ๕ และคุณธรรม ๘ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยรุ่นคนหนุ่มสาว อย่าคิดว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องเก่าแก่ล้าสมัย จะต้องรู้จักประคองรักษาตัวเองให้สะอาดบริสุทธิ์ ไม่ไหลไปตามกระแสอันโสมม กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี ทำความดีละทิ้งความชั่ว มิฉะนั้นในอนาคตข้างหน้าก็ยากที่จะหนีพ้นจากการลงโทษที่โหดเหี้ยมทารุณของนรก ถึงตอนนั้นสำนึกผิดก็สายไปซะแล้ว ”
    *เวลานี้ ข้าพเจ้ามองเห็นวิญญาณคนเป็นทั้งหลายในนรกกระบองเหล็ก กำลังถูกนายนิรยบาลใช้กระบองเหล็กฟาดลงไปอย่างแรง นายนิรยบาลในนรกขุมนี้จะใช้กระบองเหล็กฟาดลงไปที่วิญญาณคนเป็นอยู่ตลอด วิญญาณคนเป็นเหล่านั้นต่างก็เจ็บปวด ร้อง โอ้ย โอ้ย กันดังสนั่น เสียงดังสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น เสียงทางนี้ดังขึ้น เสียงทางนั้นเบาลง ดังขึ้นและเบาลงต่อเนื่องกันเป็นระลอกคลื่น ที่ลงโทษเช่นนี้ก็เพราะต้องการให้คนบาปรู้จักย้อนสำรวจความผิดบาปของตัวเอง แต่กลับมีคนบาปเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะรู้สำนึก ได้สติและแก้ไขความผิดบาปในอดีตอย่างถึงที่สุด คนบาปส่วนใหญ่หลังจากที่วิญญาณคนเป็นของพวกเขาได้รับโทษเสร็จและได้กลับคืนร่างบนโลกมนุษย์แล้ว พวกเขาก็ยังคงละเมิดฝ่าฝืนข้อห้ามทำผิดบาปซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างต่อเนื่อง
    *อาอวี้อยากถามผู้พิพากษาว่าจะทำอย่างไรจึงจะสามารถทำให้เวไนยบนโลกมนุษย์เชื่อว่า การเขียนหนังสือ《กฎนรกไร้ความปรานี》เล่มนี้ คือสภาพเหตุการณ์จริงในปัจจุบันของนรกจริงๆ ? เพราะว่าบางคนอาจจะรู้สึกว่าสิ่งที่อาอวี้พูดนั้นพูดออกมาจากจินตนาการเพ้อฝันของตัวเองหรือเสกสรรปั้นเรื่องขึ้นมาตามจินตนาการเหมือนกับอ่านนวนิยาย มันยากมากที่จะทำให้คนเชื่อ
    *ผู้พิพากษาพูดว่า : “ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตามองไม่เห็นต่างก็มีเหตุและผล ไม่ใช่ว่ามองไม่เห็นสิ่งใดแล้วสิ่งนั้นก็จะกลายเป็นของปลอมที่ไม่มีอยู่จริง พวกเราทุกคนต่างก็ไม่สามารถมองเห็นแม่ของเราตอนที่คลอดพวกเราออกมา แต่นี่เป็นเรื่องจริงที่ประจักษ์ชัดแจ้ง แม้จะมองไม่เห็นเป็นรูปลักษณ์แต่ก็ไม่ใช่ว่าสิ่งๆนั้นจะไม่มีตัวแทนหรือไม่มีการดำรงอยู่ เหนือหัวเราขึ้นไป ๓ฟุตก็ยังมีเทพเทวาสถิตอยู่ ในมหาสหโลกธาตุแห่งนี้มีสรรพสิ่งมากมายที่ตาเนื้อของมนุษย์มองไม่เห็น แต่พวกเขากลับมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับชีวิตของพวกเราอย่างแนบแน่น เพียงแต่พวกเราไม่ได้สังเกตเห็นถึงการดำรงอยู่ของพวกเขาเหล่านั้น ไม่ได้สังเกตเห็นถึงการดำรงอยู่ของพระพุทธะโพธิสัตว์ รวมทั้ง ผีสางเทวดาทั้งหลายเหล่านั้นเท่านั้นเอง แต่ละคนมีเหตุปัจจัยบุญวาสนาที่ไม่เหมือนกัน ประสบการณ์ต่างๆ ความรู้สึกต่างๆที่มี ก็ไม่เหมือนกัน เหตุต้นผลกรรมทั้งดีและชั่วดุจเงาตามตัว ไม่ใช่ไม่ตอบสนองแต่เพราะเวลายังมาไม่ถึง ตาข่ายแห่งฟ้าแผ่ขยายครอบคลุมไปทั่วทุกๆที่ ถึงแม้ว่ารูจะห่างแต่ก็ไม่รั่ว ความผิดบาปแม้เพียงเล็กน้อยก็ไม่อาจเล็ดลอดตาข่ายแห่งฟ้านี้ออกไปได้ ครั้งนี้ท่านมาเยี่ยมชมสภาพเหตุการณ์จริงในนรกขุมต่างๆ ก็เพราะได้ผ่านการคัดเลือกจากพระพุทธะ ท่านคือศิษย์สาวกของพระพุทธะที่มีความเพียบพร้อมสามารถแบกรับภารกิจอันหนักอึ้งนี้ได้ ท่านจะต้องพยายามอย่างเต็มที่ทำภารกิจชิ้นนี้ให้สำเร็จลุล่วงเพื่อยังประโยชน์ให้แก่มหาชนทั้งหลาย ”
    *ขอบคุณผู้พิพากษาที่ให้กำลังใจ อาอวี้จะต้องทุ่มเทความสามรถที่มีอยู่ทั้งหมดไปทำภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์นี้ให้สำเร็จลุล่วงให้จงได้
    *เวลานี้ ข้าพเจ้าได้เห็นข้าราชการจากทำเนียบนรกหลายท่าน กำลังเดินมาที่นรกกระบองเหล็ก
    *อ่อ ! ที่แท้เป็นเพราะท่านพญายมมาที่นี่ อาอวี้คารวะท่านพญายม !
    *เป็นเพราะทำเนียบนรกต้องการจะขยายต่อเติมสร้างนรกกระบองเหล็กเพิ่มขึ้น พญายมจึงมาสำรวจสถานที่จริง วัยรุ่นเยาวชนที่ประพฤติผิดในกามถือเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมที่ท่านพญายมกำลังให้ความสนใจและเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด ตอนนี้รู้สึกว่าปัญหานี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ปัญหาของโลกมนุษย์เท่านั้น แม้แต่นรกก็ยังได้รับผลกระทบตามไปด้วย ทำให้ต้องสร้างนรกเพิ่มขึ้น ข้าพเจ้าพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจว่า : “ตอนนี้นรกขุมนี้ก็กว้างใหญ่ไพศาลจนสุดลูกหูลูกตาแบบมองไม่เห็นขอบฝั่งว่าสิ้นสุดลงตรงไหนแล้วนะ ยังต้องสร้างเพิ่มอีกหรือค่ะ ? ”
    *พญายมพูดว่า : “ เพราะว่าบนโลกมนุษย์มีเด็กวัยรุ่นเยาวชนหน้าใหม่ๆที่พากันละเมิดศีลกาเมสุมิจฉาจารเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งดูเว็บไซต์ลามก ซีดีลามก นิตยสารลามก สำเร็จความใคร่ให้ตัวเอง เป็นต้น แต่ทว่าอายุขัยบนโลกมนุษย์ของพวกเขายังไม่หมดลง และปัญหานี้ก็กลับกลายเป็นสิ่งที่ทำลายคุณธรรมทำร้ายร่างกาย ด้วยเหตุนี้จึงต้องลงโทษอย่างรุนแรง บนโลกมนุษย์ไม่มีกฎหมายที่จะมาลงโทษปัญหาที่ร้ายแรงเหล่านี้ มีเพียงเราสร้างนรกเพิ่มขึ้น แล้วจับกุมวิญญาณคนเป็นของคนบาปที่ยังมีชีวิตอยู่เหล่านั้นมารับการลงโทษ ตลอดไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลังจากที่นรกขุมนี้ได้สร้างเสร็จ ปริมาณงานของพวกเราก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆโดยตลอด ตอนนี้พูดได้เลยว่า นรกกระบองเหล็กขุมนี้ยังคงเล็กมากเกินไปอยู่ดี ทำอย่างไรจึงจะสามารถรองรับวิญญาณคนเป็นของคนบาปจำนวนมากมายมหาศาลที่หลั่งไหลพรั่งพรูกันเข้ามาจนล้นทะลักในแต่ละวันได้ เราจะบอกอะไรให้ท่านรู้ คนที่เคารพปฏิบัติตามกฎหมาย รักษาศีลปฏิบัติตามพระธรรมวินัย และสร้างมหากุศล คนเหล่านี้นรกไม่สามารถจับพวกเขาได้ มีเพียงคนที่ทำความผิดเท่านั้น ไม่ว่าจะละเมิดศีลหรือทำเรื่องที่ผิดกฎหมาย ก็ไม่สามารถหนีพ้นสมุดบันทึกเกิดตายบัญชีบุญบาปของเราไปได้อย่างแน่นอน กฎหมายบนโลกมนุษย์อาจจะสามารถหลบหลีกได้โดยง่าย แต่กฎหมายในนรกไม่มีทางหนีพ้นได้ เมื่อสร้างเหตุเช่นนี้ ก็ต้องรับผลเช่นนี้ ไม่ว่าจะหนีไปจนสุดหล้าฟ้าเขียว ยมทูตจากยมโลกก็สามารถจะหาตัวพวกเขาพบได้อย่างแน่นอน นอกจากว่าพวกเขาจะไม่ละเมิดศีล ไม่ทำความผิดบาป อาอวี้ ! ท่านต้องทำงานนี้ให้สำเร็จแล้วเอาคำพูดนี้ถ่ายทอดออกไป ครั้งนี้เป็นการเปิดเผยเสี้ยวหนึ่งของกฎหมายนรก และเป็นการเปิดเผยความลับสวรรค์ให้คนบนโลกได้รับรู้ถึงสถานการณ์จริงในนรก จุดประสงค์ก็เพื่อมุ่งหวังให้เวไนยที่กำลังลุ่มหลงสามารถรู้จักกลับตัว ทำความดีสะสมบุญ อาศัยสิ่งนี้มาขจัดกรรมชั่วและอกุศลกรรมทั้งหลายซึ่งเป็นเหตุให้เกิดหายนะและภัยพิบัติที่จะมาสู่โลก ทุกคนจะได้ไม่ต้องตกอยู่ในสภาพที่ทุกขเวทนา เดือดร้อนไปทั่วทุกหย่อมหญ้า ท่านกลับไปจะต้องแนะนำตักเตือนทุกๆคนให้ปฏิบัติตามคุณธรรมสามัญ ๕ และคุณธรรม ๘ อย่าฝ่าฝืนกฎหมาย ต้องมีความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่ เคารพอาจารย์ รู้จักรักษาเกียรติศักดิ์ศรีของตัวเอง ปฏิบัติตามจารีตประเพณี อย่าได้สร้างเหตุต้นผลกรรมที่จะทำให้ต้องมารับโทษในนรก เอาล่ะ ! เรายังมีงานราชการอยู่ ท่านก็กลับโลกมนุษย์ไปก่อนเถอะ ”
    *ขอสำนึกคุณท่านพญายม ! สำนึกคุณผู้พิพากษา ! อาหมีถัวฝอ !

