บทความ...กระดานเล่าสู่กันฟัง

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย nouk, 19 ตุลาคม 2014.

  1. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    กรมอุตุฯ ประกาศว่าจะมีฝนตกหนักตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย. อาจเกิดน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลาก คงไม่ได้ขึ้นดอยแล้วแน่ๆ เลย :(

    ขออภัยที่ทำให้เอฟซีผิดหวัง :oops:
     
  2. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ...ชอบพุดซ้อนค้าบ....กลิ่นหอมเย็นชื่นใจ

    สรรพคุณของพุดซ้อน

    รากและผลมีรสขม เป็นยาเย็น ออกฤทธิ์ต่อหัวใจและตับ ใช้เป็นยาดับพิษร้อนถอนพิษไข้ ช่วยแก้อาการร้อนใน ขับน้ำชื้น ทำให้เลือดเย็น แก้ตัวร้อน มีไข้สูง (ราก, ผล)
    เนื้อไม้เป็นยาเย็น ช่วยลดพิษไข้ (เนื้อไม้ )
    เปลือกต้นและรากเป็นยาแก้ไข้ (เปลือกต้น, ราก)
    ช่วยกระจายเลือดที่อุดตัน (ผล)
    ช่วยแก้อาการกระสับกระส่ายนอนไม่หลับ (ผล)
    ช่วยแก้ตาอักเสบ (ผล)
    ช่วยแก้เลือดกำเดา (ผล)
    ใบใช้ตำพอกแก้อาการปวดศีรษะได้ (ใบ)
    ช่วยแก้อาการเหงือกบวม ปวดฟัน (ผล)
    ช่วยรักษาปากและลิ้นเป็นแผล (ผล)
    ช่วยแก้อาเจียนเป็นเลือด (ผล)
    รากช่วยแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ (ราก)
    เปลือกต้นเป็นยาแก้บิด แก้ปวดท้อง (เปลือกต้น)
    ผลเป็นยาขับพยาธิและขับปัสสาวะ (ผล)
    ส่วนน้ำจากต้นใช้เป็นยาขับพยาธิ (น้ำจากต้น)
    ช่วยแก้ปัสสาวะเป็นเลือด (ผล)

    ตำรับยาแก้ตับอักเสบเฉียบพลันเนื่องจากการติดเชื้อและมีอาการตัวเหลือง ระบุให้ใช้รากพุดซ้อนสด 70 กรัม, รากใบไผ่เขียว, หญ้าคา และเปลือกต้นหม่อนอย่างละ 35 กรัม นำมารวมกันต้มกับน้ำรับประทาน (ราก)
    รากใช้ตำพอกแผลสด ห้ามเลือด ช่วยสมานบาดแผล (ราก)
    น้ำคั้นจากดอกนำมาผสมกับน้ำมันใช้เป็นยาทารักษาโรคผิวหนัง หรือจะใช้เฉพาะน้ำคั้นจากดอกเพียงอย่างเดียวก็ได้ (น้ำจากดอก)
    ช่วยแก้ผื่นคันตามผิวหนัง (ราก)
    ช่วยแก้ฝีหนองอักเสบ (ราก)
    ช่วยแก้อาการปวดบวม (ราก)

    ตำรับยาแก้เคล็ดขัดยอกระบุให้ใช้ผลพุดซ้อนแห้ง 250 กรัม, โกฐเชียง, คำฝอย และเมล็ดลูกท้ออย่างละ 150 กรัม นำมารวมกันบดเป็นผง แล้วนำไปเคี่ยวกับวาสลิน 250 กรัม และผสมกับน้ำส้มสายชูอีก 500 ซีซี แล้วเคี่ยวจนให้เข้ากันดี ใช้เป็นยาทาภายนอกบริเวณที่มีอาการ (ผล)

    หมายเหตุ : วิธีใช้ตาม ถ้าเป็นยาแห้งให้ใช้ครั้งละ 3-10 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทาน หากเป็นยาสดให้ใช้ครั้งละ 35-70 กรัม นำมาตำคั้นเอาแต่น้ำรับประทาน หรือใช้ตำพอกแผลภายนอก

