นิทาน เล่ายำไปเรื่อยเปื่อย ของ นาย Higtmax

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย Higtmax, 23 ธันวาคม 2018.

  1. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,324
    ค่าพลัง:
    +4,774
    สวัสดีครับ สมาชิกเว็บพลังจิตทุกๆท่าน วันนี้กระผมก็จะมาขอเปิดนิทานเพื่อความบันเทิง โดยยำจาก ประสบการณ์ส่วนตัวบ้าง ประสบการณ์ผู้อื่นบ้าง หรืออะไรก็ตามที่เห็นว่ามายำได้

    เอาล่ะมาเริ่มกันเลยดีกว่า

    1.เรื่องแม้แต่ สาบานว่าจะร่วมเป็นร่วมตายทุกชาติไปก็ไม่จีรัง

    ณ. กาลครั้งนึง หลายร้อยปี นานมาแล้ว มีชายสองคนเป็นนักรบชั้นดี ในกองทัพของมหาราชพระองค์นึง ทั้งคู่เป็นสหายร่วมรบชนิดรับคมหอกคมดาบแทนกันได้ สนิทเสมือนเป็นเนื้อเดียวกัน หลังสงครามระดับชาติแล้ว ทั้งคู่ก็นับถือคบหาเป็นสหายกันจนสิ้นอายุไข สาบานว่าจะร่วมเป็นร่วมตายทุกชาติไป

    ณ.ยุคปัจจุบัน ทั้งคู่ก็ยังมาเกิดใกล้กัน คบหาสนิทสนมกันตั้งแต่ยังเด็ก เข้าสู่วัยทำงานก็ทำธุรกิจร่วมกัน แต่คราวนี้มาถึงจุดเปลี่ยน เมื่อธุรกิจของทั้งคู่ มีปัญหาการเงิน ขัดแย้งกันทางหุ้นส่วน มิตรภาพก็สั่นคลอน ต่างฝ่ายก็ต่างกล่าวโจทก์อีกฝ่ายว่าเป็นผู้กระทำผิด ถึงขั้นฟ้องกัน มิตรภาพที่มีก็สั่นคลอนดุจเหมือนแก้วแตก หลังจากนั้นทั้งคู่ก็กลายเป็นศัตรูมองหน้ากันไม่ติด ต่างฝ่ายต่างจ้องทำลายซึ่งกันและกัน จนในที่สุดก็มีผู้มีฝีมือเข้ามาจัดการยุติปัญหาทั้งสองฝ่าย โดยเสนอให้ทั้งคู่แบ่งกิจการแล้วแยกไลน์กันออกไป นั่นก็มีเรื่อองที่ไม่น่าเชื่ออีกว่า ผู้ที่มายุติศึกครั้งนี้ ชาติที่แล้วเป็นนายทหาร ฝั่งตรงข้ามที่ถูกฆ่าตาย


    โอ้ล่ะหนอวัฏฏะ ช่างซับซ้อนดีแท้ ตามคำสอนของพุทธศาสนาที่กล่าวว่า วัฏฏะ เป็นวงจรที่ยาวไกลนานมากจนนับจำนวนภพชาติไม่ได้ เป็นภัยที่น่ากลัวที่สุดของมนุษย์-เทพ-พรหม-และสัตว์ทั้งหลาย
     
  2. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,324
    ค่าพลัง:
    +4,774
    นายต้องสู้จอมอันธพาล


    ชายผู้นึงเกิดมาในในสลัมแห่งนึง ณ.ยุค 25xx ขอเรียกว่านายต้องสู้ นายต้องสู้มีนิสัยไม่ยอมใครมาตั้งแต่เล็กๆจนโต ไม่ว่าใครทำอะไรให้นายต้องสู้ไม่พอใจแล้วล่ะก็ ต่อให้ เป็น เพื่อนฝูง พี่น้อง ญาติ อายุน้อย อายุมาก หรือใครก็ตาม นายต้องสู้ก็พร้อมจะเข้าไปบวกได้ทันที หรือแม้กระทั้ง นายต้องสู้ไม่ถูกชะตาใคร จะมีเหตุผล หรือไม่ นายต้องสู้ก็จะเข้าไปหาเรื่องราวได้หมด จนคนทั้งชุมชนตั้งฉายาว่าไอ้หมาบ้ากัดไม่เลือก และแน่นอนครอบครัวของนายต้องสู้ก็ปลงใจไว้แล้วว่า นายต้องสู้ อาจพบจุดจบก่อนวัยอันควร


