น.พ.เกษม" แนะปั้นลูกอัจฉริยะ

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>"น.พ.เกษม" แนะปั้นลูกอัจฉริยะ สอนมีสมาธิ-สภาพแวดล้อมดี-ปลูกฝังธรรมะ </TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- "หมอเกษม" เชื่อลูกอัจฉริยะสร้างได้ แนะสอนให้มีสมาธิ มุ่งมั่น จัดสิ่งแวดล้อมที่ดี พัฒนาอีคิวต้องสร้างด้วยธรรมะสากลทั้งซื่อสัตย์ เมตตา เห็นคุณค่าคนอื่น และพาไปเยี่ยมญาติ หนุนเลิกสอบเข้าป.1




น.พ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี กล่าวบรรยายพิเศษ "สติปัญญาเด็กไทยกับการพัฒนาประเทศ" ในการสัมมนาประเมินผลโครงการพัฒนาสติปัญญาเด็กไทยเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ความเป็นอัจฉริยะเกิดจากการใส่ใจศึกษาเรื่องหนึ่งเรื่องใดอย่างมั่นคงตลอดเวลา และฝึกฝนอย่างน้อย 10 ปี ไม่ได้เป็นมาตั้งแต่ในท้องแม่ แต่ระหว่างตั้งครรภ์ หากได้รับสารอาหารครบถ้วนและเพียงพอมีส่วนช่วยสร้างความอัจฉริยะของลูก
"ลูกอัจฉริยะสร้างได้ โดยสอนให้ลูกมีสมาธิ มีความมุ่งมั่น และจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม ผู้ใหญ่ต้องคอยให้กำลังใจ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเตือนไว้หลายปีแล้วว่า เด็ก 1-3 ขวบควรเรียนความรู้ความดีและทำงานเป็น ทรงเตือนนำโครงการใดไปลงในพื้นที่ใดต้องคำนึงถึงปัจจัย 2 อย่าง คือ ภูมิศาสตร์ สภาพพื้นที่และสังคมศาสตร์ วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชุมชน การพัฒนาสติปัญญาเด็กไทยควรคำนึงถึง 2 ปัจจัยนี้" น.พ.เกษม กล่าว
ทั้งนี้ การสร้างความฉลาดทางอารมณ์ หรืออีคิวปลูกฝังให้ลูกมีธรรมะสากล 3 ข้อคือ 1.ยึดความสัตย์ความจริง 2.เห็นคุณค่าคน และ 3.มีความรักความเมตตาช่วยให้รู้จักควบคุมอารมณ์ หากเป็นชาวพุทธวันหยุดควรพาลูกเข้าวัด และพาไปเยี่ยมญาติบ่อยๆ เพื่อให้รู้สึกอบอุ่น คิดทำสิ่งใดรู้จักนึกถึงผู้อื่น
องคมนตรี กล่าวด้วยว่า การพัฒนาสติปัญญาและความฉลาดทางอารมณ์ควรเริ่มตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ มีภาวะโภชนาการที่ถูกต้อง โดย 1 ขวบแรกควรให้ดื่มนมแม่ และอ่านหนังสือให้ลูกฟัง เพราะเด็กรับรู้ตั้งแต่ 6 เดือนปลูกฝังให้รักการอ่าน เด็ก 2 -3 ขวบส่วนใหญ่ถูกส่งเข้าศูนย์เด็กเล็ก ควรตั้งคณะกรรมการศึกษาและออกแบบศูนย์เด็กเล็กให้มีคุณภาพ โดยเฉพาะครูและผู้ดูแลเด็ก หากไม่มีความรู้พัฒนาการ โภชนาการเด็ก จะทำให้เสียเวลา 2 ปี เด็ก 4-5 ขวบนั้นต้องเลิกสอบเข้าป.1 มิฉะนั้น ร.ร.อนุบาลจะกลายเป็นร.ร.กวดวิชาเพื่อเข้าป.1 แทนพัฒนาเด็ก รวมถึงการรู้จักถูกผิด จะต้องประทับศีลธรรมและวินัยให้แก่ลูกตั้งแต่เล็กๆ เด็กต้องการเหตุผลและยอมรับได้ ผู้ใหญ่ควรอธิบายเหตุผล เด็กจะเป็นคนดี มีเหตุผล หากใช้อารมณ์กับลูก จะเป็นคนใช้อารมณ์ และหากใช้เงินเลี้ยงลูก ลูกจะใช้แต่เงิน