    สรรพคุณของผลพุดซ้อนตามตำราการแพทย์แผนจีน
    กีจื้อ (ผลพุดซ้อน) มีรสขมเย็น มีฤทธิ์ขับความร้อน ระบายความร้อน แก้ไข้ แก้หงุดหงิดกระวนกระวาย ช่วยเสริมความชื้น ทำให้เลือดเย็น แก้เลือดกำเดาไหล แก้ปัสสาวะและอาเจียนเป็นเลือด (เนื่องจากเลือดมีพิษร้อน) แก้ดีซ่าน (ตัวเหลืองจากความร้อนหรือร้อนชื้นของตับและถุงน้ำดี) มีฤทธิ์บรรเทาอาการพิษอักเสบ แก้พิษอักเสบของแผล ฝีอักเสบ อาการบวมจากการกระทบกระแทก ลดบวมจากการอักเสบ ช่วยระงับอาการปวด แก้อาการอักเสบบวมแดง
    กีจื้อผัดและกีจื้อผลพุดซ้อนผัดเกรียมมีวิธีใช้และสรรพคุณที่เหมือนกัน แต่จะใช้ในกรณีที่ระบบกระเพาะอาหารและม้ามพร่อง
    กีจื้อถ่านมีฤทธิ์ห้ามเลือดและทำให้เลือดเย็น ช่วยแก้อาการไอเป็นเลือด เลือดกำเดาไหล อาเจียนเป็นเลือด ปัสสาวะเป็นเลือด

    หมายเหตุ : สำหรับวิธีใช้ ให้ใช้ประมาณ 6-9 กรัมนำมาต้มเอาแต่น้ำดื่ม

    ข้อควรระวัง ผลพุดซ้อนไม่เหมาะสำหรับนำมาใช้กับคนธาตุอ่อน อุจจาระเหลว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    นิทาน

    สืบเนื่องจากพระกุสุมายิงสูลงมาจุติเพื่อชดใช้กรรม ณ แดนหิมพานต์ โดยเกิดเป็นพญาปักษานามว่า สุคัณฑรา ไม่กินเนื้อนาค มีคู่นามว่า...พญากาล มีจริตดุร้าย นางได้ให้กำเนิดลูกสี่ตน นามว่า สวรรยา กาลกันทา กาลโกมุท และสุนันทา

    กาลกันทานั้นมีนิสัยดุร้ายเหมือนบิดา วันหนึ่งได้จับนาคท้องแก่นางหนึ่งได้ นางสุคัณฑรามาพบเข้า เกิดความสงสารนางนาค นางนาคขอให้แหวกท้องช่วยลูกของนางไว้ นางจึงช่วยได้เพียงลูกนาค ส่วนแม่นาคถูดกาลกันทากิน

    แล้วนางก็เลี้ยงดูนาคนั้นมาจนเติบใหญ่เสมือนลูกของนางเอง นาคที่นางนำมาเลี้ยงนั้นเป็นนาคสีเขียว เพศชาย ต่อมาเป็นเจ้าเมืองโยนกนคร.....จบ

    กาลกันทานั้น ได้มาเกิดเป็นมนุษย์ผู้หญิงในชาตินี้ วิบากกรรมตามส่งผล หลายภพชาติเหลือเกินที่ได้ทำกรรมผิดศีล ไม่มีใครช่วยนางได้เลย หากนางยังไม่ยอมสำนึกและแก้ไขปัจจุบัน ด้วยการรักษาศีลภาวนา
     
  4. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    หินเกล็ดมังกร

    เป็นผลึกคริสตัลที่มีเสถียรภาพมาก ที่สร้างความสมดุลทางจิตใจ, ทางกายภาพ และทางปัญญา มีอำนาจในการประสานหยินและหยางให้สมดุลย์ เป็นหินที่ช่วยเสริมสร้างความสงบสุข ปล่อยพลังออกช้าๆ แต่เต็มไปด้วยพลังมหาศาล เป็นหินที่สร้างความเชื่อมั่น กระตุ้นความทรงจำ สร้างสมาธิและความเข้าใจต่อสิ่งต่างๆ เพื่อขจัดปัญหา

    หินเกล็ดมังกรเป็นหินที่เอาชนะและขจัดความทุกข์ ความขมขื่นใจ สร้างกำลังใจและความกล้าหาญในการดำเนินชีวิต ช่วยเสริมสร้างความมีชีวิตชีวา สร้างความมั่นใจ ทำให้จิตใจเยือกเย็นลง ลดความก้าวร้าว เพิ่มความร่ำรวย ความมั่งคั่ง ป้องกันอันตราย และยังสามารถช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศ สร้างภูมิคุ้มกันโรค