    ครั้นเติบโตเป็นวัยผู้ใหญ่ นายต้องสู้ก็ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน เพราะไปทำงานที่ไหน ก็มีแต่เรื่องราวทะเลาะวิวาท ทั้งกับ เพื่อนร่วมงาน หัวหน้าหน่วย ผู้จัดการ ไปทั่ว เพราะเป็นคนอัตตาสูง มาทำงานสาย นึกจะหยุดก็หยุด ทำงานพลาดประจำ และใครว่ากล่าวตักเตือน นายต้องสู้จะถือว่าเป็นศัตรูที่ต้องดวลหมัดทันที และสุดท้ายก็โดนเชิญออกจากงานทุกบริษัทที่ได้ทำ ไปปสมัครที่ไหนก็ไม่มีใครรับเพราะพฤติกรรมเป็นที่กล่าวขาน และในที่สุดนายต้องสู้ก็เข้ามาร่วมกับแก๊งค์นักเลงอันธพาลประจำสลัม รับจ้างตีหัวคน ทวงนี้ ขนของผิดกฏหมาย ประกอบมิจฉาอาชีวะ ไร้แก่นสารไปวันๆ



    วันนึงชีวิตของนายต้องสู้ก็มาถึงจุดเปลี่ยน เมื่อแกงค์ของนายต้องสู้นักแนะกันไปเที่ยวผับแห่งนึง ที่มีผู้อิทธิพลระดับจังหวัดเป็นเจ้าของ เข้าไปนั่งกินเหล้าก็ายตาก็เหลือบไปเจอกับแกงค์คู่อริ ก็เริ่มส่งสายตาท้าทายกัน ชี้หน้าด่าทอกัน และเตรียมหยิบขวดเหล้ามาฟาดกัน การ์ดของทางผับ คนนึงเห็นท่าไม่ดีก็เข้ามาระงับเหตุ พร้อมตะโกนว่า


    การ์ดของทางผับ: เฮ้ยถ้ าพวกมึงจะตีกันก็ออกไปตีกันข้างนอก



    ครั้นพอสิ้นเสียง พอมีเสียง โพล๊ะ จากขวดเหล้า ตีเข้าหัวการ์ดผับคนนั้นทันที จะเป็นใครทำไม่ได้นอกจาก....



    ตายห่าแล้ว หัวหน้าแกงค์ของของนายต้องสู้ ร้องเสียงหลง พลางด่า นายต้องสู้ ว่า ไอ้ต้องสู้ มึงทำอะไรลงไปมึงรู้มั๊ย



    นายต้องสู้ : ก็มันมาเผือกเรื่องของพวกเราทำไม หมั่นไส้มัน กระแดะทำตัวเป็นฮีโร่



    หัวหน้าแกงค์ของนายต้องสูู้ : ไอ้ต้องสู้นี่มันถิ่นของเฮีย xxx เขานะโว้ย มึงทำร้ายคนของเขาแบบนี้ เท่ากับมึงหยามหน้าเขานะ


    นายต้องสู้:ฉิบหายล่ะกู


    หัวหน้าแกงค์ของนายต้องสูู้ : ไปเร็วรีบเผ่น กันเถอะ หัวหน้าแกงค์ของนายต้องสูู้เหลือบไปเห็นการ์ดอีกชุดนึง รีบวิ่งเข้ามาพร้อมอาวุธครบมือ


