บทความ...กระดานเล่าสู่กันฟัง

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย nouk, 19 ตุลาคม 2014.

  1. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    บางคนมองว่าการทำอกุศลกรรมบถ 10 เป็นเรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับเราแล้วเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก ยอมรับกันไม่ได้เลยทีเดียว โดยเฉพาะมุสาวาท เราถือว่าไม่มีความจริงใจต่อกัน หลอกลวงเพื่อผลประโยชน์ตน เป็นที่น่ารังเกียจ

    โลกออนไลน์เป็นโลกแห่งมายา แต่เราผู้ออนไลน์ไม่จำเป็นที่จะต้องสร้างมายานั้นขึ้นมา ใครจะเฟคก็เฟคกันไป รักษาจิตใจตนให้อยู่ในแวดวงกุศลน่าจะดีกว่ามิใช่หรือ

    เราเพียรมาเกือบทั้งชีวิตเพื่อหนีนรก แล้วเรื่องอะไรจะให้เรากระโจนลงนรกเพียงเพื่อสนองกิเลสตัณหานั้น :D
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ตุลาคม 2018
  2. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! คนกล่าวกันว่า 'สัตว์ สัตว์' ดังนี้, เขากล่าวกันว่า 'สัตว์' เช่นนี้

    มีความหมายเพียงไร ? พระเจ้าข้า !"

    ราธะ ! ฉันทะ(ความพอใจ) ราคะ(ความกำหนัด) นันทิ(ความเพลิน) ตัณหา(ความทะยานอยาก)ใด ๆ มีอยู่ในรูป, สัตว์ย่อมเกี่ยวข้อง ย่อมติด ในรูปนั้น ด้วยฉันทราคะ เป็นต้นนั้น เพราะฉะนั้น สัตว์นั้น จึงถูกเรียกว่า "สัตว์ (ผู้ข้องติด)" ดังนี้ ;

    ราธะ ! ฉันทะ ราคะ นันทิ ตัณหา ใด ๆ มีอยู่ในเวทนา, สัตว์ ย่อมเกี่ยวข้อง ย่อมติดในเวทนานั้น ด้วยฉันทราคะ เป็นต้นนั้น เพราะฉะนั้น สัตว์นั้น จึงถูกเรียกว่า "สัตว์" ดังนี้;

    ราธะ ! ฉันทะ ราคะ นันทิ ตัณหา ใด ๆ มีอยู่ในสัญญา, สัตว์ ย่อมเกี่ยวข้อง ย่อมติดในสัญญานั้น ด้วยฉันทราคะ เป็นต้นนั้น เพราะฉะนั้น สัตว์นั้น จึงถูกเรียกว่า "สัตว์" ดังนี้;

    ราธะ ! ฉันทะ ราคะ นันทิ ตัณหา ใด ๆ มีอยู่ในสังขารทั้งหลาย, สัตว์ ย่อมเกี่ยวข้องย่อมติดในสังขารทั้งหลายเหล่านั้น ด้วยฉันทราคะ เป็นต้นนั้น เพราะฉะนั้น สัตว์นั้น จึงถูกเรียกว่า"สัตว์" ดังนี้ แล.;

    ราธะ ! ฉันทะ ราคะ นันทิ ตัณหา ใดๆมีอยู่ในวิญญาณ, สัตว์ย่อมเกี่ยวข้อง ย่อมติดในวิญญาณนั้น ด้วยฉันทราคะเป็นต้นนั้น เพราะฉะนั้น สัตว์นั้น จึงถูกเรียกว่า "สัตว์" ดังนี้ แล. -

    ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๓๒/๓๖๗.
     
