บทความ...กระดานเล่าสู่กันฟัง

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย nouk, 19 ตุลาคม 2014.

  1. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,115
    ค่าพลัง:
    +3,085
    เราก็รับรู้ได้นะ ว่าธาตุมีการเปลี่ยนแปลง ตามคุณธรรม
    แต่ไม่มีใครพูดเรื่องนี้ ก็เลยปล่อยไป
     
  2. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    อนุโมทนาค่ะคุณ hastin
    สำหรับเราเริ่มต้นจากการนั่งสมาธิแบบอานาปาณสติ ได้สมถะกรรมฐานตั้งแต่วัยเด็ก ศีลห้าไม่ยอมให้ขาดหรือด่างพร้อยเลย

    ต่อมารู้สึกว่ายังเข้าไม่ถึงธรรม เจอแต่ทุกข์รุมเร้าใจ จึงขวนขวายศึกษาวิปัสสนาเพื่อนำมาปฏิบัติให้เข้าถึงปัญญา ในข้อธรรมต่างๆ ที่เป็นเหตุปัจจัยเพื่อให้เข้าถึง เราศึกษาไปตามสภาวะที่เกิดขึ้นกับตน มีทั้งความเพียรและความท้อ รู้สึกว่ายากมากสำหรับตนเอง เพราะปฏิบัติเองลำพังโดยที่ไม่มีครูบาอาจารย์คอยกำกับ หรือชี้แนะ

    ชีวิตทางโลกดำเนินไปพร้อมๆ กับการนำธรรมะที่อ่านมาใช้ในชีวิตประจำวัน มีแต่ทุกข์ เกิดความขัดแย้งในตนเองระหว่างโลกกับธรรม ด้วยยึดมั่นในศีลห้า มองว่าการอยู่ในสังคมโลกเพื่อให้รอดนั้น บางครั้งต้องพูดคำที่ไม่จริง หลบเลี่ยงให้พ้นไปวันๆ กลัวตกนรกมากๆ ต้องถึงธรรมให้ได้ ตายแล้วต้องไม่ตกนรก ความปรารถนานิพพานแรงกล้า แต่มองไม่เห็นทางเลย เนื่องจากจิตปรุงแต่งไปในอดีตและอนาคตตลอดเวลา

    ก็หันมามองเรื่องบารมี ตรวจสอบบารมี 10 ยืนพื้นเรื่องเมตตา ยึดเมตตาไว้ก่อน เมื่อมีความมุ่งมั่นก็ได้รับความเมตตาจากครูบาอาจารย์ทางโลกทิพย์ ท่านคอยชี้นำให้ทางนิมิต ก็แก้ไขไป ศึกษาไปตามนิมิตที่ได้รับ สอบอารมณ์ทางนิมิต ปฏิบัติไปแบบคนโง่ ระหว่างนี้สร้างบารมีเพิ่มในส่วนที่ยังไม่มี บารมี 10 นำมาซึ่งอินทรีย์พละ 5

    สมัยก่อนอ่านจริงอ่านจังกับธรรมะ แต่ไม่ลงใจ แค่รู้พอนำไปคุยกับเค้าได้แค่นั้นเอง แต่ก็ไม่แตกฉาน เพราะยังเข้าไม่ถึงสภาวะ ชีวิตหมกมุ่นอยู่กับเรื่องปากเรื่องท้องและหน้าที่ทางโลกที่รับผิดชอบอยู่ เจอทุกข์บีบคั้นมากเข้าๆ รู้สึกสลดสังเวชใจกับตนเอง เกิดความเบื่อหน่าย จิตดำเนินสู่วิปัสสนาญานโดยไม่รู้ว่านั่นคือวิปัสสนาญาน โง่จริงๆ เกิดสภาวะไม่สนใจกับร่างกาย ชีวิต........แม้กระทั่งลมหายใจ