    แกงค์ของนายต้องสูู้รีบเผ่นไปลานจอดรถ สตาท์ มอเตอร์ไซค์หนีตายกันจ้าละหวั่น พร้อมกับมีเสียงตะโกนไล่หลังมา


    การ์ดของทางผับอีกชุด : เฮ้ย พวกมึงจะหนีไปไหน มากินลูก .38 ก่อนสิ



    ปัง ปัง ปัง เสียงปืน .38 S&W ดังรัวขึ้นใส่แกงค์ของนายต้องสูู้ โชคดีที่ไม่มีผู้ใดได้รับกระสุน .38 เป็นของฝาก มีเพียงนายต้องสู้ เท่านั้นที่โดนคมกระสุนถากเป็นทางยาวที่ขมับ



    แกงค์ของนายต้องสู้หนีตายกลับมาบ่อนสนุ๊กที่เป็นแหล่งซ่องสุมได้สำเร็จ จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน เว้นแต่ หัวหน้าแกงค์ของนายต้องสูู้กับนายต้องสู้ ที่นั่งพูดคุยกันถึงเรื่องคอขาดบาดตายที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า



    หัวหน้าแกงค์ของนายต้องสูู้ : เอ็งรู้ใช่มั๊ยว่าจะเกิดอะไรขึ้น เฮีย XXX เขาคงไม่ยอมง่ายๆ หรอก ที่เอ็งไปทำลูกน้องเขา พรุ่งนี้เขาคงมาตามหาตัวเอ็งถึงที่ เอ็งไม่ตายก็คางเหลือง ทางเดียวที่เอ็งจะรอดคือออกไปจากจังหวัดนี้ซะ ที่เหลือข้าจะรับหน้าไว้เอง



    นายต้องสูู้ : ครับ ลูกพี่



    หลังจากนั้นนายต้องสู้ก็กลับไปบ้านเก็บข้าวเก็บของบอกพ่อแม่ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น พ่อแม่นายต้องสู้ก็น้ำตาคลอ พร้อมอวยพรให้ โชคดี ไปยังสถานที่ปลอดภัย ในช่วงกลางดึกของวันนั้น นายต้องสูู้ ก็รีบบึ่งมอเตอร์ไซค์หนีตายไปจังหวัดอื่นทันที



    แล้วก็เป็นจริงอย่างที่ หัวหน้าแกงค์ของนายต้องสูู้ คาดไว้ ช่วงเช้า เฮีย XXX ก็เข้ามาตามตัวนายต้องสูู้ถึงบ้าน


    เฮีย XXX : ไอ้ต้องสูู้ มึงมุดหัวอยู่ไหน โผล่มาคุยกับข้าหน่อย เมื่อคืนมึงทำร้ายคนของกู หยามหน้ากูถึงถิ่น ถ้ามึงไม่ออกมาล่ะก็กูจะพังบ้านมึง - เฮีย XXX ตะโกนด่าที่หน้าบ้าน


    หลังจากนั้นพ่อแม่ ของ นายต้องสูู้ก็ออกมาต้อนรับ เฮีย XXX อธิบายเรื่องราวๆต่างๆ พร้อมกับบอกว่าลูกชายได้หนีไปแล้ว และกราบเท้าเฮีย XXX วิงวอนขอความเห็นใจ อยู่นาน จนเฮีย XXX เรึ่มใจอ่อน


    เฮีย XXX : เอาล่ะครั้งนี้ฉันจะยอมเชื่อพวกแกก็ได้ แต่ว่าถ้าฉันเจอ ไอ้ต้องสูู้ ที่ไหน ฉันก็ขอไม่เกรงใจนะ เอ้าพวกเราไปืี่อื่นโว้ย


    หลังจากนั้น เฮีย XXX ก็เดินทางไปยังบ่อนสนุ๊กที่ซ่องสุมของแกงค์นายต้องสูู้ แล้วทำการสั่งสอนสมาชิกแกงค์นายต้องสูู้ทีล่ะคน จนหน้าช้ำ ปากแตก ตาเขียวไปตามตามๆกัน แล้วที่ยิ่งไปกว่านั้น หัวหน้าแกงค์ของนายต้องสูู้ก็โดน เฮีย XXX ใช้ด้ามปืนตบเข้าที่หัวเป็นคำสั่งสอน


