"นางแก้วคู่พระบารมี"

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="100%"><TBODY><TR><TD>"นางแก้วคู่พระบารมี" โบว์แดงกองบรรณาธิการมติชน

ทีมข่าวเฉพาะกิจ

​

</TD><TD vAlign=top align=right>



</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

"..ไม่เกิดประโยชน์อะไรถ้าจะมานั่งคิดอีกว่าฉันจะมีชีวิตอย่างไร ถ้าฉันไม่ได้เป็นพระราชินีประเทศไทย ฉันเป็นผู้ช่วยสามีมาหลายปีแล้ว และฉันตั้งใจแน่วแน่ที่จะอุทิศชีวิตให้แก่งานนี้ตลอดไป.."

พระราชดำรัสสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ บางตอนจากหนังสือพ็อคเก็ตบุ๊กออกใหม่ล่าสุด ร้อนๆ จากแท่นพิมพ์สำนักพิมพ์มติชน "นางแก้วคู่พระบารมี"

"นางแก้วคู่พระบารมี" เผยโฉมให้นักอ่านทั่วประเทศได้อ่านและเป็นเจ้าของก่อนใครในงาน "มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 11" หรือ "BOOK EXPO THAILAND 2006" จัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 18-29 ตุลาคม 2549

ก่อนจะมาเป็น "นางแก้วคู่พระบารมี" คอลัมน์ประชาชื่นในหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ได้นำเสนอเรื่องราวพระราชประวัติของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตั้งแต่ครั้งยังทรงเป็น หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร พระธิดาองค์ใหญ่ของหม่อมเจ้านักขัตรมงคล พระโอรสอันดับ 3 ของกรมพระจันทบุรีนฤนาถ กับ หม่อมหลวงบัว กิติยากร กระทั่งทรงพบกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และทรงกลายมาเป็น "พระคู่หมั้น" กระทั่งทรงราชาภิเษกสมรส มาเป็นสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในที่สุด

การนำเสนอในคอลัมน์ประชาชื่นได้นำเป็นตอนๆ ติดต่อกันเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เต็ม เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2549

เมื่อเรื่องราวพระราชประวัติที่ได้นำเสนอจบลง ทั้งโทรศัพท์ และจดหมายก็สอบถามกันเข้ามามากมาย ว่าเมื่อไหร่จะมีการจัดพิมพ์รวมเล่ม "นางแก้วคู่พระบารมี" เพื่อสะดวกต่อการอ่านและเก็บรักษา

สำนักพิมพ์มติชนจึงประสานไปยังกองบรรณาธิการมติชนรายวัน เพื่อให้จัดพิมพ์เรื่องราวของ "นางแก้วคู่พระบารมี" ออกมาเป็นหนังสือสนองความต้องการของผู้อ่านที่โทรศัพท์ขอเข้ามา

ในที่สุด "นางแก้วคู่พระบารมี" ก็อุบัติออกมาเป็นรูปเล่ม บรรจุเนื้อหาเรื่องราวของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่มีทั้งพระราชประวัติ ซึ่งเพิ่มเติมจากส่วนที่เคยตีพิมพ์ในคอลัมน์ประชาชื่น ให้รายละเอียดลึกลงไปอีกว่าสภาพบ้านเมืองไทยสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ผ่านมานั้นเป็นอย่างไร ครอบครัวกิติยากรเองได้ผ่านเหตุการณ์นั้นมาอย่างไร

จากนั้นเหตุการณ์หนหลังในอดีตได้ร้อยเรียงไปถึงเรื่องราวของพรหมลิขิตที่ชักพาให้กษัตริย์หนุ่มของไทยที่ไปศึกษาในต่างประเทศ ทรงพบรักกับหญิงงามตระกูลกิติยากร ก่อนจะมาเป็น "สมเด็จพระบรมราชินีนาถ" เคียงคู่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งรัชกาลปัจจุบัน

เหตุการณ์ครั้งนั้นหลายคนอาจยังไม่เคยทราบ และหลายคนอาจเคยได้ยินมาบ้างแล้ว ถึงกระนั้นการได้อ่านเรื่องราวของความรักที่อ่อนหวานละมุนละไม จะกี่ครั้งๆ ก็ประทับใจมิรู้ลืม