    ทุกวันนี้สบายดี มันค่อยๆ หดเข้ามา ความรู้ ความคิด ความจำ ความใส่ใจแวดล้อม ไม่เฉยนะ แต่เหมือนรู้เท่าแล้วเพิกไปเอง ชัดเจนเรื่องของกิเลส ตัณหา อุปาทาน เวทนา....โม้มากไม่ดี:p:p
     
  3. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,115
    ค่าพลัง:
    +3,085
    จะเฉยช่วงที่ใคร่ครวญ ไตร่ตรองในจิตครับ
    ถ้าจิตเราสรุปได้ ก็จะคลายออกมาธรรมดา ก็คือผ่านเรื่องนั้นๆแล้ว
    แล้วสะสมความรู้ในขั้นต่อไป เพื่อที่จะเฉย/ไตร่ตรองอีก :D
    แต่บางคนเฉยแล้ว ก็ไตร่ตรองไม่ออก ก็คลายได้เหมือนกัน แต่ไม่ผ่าน
    ต้องเรียนรู้เพิ่ม เพื่อไปเฉย/ไตร่ตรองในเรื่องเดิม ใครที่ไม่ค่อยมีสติ ไม่สำรวม คุณธรรมจะตกง่ายมาก
    เราเลยต้องกอดตำราไว้ เรียนรู้ กุศล อกุศล ไตรลักษณ์ อริยสัจ มากๆ
     
  4. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    จิตเสวยภพตามอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลง

    น้ำนิ่งเห็นแค่ความเคลื่อนไหว

    นิ่งและใสจึงเห็นตัวปลา
     
  5. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    การมีขึ้น การเกิดขึ้นขององค์ธรรม ล้วนเป็นไปตามเหตุปัจจัย เป็นกระบวนการหนึ่งทางธรรมชาติของจิตที่ได้รับการฝึกฝน

    ความย่อหย่อน ความตั้งมั่น เป็นความเพียรของผู้กระทำ

    ดีแล้ว ดีแล้วนี้คือความถูกต้องตรงตามธรรมที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบอกไว้

    สรรเสริญ นินทา ย่อมเกิดปรากฏมีคู่โลก

    สาระแก่นสารที่แท้จริงคืออะไรในการปฏิบัติและข้อวัตรต่างๆ

    ความรู้ที่แท้จริงเกิดขึ้นที่ใดในสกลกายนี้

    ดู รู้ ยึด ดู รู้ วาง
     
  6. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,115
    ค่าพลัง:
    +3,085
    นิทานสักเรื่อง
    นิมิตรไปว่า เข้าสมาธิไป มีจักร ปรากฎ มีแก้ว ปรากฎ
    ต่อมา ขอขมาเทวดาทั้งหลาย มีองค์หนึ่งมามอบ พระขรรค์ให้ ตอนรับก็งงๆ ว่าเหตุใดท่านจึงมอบให้ พร้อมกับสั่งว่า ไว้ใช้ป้องกันตัว
    ต่อมาก็มี ตรี ปรากฎ แล้วก็มี กระบองมีพลอยประดับปรากฎ มีมณีรัตนะ ปรากฎ
    พอปฎิบัติไปเรื่อยๆ ทุกสิ่งทุกอย่างไปรวมกัน เป็นด้ามกระบอง ปลายเป็นตรี มีแสงสว่างมาก
    รวมกันพักเดียว เปลี่ยนเป็น พระทรงเครื่องจักรพรรดิ์

    ออกจากนิมิตมา ขำตัวเอง ครูสอนเบื้องปลายให้แล้ว ดันไปทวนของเก่าตั้งหลายเดือน :)
     
  7. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    แปลว่าอะไรบ้างคะคุณ hastin
     
  8. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    นำภาพผลงานล่าสุดมาอวดค่ะ ปั้นเป็นของที่ระลึกงานบุญสร้างบันไดหน้าพระอุโบสถ วัดภูเพียง จังหวัดน่าน

