นักวิจัย JGSEE "มจธ." ชี้"สตอร์ม เซิร์จ"ในอ่าวไทยรูปตัว ก เป็นไปได้น้อยมาก

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 24 สิงหาคม 2008.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,488
    นักวิจัย JGSEE "มจธ." ชี้"สตอร์ม เซิร์จ"ในอ่าวไทยรูปตัว ก เป็นไปได้น้อยมาก

    โดย บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (JGSEE)



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    ภาพจำลองการยกตัวของพายุ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>จากกระแสข่าวเรื่องการเกิดสตอร์ม เซิร์จ (Storm surge) หรือคลื่นซัดฝั่งอันเนื่องมาจากพายุไต้ฝุ่นเขตร้อน ที่บริเวณอ่าวไทยรูปตัว ก จนทำให้ประชาชนในพื้นที่บริเวณดังกล่าวเกิดความตื่นตระหนกนั้น

    แต่จากการศึกษาข้อมูลงานวิจัยการพยากรณ์แนวทางเดินและความแรงของพายุในเขตร้อน ร่วมกับแบบจำลองสมุทรศาสตร์ในอ่าวไทย โดยทีมวิจัยด้านแบบจำลองสภาพภูมิอากาศ จากบัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (JGSEE) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) พบว่า การเกิด "สตอร์ม เซิร์จ" ในบริเวณอ่าวไทยรูปตัว ก จนส่งผลกระทบต่อพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม มีความเป็นไปได้น้อยมาก

    รศ.ดร.ปรุงจันทร์ วงศ์วิเศษ อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (JGSEE) มจธ. กล่าวว่า การเกิดพายุไต้ฝุ่นซึ่งมีความเร็วลมมากกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะมีผลต่อการยกตัวขึ้นของระดับน้ำ (ระดับน้ำหนุนสูง) ประกอบกับคลื่นที่สูงขึ้นจากแรงลม ทำให้คลื่นเคลื่อนที่เข้ากระทบฝั่งที่ความสูงมากกว่าระดับน้ำทะเลปกติมาก ซึ่งเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า "สตอร์ม เซิร์จ" แต่จากการวิจัยแบบจำลองการพยากรณ์แนวทางเดินของพายุหมุนเขตร้อนที่เกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิก และส่งผลกระทบต่อประเทศไทยตลอดระยะเวลากว่า 40 ปีที่ผ่านมา พบพายุไต้ฝุ่นเพียง 2 ลูกเท่านั้นที่ผ่านเข้ามาในบริเวณอ่าวไทย คือ พายุไต้ฝุ่นเกย์และพายุไต้ฝุ่นลินดา ซึ่งทั้งสองครั้งเส้นทางเดินของไต้ฝุ่นจะผ่านบริเวณจังหวัดชุมพรและประจวบคีรีขันธ์ ดังนั้น การเกิดพายุไต้ฝุ่นในอ่าวไทยรูปตัว ก แทบไม่มีความเป็นไปได้ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    พายุไต้ฝุ่น

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    "บริเวณอ่าวไทยตอนบนนั้นมีลักษณะทางกายภาพที่ค่อนข้างแคบ (รูปตัว ก) และขัดกับเส้นทางพัดของลม ทำให้ช่วยลดความเร็วลมของพายุลง พายุที่เข้ามาถึงอ่าวไทยจึงไม่รุนแรงและมีลักษณะเป็นเพียงพายุดีเปรสชั่นเท่านั้น เช่นเดียวกับพายุไต้ฝุ่นมุ่ยฟ้าที่พัดถล่มประเทศอินโดนีเซียเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2547 แต่กลับอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นเมื่อเคลื่อนเข้าสู่อ่าวไทยตอนบน อย่างไรก็ดี หากลมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรงพัดเข้าปะทะกับกระแสน้ำจากทะเลจีนใต้ที่มีอิทธิพลจากลมตะวันออกเฉียงเหนือที่มีกำลังแรง อาจทำให้เกิดพายุในอ่าวไทยตอนบนได้ แต่เนื่องจากลมตะวันตกเฉียงใต้มักจะอ่อนกำลังลงในช่วงปลายเดือนกันยายน และลมตะวันออกเฉียงเหนือจะเริ่มมีกำลังแรงขึ้นในช่วงต้นเดือนตุลาคม จึงมีความเป็นไปได้น้อยมากที่ลมจากทั้งสองทิศจะมีอิทธิพลรุนแรงขึ้นพร้อมกันจนสามารถทำให้เกิดพายุไต้ฝุ่น และสตอร์ม เซิร์จ ขึ้นได้" รศ.ดร.ปรุงจันทร์กล่าว <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    (บน) เส้นทางพายุเกย์ (ล่าง) เส้นทางพายุลินดา

