%%%%นิมิตประหลาด และฝันประหลาด กับ ท้าวพญามัจจุราช %%%%%%%%%

วันเกิดครบสามสิบปี ไปนั่งสมาธิ ริมทะเลพัทยา แล้วจิตวูบ รู้สึกตัวว่ามีอีกร่าง
ลอยขึ้นมาจากตัวเรา ขณะเดียวกัน ก็เห็นทุกคนที่มากับเราชัดเจน นั่งพูดคุยกัน
แต่เราทำสมาธิ หลับตาอยู่ (ไม่ได้หลับแล้วฝัน) รู้สึกตัว สักพักมี กระแสจิตบอกให้เงยหน้า ขณะที่ตัวลอยอยู่เท้าไม่ติดพื้นสูงจากพื้นได้ฟุตนึง พอเงยหน้าก็พบว่า
มีบุคคลกลุ่มหนึ่งมาหา สี่ตน รู้โดยกระแสจิตว่า เป็นเหล่ายมฑูต แต่งชุดดำสากลมาหาเรา แล้วพูดสื่อสารกับเราโดยไม่ขยับปาก ว่า มาอยู่ที่นี่เอง ตามหาทั่วเลย
เราก็ตอบไปโดยไม่ได้ขยับปากเช่นกัน เหมือนนึกในใจคุยกัน ว่า พอดีเลยอยากไปแล้วเบื่อๆ ผู้ที่มานั้นรู้จากวาระจิตเป็นหัวหน้าเขา พูดว่า ยังก่อนยังไม่ถึงเวลา เหลืออีกครึ่งหนึ่ง เราจึงรู้ว่าหมายความว่าอะไร สักพัก เขาก็ลอยจากไป เราก็รู้สึกว่าร่างกายเราเลื่อนคล้อยลงข้างล่างเข้าไปในตัวกายเนื้อ จึงลืมตาขึ้น ผ่านไปอีกหลายปี ระหว่างทำสมาธิก่อนนอนคืนหนึ่ง ก็รู้สึกแบบเดียวกัน คือ มีอีกร่างออกจากตัวเราไปปรากฎ ลานกว้างๆ แห่งหนึ่ง ทราบแต่ว่าเป็น ลานในนรกภูมิ
เราจึงได้ถามออกไป ปากไม่ได้ขยับ แต่กลับมีเสียงออกไปว่า ถามหาท่านท้าวพญามัจจุราช สักพักร่างเราก็ลอยไปในห้องแห่งหนึ่งรู้สึกเย็นกว่าลานกว้างๆ สักครู่ก็มีเสียงหนึ่งตอบมาว่า ท่านไม่อยู่ เพราะท่านหมดวาระแล้ว กำลังจะไปจากที่นี่ เราจึงถามต่อว่า แล้วท่านใดจะมาแทนท่านหรือทำหน้าที่แทนท่านเล่าเราจะได้มีธุระจะพูดคุยด้วย เสียงนั้นกลับตอบมาว่า

ก็ท่านไง เมื่อท่านหมดวาระ ก็จะมาที่นี่

หลังจากนั้น ออกจากสมาธิ เหตุการณ์ที่กล่าวมา จึงแคลงใจสงสัยเป็นอย่างยิ่ง มีใครพอจะให้คำตอบได้บ้างมั๊ย ว่า นึกไปเองหรือเปล่า หรือถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ เราจะเหลี่ยงได้มั๊ย
ปัจจุบัน จึงแต่ทำบุญๆๆๆให้มาก ทำมาก่อนจะมีนิมิตนี้ คือถวายข้าวสารเข้าวัด เดือนละ ยี่สิบกระสอบ(ห้าสิบกิโล) ข้าวหอมมะลิ สร้างพระพุทธรูป สององค์ ขนาดหกสิบนิ้ว ถวายไตรจีวร เครื่องบริวารอื่นๆ เครื่องบวช หลายครั้ง
สร้างพระไตรปิฎก ไทย บาลี พร้อมตู้ สองชุด สังฆทาน เทียนพรรษา ร่วมสร้างโบสถ์วิหาร ถวายพระไตรปิฎกฉบับย่อ แก่พระเกจิอาจารย์ เช่น หลวงตามหาบัว หลวงปู่สิม หลวงปู่ชา หลวงพ่อพุธ ฯ ทำบุญเล็กๆ น้อยตามโอกาส ประธานผ้าป่า ประธานกฐิน ทำด้วยทุนตนเองทั้งหมดแต่จะใช้ชื่อพ่อแม่เป็นประธานสร้างเผื่ออุทิศบุญให้ท่านด้วย (ยังมีชีวิตอยู่) ปัจจุบัน กำลังสร้างกุฏิกรรมฐาน ณ วัดแห่งหนึ่ง รวมถึง กำลังจะสร้าง ศาสนสถาน ถวายที่ดินเพิ่มให้วัด สร้างโบสถ์วิหาร และเจดีย์พระพุทธเจ้ายี่สิบแปดพระองค์ เนื่องจากนิมิตดังกล่าวจึงมีความคิดไม่อยากไปเป็นตามนิมิตเมื่อสิ้นอายุขัย แม้แต่ในสมาธิเองยังไม่มีคำตอบใดๆ จึงตั้งกระทู้เผื่อมีผู้มีภูมิธรรมมากกว่าเรา ให้คำตอบเราได้บ้าง โปรดอนุเคราะห์สงเคราะห์ ขอขอบพระคุณล่วงหน้าอย่างสูง

