เสียงธรรม นอกคัมภีร์แต่ไม่นอกธรรม

ในห้อง 'ธรรมเพื่อความหลุดพ้น' ตั้งกระทู้โดย J.Sayamol, 23 มีนาคม 2011.

  1. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    [​IMG]

    ภาวนาเจริญแล้วเสื่อมๆ มันเป็นยังไง หาเหตุหาผลของมัน ก็มาข้องใจที่คำบริกรรม ไม่มีคำบริกรรมจ่อติดจิต สติเผลอได้ๆ เจริญขึ้นไปๆ พอถึงที่มันเคยอยู่และเคยเสื่อมมันก็เสื่อม อยู่ได้สองคืนหรือสามคืนเสื่อม เสื่อมต่อหน้าต่อตา จึงได้พิจารณาทดสอบหาเหตุหาผล มันจะเป็นเพราะขาดคำบริกรรมนี้กระมัง ถึงสติจ่อ สติก็อาจเผลอได้ ถ้ามีคำบริกรรมมัดติด สติมัดเข้าไปอีกแล้วอาจจะไม่เสื่อม นี่ละมาข้องใจจุดนี้ มาเอาจุดนี้ ที่ว่า เอา ลงใจ จะเอาคำบริกรรมกับสติติดกัน จะไม่ยอมให้เผลอเลย มันจะเสื่อมได้เหรอ เอาตรงนี้

    แต่นิสัยเรามันจริงจังมาก ถ้าว่าลงจุดไหนลงจริงๆ เอาจริงเอาจังจนเห็นเหตุเห็นผลถึงจะปล่อย อันนี้ก็มาเอาที่ว่าคำบริกรรมกับพุทโธติดกันเลย ใส่เข้าไปๆ จึงได้เห็นฤทธิ์ของกิเลสที่มันหนุนออกมา มันอยากคิดอยากปรุงมีแต่เรื่องของกิเลส ที่คำบริกรรมกับสติปิดช่องมันออกมาปิดไว้เลย ปิดด้วยพุทโธ ปิดด้วยสติ ไม่ให้มันออก มันดันนี่ โถ เหมือนอกจะแตก ถึงได้รู้เรื่องกันว่ากิเลสรุนแรงมาก เมื่อมันไม่ได้ออกตามความต้องการของมัน บังคับไว้จนอกจะแตก ไม่ยอมถอยกันคือไม่ยอมให้เผลอ ไม่ยอมให้คิด เพราะฉะนั้นจึงกล้าพูดว่า ถ้ามีสติอยู่กิเลสจะมากน้อยเพียงไรออกไม่ได้ ออกไม่ได้จริงๆ จนอกจะแตก ออกไม่ได้สติบังคับไว้ สติจึงเป็นเรื่องใหญ่โตมากทีเดียว

    ดังพระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ว่า สติ สพฺพตฺถ ปตฺถิยา สติจำต้องปรารถนาในที่ทั้งปวงไม่มีเว้นที่สติจะไม่เกี่ยวข้อง นั่นเห็นไหมล่ะ พอสติจับคำบริกรรมจับเข้าไม่ให้ออก เราไม่ได้ลืมนะ ทำอะไรมันทำจริงทำจังถึงใจ ถ้าได้ถึงใจไม่ลืม เอาตรงนั้น ทีนี้พอเจริญขึ้นขึ้นเรื่อยที่นี่ ไม่เสื่อม นั่นเห็นไหม นี่ก็คือความไม่ขาดสติเลยไม่เสื่อม พอถึงขั้นขึ้นไปแล้วมันเคยเสื่อม เอ้า เสื่อม ปล่อยเลย เรื่องความเสื่อมนี่เราเสียดายอาลัยอาวรณ์กับมันจนอกจะแตกแล้ว ทีนี้ปล่อยเลย แต่พุทโธคำบริกรรมกับสตินี้จะไม่ปล่อย ให้มัดอยู่ในใจเลย ใจได้รับอารักขาดีก็เจริญ นั่นเป็นอย่างนั้น