    เฮีย XXX : นี่คือคำสั่งสอน ทีหลังเวลาจะรับใครเข้าแกงค์ ก็หัดหาเลือกพวกที่มันพูดจากันรู้เรื่อง มีสติปัญญาบ้าง ไม่ใช่ไปเอา พวกวัวควาย มีเขาไว้ใช้ขวิดอย่างเดียว แล้วต่อไปก็อย่าสะเออะมาเหยียบถิ่นข้าอีก


    หัวหน้าแกงค์ของนายต้องสูู้ : ครับเฮีย



    หลังจากนั้นก็ผ่านไปเป็นเวลา 15 ปี เฮีย XXX ผู้มีอิทธิพลประจำจังหวัดก็ได้เสียชีวิตลง นายต้องสู้ทราบข่าวก็เลยได้โอกาสกลับบ้านเกิดของตัวเอง แต่การกลับมาของนายต้องสู้ก็เหมือนฝันร้ายของผู้คนในชุมชน เพราะ นายต้องสู้ ก็กลับมาทำพฤติกรรมตั้งตนเป็นนักเลงอันธพาลเกะกะเหมือนเดิม สร้างความเดือดร้อน รำคาญให้ผู้อื่นตลอดเวลา ถึงแม้จะมีอดีตเพื่อนร่วมแกงค์มาเตือนให้วางมือได้แล้ว fด้วยความเป็นห่วง



    อดีตเพื่อนร่วมแกงค์ : เฮ้ยไอ้ต้องสู้อายุก็เลข 4 แล้ว ข้าว่าเอ็งวางมือเถอะว่ะ ข้าเป็นห่วงเอ็ง พ่อแม่ ครอบครัวเห็นจะได้สบายใจ

    นายต้องสู้ : อย่ามาสนใจเรื่องของข้านักเลย เอ็งมีชีวิตที่ดีข้าก็ดีใจด้วย ข้าเป็นแบบนี้ ก็ดีอยู่แล้ว อยาก จะซัดใคร ก็ทำ คนก็เกรงใจ เด็กๆในชุมชนก็ยกย่องข้าว่าข้าเป็นคนจริง

    อดีตเพื่อนร่วมแกงค์ : (ถอนหายใจแล้วเดินจากไป)

    แต่นายต้องสู้ไม่รู้ว่าการกลับมาครั้ง ได้มีผู้นึง ติดตามการเคลื่อนไหวของนายต้องสู้อยู่ลับๆ แล้วแสยะยิ้มรอจังหวะแก้แค้นจากมุมมืดอย่างกระหาย

    วันนึง ได้มี วัยรุ่นต่างถิ่นคนนึงเข้ามาเล่นสนุ๊กในบ่อนสนุ๊กประจำชุมชน และบ่อนนี้นายต้องสู้ก็ได้คุมอยู่ แต่ทว่าเข้ามาเล่นแล้วก็ไม่เล่นเปล่า ก็ได้ทำท่ายียวน กวนส้นเท้า นายต้องสู้อยู่เป็นระยะๆ จนนายต้องสู้ทนไม่ไหว ได้ร้องตะโกนชี้หน้าออกไปว่า

    นายต้องสู้: เฮ้ย มึงจงใจกวนส*** กูใช่มั๊ย ปีนเกลี่ยวข้ามรุ่นแบบนี้ อยากตายก่อนวัยอันควรรึเปล่า กูให้เวลามึงไสหัวออกไป ไม่อย่างนั้นมึงจมกองเลือดอยู่ตรงนี้แน่