    ยังไม่เรียบร้อยดี ขาดฐานค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,115
    ค่าพลัง:
    +3,085
    น่าจะหมายถึง อาวุธต่างๆเหล่านั้น ก็ยังสู้ พุทธานุสติ ไม่ได้ มั้งครับ
    เวลาเรียน ท่านไม่ค่อยบอกอะไร เราต้องคิดให้ออกเอง
    บางครั้งก็คิดกันหลายๆวัน บางอย่างก็ปฎิบัติกันหลายปีก็ยังไม่ได้ 5555
    ก็สู้เกือบเต็มที่นะ แต่มันก็ยาก รู้สึกว่าตอนนี้เราจะเรียนได้ประมาณ 43 % ของที่ต้องเรียนในชาตินี้
    แต่ก็ดีเหมือนกัน เพราะไม่งั้นก็ไม่รู้จะทำอะไรเหมือนกัน รู้สึกเหมือนอยู่ไปวันๆ
     
  10. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,115
    ค่าพลัง:
    +3,085
    นิทานสักเรื่อง
    เคยได้ยินมาว่า ผู้ที่เบี่ยงเบนทางเพศ ไม่สามารถบรรลุได้

    ในใจคิดว่า ไม่จริง ธรรมนี้เป็นของกลาง ผู้ที่มีความดีพอก็สามารถเป็นผู้ฝึกตนได้
    เพียงแต่พวกท่าน มีความสับสน มีสิ่งกั้นมากกว่าปกติ ก็อาจต้องมีวิธีที่แตกต่างบ้าง
    เท่าที่เคยสังเกต เพื่อนหลายๆคน มีหลายจริต ทำให้ยากมาก แก่การแนะนำกรรมฐาน

    ในเมื่อมันยาก เราก็ต้องหลบ ไปพิจารณาเรื่องใหญ่ๆ ที่เห็นง่ายๆไปเลย
    1.พิจารณาแนว เทวฑูต 4 พิจารณา เกิด แก่ เจ็บ ตาย ไปเลย
    2.แล้วก็เสริมด้วย แผ่เมตตาบ่อยๆ(เมตตานี่ ดีนัก ใครทำก็มีแต่ดีขึ้น)
    3.แล้วก็เสริมด้วย โลกธรรม 8 มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ สรรเสริญ นินทา สุข ทุกข์

    คิดคำนึงว่า ไม่ว่าใคร ถ้ามีศีล มีความดี ก็น่าจะเป็นผู้ฝึกตนได้นะ
     
  11. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    สำหรับเราเห็นว่าจิตไม่มีเพศมานานแล้ว จิตเปรียบเสมือนน้ำ กายเปรียบเสมือนภาชนะรองรับน้ำ รูปร่าง สัณฐานของภาชนะที่มารองรับ เกิดจากผลของวิบากกรรมดี วิบากกรรมชั่ว

    ดังนั้น การฝึกกรรมฐานจึงไม่เกี่ยวกับเพศ แต่สำคัญที่ใจและจริต (ความเห็นส่วนตัวนะ)

    ผู้เบี่ยงเบนทางเพศไม่อาจบรรลุธรรมได้ เนืี่องจากมีวิบากกรรมชั่วในอดีตมาตัดรอน แต่ก็สามารถสั่งสมกรรมดีอันเป็นเหตุปัจจัยให้บรรลุธรรมได้ในอนาคตนะ
     
