บทความ...กระดานเล่าสู่กันฟัง

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย nouk, 19 ตุลาคม 2014.

  1. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,115
    ค่าพลัง:
    +3,085
    นิทานสักเรื่อง
    เขียนถึง อาจารย์คนแรก

    ช่วงที่มีปัญหา ก็ได้เข้ามาในเวปพลังจิต เปิดอ่านไปเรื่อย เจอกระทู้การเปิดตาที่สาม เข้าไปดู
    คุยกันเรื่องโลกทิพย์ น่าสนุกมาก เลยไปหาอาจารย์สามตาที่จตุจักร ดูออร่า เสร็จแล้วก็ยืนดูอาจาร์ยดูให้คนอื่นอยู่ห่างๆ รู้สึกตั้งแต่แรกว่าชอบมาก
    วันหลังเลยไปอีก ไปนั่งดูอาจาร์ยคุยกับคนอื่นๆ ดูการใช้พลังจิต การดึงพลังพระ ไม่เห็นเหมือนคนอื่นหรอก
    แต่รับรู้ได้ บางช่วงไม่มีใครมาก็นั่งคุยกับท่าน ท่านมีเมตตาสูง
    ไปครั้งหลังๆ ถามอาจาร์ยว่า สามารถเรียนวิชาที่ท่านสอนได้ไหม ตอบมาว่า พลังจิตยังอ่อน เรียนไม่ได้
    ต้องนั่งสมาธิให้มากๆ
    แต่ท่านก็หยิบเอกสาร วิชาที่สอนมาให้ แล้วสอนบางวิชา แล้วก็บอกแนวทางการฝึก แล้วให้เอกสารนั้นมา
    จึงถือว่าท่านเป็นคนแรกที่สอนเรื่องการใช้ ญาน
     
  2. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,115
    ค่าพลัง:
    +3,085
    เดี๋ยวหลังปีใหม่ ต้องฝึกหนักแล้ว วันนี้ได้รับเรื่องใหม่มาฝึก ช่วงนี้เลยสบายหน่อย
    นิทานเพลินๆ
    เข้าฌาน 4 ครั้งแรก
    เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว ชอบนับลมหายใจเล่น ไม่ได้คิดว่าปฎิบัติอะไรหรอก
    เดินอยู่ดีๆ ร่างกายก็หยุดไปประมาณ 3 วิ แล้วก็เดินต่อแล้วก็หยุดอีก เดินๆหยุดๆแบบตัวแข็งในท่ากำลังเดิน
    เป็นอยู่ประมาณ 30 วิ
    ตอนนั้ก็คิดว่าระบบประสาทไม่สามารถสั่งร่างกายได้ ถึงเวลาตายแล้ว 555
     
  3. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,115
    ค่าพลัง:
    +3,085
    นิทานบาดาล ฝึกถอดกายทิพย์ครั้งแรก

    อยากเห็น นรก สวรรค์ ได้ไปฝึกถอดกายทิพย์ ได้ไปเห็น หมดความสงสัยไปมาก
    วันแรก มีช่วงหนึ่ง ครูให้ไปเมืองบาดาล พอไปถึงประตูเมือง ยังไม่ได้พูดอะไรเลย โดนแทงที่หัวใจทันที
    ต้องหนีไปอยู่ข้างบนแล้วมองลงมา ส่วนผู้ร่วมฝึกคนอื่นเข้าได้ปกติ ตอนนั้นไม่เข้าใจ รู้สึกน้อยใจในโชคชะตา ไม่ได้เข้าไปคนเดียว
    ต่อมาได้ไปเที่ยวเมืองอื่นอีก 2 เมืองเข้าไปได้ปกติ
    แต่มีช่วงหนึ่ง ได้มีกระทู้ชวนกันไปเที่ยวเมืองบาดาล ก็ตามไปเที่ยว
    ได้เห็นเหมือนมีพิธีฉลอง มีการเข้าแถวแล้วเดินขึ้นเนินไปที่ประมุขของเมืองนั่งอยู่
    มองเห็นเจ้าของกระทู้เล่าสู่กันฟังอยู่ในแถว กำลังจะเข้าไปหา
    มีผู้ชายถือหอกวิ่งเข้ามาหาเป็นกลุ่ม ท่าทางจะทำร้าย เลยใช้วิธี หนี คือ สุดยอด กลยุทธ์
    ดูจากท่าทางแล้ว คงไม่ต้องถามว่าต้องการอะไร หรือว่าเราไปทำอะไรให้ คงเป็นเรื่องที่หนักอยู่
    เจอหน้าปุ๊บเหมือนจำกันได้เลย

