นี่หรือ...คือพุทธมณฑลในปัจจุบันนี้?

ความเป็นจริงที่เรา คนเมืองพุทธ ที่บรรพบุรุษเสียเลือดเสียเนื้อปกป้องประเทศ สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงกอบกู้เอกราช และถวายแผ่นดินนี้เพื่อเป็นพุทธบูชา ทุกท่านที่ต่างเรียกตนเองว่าเป็นพทธศาสนิกชน เป็นอุบาสก อุบาสิกา ต้องให้ความใส่ใจ และร่วมด้วยช่วยกันให้มากกว่านี้ :'(

เหตุการณ์นี้ ถูกค้นพบและเป็นที่ฮือฮา อยู่ในปี ๒๕๕๑ แล้วเรื่องก็เงียบหายไป แต่ตอนนี้ได้มีคนดีมีจิตสำนึกรักและเคารพคุณพระรัตนตรัย อดรนทนไม่ได้กับพฤติกรรมของคนไทยบางคนและเจ้าหน้าที่รัฐ จึงได้มีการตั้งกระทู้อยู่ในพันทิพ เพื่อปลุกจิตสำนึกของพุทธศาสนิกชน

ทั้งนี้ ก็ยังพบอีกว่า ความพยายามดังกล่าว ได้มีบางพวกพยายามกีดกันไม่ให้เกิดความเคลื่อนไหว พยายามลบกระทู้และข้อความของคนที่เคารพในคุณพระรัตนตรัยออก

จึงขอเรียนถึง พุทธศาสนิกชนทุกท่าน ร่วมด้วยช่วยกันทุกทางที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวิธีการบริหารจัดการ การดูแลพุทธมณฑลให้เป็นไปตามระเบียบและกฎกติกา ให้สำนักงานพุทธมณฑลใส่ใจตรวจตราและเข้มงวดการให้สถานที่ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ มิใช่ให้ศาสนาสถานซึ่งถือได้ว่าเป็นพระวิหารที่ประทับของพระพุทธเจ้าไม่ต่างกับสวนสาธารณะ

เรามาร่วมด้วยช่วยกันนะคะ เข้าไปโหวตกันมากๆๆๆๆๆๆๆๆ เท่าที่จะทำได้นะคะ อย่าให้มารร้ายชนะความดีได้ โหวตๆๆๆๆ เอาให้ชนะภัยน้ำท่วมกัน บางที่อานิสงส์อาจช่วยเรา แคล้วคลาดจากภัยน้ำท่วมนี้ก็ได้นะคะ

http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11252760/Y11252760.html

 

สวัสดีค่ะ...พี่น้องพุทธศาสนิกชนทุกท่าน วันนี้มีเรื่องสะเทือนใจอย่างหนึ่งมาเล่าสู่กันฟังและอยากเรียกร้องให้ท่านทั้งหลายที่เรียกตัวเองว่าเป็นชาวพุทธ
นับถือศาสนาพุทธ ช่วยกันออกมาปกป้องพระพุทธศาสนาของเรากันเถอะ

อย่าปล่อยให้ค่านิยมผิดๆ วัฒนธรรมผิดๆ หรือคนที่หลงผิดอีกมากมาย มาบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาและลบหลู่ดูหมิ่นพุทธสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของเราเลย

เข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน...

วันหนึ่งดิฉันได้ไปทำธุระแถวจังหวัดนครปฐมและเมื่อเสร็จธุระแล้ว ระหว่างทางที่ขับรถจะกลับเข้ากรุงเทพฯ
ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลาประมาณสี่โมงเย็น ก็ได้ผ่านทางเข้าพุทธมณฑล สถานที่อันศักสิทธิ์
ที่ดิฉันได้เคยแวะไปกราบนมัสการพระพุทธรูปปางลีลาองค์ใหญ่ซึ่งเคยเป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนชาวไทย
และยังจำได้ดีถึงความรู้สึกชุมชื่นใจและปลื้มปิติทุกครั้งที่ได้ไปกราบนมัสการพระพุทธรูปองค์ใหญ่น้อยในที่ต่างๆ
ซึ่งถือเป็นองค์แทนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราชาวพุทธ

ในระหว่างขับรถเข้าไปก็นึกแปลกใจแกมดีใจว่า ดีจัง มีคนมาแวะกราบพระกันมากมายขนาดนี้เลยเหรอ

พอไปถึงที่จอดรถ ยังไม่ทันได้ลงจากรถก็สังเกตุเห็นถึงสิ่งที่ตนเองคิดว่า ไม่น่าจะเกิดขึ้นในสถานที่แห่งนี้
นั่นคือ ผู้คนมากมายที่แวะเวียนมา ณ สถานที่แห่งนี้ มีเพียงไม่กี่คนที่มากราบสักการะพระพุทธองค์ด้วยความเคารพศรัทธาอย่างแท้จริง

สังเกตุได้จากการแต่งกายที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง ผู้หญิงนุ่งสั้น สั้นมากๆ ลมพัดทีผ้าปลิวลมแทบจะเห็นสิ่งอันควรสงวน.....

หรือแม้แต่คู่รักมากมายที่เดินเกาะเกี่ยวกันมา เพื่อถ่ายรูป เดินเล่น จู๋จี๋กัน หรือแม้แต่พรอดรักกัน ในอานาบริเวณสถานที่แห่งนี้

บ้างก็มาเพื่อใช้สถานที่แห่งนี้เป็นสนามกีฬา สวนสาธารณะ วิ่ง ขี่จักรยาน ออกกำลังกาย เตะฟุตบอล
ถึงแม้จะมีป้ายห้ามติดอยู่ก็ตาม

ทุกเย็น ที่นี่จะมีพระสงฆ์มานำสวดมนต์ทำวัตรเย็น ในวันพระก็จะมีพระสงฆ์มาร่วมทำวัตรเย็นกันมากหน่อย

ภาพที่เห็น ก็คือ ผู้หญิงนุ่งกางเกงขาสั้นมากๆ เดินเข้าไปนั่งใกล้ๆหลวงพ่อ โดยไม่รู้สึกถึงความไม่้หมาะสมเลยสักนิด

หรือแม้แต่ผู้หญิงที่นุ่งสั้น เดินผ่านหน้าหลวงพ่อไปในขณะที่ท่านกำลังสวดมนต์
ภาพเหล่านี้ กลายเป็นภาพปกติที่เห็นได้ทั่วไป ในสถานที่แห่งนี้ ไม่มีใครเลยที่จะคิดว่า การกระทำเช่นนี้
เป็นการลบหลู่ดูหมิ่นพระพุทธเจ้า พระธรรม และ พระสงฆ์ และ สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์อันควรแก่การสักการะบูชา

นอกจากนี้ยังมีคนอีกมากมายแสดงความไม่เคารพด้วยการสวมรองเท้าขึ้นไปบนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย
และผู้ที่ดูแลสถานที่แห่งนี้ ปล่อยให้เป็นไปเช่นนี้ได้อย่างไร?


<CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER><!--MsgEdited=0-->
โดย : ข้าวหน้าตาดี<!--MsgFile=0-->

 

<!--MsgFile=2-->

<CENTER>นุ่งสั้นมากๆๆๆๆๆ เดินเล่นชมสวน<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER><!--MsgFile=2-->
<CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

 

นอกจากนุ่งสั้นมากๆๆๆ แล้ว ยังใส่รองเท้าขึ้นเหยียบไปถึงองค์พระอีก​

 

ใส่รองเท้าขึ้นไปกราบพระ ..... ทั้งที่จริงๆก็มีที่วางรองเท้าอยู่ด้านล่าง
(ไม่มีใครดูแลเลยเหรอ และจิตสำนึกผู้คนหายไปไหน ห่วงแต่เท้าตัวเองจะร้อน ระวังจะไปร้อนมากกว่าที่อื่น)<!--MsgFile=8-->​