  12. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,115
    ค่าพลัง:
    +3,085
    นิทานสักเรื่อง
    เริ่มจากตนเป็นผู้ฝึกญาณ ทำให้ต้องใช้กำลังสมาธิมาก ไม่งั้นไม่ชัด เที่ยวได้ไม่นาน
    เมื่อก่อนกินข้าว อาบน้ำเสร็จก็เข้าสมาธิเลย นั่งสมาธิจนถึงเวลาดึกเลย ก็ได้ผลดี กำลังสมาธิมากขึ้น
    แต่หลังๆมานี่ ครูบาอาจารย์สอนให้ใช้ อนิจจานุสปัสนา พร้อมกับ พรหมวิหาร 4
    กลับพบเรื่องแปลก กำลังสมาธิเพิ่มมากกว่าตอนปฎิบัติสมาธิอย่างเดียวมาก แถมเร็วกว่าด้วย
    ช่วงนี้ใครมาถามเรื่องปฎิบัติ แนะนำ ศีล กรรมบท 10 พรหมวิหาร 4 อนิจจานุปัสนา ลูกเดียวเลย
    ถ้าใครหมั่นสร้าง บารมี ตลอดนี่ ไปอย่างเร็ว
    เริ่มปฎิบัติได้อยู่ตัวเมื่อไร ใส่ มรณานุสติ กับ อสุภะ เพิ่มอีก สลด สังเวช ของจริง :D
    คะเต คะเต ปาระคะเต ปาระสัมคะเต โพธิ สวาหา กันไปเลย
     
  13. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    คุณจำได้มั้ยที่คุณเคยบอกว่า...ยินดีด้วยสลายกายทิพย์ได้แล้ว

    ก่อนหน้านั้น คุณบอกให้เราพิจารณาข้อธรรมที่มีความสั่นสะเทิอน เราก็คิดอยู่นานว่าธรรมข้อใด คิดจนปล่อยวางคิด แล้วไปหาอ่านคำสอนต่างๆ หาบทความมาลงในกลุ่ม บังเอิญไปสะดุดตาเรืี่องพระธาตุอรหันต์ และช่วงเวลานั้นหลวงตามหาบัวท่านมรณภาพไปแล้วพอดีื ก็ไปเสิร์ทหาภาพพระธาตุของหลวงตาฯ เจอภาพเชิงตะกอนที่มีเศษกระดูกค้างอยู่ เราก็พิจารณาเรื่องอรหันต์นี่แหละ โน้มเข้าไปที่กรรมฐานสามกอง กายคตาฯ มรณาฯ อสุภะฯ สามกองนี้พิจารณาสลับไปมา เกิดความสลดสังเวชใจ เห็นความยึดมั่นถือมั่นในตัวตน เห็นอนัตตา เสี้ยววินาทีนั้นเกิดปิติวาบขึ้นซาบซ่านจับใจ แบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน มันวาบจากกระดูกสันหลังแล่นขึ้นไปสุดที่กลางกระหม่อมแล้วแผ่ซ่านออกไป พอเช้ามาก็เห็นข้อความของคุณที่แสดงความยินดีเรืี่องสลายกายทิพย์

    ผ่านมานานหลายปีแล้วเนอะ ตอนนั้นเรายังโง่ๆ อยู่เลย:D
     
  14. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,115
    ค่าพลัง:
    +3,085
    จำได้สิ
    แต่พวกเราจะมีครูคอยแนะไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยน่าห่วง
    ตอนนั้นเราเน้นแต่ สมถ อย่างเดียวเลย กลางวันก็เข้าแบบเบาๆ กลางคืนก็หนักๆไปเลย
    ช่วงนี้มาลองแบบ อนิจจานุปัสนา+พรหมวิหาร 4 ง่ายกว่ามากเลย ไปเร็วกว่าด้วย ไม่หลงทาง
    แต่เราคงต้องใช้กำลังสมาธิมาก ท่านเลยสอนแต่สมาธิ ตอนนี้ก็ยังต้องเรียนเพิ่มตลอด อย่างเหนื่อย
    ตอนนั้นเราเล่นแต่ อสุภะ แต่เราอยากลอง เลยเข้าสมาธิเต็มกำลังเป็นชั่วโมงเลย แล้วถอยมาพิจารณา อสุภะ ตอนพิจารณาก็ยังเฉยๆนะ แต่ตอนออกสมาธินี่เหมือนจะเป็นลม ไม่มีแรงเลย
    หัวใจเต้นแรงมากตั้งหลายวัน สนุกดี
     