    ไป 4 เมือง โดนไล่แทงซะ 2 เมือง ก็นะ ขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้เคยล่วงเกินท่านทั้งหลายทั้งปวง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ธันวาคม 2017
  4. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    กำลังสนุก รออ่านตอนต่อไปนะคะ:D
     
  5. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,115
    ค่าพลัง:
    +3,085
    นิทานอ่านเล่น
    รู้จักความเบื่อครั้งแรก

    เมื่อตอนเติบโตมา ชีวิตไม่มีระเบียบแบบแผนเลย ถูกเลี้่ยงแบบตามใจ อยากทำอะไรก็ทำ ไม่สนใจอะไร
    อยากไปเรียนก็ไป ไม่อยากก็ไม่ไป ใช้ชีวิตเฮฮา เที่ยวเตร่ ดื่มกิน กว่าจะเรียนจบได้ ต้องผ่านถึง 4 มหาลัย
    งานการเดี๋ยวทำ เดี๋ยวออก กินเหล้า เฮฮา ถึง ตี2-3 เป็นเรื่องปกติ
    คราวนี้มันเริ่มแปลกขึ้นไปอีก จากที่เคยเลิกกินแค่ ตี 2 ตี3 มันพัฒนาไปเป็น ตี 5-6โมง เป็นปกติ
    อะไรที่ทำเป็นประจำ มันจะชิน แล้วก็เพิ่มขึ้นไปเอง
    เหตุการณ์มันเกิดตอนคืนปีใหม่ กินเหล้ากันวงใหญ่ เกือบยี่สิบคน นั่งกินกันตั้งแต่เย็น
    พอถึงช่วง ตี 4 มีความคิดเกิดขึ้นว่า ชีวิตเราจะอยู่แบบนี้จริงๆหรอ มองดูรอบๆตัว ทุกคนสติเหลือน้อยแล้ว
    ผ่านมาครึ่งชีวิตแล้ว เรายังไม่เคยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเหมือนคนอื่น ไม่มีสาระมาตลอด
    แล้วอีกครึ่งชีวิตเราจะทำอะไร ชักเริ่มเกิดความเบื่อขึ้น ทุกวันก็เป็นแบบนี้ ซ้ำไปซ้ำมา
    คิดว่าลองหางานทำเป็นเรื่องเป็นราวดีกว่า ลองใช้ชีวิตแบบคนอื่นเค้าดูมั่ง เกิดเบื่อที่จะนั่งกินเหล้าต่อไป
    พอวงเลิกประมาณ 6 โมงเช้า ก็เลยหันหน้าไปทางวัด เห็นอยู่ไกลๆ ตั้งจิตขอเลิกดื่มของมึนเมาตลอดชีวิต
     
  6. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๑ ค่ะ วัันนี้ขอนำเรื่องการปรับอินทรีย์มาฝากกัน จำไม่ได้ว่าเคยนำมาโพสต์หรือยัง พอดีเฟสบุคเค้าเตือนวันนี้ในอดีต ก็เลยได้กลับไปอ่านเห็นว่ามีประโยชน์ดีค่ะ

    ...การปรับอินทรีย์ให้เสมอกัน...

    เพราะว่าถ้าสัทธินทรีย์ ความเชื่อของผู้ปฏิบัติแก่กล้า แต่อินทรีย์นอกนั้นอ่อน วิริยินทรีย์ - ความเพียรก็จะไม่อาจทำปัคคหกิจ (กิจ คือการยกจิต) , สตินทรีย์ - สติไม่อาจทำอุปัฏฐานกิจ (กิจ คือการดูแลจิต) , สมาธินทรีย์ ไม่อาจทำอวิกเขปกิจ (กิจ คือทำจิตไม่ให้ซัดส่าย) , ปัญญินทรีย์ ไม่อาจทำทัสสนกิจ (กิจ คือการเห็นตามเป็นจริง)

    เพราะเหตุนั้น สัทธินทรีย์อันกล้านั้น ผู้ปฏิบัติต้องทำให้ลดลงเสีย ด้วยพิจารณาสภาวะแห่งธรรม คือให้ใช้ปัญญาพิจารณาดูศรัทธา กับ ปัญญา เป็นธรรมคู่ ดุจพาหนะคู่เอก

