นิทานสนุก..พระเครื่องและเครื่องราง (นิมิตรอัศจรรย์...รุ่นครอบจักรวาล)

สุดยอดทุกอย่างครับ ถ้าไม่ดีจริงหรือหลอกลวง ผมก็บาปอีก

... โครงการต่อไป ตามมติของสวรรค์ **Beyond Your Destiny** เหนือดวงชะตา

เหตุใดบอก มติของสวรรค์ ?? อะไรคือดวงชะตา อะไรคือกรรม คอยติดตามครับ

ชุดต่อไปไม่เกี่ยวกับพระอาจารย์ไม่ต้องสอบถามท่าน เพราะภารกิจท่านมาก สอบถามที่ผมครับ ผมรับผิดชอบดูแลเองครับ อยู่ในความดูแลและเมตตาจาก ท่านปรมาจารย์



ในภาพคงไม่ต้องบอกนะครับว่าใคร ????

 

เชื่อว่าทุกท่าน คงรู้จักคำว่า ดวงชะตา และเชื่อว่าคงเคยดูดวงกันมา ทีนี้ หมอดูแม่น ๆ มักหายากแสนยาก ส่วนมากแม่นอดีต หรือทายทักนิสัยใจคอ

และเชื่อว่า คงไม่มีใครดวงดีตลอด พอหมอดูทักมีเคราะห์ ยุ่งเลย หรือหมอดูพูดเอาใจว่าดีอย่างนู้อย่างนี้ (เพื่อจะได้เอาเงินเรา)

ทีนี้ ถ้าเจอหมอดูดี ก็ดีไป แนะนำสิ่งดี ๆ ก็ดีไป ถ้าเจอหลอก ๆ ให้เสียเงิน แพคเกจเสริมละยุ่งเลย

ทีนี้ ถามว่าดวงชะตามาจากอะไรครับ ผมจะแยกให้เห็นชัดเจนแบบละเอียดยิบตามหลวงปู่เหิร พระไม่ดังไม่อยากดังสอนมา และตรวจทานกับสายครูบาอาจารย์อื่นๆ ที่ชัวร์แน่นอน และกับที่ครูบาข่ายสอนที่ปรึกษามาจะได้เห็นชัดเจน

ดังบอกอยู่เสมอ กระทู้นี้ไม่ใช่กระทู้ขายของ ไม่งั้นคงย้ายไปห้องตลาดพระเครื่อง หรือพระเครื่องไปเลยครับ 555 นี่ห้องประสบการณ์จึงต้องเน้นประสบการณ์ที่พบมา

และผมไม่ใช่มีอาชีพเซลแมนครับ จะให้มาโม้คุยโทรศัพท์โปรโมทสินค้า เป็น ชม. ๆ ผมไม่ทำครับนั่นยกให้หัวหน้าเซลแมนไป ไม่จำเป็นไม่ให้เบอร์ใครด้วย คุยไลน์ก็ตามวาระครับ

เหตุใดต้องแยกให้ชัดเจน เพราะมีประเด็นลึก ๆ สำคัญ ๆ ที่จะกล่าวต่อไปครับตามหลวงปู่เหิรท่านสอน

แน่นอน ไปดวง ๆ กับหลวงปู่ท่าน ดักคอเลย นั่นพราหมณ์ พุทธไม่มีคำว่าดวง แล้วทำไมต้องแยกให้ชัดเจน มันมีผลต่อกรรมที่จะตามมา บังเอิญผมก็กลัวกรรมตัวนี้ด้วย กรรมอะไร ??

โลภะ โทสะ โมหะ ถามหัวหน้าเซลแมนคงไม่รู้หรอกครับ อะไรคือวิธีบรรลุธรรม นี่ก็ถามหาคำตอบยากอีก เพราะบรรลุกันรึยังตัวเรารู้ตัวเองดี

ท่านกล่าวว่า โมหะ น่ากลัวที่สุด คือความหลง หลงในอวิชชา

ในยุคปัจจุบันทำไม พระอริยเจ้าหาได้ยากยิ่ง มีจำกัด ทำไมคนมาบ่นทำบุญชั่วชีวิตเจือกยิ่งจนลง ๆ ไหนบอกว่า ยิ่งทำยิ่งให้ยิ่งรวย ???