 

กลายเป็นเรื่องปกติของชาวพุทธไปแล้วหรือ ​

 

จะสั้นไปถึงไหน นี่ตาหน้าองค์สมเด็จพ่อนะ

 

นุ่งสั้น นอนเกลือกกลิ้ง แถมปลายเท้าชี้ไปยังองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
:'''( ช่างทำไปได้​

 

ป้ายบอกถึงระเบียบปฏิบัติภายในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ แต่ดูสิ ป้ายขาดขนาดนี้แล้ว
หน่วยงานที่รับผิดชอบ คิดจะทำอะไรให้ดีขึ้นบ้างหรือเปล่า
(ไม่มีงบประมาณทำนุบำรุง เงินภาษีไปไหน เงินบริจาคไปไหน หรือมีแล้วไปฝากไว้ที่อื่น)​

 

ทุกข้อที่ห้าม.....ฝ่าฝืนหมด เจ้าหน้าที่ก็ปล่อยปละละเลย
(เวลานี้ก็เวลากลางวัน ก็น่าจะเป็นเวลาราชการนะ)​

 

เป็นเรื่องปกติอีกเช่นกัน ที่คนจะมาออกกำลังกายกันรอบๆองค์พระ ทั้งที่มีป้ายห้ามอยู่เห็นๆ
(ตกลงจะให้เป็นสวนสาธารณะก็บอก จะขอประทานอนุญาตินิมนต์พระพุทธองค์ไปอยู่ที่อื่น เจ้าหน้าที่สำนักงานพุทธมณฑลจะได้เปลี่ยนเป็นเจ้าหน้าที่สวนสาธารณะแทน)​

 

หรือจะมานอนหนุนตักกัน หันปลายเท้าไปที่องค์พระ
ถ้าเป็นคุณ มีคนมายกเท้าหันใส่หน้าเรา หรือพ่อแม่เราบ้าง จะรู้สึกอย่างไร หรือว่าคุณจะบอกว่าเฉยๆ​

 

นี่คือความปกติที่ใครๆก็มักจะบอกว่า ไม่เห็นมีอะไร
จริงๆมันมีมากกว่านั้น ในมุมที่ลับตาคนมากกว่านี้แต่เราเก็บภาพไม่ได้
แต่ที่รู้ๆมาเจ้าหน้าที่เก็บถุงยางอนามัยไปทิ้งเท่าไหร่แล้ว? ​

(จะบ้าแล้วคะ ที่รโหฐานยังไม่สมควร นี่เป็นพุทธศาสนสถาน ดันมาพลอดรักกัน ตกลงเจ้าหน้าที่มีหน้าที่เก็บถุงยาง อำนวยความสะดวกให้ผู้คนเข้ามาเสพสังวาสกันหรือ สัตว์เดรัจฉานมันทำเพราะมันไม่มีสมอง มันมีแต่สัญชาตญาณของความเป็นสัตว์ ไม่รู้จักยัยั้งชั่งใจ แต่สัตว์บางชนิดยังรู้จักสำนึกบุญคุณ สั่งสอนก็จำได้บ้าง แต่นี่อะไรกัน) ​

<!--MsgFile=23--><!--MsgFile=23-->​

 

สำนักงานพระพุทธมณฑลมีอำนาจหน้าที่อุปถัมภ์คุ้มครองพระพุทธศาสนา ส่งเสริมการเผยแผ่หลักธรรมให้ประชาชนนำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ได้จริง เพื่อพัฒนาพุทธมณฑลให้เป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลก รวมไปถึงส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ เช่น งานวันมาฆบูชา งานวันวิสาขบูชา งานวันอาสฬหบูชา จัดกิจกรรมปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ งานเทศน์มหาชาติเฉลิมพระเกียรติ เป็นสถานที่พักสงฆ์อาคันตุกะ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนทั่วโลกร่วมกันปฏิบัติธรรมถวายเป็นพุทธบูชา เป็นศาสนสถานที่ที่ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ

แต่ขณะนี้ได้มีผู้ทำลายความภาคภูมิใจความเป็นพุทธสาสนิกชนของคนไทยทั้งประเทศ ทำลายภาพพจน์ของประเทศ ทำลายวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาน ทำลายชื่อเสียงของประเทศไทยให้ด่างพร้อยด้วยการแต่งกายไม่สุภาพ สวมเสื้อแขนกุด/เสื้อเกาะอก นุ่งกางเกงขาสั้น กระโปรงสั้นเหนือเข่า สวมรองเท้าเข้าไปในเขตศาสนสถาน มั่วสุม พลอดรัก เปิดเพลงเสียงดังเพื่อจัดกิจกรรมออกกำลังกายและผู้ออกกำลังกายก็แต่งกายไม่สุภาพ ทั้งๆ ที่เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม และยิ่งไปกว่านั้นมีการเสพสังวาสในเขตพิ้นที่โดยรอบองค์พระศรีศากยทศพลญาณประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์ ถุงยางอนามัยเกลื่อนกราด อันเป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่งยวด เป็นการปรามาสคุณพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์<O</O

ด้วยความพร้อมใจของชาวพุทธทั้งประเทศได้ร่วมกันจัดสร้างปูชนียสถานนี้ขึ้นเป็นพุทธานุสรณีย์ ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า อันแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองและยั่งยืนในวโรกาสมหามงคลกาลที่พระพุทธศาสนาเวียนมาบรรจบครบรอบ ๒,๕๐๐ ปี ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ทรงเคยเสด็จมาบำเพ็ญพระราชกุศลและเวียนเทียน รวมทั้งโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จแทนพระองค์มาปฏิบัติศาสนกิจ ณ พุทธมณฑลด้วยทุกครั้ง
<O</O
ดังนั้น จึงขอเรียนท่านที่เกี่ยวข้องโปรดใช้อำนาจหน้าที่ทั้งโดยตำแหน่งและโดยความเป็นพุทธศาสนิกชน ปกป้องพระพุทธศาสนาและรักษาสถานที่อันเป็นที่เคารพและศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนี้ ทั้งในเรื่องการแต่งกาย การจัดกิจกรรม และตรวจตราบุคคลภายนอกที่จะเข้ามากระทำการใดๆ อันไม่สมควร
<O</O
ขอได้โปรดดูตัวอย่างการเข้าสักการะพระแก้วมรกตซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองในเขตศาสนสถาน ผู้ที่จะเข้าไปกราบสักการะบูชาไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติจะต้องแต่งกายสุภาพ สวมเสื้อมีแขนและกางเกงยาวคลุมตาตุ่ม สำหรับผู้ที่สวมเสื้อสายเดี่ยว เสื้อแขนกุด เสื้อเกาะอก เสื้อบาง กางเกงขาสั้น กางเกงขาสามส่วน กระโปรงสั้นเหนือเข่า และกางเกงชาวเล จะไม่สามารถเข้าไปสักการะเขตพื้นที่ได้ จำเป็นต้องเปลี่ยนเครื่องแต่งกายและถอดรองเท้าก่อนเข้าไปในพระอุโบสถ<O</O

 

โดย : Harich

ขอลงประวัติของพุทธมณฑลนะครับ เผื่อน้องๆหลายๆท่านที่เพิ่งเข้ามาอ่านกระทู้ จะยังไม่ทราบ และเป็นการช่วยปลูกฝังให้เกิดจิตสำนึกดีๆ ที่จะช่วยกันปกป้องและรักษา เพื่อเป็นพุทธสถานอันเป็นที่เคารพ สมดังวัตถุประสงค์เจตนาของการสร้าง "พุทธมณฑลสถาน" แห่งนี้

