นั่งสมาธิแล้วมีอาการคลื่นใส้

สำหรับ เจ้าของกระทู้

ให้ ศึกษา สิ่งที่เรียกว่า "เวทนา"

เวทนา นี้ไม่ใช่เรื่อง เจ็บ ปวด

แต่หมายเอา รส การเข้าไป ปัก ยึด ติด แนบ แน่น

เวทนา หากเอาไป ปักกับ "นามธรรม( สิ่งใดๆที่
ปรากฏ เพียงชั่วคราว ไม่ได้ ตั้งขึ้นถาวร)" มันจะ
ทำให้ ขยายได้ เหมือน การขยายเสียง

เช่น เรารับรู้ได้ว่า เส้นเลือดในระบบรากฟันมันเต้น
แล้ว ไปเพ่ง เวทนาใส่ จากการ เต้นตุบๆของเส้น
เลือด ซึ่งมีโดยปรกติ สักพัก จะเกิดอาการ ปวดฟัน
อย่างรุนแรง แต่พอเลิกใส่ใจ เพลินกับอะไรสักอย่าง
อาการ ปวดฟันก็ไม่มี และ ก็ไม่ได้ ฝันผุ อะไรด้วย

เวทนา มันจะมี กิจ หน้าที่ ได้แบบนี้

ส่วน ไส้มันเคลื่อน นี่ มันต้องเคลื่อน ต้องคลื่นของ
มัน หากไส้ไม่เคลื่อน ไม่เป็นคลื่น การลำเลียงกาก
อาหารก็จะไม่เกิด ลำไส้อุดตัน

แต่.....

ทั้งนี้ทั้งนั้น ชี้ได้ว่า จิต เข้ามารู้ที่ ฐานจิตแล้ว
( กาย เวทนา จิต ธรรม )

ไม่ส่งออกไปรู้ นอกกายหนา คืบ กว้างศอก
เป็นใช้ได้

ให้เพียร ภาวนา ไปอีกหน่อย

ทำความเข้าใจเวทนา แล้ว อย่าไป ดำริว่า
จะปล่อย จะบังคับ เวทนาให้ปัก หรือ ไม่ปัก

มันเป็นยังไง ก็ให้รู้ไปตามนั้น

พอเกิด อนัตตาสัญญา แล้ว เวทนาจะหลุด
ออกไปเอง ( แต่ไม่ได้แปลว่า การคลื่นไส้
การปวดฟันที่จะโดนขยาย จะหายไปด้วย
ไม่จำเป็น เสมอไป ....เพียงแต่ ทิฏฐิความ
เห็นผิด จะถูกล้าง เกิดความ สงัด รำงับ
ไม่ใช่ สงบ จิตเด่นดวง อะไรแบบ ฌาณฤาษี)

 

คุณทำอะไรชอบเอากรรมนำพา นำหน้าเหรอ
ทำไมกรรมมันส่งผลสำหรับคนอ่อนแอเท่านั้นนะ คุณไร้

 

คุณตอบได้น่าฟังมากค่ะ
ขอบคุณค่ะ

 

เราไป กะเกณฑ์ อะไรไม่ได้ ฮับ

ได้แต่ กล่าวไปตามวาระ

ส่วน เขาจะเลิก หรือ ไม่เลิก อันนี้อย่าไป กะเกณฑ์

การเข้าไป กะเกณฑ์ ตัวนี้ นี่แหละ

ที่ทำให้ เห็น คลื่นไส้แล้วแทนที่จะ พินา ลงธรรม

กลับผลิกไป ชอบใจ/ไม่ชอบใจ/แกล้งวางทำเฉย

 

อาการคลื่นใส้มันจะเป็นช่วงที่ทำสมาธิพอมันจะเริ่มจมดิ่งอาการมันมาเลย
แล้วก็มีอาการสั่นๆ ของร่างกายค่ะ
เลิกทำก็ไม่หาย สักพักจะดีขึ้น พอจะเริ่มทำสมาธิอาการเต้นของใจมันจะโครมครามก่อนเลย
จนกลัวการนั่งสมาธิ แต่ก็ทำค่ะ การเจริญสติก็ทำอันนี้ดีมากใจมันสงบ
แต่ก็อยากทำสมถะด้วย ค่อนข้างเป็นคนโลภ นะค

 

รู้ได้เพราะอาจเป็นคู่กัดมาแต่ชาติปางก่อนครับ ถ้าเป็นคู่กัดมาแต่ชาติปางก่อนจะเดาแม่นเป็นผิเสดครับ

((ทำไมรังษีอัมมะหืดดูคุ้นๆฟระ (นึกว่าเป็นสาวน้อยกุลสตรีคนนั้นซะอีก..))