  3. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เล่าสู่กันฟัง แต่เหมือนเล่าอยู่คนเดียว...ไม่มีใครฟัง:(

    พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์

    "หากในนรกยังไม่ว่างจากสัตว์ที่ต้องรับทุกข์ทรมาน เราก็จะไม่ขอสำเร็จ พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ"

    พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ แปลว่าพระโพธิสัตว์ผู้เป็นครรภ์แห่งแผ่นดินหรือเป็นนัยยะว่าพระองค์ทรงสถิตอยู่ใต้พื้นพิภพ เพราะพระองค์มีมหาปณิธานว่า " ตราบใดที่ยังมีสัตว์หลงเหลือในนรกภูมิแม้เพียงหนึ่ง พระองค์จะมิทรงเข้าสู่พุทธภูมิ " ซึ่งเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าสัตว์ในนรกนั้นมีจำนวนมากมายกว่าประชากรบนสวรรค์และโลกมนุษย์มาก
    เนื่องจากคนทำชั่วมีมากกว่าคนทำดี ด้วยพระองค์ทรงประกาศมหาปณิธานที่ยิ่งใหญ่และยากยิ่งที่จะสำเร็จได้ สาธุชนจึงสดุดีพระองค์ว่า "พระมหาปณิธานโพธิสัตว์ " และพระวจนะหนึ่งของพระองค์ที่เป็นที่ซาบซึ้งประทับใจสรรพสัตว์ทั้งปวง ว่า " หากเรามิเข้าสู้นรกภูมิแล้วไซร้ ผู้ใดเล่าจะเป็นผู้เข้านรกภูมิ "ตามประวัติพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ทรงวิภูมิษณะอาภรณ์ประดุจมหาบุรุษ

    แต่ในสมัยหนึ่งเจ้าชายเมือง "ซินหลอ"(ปัจจุบันคือ ประเทศเกาหลี) พระนามว่า " กิมเคียวกัก " ทรงเบื่อหน่ายโลกกียวิสัยแล้วเสด็จออกผนวช ธุดงค์มาถึงประเทศจีนบนภูเขาเก้ายอด พร้อมสุนัขขาวชื่อ "ซ่านทิง" แล้วสั่งสอนสาธุชนอยู่ ณ ที่นั้น จนเมื่อมรณภาพให้ปรากฏมีเปลวเพลิงพวยพุ่งออกจากหลุมพระศพเป็นอัศจรรย์ ทำให้เชื่อว่าพระองค์เป็นนิรมาณกายของพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ลงไปฉุดช่วยสรรพสัตว์นรกภูมิ ด้วยเหตุผลนี้เราจึงเห็นพระปฏิมาของพระองค์เป็นภิกษุจีนแต่งกายแบบพระถึงซัมจั๋ง พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้ขรักขระทองคำ พระหัตถ์ขวาทรงดวงแก้วมณี

    พระกษิติครรภมหาโพธิสัตว์(พระมาลัยเถระเจ้า) หรือ ตี่จั๋งอ๊วงผ่อสัก พระตี่จั๋งคือ ที่เก็บ หรือครรภ์แห่งผืนแผ่นดิน

    พระองค์ทรงมีปณิธานว่าจะโปรดสรรพสัตว์ที่อยู่ใน นรก ให้หมด ในงานศพพิธีจีนจึงนิยมบูชาภาพพระองค์ท่าน

    รูปของพระองค์มักจะสวมหมวก เรียกว่า “มาลา 5 พระพุทธองค์” มีพาหนะคือ สิงโต พระหัตถ์ถือไม้คฑาธุดงค์ (มาลา 5 พระพุทธองค์ นี้เป็นของพระชาวธิเบต ใช้ประกอบพิธีทางมนตรยานนิกายในการโปรดสัตว์นรก แต่เนื่องจากการประกอบพิธีโปรดสัตว์นรกนิยมให้หมวกนี้ และโดยที่ท่านมีปณิธานโปรดสัตว์นรกมาก ก็เลยมีผู้นิยมวาดภาพ ท่านสวมหมวกประกอบพิธีโปรดสัตว์นรกเสียส่วนใหญ่)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,868
    ก่อนหน้านี้ผมได้ดูหนังเรื่อง A serbian film ดูแล้วรู้สึกหดหู่ไปพอประมาณ