    เมื่อเราใช้ปัญญา ศรัทธาอันกล้าย่อมจะลดลง คือไม่เอาแต่เชื่ออย่างเดียว รู้ความจริงว่ามีอยู่อย่างไรในสภาวธรรม และรู้จักตามเหตุตามผล

    ในอินทรีย์ 5 บัณฑิตทั้งหลายสรรเสริญความเสมอกันแห่งศรัทธากับปัญญา และสมาธิกับวิริยะ เพราะว่าบุคคลผู้มีศรัทธาแก่กล้าแต่ปัญญาอ่อน ย่อมเป็นผู้เลื่อมใสในสิ่งที่มิใช่วัตถุแห่งความเลื่อมใส

    บุคคลผู้มีปัญญากล้าแต่ศรัทธาอ่อน ย่อมตกไปข้างอวดดี เป็นคนแก้ไขไม่ได้ หมายความว่า มีปัญญามาก รู้ไปหมด แต่ไม่ศรัทธาที่จะปฏิบัติ ก็มีแต่ปัญญาไม่ได้มรรคผลอันใด ต่อเมื่อปรับปัญญาและศรัทธาให้เสมอกัน บุคคลนั้นๆ จึงจะเลืีอมใสในวัตถุแห่งความเลื่อมใสได้

    ท่านกล่าวต่อไปว่า โกสัชชะ (ความเกียจคร้าน) ย่อมครอบงำผู้มีสมาธิกล้า แต่มีวิริยะอ่อน เพราะสมาธิเป็นฝักฝ่ายโกสัชชะ

    อุทธัจจะ (ความฟุ้งซ่าน) ย่อมครอบงำบุคคลผู้มีวิริยะกล้าแต่สมาธิอ่อน เพราะวิริยะเป็นฝักฝ่ายอุทธัจจะ

    แต่สมาธิที่มีวิริยะประกอบเข้าด้วยกันแล้ว จะไม่ตกไปในโกสัชชะ (ความเกียจคร้าน) เพราะฉะนั้นอินทรีย์ทั้งสองคู่นั้น ผู้ปฏิบัติต้องทำให้เสมอกัน ด้วยอัปนาจะมีได้ก็เพราะอินทรีย์ทั้งสองเสมอกัน

    อินทรีย์มีกำลังแต่ละข้อ ควรแก่การงานต่างกัน นัยหนึ่ง ศรัทธาแม้มีกำลังมากก็ควรแก่สมาธิ หรือแก่ผู้บำเพ็ญสมถกรรมฐาน เมื่อศรัทธาความเชื่อมีกำลังอย่างนั้น ผู้ปฏิบัติเชื่อดิ่งลงไปจักบรรลุอัปนาได้

    เอกัคตาสมาธิมีกำลัง ก็ควรแก่ผู้บำเพ็ญสมถกรรมฐาน เมื่อเอกัคตามีกำลังอย่างนั้น ย่อมจะบรรลุอัปนาได้

    ปัญญามีกำลัง ย่อมควรสำหรับผู้บำเพ็ญวิปัสสนา ด้วยเมื่อปัญญามีกำลังอย่างนั้น ย่อมจะบรรลุลักขณปฏิเวธ คือเห็นแจ้งในไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

    แม้สมาธิและปัญญาทั้งสองเสมอกัน อัปนาก็คงมีได้และเกิดได้

    ส่วนสตินั้น ย่อมมีกำลังในที่ทั้งปวง เพราะสติรักษาจิตไว้ แต่ความตกไปในอุทธัจจะ เพราะอำนาจศรัทธา วิริยะ ปัญญา อันฝักฝ่ายอยู่กับอุทธัจจะ และรักษาจิตไว้ แต่ที่ตกไปในโกสัชชะเพราะสมาธิเป็นฝักฝ่ายโกสัชชะ

    เพราะฉะนั้น สติ จึงเป็นที่ปรารถนาในที่ทั้งปวง ดุจเกลือสตุ เป็นที่ปรารถนาในกับข้าวทั้งปวง และดุจผู้รอบรู้ในการงานทั้งปวง ย่อมเป็นที่ปรารถนาในสรรพราชกิจ

    เพราะฉะนั้น ในอรรถกถาจารย์จึงกล่าวว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสว่า สติ เป็นคุณชาติ จึงปรารถนาในที่ทั้งปวง

    เพราะเหตุไร?

