นั่งสมาธิตอนกลางคืนแล้วกลัว

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 16 กรกฎาคม 2013.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]


    ผู้ถาม:-“เวลานั่งปฏิบัติกรรมฐานตอนกลางคืนนะคะ นั่งไปก็มีความกลัว ไม่ทราบว่าจะแก้ไขอย่างไรคะ…?”

    หลวงพ่อ:- “เราก็บอก ฉันไม่กลัว ๆ ๆ ๆ ๆ”

    ผู้ถาม:- (หัวเราะ)

    หลวงพ่อ:- “เอา ยังงี้หนู ไอ้เรื่องกลัวนี่เป็นของธรรมดา แต่ก็ต้องระวังนะ มันกลัวมากจริง ๆ เราต้องเลิกเสียก่อนนะ ถ้าประสาทหวั่นไหวมาก มันเสียผลเหมือนกัน วิธีจะให้กลัวน้อย ต้องให้มีคนอยู่ใกล้ ๆ อย่าไปฝืนอยู่นะ รีบเลิกเสีย แล้วก็นอนภาวนาให้หลับไปเลย แค่นี้พอ”

    ผู้ถาม:-“นอนภาวนาได้หรือคะ…?”

    หลวงพ่อ:-“ได้…..ถ้า ภาวนาให้หลับไปนี่ได้กำไร ถ้าเราภาวนาอยู่ ถ้าจิตเข้าไม่ถึงฌาน มันจะไม่หลับ พอจิตเข้าถึงฌานปั๊บ มันจะตัดหลับทันที นอนหลับภาวนาสัก ๑ ชั่วโมง มันจะมีความชุ่มชื่นดีกว่านอนหลับไม่ภาวนาหลายชั่วโมง และในช่วงแห่งการหลับ เราถือว่าหลับอยู่ในสมาธิตลอดเวลา เวลาตื่นขึ้นมาจิตจะสบาย
    เวลาที่เราหลับอยู่ในฌาน เราจะสังเกตได้ว่า ถ้าเราตื่นขึ้นมารู้สึกเต็มที่แล้ว นอนอยู่แบบนั้น ต้องบังคับให้มันภาวนา อย่างนี้แสดงว่าขณะหลับเราเข้าถึงฌานหยาบ

    หากพอตื่นขึ้นมา มีความรู้สึกตัวเต็มที่ แล้วมันภาวนาเองแสดงว่า เมื่อหลับเราเข้าถึงฌานอย่างกลาง
    ถ้ารู้สึกตัวครึ่งหลับครึ่งตื่น มันภาวนาของมันเอง แสดงว่าตอนที่หลับเราเข้าถึงฌานละเอียด
    ฉะนั้นการนอน ภาวนาให้หลับไปเลย ควรใช้ให้เป็นปกติ การนอนภาวนานี่ถ้ามันจะหลับ อย่าไปดึงมันไว้นะ ถ้าภาวนาถึง “พุท” ไม่ทัน “โธ” มันจะหลับ ปล่อยเลย เพราะการเข้าฌานเราต้องเข้าให้เร็วที่สุด ไม่ต้องการภาวนานาน”

    ผู้ถาม:- “หลวงพ่อคะ เวลานั่งสมาธิ แล้วมีความรู้สึกว่ามีเสียงมากระทบ ทำให้รู้สึกวูบไป”

    หลวงพ่อ:- “ตกใจไหม…?”

    ผู้ถาม:- “ก็ไม่เชิงตกใจค่ะ”

    หลวงพ่อ:- “ฉันก็เคยเจอะเหมือนกัน แต่นั่นถือเป็นเรื่องธรรมดานะ มันซู่มันซ่าก็ช่างมันปะไร”

    ผู้ถาม:- “แล้วจะเป็นอะไรไหมคะ…?”

    หลวงพ่อ:- “ไม่ เป็นไรหรอก เวลาจะนั่งกรรมฐาน ต้องคิดไว้เสมอไว้ จะเป็นผีเป็นเทวดานี่เขาเข้าถึงตัวเราไม่ได้ วัดจากตัวเราไปได้ ๑ วารอบ ๆ อย่างเก่งก็มีฤทธิ์ได้แค่นั้น แต่ว่าจิตอยู่ในเกณฑ์ของสมาธิมากหรือน้อยก็ตาม ถ้าเราสมาทานแล้ว คำว่าผีจริง ๆ เข้ามาไม่ได้เลย ที่จะเข้าใกล้เราได้มีพวกเทวดาเท่านั้น นี่จำไว้เลย ถ้าเห็นภาพปรากฏ เป็นคน เป็นอะไรก็ตาม เป็นเทวดาทั้งหมด ผีต่าง ๆ ไม่มีสิทธิ์จะเข้ามา แต่ว่าถ้าเจริญกรรมฐาน จิตจะเริ่มเข้าถึงปีติ อันนี้ท้าวมหาราชจะส่งเทวดาเข้าคุมทุกคนนะ ปีตินั้นคือ จิตใจของเรามีความแน่วแน่หรือว่าเราต้องการ เวลาเจริญพระกรรมฐานนี่นะ การทำสมาธิจิตจะแบบไหนก็ตาม ถ้าเรามีความชอบใจ อันนี้เป็นปีติ ตั้งแต่ระยะนี้เป็นต้นไป ท้าวมหาราชจะส่งคนมาคุม กันผีเข้ามารบกวน

    แต่ว่าพวกผีหรือที่เรียกว่าอมนุษย์ ถ้าจะมาทำร้ายเราล่ะ เขาเข้าไม่ได้เลย แต่ว่าถ้าบังเอิญเขาเห็น เรานั่งไปเราก็เห็น ว่ามีคนสักคนหนึ่งลากคอคนหรือรัดมือรัดเท้าลากไป อย่าไปห้ามนะถ้าหากมาเป็นศัตรู เขาก็จัดการทันที
    ถ้ามันจะมาขอส่วน บุญ ถ้าเข้ามาใกล้ แค่มายืนได้แค่วากว่า ๆ ถ้าเราสงสัย เราเห็นเข้า ก็อุทิศส่วนกุศลให้แก รูปร่างหน้าตาแจ่มใส แกก็ไป ไม่มีอะไร ไม่ต้องกลัว”



    จากหนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม 2 หน้า 52-55
     

แชร์หน้านี้

Loading...