สาระสำคัญที่น่ากลัวที่สุดคือการหลอกลวง รู้ไม่จริงแล้วเอาความไม่จริงไปส่งต่อคนอื่นอีก ชีวิตหลังความตาย รึ ก่อนตายต้องรับผลกรรมนี้ และเชื่อว่าปัจจุบันนี้ก็คงรับกรรมนั้นไว้

หลวงปู่สอนให้ฟังว่า หากย้อนคำว่าดวงชะตา ต้องย้อนไปในยุคพุทธกาล

เราคงเคยได้ยินหมอดูแม่น ๆ ยุคแรกในศาสนาพุทธ เมื่อ 2 พันกว่าปีก่อน คือ ปรมาจารย์ที่ได้มาทำนายพระพุทธเจ้าตอนประสูติ ดังนี้

เมื่อพระองค์ประสูติแล้ว พระเจ้าสิริสุทโธทนะราชบิดา ก็ได้พาเสด็จกลับกรุงกบิลพัสดุ์ อัญเชิญพราหมณ์ปุโรหิต ที่เป็นโหราจารย์ยอดเยี่ยม ๑๐๘ คน มาเลือกสรรค์ เอาแต่ผู้เชี่ยวชาญยอดเยี่ยมจริงๆ ได้ ๘ คน ในพราหมณ์โหราจารย์แปดคนนั้นเป็นคนแก่ เจริญด้วยวัยวุฒิเสียเจ็ดคน พยากรณ์รวมพร้อมกันเป็นสองคติว่า

"พระกุมารนี้ถ้าอยู่ครองราชสมบัติ จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ ถ้าออกทรงผนวชจะได้ บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นศาสดาเอกในโลก"

ส่วนโกณฑัญญะพราหมณ์* ซึ่งยังเป็นเด็กหนุ่มอยู่ในขณะนั้น แต่สูงด้วยความรู้ ได้ถวายพยากรณ์เป็นคติเดียวว่า

"พระกุมารพระองค์นี้ จะไม่อยู่ในราชสมบัติ จะเสด็จออกทรงผนวชและตรัสรู้เป็น พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นศาสดาเอกในโลกแน่นอน"

* ท่านโกณฑัญญะผู้นี้เชื่อในคำทำนายของตนเอง เลยออกบวชไปรออยู่ก่อน หลังจากที่เจ้าชายสิทธัตถะ ตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้า ก็ได้เป็นศิษย์องค์แรกของพระองค์ ต่อมาได้ฟังปฐมเทศนาจากพระพุทธองค์ได้สำเร็จโสดาบัน และเป็นพระสงฆ์องค์แรกของพุทธศาสนา

ที่มา
http://www.dharma-gateway.com/buddha/buddha-history/buddha-history_02.htm


หลวงปู่กล่าวว่า ในยุคนั้นแต่ละท่านเรียกว่าเจนจบ เหาะเหินเดินอากาศกันได้เลย ยังมีคำทำนายที่แตกต่างกันนิดหน่อย

 

ประวัติ / พระองคุลิมาลเถระ

ท่านพระองคุลิมาล* เป็นบุตรของพราหมณ์ผู้เป็นปุโรหิตของพระเจ้าปเสนทิโกศล ในพระนครสาวัตถี มารดาชื่อว่า นางมันตานีพราหมณี เมื่อท่านคลอดจากครรภ์มารดา ได้บังเกิดเหตุอัศจรรย์ คือ บรรดาเครื่องศาสตราอาวุธยุทธภัณฑ์อันมีอยู่ในเรือนนั้นก็ดี เครื่องพระแสงศาสตราวุธของพระเจ้าปเสนทิโกศลก็ดี ได้บังเกิดเป็นเปลวไฟรุ่งโรจน์โชตนาการ