    *คำอธิบายเพิ่มเติม

    *ในศาสนาเต๋าบอกว่ามนุษย์มีสามอมตะวิญญาณและเจ็ดมรรตยวิญญาณ ( ซันหุนชีพ่อ )

    *สามอมตะวิญญาณ ( ซันหุน ) มนุษย์มีสามวิญญาณ เมื่อกายสังขารแตกดับ สามวิญญาณนี้ไม่แตกดับตามกายสังขาร สามวิญญาณมีที่ไปดังนี้
    *วิญญาณฟ้า กลับคืนสู่ฟ้า วิญญาณฟ้าคือปรีชาญาณที่ไม่เกิดไม่ดับ มีความเป็นอมตะ แต่เป็นเพราะตอนที่มีกายเนื้อกายสังขารได้สร้างเหตุต้นผลกรรมพันพัว ทำให้วิญญาณฟ้าไม่สามารถกลับคืนสู่แดนอนุตตรภูมิซึ่งเป็นต้นกำเนิดได้ จึงต้องถูกฝากขังไว้ที่คุกสวรรค์
    *วิญญาณดิน ตกสู่นรก เพราะวิญญาณดินกระจ่างชัดในเหตุต้นผลกรรมทั้งหมด เป็นตัวบงการให้กายสังขารทำความดีหรือความชั่ว ดังนั้นเมื่อกายสังขารแตกดับ วิญญาณดินจึงต้องไปรับการพิพากษาตัดสินโทษและรับผลกรรม หากทำความดีได้ขึ้นสวรรค์เป็นเทพ วิญญาณดินกับวิญญาณฟ้าก็จะรวมกันเป็นหนึ่งเดียว
    *วิญญาณมนุษย์ วนเวียนไปมาระหว่างสุสาน เพราะแท้ที่จริงแล้ววิญญาณมนุษย์คือบุญกุศลของบรรพชนแต่ละรุ่นที่สืบทอดมาสู่กายสังขารของทายาทรุ่นหลัง หลังจากที่กายสังขารแตกดับไปแล้ว วิญญาณมนุษย์ก็จะไปอยู่ที่ป้ายวิญญาณในสุสาน ไปๆมาๆอยู่ที่สุสานบนโลกมนุษย์
    *วิญญาณอมตะทั้งสามเป็นตถาตาไม่เกิดไม่ดับ เมื่อวิญญาณเข้าสู่การเวียนว่ายตายเกิด วิญญาณอมตะทั้งสามก็จะมาประชุมรวมกันใหม่อีกครั้ง

    *เจ็ดมรรตยวิญญาณ ( ชีพ่อ ) คือวิญญาณทั้งเจ็ดที่มีวันตาย ได้แก่อารมณ์ทั้งเจ็ด คือ ยินดี โกรธ โศกเศร้า หวาดกลัว รัก ชั่วร้าย ปรารถนา อารมณ์เหล่านี้เกิดขึ้นและดับไปไม่อยู่ยั่งยืน
    *เจ็ดมรรตยวิญญาณคือเลือดในอินทรีย์ทั้ง ๕
    หนึ่งคือเลือดของตา เลือดของตามีรสฝาด
    สองคือเลือดของหู เลือดของหูจะเย็นและไม่แข็งตัวง่าย
    สามคือเลือดของจมูก เลือดของจมูกมีรสเค็ม
    สี่คือเลือดของลิ้น เลือดของลิ้นมีรสหวาน
    ห้าคือเลือดในกาย เลือดในกายจะอุ่นและแข็งตัวง่ายกว่า
    *นอกจากเลือดในอินทรีย์ทั้ง ๕แล้วก็คือเลือดในอวัยวะภายใน อวัยวะภายในแบ่งเป็นสีแดงกับสีขาว หกคือเลือดในอวัยวะภายในที่มีสีแดง เช่น หัวใจ ปอด ตับ ฯลฯ เลือดในอวัยวะภายในที่มีสีแดงจะมีกลิ่นคาว เจ็ดคือเลือดในอวัยวะภายในที่มีสีขาว เช่น กระเพาะ ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก ฯลฯ เลือดในอวัยวะภายในที่มีสีขาวจะมีกลิ่นเหม็น
    *เมื่อกายสังขารแตกดับ มรรตยวิญญาณทั้งเจ็ดก็ดับสูญไป

    *คุณธรรมสามัญ ๕ ได้แก่ เมตตาธรรม มโนธรรม จริยธรรม ปัญญาธรรม สัตยธรรม

    *คุณธรรมแปด ได้แก่ กตัญญู พี่น้องปรองดอง ซื่อสัตย์จงรักภักดี ความสัตย์จริง จริยธรรม มโนธรรม สุจริตธรรม ละอายต่อความชั่ว
     
  14. นิรยะ

    นิรยะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2015
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +30
    กฎนรกไร้ความปรานี ตอนที่ ๑๑
    ผู้พิพากษาตอบกลับมาอย่างจริงจังว่า “ที่แดนยมโลก พญายมราชของเราเห็นโลกมนุษย์ปล่อยบรรยากาศอัปมงคลที่แบกรับไว้จนเกินพิกัดออกมา”

    *สำนึกคุณพระพุทธะทั้งหลายเมตตาประทานพร ! วันนี้เกือบจะเขียนหนังสือไม่เสร็จซะแล้ว เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้มีอุปสรรคมากมายมาขัดขวางการไปเยือนนรกของข้าพเจ้า เป็นเรื่องจริงที่มีปัญหาต่างๆเกิดขึ้นมาเป็นระลอกๆ ปัญหาเก่ายังแก้ไม่ตกปัญหาใหม่ก็เกิดแทรกขึ้นมา ตอนแรกก็คอมพิวเตอร์มีปัญหา พิมพ์ตัวหนังสือไม่ออก ต่อมาก็มีพวกอมนุษย์ฉกฉวยโอกาสช่วงเวลาที่ข้าพเจ้านอนหลับมาสร้างสถานการณ์คอยก่อกวน ทำให้ข้าพเจ้าต้องสิ้นเปลืองพลัง ตอนนี้ข้าพเจ้าเริ่มรู้สึกปวดหัวตัวร้อน อ่อนเพลีย เหมือนจะเป็นไข้ และแล้วในที่สุดสภาพอาการของไข้หวัดก็ปรากฏออกมา ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าเป็นไข้หวัด ถ้าหากใช้ความวิริยะพากเพียรในการสวดมนตร์ อย่างน้อยที่สุดก็ต้องใช้เวลาถึง ๗วันอาการถึงจะดีขึ้น
    *เมื่อครู่นี้ข้าพเจ้าใช้พลังจากจิตใต้สำนึกของตัวเองบอกกับตัวเองว่า วันนี้จะต้องไม่ล้มป่วย วันนี้จะต้องไปนรก จะต้องเขียนหนังสือ เชื่อมั่นว่าตัวเองจะต้องทำได้ และแล้วข้าพเจ้าก็นั่งลงเริ่มต้นสวดมนตร์มยุรี ( 孔雀咒 ข่งเชวี่ยโจ้ว ) ผ่านไปประมาณ ๓๐นาที ไข้ลด ไม่มีน้ำมูกไหล ไม่เจ็บคอ และหายปวดหัว อาการเริ่มดีขึ้น ขอสำนึกในพระคุณอันไร้ขอบเขตของพระมหามยุรี(孔雀明王ข่งเชวี่ยหมิงหวัง) และพระพุทธะทั้ง ๑๐ทิศที่เมตตาประทานพร อาอวี้จะต้องทุ่มเทจนสุดพลังความสามารถทำงานอันศักดิ์สิทธิ์ชิ้นนี้ให้สำเร็จลุล่วงให้จงได้ เพื่อตอบแทนพระคุณของพระพุทธะ มิฉะนั้นแล้ว ก็จะรู้สึกละอายใจต่อพระพุทธะทั้งหลายที่คอยปกปักคุ้มครอง
    *ขึ้นดอกบัวขาวออกเดินทาง ผู้พิพากษาค่ะ ! อาหมีถัวฝอ !
    *วันนี้ผู้พิพากษาพาข้าพเจ้าไปชมนรกบุปผากระบี่วิญญาณ
    *ขอถามผู้พิพากษา : “ อะไรคือนรกบุปผากระบี่วิญญาณค่ะ ? ”
    *ผู้พิพากษาตอบกลับมาอย่างจริงจังว่า : “ นรกขุมนี้คือนรกคนเป็น ของคนบาปที่ยังไม่หมดสิ้นอายุขัยบนโลกมนุษย์ คนบาปเหล่านั้นยังมีชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์ หมกมุ่นอยู่ในกามตัณหาราคะ สำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง : ผู้ชาย สำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองทุกวันหรือบ่อยๆ มีเจตนาจงใจที่จะเปลี่ยนผู้หญิงเปลี่ยนคู่นอนไม่ซ้ำหน้า แล้วยังกระหยิ่มยิ้มย่อง ภาคภูมิใจกับตัวเอง ผู้หญิง สำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองทุกวันหรือบ่อยๆ มีเจตนาจงใจที่จะเปลี่ยนผู้ชายเปลี่ยนคู่นอนไม่ซ้ำหน้า แล้วยังหลงผิดคิดว่าตัวเองยอดเยี่ยมมากๆ คนบาปประเภทนี้ละเมิดศีลกาเมสุมิจฉาจาร หมกมุ่นในกามตัณหาราคะ ซึ่งเป็นการทำลายสัจพลังของอิน-หยาง(ทวิภาวะ)อันสมดุลท่ามกลางฟ้าดินอย่างรุนแรง เพราะว่าทุกครั้งที่พวกเขาดำเนินกิจกรรมทางเพศ ความคิดของพวกเขาจะทำให้บรรยากาศอัปมงคลของกามตัณหาราคะแพร่กระจายออกมาจำนวนมาก บรรยากาศอัปมงคลเหล่านี้จะดึงดูด ภูตผี ปีศาจ เปรต มาร อสูร ฯลฯ ทั้งหลายเข้ามาทำร้ายทำอันตรายคนที่กำลังทำกิจกรรมทางเพศ โดยที่พวกเขาเองก็ไม่รู้สึกตัวว่ากำลังถูกทำร้าย และเมื่อบรยากาศอัปมงคลเหล่านี้เพิ่มมากขึ้นๆเรื่อยๆ ก็จะก่อตัวจนมีพลังที่มากมายมหาศาล สามารถหักล้างความสมดุลท่ามกลางฟ้าดิน โลกมนุษย์ก็จะเกิดภัยพิบัติต่างๆตามมามากมายนับไม่ถ้วน
    *มนุษยชาติได้ทำลายกฎของธรรมชาติในจักรวาลอย่างรุนแรง เพราะบนโลกมนุษย์ไม่มีการลงโทษตามกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องประเภทนี้ มีกฎหมายของประเทศในแถบตะวันตกบางประเทศที่ยิ่งเห็นด้วยและสนับสนุนให้การอยู่ด้วยกันโดยไม่ได้แต่งงานเป็นเรื่องที่ถูกต้องตามกฎหมายและอื่นๆเป็นต้น คนที่บัญญัติกฎหมายเหล่านั้นขึ้นมา จะต้องรับผลกรรมในนรกเป็นระยะเวลาที่ยาวนานอย่างไร้ขอบเขตจำกัด จนกว่าคนรุ่นหลังจะล้มเลิกหรือเพิกถอนกฎหมายเหล่านั้นบนโลกมนุษย์ทั้งหมด คนที่บัญญัติกฎหมายจึงจะสามารถหลุดพ้นจากผลกรรมในนรกได้ ดั่งคำพูดที่ว่า “ โพธิสัตว์กลัวเหตุ ปุถุชนกลัวผล ” เรื่องทุกเรื่องที่พวกเราทำในแต่ละวันจำเป็นจะต้องสอดคล้องกับหลักของเหตุต้นผลกรรม จะต้องมีความระมัดระวัง เพราะถ้าหากประมาทเลินเล่อเพียงนิดเดียวก็จะทำให้เกิดผลกรรมตอบสนองในภายหลัง ที่แดนยมโลก พญายมราชของเรา เห็นโลกมนุษย์ปล่อยบรรยากาศอัปมงคลที่แบกรับไว้จนเกินพิกัดออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนบาปจำนวนมากที่ทำชั่วเหล่านั้นคือเด็กวัยรุ่นเยาวชนที่ยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่ ดังนั้นพญายมราชของเราจึงสร้างนรกขุมใหม่ๆเพิ่มขึ้น ยิ่งมากขึ้นและใหญ่ขึ้น เพื่อใช้ลงโทษคนบาปที่ยังไม่หมดสิ้นอายุขัยบนโลกมนุษย์ ด้วยการจับวิญญาณเป็นๆของพวกเขามาลงโทษในนรกเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ โดยหวังว่าจะสามารถอาศัยการจับวิญญาณคนเป็นของคนบาปมาลงโทษในนรกนี้เพื่อทำให้พวกเขารู้สำนึกเกิดความตื่นตัว และยังเป็นการช่วยสลายบาปกรรมให้กับพวกเขาด้วย เพราะการจับวิญญาณของคนเป็นๆมาลงโทษในแต่ละครั้ง สามารถทำให้ช่วงเวลาที่พวกเขาจะต้องรับการลงโทษในนรกจริงๆหลังจากที่พวกเขาหมดสิ้นอายุขัยลงแล้ว ลดน้อยลงไปได้ส่วนหนึ่ง ”
    *ขอบคุณผู้พิพากษาที่อธิบายให้อาอวี้ฟังโดยละเอียด ได้เก็บเกี่ยวความรู้มามากมาย ต้องขอบคุณท่านผู้พิพากษาจริงๆ
    *เมื่อข้าพเจ้ามาถึงนรกบุปผากระบี่วิญญาณ พบว่านรกขุมนี้มีพื้นที่ ที่กว้างใหญ่มากเป็นพิเศษ ที่แท้ภายในนี้มีเด็กๆยุวชนอยู่มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในแถบตะวันตกที่มารับการลงโทษพร้อมๆกันช่างเยอะแยะมากมายจริงๆ อย่างเช่น ประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส ประเทศจีนเองก็ไม่น้อยหน้า สรุปแล้วมีเกือบจะทั้งหมดทุกเชื้อชาติและเกือบทุกสัญชาติให้เห็น
    *เวลานี้ ข้าพเจ้าเห็นวิญญาณเด็กๆยุวชนชายจำนวนมากถูกนายนิรยบาลลากตัวออกไป ที่องคชาตของพวกเขากำลังถูกกระทำด้วยเครื่องมือทรมานนักโทษที่ดูคล้ายดอกไม้เหล็ก ดอกไม้เหล็กเหล่านั้นกระทำที่องคชาตของพวกเขาจนพวกเขาร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดทรมาน เลือดสดๆไหลทะลักพรั่งพรูออกมา มองแล้วทำให้อกสั่นขวัญหายเป็นอย่างยิ่ง ส่วนผู้หญิงก็ถูกดอกไม้เหล็กที่ดูเหมือนจะลุกไหม้จนเรืองแสงออกมาเป็นสีแดงฉานแทงเข้าไปที่โยนีของพวกเขา พวกเขาเจ็บปวดทรมานจนต้องลงไปนอนดิ้นทุรนทุรายกับพื้น ร้องไห้ครวญครางเสียงดังลั่น วิญญาณคนเป็นของคนบาปที่ถูกจับมาลงโทษในนรกขุมนี้มีเยอะมากจริงๆ เสียงร้องไห้นั้นดังสนั่นสั่นสะเทือนเลยทีเดียว ข้าพเจ้าได้ยินแล้วรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งได้มองด้วยแล้วก็ยิ่งอยากจะถอยหนีออกไปอย่างรวดเร็วในทันทีเลยทีเดียว ในใจของข้าพเจ้านั้นรับไม่ได้เลยจริงๆ ถ้าหากไม่ใช่เพื่อการตักเตือนชาวโลกแล้วละก็ ข้าพเจ้าก็ไม่คิดที่จะมาที่นี่อย่างเด็ดขาด
    เมื่อวิญญาณคนเป็นได้รับการลงโทษเหล่านี้ คนบาปที่อยู่บนโลกมนุษย์จะรู้สึกเหมือนเป็นไข้ตัวร้อน นอนเลอะเลือนไม่ได้สติอยู่บนเตียง เพราะว่าสามอมตะวิญญาณ2ในกายของพวกเขาถูกจับไปลงโทษในนรก ดังนั้นคนประเภทนี้จึงไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างคนปกติ มีบางคนคิดว่าตัวเองกำลังฝันร้าย แต่เมื่อเทียบกับฝันร้ายแล้ว ยังลำบากกว่า โหดกว่า ทรมานกว่า ร่างกายของคนบาปส่วนใหญ่สามารถได้รับผลกระทบจากความเจ็บปวดทรมานนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บริเวณอวัยวะเพศจะเจ็บปวดอย่างรุนแรง เวลาร่วมเพศก็จะรู้สึกเจ็บปวดจนยากจะทนได้ แต่มีคนบาปเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะรู้สำนึก เกิดความตื่นตัวและแก้ไขความชั่วเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่ ผู้พิพากษาบอกว่า พญายมให้ความสำคัญมากกับปัญหาใหญ่ของสังคมประเภทนี้ ที่ต้องลงโทษพวกเขาก็เพื่อจะยับยั้งขัดขวางกระแสนิยมที่เลวร้ายและผิดศีลธรรมที่กำลังแผ่ขยายอย่างต่อเนื่องและจะนำมาซึ่งภัยพิบัติร้ายแรงสู่โลกมนุษย์
    *อาอวี้อยากถามผู้พิพากษาอีกว่า : “ เหตุใดการลงโทษในนรกกามาถึงได้ทันสมัยขนาดนี้ มีทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ ทั้งกระจกน้ำแข็งปล่อยแสงและยังมีเครื่องมือทรมานนักโทษแบบอื่นๆอีก ? ”
    *ผู้พิพากษาบอกว่า : “ นรกก็คือเงาที่กลับหัวของโลกมนุษย์ ขอเพียง เวไนยบนโลกมนุษย์ผลิตสิ่งของที่ทันสมัยออกมาใช้ละเมิดศีล นรกก็จะสร้างเครื่องมือทรมานนักโทษแบบเดียวกันขึ้นมาใช้ลงโทษเวไนยประเภทนี้ทันที ปัจจุบันการศัลยกรรมเสริมความงามบนโลกมนุษย์มีความเจริญก้าวหน้าไปอย่างมาก ขอเพียงใช้เงินจำนวนหนึ่งก็สามารถยกเครื่องเปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตาได้ทันทีโดยที่ไม่มีใครรู้ อยู่บนโลกมนุษย์อาจจะมีคนใช้วิธีทำศัลยกรรมเพื่อปลอมตัวหลอกลวงคนอื่นๆแล้วหนีเอาตัวรอดจากความผิดและกฎหมายได้ แต่ถ้าพูดในแง่ของกฎหมายนรกแล้วล่ะก็ ไม่ต้องพูดถึงการเปลี่ยนรูปโฉมหน้าตา ต่อให้คนๆนั้นไปเกิดใหม่หลายภพชาติเปลี่ยนรูปเปลี่ยนร่างเป็นตัวอะไรก็ตาม พญายมราชของเราก็สามารถหาตัวเขาเจอและควบคุมตัวกลับมาสำเร็จโทษได้ในทันที อาอวี้ ! ท่านกลับไปแล้วต้องเตือนเวไนยบนโลกมนุษย์ให้ดี จะต้องเคารพปฏิบัติตามกฎหมาย ปฏิบัติตามคุณธรรมสามัญ ๕ประการ ห้ามบอกว่านี่เป็นคำพูดที่พูดซ้ำซาก พูดซ้ำๆแต่เรื่องเดิมๆ จะต้องรู้ว่านี่คือกฎเกณฑ์ที่จะทำให้ความสมดุลในธรรมชาติกลับคืนมา ใครที่ไม่ปฏิบัติตาม คนนั้นก็ต้องถูกธรรมชาติเก็บกวาดทำลายทิ้ง ทั้งยังต้องถูกลงโทษจากเหตุต้นผลกรรมตอบสนอง ”
    *เอาล่ะ! วันนี้ก็พอแค่นี้ ขอเชิญท่านกลับไปก่อน ครั้งหน้าค่อยมาใหม่
    *อาอวี้คุกเข่ากราบลาผู้พิพากษา !
     
