นายธนกร มาลาหอมต์

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ธนกร มาลาหอมต์, 8 กันยายน 2017.

  1. ธนกร มาลาหอมต์

    ธนกร มาลาหอมต์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2017
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    ตอนนี้บวชพระอยู่และอยากได้ฤกษ์สึกพระที่ดีๆและเข้ากับดวงของอาตามา.หลังออกพรรษานี้ครับ..อาตามาเกิด16พฤษภาคม2519 เวลาเกิด13.45 น..เกิดที่ร.พ.จังหวัดขอนแก่น..ขอความกรุณาจากท่านอาจารย์ที่รอบรู้เรื่องฤกษ์ยามที่ดีๆช่วยหาฤกษ์สึกพระให้กับอาตามาด้วย...เจริญพร
     
  2. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,868
    มงคล คือเหตุแห่งความสุข ความก้าวหน้าในการดำเนินชีวิต ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้พึงปฏิบัติ นำมาจากบทมงคลสูตรที่พระพุทธเจ้าตรัสตอบปัญหาเทวดาที่ถามว่า คุณธรรมอันใดที่ทำให้ชีวิตประสบความเจริญหรือมี "มงคลชีวิต" ซึ่งมี ๓๘ ประการได้แก่

    ๑. การไม่คบคนพาล

    ๒. การคบบัญฑิต

    ๓. การบูชาบุคคลที่ควรบูชา

    ๔. การอยู่ในถิ่นอันสมควร

    ๕. เคยทำบุญมาก่อน

    ๖. การตั้งตนชอบ

    ๗. ความเป็นพหูสูต

    ๘. การรอบรู้ในศิลปะ

    ๙. มีวินัยที่ดี

    ๑๐.กล่าววาจาอันเป็นสุภาษิต

    ๑๑.การบำรุงบิดามารดา

    ๑๒.การสงเคราะห์บุตร

    ๑๓.การสงเคราะห์ภรรยา

    ๑๔.ทำงานไม่ให้คั่งค้าง

    ๑๕.การให้ทาน

    ๑๖.การประพฤติธรรม

    ๑๗.การสงเคราะห์ญาติ

    ๑๘.ทำงานที่ไม่มีโทษ

    ๑๙.ละเว้นจากบาป

    ๒๐.สำรวมจากการดื่มน้ำเมา

    ๒๑.ไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย

    ๒๒.มีความเคารพ

    ๒๓.มีความถ่อมตน

    ๒๔.มีความสันโดษ

    ๒๕.มีความกตัญญู

    ๒๖.การฟังธรรมตามกาล

    ๒๗.มีความอดทน

    ๒๘.เป็นผู้ว่าง่าย

    ๒๙.การได้เห็นสมณะ

    ๓๐.การสนทนาธรรมตามกาล

    ๓๑.การบำเพ็ญตบะ

    ๓๒.การประพฤติพรหมจรรย์

    ๓๓.การเห็นอริยสัจ

    ๓๔.การทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน

    ๓๕.มีจิตไม่หวั่นไหวในโลกธรรม

    ๓๖.มีจิตไม่เศร้าโศก

    ๓๗.มีจิตปราศจากกิเลส

    ๓๘.มีจิตเกษม

    ที่มา http://www.dhammathai.org/treatment/poem/poem00.php
     
  3. Atsadong

    Atsadong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    3,187
    ค่าพลัง:
    +2,751
    ลัคนากันย์ อาทิตย์ มะโรง แรม 3ค่ำ เดือน 6
    สาธุ ให้มืออาชีพหาฤกษ์นะเจ้าคะ
    ผูกดวงหาลัคนาให้แล้วเพื่อความสะดวกเจ้าค่ะ
     
  4. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,868
    พระสงฆ์ มีพระพุทธเจ้า เป็นทั้งบิดาและครูบาอาจารย์ การได้เห็นธรรมพระพุทธเจ้า
    ก็เสมือนกับได้เห็นพระพุทธเจ้า การกตัญญูต่อพระธรรมก็เสมือนกับการกตัญญูต่อพระพุทธเจ้า