    วัยรุ่นต่างถิ่น:กูก็แค่อยากวัดกับมึงอ่ะ ว่าเก๋าจริงมั๊ย กรูไม่กลัว นักเลงเด๋อด๋าแบบมึงหรอก อย่างมึงก็เก่งแค่คนอ่อนกว่ามึงเจอของจริงจะได้สักกี่น้ำ ตัวๆเอาเปล่า ถ้าได้ ไปที่ป่าจากตรงนั้นเลย

    นายต้องสู้: ได้เลย ถ้ามึงวอนนัก กูจะจัดให้ อย่างมึงแค่ปลายคางสองสามทีก็สลบแล้ว

    หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เดินกันไปเตรียมวัดฝีมือที่ป่าจาก และระหว่าทางเจ้าวัยรุ่นต่างถิ่นคนนั้นก็ขยิบตาส่งสัญญาณให้ใครคนนึงแอบบตามหลังมา เมื่อทั้งคู่มาถึงป่าจาก ทั้งนายต้องสู้ และเจ้าวัยรุ่นคนนั้น เตรียมตั้งการ์ด เข้าต่อสู้กัน ยังไม่ทันที่จะสาวหมัด คมแฝก ก็ฟาดใส่ท้ายทอยของนายต้องสู้ทันที นายต้องสู้ถึงกลับล้มทั้งยืนเพราะถูกฟาดเข้าจุดสำคัญ ทันทีทีชายคนนั้นฟาดเสร็จก็ได้ถุยน้ำลายใส่ร่าง นายต้องสู้ พร้อมกล่าวว่า

    การ์ดผับคู่กรณีเก่า: ถุย ไอ้ขี้ครอก มึงรู้มั๊ยว่ากูรอวันนี้มา 15 ปี กูนึกว่าคนระยำอย่างมึงจะโดนใครเขาสอยไปซะอีก แต่ก็ดี รอยแผลที่มึงฝากกูไว้ที่หัว วันนี้กูจะเอาคืนให้หมด อ้อ แต่กูมีดอกเบี่ยด้วยนะ โทษฐานที่ให้กูรอนาน

    ว่าแล้ว การ์ดผับคู่กรณีเก่าก็กระหน่ำฟาดคมแฝกไปยังร่างของนายต้องสู้ที่หมดสติอยู่ จนร่างของนายต้องสู้บอบช้ำห้อเลือดเต็มไปหมด เมื่อสาแก่ใจแล้ว การ์ดผับคู่กรณีเก่ากับเจ้าวัยรุ่นต่างถิ่นก็ได้ช่วมกันหาม ร่างที่ไร้สติของนายต้องสู้ลงคลองประจำชุมชน

    แต่ทว่าเคราะห์ดีที่ ยมบาลยังไม่อยากเอาชีวิตนายต้องสู้ตอนนี้ ร่างของนายต้องสู้ได้ถูกกระแสน้ำพัดพามาที่ริมตลิ่งแห่งนึง ผุ้ผู้พบเห็นแล้วก็แจ้งให้รถพยาบาลมารับตัวไปรักษา

    นายต้องสู้สลบไป 3 วัน สามคืน เมื่อฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ที่โรงพยาบาล และเห็นพ่อแม่ น้ำตาคลออยู่ตรงหน้า ครั้นจับขยับตัวก็รู้สึกติดๆขัดไปหมดจึงรู้สึกงุนงง เป็นอย่างยิ่ง และพ่อ แม่ ก็อธิบายให้นายต้องสู้ฟังว่า หมอได้มาตรวจสภาพร่างกายของนายต้องสู้แล้ว พบว่า สมอง ระบบประสาทที่ควบคุมร่างกายของนายต้องสู้นั้นบอบช้ำอย่างหนัก อาจจะต้องใช้ไม้ค้ำยันหรือนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิต พอนายต้องสู้ได้ฟังคำอธิบายของพ่อแม่ นายต้องสู้ก็ถึงกับน้ำตาตก

    หลังจากออกจากโรงพยาบาลนายต้องสู้ก็มีสภาพเป็นผู้ทุพพลภาพ ไปไหนมาไหนก็ต้องใช้รถเข็น