ฝ่ายปุโรหิตาจารย์ผู้เป็นบิดา เมื่อเห็นเหตุนั้นจึงออกจากเรือนเล็งแลดูฤกษ์บน (ฤกษ์ที่พระจันทร์เสวยประจำวันมี ๒๗ ฤกษ์) ฤกษ์นั้นก็ปรากฏในอากาศประหลาดใจยิ่งนัก ด้วยว่าบุตรนั้นจะเกิดเป็นโจร ครั้นรุ่งเช้าจึงเข้าไปสู่ที่เฝ้า กราบทูลเนื้อความนั้นให้พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงทราบ และในที่สุดได้กราบทูลให้พระองค์ประหารชีวิตเด็กเสีย แต่พระเจ้าปเสนทิโกศลหาทรงทำไม่ ทรงรับสั่งให้บำรุงเลี้ยงรักษาไว้ ปุโรหิตาจารย์ก็อภิบาลบำรุงรักษากุมารนั้นไว้ และให้นามว่า "อหิงสกกุมาร" แปลว่า กุมารผู้ไม่เบียดเบียน

ที่มา

http://www.dhammathai.org/monk/monk54.php

 

ดังจะได้เห็น เรื่องราวของดวงชะตาในพุทธศาสนา มาแล้วในยุคนั้น เป็นยุคของศาสนาพรหมณ์ จะเห็นว่าการดูดวงชะตาในยุคนั้นถือว่า แจ่ม แม่น เรียกว่า สุดยอดกันจริง ๆ แต่มาหักเห กันตอนหลัง

ดังประวัติพระองคุลีมาล ที่พระพุทธเจ้ามาโปรดเมตตา จนท่านสำเร็จเป็นพระอรหันต์ เรียกว่า การดูดวงชะตายังมีพลาด แต่ก็ ใกล้เคียงอยู่มาก

ต่อมา ผมได้พบหลวงปู่ท่านหนึ่งที่ดูดวงเรียกว่าแม่นยำ ผมให้ 90% ซึ่งผมได้ขอความเมตตาในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานทำนายทายทักจน ถือว่า ตามนั้น ยกเว้นเรื่องดี ๆ ยังคลาดเคลื่อน ซึ่งไม่แปลกใจ เพราะเรื่องดี ๆ เราอยากให้ดี มักจะเคลื่อนเสมอ แต่เราคงไม่อยากเจอเรื่องร้าย ๆ ขอให้ผ่านไปก่อน

หลวงปู่ท่านนั้น ได้ ยกตัวอย่างข้อจำกัดของ การดูดวงว่า ....

พระโกณฑัญญะ ทายสามเณรว่าจะตายภายใน 7 วัน แต่ สามเณร ก็เดินทางกลับบ้านไปสั่งเสียแล้ว ได้ทำบุญปล่อยปลาให้ชีวิตเป็นทาน สุดท้าย ก็ไม่ตาย พระโกณฑัญญะงง ไปถามพระพุทธเจ้า ท่านตอบว่า

"โกณฑัญญะเธอทายแม่นที่สุดในโลก แต่กรรมแม่นกว่า"

พระโกณฑัญญะ จึงเผาตำราทิ้ง คงเหลือแต่ตำราเลข 7 ตัวตกทอดมาทุกวันนี้

มีหลวงปู่ 3 ท่านยืนยันตรงกันว่าคือ พระโกณฑัญญะ บางตำราบอกพระสารีบุตร

 

ในยุคนั้น คำว่าวิชาโหราศาสตร์ คิดค้นจากผู้ใด หลวงปู่กล่าวว่า ในยุคนั้นศาสนาพรหมณ์ เป็นใหญ่มีมาก่อนศาสนาพุทธ ซึ่งตามหลักศาสนาพราหมณ์คือ มุ่งฝึกฝนจนถึงระดับฌาน เราศึกษาธรรมมาคงทราบ การได้ฌาน มุ่งไปจุติชั้นพรหม ยังไปไม่ถึง นิพพาน (ที่เป็นจุดขายทุกวันนี้)

ผู้ทรงฌาน สามารถได้อภิญญาหรือฤทธิ์เดชได้ จึงมีมหาฤาษีที่แก่กล้าทรงฤทธิ์มากมายแต่แน่นอนยังไม่ได้ อริยบุคคลในพุทธศาสนา จวบจนได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าจึงได้บรรลุกันมากมาย

เหล่าผู้ทรงฌานเหล่านั้นจึงรอคอยพระพุทธเจ้ากัน คอยรอฟังธรรมดังเช่น ปัญวัคคีย์ทั้ง 5