  15. นิรยะ

    นิรยะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2015
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +30
    กฎนรกไร้ความปรานี ตอนที่ ๑๒
    นรกล้อเฟืองงูและหมาป่า

    *สำนึกคุณพุทธานุภาพปกปักคุ้มครอง ต้องบอกว่าสำนึกคุณมากๆจริงๆ
    *สำนึกคุณพระพุทธองค์ที่หลงเหลือมหาธรรมและพระสูตรคัมภีร์ตกทอดมาถึงคนรุ่นหลัง
    *อาอวี้ชอบศึกษาคัมภีร์พระพุทธศาสนามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาอวี้ชอบพระสูตรแบบดั้งเดิมมากเป็นพิเศษ เพราะเหมือนกับว่าตัวเองได้เข้าไปอยู่ร่วมในการชุมนุมธรรมที่เขาคิชกูฏ ประเทศอินเดียเมื่อ ๒๕๐๐ปีก่อน ได้สดับฟังพระธรรมเทศนาอันประเสริฐเลิศล้ำจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างใกล้ชิด ความรู้สึกเช่นนี้เป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถพรรณนาออกมาได้ด้วยถ้อยคำหรือสำนวนสั้นๆง่ายๆ ดีที่สุดอยากให้ทุกคนตั้งใจศึกษาพระสูตรดั้งเดิมบ่อยๆ เพราะในพระสูตรมีหลักธรรมของชีวิตที่แยบยลล้ำลึกมากมายซ่อนอยู่ เราสามารถหาคำตอบต่างๆได้จากในนั้น
    *พระพุทธะที่อยู่ในพระสูตรคัมภีร์สอนพวกเราว่าการปฏิบัติตัวเป็นคนดีต้องทำอย่างไร การรักษาศีลคือบันไดนำไปสู่โพธิ บำเพ็ญดำเนินปฏิบัติในบารมี ๖ มีความวิริยะพากเพียรบำเพ็ญปฏิบัติแม้จุดเล็กจุดน้อยทุกรายระเอียดจนกระทั่งได้ประจักษ์ในอนุตตรสัมมาสัมโพธิ ทั้งหมดนี้ในพระสูตรได้กล่าวไว้ชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง ตอนที่เริ่มต้นศึกษาพระสูตรคัมภีร์แรกๆอาจจะมีบางท่านไม่เข้าใจความหมายในพระสูตร แต่ไม่เป็นไร ขอเพียงแค่มีความมุ่งมั่น ทุกวันยืนหยัดตั้งใจศึกษา แน่นอนว่าจะค่อยๆเข้าใจได้เอง ที่สำคัญที่สุดคือทุกๆวันจะต้องมีความมุ่งมั่น ตอนที่อาอวี้เริ่มต้นศึกษาพระสูตรนั้น ทุกครั้งเวลาอ่านพระสูตรรู้สึกว่าพระสูตรช่างประเสริฐเลิศล้ำเป็นอย่างยิ่ง แต่ทว่าพออ่านเสร็จก็ลืมจนหมดเกลี้ยง ในหัวสมองรู้อยู่อย่างเดียวว่าประเสริฐจริงๆ แต่สำหรับเนื้อหาภายในพูดถึงอะไรนั้น ก็พูดไม่ออกบอกไม่ถูก สงสัยกรรมจะหนัก แต่เป็นเพราะว่าข้าพเจ้าชอบอ่านพระสูตร ถึงแม้ว่าอ่านแล้วจะลืม แต่ก็ยังคงชอบอ่านอยู่ทุกๆวัน ผ่านไปเช่นนี้ไม่กี่ปีก็รู้สึกว่าตัวเองเริ่มจำได้บ้างเป็นบางส่วน บางครั้งอาจจะอยู่ในช่วงเวลาที่ต่างกัน สถานที่ๆต่างกันก็สามารถทำให้สัมผัสรู้และเข้าใจหลักธรรมในส่วนที่ยังไม่เข้าใจในตอนแรกได้เองโดยธรรมชาติ ดังนั้นความมุ่งมั่นมีความสำคัญมาก หวังว่าทุกคนจะอาศัยช่วงเวลาที่สุขภาพร่างกายของตัวเองยังแข็งแรง มาตั้งใจศึกษาพระสูตรคัมภีร์ ชีวิตคนอนิจจัง หายใจเข้าไม่หายใจออกซะแล้วหนึ่งชาติก็หมดไป มีเพียงการรักษาศีลบำเพ็ญปฏิบัติอย่างจริงจัง จึงสามารถตอบแทนบุญคุณของพระพุทธองค์ที่พร่ำสอน และมีเพียงการรักษาศีลบำเพ็ญปฏิบัติอย่างจริงจังจึงจะสามารถเรียกได้ว่าเป็นศิษย์สาวกของตถาคตอย่างแท้จริง ทุกคนมาร่วมกันทุ่มเทความวิริยะพากเพียรรักษาศีลกันเถอะ !
    *ขึ้นดอกบัวขาวออกเดินทาง อาหมีถัวฝอ ! อาอวี้สวัสดีผู้พิพากษาค่ะ !
    *วันนี้ผู้พิพากษาพาข้าพเจ้าไปเข้าชมนรกล้อเฟืองงูและหมาป่าพร้อมกันในขุมเดียว เวไนยที่มารับโทษอยู่ในนรกขุมนี้คือผู้ที่ชอบเล่นเซ็กซ์หมู่ เช่น ผู้ชายร่วมเพศกับผู้หญิง ๒คนในเวลาเดียวกัน หรือ ผู้หญิงร่วมเพศกับผู้ชาย ๒คนในเวลาเดียวกัน เป็นต้น ถึงแล้ว ได้ยินเสียงร้องที่น่ากลัว
    *มองเห็นชายคนหนึ่งเปลือยกายล่อนจ้อน คล้ายกับเขากำลังถูกมัดอยู่บนกงล้อที่สามารถหมุนได้ ทั้ง ๒ข้างของกงล้อนี้คืองูตัวอ่อนนิ่ม ๒ตัวที่แทบจะเกาะหนึบอยู่บนตัวของเขา งูตัวหนึ่งสีแดง ส่วนงูอีกตัวหนึ่งสีเขียวเข้ม งูตัวหนึ่งพันรัดแน่นที่ตัวเขาไม่ยอมปล่อย หัวของงูก็กัดที่บริเวณส่วนหัว ใบหน้า หูของเขาจนฉีกขาดออกมาเป็นชิ้นๆ บนพื้นเต็มไปด้วยเลือดสดๆ ส่วนงูอีกตัวหนึ่งก็กัดที่บริเวณช่วงล่างของลำตัวเขา ชายคนนี้ร้องไห้ครวญครางลักษณะท่าทางของเขาดูเหมือนจะเจ็บปวดทรมานเป็นอย่างยิ่ง
    *มองไปที่ด้านข้างบ้าง ด้านข้างคือผู้หญิงคนหนึ่งที่เปลือยกายล่อนจ้อนและถูกมัดไว้อยู่บนกงล้อที่สามารถหมุนได้เช่นกัน ทั้ง ๒ข้างของกงล้อคือหมาป่าเหล็กที่ดุร้ายมากแบบสุดๆ๒ตัว กำลังฉีกกัดร่างของเขาอย่างต่อเนื่อง หมาป่าตัวหนึ่งฉีกกัดที่บริเวณหน้าอกของผู้หญิงคนนี้ ส่วนหมาป่าอีกตัวหนึ่งก็ฉีกกัดที่ช่วงล่างของลำตัวเขา ผู้หญิงคนนี้ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือแต่ก็ไม่มีใครสนใจ เป็นภาพที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดจริงๆ ชายหญิงทั้ง ๒คนนี้อายุยังไม่มาก เพิ่งจะอายุประมาณ ๓๐กว่าๆเท่านั้นเอง ก็ต้องมารับผลกรรมอยู่ในนรกนี้แล้ว ช่างเป็นเรื่องน่าเศร้าสลดเหลือเกิน
    *ผู้พิพากษาพูดด้วยสีหน้าที่น่าเกรงขามว่า : “ เวไนยประเภทนี้ไม่เพียงทำลายดวงจิตธรรมญาณของตัวเองเท่านั้น ยังทำลายสังคมและวัฒนธรรมในสังคมอย่างร้ายกาจ ด้วยเหตุนี้นรกจะต้องลงโทษอย่างหนัก พวกเขาจะต้องรับการลงโทษนี้เป็นเวลา ๕๐๐ปี หลังจากนั้นจึงเนรเทศให้ไปรับการพิจารณาและตัดสินโทษในนรกขุมอื่นๆต่อไป ปัจจุบันเวไนยประเภทนี้ยิ่งมีแต่จะเพิ่มทวีมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อระยะใกล้ๆที่ผ่านมานี้ได้ทำการขยายนรกขุมนี้ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นอีก ต่อไปท่านจะต้องมาเข้าชมบ่อยๆ นอกจากนรกกามาขุมนี้แล้ว ยังจะต้องเข้าชมและจดบันทึกสภาพเหตุการณ์จริงในนรกขุมอื่นๆอีก ดังนั้นจะต้องรีบพิมพ์หนังสือธรรมะนี้ออกมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ เพื่อที่จะสามารถยังประโยชน์ให้กับเวไนยทั้งหลายบนโลกมนุษย์ ทำให้พวกเขาเหล่านั้นสามารถสำนึกขอขมาแก้ไขความผิดบาปและหยุดทำความชั่ว หันมาทำความดีสะสมบุญกุศลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้โอกาสที่พวกเขาจะต้องตกนรกนั้นลดน้อยลง ทั้งยังเป็นการช่วยลดภัยพิบัติให้กับโลกด้วย ” รับทราบค่ะ ! อาอวี้ขอปฏิบัติตามคำสั่ง อาอวี้จะทุ่มเทจนสุดพลังและความสามารถที่มีทั้งหมดอย่างแน่นอน
    *ขึ้นดอกบัวขาวกลับ
     
