นิพพานคืออะไรรบกวนผู้รู้ช่วยตอบ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย lightmagician, 28 มิถุนายน 2010.

  1. cobol90

    cobol90 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +305
    ฟังคำของหลวงพ่อ สด และ หลวงพ่อ ฤาษีลิงดำ ถูกแล้ว
     
  2. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,463
    ค่าพลัง:
    +1,137
    นิพพานตามคำครูบาอาจารย์นับว่าชอบแล้วดีแล้ว
    นิพพานส่วนตัวยังคงเป็นสมมุติ แต่สงบเย็นจากกิเลส
     
  3. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    ถ้าจะตอบว่านิพพาน คือนั่นคือนี่
    ผมคิดว่าคงจะไม่มีประโยชน์อะไร

    แต่ถ้าตอบว่า
    การปฏิบัติธรรม ด้วย ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา
    และเห็นผลอย่างประจักษ์ในธรรมแต่ละขั้น
    จะทำให้จิตใจของเราดูดดื่มในการปฏิบัติ
    และมีความฝังใจ เชื่อมั่น ต่อมรรคผลนิพพาน มากขึ้นเรื่อย ๆ
    จนกระทั่งเป็นอจลศรัทธา ต่อ พระนิพพาน

    และเมื่อถึงจุดนั้น
    นิพพาน จะ คืออะไร หรือมีความหมายว่าอย่างไร
    ก็หมดความจำเป็นไปแล้ว ในขณะนั้น
     
  4. รู้รู้ไป

    รู้รู้ไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +3,168
    นิพพาน คือความพ้นทุกข์ ดับจากทุกข์อย่างสิ้นเชิง
    ทุกข์อันมี เหตุจาก กิเลส ตัณหาอุปทาน
    ดับทุกข์ทั้งปวงได้สิ้นเชิงต้องการอะไรอีก?
    จากผู้มีทุกข์ แล้วได้ยินได้ทราบมา
    อนุโมทนากับทุกท่านผู้ศึกษาธรรมครับ
     
  5. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    นิพพานไม่มีกาม ไม่มีความอิจฉาริษยา ไม่มีความถือตัว!
     
  6. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    นิพพานเริ่มจากสัมมาทิฐฐิ คือเห็นถูกต้องตามทำนองคลองธรรม เช่น เชื่อว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว มีหิริ โอตัปปะ ตามด้วยศรัทธาในพระรัตนตรัย ไม่จาบจ้วงดูหมิ่นพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ถึงพร้อมทั้งปริยัติ ปฏิบัติ แล้วปฏิเวชจะตามมา ทั้งนี้และทั้งนั้นสติเป็นสิ่งสำคัญในการประกอบความพากเพียร เพื่อให้เกิดปัญญา รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ เช่น การทำกรรมฐานก้เพื่อให้เข้าใจในไตรลักษณ์ลงมาที่กาย หรือกายลงมาที่ไตรลักษณ์ (อันเดียวกันนั่นแหละ) สุดยอดของการปฏิบัติธรรมคือการเอากิเลสออกจากจิตใจ และมีปัญญาหยั่งรู้ความหมายของไตรลักษณ์ ว่าขันธุ์มันเป็นไตรลักษณ์อย่างไร และมันไม่ควรหลงไหลไม่ควรยึดมั่นถือมั่นอย่างไร ปฏิบัติได้ ภาวนาได้ก็เรียกว่า
    บรรลุธรรม ในที่สุดก้นิพพาน.....
     
  7. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    จริงๆแล้วภาคปฏิบัติไม่มีอะไรมากมายเหมือนภาคตำรับตำรา สรุปแล้วสำหรับนักปฏิบัติจริงๆถ้าต้องการภาวนาเพื่อไปไวๆก็ลงมาที่กายเรานี้เอง เอามันอยู่ในวงนี้แหละ กายนี้อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา ไม่สวย ไม่งาม เพ่งลงจนถึงโครงกระดูกในอริยาบถต่างๆ มีอยุ่แค่นี้เอง ไม่ต้องไปหาอื่นไกล กายเรากระดูกเรา ขันธุ์เรานี้แหละ พิจรณาเข้ากับไตรลักษณ์ก็นิพพานได้!
     