ทีนี้ วิชาโหราศาสตร์จึงก่อกำเนิดโดยผู้ทรงฌาน หรือเหล่าฤาษี นักบวชในยุคสมัยโบราณ โดยแก่นแท้คือ หาวิธีในการอ่านดวงชะตา หรืออ่านกรรมนี่ละครับ แล้วแต่วิธีการ เช่นดูลายมือ ดูวันเดือนปีเกิด หรือเก่งกล้ามาก ก็ทำนายทายทัก ดูด้วยฤทธิ์กันเลย ที่จะแจ่มที่สุด (ผมหาแบบนี้อยู่ 55)

วิชาการดูวันเดือนปีเกิด ก็ เหมือนการตั้งเงื่อนไข นั่นละครับ เพราะถือการจุติมาเกิด เป็นเงื่อนไขที่ง่าย ดูกันได้เลย ว่าคนเกิดวันนี้ เวลานี้ ต่อไปจะมีอนาคตเช่นไร (ตามดวงชะตา หากเป็นพุทธ ก็ตามกรรม)

 

หลวงปู่สอนว่า การดูที่แม่นที่สุดคือ ดูด้วยอภิญญา ในทางพุทธเรียกว่า อนาคตังสญาณ นั่นละครับจะแม่นที่สุด เราจะรู้จักกันดีคือ พุทธทำนาย คือพระพุทธเจ้าท่านดูอนาคตบอกมา แล้วก็เป็นจริงดังยุคนี้ ที่ว่า กลียุคนั่นละครับ หลวงปู่บอกแม่นสุด กำหนดเวลากันได้เลย ดังยุคนี้ สาวกหลายท่านเก่งกว่าพระพุทธเจ้า ก็ตรงเป๊ะ

ผมพยายามให้หลวงปู่นั่งทางในตรวจดวงให้ 55 ด้วยอนาคตังสญาณ หลวงปู่บอก ผู้รู้จริงเขาจะไม่บอก ด้วยเหตุผลใด รอติดตามกันต่อไปครับ นี่คือเงื่อนไขที่ เราต้องทราบมิฉะนั้น จะไม่ครบกติกา ในรุ่นต่อไป

**Beyond Your Destiny** เหนือดวงชะตา

 

การหยั่งรู้ของท่าน แม้ที่ปรึกษายัง ฝากตัวเป็นศิษย์ขอศึกษาด้วย

หลายครั้งที่ปรึกษาจะทำอะไรไม่ถูกหลักการ ท่านปรมาจารย์จะมาถามเลยจะทำอะไร คือ โทรมานั่นละครับ บอกอย่าทำ (รู้ปัจจุบัน ปัจจุปปันญาณ)

พอจะถามอะไร ผมฝากครูบาอาจารย์ที่จะไปพบท่านปรมาจารย์ ครูบาอาจารย์บอก ท่านปรมาจารย์ฝากคำตอบไว้แล้วแต่เมื่อคืน หรือก่อนผมจะถาม (อนาคตังสญาณ)

เรื่องราวอดีตแค้น อดีตโหด ๆ ท่านบอกมาจากกรรมในอดีต ท่านก็ชี้แนะกรรมอดีตมา อตีตังสญาณ หมายถึง ญาณหยั่งรู้ในส่วนอดีต

ในความสั่งเสียหลวงปู่เหิร แน่นอนครับ เมื่อเช้าทำสมาธิบอกกล่าวท่านถึงคำสั่งเสียนี้ก่อนจะมาถ่ายทอด

ย้ำ กติกา ต้องรู้หลักการวิธีการก่อนครับ ... ศาสนาพุทธไม่มีคำว่าบังเอิญ จิ๊กซอลของชีวิตต้องปะติดปะต่อทีละนิดครับ

 

กำลังมันส์เลยยย ปูเสื่อรอ ^^

 

ที่พูดมา พิมพ์มาทั้งหมดไม่ใช่ว่าจะมาเปิดกระทู้ดูดวงนะครับ เพราะดูไปก็เท่านั้นละครับ แก้ไขกันดีกว่า

จากหลักของพราหมณ์ เราคงรู้แล้วว่า พยายามอ่านดวงชะตากันโดยผู้ทรงฌาน แต่ก็ปรากฎว่า แม่น 99% อย่างมาก (ถ้าแม่นจริงนะครับ) แต่มีพลาดได้แม้ พระโกณฑัญญะที่แม่นที่สุดในโลกดังกล่าวมา (หลวงปู่ที่เก่งดูดวง บอกว่าคือพระโกณฑัญญะ และพระอริยเจ้าอีกท่านก็บอกว่า ใช่ )

ยังต้องเผาตำรา จากการที่สามเณรปล่อยปลา เปลี่ยนวิชาดูดวงท่านให้เป็นไหม้ไฟกันเลย

ทีนี้ จบเรื่องหลักการดูดวงชะตาของศาสนาพราหมณ์ มาเข้าศาสนาพุทธกันบ้าง .....