  16. กฮ

    กฮ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    434
    ค่าพลัง:
    +420
    หยุดบ้าแล้วก็เลิกบ้าเสียที ม้นไม่ใช่ธรรมของพระพุทธเจ้า
     
  17. นิรยะ

    นิรยะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2015
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +30
    กฎนรกไร้ความปรานี ตอนที่ ๑๓
    ได้พบพญายมราชฟงตูผู้บัญชาการสูงสุดแห่งยมโลก

    * ถึงแม้อาอวี้จะร่ำเรียนหนังสือมาไม่มาก สำนวนที่ใช้ในการเขียนหนังสือ《กฎนรกไร้ความปรานี》เล่มนี้ จะตื้นๆง่ายๆไม่ลึกซึ้ง แต่อาอวี้ได้ทุ่มเทพลังความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมดเขียนออกมา ในใจหวังอยู่เสมอว่าเวไนยทั้งปวง จะสามารถรักษาศีลตามคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้อย่างสมบูรณ์ครบถ้วนจริงๆ
    * ในระยะใกล้ๆนี้ อาอวี้ได้เห็นศิษย์พี่ผู้หญิงคนหนึ่ง คอยใส่ร้ายป้ายสีอาจารย์ถันไม่หยุด ศิษย์พี่คนนี้มีความก้าวร้าว ยกตนข่มท่าน เวลาพูดก็ไม่เคยไว้หน้าใครเลย เป็นเพราะว่าอาจารย์ถันมีพระคุณต่ออาอวี้ อาอวี้ได้เรียนรู้หลักพุทธธรรมมากมายจากบทความของอาจารย์ถัน อาอวี้รู้สึกสำนึกคุณเหลือเกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพญายมราชเป็นผู้แต่งตั้งให้อาจารย์ถันดำรงตำแหน่งเป็นผู้ตรวจต้นฉบับหนังสือ《กฎนรกไร้ความปรานี》ด้วยตัวเอง อาจารย์ถันก็ตอบตกลงทันทีด้วยความยินดียิ่ง เพื่องานที่จะทำให้เวไนยพ้นจากความทุกข์ ได้รับความสุข แน่นอนว่าอาจารย์ถันจะไม่ตอบปฏิเสธอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าหากเพราะเหตุว่า มีคนใส่ร้ายป้ายสีอาจารย์ถันแล้วทำให้เกิดผลกระทบต่อหนังสือ《กฎนรกไร้ความปรานี》ที่จะตีพิมพ์ออกมาเผยแพร่ละก็ นี่จะต้องเป็นปัญหาที่หนักมากทีเดียว
    * ดังนั้นอาอวี้จะใช้พลังความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมดในตอนนี้ ออกมาประคับประคองสนับสนุนอาจารย์ถัน ด้วยการไปเยือนเมืองนรกเพื่อขอคำแนะนำจากผู้พิพากษามาพิสูจน์ยืนยันเรื่องทั้งหมดนี้ด้วยตัวเอง
    * สำนึกคุณพุทธานุภาพปกปักคุ้มครอง ! ขึ้นดอกบัวขาวออกเดินทาง อาอวี้สวัสดีผู้พิพากษาค่ะ !
    * วันนี้อยากถามผู้พิพากษาว่า : “ สิ่งที่อาจารย์ถันพูดนั้น เป็นสัมมาธรรมใช่หรือไม่ ”
    * ผู้พิพากษาตอบกลับมาว่า : “ สิ่งที่อาจารย์ถันพูด คือสัมมาธรรม ไม่ต้องระแวงสงสัย มิเช่นนั้นแล้ว พญายมราชจะแต่งตั้งให้เขาเป็นผู้ตรวจต้นฉบับได้อย่างไรกัน ? อาอวี้ ! ท่านถามเช่นนี้ เท่ากับมองข้ามสติปัญญาของท่านพญายมราชนะ ”
    * “ เอ่อ ! ขอโทษค่ะ ! อาอวี้ไม่ควรถามเช่นนี้ ผู้พิพากษาโปรดให้อภัยด้วย ”
    * ผู้พิพากษาพูดว่า : “ ในตอนนั้นพระพุทธองค์ทรงประทับอยู่ที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์กำลังจะตรัสรู้ สำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พญามารได้มาสร้างสถานการณ์ก่อกวนพระพุทธองค์ พระพุทธองค์ทรงใช้พลังแห่งฌานสมาธิรวมทั้งพลังแห่งบุญญา และอภิญญาที่เปี่ยมด้วยความเมตตา ขับไล่ขุนพลและกองทัพมารกลับไป ในตอนนั้นพญามารจำใจต้องถอยทัพกลับ แต่ตอนที่กำลังถอยทัพกลับ พญามารได้ตั้งปณิธานว่า “ ตอนนี้ไม่สามารถทำลายพลังสมาธิของท่านได้ รอจนถึงภายภาคหน้า เมื่อถึงยุคท้ายปลายพระสัทธรรมเมื่อไหร่ เราจะส่งลูกหลานมารของเรามาสวมจีวรของท่าน เพื่อทำลายพระทำคำสอนของท่าน ” หลังจากนั้นพญามารก็จากไปอย่างโกรธแค้น ในตอนนั้นพระพุทธองค์ได้หลั่งน้ำตาของความเมตตาสงสารออกมา แท้ที่จริงแล้วพระพุทธองค์ไม่ได้กังวลเรื่องที่มารจะมาทำลายพระธรรมคำสอน แต่กลับเวทนาสงสารลูกหลานมารทั้งหลาย เพราะเหตุจากการทำลายพุทธธรรม ใส่ร้ายป้ายสีพระธรรมคำสอน จะทำให้พวกเขาต้องตกนรกรับผลกรรมตอบสนองที่ยาวนานอย่างไม่มีขอบเขตไม่มีประมาณ ก่อนที่พระพุทธองค์จะดับขันธปรินิพพานก็ตรัสสอนศิษย์สาวกทั้งหลายว่า ศิษย์สาวกทั้งหลายในยุคหลังจะต้องอาศัยศีล อาศัยพระธรรมวินัยเป็นครู ยึดธรรมเป็นสรณะ อย่ายึดที่ตัวบุคคลเป็นสรณะ ที่สำคัญที่สุดต้องดูว่าธรรมะที่เขาพูดมีความสอดคล้องกับพระสูตรคัมภีร์หรือไม่ ในศุรางคมสูตรกล่าวว่า “ หากเหมือนอย่างที่เราพูดก็คือพุทธะพูด หากไม่เหมือนอย่างที่เราพูดก็คือมารพูด” ช่วงเวลาที่พระสัทธรรมดำรงอยู่ มีพุทธะก็ต้องมีมารมาก่อกวน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในปัจจุบันคือยุคท้ายปลายพระสัทธรรม อาจารย์นอกรีตที่บรรยายมิจฉาธรรมมีมากมายดั่งเม็ดทรายในแม่น้ำคงคา ที่ใดที่มีสัมมาธรรม ที่นั่นก็ต้องมีมารไปก่อกวน นี่คือการฝึกฝนและหล่อหลอมพุทธจิตธรรมญาณบนเส้นทางของการบำเพ็ญปฏิบัติธรรม และยังเป็นโอกาสในการทดสอบเพื่อยกระดับของพุทธจิตธรรมญาณให้สูงขึ้นด้วย ในตอนนั้นพระพุทธองค์ก็มีลูกพี่ลูกน้องชื่อเทวทัตคอยใส่ร้ายป้ายสี ปั้นเรื่องใส่ความไปทั่วทุกๆที่ ต่อมาภายหลังเมื่อกายสังขารของเทวทัตแตกดับแล้ว ก็มารับโทษอยู่ในนรกภูมินี้ ”
    * เวลานี้จู่ๆก็มีข้าราชการจากทำเนียบนรกเข้ามาอย่างกะทันหันแล้วแจ้งว่า : “ พญายมราชฟงตูมีคำสั่งให้เรียกตัวมนุษย์โลก“ซั่งกวนอวี้ฮว๋า”เข้าพบเดี๋ยวนี้ ”
    * อ่า ! ข้าพเจ้ารู้สึกตกใจ พญายมราชฟงตูคือผู้บัญชาการสูงสุดของที่นี่ ท่านต้องการพบอาอวี้ คงจะมีเรื่องใหญ่อะไรเกิดขึ้นแล้ว ข้าพเจ้าและผู้พิพากษารีบมุ่งหน้าไปพบพญายมราชฟงตูทันที
    * ถึงตำหนักของพญายมราชแล้ว ข้าพเจ้ารีบคุกเข่าลงกับพื้นเพื่อแสดงการคารวะ : “ หญิงสามัญชนจากโลกมนุษย์ชมพูทวีปประเทศจีน ซั่งกวนอวี้ฮว๋า คารวะจ้าวแห่งยมโลกพญายมราชฟงตู พญายมราชโปรดยกโทษให้อภัยแก่ข้าพเจ้าด้วย ”
    * พญายมราชฟงตูสวมชุดแบบที่ขุนนางสวมเวลาเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิ บนหัวสวมหมวกอันล้ำค่า นั่งอยู่บนบัลลังก์สูง ใบหน้าเป็นสีดำเข้ม มีลักษณะท่าทางที่น่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง ทำให้คนที่พบเห็นรู้สึกตื่นตระหนกตกใจและหวาดกลัว ข้าพเจ้าคุกเข่าอยู่อย่างนั้นตลอดโดยไม่ได้ลุกขึ้นและก็ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองด้วย
    * เวลานี้พญายมราชฟงตูก็พูดขึ้นว่า : “ เรารู้ถึงจุดประสงค์ที่เธอมาที่นี่แล้ว ด้วยเหตุนี้เราจึงเรียกเธอเข้ามาพบ สิ่งที่ถันเซิง ฉายา เหวินซูหมอเจี๋ย พูดและอบรมสั่งสอนเวไนยในยุคท้ายปลายพระสัทธรรม เพื่อชำระล้างจิตใจของเวไนยให้ใสสะอาด สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัมมาธรรม ตอนนี้โลกมนุษย์มาถึงช่วงเวลาที่ศีลธรรม จรรยา ความนึกคิด กำลังตกต่ำ และมีแต่จะยิ่งตกต่ำลงไปทุกๆวัน ชาวโลกขาดการอบรมสั่งสอนทางด้านความคิดและเหตุต้นผลกรรมอย่างรุนแรง ไม่รู้ว่า อะไรที่เรียกว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ดังนั้นจึงเกิดความกำเริบเสิบสาน ไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น มีความคิดที่เปิดกว้างแพร่หลายยอมรับในสิ่งที่ไม่ดี เช่น ยอมรับการเข่นฆ่าและกามตัณหาลามกเข้ามา เลียนแบบและทำตาม คนที่ใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นก็คิดเอาเองว่านี่เป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นสามารถวิพากษ์วิจารณ์ใครก็ได้ โดยหารู้ไม่ว่าตัวเองนั้นได้ใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นและยังได้ละเมิดความผิดบาปตามคำสอนของพระอริยเจ้า สิ่งที่ถันเซิงพูดคือการกอบกู้จิตใจคนให้มุ่งสู่สัมมาธรรม แก้ไขความผิดบาปกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนใหม่ ไม่ว่าใครก็ตามที่ปกป้องพระธรรมคำสอน พูดสิ่งที่เป็นพระสัทธรรม เราก็จะพิจารณาปูนบำเหน็จให้กับเขา ถ้าหากปฏิบัติตามพระธรรมคำสอนของพระพุทธะ ยึดถือปฏิบัติตามจนสิ้นอายุขัยโดยไม่ละเมิดฝ่าฝืน ถึงแม้จะไม่ได้นำพระธรรมคำสอนเผยแพร่ออกไปให้กว้างไกล เพียงแค่บำเพ็ญเฉพาะตังเอง เพียงแค่นี้ก็ไม่ต้องไปรับความทุกข์ทรมานในนรกแล้ว ถ้าหากว่าไม่เพียงแค่ตัวเองเท่านั้นที่ยึดถือปฏิบัติตามพระธรรมคำสอนจนสิ้นอายุขัยโดยไม่ละเมิดฝ่าฝืน แต่ยังนำพระธรรมคำสอนออกไปเผยแพร่บอกต่อผู้อื่น ทำให้พระธรรมคำสอนแผ่ขยายออกไป ก็จะเป็นการเพิ่มบุญวาสนาและอายุขัยรวมทั้งบุญวาสนาที่จะตกทอดไปสู่ลูกหลานในรุ่นต่อๆไป ถ้าหากตนเองไม่ยึดถือปฏิบัติตามพระธรรมคำสอน อีกทั้งยังมีเจตนาทำลาย ใส่ร้ายป้ายสี ในชาตินี้จะต้องถูกลดบุญวาสนาและอายุขัยลงอย่างแน่นอน เมื่อสิ้นอายุขัยก็จะต้องรับโทษในนรกดึงลิ้น นรกร้องตะโกน ทั้งยังต้องรับโทษ ถูกควักตา สังหารใจ ตัดหู และการลงโทษที่โหดร้ายทารุณจากนรกขุมต่างๆ สำหรับระยะเวลาในการลงโทษนั้นยาวนานอย่างไม่มีขอบเขตจำกัด จะต้องรอจนกว่าเวไนยที่หลงเชื่อคำวิจารณ์และคำใส่ร้ายป้ายสีในพระสัทธรรมเหล่านั้นจะสามารถยกระดับจิตใจให้กลับมาเชื่อมั่นศรัทธาในพระสัทธรรมอีกครั้ง และเริ่มต้นบำเพ็ญปฏิบัติในสัมมาธรรมใหม่ วิญญาณบาปที่ใส่ร้ายป้ายสีพระธรรมคำสอนจึงจะมีโอกาสได้หลุดพ้นออกจากนรก ภายหลังถึงแม้ว่าจะได้กลับมาเกิดเป็นคนอีก ก็จะเอาตัวไปเกลือกกลั้วกับความเลวทรามต่ำช้า บ้างก็เกิดมามีอินทรีย์ไม่ครบ เป็นคนพิการ ตาบอดทั้ง ๒ข้าง หูหนวก ร่างกายผอมแห้ง บ้างก็ยากจนต่ำต้อยใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย ขาดแคลนปัจจัยวัตถุที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ครอบครัวไม่มีความปรองดองสมานฉันท์ และยังมีสิ่งที่จะไม่สมปรารถนาอีกมากมายรวมทั้งความยากลำบากอื่นๆจากผลกรรมตอบสนอง เมื่อเธอกลับไปแล้วรีบนำคำพูดของเราเขียนออกมา หวังว่าจะสามารถช่วยแนะนำตักเตือนเวไนยที่ดื้อรั้นลุ่มหลงไม่รู้จักตื่นให้กลับเนื้อกลับตัวสำนึกขอขมาแก้ไขความผิดบาป และอย่าได้ใส่ร้ายป้ายสีพระธรรมคำสอน อย่าได้ใส่ร้ายป้ายสีพระสัทธรรมอีก ”
    * อาอวี้คุกเข่ากราบขอบคุณพญายมราชฟงตู ขอบคุณพญายมทั้งหลายรวมทั้งผู้พิพากษาทุกๆท่าน ขึ้นดอกบัวขาวกลับ
     