 

ได้ค่ะ แต่ตั้งใจเข้ามาหาความรู้ค่ะ
จึงไม่ต้องไปยอม และวางเฉยกับคนที่ไม่มีมารยาท
ปกติจะอยู่พันทิป อยากลองเปลี่ยนบรรยากาศดีบ้าง

 

อาการ ปิติ จาก สมถะ นั้นมีหลากหลาย

การคลื่นไส้ บางที ก็เป็น ปิติ แบบคลื่นซัดฝั่ง

ถ้าไม่กำหนดรู้ว่าเป็น ปิติ อันเกิดจาก เหตุ
เรามีความสามารถที่จะ วิตก วิจาร เป็นเอกัคคตา

แล้วไปเผลอ เห็น พวก สมถะเปิดโลก เราก็จะ
อุปทานหมู่ โดนเขาหลอกว่า แก้กรรม กรรมเวร
ส่งผล แล้วก็ เมากรรมฐานเปิดโลกแก้กรรม
เพ่งเวทนา เน้นความดับมืด ผ่าน อาการสลบไสล

สุดท้าย รถคว่ำ คอหัก อ้างว่าไม่ตาย เป็นอรหันต์
สอนธรรม แต่รายวันมีแต่ เรี่ยราย เงิน ทอง
สร้อย ทรัพย์ พรหมหนังสัตว์ ไปวันๆ จากญาติโยม

นะ

ให้เน้นว่า เรา ทำเหตุอะไร คือ เราภาวนา แล้ว
มีสิ่งใดเป็น "เครื่องผูกจิต" แล้ว เราทำได้
เราอยู่กับมันได้ เคล้าเคลีย ไม่วอกแวกไป
อารมณ์อื่นเลย นอกจาก เครื่องผูกจิต

อะไรแบบนี้ อาการแปลกๆ จะเป็น ปิติ ทั้งสิ้น

หากเรารู้ชัดว่าเกิดจาก เหตุ เราประกอบเอง

เราจะไม่ ตกใจ กับสิ่งที่เป็น สามัญผล ที่
มันต้องเกิด

เหมือนเรา จุดไฟเอง แล้ว มันร้อน เราจะไม่
ตกใจว่า ร้อนนี้ เป็น เวรกรรมเก่า ต้องแก้
อย่างงั้น อย่างงี้ อย่าให้ พวก กรรมฐานตบซับ
มาหลอก สัทธา ไปกับ เครื่องราง ขลองขลังใดๆ

พอเรา รู้ชัดในเหตุ

พอเหตุ ดับ ( เลิกทำ สมถะ มันก็ หายไป
แบบ ไม่มีเหลือ )

ตามเห็น ความดับของปิติ(อันเกิดจาก เหตุ
ได้แบบนี้) จิตจะเลื่อนขั้นไปสู่ ฌาณที่สูงๆขึ้น
ไปตามลำดับ ด้วย สามัญผล คือ ความเป็น
ไปเอง มีความมันคงทางสัมมาทิฏฐิร้อยเรียงนำพา

ไม่ใช่ ดำริ จะเข้าฌาณ นั้น ฌาณ นี้
เพื่อแสดงอิทธิฤทธิ์อย่างงั้นอย่างงี้
ต่อหน้าต่อใครต่อใคร

พอ อุปกิเลส อุปทาน ตัณหา แทรกไม่ได้

จิตจะนุ่มนวล ควรแก่การงาน ก็น้อมจิต
ไปใน ญาณทัสนะ

ปิติใด พาเหาะได้ ก็ เหาะ ....

ว่ากันไป

แล้วตามเห็นว่า หากเหตุดับ ก็ ตก มาอยู่
กับโลก แล้วก็ พร้อมจะไหลกลับไปเป็น
คนธรรมดา วันยันค่ำ

พอเห็นบ่อยๆ จะเกิด ภูมิธรรม เห็น อาสวะ

แล้ว เด็ด อาสวะ นั้นทิ้งไป ( ด้วยการตรึก
อย่างถูกวิธี )

 

ที่พันทิป จะ ซัดอะไรใส่ ไม่ได้

จะต้อง คอย จ๊ะจ๋า เข้าไว้

ทั้งนี้ คนคุมเว็บ มี หลากหลายศาสนา

หาก เราทำอะไรผิดนิดหน่อย

อมยิ้ม ก็ หาย

 

คนที่ โพสเพลง บางจังหวะ เขาก็ เอาแต่ โพสเพลง

แต่ บางจังหวะ เขาก็ โพส ธรรมะ และ ไม่แน่ว่า
อาจจะแก้ธรรม ได้

ดังนั้น ไม่ควรประมาท เข้าไปส่วนสุด อะฮับ

 

พระพุทธเจ้าอ่อนแอหรือคับ
ฉันเนื้อสุกรแล้วทรงอาพาต
ที่พระพุทธเจ้าทรงอาพาตก็เป็นเพราะผลกรรมในอดีตมิใช่หรือคับคุณแอลแอล

 