    เพราะจิตมีสติเป็นที่อาศัย สติมีการรักษาเอาไว้ได้ เป็นเครื่องปรากฏ การยกและข่มจิต เว้นสติหามีได้ไม่...เอวัง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เมื่อเราให้ค่ากับสิ่งใด เราก็จะยึดมั่น สำคัญมั่นหมายว่าสิ่งนั้นมีค่า มีความสำคัญ ต้องเก็บ ต้องรักษา ต้องแสวงหามาครอบครองไว้ ทีนี้สิ่งที่เราไปให้ค่า ตั้งค่า ไม่ได้มีแค่สิ่งเดียวแน่นอน มันก็เกิดการสะสมไปตามกาลเวลา......

    แล้วอยู่มาวันหนึ่ง ปัญญาที่ได้อบรมดีแล้ว เกิดความเฉลียวฉลาด ได้เห็นความจริงอันเป็นสัจจะ สิ่งต่างๆ ที่เคยมีค่าคู่ควรกับการเก็บรักษา สะสม เหล่านั้น ก็กลายเป็นขยะกองโต ที่ต้องกำจัดให้หมดสิ้นไป มันกลายเป็นสิ่งปฏิกูล รุงรังรกใจขึ้นมาทันที
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,581
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    ทําให้นึกถึงพระพยอมค่ะ ท่านรวบรวมขยะมาเป็นประโยชน์ สาธุค่ะ
     
  9. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ต้องแยบคายนะคะ สาธุ
     
  10. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    หลวงพ่อโอภาสีเคยกล่าวไว้ว่าโลกนี้มีแต่ขยะ แม้เราเองก็เป็นขยะ
     
  11. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,115
    ค่าพลัง:
    +3,085
    นิทานตอนเที่ยง

    นิทาน เรื่อง ปราณ ปราณ คือ อะไร

    ปราณ คือ สภาวะการหมุนของจักรวาล มีผลกับร่างกายของท่านที่อยู่ในจักรวาล

    เมื่อคืนลองปรับสภาพปราณทั้ง 4 ร่างกายสดชื่นขึ้นมาก เลยมาเล่านิทานเพลินๆ

    ปราณมีผลต่อ 4 ส่วน ลม น้ำเหลือง เลือด ระบบประสาท

    ปราณลมไม่ปกติ มีลักษณะ หงุดหงิดง่าย ปวดเมื่อยร่างกายตลอด มีลมในช่องท้องมาก ทำให้อาหารย่อยช้า ไม่กระฉับกระเฉง

    ปราณน้ำเหลืองไม่ปกติ มีลักษณะ เป็นไข้บ่อย

    ปราณเลือดไม่ปกติ มัลักษณะ ปากดำ เล็บดำ

    ปราณระบบประสาทไม่ปกติ มีลักษณะ ปวดหัวบ่อย แน่นหน้าอกประจำ อ่อนเพลียผิดปกติ ขี้ลืม

    นิทานจะเล่าแต่วิธีแก้ไขจากการทำบุญ วิธีแก้ไขแบบอื่นจะไม่เล่า


    ปราณลมไม่ปกติ ควรสร้างพระ

    ปราณน้ำเหลืองไม่ปกติ ควรทำบุญเกี่ยวอวัยวะ ตา หู ฟัน

    ปราณเลือดไม่ปกติ ควรไถ่ชีวิตโค กระบือ

    ปราณระบบประสาทไม่ปกติ ควรสร้างวิหารทาน
     
  12. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ขออนุโมทนาค่ะ เราเองไม่ได้นั่งสมาธิกำหนดอะไรมานานแล้ว หลังจากที่นั่งแล้วตัวแข็งเป็นท่อนไม้ แล้วมักจะเห็นอะไรๆ โดยที่ยังหลับตาอยู่ บางครั้งก็ลอยออกไปไกลๆ จึงเลิกนั่งแล้วมาฝึกสติอย่างเดียว

    เมื่อก่อนเห็นอะไร รู้อะไรก็จะตื่นเต้นไปหมด เดี๋ยวนี้เฉยๆ เพิกไปหมด มันเป็นเองนะ จิตรู้ว่าเป็นแค่สภาวะธรรมที่มีเกิดแล้วก็มีดับ เป็นไปตามเหตุปัจจัย
     
  13. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,115
    ค่าพลัง:
    +3,085
    เมื่อคืนขึ้นไป อยู่ดีๆไปติดอยู่ที่ๆหนึ่ง ไม่ใช่ที่ๆกำหนดจิตไป

