นิทานสนุก..พระเครื่องและเครื่องราง (นิมิตรอัศจรรย์...รุ่นครอบจักรวาล)

ตามเล่าไปในแต่สมัยผมจำความได้ หยิบหนังสือกฎแห่งกรรมเล่มแรกจากห้องสมุดสมัยมัธยม.. เป็นของ ท.เลียงพิบูลย์ ติดใจมาก ตามอ่านจนหมดห้องสมุด

ต่อมาก็อ่านของหลวงพ่อจรัญในห้องสมุดสมัยเรียนอาชีวะ ซึ่งไม่ค่อยถูกใจเท่าไรเพราะอ่านไม่มันเท่าของ ท.เลียงพิบูลย์

ต่อมา เรียนจบทำงานมาหาซื้อเองที่จตุจักรและตามงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ

ในเรื่องราวต่างๆ ที่ชอบเพราะมาจากชีวิตจริง ที่ผมจำได้แม่นมีเรื่องราวของคหบดีท่านนึง

สรุปง่ายๆ ท่านนี้รวยมาก เรียกว่าคนดังในสมัยนั้นเลย เกิดอุบัติเหตุแล้วจิตวิญญาณไปพบ พระยายมราช ซึ่งตอนแรกท่านพระยายมจะชวนทำงานด้วย แต่ตรวจไปมาอ้าวยังไม่ถึงเวลา ให้กลับไปก่อน แล้วก็ทราบกำหนดที่ถึงเวลามาด้วย

ต่อมาเศรษฐีท่านนี้ก็ตามความเชื่อไปขอหลวงพ่อที่เก่งทางจิต (ดัง มีชื่อเสียง) ตรวจสอบให้ ก็พบว่าเป็นจริง วิธีต่ออายุคือให้ถวายพระพุทธรูปเท่าคนจริงอุทิศให้ "นายใหญ่ชอบ" (นายใหญ่คือใครนี่ละสงสัย)

ทีนี้สำหรับคนรวยไม่ยาก จะถวายเพิ่มยังได้ หลวงพ่อแซว "นายใหญ่ถูกใจตบไหล่คุณด้วย" คนนั้นขนลุกเลย

พอกำหนดเวลาถึงวาระที่พระยายมราชบอก ถามว่าเป็นไง ก็ตามสูตรผมรู้มาครับ หากถึงวาระกรรม วิบากกรรม ยังไงก็โดนอยู่ดี

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ แต่ตามสูตร ลูกชายเขาเป็นหมอเรียน ตปท. บินมาผ่าตัดช่วย แล้วก็รอด ปลอดภัย

ทีนี้มาถึงจุดนี้ผมคุยกะที่ปรึกษา ก็ตามสูตรที่ฟังครูบาอาจารย์มากรรมประกอบด้วย ขอใช้ศัพท์ง่ายๆ นะครับ

1.เจ้ากรรมนายเวร ซึ่งครูบาอาจารย์บางท่านแยกเป็นเจ้ากรรมนายเวรหลัก กะเจ้ากรรมนายเวรรอง คือ เจ้ากรรมนายเวรหลักก็คือวิญญาณที่เราเคยทำกรรมกับเขาไว้ แน่นอนเขาย่อมมีกรรมของเขาอีกทีไม่ใช่จะเฝ้าตามเราตลอดไป จุดนึง กรรมคือพลังงานอาจชักนำให้พบพากันแล้วเขาจำได้ตามมาทวงคืน...

เจ้ากรรมนายเวรรองคือผู้พบเห็น แล้วตามเรามา แบบไทยมุงว่าง่าย ๆ

การที่เราสวดมนต์ ทำบุญตักบาตร สร้างพระพุทธรูป กรวดน้ำอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร บ่อย ๆ เขาอาจจะ ...อาจจะนะอโหสิกรรมให้ก็จบกัน ถ้าเขาไม่อโหสิก็ทำไปเรื่อย ๆ ครับดีกว่าไม่ทำ

การมีของขลังวัตถุมงคล ย่อมแค่ต้านทานได้ระยะ หรือนิดนึงเท่านั้นเพราะไม่มีอะไรเกินกรรม