    ในอีกมุมมองหนึ่ง ผมก็เกิดความสรรเสริญ ผู้ที่จะฉุดช้วยสัตว์นรกมากขึ้นด้วยส่วน
    เกิดหิริโอตัปปะมากขึ้น ในหนังเรื่องนี้คงจะใช้ความรุนแรงน้อยกว่าในนรก

    แต่ขนาดดูหนังเรื่องนี้ยังต้องกล้ำกลืนฝืนทนในการดู
    การเผชิญหน้ากับนรกที่ยิ่งกว่าในหนังเรื่องนี้
    จะต้องใช้กำลังใจขนาดไหน อิอิ

    สำหรับผมเรื่อง A serbian film นี้เป็นเสมือนนรกบนดินย่อมๆ ได้เลยทีเดียว

    ใครอยากเห็นนรกบนดิน ก็ลองไปหาดูกันได้นะครับเรื่องนี้ มีตามเว็บ บลาๆๆ
     
  5. Fallenz

    Fallenz ○~พบแล้ว เจอแล้ว เสวนาแล้ว ที่เหลือแล้วแต่วาสนา~●

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +733
    มีหน้าที่เล่า ก็เล่าไปเนาะ

    มีหน้าที่อ่าน ก็มาอ่านตามนั้น

    เอิ้กๆ ทั้งนี้ดี นั้นนั้น ;)
     
  6. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ก๊อปมาฝากจากเฟสบุคค่ะ

    เกิดคนเดียว...ตายคนเดียว...จะหวังอะไร

    เมื่อใดที่ไม่สบาย...จะมีคนบอกว่า หายเร็วๆ กินยานะ
    ...แต่ไม่มีใครซื้อยามาให้
    เมื่อใดที่สิ่งของพัง...จะมีคนบอกว่า ซื้อใหม่ได้
    ...แต่ไม่มีใครซื้อให้หรอก
    เมื่อใดที่ร้อนรน...จะมีคนบอกว่า ใจเย็นๆ
    ...แต่ไม่มีใครพาไปสงบใจสักคน
    เมื่อใดลำบาก...จะมีคนบอกว่า เดี๋ยวก็ผ่านไป
    ...แต่ไม่มีใครสักคนช่วยเหลือ
    เมื่อใดที่เหนื่อยล้า...จะมีคนบอกว่า พักบ้าง
    ...แต่ไม่มีใครเอาเงินให้ใช้นะ
    เมื่อใดที่เจอภัย....จะมีคนบอกว่า ไม่ต้องกลัว
    ...แต่ไม่มีใครมาอยู่ด้วยเลย

    หมาไม่ขโมย...ลองเอาสเต็กเนื้อไปวางตรงหน้าดิ
    พี่น้องรักกันมาก...ลองคุยเรื่องทรัพย์สิน มรดกดูดิ
    เจ้านายให้ความสำคัญมาก...ลองต่อรองเงินเดือน โบนัสดูดิ
    แฟนไม่มีทางเป็นอื่น...ลองให้อยู่กับสาวสวยหุ่นเอ็กซ์สเป็กเลยดูดิ
    เพื่อนรักรู้ใจกันมาก...ลองยืมเงินดูดิ
    ญาติโยมดีต่อกันมาก...ลองป่วยดูดิ

    เวลาแก่ ป่วย ใกล้ตาย....จะมีคนกลัวเรามากขึ้น...
    โรงพยาบาลกลัวเราไม่มีเงินจ่าย
    ประกันกลัวเสียรายได้
    คนในครอบครัว กลัวเราไม่หาย..กลัวเป็นภาระ
    เพื่อนฝูงกลัวเราพึ่งพิง ยืมเงิน

    แม้แต่หมาเรา คาดว่า...มันยังกลัวจะเหงา...