กรรมฐานเปิดโลกเคยไปลองเหมือนกัน
แต่ไม่ได้ถูกจริต เพราะหัวข้อบอกกรรมฐานแก้กรรม
ซึ่งฟังดูมันก็ไม่ใช่แล้วค่ะ ปิติแบบคลื่นใส้ หรือนิมิตก็ไม่รู้นะคะ
เพียงแต่อยากหาทางแก้ หรืออาจจะเป็นเพราะอยากแก้ไขหรือเปล่าเหมือนไปเพ่งมัน
เลยไม่หาย

 

ที่นั้นหากมีคนฝ่าฝืนกฏ แปลว่าสาบสูญเลยทีเดียว
เพราะเขายืนยันด้วยบัตรประชาชนค่ะ
เหมือนคุณเคยอยู่นะ เป็นจริงแบบนั้น

 

กรรมส่งผลแค่กายท่าน ไม่ได้เข้าถึงใจ ไม่ต้องดึงท่านมาทำเครดิตของคุณให้ดีขึ้น
ปัญญาของคุณยังเข้าไมถึงเลยอะไร ก็กกรรม ข้ามมันบ้างก็ได้

 

แอบอ่านมานานแล้ว
สิ่งเขาลงธรรม น่ะล้วนก๊อบมาจากคนอื่น
คนที่ได้ธรรมจริงเขาระงับได้บ้าง ไม่เรี่ยราดแบบนี้หรอก

 

อย่า ตรึก ลอยๆ ฮับ

พอ ได้ อุบายในการ เข้าไป เฝ้น หาแง่ หามุม

ถอยออกมา สังเกต

เหมือน พอเราไป คลุกวงในเกินไป เราก็มอง
ไม่ถนัด

ให้ แยบคาย วางใจออกมา ห่างๆ เหมือน
แยกวงจาก การคลุกวงใน

แต่ การคลุกวงใน ต้องไม่หายไปนะ

เรียกว่า อัญญามัญญะ กัน

เราจะ วิปัสสนา สมถะ จะต้องไม่หาย

เราจะ เอ๊อะ นี่เรา เพ่งเกินไป หรือ ปล่อย
เกินไป หรือ ...เกินไป( สุดโต่ง ไปข้างไหน
รึ เปล่า?) เราก็ โยนิโสมนสิการ วิปัสสนา
แต่ สมถะ จะต้องไม่หายไปไหน

พอทำสมถะ ใด วิปัสสนา การวางจิตวาง
ใจแยบคาย ก็จะต้อง ไม่หาย

พอ ทั้งสองสิ่งไม่หาย

ก็ต้องเอา สมถะ และ วิปัสสนา มากำหนดรู้ ยิ่ง
ขึ้นไปอีก

จนกิจอื่นกว่านี้ ไม่มี

แล้วก็ เช็คเสียหน่อย หากมี กิจ ได้แบบนี้
เนืองๆ อุปทาน ตัณหา จะ สบช่องแทรก
เข้ามา ได้อีกไหม

จะกลัว การภาวนาไหม

ว่าไป

 

ที่นี้

กลับมาคนโพสเพลง

คนโพสเพลง นี่เขา ก็ ตาหลกหน่อยๆ

เขาเป็น คนกลัวการภาวนา

พอเขา จะภาวนา เขาก็จะกลัวการ บรรลุธรรม

ดังนั้น

พอจิตเขาไหวๆ ด้วย ปิติ

เขาก็จะเอา เพลง มาตัดกระแสกุศล
แล้ว จมโลก จมบ่อคลี่ เขาว่า ใช่

อุปมา หนอนเพื่อน พรหม ใน พระไตรปิฏก

เพื่อนพรหมก็ไป ทัก เอ้ย เจ้าทำไมมี
ความสุขในหลุมคลี่ เปิดเพลงป้อนเข้า
ปากตนอยู่เล่า

เพื่อนหนอนมันก็ ด่าเพื่อนพรหมกลับ
ว่า เอ็งนะโง่ นั่งนิ่งๆ ไม่หาอะไรเสพ
ตัวตนก็ไม่มี รูปเริบหายหมด นี่ ดูเรา
นี่

อ้วนท้วน สมบูรณ์

ติ้ง จบ

 

ถาม จขกท คับ เป็นที่กายหรือเป็นที่ใจ

 

ฮั่นแน่ !!

 

คู่กัดมีเยอะพอตัวแล้ว ฮ่าๆๆ กุลสตรีมีแต่ในนิยายค่ะ
คุณพูดเรื่องกุลสตรีก็ดีแล้ว ทำไมภาพลักษณ์ของหญิงที่ดีต้องเรียบร้อยพูดจาอ่อนหวานคะ
เหตุใดผู้ชายชอบแบบนั้น กาลละสมัยมันเปลี่ยนค่ะ คนห้าวก็ดีได้ และเป็นที่รักได้
ไม่จำเป็นต้องข่มตัวเพื่อให้คนอื่นมองว่าดีหรอก เพระะมันทรมารใจเบียดเบียนตัวเองเปล่า
กายใจ ปกติทำเนินไปทำสีละ ก็พอแล้ว