ดังช่วงนึง ญาติผู้ใหญ่ผมป่วยหนักด้วยโรคร้ายแรง ผมจัดพระ 9 นิ้วหลายองค์ผ้าไตรถวายหลวงปู่เหิร อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรญาติผมโดยตรง
หลวงปู่เมตตาตรวจให้ "เจ้ากรรมนายเวรเขาไม่ยอม เขามาทวงแล้ว"

หลวงปู่ประหยัดก็ทำพิธี ขอพระยายมราชให้ ก็ได้ผล แต่ต่ออายุได้แค่ไหนก็ตอบไม่ได้

จนวันนึงหลวงปู่เหิร บอกว่า "หลวงปู่ขอพระยายมราชให้แล้ว ท่านยอมแล้ว"

ก็ต่อได้ประมาณ 6 เดือนครับ จนหมอพยาบาลแปลกใจ แล้วก็จากไปตามวาระเวลาที่ผมรับได้...

2. วิบากกรรม คือเส้นทางหรือพลังงานที่สะสมไว้ เรียกว่าไม่มีตัวตน เหมือนถนนหนทางที่เราเดิน อาจมีต้นไม้ ก้อนหิน หลุม ซึ่งไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ยังไงก็ต้องโดน

 

การสร้าง ยุคแรก เน้นพระนอนพระประจำวันอังคารเพราะครูบาอาจารย์ที่ถวาย

ครูบาข่าย เกิดวันอังคาร

ครูบาสุข เกิดวันอังคาร

ที่ปรึกษา เกิดวันอังคาร

ผมเอง เกิดวันอังคาร...

ยอดพระเกศบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ...

และรุ่นต่อมา ที่ปรึกษาไปหาไม้ดี ๆ ท่านบอก ออร่าแรง ตามตำราก็จัดปางอื่นด้วย

ปางชนะมาร (ปราบมาร)

ปางเปิดโลก (เปิด3โลกให้เปิดทางทำอะไรสำเร็จ)

และได้ถวายครูบาอาจารย์ไปมาก

ซึ่งเวลาผ่านมาก็พิสูจน์ได้

หลังจากนั้นมา ทุกข์ เคราะห์ก็มาบ้าง เวลาหนัก ๆ ผมก็จัดหาพระไม้ขนุนที่มีขายตามเฟส ไปถวายครูบาอาจารย์ ซึ่งไม่กี่เดือนปัญหาก็คลี่คลายจริงครับ

แต่ปัจจุบันเริ่มหายาก เพราะหาให้ตรงจุดตามตำรายากจริง ๆ

ตำราที่ปรึกษาบอก มีการระบุ วัดขนาดกันเลยถึงจะแจ่ม...

ย้ำ สร้างถวายวัดนะครับ จะดีที่สุด....

 

สิ่งเหล่านี้คือกำลังใจครับ

 

โดยสรุป การสร้างพระพุทธรูปจึงมีอานิสงส์มากมายนักอย่างไม่อาจปฏิเสธได้

แม้ตอนผมสั่งพระไม้ขนุนตามเฟสไปถวายต่อพระอริยเจ้า ตอนนั้นจัดมาชุดนึงหลายองค์

จำได้ที่แรกแวะกำแพงเพชรถวายหลวงปู่เจือ วัดหนองแผ่นดิน (ทราบว่าท่านละสังขารแล้ว) พระลูกศิษย์ท่านรีบจัดโต๊ะวางพระพุทธรูปทันที

ต่อไปก็ถวายแด่ครูบาอาจารย์หลายท่าน และพระอริยเจ้า ซึ่งท่านก็สอนได้ประทับใจว่า..

สร้างรูปพระพุทธเจ้าให้คนยำเกรงในการทำชั่วและศรัทธาในการทำดี

ดังกล่าวตอนนั้นถวายไปหลายองค์ ขนาดก็ใหญ่ ตอนขึ้นเหนือเรียกว่าฝ่าฟันอุปสรรคมากฝนตกตลอดทาง (ยังกะเจ้ากรรมนายเวรมาขวาง)

แต่ก็สำเร็จลุล่วง หลังถวายเสร็จฝนหยุดตก ราบรื่นและไม่กี่เดือนจากนั้นมา...

จากที่คิดว่าแย่ ก็รอด ได้พบสิ่งดี ๆ มากมาย (รวมทั้งของดีของชอบ55)

และผมก็หยุดมานาน เพราะไม่อยากยึดติดมากตามหลวงปู่เหิรท่านสอน..