" พุทธมณฑล "
ศูนย์กลางพุทธศาสนาแห่งโลก

เมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๘ รัฐบาลที่มี จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยความพร้อมใจของชาวพุทธทั้งประเทศได้ร่วมกันจัดสร้างปูชนียสถานขึ้นเป็นพุทธานุสรณีย์
เนื่องในวโรกาสมหามงคลกาลที่พระพุทธศาสนาเวียนมาบรรจบครบรอบ ๒,๕๐๐ ปี
ซึ่งจะครบในวันวิสาขบูชา พ.ศ.๒๕๐๐
ดังนั้นเมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๔๙๘ รัฐบาลได้กราบบังคมทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ไปทรงประกอบรัฐพิธีก่อฤกษ์พุทธมณฑล ณ บริเวณที่จะก่อสร้างพระพุทธรูปประธานพุทธมณฑล ปัจจุบันคือ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม

วัตถุประสงค์ในการสร้างพุทธมณฑลนั้น มี ๘ ประการ ข้อที่สำคัญที่สุดคือ เป็นพุทธบูชาและเป็นพุทธานุสรณียสถาน

ในวโรกาสที่พระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติไทย เจริญรุ่งเรืองมาจนครบ ๒,๕๐๐ ปี ในปี พ.ศ.๒๕๐๐

พระพุทธรูปพระประธานพุทธมณฑล ซึ่งได้รับพระราชทานนามว่า "พระศรีศากยะทศพลญานประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์"

ซึ่งสร้างขึ้นใจกลางพุทธมณฑล ต้นแบบที่อาจารย์ศิลป์ พีระศรี ออกแบบไว้นั้นสูง ๒.๑๔ เมตร แต่ต้องการให้มีความหมายจึงได้ขยายแบบออกไป เพื่อให้ได้ ๒,๕๐๐ กระเบียด
จึงต้องขยายออกไปอีก ๗.๕ เท่า เป็นความสูง ๑๕.๘๗๕ เมตร เมื่อขยายแบบเสร็จแล้ว
การสร้างต้องแบ่งพระพุทธรูปออกเป็น ๖ ส่วนคือ พระเศียร พระอุระ และพระพาหาข้างซ้าย พระนาภี และพระพาหาข้างขวา พระเพลา พระบาท และฐานบัวรองพระบาท พระกรซ้ายและขวา มีโลหะมาตรฐานเดียวกัน ๑๓๗ ชิ้น มีสูตรของส่วนผสมที่แน่นอนเรียกว่า "โลหะสำริด" เริ่มสร้าง เดือนมิถุนายน ๒๕๒๓ โดยมี อาจารย์ สาโรช จารักษ์ อำนวยการสร้าง แล้วเสร็จในปี ๒๕๒๕

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ ได้เสด็จทรงเททองพระเกตุมาลาไว้ เมื่อ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๒๔ ได้ประกอบพิธีเชื่อมประกอบพระเศียร กับองค์พระพุทธรูป เมื่อ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๒๕ โดยสมเด็จพระสังฆราชเสด็จเป็นองค์ประธานในพิธี และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดา ฯ เสด็จประกอบพิธีสมโภช เมื่อวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๒๕ และระหว่างกำลังดำเนินการสร้างอยู่นั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จไปทอดพระเนตรการสร้างองค์พระพุทธรูป

 

ขอบคุณที่ีช่วยรณรงค์อีกครั้ง ครับ
สถานการณ์น้ำท่วมตอนนี้ ไม่ทราบว่าแถบพุทธมณฑลจะเป็นอย่างไรบ้าง
หวังว่าหลังจากผ่านวิกฤติการณ์ครั้งนี้ จิตสำนึกสาธารณะจะยังอยู่ตลอดไป สังคมจะงดงาม.