    ขึ้นชื่อว่า ธรรมะ ไม่ว่าจะวันจันทร์ - วันอาทิตย์ จะเดือน มกราคม - ธันว่าคม
    การที่คุณมาเลือก ให้ว่า วันไหนก็ตามแต่ว่าไม่เป็นมงคลในศาสนาพุทธ นั้นเท่ากับว่าได้จุดชนวน
    ความไม่เป็นมงคลให้กับพระพุทธศาสนา ไป 1 วัน และการที่เราสร้างความไม่เป็นมงคล
    แม้เพียง 1 วัน นั้นเท่ากับเราได้สร้าง ความหม่นหมอง ความเศร้าโศก

    ต่างจากการที่เราได้สร้าง จิต ให้เลื่อมใส พระรัตนตรัย ทุกวัน แม้จะปฏิบัติได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
    นั้นเราย่อมเข้าสู่ความเป็นผู้ไม่เศร้าโศก เพราะเราบูชาในสิ่งที่ควรบูชา

    วันตาย ในทางโลกอาจจะเป็นวันที่เศร้าโศก แต่ในพุทธศาสนา ไม่ใช่วันเศร้าโศก

    งานบวชนั้นดีทุกวันไม่ว่าจะบวชวันไหน งานสึกนั้นก็ดีทุกวันไม่ว่าจะวันไหน
    การที่จะมาว่า การสึก ในวันต่างๆมีทั้งวันที่ดีและวันที่ไม่ดี แล้วคุณรู้ได้อย่างไร
    ว่าคนที่สึกนั้น เขาจะสึกจากความดี การที่คนๆหนึ่งผ่านการได้รับการอบรมมาจากศาสนาพุทธ
    แม้ในวันที่เขาต้องสึก คุณความดีต่างๆที่เขาได้รับการอบรมมานี้ ก็จะยังคงติดตัวเขาไป
    แม้จะปฏิบัติได้เหมือนเดิมหรือไม่ได้เหมือนเดิม คุณธรรมที่เคยผ่านมาย่อมจะหนุนส่งให้
    บุคคลต่างๆเป็นบุคคลที่ดี ต่อสังคมต่อไป และศาสนาพุทธเจ้าก็ยังคงเป็น มงคล อยู่เหมือนเดิม
    ไม่ว่าศาสนาพุทธจะไปอยู่ในยุคสมัยไหน ก็เป็นมงคลตลอด

    จะบวชตลอดชีวิต หรือบวชแล้วสึก มีแต่ความเป็นสิริมงคลตลอด
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ในเวบมหาหมอดู เข้าไปดูได้ครับ
    บอกไว้ล่วงหน้า ๓ เดือน(ฟรี)
    แต่ถ้าอยู่วัด ที่มี ท่านที่มีความสามารถพิเศษ
    ถ้าท่านบอกว่า อย่าพึ่งสึกก็อย่าพึ่งศึกนะครับ
     
  6. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,868
    พระสงฆ์ หากจะสึก นี้ต้องเข้าไปเว็บมหาหมอดูด้วยหรือครับ
    ชี้แนะเพิ่มเติมได้ครับ ยินดีรับฟัง +.+
     
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ไม่ต้องครับ ท่านเป็นพระสงฆ์
    ท่านแค่เข้ามาถามหากฤษ์สึกดีๆ
    ไม่ได้เข้ามาเพื่อให้ใครมาสอนธรรมะท่านครับ

    และการจะเข้าเวบหรือไม่เข้าเวบ
    หรือจะออกสื่ออะไรก็ตาม จะเอาประเด็นนี้
    มาตัดสินว่า เป็นอย่างไรก็คงไม่ได้
    ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับเจตนาครับ

    พูดตรงๆนะครับ ตำราใครๆก็หาอ่านได้ครับ
    คนนับถือพุทธฯ ก็อ้างแต่พระพุทธเจ้ากันซะส่วนมาก
    ถามหน่อยที่อ้างๆกันเนี่ย
    ปฏิบัติได้ หรือ สภาวะจิตเป็นอย่างตำราที่เอามา
    อ้าง เอามาแนะนำกันหรือเปล่า ไม่ต้องตอบนะครับ
    แค่ถามเชิงบอกเล่าครับ