 

ไม่รู้ว่าเป็นยังไงนะครับ

แต่ก็ขอร่วมอนุโมทนา บุญด้วยนะครับ

ถ้าเราหมั่นทำบุญ อะๆก็จะดีขึ้นมาเอง

แต่ถึงยังไงก็ขอร่วมอนุโมทนา บุญด้วยนะครับ

 

อนุโมทนาบุญด้วยครับ
เอาง่ายๆเลยก็ไปดูว่าองค์คุณใดทำให้ไปเป็นเท่าที่ทราบนะครับยมบาลน่ะท่านเป็นเทวดานะถึงเวลาท่านก็ลงมาทำหน้าที่
ส่วนตัวผมเห็นว่าถ้าท่านไม่ได้อยากเป็นก็ไปนิพพานเลยสิครับหนีทุกอย่าง ไม่เอา มนุษย์ สวรรค์ พรหม ไปจุดเดียวพระนิพพาน จบกิจไม่ต้องวนเกิดเวียนตาย ดับทุกข์ สาธุ
สถาบันแสงทิพย์อริยธรรม
www.buddhapoem.com
www.buddha-dhamma.com
www.sangthipariya.com
www.sangthipariyadhamma.com

 

อนุโมทนาบุญทั้งหมดทั้งมวล ทำบุญมาก ถ้ามีทรัพย์ตั้งใจจะทำเหมือนกันค่ะ

 

อนุโมทนาสาธุด้วยคนค่ะ รู้สึกดี ๆ กับคนดี ๆ ที่ได้กระทำความดีเป็นตัวอย่างให้คนอื่น ๆ กระทำตามค่ะ

 

อนุโมทนาสาธุค่ะ ^___^


ทำดีย่อมได้ดี และย่อมได้รับสิ่งดีๆกลับมา

 

ผมเคยอ่านหนังสือมานะ เขามาพระยามัจจุราก็มีกรรม
คือ ท่านต้องถูกมารมาเอาน้ำกะทะทองแดงกรอกปากทุก 24 hr อ่า
ถ้าท่านเป็นผู้ืบทอดท่านจะโดนอยากพะยามัจจุราชรุ่นก่อนไหมครับ
โหพึ่งหมดไปท่าน 1 คุณคงเป็นท่าน 2 นะครับ
(หากผมตกนรกผมขอใช้เส้นให้ท่านให้ผมเป็นเทวดาเลยนะครับ 555+)

 

สุดยอดไปเลยค่ะ อนุโมทนาบุญกับท่านด้วยนะคะ แฮปปี้ล่ะอยากจะทำบุญเยอะๆแบบท่านมากเลยค่ะ แต่บุญน้อย ไม่มีโอกาสทำเลยค่ะ ฮือๆ T^T
ท่านนี้เป็นผู้มีบุญตัวจริงเลยนะคะเนี่ย อนุโมทนาสาธุๆ เยอะๆเลยนะคะ :dqsquchearr:VO

 