สิ่งเหล่านี้คือปัจจัตตัง รู้ได้ด้วยตัวเองครับ เหมือนดังพระสอน

"เราคิดว่าคนอื่นอยู่ดีมีสุขรู้ได้อย่างไร ลึก ๆ เขาอาจทุกข์ใจมาก แต่ตัวเราต้องรู้ตัวเราว่าเรามีความสุขดีหรือเปล่า"

แน่นอน...การสร้างพระที่ดีที่สุด คือพระในใจเราครับ ดังคำพระพุทธเจ้าสอนว่า "ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นตถาคต"

แต่เมื่อปุถุชนเช่นผมยังไม่สูงพอ ต้องอาศัยหลายๆ ปัจจัยละครับ

ที่ปรึกษาบอก สร้างถวายพระศาสนาให้คนกราบไหว้มาก ๆ จะดีที่สุด อานิสงส์สูงสุด เมื่ออานิสงส์มาก สร้างได้พอเหมาะสมแก่เวลา เกิดประโยชน์ไม่ใช่สร้างไว้เกลื่อนวัดจน นกมาถ่ายใส่ เสียเวลาในการดูแล

อานิสงส์มากอุทิศตรงเจ้ากรรมนายเวร ยังไงถึงโกรธเรามากก็อาจเริ่มปราณีอโหสิกรรมได้ แม้นวิบากมาเต็มที่ เหมือนถนนข้างหน้าฝนอาจตก เราก็ยังมีร่มไว้กันฝน ร่มต้องซื้อหานะครับไม่ใช่เนรมิตรมาได้...

 

หลายท่านคงได้รับแล้วนะครับตะกรุดพญาวันครอบพิภพ

สวยงามมาก ขลังแจ่ม...

 

ปีที่แล้ว ช่วงพญาวันได้มีโครงการทำถนนเข้าวัดหมูเปิ้ง และได้สร้างชุดพลิกฟ้าพลิกดิน ซึ่งปลุกเสกตั้งแต่วันเพ็ญพุธ (ประมาณมีนาคม 2562) ยาวจนพญาวัน 2562 ซึ่งเป็นรุ่นที่โด่งดังที่สุด เพื่อหางบประมาณทำถนนเข้าวัด

ก็ประสบความสำเร็จด้วยดี ตะกรุดพลิกฟ้าพลิกดินประมูลกันถึง 13,000 บาท และตอนปิดยอดโรงครัวผมก็ได้นำของส่วนตัวมาออกทำบุญ 13,000 บาทเช่นกันก็มีผู้มีบุญบูชาทำบุญสำเร็จ

พระผงเจ้าสัวผมเองก็ยังไม่มีเหลือแม้แต่องค์เดียว

ในตอนนั้นเอง ได้มีการตัดต้นสักหน้าวัดหมูเปิ้งออกด้วยเพื่อทำถนนทางเข้าวัด

ต้นสักนี้ ที่ปรึกษาบอกแรงมาก ๆ เรียกว่าไม้ที่ตัดทำแต่พระพุทธรูปได้อย่างเดียว คนตัดก็ตายไปแล้ว

เมื่อไม่นานนี้ ท่านได้ลองนำไม้สักที่ตัดมาให้ช่างลองแกะเป็นพระดูเพื่อวัดฝีมือ ก็งดงามดี...ตามภาพ...

 

โครงการสร้างพระ "หนุน ศักดิ์ ศรี"

ดังกล่าวไป ตามตำราทางเหนือ นิยมใช้ไม้สัก (เป็นเคล็ด ศักดินา หรือศักดิ์ศรี วรรณะ)

ไม้ขนุน (เป็นเคล็ดหนุนดวง)