รอประมาณ ปลายสัปดาห์หน้า ผมได้พบผู้สืบวิชาจากท่านปรมาจารย์ ค่อยว่าเล่าต่อนะครับ ยังอีกนานครับ....อีกเป็นเดือน ถึงจบโครงการ

 

ที่ดีงามคือแฟนผม ไม่เคยรู้เคยใช้เอาไปใช้ได้ผลเลยในวันเดียว ดีจริงๆครับ

 

เป็นกุศลหนุนนำของผู้บูชาด้วยครับ

 

ยอดบูชาวัตถุมงคลทุกท่าน ทำบุญทุกอย่างครับ วิหารทาน ขอผลแห่งบุญนี้ให้ทุกท่านเหนือดวงชะตาพบสิ่งดีตามหวังครับ

 

อนุโมทนาสาธุครับ

 

มหาโมทนา สาธุครับ

เป็นบุญที่ใส จริงๆ ^^

 

อนุโมทนาสาธุ ครับ

 

ประสบการณ์ต่างๆ ผู้บูชาไปแล้วทุกรุ่นเห็นผลได้ชัด ชนิดที่ พกพาหรือห้อยปุ๊ป เห็นผลทันตา ล้วนเกิดจาก

1. การสร้างที่ควบคุมมาอย่างดี จากผู้รู้จริง มวลสารจัดเต็ม มิใช่ใส่แค่เศษๆ สร้างพันองค์กะรวย

2. การเสกโดยปรมาจารย์ในป่า ไม่อ้างพระดัง จัดลำดับการเสกอย่างดี ไม่เสกมั่ว ไม่ใช่แบบคนพาเสกยังไม่รู้จริงแล้วริ ส่องพลังกันมั่วๆ

3. สำคัญมากสุดคือ บุญ กุศล จากการบูชาครับ ผู้จำหน่ายก็ตกอยู่ภายใต้กรรม ถ้าไม่รู้จริง ไม่กล้ามาให้บูชาครับ จึง กระจายยอดบูชาไปงานบุญกุศลหลายๆ อย่าง ถ้าบุญกับพระก็มั่นใจว่า พระอริยเจ้า แล้วกะจายไปกับบุญ ทาน หลายๆงาน เพราะ. เราผ่านการฝึกอบรมกับครูบาอาจารย์มาแล้ว

ศิษย์ดีสะท้อนถึงการอบรมจากอาจารย์ดีครับ อบรมจริงๆ มิใช่อ้างชื่ออาจารย์หากิน

 

สาธุ...

 

ไสยศาสตร์อาคม ไม่มีคำว่าพลาด...!!!!

ตามที่เมื่อคืนคุยกับครูบาอาจารย์ วัตถุมงคลสายเรา วันเดียวเห็นผลทันตาหลายท่าน ชนิดที่ไม่มีคำว่า คิดว่า ...น่าจะ.....

ท่านกล่าวว่า ปรมาจารย์เหล่านี้ ถือของมาชั่วชีวิต มิใช่ อ้างว่าเรียนวิชาแล้วนั่งจิ้มไลน์ เล่นเฟส IG แต่ละท่านไม่รับสิ่งเหล่านี้เลย เพื่อจิตใจมุ่งมั่นไม่มีหวั่นไหวต่างจากหัวหน้าเซลแมนที่ผมพบมา

ถือเคล็ดแปลก ๆ มากมาย ผมไปอยู่ร่วมการเสกเห็นแต่ละท่านแล้ว เสกเสร็จกลับ มิใช่มานั่งรอให้สัมภาษณ์

