บทความดี ๆ สำหรับคนทำงาน(ลองอ่านให้จบสิ)

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย AddWassana, 18 กรกฎาคม 2008.

  1. AddWassana

    AddWassana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    11,698
    ค่าพลัง:
    +21,186
    <TABLE borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>บทความดี ๆ สำหรับคนทำงาน(ลองอ่านให้จบสิ) </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=left bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    บทความดี ๆ สำหรับคนทำงาน




    ชนะโทรไปบริษัทนี้เป็นหนที่สองในรอบสัปดาห์นี้
    บริษัทนี้เป็นลูกค้ารายใหม่ที่เขากำลังติดตามเรื่องอยู่
    เสียงของโอเปอร์เรเตอร์ซึ่งรับสายด้วยเสียงที่เป็นมิตร และอ่อนโยนกล่าวว่า
    " สวัสดีคะบริษัทเอบีซีอิงค์ ยินดีต้อนรับคะ "
    คุณชนะกล่าวว่า "ผมขอเรียนสายกับคุณสมจิต ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรมนุษย์หน่อยครับ "
    โอเปอร์เรเตอร์กล่าวทักขึ้นมาว่า
    " นั่นคุณชนะใช่ไหมคะ"
    ชนะรู้สึกแปลกใจความสามารถในการจดจำเสียงของพนักงานคนนี้ได้
    เขากล่าวตอบด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความประทับใจ
    " ใช่แล้วครับขอบคุณที่จำได้ครับ " เธอกล่าวว่า
    " ยินดีคะ ดิฉันจะโอนสายให้นะคะ "
    หลังจากที่ชนะสนทนาเรื่องงานกับสมจิตจบ
    ชนะจึงถามสมจิตขึ้นมาว่า " คุณ
    พนักงานรับโทรศัพท์ของคุณหน่อยครับ
    เธอเก่งจริงๆเลยที่จำเสียงผมได้
    เป็นการให้บริการที่เกินความคาดหวังของผมจริงๆเลยครับ
    ผมเองไม่ได้เป็นลูกค้าประจำ และก็ไม่ได้โทรมาบ่อยๆ
    ขนาดที่เธอจะจำเสียงผมได้ด้วย เธอมีเคล็ดลับอะไรครับ "
    สมจิตพูดว่า "เธอชื่อเรณูคะ เธอได้รับคำชมอย่างนี้บ่อยๆ
    หากคุณฟังเรื่องของเธอมากขึ้นกว่านี้คุณจะยิ่งประทับใจ
    สนใจฟังไหมละคะ"ชนะรีบกล่าวตอบด้วยความกระตือรือร้นว่า
    " สนใจสิครับช่วยกรุณาเล่าให้ฟังหน่อยครับ "
    สมจิตเริ่มต้นเล่าอย่างอารมณ์ดี "คุณเรณูเธอตาบอดคะ
    เธอจึงต้องอาศัยการฟังเพียงอย่างเดียว
    ทำให้เธอสามารถจดจำชื่อคนได้ดี
    เธออาศัยอยู่ที่สมุทรปราการและมาทำงานที่ออฟฟิศนี่
    ซึ่งอยู่แถวดอนเมืองซึ่งถือว่าไกลมากโดยเฉพาะสำหรับเธอ
    ซึ่งต้องเดินทางโดยรถเมล์เหมือนคนปกติ
    ส่วนใหญ่ก็จะมีคนตาดีอย่างพวกเราที่คอยช่วยดูสายรถเมล์
    และส่งเธอขึ้นรถให้เธอไม่เคยมาสายเลย
    และก็ไม่เคยเรียกร้องขอรถรับส่งแต่อย่างใด
    ไม่เหมือนพนักงานปกติของพวกเราหลายคน
    ตอนที่เราย้ายสำนักงานจากในเมืองต้องขอรถรับส่งให้ด้วย
    แถมหลายๆคนที่มีรถส่วนตัวก็ยังมาทำงานสาย
    พร้อมกับเหตุผลสารพัด คิดแล้วอายแทนคนตาดีเลยคะ "
    เธอหยุดเว้นจังหวะสักครู่ก่อนจะเล่าต่อว่า
    " คุณเรณูมีทัศนคติที่ดีมากๆกับงานของเธอ
    เธอเคยเล่าให้ดิฉันฟังว่าสำหรับเธอแล้ว