ส่วนจะสร้างปางอะไรก็แล้วแต่เหตุการณ์ และสาระสำคัญในอำนาจปาง


ดังที่สร้างไปแล้ว ปางชนะมาร ก็ปราบมาร

ปางสมาธิ ก็ด้านภาวนาทางจิต

ปางเปิดโลกความหมายก็ดังนี้


ตามพุทธประวัติได้กล่าวถึง “พระปางเปิดโลก”ไว้ดังนี้

“... หลังจากที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ในวันอาสาฬหบูชา ณ นครสาวัตถี แล้วได้เสด็จจำพรรษาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ของท้าวสักกะเทวราช เพื่อแสดงธรรมโปรดพระมารดาที่ประทับอยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิต พระพุทธองค์ทรงแสดงพระธรรมเทศนา (พระอภิธรรม) แก่พระมารดา ในที่สุดแห่งเทศนา พระมารดาทรงบรรลุโสดาปัตติผล เป็นพระโสดาบัน ครั้นอยู่จำพรรษาปวารณาครบ 3 เดือน จึงได้ตรัสกับท้าวสักกะเทวราชว่ามีพระประสงค์จะเสด็จกลับยังโลกมนุษย์ ท้าวสักกะเทวราชจึงได้นิรมิตบันไดทั้ง 3 คือ บันไดทอง บันไดแก้ว บันไดเงิน ตีนบันไดทั้ง 3 ตั้งอยู่ที่ประตูเมืองสังกัสสะนคร ส่วนหัวบันไดพาดอยู่ที่เขาสิเมรุ พระพุทธองค์เสด็จลงทางบันไดแก้วตรงกลาง เทวดาลงทางบันไดทองทางด้านขวา มหาพรหมลงทางบันไดเงินทางด้านซ้าย ในขณะที่เสด็จลงจากเทวโลกนั้น พระพุทธองค์ทรงทำ‘ยมกปาฏิหาริย์’ อีกครั้งหนึ่ง คือ ทรงเปิดโลกทั้ง3 ได้แก่เทวโลก มนุษย์โลก และ ยมโลก พร้อมทั้งทรงเปล่งพระฉัพพรรณรังสี ทำให้สัตว์โลกทั้ง3มองเห็นกันและกัน เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง อนึ่งพุทธบริษัทที่เห็นพุทธานุภาพแล้ว ล้วนแต่ปรารถนาพุทธภูมิ ...”

ที่มา
http://www.arjanram.com/relic_detail.php?g=1&id=184

ดังกล่าวไป ที่ปรึกษาท่านเหลือไม้สักที่ตัดเมื่อปีที่แล้วอยู่

จากที่เคยทราบมา งานแกะสลักไม้ย่อมไม่เหมือนงานหล่อโลหะ หรือปูนปั้นที่พลาดไม่ได้เลย หากแกะพลาดจะใช้กาวตัดแปะก็ไม่ได้ จึงต้องหาช่างแกะที่มีฝีมือ และเป็นที่เชื่อถือได้

และได้ปรึกษาหารือ วัดฝีมือช่างคนล่าสุดก็แกะได้งามตามภาพ


ไม้สักหน้าวัดหมูเปิ้ง ก็เนื้อหาออกสีทอง จึงดูเหมือนไม้สักทองไม้มงคลเลย

วันนี้ช่างจะมาลองแกะ ออกแบบรูปร่างแต่จากที่คุยกันจะได้โครงการดังนี้

ฐาน ใช้ไม้ขนุน (เป็นเคล็ด หนุน..)

องค์พระใช้ไม้สัก (หน้าไม่กว้างมาก อาจแกะปางเปิดโลก) เป็นเคล็ด ศักดิ์

ยอดพระเกศจะใช้ไม้ศรีมหาโพธิ์ ซึ่งหน่อเนื้อมาจากอินเดียเลย เป็นเคล็ดศรี

หนุน ศักดิ์ ศรี

ซึ่งรอช่างเริ่มแกะ ทำรูปร่าง จะเปิดให้ทำบุญสร้างพระถวายพระศาสนาด้วยกันครับ

งานนี้ไม่มีวัตถุมงคลตอบแทน ผู้ร่วมบุญจะได้รับ บุญ กุศลล้วนๆ

บุญนำมาซึ่งความสุข....

ท่านใดเชื่อเรื่องอานิสงส์สร้างพระ ซึ่งสร้างตามตำรา ก็โปรดติดตามร่วมบุญเร็ว ๆ นี้

หมายเหตุ ยอดพระเกศจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ...

 

อำนาจ กรรม...