    เกิดมาเป็นคน...เกิดคนเดียว...ตายคนเดียว...
    ใครดี ไม่ดี แค่รู้ก็พอ
    คนบางคน...แค่เข้าใจก็พอ
    ได้ยินอะไรมา...แค่ฟังก็พอ
    เรื่องบางเรื่อง...แค่มองก็พอ
    ….จะหวังอะไร....!!!!!!
     
  7. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
     
  8. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,868
    เวลาแก่ ป่วย ใกล้ตาย....จะมีคนกลัวเรามากขึ้น...
    โรงพยาบาลกลัวเราไม่มีเงินจ่าย
    ประกันกลัวเสียรายได้
    คนในครอบครัว กลัวเราไม่หาย..กลัวเป็นภาระ
    เพื่อนฝูงกลัวเราพึ่งพิง ยืมเงิน

    พ่อแม่ผมตายแต่เด็ก มีป้า 1 คน กับ อา 2 คน รับผมมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม
    ผมเลยมี แม่ลองอีก 3 คน กลายเป็นมี แม่ 4 คนไปโดยปริยาย

    คนหนึ่งเป็นหมอที่จุฬาอีกคนเป็นพนักงานธนาคารอีกคนเป็นพยาบาล

    เมื่อถึงคราวเจ็บป่วย คนที่เป็นหมอ โรงพยาบาลจ่ายค่ารักษาให้ทั้งหมดไม่ต้องเสียเงินเลย

    เมื่อถึงคราวเจ็บป่วย คนที่เป็นพนักงานธนาคาร จ่ายเต็มแบบจัดเต็มกันเลยทีเดียว อิอิ

    เมื่อถึงคราวเจ็บป่วย คนที่เป็นพยาบาล เนื่องจากทำงานมานานเปอร์เซ็นการช้วยเหลือ
    จึงได้ส่วนลดเมื่อเข้ารักษากับโรงพยาบาลที่เคยทำงานด้วย 90%

    ก็จะสังเกตได้ว่า โรงพยาบาลจะกลัวหรือไม่กลัวในเรื่องมีเงินจ่ายใหมนั้น
    ก็ขึ้นอยู่กับงานที่เคยทำด้วยเป็นปัจจัยส่วนหนึ่ง

    เรื่องประกันชีวิต ผมเชื่อว่าเขาไม่กลัวเสียเงินค่ารักษาเพราะยังไง เขาก็ใช้เงินหมุนเวียน
    จากหลายๆคนเหมือนการเล่นแชร์ แล้วก็เอาเงินที่มีคนฝากไปหมุนเวียนอย่างอื่นอีก
    เขาจึงไม่กลัวเรื่องการจ่ายค่ารักษา แต่เขากลัวจะไม่มีลูกค้าเข้ามาฝากเพิ่มมากกว่า
    จำนวนลูกค้าที่ฝากเพิ่มขึ้นมีมาก จำนวนเงินค่ารักษาก็จะกลายเป็นเรื่องเล็กๆไปโดยปริยาย
    เป็นการเกื้อกูลกันเองระหว่างลูกค้ากับลูกค้า เปรียบเสมือนคนในครอบครัวเดียวกัน
    การที่ได้มีลูกค้าเพิ่ม ก็เสมือนกับการได้มี บุตรหลานมาช้วยเหลือผู้เฒ่าผู้แก่ในครอบครัวเพิ่ม
    ผมมองว่าผู้คิดค้นระบบในแนวๆนี้ได้ ต้องมีใจที่เป็นผู้ให้ และ เกื้อกูล อยู่ไม่น้อย
    ในขณะที่คนที่ตะหนี่แบบจริงๆจะคิดถึงแต่แบบว่าตัวใครตัวมัน
    ฉกฉวยแต่เพื่อเอามาเป็นแต่ส่วนตนโดยไม่ต้องแบ่งปันใคร