ขออนุญาติเล่าเรื่องจริงที่คล้าย ๆ กับเรื่องของคุณน่ะค่ะ

เผอิญดิฉันมีเพื่อนที่ทำงานด้วยกันสามีเธอเสียไปปีนี้ก็น่าจะ เต็ม 2 ปี พอดีในปีที่สามี

เพื่อนได้เสียชีวิตไปนั้นดิฉันได้ไปร่วมงานศพสามีเธอ แล้วให้เผอิญเพื่อนของสามีเธอเป็น

อาจารย์ท่านได้เขียนหนังสือทั้งภาษาอังกฤษ ว่า "The new road in Buddhism"

ซึ่งท่านได้แสดงวิธีและคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ ส่วนในภาษาไทย

ท่านตั้งชื่อว่า "คัมภีร์ชีวิต" และเหนือสิ่งอื่นใดอาจารย์ท่านนี้ยังได้ยอมเสียสละเวลา เสีย

โอกาสหลาย ๆอย่างในชีวิตทุ่มเทให้กับการปฏิบัติเพื่อต้องการพิสูจน์ว่า ญาน-ณาน มีอยู่

จริงหรือไม่? ศานาขององค์พระศาสดายังงอกงามอยู่หรือเปล่า? และสามารถนำพาบุคคล

สู่มรรคผลนิพพานได้จริงหรือไม่? เมื่อได้ปฏิบัติจนได้รับคำตอบคือ "เป็นเรื่องจริง" จึง

คิดว่า "ชีวิตนี้ มีค่านัก" วันนั้นเมื่อเกือบ 2 ปีที่ผ่านมาดิฉันได้ไปร่วมงานศพของสามีเพื่อน

ท่านนี้ และได้รับคำยืนยันว่าสามีเพื่อนนี้น่ะขณะนี้ กำลังทำหน้าที่ ยมบาล อยู่ เหตุที่

ท่านเล่าในงานศพนั้นเป็นไปเพื่อเป็นวิทยาทาน ให้คนเรานั้นยึดมั่นทำความดี มีศีล 5

หรือ ศีล8 ตามลำดับกำลังความสามารถ ปรกติเป็นที่รู้กันดีว่าสามีเพื่อนคนนี้เป็นคนดี ถึง

ตลอดชีวิต เหล้าดื่มบ้างบุหรี่ไม่สูบ ดื่มนมสดทุกวัน เข้านอนตอน 2 ทุ่มทุกวัน ออกกำลัง

มาตลอดออกวิ่งทุกเช้าราวๆ ตี 4-ตี5 และต้องมาเสียชีวิตโดยไม่มีอาการเจ็บป่วยเลย

โดยแกเสียชีวิตเพราะไปออกวิ่งออกกำลังกายตอนเช้ามืดได้ยินว่าแกรู้สึกเหนื่อยมากขนาด

ยังไม่ได้ออกวิ่งเลยในวันที่แกจะเสียแค่เริ่ม ๆ (จากคนที่วิ่งประจำ ๆตอนเช้าเล่าให้ฟัง)แก

ก็กำลังจะกลับบ้านอีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงหน้าบ้านแกก็ฟุบลงและสิ้นใจตายตรงนั้น อาจารย์

ท่านเล่าให้ฟังว่าน่าแปลก ก่อนที่คุณ.....จะเสียชีวิต 2 วันไ้ด้ อาจารย์ได้เห็นคุณสามี

เพื่อนมายืนน่ะค่ะที่ปลายเตียงและยกมือไหว้อาจารย์ตอนเช้า ๆ มืด อาจารย์ท่านก็รู้สึก

แปลกใจว่าเอ๊ะทำไมแกเห็นคุณโอภาส(นามสมมุตินะคะเพราะไม่อยากเอ่ยนามผู้วายชนม์)

แต่ก็ไม่ได้คิดว่าเป็นสังหรณ์หรือไร จนมาวันเสาร์ทีี่เหมือนจะมีนัดกับผู้ตายก็ได้รับ

โทรศัพท์ว่าคุณโอภาสเสียชีวิตแล้ว อาจารย์แกก็นึกทบทวนทั้งเหตุและปัจจัยหลายอย่าง

ที่ผ่านมาไม่ว่าที่แกเห็นคุณโอภาสก่อน 2 วันจะเสียชีวิตทีมายืนปลายเตียงยิ้ม ๆ ยกมือ