ดังกล่าวไปแล้ว ผลของกรรมนั้นเป็นอจินไตย (ตามหลักคำสอนเป็นเรื่องไม่ควรคิดประกอบด้วย)
1.การเกิดของโลก
2.อำนาจฌาณ (ฌาณสมาธิแท้ ๆ นะครับไม่ใช่ฌาณขี้โม้)
3. ผลของกรรม
4. เรื่องของพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์

ครูบาอาจารย์ผู้สูงส่ง จะสอนอ้างอิงเรื่องกรรมตามชาดก ที่พระพุทธเจ้าเคยตรัสสอนไว้จะเที่ยงแท้ที่สุด

ผมพยายามถ่ายทอดคำสอนของครูบาอาจารย์ให้เข้าใจง่าย และระมัดระวังเต็มที่ เพราะพวกแก่ความรู้มีมาก ดังพบมาเช่น ตาเปียก ปลิงเผา อ้วนแสบ ซึ่งแต่ละตัวก็สภาพไม่ต้องบรรยาย ...

แน่นอน หากชี้แนะผิด ๆ เราก็บาป บางครั้งนิ่งเฉยไปจะกำไรกว่า แต่ก็พยายามชี้แนะให้กลางๆ ไว้ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย เพราะธรรมทานย่อมชนะการให้ทั้งปวง ดีกว่าสร้างโบสถ์เจดีย์แน่ (ถ้าธรรมแท้ ๆ นะครับ)

ผลของการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง ก็จะ หลับก็สบาย ตื่นก็สบาย ไม่ใช่นอนสะดุ้งผวา แบบมารที่พบ จิตใจก็สบาย ๆ เหมือนแบบโลกนี้สดใส ไม่ใช่ใจฟุ้งซ่าน กินนอนไม่สงบ

เรื่องพวกนี้ก็ปัจจัตตังคือรู้ด้วยตัวเอง ไปถามมาร มารก็จะบอกสบายดี ๆ แต่หน้าตาหมองคล้ำ ตัวเป็นรอยจ้ำ ๆ ด้วยผีเกาะตัวก็ได้

จึง ขอสรุปดังนี้

1. วิบากกรรม คือผลของอำนาจแห่งการกระทำ ซึ่งจะกำหนดชีวิตไว้เรียบร้อยหลังเรากระทำสิ่งใด ๆ ซึ่งเราเกิดมา วัน เวลาใด ก็วิบากกำหนดไว้ ดังนั้นครูบาอาจารย์หรือนักปราชญ์จึงสร้างวิชาโหราศาสตร์มาอ่านสิ่งเหล่านี้ แน่นอน ของแท้ย่อมสะสมสรรพวิชามายาวนาน

ผู้ทรงสมาธิ อภิญญาแท้ก็อ่านได้ ถ้าอ่านแม่นๆ ต้องได้ อภิญญาแต่หลวงปู่เหิรท่านบอกผมแล้ว "ผู้รู้จริงย่อมไม่พูด" เพราะพูดไปจะเกิดการ เขว (เปลี่ยนแปลง) ขึ้นทันที

วิบากนี้ไม่มีตัวตน เป็นพลังงาน ที่ผมบอกยังไงก็ต้องโดน แต่เราบรรเทาได้ด้วยการสร้างพลังงานมาเบี่ยงเบน เช่นใช้ของขลังแจ่ม ๆ หรือทำความดีจะชัวร์ที่สุด...

2. เจ้ากรรมนายเวร ก็มีเป็นดวงจิตวิญญาณ หรือคน สัตว์นี่ละครับ วาระกรรมใด วิบากจะดลให้มาจ๊ะเอ๋กัน ก็จองเวรกันไป อาจมาในรูปญาติ คน สัตว์ก็เป็นได้ พอเขาสาใจ ก็จากไป..แน่นอน กรรมก็ไปสนองเขาต่อเพราะเขาสร้างพลังงานไป

พวกนี้ครูบาอาจารย์เปรียบเทียบคือ วัฏจักร กลไก แบบมีคนรวยย่อมมีคนจน

ดังพระโมคคัลลานะ โดนโจรทุบ ด้วยวิบากกรรมที่อดีตชาติทำร้ายบุพการีทีนี้โจรนั่นก็จะโดนคนอื่นทุบต่อไป อดีตชาติโจรย่อมไม่ใช่บุพการีเพราะ บุพการีนั้นอโหสิกรรมให้ไปแล้ว

จึงเป็นเรื่องซับซ้อนเกินจะหยั่งต่อไป

สรุป.... เมื่อมารลีลา ไม่ยอมชดใช้ด้วยใจบริสุทธิ์ก็เป็นวงจรแห่งกรรมมันเองต่อไป เราทำบุญของเราดีฝ่า....