  8. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    สุดยอดของการปฏิบัติธรรมคือการชำระกิเลส ชำระกิเลสคืออะไร คือการขุดกิเลสออกจากสันดาน เอามันออกจากจิตใจ โลภะ ราคะ โทสะ โมหะ อิจฉาริษยา เป็นต้น เอามันออกให้หมดจากจิตใจ เรียนมามากศึกษามามาก แต่ถ้าหากกิเลสหมักดองสันดานและจิตใจก็สูญปล่าวในการปฏิบัติธรรมและการครองตนในการดำเนินชีวิต โพสต์ข้อความหรูๆร่ายยาวเป็นฉากๆหลายๆหน้า เพียงเพื่ออยากอวดให้คนเข้ามาอ่านว่าฉันรู้นะ ฉันเก่งนะ ฉันภูมิธรรมสูงนะ ก็สู้พระอริยะที่ท่านอยู่ตามป่าตามเขาแต่ท่านเป้นคนเงียบๆแต่ท่านนิพพานแล้วไม่ได้ การดำรงตนมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ต้องรู้จักให้เกียรติเพื่อนร่วมวัฏฏะสงสาร รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา คนเราทุกคนอย่าได้อยากมี อยากเป็น อยากเด่นอยากดังกันทุกคน มีความเป้นคนกันเหมือนกันทุกคน รู้จักหัดเอาใจเขามาใส่ใจเรา บางคนก็เป้นพุทธภูมิ แต่จิตใจก้ยังใช้ไม่ได้อยู่ กิเลสยังหนาอยู่ และนี่ก้ห้องธรรมะแท้ๆ แต่ก้ยังเห้นข้อบกพร่องของเพื่อนๆอยู่ อย่าเพิ่งไปดุถุกดุหมิ่นคนอื่นเขา เขาบรรลุธรรมสูงกว่าตนจะรู้เหรอความอิจฉาริษยาน่ะใคร สอนไว้ ธรรมะก้อย่างที่บอกที่ชี้ทางสว่างให้ มันไม่ได้อยู่ที่การเรียนมากหรือพุดมาก มันอยู่ที่การปฏิบัติด้วยปัญญามาก และศรัทธามาก และความเพียรมาก ลงมาที่กายนี้เป้นอนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา เอาให้ดี.....!
     
  9. peenangfa

    peenangfa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +228
    ผมก็ไม่รู้จะอธิบายให้ออกมาเป็นความหมายโดยตรงยังไง ที่บอกได้ก็คือ

    ผู้ที่เข้าถึงซึ่งพระนิพพาน จะหลุดจากภพชาติและการเวียนว่ายตายเกิดซึ่งก็คือไม่มีการเกิดอีก

    ซึ่งผู้ที่สามารถเข้าถึงซึ่งพระนิพพานได้นั้น คือผู้ตัดทุกอย่างจนหมดสิ้น และต้องการเข้าถึงพระนิพพานจริงๆ

    มีดินแดนที่ผู้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานอยู่ด้วยนะครับ ซึ่งก็คือ แดนนิพพาน

    แต่แดนนิพพานนี้ เราสามารถไปได้นะครับ ถ้าเรามีบุญบารมีและจิตที่สะอาดพอ ^^
     
  10. ชญามณี

    ชญามณี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +29
    เท่าที่รู้ ก็ คือ พ้นทุกข์ ว่าง เบา
    หรือ อะไรที่ เหนือ กว่า อื่นใด คงบอกไม่ได้
    แต่ เชื่อ ว่า เป็นเป้าหมายปลายทาง ที่สุดของที่สุด
     
  11. Rorschach

    Rorschach สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +15
    นิพพาน คือ สภาพที่ดับกิเลสและกองทุกข์แล้ว สภาวะที่เป็นสุขสูงสุดเพราะไร้กิเลสไร้ทุกข์ เป็นอิสระภาพสมบูรณ์แบบ นิพพานมีอย่างเดียวแต่แบ่งออกเป็นสองด้านคือ

    1 สอุปทิเสสนิพาน คือ นิพพานยังมีอุปาทิเหลืออยู่บ้าง
    2 อนุปาทิเสสนิพพาน คือ นิพพานไม่มีอุปาทิเหลือ

    การแปลความหมายอย่างนี้ เกิดความสับสนระหว่าง ภาวะ [ สอุปาทิเสนิพพานและอนุปาทิเสสนิพพาน ] กับ บุคคล [ สอุปาทิเสสและอนุปาทิเสสบุคคล ] กล่าวคือนิพพาน 2 นั้น เป็นการแสดงภาวะของนิพพานเท่าที่บุคคลเข้าไปเกี่ยวข้อง ส่วนบุคคล 2 เป็นการแสดงถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับนิพพาน ดังนั้น เพื่อป้องกันความสับสน ให้แยก สอุปาทิเสสนิพพานและอนุปาทิเสสนิพพาน ไว้พวกหนึ่ง สอุปาทิเสสบุคคลและอนุปาทิเสสบุคคล ไว้พวกหนึ่ง ไม่ให้ปะปนกัน และศัพท์สำคัญที่จะช่วยแยกความหมายในกรณีนี้ก็คือ อุปาทิ ในสอุปทิเสสนิพพานและอนุปาทิเสสนิพพาน ซึ่งแตกต่างจาก อุปาทิ ในสอุปาทิเสสบุคคลและอนุปาทิเสสบุคคล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 กุมภาพันธ์ 2011

แชร์หน้านี้

Loading...