  18. นิรยะ

    นิรยะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2015
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +30
    กฎนรกไร้ความปรานี ตอนที่ ๑๔
    นรกขุมใหม่แสงไฟฟ้าหน้าจอเรืองแสง-ซัดเข็มน้ำแข็งไฟฟ้า

    *สำนึกคุณพุทธานุภาพปกปักคุ้มครอง ! ขึ้นดอกบัวขาวออกเดินทาง
    *อาอวี้สวัสดีผู้พิพากษาค่ะ !
    *ผู้พิพากษาบอกว่าวันนี้จะพาข้าพเจ้าไปชมนรกแสงไฟฟ้าหน้าจอเรืองแสง อะไรคือนรกแสงไฟฟ้าหน้าจอเรืองแสง ? ก็คือสมัยมีที่ชีวิตอยู่เป็นผู้สร้างหรือผู้ผลิตนิตยสารลามก ซีดีลามก รูปภาพลามก คลิปวีดีโอลามก เสียงลามก คำพูดลามก และอื่นๆเป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถทำให้เวไนยบนโลกมนุษย์เกิดความคิดจินตนาการเพ้อฝันที่ไม่ถูกหลักทำนองคลองธรรม บางคนเป็นผู้สร้างสื่อลามกประเภทนี้เอง และมีเจตนานำสื่อลามกเหล่านี้ไปปล่อยไว้บนเว็บไซต์ทางอินเตอร์เน็ตให้คนอื่นๆได้เข้าไปดู กระตุ้นให้คนอื่นๆเกิดอารมณ์ทางเพศเกิดความคิดในด้านกามตัณหา ทำลายจิตมโนธรรมสำนึกที่ดีงาม ส่งผลให้เวไนยประพฤติผิดในกามด้านอื่นๆตามมา หรือบางคนอาจจะไม่ได้เป็นผู้สร้างสื่อลามกด้วยตัวเอง แต่ชอบเข้าไปแชร์ต่อให้คนอื่นๆได้ดู บางคนก็เข้าไปดาวน์โหลดสื่อลามกของคนอื่นเก็บไว้แล้วนำไปเผยแพร่ซ้ำให้คนอื่นๆได้ดูต่อ ทำให้ความคิดของคนอื่นๆถูกรบกวนด้วยสิ่งที่ยั่วยุกามตัณหา เป็นเหตุให้คนอื่นๆประพฤติผิดในกาม คนประเภทนี้เมื่อสิ้นอายุขัยลงจะต้องไปรับโทษในนรก
    *เวไนยที่รับการลงโทษในนรกขุมนี้ จะต้องรับการลงโทษที่ยาวนานแบบไม่มีขอบเขตจำกัด ต้องรอจนกระทั่งสื่อลามกที่พวกเขาสร้างขึ้นมาทั้งหมดสูญสิ้นหมดไปจากโลกมนุษย์ ส่วนเวไนยที่ช่วยแชร์สื่อลามกหรือช่วยนำสื่อลามกของคนอื่นไปเผยแพร่ซ้ำ ก็จะต้องรอจนกระทั่งเวไนยทั้งหลายที่ได้รับผลกระทบจากสื่อลามกของคนอื่นที่พวกเขานำไปเผยแพร่ซ้ำหรือแชร์ออกไปเหล่านั้น สามารถกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนใหม่ ไม่ประพฤติผิดในกามเพราะดูสื่อลามกประเภทนี้อีก เช่นนี้พวกเขาจึงสามรถพ้นจากนรกขุมนี้ได้
    *ข้าพเจ้าขอคำแนะนำจากผู้พิพากษา : “ นรกขุมนี้คนไม่น้อยเลยนะค่ะ ! ทำไมคนที่ผลิตสื่อลามกถึงได้มีมากมายเช่นนี้ ? ”
    *ผู้พิพากษาบอกว่า : “ เวไนยที่แชร์สื่อลามกของคนอื่นหรือดาวน์โหลดสื่อลามกของคนอื่นเก็บไว้แล้วนำไปเผยแพร่ซ้ำ เวไนยประเภทนี้ ถือว่ามีความผิดบาปเทียบเท่ากับผู้ที่ผลิตสื่อลามก จะต้องรับการลงโทษในนรกขุมนี้ ถึงแม้ว่าความผิดบาปของพวกเขาจะเบากว่าผู้ที่ผลิตสื่อลามกอยู่บ้างนิดหน่อยก็ตาม เว็บไซต์ลามกในอินเตอร์เน็ตใช้เวลาเพียงเล็กน้อยแค่ช่วงสั้นๆในการดูและแชร์ แต่เนื้อหาภายในกลับเต็มไปด้วยพิษร้ายมากมายสุดคณานับ ต่อเด็กๆที่ยังไร้เดียงสา สื่อลามกพวกนี้จะทำลายหนทางการเติบโตทางด้านจิตใจของพวกเขาอย่างร้ายแรง การเติบโตทางด้านจิตใจของเด็กๆแต่ละคนจะต้องวางรากฐานที่ดีทางด้านความประพฤติของพวกเขาให้มั่นคงแข็งแรง เพื่อให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี แต่ในปัจจุบันเด็กอายุยังน้อยๆก็ถูกมอมเมาด้วยสิ่งที่ไม่ดีจนติดงอมแงมไปซะแล้ว ดั่งเช่นใน《กษิติครรภ์โพธิสัตว์มูลปณิธานสูตร》ได้กล่าวไว้ว่า “หากได้พบมูลเหตุปัจจัยที่ชั่วร้าย ความคิดที่ชั่วร้ายก็จะเพิ่มทวีขึ้น” จากบ่อยๆก็กลายเป็นความเคยชิน จากความเคยชินก็กลายเป็นนิสัยปกติ หลังจากที่เด็กโตขึ้นแล้ว ก็เป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะสามารถยกระดับจิตใจให้สูงขึ้นและมีจิตที่สำนึกขอขมาแก้ไขความผิดบาป นอกจากว่าพวกเขาจะได้พบกับมหากัลยาณมิตรที่มีคุณธรรมสูงส่งมาชี้แนะตักเตือนพวกเขา คอมพิวเตอร์ในปัจจุบันนับวันก็ยิ่งดีขึ้น ใหม่ขึ้น ทันสมัยขึ้น ทำให้เด็กๆอายุน้อยๆขาดการอบรมสอนสั่งเรื่องเหตุต้นผลกรรม ยังมีเด็กๆที่ยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่อีกจำนวนมาก ที่ดูสื่อลามกประเภทนี้บนเว็บไซต์ลามกทุกๆวัน เหตุต้นผลกรรมเหล่านี้ เวไนยที่เป็นผู้ผลิตสื่อรวมทั้งผู้แชร์และผู้เผยแพร่สื่อลามกทั้งหลาย จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ด้วยเหตุนี้ทำเนียบนรกจึงสร้างนรกขุมนี้ขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อลงโทษเวไนยประเภทนี้ให้หนัก ”
    *ข้าพเจ้ามองเห็นเวไนยในนรกขุมนี้ล้วนเปลือยกายล่อนจ้อน พวกเขาต่างก็มุ่งหน้าไปที่เครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องล้วนเต็มไปด้วยสื่อลามก แต่ข้าพเจ้ากลับมองเห็นเครื่องคอมพิวเตอร์เหล่านั้นเป็นเครื่องมือทรมานนักโทษ มันดูคล้ายกับไฟสีแดงที่ปล่อยแสงได้ เมื่อวิญญาณบาปที่หมกมุ่นในกามเดินเข้าไปใกล้เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องคอมพิวเตอร์จะปล่อยตะขอไฟสีแดงออกมา เกี่ยวควักเอาลูกตาทั้ง ๒ข้างของวิญญาณบาปหลุดออกมาทันที ตามด้วยเข็มน้ำแข็งไฟฟ้าที่ซัดใส่ร่างของพวกเขาจนเลือดไหลไปทั้งตัว เข็มน้ำแข็งไฟฟ้าถูกซัดออกไปทิ่มแทงที่ส่วนหัวก่อน จากนั้นจึงไล่แทงลงมาตลอดทั้งตัว ทั่วทั้งตัวถูกทิ่มแทงด้วยเข็มเต็มไปหมด เลือดสดๆไหลออกมา เป็นสภาพเหตุการณ์ที่น่าเวทนาเป็นอย่างยิ่ง โหดเหี้ยมทารุณและต้องรับโทษที่ยาวนานอย่างไม่มีขอบเขตจำกัด ต้องรอจนกว่าสื่อลามกของพวกเขาทั้งหลายจะสูญหายหรือถูกทำลายจนหมดไปจากโลกมนุษย์ นี่คือความทุกข์ทรมานที่ยาวนานอย่างไม่มีขอบเขตประมาณโดยแท้ ออกจากนรกขุมนี้กันก่อนเถอะ โหดเหี้ยมจนทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว !
    *ผู้พิพากษาบอกให้รู้ว่า : “ในขณะที่หนังสือ《กฎนรกไร้ความปรานี》ยังไม่ได้ถูกตีพิมพ์ออกมา ท่านจะต้องเอาเนื้อหาของหนังสือไปเปิดเผยในเว็บไซต์ทางอินเตอร์เน็ตก่อน เพื่อให้เวไนยที่มีบุญสัมพันธ์กับท่านได้อ่านบทความนี้และสามารถกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนใหม่ อีกทั้งช่วยบอกต่อหรือแชร์ข้อมูลนี้ให้กับผู้ที่ชอบแชร์สื่อลามกทั้งหลายได้รับรู้ อาศัยเหตุปัจจัยนี้มาบรรลุจุดประสงค์ในการชำระล้างจิตใจคนให้สะอาดบริสุทธิ์ ให้ในสมุดบันทึกบัญชีบุญบาปของเวไนยทั้งหลายที่ช่วยแชร์ข้อมูลเหล่านี้ตักเตือนผู้คน สามารถได้รับการจดบันทึกเป็นคะแนนมหากุศล ซึ่งเทียบได้กับบุญกุศลจากความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่ ความชั่วทั้งปวงกามตัณหามาเป็นอันดับหนึ่ง ความดีทั้งมวลกตัญญูมาเป็นอันดับแรก พญายมราชของเราชื่นชมสรรเสริญลูกกตัญญูยิ่งนัก สำหรับวันนี้ก็พอแค่นี้ ท่านกลับไปก่อนเถอะ! ”
    *อาอวี้กราบลาผู้พิพากษา ! ขึ้นดอกบัวขาวกลับ
     