    ก็จะสังเกตได้ว่า ใจที่เป็นผู้ให้นั้นเป็นพื้นฐานของคนรวย
    ประธานไทยประกันชีวิต
    ก็นับได้ว่าเป็นคนรวยผู้หนึ่ง

    ผมขอแจมความเห็นเท่านี้ละกันครับ อิอิ
     
  9. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ขอบคุณที่มาเล่าสู่กันฟังค่ะ:D
     
  10. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ปัญญาปารมิตาหทัยสูตร (การหลุดพ้นด้วยปัญญา)

    สัมมาทิฐิ ๔ ประการ

    มนุษย์เป็นสัตว์โลกที่น่ารักอย่างยิ่ง ปากพูดได้งดงามว่า.....ฉันวางปล่อยมันแล้ว ฉันปลงตกแล้วแต่ความจริง.....ปล่อยวางไม่ได้ง่ายๆ ปลงตกไม่ได้ง่ายๆ เช่นกัน

    ในพระสูตรกล่าวว่า......
    “การเดินทางไปยังนิพพาน”
    จะต้องเลี่ยงการเอนเอียงอยู่สองทาง
    คือ (๑) ทางที่จมอยู่ในความร่าเริง
    และ (๒) ทางจมอยู่ในทุกกรกิริยา
    ทางสายกลางของทุกกรกิริยาและร่าเริงนี้คือทางที่เข้าถึง “นิพพาน”

    เราทุกคนต่างเป็นไปตามเหตุปัจจัย
    ยึดมั่นในความไม่มีตัวตนมุ่งเดินไปตามทางที่ใหญ่
    ด้วยความซื่อสัตย์
    ด้วยความศรัทธา
    ก้าวไปเรื่อยๆ
    ทุกๆ วัน
    ก็จะถึง
     
  11. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    30 ตุลา 2015

    เมื่อคืนฝันเรื่องวิสุทธิ 7 เฉยเลย สนทนาธรรมกับใครก็ไม่รู้ ก็เลยนำมาฝากกัน อ่านไปเถอะ...อิอิ อ่านแล้วไม่ต้องจำ แต่น้อมนำไปพิจารณาตนกันเด้อ....

    วิสุทธิ 7 และ ญาณ 16

    1. ศีลวิสุทธิ ต้องเป็นศีลที่ทำเพื่อละกิเลส ปรารถนาพระนิพพาน จึงจัดเป็นศีลที่บริสุทธิ์

    2. จิตตวิสุทธิ ก็เช่นเดียวกัน ต้องเป็นสมาธิเพื่อเป็นปัจจัยแก่การพ้นทุกข์ จึงจัดเป็นสมาธิบริสุทธิ์

    3. ทิฏฐิวิสุทธิ ปัญญาที่เห็นถูกโดยปราศจากกิเลส เห็น นามรูป ว่าไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา

    1.) นามรูปปริจเฉทญาณ เห็นรูปธาตุและนามธาตุเป็นคนละธาตุกันอย่างชัดเจน
     
  12. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    4. กังขาวิตรณวิสุทธิ หมดความสงสัยในการเวียนว่ายตายเกิด

    2.) นามรูปปัจจัยปริคคหญาณ เห็นเหตุปัจจัยของนามรูป ตามปฏิจจสมุปบาท คือการเวียนว่ายตายเกิด:
    อวิชชาเป็นปัจจัยให้เกิดสังขาร
    สังขารเป็นปัจจัยให้เกิดวิญญาณ
    วิญญาณเป็นปัจจัยให้เกิดนามรูป
    นามรูปเป็นปัจจัยให้เกิดอายตนะ 6
    อายตนะ 6 เป็นปัจจัยให้เกิดผัสสะ
    ผัสสะเป็นปัจจัยให้เกิดเวทนา
    เวทนาเป็นปัจจัยให้เกิดตัณหา
    ตัณหาเป็นปัจจัยให้เกิดอุปาทาน
    อุปาทานเป็นปัจจัยให้เกิดภพ
    ภพเป็นปัจจัยให้เกิดชาติ
    ชาติเป็นปัจจัยให้เกิดชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส
    เหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดรูป คือ อวิชชา ตัณหา อุปาทาน กรรม และอาหาร
    เหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดนาม คือ อวิชชา ตัณหา อุปาทาน กรรม ผัสสะ และวิญญาณ