    การรับโทรศัพท์ไม่ใช่งานแต่มันคือชีวิต
    เงินเดือนที่บริษัทให้กับเธอทำให้เธอสามารถเลี้ยงตัวเอง
    และครอบครัวได้อย่างดีนอกจากนี้เธอยังมีเงินเหลือกว่าครึ่งสะสมไว้อีก
    ที่จริงแล้วเพื่อนคนตาดีหลายคนเคยหยิบยืมจากเธอในยามฉุกเฉิน
    คุณเรณูกล่าวว่าบริษัทเรา เพื่อนร่วมงาน ลูกค้า และสังคมมอบโอกาส
    ให้เธอได้พิสูจน์ว่าเธอมีคุณค่าและสามารถมีส่วนร่วมสร้างสรรค์ประโยชน์
    ให้กับสังคมได้ เธอบอกว่าเธอพยายามทำงานของเธออย่างสุดความสามารถ
    ซึ่งรวมทั้งพยายามจำชื่อของผู้ที่โทรเข้ามาด้วย
    เธอบอกว่าทุกคืนก่อนเข้านอนเธออยากรีบนอนไวๆ
    เพื่อจะได้รีบตื่นขึ้นมาทำงาน เธออดใจรอจะมาทำงานไม่ไหว
    แหมอย่าหาว่าดิฉันบ่นเลยคะ แต่พวกตาดีๆอย่างพวกเรากลับภาวนา
    ให้ถึงวันหยุดเร็วๆเสียนี่กระไร" สมจิตจบเรื่องด้วยเสียงหัวเราะเบาๆ
    อย่างคนอารมณ์ดี
    เมื่อชนะมาเล่าเรื่องนี้ให้กับผมฟังในรถระหว่างที่เราเดินทางไปพบลูกค้าที่นวนคร
    ผมจึงเสริมความเห็นของผมไปว่า " เราน่าจะเล่าเรื่องนี้ให้คนที่มาเข้าอบรม
    กับเราฟังบ้างนะ บ่อยครั้งเรามักจะได้ยินคนบ่นว่างานหนัก
    หรือไม่ก็ปัญหาเรื่องงานมีมาก สิ่งที่คุณเรณูมีแตกต่างกับเรา
    ไม่ใช่ว่าเธอตาบอดหรอกครับ ความจริงพวกเราต่างหากที่บอด
    เราทัศนคติบอดไงละเราได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆมากมาย
    จากนายจ้างจนเคยชินกระทั่งมองไม่เห็นคุณค่าของสิ่งเหล่านั้น
    ยิ่งนานวันเรายิ่งเรียกร้องมากขึ้นโดยเฉพาะช่วงปลายปีแบบนี้
    ในขณะที่คุณเรณูกลับมองแตกต่างกับเราอย่างสิ้นเชิง
    บางคนเบื่องานจนอยากลาออกไปอยู่กับบ้านเฉยๆ
    มัน ทำให้ผมนึกถึงคำพูดของ Dr. Denis Waitley
    ผู้แต่งหนังสือขายดีชื่อ 'The psychology of winning'
    เขายกรายงานวิจัยในอเมริกาที่บอกว่าผู้เกษียณอายุออกจากงานไป
    โดยไม่มีภารกิจอะไรทำมีอายุเฉลี่ยเพียงแค่เจ็ดปีเท่านั้น
    พวกเขาตายเพราะความรู้สึกด้อยคุณค่า
    หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่าเฉาตายนั่นเองครับ
    เราบางคนมีโอกาสได้ทำงานในสิ่งที่ตนเองรัก
    ในขณะที่คนจำนวนมากไม่มีโอกาสอย่างนั้น
    อย่างไรก็ตามเรามีสิทธิที่จะเปลี่ยนมุมมองโดยหันมารัก
    และหลงใหลในสิ่งที่เราทำได้ โดยไม่ต้องรอให้ตาบอดแบบคุณเรณูก็ได้ "<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>

    <O:p></O:p>

    ขอบคุณบทความดีดีจาก accbacmu.com<O:p></O:p>



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
    โดย :@ตะเภาทอง2008@ (สมาชิก) โพสเมื่อ [ วันพุธ ที่ 16 กรกฎาคม 2551 เวลา 18:16 น.] [​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. gatsuja

    gatsuja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    837
    ค่าพลัง:
    +876
    บทความที่ดีสำหรับไว้เป็นตัวอย่างเตือนสติแก่คนทำงาน
     

แชร์หน้านี้

Loading...