    ใครไปผ่านมาเห็นก็มีทั้ง สงสาร สะใจ เสียดสี เย้ยหยัน (ส่วนใหญ่จะเป็นอย่างหลังมากกว่า) ตัวอย่างเช่น

    : เห็นสภาพไอ้ต้องสู้แล้วก็สงสาร คนตีน่าจะตีมันให้ตายไปเลย

    : ไอ้หมาบ้าโดนของจริงจนหมดสภาพเลยเรอะ คราวนี้มันก็ไล่กัดใครไม่ได้แล้ว

    : นี่ลูกๆ อย่าเอาแบบไอ้อันธพาลคนนั้นนะลูก เวลาเวรกรรมมันสนอง มันก็มีสภาพเป็นแบบนี้แหละ

    : ดีสมทำคนอื่นเขาไว้เยอะ โดนซะมั่ง ตอนนี้เป็นไอ้ลูกหมาหงอยเลย

    เมื่อนายต้องสู้ได้ยินคำเสียดสีด่าทอหนักๆเข้า ก็ ซึมเศร้าหมดอาลัยตายอยากในชีวิต วันนึงเมื่อไม่มีใครอยู่บ้านนายต้องสู้ จึงแอบกินยาพารา 100 เม็ดเข้า ฆ่าตัวตาย พร้อมเขียนจดหมายลาตายไว้ ลูกขอโทษ ที่ต้องตัดสินใจแบบนี้ ลูกโดนคนหยามหมิ่นทุกวันแบบนี้ลูกขอตายไปเสียดีหว่า อยู่แล้ว ไร้ศักดิ์ศรี


    หลังจากนั้นงานศพของนายต้องสู้ก็ได้จัดขึ้นที่วัดประจำหมู่บ้าน แต่ก็เต็มไปด้วยความเงียบเหงา นั่นก็เป็นเพราะวรีกรรมของนายต้องสู้นั้นเอง จะมีก็แต่ พ่อแม่ กับ อดีตเพื่อนร่วมแกงค์เท่านั้น บางทีสวดศพอยู่ดีๆ ก็มีถุงปฏิกูลปาใส่โลงของนายต้องสู้ ซึ่งพ่อแม่ ของนายต้องสู้ก็ได้แต่ปลง และยอมรับสภาพ จนวันเผา พ่อแม่ อดีตเพื่อนร่วมแกงค์ สัปเหร่อ ก็ได้ช่วยกันเข็นโลงเข้าสู้เตาเผา สัปเหร่อจุดไฟเผา โลงของนายต้องสู้ เปลวเพลิงก็โหมกระหน่ำแผดเผาร่างของนายต้องสู้ให้เป็นเถ้าธุลี และส่งควันสีขาวออกทางปล่องของเมรุแสดงสัจธรรมของชีวิต เกิด แก่ เจ็บ ตาย เพื่อนของนายต้องสู้คนนึงก็ได้เหลียวมองควันสีขาวที่ลอยละล่องออกมาทางปล่องเมรุนั้น พลางรำพึงออกมาด้วยความสลดใจว่า ไอ้ต้องสู้ นะไอ้ต้องสู้ ถ้าชาติหน้ามีจริงกูขออริษฐาน ให้มึงมีปัญญา เป็นคนดีมีศีลธรรม ไม่ต้องมาเป็น นักเลงอันธพาล ไร้แก่นสารจบชีวิตก่อนไว้อันควร แบบนี้ ขอให้ไปสุคตินะเพื่อน


    นี่แหละครับอย่างที่ สุภาษิตเขาว่ากันไว้ว่า เวลาอยู่ก็ทำดีให้เขาคิดถึงแซ่ซ้อง ดีกว่าทำเลวตายไปแล้วเขาก็ด่ากันชั่วลูกชั่วหลาน



    เรื่องของนายนายต้องสู้จอมอันธพาลก็ขอยุติไว้แต่เพียงเท่านี้
     

แชร์หน้านี้

Loading...