ไหว้แก และอีกหลายเรื่อง อาจารย์เล่าว่า ผู้ตายเคยถามว่าอาจารย์ทานเหล้าผิดศีลข้อ

5 ตก นรกใช่ไหม? อาจารย์ตอบว่าใช่ ผู้ตายถามต่อว่า แล้วผมละผมแค่ดื่มที่บ้านวันละ

1 แก้วเท่านั้นแต่ดื่มทุกวันละ? จะต้องตกนรกและถึงกับผิดศีลข้อ 5 ไหม? อาจารย์ว่า

หากไม่ดื่มได้น่าจะดีที่สุดนะ เพราะไม่ว่าดื่ม แก้วเดียว หรือหลาย ๆ แก้วหากไม่ดื่มจะได้ไม่

ผิดศีลไง (ท่านไม่ได้ตอบตรง ๆ นะคะ) แต่ยังได้เล่า ผู้ที่จะต้องไปเป็นยมบาลนะ ต้องมี

ความดีและความไม่ดีก้ำกึ่งกันอย่างละครึ่งเท่า ๆ กันถึงจะต้องไปรับหน้าที่อันทรงเกียรตินี้

ในนรกภูมิ แต่เมื่อไม่กี่วันมานี้ ภรรยาคุณโอภาสได้มาเล่าความฝันประหลาดให้ดิฉันฟัง

ว่า ฝันเห็นคุณโอภาสเที่ยวนี้ชัดเจนมากและได้พูดคุยกันด้วยโดยสามีได้มาร่ำลาว่าจะต้อง

ไปแล้ว หน้าที่ของเขาเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว และในวันเดียวกันนั้นเองบุตรชายคนเดียวของ

คุณโอภาสก็ฝันถึงคุณโอภาสเช่นกันว่าพ่อมาหา มาลา ทำให้ดิฉันคิดว่าคุณโอภาสน่าจะ

ทำหน้าที่เสร็จสิ้นแล้ว และจะต้องมียมบาลท่านต่อไปมารับหน้าที่ต่อแน่นอนทำให้ทราบว่า

หน้าที่เหล่านี้มันมีเวลา มีกำหนดเวลา และต้องมีตัวแทนเสมอ

อนึง เรื่องของท่านเจ้าของกระทู้นั้นดิฉันแน่ใจว่าท่านไม่ได้นึกคิดไปเองแน่ ถึงได้นำเรื่อง

ของสามีเพื่อนที่ทำงานในแผนกเดียวกันกับดิฉันยกมาเล่าให้ฟัง ว่าเรื่องนี้มีจริง หน้าที่

ของพญายม ยมบาล ก็คงเสมือนหนึ่ง พัศดีเรือนจำ หรือ เจ้าหน้าที่คุก ที่คอยควบคุม

ดูแลผู้กระทำผิด นักโทษ หรือสัตว์นรก ที่กระทำผิดให้ไปรับ โทษนั้นเอง ทั้งพญายม

และยมบาล ต่างก็เป็นเทพที่มีวิมานอยู่น่าจะรอบ ๆ ปากทางเข้าขุมนรกกระมังท่านไม่ได้

พำนักพักอยู่ในนรก หากแต่ต้องตัดสินพิพากษา ทำหน้าที่จึงเข้าไปในนรกภูมิ น่าจะ

เหมือน ท่านพัศดีเรือนจำ และผู้คุมต่าง ๆ ที่ต้องหมุนเวียนกันเข้ามาทำหน้าที่นะค่ะ แต่

เรื่องของท่านฟังดู เป็นดิฉันก็กลัวมากนะคะ? อยากให้ท่านรีบเร่งปฏิบัติสมาธิกรรมฐาน

ทำบุญ สุนทาน แผ่เมตตาและอธิษฐานจิต ต่อพระรัตนตรัยว่าท่านไม่ประสงค์ที่จะไปรับ

หน้าที่อันทรงเกียรตินี้ขอบำเพ็ญภาวนาเพื่อความหลุดพ้นเป็นที่สุดเทอญ ขอพระพุทธเจ้า

เมตตาให้การคิดดีปฏิบติดีของท่านสำเร็จเห็นผลทันทีด้วยเทอญ ขอให้ท่านโชคดี

เจริญในธรรม กำหนดมีพระพุทธเจ้าเป็นพุทธานุสติเสมอ