นายพลโตโจ

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย piromsuparp, 7 กุมภาพันธ์ 2005.

  1. piromsuparp

    piromsuparp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +2,754
    นายพลโตโจอดีตแม่ทัพใหญ่ของญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่สองมาบอกหลวงพ่อว่า "ท่านไม่ตกนรก"
    "..วันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๓๒ อาตมาเดินทางไปสอนพระกรรมฐานที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะที่อยู่บนเครื่องบินเวลาในประเทศไทยประมาณตี ๒ มีอาการเคลิ้มเหมือนกับคนครึ่งหลับครึ่งตื่น เห็นภาพคนมากมายรอบๆ เครื่องบิน ห่างออกไปก็หนาแน่นมากเหมือนกับเป็นการห้อมล้อมเครื่องบินทั้งข้างล่าง ข้างบน ทุกคนสวยหมด หน้าตาก็ยิ้มแย้มแจ่มใส มีอาการสดชื่น เห็นชัดเจนมาก หลังจากนั้นก็มีภาพคน ๒ คนโผล่ขึ้นใกล้ๆ คนที่นั่งข้างหน้ารูปร่างลักษณะทรวดทรงดี หน้าตาดี แต่คนข้างหลังยืน ลักษณะเป็นคนสูงเพรียว ถามว่า "คุณชื่ออะไร" คนหลังตอบว่า "ผมคือนายพลโตโจครับ เป็นนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น" ท่านคนหน้าก็ตอบว่า "ผมคือเจ้าชายโกโนเย"

    อันนี้ถ้าไม่ตรงกับประวัติศาสตร์ก็ขออภัยด้วย เพราะไม่ได้อ่านประวัติศาสตร์ตอนนี้

    สำหรับเจ้าชายโกโนเยไม่ได้สงสัยเพราะท่านไม่ได้ประกาศสงครามและไม่ได้เข้าสงคราม ส่วนท่านนายพลโตโจท่านสั่งทหารรบ ทหารของท่านก็ต้องตาย และทหารของคนอื่นก็ต้องตาย การรบของญี่ปุ่นเวลานั้นบุกหนักจริงๆ บุกแบบสายฟ้าแลบคล้ายเยอรมัน ทุ่มเทกำลังมาก ในเมื่อคนตายมากๆ อย่างนั้นก็แสดงว่าท่านนายพลโตโจก็ต้องบาป

    จึงถามท่านว่า "ในเมื่อท่านเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นสั่งทหารให้รบ ท่านเป็นแม่ทัพใหญ่ ทหารฆ่าใครกี่คนท่านก็ต้องบาปด้วย และทหารทุกคนที่ตายไปท่านก็ต้องบาปด้วย เขาต้องพลัดพรากจากพ่อ จากแม่ จากลูก จากเมีย จากบ้าน จากช่วงที่เขามีความสุข ท่านก็ต้องบาป แล้วเวลานี้ท่านมายืนอยู่ที่นี่ ท่านไม่ได้ลงนรกหรือ"

    สาเหตุที่ไม่ตกนรก
    ท่านนายพลโตโจก็ยิ้มแล้วบอกว่า "ท่านขอรับ เมื่อท่านพูดถึงบาปผมก็ยอมรับ เพราะประเทศญี่ปุ่นก็นับถือพระพุทธศาสนา ถึงแม้จะมีนิกายต่างกันเป็นมหายานก็ตาม แต่ก็มีบุญมีบาป มีสวรรค์มีนรกเหมือนกันหมด แต่ฝ่ายมหายานหนักไปทางด้านพระโพธิสัตว์หวังเป็นครูสอนศาสนา การสั่งให้คนไปตายก็บาป การสั่งให้คนไปฆ่าคนก็บาป แต่ที่ผมไม่ตกนรกก็เพราะผมรู้วันตายครับ" ก็เลยตกใจ เพราะคนที่รู้วันตายต้องเป็นคนที่มีกำลังฌานเข้มแข็งมาก มีความกล้าเป็นพิเศษจึงรู้วันตายได้ จึงถามท่านต่อไปว่า "ท่านรู้วันตายหมายความว่าอย่างไร" ท่านตอบว่า "ในเมื่อผมเป็นอาชญากรสงคราม สหประชาชาติเขาสั่งให้ผมตาย ผมก็ต้องตาย แต่ว่าผมจะไม่ตายด้วยการทำ ฮาราคีรี คือไม่ได้ฆ่าตัวตาย วันที่เขาจะฆ่าผม ผมรู้คำสั่งของเขาล่วงหน้าว่าผมจะต้องตายวันนั้น ในเมื่อผมจะต้องตายจริงๆ ที่พึ่งของผมไม่มี บิดามารดาก็ช่วยผมไม่ได้ บุตรภรรยาก็ช่วยไม่ได้ ญาติพี่น้องมิตรสหายก็ช่วยไม่ได้ ทรัพย์สินต่างๆ ก็ช่วยไม่ได้ ตำแหน่งหน้าที่การงานก็ช่วยไม่ได้ ไม่มีอะไรจะคุ้มครองความตายได้ ผมต้องตายแน่ ฉะนั้นสิ่งที่จะเป็นที่พึ่งของผมก็คือ พระ ผมนึกถึงพระคือพระพุทธเจ้า กับพระที่เคยเป็นครูบาอาจารย์ผม ผมก็นั่งนึกว่าผมต้องตายแน่ ร่างกายนี้มันต้องตาย พระญี่ปุ่นก็สอนกันว่า ตายแล้วมีสวรรค์เป็นที่ไป มีนรกเป็นที่ไป สำหรับคนทำดีหรือทำไม่ดี เวลานี้ผมนึกถึงพระ ผมมีความเคารพพระ การที่ผมต้องรบก็มีความจำเป็นต้องรบ ถ้าผมไม่รบ ผมเหลือนํ้ามันที่จะต้องใช้อีก ๒ เดือนก็หมด ประเทศญี่ปุ่นถ้าขาดนํ้ามันก็ไปไม่รอดเพราะเป็นประเทศอุตสาหกรรม จึงมีความจำเป็นต้องรบเพื่อทรงตัวรอด จึงสั่งประกาศสงครามกับฝ่ายข้าศึกและก็ลงมือรบกัน ขณะที่ผมจะตาย ผมนึกถึงพระ นึกถึงพ่อถึงแม่ นึกถึงใครต่อใครเสร็จ ก็รวบรวมกำลังใจว่า ขอให้พระช่วยไปสวรรค์ แล้วเขาก็ลงมือฆ่าผม ผมก็ตาย เมื่อตายแล้วผมก็ไปตามใจผมนึก ผมจึงไม่ตกนรก" แกก็ไม่ได้บอกว่าไปสวรรค์ บอกแต่ว่า "เป็นไปตามใจผมนึกแต่ผมก็ไม่ตกนรก" เป็นสำนวนของผี เมื่อพูดเท่านี้ ๒ ผีคือเจ้าชายโกโนเยกับท่านนายพลโตโจก็หายไป.."
    [b-wai]
     

แชร์หน้านี้

Loading...