    นี่ทำแล้วที่มาสอน จึงแน่ใจคำสอนนี้ไม่ผิด ผ่านมาแล้วทั้งนั้นๆ บวกลบคูณหารมาหมดทุกอย่าง อะไรใช้ได้เป็นประโยชน์ถูกต้องๆ แล้วนำมาสอน อะไรผิดก็บอกเพราะเราผิดมาก่อนแล้ว แน่ะเป็นอย่างนั้นจิตจึงได้ตั้งขึ้นได้ด้วยสติไม่ให้เผลอ ขึ้นได้ ขึ้นถึงขั้นมันจะเสื่อม มันรู้นี่ขึ้นไปถึงนั้นแล้วเสื่อม พอถึงนั้นแล้วเปิดทาง เอ้าๆ เสื่อม แต่พุทโธคำบริกรรมกับสตินี้ไม่ปล่อย เอ้า เสื่อมไปไหนเสื่อม ไม่เสื่อม เห็นไหมล่ะ ขึ้นเรื่อยเลย จากนั้นก็เตลิด ไม่มีเสื่อมอีกเลย ก็เป็นคติอันหนึ่งที่นำมาสอนบรรดาลูกศิษย์ลูกหา ผ่านมาแล้วทั้งนั้น

    แต่สำคัญให้มีความจริงใจ แน่ใจตรงไหนแล้วเด็ดขาดลงไปเลย อย่าเหลาะๆ แหละๆ ถ้าเหลาะๆ แหละๆ ใช้ไม่ได้ทั้งนั้น ถ้าจริงจังแล้วใช้ได้ นี่ว่าอะไรเป็นอย่างนั้น ถ้าลงใจตรงไหนแล้ว เอาละเอาตรงนี้นะ ใส่ปั๊วะเลย พุ่งเลย การภาวนานี่ของง่ายเมื่อไร กิเลสมันผาดโผนโจนทะยานมาก เวลาธรรมเข้าไปต้านทานกันจึงรู้ว่ากิเลสผาดโผนมาก ปล่อยให้มันไหลอยู่เรื่อยๆ มันก็ไปตามเรื่องของมัน ไม่มีอะไรคัดค้านต้านทานมันก็ไหลของมันไปเรื่อยต่ำลงเรื่อย สุดท้ายคนทั้งคนหาค่าหาราคาไม่ได้เลย ทีนี้พอสกัดลัดกั้น มีการต้านทานกันรบกัน ทีนี้ก็มีแพ้มีชนะขึ้นมา

    เบื้องต้นนี่สำคัญ จิตตั้งเบื้องต้นล้มลุกคลุกคลานๆ เพราะสติไม่ดีไม่ใช่อะไร พลังของกิเลสมันรุนแรง กระแสของกิเลสใส่ทีเดียวล้มผล็อย สติตั้งปั๊บล้มพร้อมเลย ตั้งเพื่อล้มไม่ได้ตั้งเพื่ออยู่ เวลาเข้มงวดกวดขันสติเข้าให้ดีแล้ว ทีนี้บังคับไม่ให้เผลอเลย แต่การบังคับของเราจะมีแต่บังคับอย่างนี้ไม่พอ ต้องสังเกตดูสิ่งแวดล้อม สิ่งเกี่ยวข้อง ก็มาลงที่ฉันมากฉันน้อย สติมาลงจุดนี้ ถ้าฉันมากตั้งเท่าไรตั้งเถอะล้มทั้งนั้น นั่นเอาแล้วนะ ฉันมากตั้งสติไม่ได้เลย ผ่อนลงๆ สติค่อยดีๆ อดสติตั้งแน่ว จับได้ นั่น เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วก็ต้องมีอดมีอิ่มกันไป ถ้าอดเสียทีเดียวมันก็ตาย ถ้ามีแต่อิ่มก็สติไม่มีเหลือ ก็มีแต่หมูขึ้นเขียงๆ มันต้องแบ่งกัน มันขึ้นเขียงก็ปัดมันลงบ้าง ขึ้นบ้างปัดลงบ้าง สุดท้ายไม่ให้ขึ้น หมูขึ้นเขียง เข้าใจไหม ต้องสังเกต