"นางแก้วคู่พระบารมี" ยังนำเสนอถึงการเป็น "สมเด็จแม่" ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงเลี้ยงดูพระราชโอรสพระราชธิดาทั้ง 4 พระองค์ด้วยพระองค์เอง นับแต่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์อัครราชกุมารี ทรงเคยรับสั่งตอบคำถามนักข่าวต่างประเทศที่ถามว่าชอบอะไรมากที่สุด ว่า "ฉันชอบเป็นแม่มากที่สุด"

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นแบบฉบับในการเลี้ยงดูพระราชโอรสและพระราชธิดา ทรงอบรมดูแลในทุกๆ ด้าน ทั้งเรื่องการศึกษา สุขภาพอนามัย กิริยามารยาท และการรู้จักหน้าที่ของตน พระราชโอรสและพระราชธิดาเองก็ทรงรับสั่งถึง "สมเด็จแม่" ใน "นางแก้วคู่พระบารมี" ไว้อย่างประทับพระทัยยิ่ง

เมื่อพระราชโอรสพระราชธิดาทุกพระองค์เติบโตขึ้นเป็นกำลังสำคัญของแผ่นดิน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ก็ทรงดีพระทัยที่ทุกพระองค์ทำงานเพื่อประเทศชาติ

ในด้านงานบ้านงานเมืองนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ก็ทรงเป็น ผู้สำเร็จราชการแทนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระผนวช ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นเวลา 15 วัน ทรงปฏิบัติหน้าที่แทนพระองค์อย่างสมบูรณ์ไม่ขาดตกบกพร่อง

เมื่อเวลาล่วงเลยมาถึงกาลปัจจุบันพระราชภาระและหน้าที่ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มิใช่จะจบสิ้นลง แต่ยังทรงดูแลทุกข์ สุข ช่วยเหลือราษฎรของพระองค์เคียงคู่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยการจัดตั้งโครงการต่างๆ มากมาย ที่รู้จักกันดีคือ โครงการศิลปาชีพ ซึ่งได้นำมาเสนอไว้ในนางแก้วคู่พระบารมีด้วย

นอกเหนือจากนี้ยังมีเรื่องราวเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ที่อ่านแล้วทั้งสนุกสนาน โรแมนติค และซาบซึ้งตื้นตันใจที่ได้เกิดมาใต้ร่มพระบารมีเป็นราษฎรไทย

พระเกียรติคุณ คุณงามความดีที่ทรงสั่งสมและกระทำมา ไม่เฉพาะหน้าที่ของความเป็นพระราชมารดาของพระราชโอรสและพระราชธิดาทั้ง 4 พระองค์เท่านั้น แต่ยังทรงปฏิบัติหน้าที่และรับพระราชภาระในการเป็นพระแม่แห่งแผ่นดิน ที่ทรงดูแลทุกข์สุขของอาณาประชาราษฎร์เคียงข้างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน

จนเป็นสมบัติอันมีค่ายิ่ง ประดุจ "นางแก้ว" ตามคัมภีร์ในพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นสมบัติ 1 ใน 7 ประการ ที่พระมหาจักรพรรดิจักได้ครอบครอง

หนังสือ "นางแก้วคู่พระบารมี" มิใช่เพียงหนังสือที่กองบรรณาธิการมติชนรายวันภาคภูมิใจเท่านั้น แต่ที่ภาคภูมิใจยิ่งๆ ขึ้นไปอีก คือการสืบค้นเรื่องราวพระราชประวัติของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ก่อนกลั่นกรองออกมาเป็นหนังสือเล่มนี้ ทำให้เห็นเด่นชัดยิ่งว่า ผืนแผ่นดินไทย นอกจากจะมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงรักราษฎรเป็นที่สุดในชีวิตแล้ว ยังมีสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นอีกผู้หนึ่งที่ทรงยืนเคียงข้างและรักราษฎรของพระองค์เป็นที่ยิ่งเช่นกัน

"นางแก้วคู่พระบารมี" เปิดตัวครั้งแรกในงาน "มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 11" วันที่ 18-29 ตุลาคมนี้ เวลา 10.00-21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นประธานในพิธีเปิดงาน วันที่ 18 ตุลาคม 2549 เวลา 09.00 น. สำหรับประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชมงานได้ในเวลา 12.00-21.00 น.

รีบจับจองไว้โดยพลัน เพราะหนังสืออย่างนี้ไม่ได้มีมาบ่อยๆ

​

<!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>




</FIELDSET> <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูป</LEGEND>
</FIELDSET>

​

ที่มา: มติชนออนไลน์
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01pra01181049&day=2006/10/18

 

.