-->

​

น.พ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี กล่าวบรรยายพิเศษ "สติปัญญาเด็กไทยกับการพัฒนาประเทศ" ในการสัมมนาประเมินผลโครงการพัฒนาสติปัญญาเด็กไทยเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ความเป็นอัจฉริยะเกิดจากการใส่ใจศึกษาเรื่องหนึ่งเรื่องใดอย่างมั่นคงตลอดเวลา และฝึกฝนอย่างน้อย 10 ปี ไม่ได้เป็นมาตั้งแต่ในท้องแม่ แต่ระหว่างตั้งครรภ์ หากได้รับสารอาหารครบถ้วนและเพียงพอมีส่วนช่วยสร้างความอัจฉริยะของลูก

"ลูกอัจฉริยะสร้างได้ โดยสอนให้ลูกมีสมาธิ มีความมุ่งมั่น และจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม ผู้ใหญ่ต้องคอยให้กำลังใจ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเตือนไว้หลายปีแล้วว่า เด็ก 1-3 ขวบควรเรียนความรู้ความดีและทำงานเป็น ทรงเตือนนำโครงการใดไปลงในพื้นที่ใดต้องคำนึงถึงปัจจัย 2 อย่าง คือ ภูมิศาสตร์ สภาพพื้นที่และสังคมศาสตร์ วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชุมชน การพัฒนาสติปัญญาเด็กไทยควรคำนึงถึง 2 ปัจจัยนี้" น.พ.เกษม กล่าว

ทั้งนี้ การสร้างความฉลาดทางอารมณ์ หรืออีคิวปลูกฝังให้ลูกมีธรรมะสากล 3 ข้อคือ 1.ยึดความสัตย์ความจริง 2.เห็นคุณค่าคน และ 3.มีความรักความเมตตาช่วยให้รู้จักควบคุมอารมณ์ หากเป็นชาวพุทธวันหยุดควรพาลูกเข้าวัด และพาไปเยี่ยมญาติบ่อยๆ เพื่อให้รู้สึกอบอุ่น คิดทำสิ่งใดรู้จักนึกถึงผู้อื่น

องคมนตรี กล่าวด้วยว่า การพัฒนาสติปัญญาและความฉลาดทางอารมณ์ควรเริ่มตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ มีภาวะโภชนาการที่ถูกต้อง โดย 1 ขวบแรกควรให้ดื่มนมแม่ และอ่านหนังสือให้ลูกฟัง เพราะเด็กรับรู้ตั้งแต่ 6 เดือนปลูกฝังให้รักการอ่าน เด็ก 2 -3 ขวบส่วนใหญ่ถูกส่งเข้าศูนย์เด็กเล็ก ควรตั้งคณะกรรมการศึกษาและออกแบบศูนย์เด็กเล็กให้มีคุณภาพ โดยเฉพาะครูและผู้ดูแลเด็ก หากไม่มีความรู้พัฒนาการ โภชนาการเด็ก จะทำให้เสียเวลา 2 ปี เด็ก 4-5 ขวบนั้นต้องเลิกสอบเข้าป.1 มิฉะนั้น ร.ร.อนุบาลจะกลายเป็นร.ร.กวดวิชาเพื่อเข้าป.1 แทนพัฒนาเด็ก รวมถึงการรู้จักถูกผิด จะต้องประทับศีลธรรมและวินัยให้แก่ลูกตั้งแต่เล็กๆ เด็กต้องการเหตุผลและยอมรับได้ ผู้ใหญ่ควรอธิบายเหตุผล เด็กจะเป็นคนดี มีเหตุผล หากใช้อารมณ์กับลูก จะเป็นคนใช้อารมณ์ และหากใช้เงินเลี้ยงลูก ลูกจะใช้แต่เงิน


ที่มา คมชัดลึก

</TD></TR></TBODY></TABLE>