  19. นิรยะ

    นิรยะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2015
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +30
    กฎนรกไร้ความปรานี ตอนที่ ๑๕
    ไขความลี้ลับของการดำรงชีวิตในภูมินรกเขตแดนสามัญชน

    *หลังจากที่《กฎนรกไร้ความปรานี》ได้เผยแพร่ออกไปแล้ว ก็มีบางคนคิดว่าหนังสือนี้เขียนด้วยวิธีการประทับทรงของสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วประคองไม้เขียนออกมาบนกระบะทราย ดังนั้นอาอวี้ขอบอกอีกครั้งนะค่ะว่า อาอวี้ใช้วิธีการนั่งสมาธิเข้าสู่ความสงบนิ่ง จิตไม่คิดฟุ้งซ่านจึงสามารถรวมกายใจเข้าสู่ฌานสมาธิแล้วอาศัยพลังแห่งพุทธานุภาพช่วยเพิ่มพลังและความสามารถทำให้อยู่ในสภาพที่สมองปลอดโปร่งมีความตื่นแจ้งสามารถมีสติเข้าใจอะไรได้อย่างกระจ่างชัดเจนยิ่งขึ้น จากนั้นจึงขึ้นดอกบัวขาวมาถึงแดนนรกภูมิในชั่วพริบตา ด้วยเหตุนี้บทความที่เขียนลงในหนังสือแต่ละครั้งจึงต้องผ่านการตรวจสอบเนื้อภายในด้วยการเดินทางไปๆมาๆในนรก ๓-๔รอบเพื่อตรวจดูว่าเนื้อหาที่เขียนนั้นเป็นความจริง ข้อมูลที่ใช้อ้างอิงในการเขียนล้วนเป็นข้อมูลที่มีคุณค่าเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากมีคำพูดใดในเนื้อหาที่ผิดพลาดไป ทั้งหมดนั้นล้วนเป็นความผิดพลาดของอาอวี้เอง เพราะว่าขีดความสามารถในการบำเพ็ญเพียรปฏิบัติมีจำกัด เลยทำให้ฟังผิดฟังเพี้ยนไป แต่จิตใจของอาอวี้ที่ปรารถนาจะทำงานเพื่อพระพุทธะโพธิสัตว์และเอื้อประโยชน์ต่อเวไนยทั้งปวงนั้น เป็นสิ่งที่จริงแท้แน่นอน
    *ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นวิธีการปะทับทรงแล้วประคองไม้เขียนบนกระบะทรายก็ดี การประทับทรงแบบเต็มร่างก็ดี หรือการฝันเห็นนิมิตแล้วเขียนออกมาก็ดี วิธีการเหล่านั้นย่อมไม่เหมือนกับวิธีการที่ใช้เขียน《กฎนรกไร้ความปรานี》เล่มนี้อย่างแน่นอน ขอเชิญคุณสุภาพบุรุษคุณสุภาพสตรีและคุณผู้อ่านทุกๆท่านโปรดติดตามตอนต่อไปนะค่ะ
    *สำนึกคุณพลังพุทธานุภาพประทานพร ขึ้นบัวขาวออกเดินทาง
    *อาอวี้สวัสดีผู้พิพากษาค่ะ !
    *วันนี้อยากจะถามผู้พิพากษาว่า : “แดนสามัญชนในนรกภูมิเป็นภพภูมิของผีใช่หรือไม่ค่ะ ?”
    *ผู้พิพากษาพูดว่า : “ แดนสามัญชนเป็นภพภูมิผี ที่อยู่ภายใต้การปกครองของนรก ก็คือเวไนยตอนสมัยที่มีชีวิตอยู่ ไม่ได้เป็นคนดีและก็ไม่ได้เป็นคนเลว ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นบุญเป็นมหากุศล และก็ไม่ได้ทำความชั่วที่เป็นความผิดบาปร้ายแรง ตลอดชั่วชีวิตผ่านพ้นไปอย่างปุถุชนคนธรรมดา เมื่อสิ้นอายุขัยจะมีอนิจจังขาว-ดำ(ยมทูตขาว-ดำ)นำตัวไปรับการพิจารณาตัดสินคดี เมื่อตรวจสอบบุญบาปในสมุดบันทึกแล้วพบว่าไม่มีกรรมที่จะต้องรับโทษในนรก ก็จะจัดให้ไปอยู่ในแดนสามัญชน หากมีบุญกุศลมากก็สามารถเลื่อนระดับสูงขึ้น หรืออาจจะได้กลับไปเกิดบนโลกมนุษย์อีก ”
    *วันนี้ไปเยี่ยมชมแดนสามัญชนก็แล้วกัน อ่า ! แค่เพียงชั่วพริบตาเดียวก็มาถึงแดนสามัญชนแล้ว รู้สึกว่าที่นี่ช่างดีกว่านรกอย่างมากมายเหลือเกินจริงๆ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ต้องถูกลงโทษ การดำรงชีวิตของเวไนยที่นี่ไม่ค่อยแตกต่างจากบนโลกมนุษย์เท่าไหร่นัก ทุกคนมีอิสระเสรีเป็นอย่างยิ่ง เวไนยในแดนสามัญชนสามารถเคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมได้อย่างเสรี มีอิสระในการทำธุรกิจการค้าแบบเรียบง่าย
    *ที่นี้มีทั้งผู้ใหญ่และเด็กๆรวมทั้งร้านค้า ท้องฟ้าของที่นี่เป็นสีเทาไม่มีดวงตะวัน ไม่มีดวงจันทร์และดวงดาว เสื้อผ้าของพวกเขาดูเหมือนมืดๆ พวกเขาไม่มีร่างกายที่เป็นเลือดเนื้อ รู้สึกว่าลักษณะรูปร่างของพวกเขาออกจะดูเบาๆลอยๆ ไม่เหมือนกับเวไนยบนโลกมนุษย์ที่เวลาเดินจะรู้สึกว่ามีน้ำหนักตามแรงโน้มถ่วงของโลก นี่คือสิ่งที่แตกต่างกันระหว่างเวไนยในแดนสามัญชนกับเวไนยบนโลกมนุษย์
    *ข้าพเจ้าเดินดูๆ เบื้องหน้ามีชาวสามัญชนกลุ่มหนึ่งกำลังชุมนุมกันอยู่ อ๋อ ! ที่แท้เป็นเขตพื้นที่ขายปลีกสินค้านานาชนิดที่มีลักษณะเป็นทางเดินยาวๆ ทางเดินนี้ยาวมาก ทั้ง ๒ฟากข้างทั้งซ้ายและขวาเต็มไปด้วยร้านค้าแผงลอยของผู้ค้าเร่ ทุกร้านจะมีเจ้าของร้านประมาณ ๒-๓ คน แต่คนที่ขายมีเพียงคนเดียว
    *ที่นี่มีเขตพื้นที่อาหารเลิศรสด้วย มาดูพวกเขากินอาหารกันเถอะ ! อ่า ! รู้สึกว่าอาหารของพวกเขาช่างไม่มีความอุ่นเอาซะเลย อาหารทั้งหมดเย็นเจี๊ยบและดูเหมือนจะเบามาก ที่จริงแล้วควรบอกว่ามันดูไม่เหมือนอาหารแต่มันดูเหมือนวัตถุสิ่งของซะมากกว่า เมื่อข้าพเจ้าลองหยิบอาหารขึ้นมาไว้ในมือกลับรู้สึกว่ามันเป็นวัตถุสสารที่ไร้น้ำหนัก อยู่บนโลกมนุษย์เมื่อหยิบแก้วน้ำขึ้นมาซักแก้วหนึ่งจะรู้สึกว่ามีน้ำหนักของแก้วน้ำ แต่สิ่งของๆที่นี่กลับไม่มีความรู้สึกแบบนั้น ลองมาดูกันซิว่าร่างวิญญาณของแดนสามัญชนเขากินอาหารกันอย่างไร ! พวกเขากินอาหารโดยการสูดกิน และที่สำคัญคือสูดกินได้ไวมาก ฉับพลันข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงแม้ค้าคนหนึ่งเรียกข้าพเจ้า
    *“ สวัสดีค่ะแม่ค้า ! นี่คืออะไรเหรอคะ ? ”
    *“ นี่คือน้ำซุปที่เพิ่งทำเสร็จ เมื่อดื่มหมดแล้วปีหน้าค่อยดื่มใหม่ ”
    *อ่าฮ้า ! ๑ปีดื่ม ๑ครั้ง ? แม้แต่เห็ดหลินจือทั้งหลายก็ยังไม่มีสรรพคุณแบบนี้เลย ! ดื่มครั้งเดียวก็พอ รับประกัน ๑ปี นี่เป็นอาหารบำรุงร่างกายที่ยอดเยี่ยมจริงๆ
    *เวลานี้มือของแม่ค้ามากระทบโดนมือของข้าพเจ้า
    *แม้ค้าพูดว่า : “ คุณน้อง ! อุณหภูมิในร่างกายของเธอสูงมากเลยนะ ต้องดูแลรักษาสุขภาพให้ดีๆ มาดื่มน้ำซุปนี่ซักถ้วยเถอะ ดื่มหมดแล้วก็จะทำให้อุณหภูมิในร่างกายเธอลดลง ทำให้รู้สึกเบิกบานใจ”
    *ข้าพเจ้ายิ้มๆแล้วพูดว่า : “ ขอบคุณค่ะ แต่วันนี้ยังไม่ดื่มดีกว่า ”
    *อยู่บนโลกมนุษย์ ตั้งแต่ยังเด็ก อุณหภูมิในร่างกายของข้าพเจ้าก็ค่อนข้างจะต่ำอยู่แล้ว แต่เมื่อมาถึงแดนสามัญชนแห่งนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าอุณหภูมิของร่างกายต่ำขนาดนี้จะถือว่าสูงมากสำหรับที่นี่
    *บนทางเดินเส้นนี้พบเห็นวิญญาณทั้งหลายต่างมีอิสระเสรีในการช้อปปิ้งจับจ่ายซื้อของ รู้สึกว่าที่แดนสามัญชนนี้ก็ธรรมดาๆไม่มีอะไรที่ซับซ้อน แต่ก็ยังมีบรรยากาศที่อึมครึมน่าขนลุกอยู่ดี แต่เมื่อเทียบกับนรกแล้วถือว่าดีกว่ามากมายอย่างมากๆเลยจริงๆ
    *ข้าพเจ้าอยากถามผู้พิพากษาว่า : “ เวไนยในแดนสามัญชนมีอายุขัยโดยเฉลี่ยยาวนานประมาณเท่าไหร่ ? แล้วพวกเขาดื่มกินด้วยการสูดไอธาตุหรือ ? ”
    *ผู้พิพากษาพูดว่า : “ อายุขัยที่สั้นที่สุดคือ ๓๐๐ปี อายุขัยที่ยาวนานที่สุดคือ ๑๕๐๐ปี ถ้าหากมีรากบุญได้บำเพ็ญปฏิบัติธรรมก็สามารถสิ้นอายุขัยได้ก่อนกำหนด ได้เลื่อนขั้นไปเกิดบนโลกมนุษย์หรืออาจจะได้ขึ้นไปเสวยสุขอยู่บนสวรรค์ สำหรับอาหารนั้น พวกเขาไม่ต้องกิน ๓มื้อเหมือนเวไนยบนโลกมนุษย์ พวกเขาจะอาศัยอาหารหยาบที่มีรูปลักษณ์สูดกินส่วนละเอียดที่เป็นโอชารสของอาหารเข้าไป กิน ๑ครั้งสามารถอิ่มไปได้ ๑ปี หากลูกหลานบนโลกมนุษย์เซ่นไหว้ในเดือน ๔ วันเชงเม้ง ๑ครั้ง ก็สามารถอิ่มไปได้ ๑ปี แต่ห้ามใช้เนื้อสัตว์หรืออาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์มาเซ่นไหว้บรรพชนอย่างเด็ดขาด เพราะจะเป็นการเพิ่มบาปกรรมให้กับบรรพชนที่อยู่ในภพภูมิผี ลูกหลานบนโลกมนุษย์ควรใช้อาหารมังสวิรัติที่ปราศจากเนื้อสัตว์ หรือใช้อาหารเจ รวมทั้งดอกไม้สดและผลไม้ มาใช้ในการเซ่นไหว้ และดีที่สุดควรจะสวดท่องพระสูตร สวดท่องพุทธนามของพระพุทธะโพธิสัตว์ ทำความดีสะสมบุญกุศลเพื่ออุทิศตอบแทนบุญคุณของบรรพชนที่คอยเลี้ยงดูและอบรมสั่งสอน เพื่อให้บรรพชนสามารถไปสู่สุคติในเร็ววัน วันนี้ก็พอเท่านี้ก่อน กลับไปอย่าลืมบอกชาวโลกว่าห้ามใช้อาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์มาเซ่นไหว้บรรพชนอีก เพราะมีแต่จะทำให้บรรพชนต้องรับความทุกข์ ”
    *ครั้งนี้ได้มาศึกษาเรียนรู้และเข้าเยี่ยมชมแดนสามัญชนในนรกภูมิ ทำให้อาอวี้ได้เปิดโลกทัศน์จริงๆ ได้เปิดหูเปิดตาเรียนรู้อะไรไปไม่ใช่น้อย คนตายกลายเป็นผี แท้ที่จริงยังมีชีวิตอื่นๆที่ตาเนื้อของมนุษย์มองไม่เห็น ดำรงชีวิตอยู่ในภพภูมิต่างๆรวมทั้งในโลกมนุษย์ ใช้ชีวิตอยู่ในผลกรรมตอบสนองอย่างต่อเนื่องไม่สิ้นสุด
    *อาอวี้สำนึกคุณผู้พิพากษาที่อบรมสั่งสอน ขึ้นดอกบัวขาวกลับ
     