    และถ้าเรายึดตำราแล้ว และคิดว่าใช่แล้ว
    เราจะเห็นความคิดที่แตกต่างๆไม่ได้ เพราะอะไร
    เพราะเรายึดในสิ่งที่เราเห็นว่าดียังไงหละครับ
    เพราะไม่ว่า คุณจะบอกว่าดีหรือไม่ดี
    คุณก็จะยึดทั้งสิ้น คือ ยึดว่าดี และยึดว่าไม่ดี
    ทำให้ใจเรา ไม่เป็นกลางครับ

    และแท้จริงแล้ว พุทธศาสนา ท่านไม่ได้สอนให้ยึด
    แม้แต่ตัวพระพุทธเจ้า แม้แต่พระธรรมท่านก็ไม่ได้
    ให้เรายึดครับ แต่ไม่ใช่ว่า เราอ่านตำรามา
    แล้วเราจะกลายโปรซีรีย์ ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างได้เลย

    เช่น เกลือมีรสชาติเค็ม แม้เราปล่อยวางไม่ยึด
    เกลือมันก็ยังมีรสชาติเค็มของมันอยู่
    เราปล่อยวาง เกลือมันก็ไม่จืดนะครับ
    ที่ไม่ยึดก็คือ ใจเราไม่ไปยึดติดในรสชาติ
    ของเกลือที่มันเค็มครับ

    และพุทธศาสนา เป็นศาสนาที่ได้มาจากการปฏิบัติ
    มาจากประสบการณ์
    ไม่ได้เป็นศาสนาที่ เป็นตำรามาก่อนแล้วถึงปฏิบัติครับ


    ดังนั้น เมื่อมหาบุรุษผู้เป็นเลิศทั้ง ๓ ภพ ท่านทิ้งตำรา
    เอาไว้ ซึ่งเราชอบเรียกกันเท่ห์ว่า ธรรมะนั้น
    ท่านก็ไม่ได้บอกว่า ให้ยึดธรรมะของท่าน
    ท่านไม่ได้บอกว่า ให้ต้องเชื่อเลย
    มีแต่ให้ไปปฏิบัติ ให้รู้และเข้าใจด้วยตัวเอง
    ดังนั้น การที่เราจะปฏิบัติและเข้าใจได้
    เราต้องทิ้งทิฐิมานะต่างๆ ของเราลงเสียก่อน
    แล้วไปปฏิบัติดูให้เข้าถึงครับ

    ตำรานะมีไว้เป็นแนวทาง แต่มันก็ยึดไม่ได้ทั้งนั้นหละครับ
    การปฏิบัติก็เช่นกัน แม้ปฏิบัติเข้าถึงได้ เราก็ยึดไม่ได้อีก
    เช่นกันครับ...

    เพราะไม่มีใครเกิดทัน
    เพราะไม่มีใครพิสูจน์ได้จริงๆว่า
    กว่าจะมาถึงปัจจุบัน ตำรามีการ
    เสริมเติมแต่งไปเท่าไร

    ดังนั้น อย่าไปยึด
    ทิ้งทิฐิมานะ
    แล้วปฏิบัติให้รู้และเข้าใจด้วยตัวเอง

    ปล. แต่อันดับแรก ควรอ่านภาษาไทย
    แล้วแปลเป็นไทยให้รู้เรื่องก่อน
    พูดง่ายๆ ถามอะไรก็ตอบอย่างนั้นครับ
    ถ้าจะแนะนำ ก็ควรตอบที่ถามก่อน
    แล้วถึงค่อยแนะนำ ให้เห็นข้อดี ข้อเสีย
    หรือเป็นข้อคิดเตือนใจอะไรก็ว่าไปครับ
     
  8. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,868
    ก็ขอบคุณที่ท่านมีน้ำใจตอบมานะครับ

    โดยส่วนตัวผมมองว่า ยึดในสิ่งที่ดี สิ่งที่ไม่ดีเดี๋ยวมันก็ละไปเอง
    ยึดความกตัญญูได้ อกุศลเรื่องเนรคุณมันก็ละของมันไปเอง แบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป

    ทิฐิมานะ นี้คือ ให้ผมทิ้งความคิดเห็นผมที่แสดงตัวว่าตัวผมเองนั้นเป็นใหญ่นะหรือครับ
    จากที่ผมนำเรื่อง มงคล 38 ประการ นี้ผมไม่ได้จะมาแสดง ตัวตนอะไรผมเลยนะ
    ผมเพียงแต่เห็นว่า ท่านเป็นพระสงฆ์ การนำธรรมะที่พระพุทธเจ้ามาแสดงนั้นคงจะสมควร

    ฉะนั้น การที่ผมจะแสดงตัวตนของผมว่าผมนั้นเป็นใหญ่กว่าธรรม หรือตีตัวตนเสมอ
    ว่าอยู่ในฐานะที่สมควรกับธรรมนั้นๆได้แนบสนิทแล้วก็คงไม่ใช่ เพราะผมก๊อบมาให้อ่านเฉยๆ

    ผมไม่เข้าใจตรง หากยึดว่าดีแล้ว จะฟังความคิดเห็นที่แตกต่างไม่ได้
    แล้วทำไมผมจะต้องรับฟังไม่ได้ หากผมฟังไม่ได้จริงๆ
    ผมก็คงไม่ต้องถามท่านสิ ก็คือพอผมก็อบมงคล 38 มาเสร็จ
    พอมีแนวทางอันไหนมาใหม่ๆ ผมก็ปฏิเสธเลยไงแบบไม่ต้องรับรู้ไม่ต้องรับฟังอะไรๆ

    ฤกษ์สึก คือท่านคงแคลงใจอยู่จึงจะหาฤกษ์ว่าวันไหนมงคลกับท่านวันไหนไม่มงคลกัยท่าน
    ผมก็เลยก๊อบ มงคล 38 มาให้ ผมนอกประเด็นกับพระท่านหรอครับ
    ก็ผมเข้าใจไปในทำนองแบบนี้หละ

    ทีนี้ขอเรื่องผมบ้าง ผมถามท่านนพเรื่อง พระสึกนี้ต้องเข้าเว็บ มหาหมอดู ด้วยหรอครับ
    ทีนี้ท่านตอบผมมาในทำนอง ไม่ให้ผมยึดตำรา และ ลดทิฐิมานะ

    คือที่ผมถามนี้ ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง โหราศาสตร์ หนะครับ ผมถามนี้หากท่านมีอะไรชี้แจง
    หนะผมก็บอกอยู่ว่าผมยินดีรับฟัง แต่จะให้ผมเปิดใจรอเตรียมพร้อมความเชื่อไว้ก่อน
    ผมก็คงจะทำแบบนั้นไม่ได้ ซึ่งมันก็อาจจะมีส่วนว่าทำให้ท่านมองผมอย่างนั้น
    แต่หากท่านชี้แจงในเรื่องนี้มาจริงๆ ผมจะไม่รับฟังอะไรๆจากท่านเลยอย่างนั้นเหรอครับ
    หากท่านมีญาณ ท่านก็ตรวจดูผมก็ได้หนิ ว่านิสัยผมนี้เป็นคน ไม่รับฟังคนอื่นเลยหรือเปล่า

    แต่ผมลองไปอ่านมาบ้างหละเกี่ยวกับโหราศาสตร์ เรื่องมงคล/ไม่มงคล
    นามสกุลผมนั้นได้เลข 28 ตำราหนึ่งเขาว่าไม่ดี อีกตำราหนึ่งไปฟังมาเขาว่าดี
    มันจึงเป็นลักษณะ คือหากไปจับผิดก็ติดถูกกลับมาด้วย หากไปจับถูกก็ติดผิดกลับมาด้วยอีก
    เสมือนจับ มีด จับด้ามมาก็ติดใบมีดมาด้วย จึงพอสังเกตได้ว่าเรื่องทำนายทายทักนั้น
    คือมันจะมีโอกาสที่ มาทั้งผิดและถูกติดมาด้วยกัน

    ซึ่งจะแตกต่างจากคำสอนพระพุทธเจ้า คือเมื่อเราเจริญความกตัญญูแล้ว ความเนรคุณนี้
    ก็จะค่อยๆละออกไป จะไม่ติดกันออกมาเสมือนจับ มีด
    แต่เรานั้นจะเห็นได้ชัดเลย ว่าบุญก็คือบุญ บาปก็คือบาป ถูกก็คือถูก ผิดก็คือผิด ไม่ปนกัน