    ที่ว่ามานี้ทำมาแล้วทั้งนั้น เพราะความมุ่งหวังอย่างแรงกล้ามันรุนแรงจริงๆ คือฟังธรรมของพ่อแม่ครูจารย์มั่นถึงเรื่องมรรคผลนิพพาน ท่านก็ใส่เปรี้ยงๆ เหมือนท่านกางเรดาร์นั่นแหละไว้ พอไปท่านเปรี้ยงเลย ท่านมาหาอะไร ท่านมาหามรรคผลนิพพานเหรอ ต้นไม้ภูเขาดินฟ้าอากาศไม่ใช่มรรคผลนิพพาน ไม่ใช่ธรรม ไม่ใช่กิเลส กิเลสก็ไม่ใช่ ธรรมก็ไม่ใช่ ธรรมแท้ กิเลสแท้ อยู่ที่ใจ เกิดที่ใจ จะแก้มันวิธีไหน เอาด้วยจิตตภาวนา นั่นเห็นไหม อย่างอื่นแก้ไม่ได้แก้ไม่ตก มีจิตตภาวนาจะแก้กิเลสได้ เอาลงจุดนี้ ทีนี้มันก็ลงใจ มรรคผลนิพพานอยู่ที่นี่ ถูกปิดถูกบังไว้หมดด้วยกิเลสทั้งหลาย เอา เปิดออกด้วยจิตตภาวนา มันจะจ้าขึ้นมาที่นี่แหละ เราไม่ลืมนะเพราะตั้งใจไปศึกษาจริงๆ ท่านว่าอะไรตั้งใจศึกษา จับทุกแง่ทุกมุม

    เอาจริงอย่างนั้น เมื่อลงใจแล้วก็ทุ่มเลยๆ เพราะฉะนั้นอะไรที่ไม่ลงใจจึงต้องได้ถกได้เถียงกับท่าน บรรดาลูกศิษย์ลูกหาที่ถกเถียงกับท่านเป็นเวทีแชมเปี้ยนก็คือเรากับพ่อแม่ครูจารย์มั่น ไม่มีครูบาอาจารย์องค์ใดบรรดาที่เป็นลูกศิษย์มา จะโต้กันขนาดนักมวยแชมเปี้ยนเหมือนเรากับพ่อแม่ครูจารย์มั่น คือหาความจริง ไม่ได้มีคำว่าแพ้ว่าชนะ ไม่มี ก็ไปมอบกายถวายตัวต่อท่านแล้ว ทีนี้ขัดตรงไหนก็เอากันแหละเพื่อให้ลงใจ ถ้าลงใจแล้วลงอย่างนั้นเรา ถ้าไม่ลงใจมันคาราคาซังไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ถ้าลงใจตรงไหนแล้วทุ่มเลยๆ นี่ละที่ว่าถกเถียงกันหาความลงใจ พอลงใจแล้วก็ทุ่มเลยอย่างว่านั่นละ ทุ่มเลยมันก็ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • a14-7-49.wma
      ขนาดไฟล์:
      6.5 MB
      เปิดดู:
      1,123
  2. AddWassana

    AddWassana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    11,698
    ค่าพลัง:
    +21,186
    [​IMG]
     
  3. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    *
    [​IMG]

    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O[​IMG]
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O[​IMG]
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
    www.tangnipparn.com
    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p>ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา </O:p>
    *
    [​IMG]
     
  4. anoldman

    anoldman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +4,559
    สาธุๆ



    ลูกหลานขอกราบพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่เคารพ ขอรับ __^/|\^__
     
  5. wutlions

    wutlions เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    793
    ค่าพลัง:
    +1,384
    อนุโมทนาครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...