 

หลังจากงานบุญโรงทาน แจกอาหาร ที่ปรึกษาได้พบครูบาไชย ท่านทักมาเลยว่า พลังบุญเต็มเพียบ

แน่นอน จากวิกฤติใหญ่ที่ผ่านมา เราจึงคิดอยากจะฟื้นฟูชีวิตและทุกอย่าง

จึงไม่เห็นช่องทางอันใดจะเหมาะสมแก่เวลา เท่าการสร้างรูปพระพุทธเจ้าถวายพระศาสนา

โดยที่ปรึกษาจะพิจารณาตามเหมาะสมในการนำพระนี้ ถวายครูบาอาจารย์พระอริยเจ้าต่อไป เพื่ออาศัยกำลังของท่านให้พระนี้ให้คนกราบไหว้บูชามาก ๆ

และ การทำบุญหากทำกันหลายคนย่อมเหมือนการต่อเทียน แสงสว่างนี้ก็จะยิ่งกว้างใหญ่สว่างต่อไป

ในเวลาที่ชีวิตเรามืดมิด แสงเหล่านี้จะนำทางให้เรามองเห็น ซึ่งบุญนี้ใครทำใครได้เท่านั้น

ตามหลวงปู่ชื้น สอนผมว่า "บุญบาปเอาไปไม่ได้ของใครของมัน"

เรียนเชิญทุกท่านร่วมทำบุญนี้ตามกำลัง แบบสบายใจ มากน้อยก็ตามกำลังของท่านแบบสบาย ๆ ครับ ไม่เหมือนเช่าพระเช่าวัตถุมงคลที่ต้องมีอัตราทำบุญ (เพราะของดีมีน้อย) ...

ความสุขใจคือสิ่งตอบแทนที่จะได้รับครับ.. และพอเราเห็นภาพงานบุญสำเร็จจะอิ่มเอิบใจแน่นอน..

 

ขออนุโมทนาบุญร่วมสร้างพระไม้ หนุน ศักดิ์ศรี พระอาจารย์ได้ไลฟประกาศชื่อมาแล้ว

ซึ่งรอช่างแกะไปเรื่อยๆแล้วสรุปค่าใช้จ่ายอีกที

ท่านคาดว่าค่าแกะน่าจะได้อยู่เหลือค่าปิดทองตกแต่งพระ รอแกะเสร็จต้องให้ช่างปิดทองประเมินราคาอีกทีครับ

ยังร่วมบุญได้อยู่ครับตามจิตศรัทธา...

 

จากการสอบถาม ทราบว่า ค่าใช้จ่ายปิดทองตกแต่งพระจะสูงมาก เผลอ ๆ สูงกว่าค่าแกะอีก เพราะ....

1.ทองคำราคาขึ้นสูงตอนนี้

2. ใช้กระจกอังวะ ตกแต่งฐานพระ ชายผ้า อาจใช้นิลติดดวงตาพระด้วย หากไม่มีก็ใช้กระจกอังวะ

กระจกอังวะ ทำจากตะกั่ว กิโลละ 4-5,000 บาท จะอายุยาวนานกว่ากระจกทั่วไป

ตามภาพที่ลง เป็นพระที่เคยสร้างครับ งดงาม

เรียนเชิญทุกท่านร่วมทำบุญด้วยกันครับ นานทีปีหนจะได้สร้างพระไม้หนุนดวงชะตาครบสูตรตามตำราแบบนี้...