  20. นิรยะ

    นิรยะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2015
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +30
    กฎนรกไร้ความปรานี ตอนที่ ๑๖
    ผู้สร้างภาพลามกอนาจารในสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตกเมื่อ ประมาณ ๑๙๐๐กว่าปีก่อนถึงตอนนี้ก็ยังคงรับทุกข์อยู่ในมหานรก

    *สำนึกคุณพระพุทธะเมตตาใช้กุศโลบายต่างๆนานามากล่อมเกลาเวไนย จัดการวางแผนสร้างโอกาสต่างๆมากมายเพื่อฉุดช่วยเวไนย
    *ก่อนออกเดินทาง เบื้องล่างใต้ฝ่าเท้ามีดอกบัวปรากฏออกมามากมาย ทำให้อัตราความเร็วยิ่งเร็วมากขึ้น พริบตาเดียวก็ถึงนรกภูมิแล้ว สำนึกคุณความเมตตาชั่วนิรันดร์ของพระพุทธะโพธิสัตว์ที่คอยปกปักพิทักษ์ธรรม ! ผู้พิพากษามารอข้าพเจ้าอยู่ก่อนแล้ว อาอวี้คารวะผู้พิพากษาค่ะ !
    *วันนี้อยากจะถามผู้พิพากษา เกี่ยวกับผลกรรมของคนที่เขียนหนังสือกามารมณ์ พิมพ์หนังสือกามารมณ์ ขายหนังสือกามารมณ์ ถ่ายทำภาพยนตร์ลามก นายทุนเจ้าของกิจการผู้สร้างซีดีลามก ผลกรรมของนักแสดงที่ถ่ายทำภาพยนตร์ลามก ผลกรรมของผู้ขายของกินของใช้ที่ส่งเสริมด้านกามตัณหา เช่น ยาเพิ่มพลังทางเพศ และอื่นๆเป็นต้น
    *ผู้พิพากษารีบพาข้าพเจ้าไปชมนรกขุมหนึ่งชื่อว่า “เกลือกกลิ้งประเวณี” ระหว่างที่พวกเรากำลังพูดคุยสนทนากันอยู่นั้นก็เริ่มรู้สึกถึงบรรยากาศอื่นที่อยู่รอบๆตัวซึ่งเป็นบรรยากาศทางด้านลบ ที่จริงควรจะพูดว่านี่เป็นบรรยากาศแห่งกามตัณหา เท่าที่ผ่านมา นรกขุมต่างๆที่ข้าพเจ้าได้เข้าชมจะเต็มไปด้วยบรรยากาศอึมครึมที่มากมายอย่างไร้ขอบเขตจำกัด แต่ที่นรกขุมนี้บรรยากาศแห่งกามตัณหามีความรุนแรงยิ่งกว่าบรรยากาศอึมครึมอย่างมากมายมหาศาล บรรยากาศแห่งกามตัณหาได้ปกคลุมบรรยากาศอึมครึมเหล่านั้นไปซะแล้ว อีกทั้งยังมีกลิ่นคาวเลือดที่รุนแรง หากไม่ใช่เพราะต้องการนำเรื่องนี้มาเปิดเผยให้ทุกคนได้รับรู้ล่ะก็ ไม่อยากจะมาดูเลยจริงๆ
    *ถึงแล้ว ! ตอนนี้ได้ยินเสียงร้องที่ดังสนั่นและเสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวดทรมาน ที่นี่เต็มไปด้วยวิญญาณบาปทั้งชายและหญิงมากมาย แต่พวกเขาไม่มีเวลาที่จะมาทำความรู้จักทักทายพูดคุยกันหรือปลอบประโลมใจซึ่งกันและกันหรอก เพราะว่าทุกคนต่างก็กำลังรับโทษของตนอยู่ในนรกขุมนี้อย่างไม่ได้หยุดพักเลย
    *ข้าพเจ้ามองเห็นหนึ่งในวิญญาณบาปเหล่านั้นอยู่บนเก้าอี้ตัวเล็กๆตัวหนึ่ง กำลังใช้มือทั้ง๒ข้างกดลงบนเก้าอี้แล้วดันตัวยกเท้าชี้ขึ้นฟ้าทำท่าหกสูง ก็คือเอาหัวอยู่ด้านล่างแล้วเอาเท้าชี้ขึ้นด้านบน หลังจากที่เขาสูญเสียการทรงตัวก็จะพลัดร่วงตกลงมาตายบนพื้น แล้วก็กลับฟื้นคืนชีวิตขึ้นมารับการลงโทษใหม่ ผู้พิพากษาบอกว่านี่คือผลกรรมของพวกที่ตอนสมัยมีชีวิตอยู่ชอบเขียนหนังสือกามารมณ์ให้ในหนังสือมีท่าร่วมเพศแบบ 69 ซึ่งก็คือสองคนร่วมเพศกันแบบกลับหัวกลับหาง
    *มีหนึ่งในวิญญาณบาปเหล่านั้นใช้มือข้างเดียวยันพื้นเอาไว้อยู่ตลอดเวลา ดูท่าทางเขาเหนื่อยมาก เหนื่อยจนเหงื่อออกตัวสั่นเทา เมื่อไหร่ที่เขาหยุดก็จะมีนกยักษ์รีบบินลงมากินเขาทันที หลังจากนั้นก็กลับฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาใหม่รับการลงโทษซ้ำ นี่คือการลงโทษพวกที่สมัยมีชีวิตอยู่ชอบเขียนบรรยายขยายความให้เกิดจินตนาการในการร่วมเพศแบบแปลกๆที่ไม่ธรรมดา เช่น ร่วมเพศแบบซาดิสเฆี่ยนตีด้วยแส้ หรือ การหาสิ่งเร้าอื่นๆมากระตุ้นรสสวาท
    *มีหนึ่งในวิญญาณบาปเหล่านั้นหมุนตัวอยู่บนพื้นตลอดไม่หยุด เมื่อไหร่ที่เขาหยุดหมุนก็จะมีหมาป่าตัวใหญ่หลายตัวเข้ามาฉีกกินเนื้อเขาเป็นชิ้นๆ นี่คือผลกรรมของพวกที่สมัยมีชีวิตอยู่ชอบปรุงยากล่อมประสาทให้เคลิบเคลิ้มกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ
    *มีหนึ่งในวิญญาณบาปเหล่านั้นถูกลงโทษให้ยืนขาเดียวอยู่ตลอดเวลาและดูเหมือนกำลังทำท่าทางคล้ายกับการร่วมเพศ เมื่อไหร่ที่เขาหยุดก็จะมีนกเหล็กบินถลาพุ่งลงมาชนเขาตายในทันที หลังจากนั้นก็กลับฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาใหม่และรับการลงโทษซ้ำ นี่คือผลกรรมของพวกที่เขียนหนังสือลามก
    *มีหนึ่งในวิญญาณบาปเหล่านั้นกินยาอยู่ตลอดเวลาไม่หยุด เมื่อไหร่ที่หยุดก็จะอาเจียนออกมาอย่างรุนแรงจนเกือบจะตาย จากนั้นก็จะถูกบังคับให้กินต่อไป นี่คือผลกรรมของพวกที่ตอนมีชีวิตอยู่มุ่งทำการศึกษาค้นคว้าผลิตยาเพิ่มพลังทางเพศ ยากระตุ้นให้เกิดความต้องการทางเพศ
    *มีหนึ่งในวิญญาณบาปเหล่านั้นใช้มือถือคบไฟ ที่หัวคบไฟเป็นหลอดนีออน คบไฟนี้คือเครื่องมือทรมานนักโทษ วิญญาณบาปจะใช้คบไฟนี้เผาองคชาตของตัวเองจนไหม้เละ หลังจากนั้นก็จะฟื้นฟูกลับคืนสู่สภาพเดิม รับการลงโทษกลับไปกลับมาวนเวียนอยู่เช่นนี้ นี่คือผลกรรมตอบสนองของพวกที่ตอนมีชีวิตอยู่ชอบขายอุปกรณ์ของใช้ที่ช่วยสนองกามตัณหา อย่างเช่น ของเล่นทางเพศ( เซ็กซ์ทอย )
    *มีสองคนในหมู่วิญญาณบาปเหล่านั้นถืองูน้อยที่สามารถสั่นได้ไว้ที่ข้างๆองคชาตของพวกเขา งูน้อยนั้นสำเร็จโทษจนองคชาตของพวกเขาทั้งสองคนแหลกเหลวเละเทะ ทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส พวกเขาทั้งสองคนตอนสมัยที่มีชีวิตอยู่เป็นเจ้าของกิจการที่มุ่งขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเซ็กซ์โดยเฉพาะ
    *มีหนึ่งในวิญญาณบาปเหล่านั้นนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่เล็กมากแต่เก้านั้นมีทั้งความแหลมและความร้อน เขานั่งอยู่บนเก้าอี้และเขียนอะไรบางอย่างอยู่บนโต๊ะ ซึ่งโต๊ะนั้นเป็นโต๊ะที่ถูกเผาไหม้จนแดงฉานและยังสามารถพ่นไฟได้ด้วย ข้าพเจ้าลองรับคลื่นความคิดของเขาดู ที่แท้ในใจของเขากำลังคิดว่าจะเขียนหนังสือกามารมณ์อย่างไรดี เมื่อเขาต้องการจะเขียนออกมามือทั้งสองข้างของเขาก็ถูกเผาจนเป็นเถ้าถ่านทันที หลังจากนั้นก็กลับฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาใหม่ถูกลงโทษด้วยไฟซ้ำๆอยู่อย่างนี้ นี่คือผลกรรมของผู้ที่เขียนหนังสือกามารมณ์ทั้งหลาย