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ด้าน ดร.นิติมา อัจฉริยะโพธา อาจารย์ประจำภาควิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มจธ. และนักวิจัย JGSEE ผู้ศึกษาแบบจำลองสมุทรศาสตร์ในอ่าวไทย กล่าวสำทับว่า แม้ในอดีตพายุไต้ฝุ่นเกย์และลินดาจะทำให้เกิด "สตอร์ม เซิร์จ" ที่มีความรุนแรง และสร้างความเสียหายอย่างมหาศาลให้กับชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง แต่ในปัจจุบันมีการพัฒนาแบบจำลองที่สามารถพยากรณ์เส้นทางเดินของพายุไต้ฝุ่น ตำแหน่งคลื่นขึ้นกระทบฝั่ง และความสูงของคลื่นที่จะกระทบฝั่งได้อย่างแม่นยำ โดยหากมีการก่อตัวของพายุดีเปรสชั่นขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิก กรมอุตุนิยมวิทยาจะมีการรายงานข้อมูลการเกิดพายุ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เมื่อนำมาใช้คำนวณกับแบบจำลองการพยากรณ์แนวทางเดินของพายุไต้ฝุ่นจะสามารถทำนายเส้นทางของพายุไต้ฝุ่น และหากเส้นทางพายุไต้ฝุ่นใกล้เข้าสู่ประเทศไทย แบบจำลองสมุทรศาสตร์ในอ่าวไทยจะสามารถทำนายบริเวณที่คลื่นซัดฝั่ง หรือ "สตอร์ม เซิร์จ" ได้ โดยใช้ข้อมูลกระแสลมพายุ ข้อมูลอุณหภูมิ และความเค็มของน้ำทะเลในระดับความลึกต่างๆ อีกทั้งยังสามารถทำนายความสูงของน้ำทะเลที่เกิดจากการยกตัวของน้ำจากระดับปกติ และความแรงของคลื่นที่ซัดชายฝั่งได้ด้วย

    ทั้งนี้ การพยากรณ์เส้นทางเคลื่อนที่ไต้ฝุ่นจะสามารถบอกทิศทางล่วงหน้าได้ 2-3 วัน แต่จะแม่นยำที่สุดภายในเวลา 24 ชั่วโมง และจำเป็นต้องใส่ข้อมูลใหม่ทุกๆ ชั่วโมง เพื่อให้ทราบว่าไต้ฝุ่นจะเคลื่อนที่ไปทิศทางใด ขณะที่การพยากรณ์การเกิด "สตอร์ม เซิร์จ" จะพยากรณ์เมื่อทราบเส้นทางเคลื่อนที่ของไต้ฝุ่น และจะแม่นยำที่สุดภายในเวลา 24 ชั่วโมงเช่นกัน ซึ่งมีเวลาเพียงพอต่อการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย และจะช่วยลดความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ทันท่วงที

    ===========
    [​IMG]
    http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01edu01240851&sectionid=0107&day=2008-08-24
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. ดาราจักร

    ดาราจักร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,707
    ค่าพลัง:
    +10,091
    โอกาสน้อย ไม่ได้หมายความว่า ความเป็นไปได้เป็นศูนย์นะครับ

    เพราะฉะนั้น เราต้องไม่ประมาท เพราะคิดว่า เรามีเหตุผลพอแล้วครับ

    อนุโมทนาครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...