    พระโพธิสัตว์กวนอิม สอนมาว่า เมตตาควรมากกว่านี้

    มาพิจารณาดู หลังๆมานี้ตัดลง อุเบกขา หมด ก็ต้องปรับใหม่ให้เหมาะสม

    เมื่อคืนได้รับรู้เรื่อง ปราณ เป็นบทแรก เห็นว่าอาจเกิดประโยชน์

    ยังไม่รู้เหมือนกันว่าต้องไปทางไหน รู้แต่ว่า เยอะ ฝึกหนักมาก
     
  14. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เรื่องปราณนี้เราฝึกมาตั้งแต่ 10 ขวบ ครูบาอาจารย์สอนให้เมื่อครั้งที่ไปบวช 7 วัน ก็เป็นเรื่องของอานาปานสติ ลมหายใจที่เกี่ยวข้องกับพลังชีวิต พลังจิต การปรับสมดุลย์ธาตุในกาย การเดินปราณเป็นการปรับธาตุให้เกิดความสมดุลย์ก่อนที่จะเข้าสมาธิ โดยใช้ธาตุลมขับเคลื่อนไปในกายตามจุดต่างๆ เวียนจากขวามาซ้ายเป็นวงกลมจากหน้าอกไล่ไปจนสุดปลายเท้า แล้ววนขึ้นมาจนสุดที่กลางหน้าผาก

    ส่วนเรื่องเมตตานั้น ต้องเริ่มจากการเมตตาตนเองให้เป็นก่อน กระแสเมตตาจะแผ่ออกมาเองโดยที่ไม่ต้องกำหนดค่ะ เราจะรู้ได้จากผัสสะต่างๆ ที่กระทบ ไม่เลือกที่รักมักที่ชังเป็นอัปมัญญา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    บทความให้กำลังใจกับผู้ที่กำลังถูกความทุกข์รุมเร้าค่ะ

    ...เปลวเทียน...

    ฉันเคยเพ่งมองดูเปลวเทียนหน้าหิ้งบูชา แล้วอุปมาเอาว่า ชีวิตเราก็เหมือนเปลวเทียน

    เมื่อลมสงบมันก็จะลุกโชติช่วง เปล่งประกาย เหมือนชีวิตที่ไม่มีอุปสรรคและปัญหาใดๆ ชีวิตก็มีความสุข สดใส ไม่เศร้าหมอง

    แต่คราใดยามมีกระแสลมพัดผ่าน เปลวเทียนก็พลอยทำท่าจะดับเพราะแรงลม เหมือนชีวิตที่มีอุปสรรค มีปัญหามารุมเร้า บางครั้งเราก็แทบประคองกาย ประคองใจไว้ไม่ได้

    แต่ถ้าหากเรายกมือมาป้องไว้ เปลวเทียนก็ยังคงเปล่งประกายอยู่ได้ เหมือนชีวิตของเราที่จะต้องหาสิ่งมาปกป้องคุ้มกัน และ สิ่งที่จะปกป้องคุ้มกันชีวิตเราให้ประคองอยู่ได้อย่างงดงาม คือ หลักคำสอนขององค์พระศาสดาของเรานั่นเอง

    ปล. ก๊อปมาจ้า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,115
    ค่าพลัง:
    +3,085
    นิทานเพลินๆ

    ส่วนตัวเป็นคนชอบสงสัย พบเจอ อ่านเจอ วิชาอะไร ก็ชอบลองฝึก

    วันหนึ่งอยากรู้ว่า วิชา ธรรมกาย เป็นแบบใด ก็ลองอ่านจากเวบ จับหลักเบื้องต้น

    แล้วลองฝึกดู ย่อกายไปเรื่อยๆ ถอดไปเรื่อยๆ เพลินดี ทำไปสักพัก มีความรู้สึกเหมือนตอนเข้า

    ฌานลึกขึ้นตามลำดับ แน่วแน่มากขึ้นไปเรื่อยๆ โปร่งโล่งขึ้นเรื่อยๆ ถอดไปเรื่อยๆ กำลังเพลิน

    ดันไม่เห็นเป็นรูปแล้ว เห็นเป็นดวงจิต ถอดต่อไม่ได้

    แล้วไม่ได้ไปทางไหนต่อ เพราะไม่ได้ศึกษาวิชานี้

    มาทบทวนดู วิชาที่ ครูบาอาจารย์สอน ดีเหลือเกิน ท่านใดที่ชอบวิปัสสนาน่าจะได้ประโยชน์มาก

    ไปตัดกิเลสกันที่จิตได้เลย แต่ส่วนตัวไม่ชอบวิปัสสนา ลองทำแล้วไม่ชอบ เลยเข้าสมาธิอย่าง