 

ขณะนี้การถมดินยังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

และการสร้าง ปิดทองตกแต่งพระพุทธรูป ก็กำลังดำเนินการ

เรียนเชิญทุกท่านร่วมสร้างพระด้วยกันครับ

หากสร้างแกะ ปิดทองเสร็จแล้วก็ตามประเพณีทางเหนือจะจัดการทำพิธีอธิษฐานเบิกเนตรพระต่อไป

ซึ่งผมเคยเล่าไปแล้วตามสูตรทางเหนือ การเบิกเนตรพระถือว่าเรื่องใหญ่เลย

มีการใช้ผ้าขาวคลุมองค์พระ ใช้สีผึ้งปิดตา มีการใช้พัดขนนกยูงและใช้กระจกแว่นทิพย์ประกอบพิธีอย่างสำคัญยิ่ง

อำนาจของพระพุทธรูปที่สร้างตามลักษณะของมหาบุรุษ ดังคำครูบาอาจารย์สอนไว้ว่าศักดิ์สิทธิ์ทันที เรียกว่าไม่ต้องเบิกเนตรยังได้

แต่ตามความเชื่อประเพณีสร้างรูปพระพุทธเจ้าทั้งทีก็ให้ครบถ้วน

ในทางโลกทิพย์ ถือว่าสร้างพระอานิสงส์สูงมาก ๆ ซึ่งในช่วงมีเคราะห์ ดวงตก

แต่อดีตมาก็มักนิยมให้สร้างพระกันอย่างน้อยก็ได้ซึ่งกำลังใจ และหากทำถูกต้อง ก็มักจะได้ผลอย่างที่ผมได้เห็นพบมาแล้ว..

ยังร่วมบุญกันได้ครับ งบประมาณหากเกินก็ไว้เตรียมจัดงานพิธีอธิษฐานพระต่อไป...

 

จากการพูดคุยกับที่ปรึกษา ในแง่ตีความ ตามตำราการสร้างพระหนุนดวงชะตา

ดังผมเคยแซว "ผมสั่งร้านสังฆภัณฑ์ปิดทองไม่ง่ายกว่าเหรอ"

ท่านก็ตอบว่า "ง่ายไป"

โดยส่วนตัวผมก็ฝึกตามคำสอนของหลวงปู่เหิรมามาก ดังเล่าไปก็เลยเพลา ๆ หยุดการถวายพระไปเพราะท่านสอนมา

โดยปกติ คนเรานั้นต้องการที่พึ่งทางใจ เพราะยังค้นหาพระในใจกันไม่เจอ

แต่นั่นละครับ ถนนแห่งสงสารวัฏก็ยังยาวนานก็ค่อย ๆ พัฒนาเรียนรู้กันไป

การบรรเทากรรมที่ดีที่สุดคือภาวนา แต่ท่านก็บอกทำกันยาก บอกให้สวดมนต์ ทำกันได้พอบอกให้นั่งสมาธิภาวนา ฝึกใจ ทำกันยาก

โดยสรุปจากการพูดคุยกับที่ปรึกษาและที่ผมพบมา

ผมเองก็ได้พบ ผู้มีครูบาอาจารย์ดีหลายท่าน ซึ่งแน่นอนเขาก็มีช่วงเคราะห์หนักกันทุกคน

ผมถาม แล้วครูบาอาจารย์เตือนไหมก่อนจะเจ็บหนัก ล้วนตอบตรงกัน "ท่านให้เอาพระมาถวาย" ซึ่งนับว่าเรามาไม่ผิดทางแล้ว

การสร้างพระถูกต้องตามตำรา ก็อาศัยอานิสงส์และพลังบุญในการสร้างรูปเคารพของพระพุทธเจ้า ซึ่งสร้างถูกที่ ถูกเวลาและครบถ้วนล้วนต้องใช้ใจศรัทธาอย่างเต็มเปี่ยม เมื่อถวายเป็นของสงฆ์ตามสูตร ก็อาศัยพลังเหล่านี้ หนุนดวงชะตา และบรรเทาวิบากกรม อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร

แน่นอนมาจากศรัทธา...

 

ร่วมทำบุญครับ

 

แจ้งทางวัดแล้วครับ อนุโมทนาบุญด้วยครับ

 

บุญถมดิน เหลืออีกไม่มากแล้วครับ มีเวลาถึงเที่ยงวันนี้ เรียนเชิญทุกท่านร่วมบุญถวายไว้ในพระศาสนาด้วยกัน...

โดยปกติจะขอผู้ใหญ่บ้านประกาศเสียงตามสาย แต่พระอาจารย์เห็นว่าช่วงนี้คนลำบากกันมาก จึงไม่แจ้งข่าวแบบนั้น

หลัก ๆ มาจากสายเรานี่ละครับ และจากการไลฟ์สดไป..