    ท่าน นพ มีน้ำใจตอบผมมายาว ผมควรตอบแทนท่านให้ยาวๆมั้ง +.+
     
  9. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ทั่วไปไม่มีอะไรหรอกครับ...
    ที่คุณ hyuga ถามมาส่วนตัวก็ตอบแล้ว..
    และประเด็นที่ จขกท. ถามก็ตอบไปแล้ว...
    และที่ส่วนตัวแนะนำเพิ่ม
    ก็เป็นภาพรวมๆครับ


    แต่บอกตรงๆว่า คุณยังยึดตรงนี้อยู่แบบไม่รู้ตัว
    ยังไงลองอ่านข้อความข้างล่างก่อนนะครับ
    จะเขียนข้อสังเกตุไว้ เพื่อว่า จะทันตรงนี้นะครับ

    คุณเข้าใจไหมว่า ไม่ว่าจะดีหรือไม่ว่าจะไม่ดี
    มันก็ยึดไม่ได้ทั้ง ดีและไม่ดีครับ
    แต่ทั่วๆไป ใครก็ทราบว่า อย่างน้อยยึดดีไว้
    ก็ยังดีกว่ายึดไม่ดี แต่ท้ายแล้วจริงๆ
    ไม่ว่า ดีหรือไม่ดี เราก็ควรปล่อยวาง จริงไหม

    เพราะถ้าคุณ เผลอไปยึดดี. คุณก็จะเห็นอีกอย่างที่ไม่ดี
    และถ้าคุณยึดไม่ดี คุณก็จะเห็นอีกอย่างที่ดี
    ซึ่งการยึดทั้งดีและไม่ดีนั้น ทำให้
    คุณจะเห็นอะไร
    ที่แตกต่างไม่ได้(เป็นเหตุให้คุณ ไม่ตอบ
    ที่ จขกท ถาม จขกท ถามแค่อยากทราบ
    กฤษ์สึกแค่นั้น) เพราะคุณ เห็นว่า
    การที่จะต้องเข้าเวบ หากฤษสึกนั้น
    ตรงกันข้ามกับสิ่งที่คุณ ยึดอยู่
    (คุณเลย ก๊อบมงคล ๓๘ มาลงนั่นหละครับ)
    เข้าใจที่พูดนะครับ.....
    ไม่ใช่ว่า สิ่งที่ก๊อบมาลงไม่ดีนะครับ
    แต่ว่าเราเผลอไปยึดมันครับ

    ถ้าคุณไม่ยึดนะ ทำไมไม่ตอบในสิ่ง
    ที่ จขกท. ถามแค่นั้นหละครับ

    พูดง่ายๆเลยนะ เค้าถามอะไรก็ตอบอย่างนั้น
    แต่ถ้าคุณ เห็นว่า การเข้าเวบ หรือ การต้องไปดู
    กฤษสึก มันต่างจากที่คุณเห็นอย่างไร


    คุณควรจะอธิบายว่า เป็นอย่างไร
    จำเป็นไหมที่จะต้องหากฤษ์สึก
    และควรแนะนำอย่างไรต่อไป ประมาณนี้
    พอนึกภาพออกไหม


    และไม่ต้องไปยก ว่าเป็นคำสอนของพระศาสนาหรอกครับ
    มันเป็นเรื่องที่ใครๆอ่านแล้วก็ทราบได้ทั้งนั้นครับ
    ดังนั้น ไม่ต้องเอาท่านมาตรงนี้
    เพราะมันเหมือนเป็นการอ้าง
    ที่จะต้องให้คนอ่านแล้วมาเชื่อตาม
    ที่ตนเองได้ก๊อบปี๊มาลงอย่างคาดไม่ถึง
    คือ ถ้าจะยกมา ก็ยกมา ให้คนอ่านพิจารณาเอง
    ไม่ต้อง ไปแสดงความเห็นเพิ่มเติมอะไรหรอกครับ
    ถ้าเรายังปฏิบัติเข้าไม่ถึงจริงๆ
    อย่างที่ตนเองได้ยกมา
    เข้าใจที่พูดนะครับ