  15. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เยี่ยมค่ะ

    ทุกวันนี้เราไม่ได้เพียรเหมือนเมื่อก่อน อย่างที่เคยบอกไป อยู่กับความจริงตรงหน้าแต่ละขณะๆ มองทุกอย่างเป็นเรืี่องธรรมดา ไม่ได้นั่งสมาธิ หัวถึงหมอนหายใจเข้า-ออกแค่ 3 คู่ก็หลับไปเลย มันเบื่อมันหน่ายกับการรู้และจดจำ แย่มากๆ เลวกว่่าเดิม แต่จิตกลับก้าวหน้าไปมาก รู้สึกถึงมรรคที่ทำกิจค่ะ
     
  16. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,115
    ค่าพลัง:
    +3,085
    ไม่ได้แย่กว่าเดิมหรอก ปฎิบัติแล้วมีแต่ดีขึ้น แต่บางช่วงมันต้องเก็บความรู้ภายนอกมาเปรียบเทียบเพื่อให้จิตเก็บข้อมูลไว้สอบ
    ยังจำได้ เมื่อก่อน ถือศีล 5 กรรมบท 10 ต้องคอยระวังตลอด
    แต่พอเกิดเบื่อแล้วตัดลง ยอมรับได้ กลายเป็นไม่ต้องคิดเรื่องพวกนี้เลย เหมือนมันเป็นปกติไปแล้ว
    เหมือนมี สติ ปัญญา สมาธิ มากขึ้น ไปตามระดับการปล่อยวาง
     
  17. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ถ้ามีสติเป็นปัจจุบันขณะ ก็จะเห็นกายจิตในแต่ละขณะๆ สติเป็นเครืี่องระลึกรู้กุศล สัมปชัญญะละอกุศลและทำกุศลให้เจริญงอกงาม (ธรรมแห่งการตรัสรู้เกิดสืบเนื่องกันไปครบทั้ง 37 ประการ (โพธิปักขิยธรรม 37) โดยเริ่มจากสติปัฏฐาน 4)

    สติเห็นไปแต่ละขณะของปัจจุบัน เห็นทุกข์เกิดดับ เห็นรูปนามเกิดดับ เห็นไตรลักษณ์ เห็นสรรพธรรมเกิดดับเป็นปัจจุบันเรืี่อยไป ตามเหตุ เกิดแล้วดับ...เกิดแล้วดับ...ดับๆๆๆ จนหมดดับ ไม่มีอะไรต้องดับอีก....

    อย่าทำอะไรโดยยึดติดกับความคิด แต่ให้ทำไปตามเหตุ เหตุเกิดจากวิบากกรรมดีและชั่ว หมดวิบากกรรมดึและชั่วก็หมดเหตุ จิตวางดีชั่วได้เมื่อไหร่ก็สบาย

    ทางง่ายๆ ที่รู้สึกว่ายากเพราะไปปรุงแต่งธรรม เห็นชัดในสัจจะทั้งปวงเมื่อไหร่ ก็ไม่มีกรรม
     
  18. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เสียเวลา
    เวลาทั้งชีวิตมัวแต่ทรงจำ
    84,000 พระธรรมขันธ์ก็มีอยู่แล้วที่กายจิต
    จะอะไรนักหนา
    กายเดียวจิตเดียวยังศึกษาได้ไม่หมด
    ไปแบกศึกษากายจิตอื่นๆ อีก
    มัวแต่วัดขนาด
    วัดแล้วก็เอามาเทียบกันอยู่นั่นแหละ
    เทียบแล้วก็เถียงกันเรืี่องสั้นยาว