เพราะถ้าพลาด มันหมายถึงชีวิตกันแล้ว เหตุใดว่ากันเช่นนั้น

หลวงบุญเล่าสมัยเป็นทหารรับจ้างที่เขมร ตอนแรกไปทำเหมืองที่เขมรหลายเดือน จนจับพลัดจับพลูไปเป็นทหารรับจ้าง ทั้งระเบิดอะไรมากมาย

ทหารเขมรที่เจอเก่งกล้ามาก จนเพื่อนที่ไปรบด้วยกันตายหมดทุกคนหลวงบุญรอดคนเดียว

คำว่าเก่งคือ ยิงไม่เข้า จนต้องทิ้งปืนสู้กัน ใช้มีดอาคมฟันก็ไม่เข้า จนต้องจับหัวกดโคลนเพื่อฆ่ากันเลย ท่านยอมรับทหารพวกนี้เก่งจริงๆ จนต้องเสกแล้วหายตัวใต้ต้นไม้ ไม่ได้วิ่งหนีนะถ้าหนีจิตใจจะไม่มั่นคงเสกคาถาไม่ขึ้น

อาคมแต่ละอย่างต้องได้ผลทันตา ทุกคนล้วนใช้ชีวิตในป่า และหาของป่า ป่าก็ป่าจริง ๆ นะครับมิใช่จอดรถเสร็จยกลังไปเสกแล้วบอกเสกในป่า เออ ป่าของพวกนี้กับป่าของเราคงต่างกัน 55 ผมจอดรถที ต้องรีบทาซอฟเวล์กันยุงป่า ทาไปแล้วยังต้องโดนมาสักรอยสองรอย ยุงป่าจริง ๆ มักไม่กลัวซอฟเวล์ สเปรย์ตะไคร้กันยุงยิงไม่ได้ผลเข้าไปใหญ่ ยกของไปหลายรอบ

ตอนสร้างพระธาตุศรีทันใจ ที่ปรึกษาบอกสร้างบนเขา ผมก็นึกว่าเขาแบบที่ผมเจอ พอท่านชี้ภาพ ตกใจเฮ้ย เขาสุดสายตา คือ รถยนต์เข้าไปไม่ได้ต้องนั่งมอไซด์ แล้วเดินกันต่อไปครึ่งวัน นึกถึงพวกบอกพระในป่า ถามไปมาก็จุดขาย 55




ในภาพสักโดยหลวงพ่อคง วัดสรรพรส เทพเจ้าแห่งเสือสมิง

การเสกคงเห็นแล้วนะครับ ไม่ใช่จับใส่ลังพลาสติกแล้วบอกครูบาอาจารย์แยกพลังกันเอง ต้องจัดเปิด จัดหมวดหมู่ของให้เหมาะสม

 

สมัยที่ปรึกษาเป็นเด็ก เป็นเณรอยู่ วัดมีงานวัด ได้ข่าวว่า หลวงบุญมาเที่ยวงาน เกิดมีเรื่องกับหัวโจกขาใหญ่ เขาใช้มีด แทงหลวงบุญจนล้มแล้ว พวกเอาขวดแตกแทงซ้ำ เรียกว่าเพลี้ยงพล้ำ แต่ไม่เข้าทำไรไม่ได้

หลวงบุญอยู่ ๆ กระโจนขึ้นซัดพวกนั้น จับหัวโจกเอาหน้าขูดกับพื้นดิน ท่านว่า โหดจริง ๆ จากเพลี้ยงพล้ำโดนรุม กลายเป็น จัดการซะอยู่หมัด มารู้ภายหลังเรียกว่า "วิชากำลังช้างสาร"

ล่าสุด โยมพ่อที่ปรึกษามาเล่าเอง หลวงบุญไปทำสวนพ่นยาลำใยอยู่ อยู่ ๆ มีคนเมายา ไม่รู้เรื่องเห็นหลวงบุญถือของปิดหน้าตาพ่นยา นึกว่าคนถือปืนมาทำร้าย จัดการยิงใส่ 3 นัด แชะ ๆ ๆๆ ด้านทั้ง 3 นัด ตกใจรีบหนีไปอยู่บนเขาอื่นเลย เพราะ กลัวโดนเอาคืน

ท่านว่า "3 นัดไม่ออกเลยนี่สุดยอดจริง" แถมยิงขณะพ่นยาสวนลำใยด้วย ตอนนั้นคงไม่ได้พกของอะไรมาก