    ถ้าคุณไม่ยึด ที่คุณก๊อบปี๊มา
    แล้วคุณจะก๊อบปี๊ ตำรามาลงทำไม ตั้งแต่คำตอบ
    แรกทำไมหละคับ ทำไมไม่ตอบแค่ที่ จขกท ถาม
    คุณอ่านๆดีๆนะ ส่วนตัวไม่ว่าสิ่งที่คุณ
    ก๊อบมาลงไม่ดีนะ

    แล้วล่าสุด ก็ยังยืนยัน ในสิ่งที่คุณแนะนำอยู่
    จริงอยู่ปากคุณบอกว่า รับฟังความคิดเห็น
    แต่การที่ยังยึด ในสิ่งที่ตนก๊อบปี๊มาแนะนำอยู่
    นั่นหละครับ ที่เค้าเรียกว่า ยังยึดอยู่
    แต่เราอาจจะไม่ทันมันตรงนี้
    เท่านั้นเองครับ ส่วนตัวพูดไม่ได้ว่าคุณนะ
    พยายามพูดให้เห็นในอีกมุมหนึ่ง

    ปล.อ่านแล้วพิจารณาให้ดีๆครับ....
    ไม่มีใครว่า สิ่งที่เรานำมาลงไม่ดีนะครับ
    แต่ควรพิจารณาว่า มันควรที่จะต้องนำมาลง
    ตอนนี้ไหม และจำเป็นที่จะต้องมาย้ำ
    สิ่งที่ตนนำมาลงตอนนี้ไหม

    คำสอนดีๆ เรื่องดีๆ ใครเข้าอ่านพอรู้กันหมดนั่นหละครับ
    แต่มัน เหมาะสมที่จะกล่าว จะย้ำ ณ เวลานั้นๆหรือไหม
    เราควรพิจารณาตรงนี้ให้มากครับ.....

    คล้ายๆว่า เราไปพูดเรื่อง ศีล ๕ ข้อสุรา
    ในร้านเหล้านั่นหละครับ คุณก็รู้ว่า ศีล ๕ ดี
    และใครๆก็รู้ว่า ถือศีล ๕ นะดี
    ใครๆก็รู้ว่า เป็นคำสอนของศาสนาใด และท่านใด.

    ถามว่า คนที่ดื่มรู้ไหม ? เรื่อง ศีล ๕ ข้อสุรา
    รู้ทั้งนั้นหละครับ ว่าผิดหรือไม่ผิด
    ว่าดีหรือไม่ดี แต่จะสนใจจะยึดหรือไม่
    เป็นอีกเรื่องหนึ่ง.

    แต่ว่าทั้งๆที่รู้ ทั้งๆที่ไม่สนใจ แต่ทำไม
    เค้ายังดื่มกันอยู่
    เราไปรู้เหตุตรงนี้กับเค้าไหมหละครับ

    และมันควรไหม ที่เราจะต้องไปพูด เรื่องนี้
    ในสถานะการณ์แบบนี้ครับ

    ประมานนี้นะครับ
    ยกตัวอย่าง ให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นครับ

    พอเข้าใจที่สื่อเนาะ...
     
  10. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,868
    โดยรวมคือไม่ให้ผมมีข้อขัดในสิ่งที่พระท่านถาม แต่ให้ผมพิมพ์เรื่อง ฤกษ์วันสึกที่เป็นมงคล
    ไปเลยแบบไม่ขัดศรัทธาใคร เพราะการขัดมันเป็นการยึดเป็นฝั่งเป็นฝ่าย
    แต่การขัดกันนั้น ผมถือว่าเป็นความมงคลอยู่คือได้คุยธรรมตามกาล อันนี้คือผมยังยึดถืออยู่
    ท่าน นพ ไม่ได้ยึดถือที่ตรงนี้ แต่การได้คุยกับท่าน นพ ก็ถือเป็นการขัดเกลาผมอยู่นะ