    เหลือเพียงกิริยา
    สมมติสื่อสารหมดความหมาย

    จิตโลดโพนไม่รู้สึกถูกหรือผิด
    รู้สึกว่ามันโลดโพน แต่ก่อนแต่ไรมันสำรวมกลัวผิด
    มันมีความละอายใจ เดี๋ยวนี้หมดละอาย
    มันพลิกกลับ
    เหมือนพลิกฝ่ามือ
    จิตตกมาหลายปี

    กล้วยที่ยังไม่ปอกเปลือก เราก็คาดเดาไปว่ากล้วยหวีนี้เนื้อต้องแน่น ผิวข้างในต้องสวย รสต้องหวาน
    ธรรมะกล้วยๆ จากกล้วยบวดชี
    รู้สิ่งใดไม่ต้องบอกสิ่งที่รู้ก็ได้
    แวดล้อมล้วนคือธรรม มองใหัเป็นก็เห็นประโยชน์
    ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิติ
    สัญญาอารมณ์ ผูกปมสังขาร วิญญานร้อนรน เวทนาสับสน อุปาทานโลดแล่น
    ฟุ้งในธรรมก็เป็นสภาวะ
    เป็นสภาวะที่พระโยคาวจรต้องพบเจอและผ่านไป
    ส่วนใหญ่ที่เข้ามาล้วนมีสภาวะมากน้อยแตกต่างกันไป นั่นเพราะมีความมุ่งหวัง
    ธรรมดาๆ เนาะ
    ปรุงเองหม่ำเองอร่อยดี ปรับสูตรเองได้ถูกใจ ตรงใจ

    ยืน เดิน นั่ง นอน สติกำกับอิริยาบถสี่
    แต่ความจริงแล้วยังมีอิริยาบถย่อยอีก
    ถ้าสติกำกับอิริยาบถสี่เป็นประจำ จะเห็นอิริยาบถย่อยเหล่านั้น
    เห็นรูป นาม เห็นทุกขลักษณะ เห็นเหตุปัจจัย สุดท้ายเห็นว่าสรรพสิ่งล้วนเกิดขึ้นไปตามเหตุ และดับไปตามเหตุ
    ปัญญาจะละเอียดลุ่มลึกไปเรื่อยๆ
    ต่อไปฟุ้งธรรมก็จะน้อยลง จนดับไป
    ไม่มีเรื่องคุย ส่งแต่สติ๊กเกอร์
    จิตเจริญมรรคปฏิปทา
     
  19. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,115
    ค่าพลัง:
    +3,085
    555 ไม่เสียเวลาหรอกครับ มันต้องมีการ อบรม เรียนรู้ เพื่อเอาสติ ปัญญา สมาธิ ส่วนนั้นมาใช้ตอนพิจารณา

    ถ้าไม่ได้เรียนรู้มา ก็พิจารณาไม่เข้าใจ ทำได้แต่กดข่ม

    พอเข้าใจก็ผ่อนคลาย ร่าเริง ธรรมดา ไปทีละขั้น จิตคลายไปเรื่อยๆ
     
  20. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ทางสายนี้ใช้ข้นธ์ห้าทำความเข้าใจไม่ได้

    ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เป็นเรื่องของใจ

    ใจไม่ใช่กาย กายไม่ใช่ใจ

    ไม่มีทางที่จะอ่าน พูด คิด แล้วจะสำเร็จได้เลย

    ต้องประพฤติตามที่ท่านบอกไว้อย่างเดียว เพียรเพื่อสร้าง สั่งสมเหตุปัจจัยให้ถึงพร้อมครบตามองค์ธรรมแห่งการตรัสรู้ (โพธิปักขิยธรรม37) ก็จะเข้าใจแจ่มแจ้งเอง

    ขันธ์ห้าเป็นเพียงอุปกรณ์เพืี่อใช้ในการทำความเพียร

    ปล. ชอบพูดสั้นๆ พูดเองเข้าใจเองจ้า คริคริ:p
     

แชร์หน้านี้

Loading...