 

เรารู้กันดีว่า โลกเรามีหลายมิติซับซ้อน ดังตัวอย่างของยุคสมัยก่อนที่สร้าง

กงล้อธรรมจักร ซึ่งมี 31 ซี่ อันหมายถึง 31 ภพภูมิ ซึ่งในภพภูมิที่ว่านี้มีพวกเปรต อสุรกายด้วย โดยใครจะอยู่ภพภูมิไหนก็ตามวาระจิตและบุญบารมีที่สั่งสมมานั่นเอง

ทีนี้ ในแง่คาถาอาคม หรือเครื่องรางของขลังก็มาจากการดึงพลังงานที่มีอยู่ในโลกเรามาใช้

ซึ่งการดึงพลังงานนี้ หากผู้มีจิตสูงส่งแค่นึกแว๊บเดียวก็ดึงมากันได้แล้ว

แต่ผู้มีจิตรองลงมา ก็อาศัยสิ่งอื่นมาประกอบ ซึ่งครูบาอาจารย์จะถ่ายทอดเคล็ด วิธีการไว้ หากแปลง่ายๆ ก็คือทิ้งรหัสลับไว้

รหัสลับอาจมาในรูปคาถาอาคม หรือแต่งขันธ์ครูเพื่อดึงพลังงาน หรือเชิญครูบาอาจารย์ระดับสูงลงมาด้วยวัตถุประสงค์แต่ละอย่างกัน

การปราบมาร... เมื่อเราตั้งใจสร้างสายปราบ ก็ย่อมต้องใช้พลังงานด้านปราบมาร และให้ได้ผลดีที่สุดคือใช้หลัก "กรรมสนองกรรม..."

 

สาระสำคัญเช้านี้คุยกะที่ปรึกษา

คนเราสั่งสมบารมี ซึ่งผมเคยยกตัวอย่างเปรียบเทียบง่ายๆ มาแล้วตามคำสั่งสอนที่ได้รับมา

บุญ เปรียบเหมือนหยดน้ำ โดยก่อนเป็นหยดน้ำก็เป็นไอความชื้น แล้วก็สะสมจนกลั่นเป็นหยดน้ำ เมื่อสะสมมาก ๆ ก็จะกลายเป็น

บารมี... ซึ่งคือน้ำที่เต็มตุ่ม ส่วนจะเต็มเมื่อใดก็แล้วแต่การตักของเราเอง เราสามารถตักให้คนอื่นดื่มได้ ดังคำผู้มีบารมีพอย่อมช่วยผู้อื่นได้

ทีนี้ การทำบุญ ก็มีหลายวิธี

ในมุมกลับกันการสะสมบาปอย่างพวกมาร ก็ทำได้ในอีกด้านเช่นกัน

....ดังคำครูบาอาจารย์สอน ทุกการกระทำไม่ว่าทางกาย วาจาใจ ก็จะส่งผลต่อไปในเบื้องหน้า โดยตัวเราจะบันทึกไว้ในจิตใจเราเอง

ดังบางท่านทำบุญมากจนลืมไปว่าเคยถาม แต่วิบากที่เราบันทึกไว้ไม่ลืม

เมื่อจิตใกล้ดับ พูดง่าย เมื่อเริ่ม เกิด ต่อไปก็แก่ เจ็บ ตาย

พอใกล้ตายตอนนั้น บุญบาปที่ทำมาฝังในจิตก็จะเริ่มสู้กันแล้ว

ดังครูบาอาจารย์ท่านนึงได้กล่าวไว้ตอนใกล้ละสังขาร ตามบันทึก ว่า

พวกเราฝึกจิตมาตลอดชีวิตก็เพื่อในช่วงเวลานี้

แน่นอนระดับท่านย่อมไปถึงจุดสูงสุดแล้ว

แต่พวกเราก็ต้องสะสมกันต่อไป

บุญทุกอย่างไม่ว่าจะให้ทาน รักษาศีล สร้างพระพุทธรูป วิหารทานต่าง ๆ ก็อยู่ที่เราเลือกทำครับ

....ซึ่งผลจะเกิดอย่างไรก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรคิด เพราะทุกสิ่งมาจากศรัทธา และการสร้างให้เกิดผลประโยชน์เท่านั้น...

 

ร่วมทำบุญสร้างพระและถมดินค่ะ