    5. มัคคามัคคญาณทัสสนวิสุทธิ ปัญญาที่รู้โดยถูกต้องแน่นอนแล้วว่า วิธีการใดใช่ทาง หรือวิธีการใดไม่ใช่ทาง ที่จะดำเนินไปสู่การดับภพชาติของตน

    3.) สัมมสนญาณ เห็นสังขตธรรมลักษณะ คือ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป (ไตรลักษณ์) ของนามรูป
    4.) อุทยัพพยานุปัสสนาญาณ ที่ยังเป็นวิปัสสนาญาณอย่างอ่อน (ตรุณอุทยัพพยญาณ) คือ ปัญญาอันเป็นปฏิปทาที่ถูกต้อง แต่อาจจะยังไม่สมบูรณ์พอที่จะรู้เท่าทันในอารมณ์ของกิเลส คือ วิปัสสนูปกิเลส ๑๐ อย่าง มีโอภาสเป็นต้น
     
  13. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    6. ปฏิปทาญาณทัสสนวิสุทธิ ปัญญาที่เข้าถึงความรู้สึกในทางที่ถูก ตรงสู่พระนิพพานโดยถูกต้องแล้ว

    4.) อุทยัพพยานุปัสสนาญาณ ที่เจริญขึ้น (พลวอุทยัพพยญาณ) เห็นความเกิดดับของนามรูป
    5.) ภังคานุปัสสนาญาณ เห็นความดับของนามรูป
    6.) ภยตูปัฏฐานญาณ เห็นนามรูปปรากฏเป็นของน่ากลัว
    7.) อาทีนวานุปัสสนาญาณ เห็นนามรูปเป็นโทษ
    8.) นิพพิทานุปัสสนาญาณ เห็นความเบื่อหน่ายในการครองนามรูป
    9.) มุจจิตุกัมยตาญาณ อยากพ้นไปเสียจากการครองนามรูป
    10.) ปฏิสังขานุปัสสนาญาณ พิจารณาหาทางเพื่อให้พ้นจากการครองนามรูป
    11.) สังขารุเบกขาญาณ พิจารณานามรูปด้วยความวางเฉย
    12.) สัจจานุโลมิกญาณ รู้อารมณ์ของนามรูปเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะบรรลุอริยมรรค

    7. ญาณทัสสนวิสุทธิ ปัญญาในมัคคญาณที่เห็นแจ้งพระนิพพนาน

    13.)โคตรภูญาณ หัวต่อแห่งการข้ามจากภาวะปุถุชนเข้าสู่ภาวะอริยบุคคล
    14.) มัคคญาณ ญาณที่เข้าสู่ความเป็นพระอริยบุคคลแต่ละขั้น ได้แก่ โสดาปฏิมรรค สกิทาคามิมรรค อนาคามิมรรค อรหันตมรรค
    15.) ผลญาณ ญาณที่เข้าสู่ความเป็นพระอริยบุคคลในขั้นนั้นๆสมบูรณ์ ได้แก่ โสดาปัตติผล สกิทาคามิผล อนาคามิผล อรหันตผล
    16.) ปัจจเวกขณญาณ พิจารณาทบทวนมรรคผล กิเลสที่ละได้แล้ว กิเลสที่ยังเหลืออยู่ และพระนิพพาน