    หากเปรียบ ใจ ผมกับจาน นี้คราบมลทินและรอยด่างดำ ผมนี้เยอะเลยครับ
    ซึ่งท่าน นพ ก็คงจะทราบดี แต่การขัดกันผมนั้นยังยึดถืออยู่ว่าเป็นเรื่องดี
    เพราะผมได้เห็นถึงข้อแตกต่าง ที่มาขัด จาน ที่มีคราบมลทินและรอยด่างดำ อะครับ
    หากไม่ขัดกันเลย จาน ผมนั้นก็คงจะอยู่ในสภาพไหนก็คงจะไปต่อแบบนั้น
    ผมเลยทำความเข้าใจไว้ว่า การที่ ขัดกันได้ คือเรานั้นได้ยอมรับความแตกต่างกันได้
    การที่เรา ขัดกันไม่ได้เลย ก็คงจะมีแต่เรื่องที่ทะเลาะกันซึ่งเป็นการพอกพูน ทิฐิมานะ

    ท่าน นพ คงเข้าใจผมเนาะ...
     
  11. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    โดยภาพรวมไม่มีอะไรหรอกครับ
    ถ้าเราคิดว่าดีก็ทำของเราไป...
    แต่ก็ควรทำแล้ว ก็ให้แล้วไป
    มันจะกลายเป็นบารมีย้อนกลับมาหาตัวเราเอง
    แต่บารมีเกิดแล้วย่อมมีวันหมดไปได้
    หากว่าเราได้ใช้มันไป...

    แต่ถ้าเราทำแล้วก็แล้วไปอีก
    โดยไม่หวัง ไม่คาดอะไร
    และไม่อะไรๆกับมัน
    มันก็จะกลายเป็น
    บารมีไหลย้อนกลับมา
    ได้ไม่มีวันหมด ได้ของมันเองครับ....

    เมื่อเกิดตรงนี้ เด่วเราจะเข้าใจอะไรๆ
    ได้ของเราเอง ว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่
    ถูกอุปโลกน์ขึ้นมาทั้งสิ้น
    และถ้าเรารู้จักปล่อย รู้จักวาง
    ก็จะไม่เกิดวิบากทางจิต(วิบากคือสิ่งที่จรมาเรื่อย)
    ซึ่งสิ่งที่เกิดร่วมกับจิตนี่หละ
    ที่เป็นเชื้อให้เราต้องกลับมาเกิด
    ซึ่งทางโลกเรียกว่า อวิชชานั่นหละครับ

    ซึ่งมันจะทำให้เรา ต้องไปกระทำตาม
    จริต วิสัย อนุสัยของเราได้ครับ
    เมื่อเข้าใจได้ เริ่มเกิดได้
    ก็จะเข้าใจอะไรๆ
    ด้วยตัวเราเองมากยิ่งขึ้นตามลำดับนั่นหละครับ

    แล้วเราจะพบว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้
    ล้วนเป็นธรรม ผู้มีปัญญาย่อมสะสมบุญ
    เพื่อให้ขึ้นที่สูงในวันข้างหน้า
    วิบากกรรมชักนำ พาให้เกิด
    ไม่อยากเกิดต้องรู้ธรรมนำวิถี

    รู้ละ รู้วาง รู้ว่าง ทุกนาทีได้นั้น
    (ก็ต้องรู้เท่าทัน สิ่งที่จะทำให้เรา
    ไปตามวิสัย จริต อนุสัย หรือวิบากได้นั้นเอง)
    แล้วจะพบด้วยตัวเราเองว่า
    ชีวิตนี้มีแต่สุขทุกข์ไม่มีครับ....

    ปล.โชคดีนะครับ..คุณ hyuga
     
  12. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,946
    ไม่ได้สนับสนุนให้งมงายนะ
    แต่จากที่เคยเจอ คนรู้จักหลายคนสึกไม่เลือกฤกษ์ เนื่องจากมองว่างมงาย พิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้ ว่าฤกษ์มีผลกับชีวิต หลังสึกมีอันเป็นไปต่างๆ นาๆ
    ไม่รู้ว่าเรื่องบังเอิญหรืออย่างไร
    แต่อะไรทำแล้วไม่ลำบากกายมากนัก ทำแล้วสบายใจ ไม่เดือดร้อนใครก็ทำไปเถอะ
    มนุษย์เป็นแค่เศษผงหนึ่งในจักรวาล
    ไม่ได้ล่วงรู้ความจริงของธรรมชาติทุกอย่าง
     

แชร์หน้านี้

Loading...