 

โดย : Harich

ภาพนี้เป็นภาพที่และครูบาอาจารย์และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงเสด็จมาประกอบพิธีสำคัญต่างๆ ทางพุทธศาสนา ณ พุทธมณฑลสถานแห่งนี้

ขอทุกท่าน โปรดพิจารณา ด้วยเหตุ และ ผล ขอวางอารมณ์ที่ขุ่นข้องหมองใจทั้งหลาย
และใช้หัวใจชาวพุทธของท่าน มาช่วยกันคิดอย่างสร้างสรรค์ ว่าสมควรอย่างยิ่งหรือไม่

ที่เราจะดำเนินการให้ถูกต้องเหมาะควร กับพุทธสถานแห่งนี้ให้สมพระเกียรติของที่ประทับขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ถูกต้อง สมกับสถานที่อันประกอบพิธีสำคัญทางพุทธศาสนาให้เหมาะควร กับสถานที่ที่ครูบาอาจารย์ได้มาอธิษฐานจิต พุทธาภิเษก และเป็นสถานที่ที่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน พระบรมวงศานุวงศ์ได้เสด็จมา

และทำอย่างไร จึงให้สมกับเป็นพุทธสถานที่สำคัญของประเทศไทยที่มิใช่เพียงแค่ที่พักผ่อนหย่อนใจ และสวนสาธารณะธรรมดา

 

โดย : Harich
ป้ายแห่งนี้ ได้ติดไว้ยังพุทธสถานแห่งนี้ แสดงถึงบริเวณใดบ้างของพุทธมณฑล

ที่เป็นเขตของสังเวชนียสถานที่ควรให้ความเคารพอย่างสูงสุด <!--MsgFile=109-->

 

น้ำท่วมครั้งนี้เป็นกรรมมวลรวมของประเทศ แต่เราคนไทยไม่เคารพต่อผืนแผ่นดินที่ถือได้ว่าเป็นของพระพุทธองค์ เนื่องจากพระเจ้าตากสินทรงกอบกู้เอกราชและถวายผืนแผ่นดินนี่เป็นพุทธบูชาแล้ว ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นไม่สำนึกบุญคุณ แถมยังเหยียบย่ำ แล้วจะมาร้องขอให้ภัยพิบัตินี้หมดไป จางหายโดยเร็ว ร้องไห้คร่ำครวญ ทั้งๆ ที่ทำกันเองทั้งนั้น แล้วจะมาอ้อนวอน มันจะเป็นไปได้อย่างไร แถมภาคใต้ โจรยังเหริมเกริม ระเบิดป่วนเมืองฉวยโอกาสที่เรากำลังเดือดร้อนแสนสาหัญ

ดังนั้นเราต้องช่วยๆๆ กัน ช่วยบอกต่อ ช่วยบอกสื่อ ช่วยกระจายข่าว กดดันเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีคนพยายามเขียนจดหมายร้องเรียนก็แล้ว เรื่องก็ยังเงียบ ยิ่งกว่านั้น ตอนนี้ยังมีมือที่มองไม่เห็นพยายามปดปิดเรื่อง พยายามลบกระทู้อีกต่างหาก

ช่างน่าเศร้าที่เราไม่ช่วยกัน เห็นว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเอง :'''''(

 

แล้วก็ลุกขึ้นมาคุยโทรศัพท์ การแต่งกายแบบนี้ยืนอยู่ต่อหน้าพระสงฆ์เลย นี่เป็นเรื่องปกติของคนไทยไปแล้วหรือ โดย : ข้าวหน้าตาดี

(ใส่เสื้อกล้าม สายเดี่ยว กางเกงขาสั้น ใส่รองเท้าด้วย ต่างอะไรกับการแก้ผ้าอยู่บ้านเนี่ย อยากให้มีคนแปลกหน้าไปทำกับบ้านคุณๆ กันบ้างจัง )
ใส่อารมณ์มากไปเดี๋ยวว่าเราพวกกิเลสมากแต่กล้าเข้ามาว่าคนอื่น แต่ขอโทษทนไม่ได้จริงๆ ที่เห็นใครมาทำร้าย ไม่มีสัมมาคาระวะ ไม่เคารพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า<!--MsgEdited=27-->​

<!--MsgFile=27-->
<!-- End Message Box-->