    ตั้งแต่วิสุทธิที่ ๑ ถึงวิสุทธิที่ ๖ นั้น รู้อริยสัจจ์เพียง ๒ สัจจะ คือ รู้ทุกข์สัจจ์กับสมุทัยสัจจ์ ส่วนญาณทัสสนวิสุทธิเป็นโลกุตตรวิสุทธิ เพราะรู้แจ้งอริยสัจจ์ครบทั้ง ๔
     
  14. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,868
  15. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,868
    %B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%AA.jpg

    three_resize.jpg
     
  16. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เจ้าแม่กวนอิมเป็นเพศชายหรือเพศหญิงกันแน่

    พระอวโลกิเกศวรมหาโพธิสัตว์ ท่านปรากฏร่างได้หลากหลาย แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเพศชายในพุทธศาสนาแบบอินเดียและในพุทธศาสนาแบบทิเบต เมื่อพระอวโลกิเตศวรถูกนำเข้าไปในจีนในคริสต์ศตวรรษที่ 5 ชาวจีนได้ทำให้พระอวโลกิเตศวรมีเพศเป็นหญิง มีนามว่า กวน ชีห์ ยิน บ้าง กวนยิน บ้าง ที่มีความต่างกันเป็นเช่นนี้ก็เพราะแต่ละสังคมมีความเห็นเกี่ยวกับผู้หญิงและผู้ชายต่างกัน ในสังคมอินเดียถือว่าผู้ชายเป็นใหญ่ในครอบครัว ส่วนในจีนถือว่าผู้หญิงเป็นใหญ่ ในบรรดามหาโพธิสัตว์ของศาสนาพุทธฝ่ายมหายาน จะมีก็แต่พระอวโลกิเตศวรนี้เท่านั้นที่สามารถเปลี่ยนแปลงเพศได้ นับแต่ราชวงศ์หยวนเป็นต้นมา รูปร่างของกวนอิมถูกแปลงโฉมเป็นรูปของหญิงงามมือถือแจกันบรรจุน้ำมนต์อันศักดิ์สิทธิ์


    ความกว้างใหญ่ไพศาลของจิตที่เห็นความสงสารทุกข์ยากของคนอื่น แล้วอยากช่วยเหลือ คือที่สุดของความเมตตา ซึ่งในสมาบัติวิปัสนาพอจะอุปมาได้ว่า กรุณาจิตที่เข้าถึงกระดูกเปรียบเสมือนประหนึ่งแม่คิดถึงลูก อันเป็นพลังที่ให้กุศลกรรมที่ไม่แตกดับ อกุศลกรรมก็ไม่อาจเกิดได้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. Fallenz

    Fallenz ○~พบแล้ว เจอแล้ว เสวนาแล้ว ที่เหลือแล้วแต่วาสนา~●

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +733
    ร่างเป็นหญิง ใจเป็นชายหรือเปล่า ?

    แต่กลิ่นตัว ห๊อม หอม ;)
     
  18. เทวินตพรหม

    เทวินตพรหม พรหมวิหาร4มรรคมีองค์แปด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2017
    โพสต์:
    649
    ค่าพลัง:
    +1,002
  19. เทวินตพรหม

    เทวินตพรหม พรหมวิหาร4มรรคมีองค์แปด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2017
    โพสต์:
    649
    ค่าพลัง:
    +1,002
    มาดม ผมมั้ยยยย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เจ้าแม่กวนอิมก็ไม่เว้น ท่านฟอล เฮ้ยๆๆ
     
  20. Fallenz

    Fallenz ○~พบแล้ว เจอแล้ว เสวนาแล้ว ที่เหลือแล้วแต่วาสนา~●

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +733
    ก็เว้นอยู่นะคับ ได้แค่มอง :(

    ฮ่าๆๆ เธอสวย เธอเด่น เธอไม่เหมาะแก่การครอบครองจ้า ;)
     

แชร์หน้านี้

Loading...