    เดียว แต่ถ้าจิตเดินเอง มีธรรมผุดมา ก็พิจารณาไปตามวาระ แต่ถ้าให้ทำเองยังไม่อยากทำ

    อยากไปเรื่อยๆ สบายๆ ถือหลักแค่ ไม่ทำกรรมชั่วทั้งปวงก็พอ เอาแค่หนีนรกให้ได้ก็พอใจแล้ว
     
  17. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    วันนี้นำเรื่องพื้นๆ ใกล้ตัว มาฝากกันค่ะ

    การสวดมนต์เป็นอนุสสติกรรมฐาน

    เป็นพุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ
    บทสวดอิติปิโสฯ พรรณาถึงพระคุณทั้ง 3
    ผู้ที่พร่ำสวดมนต์เป็นหลัก จึงได้ทั้งสมาธิ สติและปัญญา เป็นผล

    การจดจ่อกับคำสวดเพราะกลัวว่าจะสวดผิด เป็น...วิตก...วิจาร
    ความซาบซึ้งในคำแปลของบทสวดเป็น.... ปิติ...สุข

    การฟังเสียงสวดมนต์ของตนเป็น สุตมยปัญญา
    ความแยบคายในคำแปล เป็นจินตามยปัญญา

    เมื่อนั่งสมาธิต่อจากการสวดมนต์ จิตจึงดำเนินสู่...เอกัคตา...ได้ไว
    สวดมนต์จึงเป็นสมาธิและฌาน
    นิวรณ์ต่างๆ ดับไปพร้อมกับการสวดมนต์

    ประโยชน์และคุณของการบรรยายมนต์
    อานิสงส์ของการสวดมนต์ส่งผลปัจจุบันทันที คือได้ทำกรรมฐานจนจิตบรรลุถึงปฐมฌาน กลายเป็นคนที่มีจิตใจเยือกเย็น สติมั่นคง ทุกข์ไม่นาน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    การรู้กายรู้จิตตน...นั่นแหละธรรม
    รู้นอกกายนอกจิตเป็นอุปาทาน
    รู้อาการ 32 รู้อิริยาบถ รู้ธรรมชาติกาย
    เห็นซึ่งทุกขลักษณะของอิริยาบถต่างๆ
    กายไม่อาจทรงอิริยาบถใดอิริยาบถหนึ่งได้ตลอด ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อคลายทุกข์
    ลองไม่ขยับปากสัก 24 ชั่วโมงดูซิ ทำได้มั้ย ย่อมไม่ได้
    เพราะปากต้องกิน ต้องพูด หรืออวัยวะอื่นๆ ก็เช่นกัน ต้องมีการเปลี่ยนรูป ไม่อาจทรงอยู่ในรูปใดรูปหนึ่งได้ตลอดไป การเห็นเช่นนี้เป็นวิปัสสนา เพราะเห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ของรูปอิริยาบถกาย

    การรู้จิต...รู้ได้ทีละขณะ เมื่อเกิดผัสสะ กระทบนอก กระทบใน รู้ว่าจิตเป็นกุศล อกุศล จิตเศร้าหมองหรือแจ่มใส เห็นอาการเกิดดับของแต่ละอารมณ์ในแต่ละขณะ เห็นจนปัญญาเพิ่มพูน เท่าทันว่ากระทบแบบนี้ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นที่จิต กลายเป็นรู้เท่าอารมณ์ เท่าผัสสะ จิตทรงอุเบกขาด้วยปัญญาที่เกิดขึ้นไปตามจริงเป็นอัตโนมัติเอง โดยไม่ต้องกดข่ม
     
  19. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ตอนนี้มีแต่ความสบายใจ จิตไม่ยึดสิ่งใดเลย ไม่เพ่งโทษ ทำพูดคิดไปตามเหตุ คือระดับไหนคะคุณhastin
     
  20. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,115
    ค่าพลัง:
    +3,085
    ธรรมดา แถวที่ 3 ครับ

    วันนี้ขอเขียน แถวที่ 3 4 ใหม่

    ธรรมดา ลดมานะ เข้าใจชีวิต เฉย เข้าใจธรรมชาติ

    ธรรมดา เมตตา กรุณา มุฑิตา ทบทวนทุกสิ่ง วางมานะ เดินปัญญา เฉย เข้าใจ อุเบกขา เมตตา
     

แชร์หน้านี้

Loading...