    *ที่นี่ยังมีวิญญาณชายหญิงอีกจำนวนหนึ่งที่กำลังมีความสุขอยู่กับหนังสือกามารมณ์( เพราะสาเหตุมาจากความเห็นผิด มีจิตที่คิดเพ้อฝัน ในสมองของพวกเขาเต็มไปด้วยกามตัณหา ดังนั้นจึงมองเห็นเป็นหนังสือกามารมณ์ แต่ข้าพเจ้ากลับมองเห็นเป็นกระดาษเปล่าๆ ) ที่นี่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ปริ้นเตอร์ขนาดใหญ่ยักษ์เครื่องหนึ่ง ตอนที่วิญญาณบาปต้องการจะปริ้นหรือพิมพ์หนังสือกามารมณ์ออกมา เจ้าเครื่องปริ้นเตอร์ขนาดใหญ่ยักษ์นี้ก็จะดูดพวกเขาเข้าไปข้างใน ทุกส่วนของร่างกายถูกเครื่องปริ้นเตอร์บดรีดจนกลายเป็นเนื้อบดเละๆที่ถูกบดจนละเอียด เลือดสาดกระเด็น แผดเสียงร้องอย่างบ้าคลั่ง นี่เป็นความทุกข์ที่ยิ่งกว่าความทุกข์ทรมานอันแสนสาหัส ไม่สามารถจะอธิบายหรือบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้เลยและเป็นสิ่งที่ยากจะทนรับได้ ใน ๑วันจะต้องรับการลงโทษเป็นพันครั้งหมื่นครั้ง ถึงตรงนี้ข้าพเจ้าก็ไม่สามารถที่จะทนมองต่อไปได้อีกแล้ว ตัวข้าพเจ้าเองรู้สึกว่าช่างทุกข์ยากลำบากเหลือเกิน นี่คือบาปกรรมอันใหญ่หลวงของพวกที่เมื่อสมัยมีชีวิตอยู่เคยถ่ายทำภาพยนตร์ลามก รวมทั้งพวกที่เป็นผู้สร้าง ผู้ผลิตซีดีลามก
    *ข้าพเจ้าสูดลมหายใจลึกๆ ๑ครั้งแล้วถามผู้พิพากษาว่า : “ วิญญาณบาปเหล่านี้ที่จริงแล้วจะต้องรับโทษยาวนานเท่าไหร่กันแน่ค่ะ ? ”
    *ผู้พิพากษาตอบว่า : “ พวกเขาจะต้องรับโทษยาวนานแค่ไหนนั้นเป็นเรื่องที่พูดยาก โดยพื้นฐานแล้วสามารถพูดได้ว่า ขอเพียงหนังสือกามารมณ์ที่พวกเขาเขียนและพิมพ์ออกมา ภาพยนตร์ลามกที่ถ่ายทำออกมา ซีดีลามก ยาเพิ่มพลังทางเพศและยาที่ช่วยกระตุ้นความต้องการทางเพศที่พวกเขาสร้างขึ้น ผลิตขึ้นเหล่านั้นได้สูญสิ้นหมดไปจากโลกมนุษย์ทั้งหมด พวกเขาจึงสามารถได้หลุดพ้นจากนรก ถึงแม้ว่าจะได้กลับไปเกิดเป็นมนุษย์อีกก็จะต้องเกิดเป็นคนชั้นต่ำที่เลวทรามต่ำช้า ส่วนระยะเวลาในการรับโทษที่แท้จริงนั้นยาวนานแค่ไหนมีเพียงความสามารถและสติปัญญาญาณของพระพุทธะโพธิสัตว์เท่านั้นที่สามารถตอบคำถามนี้ได้ นรกขุมนี้ปัจจุบันได้สร้างเพิ่มขึ้นมาใหม่หลายชั้นและยังได้เพิ่มการลงโทษเข้าไปอีกมากมายหลายชนิด เมื่อก่อนอาณาเขตพื้นที่ของที่นี่ก็ไม่ได้กว้างใหญ่ขนาดนี้ แต่เป็นเพราะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้น สื่อลามกและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับกามตัณหาจึงได้เพิ่มจำนวนขึ้นมาอย่างมากมายและรวดเร็วจนน่าตกตะลึง ร้านเซ็กซ์ช็อป(Sex Shop)บนโลกมนุษย์ก็เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก คนที่ละเมิดศีลและทำผิดบาปจะต้องถูกจับมาลงโทษในนรก ทุกข์อย่างสุดประมาณ อันที่จริงแล้วนรกก็คือเงาที่กลับหัวของโลกมนุษย์ โลกมนุษย์มีของอะไรใหม่ๆเกิดขึ้นมาใช้ละเมิดศีล นรกก็จะรีบสร้างของชนิดนั้นขึ้นมาเอาใจแฟนๆผู้ละเมิดศีลโดยทันที เวไนยที่ละเมิดความผิดบาปเมื่อสิ้นอายุขัยลงแล้วก็จะต้องมารับทุกข์ในนรกภูมินี้ ”
    *ข้าพเจ้าพูดว่า : “ การลงโทษที่ไม่มีระยะเวลาที่กำหนดเหล่านี้ งั้นก็ไม่เท่ากับว่านี่เป็นความทุกข์ทรมานที่เทียบเท่ากับนรกอเวจีอย่างนั้นหรือ ? ”
    *ผู้พิพากษาบอกว่า : “ ความทุกข์ของที่นี่เมื่อเทียบกับความทุกข์ในอเวจีมหานรกยังห่างไกลกันมากแบบไกลแสนไกล ! เพราะว่าหนังสือลามกรวมทั้งผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับกามตัณหาสามารถสร้างความหายนะและภัยพิบัติอย่างมากมายจนไม่อาจประมาณได้ให้กับเวไนยทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเว็บไซต์ลามกทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งแม้แต่เด็กน้อยไร้เดียงสาที่ไม่มีความผิดก็ต้องมาแปดเปื้อนสิ่งโสโครกเหล่านี้ กฎหมายนรกไม่สามารถที่จะทนอีกต่อไปได้และก็จะไม่นิรโทษให้อภัยต่อเรื่องเหล่านี้ เราจะบอกอะไรกับท่าน เมื่อครู่นี้ได้พูดถึงนักแสดงภาพยนตร์ลามก ถ้าหากนักแสดงเหล่านั้นถูกบีบบังคับให้แสดงภาพยนตร์ลามก ผลกรรมของพวกเขาก็จะเบาหน่อย คือรับโทษ ๑๐๐ปี แต่พวกเขาจะต้องรับประกันว่าจะไม่ละเมิดความผิดบาปอีกและจะต้องสำนึกขอขมาแก้ไขความผิดบาปเพิ่มขึ้นด้วย ถ้าหากมาแสดงภาพยนตร์ลามกเพราะต้องการเงิน แต่แสดงเพียงแค่เรื่องเดียวแล้วหลังจากนั้นก็ไม่ได้กลับมาแสดงอีก ก็ต้องรับโทษ ๑๐๐๐ปี แต่ถ้าหากนับจากนี้เป็นต้นไปนักแสดงคนนั้นได้กว้านซื้อซีดีลามกที่ตัวเองมีส่วนร่วมในการแสดงทั้งหมดมาเผาทำลายให้พินาศและยังมีความจริงใจในการสำนึกขอขมาแก้ไขความผิดบาป ก็จะสามารถลดโทษลงไปได้ ๕๐๐ปี ผู้กำกับการแสดงภาพยนตร์ลามกรวมทั้งผู้ผลิตและจัดจำหน่ายซีดีลามก เมื่อสิ้นอายุขัยลงจะต้องรับโทษในนรกขุมนี้ไปจนกว่าภาพยนตร์ลามกรวมทั้งซีดีลามกทั้งหมดจะสูญสิ้นหมดไปจากโลกมนุษย์ จึงสามารถพ้นออกไปจากนรกขุมนี้ได้ สำหรับพนักงานคนงานอื่นๆที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการถ่ายทำภาพยนตร์ลามกก็จะต้องมารับโทษในนรกขุมนี้ ๕หมื่นปี ไม่ว่าจะเป็นผู้เขียนหนังสือลามก พิมพ์หนังสือลามก ขายหนังสือกามารมณ์ เจ้าของ นายทุน ผู้สร้าง ผู้ผลิต นักแสดง ผู้กำกับ รวมทั้งพนักงานคนงานทั้งมดที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการถ่ายทำภาพยนตร์ลามก ซีดีลามก ทั้งหมดนี้จะถูกลดบุญวาสนาและอายุขัยเท่ากันคือ หนังสือกามารมณ์หรือภาพยนตร์ลามก ๑เรื่อง ถูกลดบุญวาสนาและอายุขัยลง ๑ปี ”
    *ข้าพเจ้าถามผู้พิพากษาต่อไปว่า : “ ถ้าหากว่าก่อตั้งเว็บไซต์เปิดขายซีดีลามก หรือบางทีอาจจะเปิดเป็นเว็บไซต์ให้คนเข้าไปดาวน์โหลดทั้งให้ดาวน์โหลดฟรีและเสียเงิน ผลกรรมตอบสนองจะเป็นเช่นไร ? ”
    *ผู้พิพากษาพูดว่า : “ ใช้หลักกฎเกณฑ์เดียวกัน คนเหล่านั้นจะต้องตกนรกจนกว่าซีดีลามกที่ตัวเองขายจะสูญสิ้นหมดไปจากโลกมนุษย์ตลอดกาล และเว็บไซต์ลามกที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก็จะต้องปิดตัวลงหรือปิดกิจการลงทั้งหมดจนไม่มีเหลือ จึงสามารถพ้นจากผลกรรมในนรกได้ ท่านกลับไปจะต้องไปเตือนทุกคนให้รักษากฎหมาย ปฏิบัติตามจารีตประเพณี รักษาศีลวินัยให้ดีๆจะได้ไม่ต้องถูกสวรรค์ลงโทษ สำหรับวันนี้ก็พอแค่นี้ก่อน ท่านขึ้นดอกบัวกลับไปก่อนเถอะ วันหลังค่อยมาใหม่ ”
    *ข้าพเจ้าขออธิบายให้ท่านผู้อ่านทุกท่านเข้าใจนะค่ะว่าข้าพเจ้าไปเยือนนรกและสำรวจสภาพในนรก คือ จิตญาณของข้าพเจ้าอยู่ในสภาพที่ตื่นแจ้ง สมองปลอดโปร่ง ทำให้เข้าใจอะไรได้กระจ่าง บวกกับอาศัยพุทธานุภาพของพระพุทธะโพธิสัตว์เข้าสู่นรก ไม่ได้ไปในความฝันและก็ไม่ได้ใช้การประทับทรงประคองไม้เขียนบนกระบะทรายแบบชาววิถีอนุตตรธรรม ตัวข้าพเจ้าเองนับถือศาสนาพุทธยึดพระรัตนตรัยเป็นสรณะ กินเจและรักษาศีล ๕ มาอย่างยาวนาน ข้าพเจ้าชื่อ ซั่งกวนอวี้ฮว๋า และทุกคำที่ข้าพเจ้ากล่าวมาข้างต้นล้วนเป็นความจริงทุกคำ ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลทั้งปวงให้เวไนยทั้งหมดได้สำเร็จพุทธมรรคถ้วนหน้ากัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...