    ในด้านการบำบัด หินเกล็ดมังกรช่วยขจัดพลังลบต่างๆ ในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง ส่งผลร่างกายสามารถรักษาระดับความสามารถในการทำงานภายในร่างกายและจิตใจให้สมดุลย์ บำบัดโรคระบบการย่อยต่างๆ โรคที่เกิดกับอวัยวะในช่องท้อง เช่น กระเพาะ มดลูก ตับอ่อนและอื่นๆ อีกทั้งยังบำบัดรักษาโรคที่เกี่ยวกับตา และระบบการทำงานของโลหิต รวมถึงน้ำเหลือง

    เครดิตภาพและข้อมูล จาก google
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    มังกรจีน (อักษรจีนตัวเต็ม: 龍; อักษรจีนตัวย่อ: 龙; พินอิน: lóng; ฮกเกี้ยน: เล้ง; ไทยถิ่นเหนือ: ลวง) เป็นสัญลักษณ์โดดเด่นอันหนึ่งของจักรพรรดิและวัฒนธรรมจีน มีลักษณะที่มาจากสัตว์หลาย ๆ ชนิดผสมผสานกัน ลักษณะลำตัวยาวเหมือนงู มีเขี้ยวขนาดใหญ่หนึ่งคู่อยู่ที่บริเวณขากรรไกรด้านบน มีหนวดยาวลักษณะเหมือนกับไม้เลื้อย และมีแผงคอเหมือนกับของสิงโตอยู่บน คอ , คาง และข้อศอก มีเกล็ดสีเขียวเข้มทั่วทั้งบริเวณลำตัวรวมทั้งสิ้น 117 เกล็ด ซึ่งเกล็ดมังกรจำนวน 81 แผ่น มีคุณสมบัติเป็นหยางซึ่งเป็นเกล็ดที่มีความดี เกล็ดมังกรจำนวน 36 แผ่น มีคุณสมบัติเป็นหยินซึ่งจะเป็นเกล็ดที่มีความชั่ว ลักษณะเขาของมังกรจะมีสันหลังทอดยาวไปตามหลังและหาง เป็นหนามยาวและสั้นสลับกัน มีขา 4 ขาและกรงเล็บแข็งแรง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เกล็ดของมังกรจีนนั้น จะมีลักษณะเฉพาะเปลี่ยนไปตามแต่ละชนิดของมังกร ตั้งแต่สีเขียวเข้มจนถึงสีทอง หรือบางแหล่งกล่าวกันว่า มังกรจีนนั้นมีหลายสี เช่น สีน้ำเงิน สีดำ สีขาว สีแดง สีเขียว หรือสีเหลือง แต่ในกรณีของมังกรชนิด chiao หลังของมังกรจะเป็นสีเขียว บริเวณด้านข้างเป็นสีเหลือง และใต้ท้องเป็นสีแดงเข้ม มังกรจีนชนิดหนึ่งจะมีปีกที่ด้านข้างของลำตัว และสามารถที่จะเดินบนน้ำได้ แต่สำหรับมังกรจีนอีกชนิดหนึ่งเมื่อสะบัดแผงคอไปข้างหน้าและข้างหลัง จะทำให้เกิดเสียงที่ฟังดูเหมือนกับเสียงขลุ่ย
     
  7. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    มังกรจีนจะมีโหนกอยู่บนหัวซึ่งทำให้สามารถบินได้ เรียกโหนกที่อยู่บนหัวว่า ch’ih muh แต่ถ้ามังกรจีนตัวใดไม่มีโหนกที่บริเวณหัว จะกำคทาเล็ก ๆ ที่เรียกว่า po-shan ซึ่งสามารถทำให้มังกรลอยตัวในอากาศได้(ปัจจุบัน ประเทศทางตะวันตก ก็เพิ่งเจอ วัตถุลึกลับบางอย่างสามารถลอยในอากาศได้เป็นระยะเวลาสั้นๆ) ในประเทศจีนคนโบราณมีความเชื่อกันว่ามังกรคือสัตว์ที่ทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์แห่งฟ้าและดิน ได้รับการกล่าวกันว่ามีความเป็นมิตร มากกว่าความร้ายกาจ เป็นสัญลักษณ์ที่นำมาซึ่งความสุข และความอุดมสมบูรณ์ของบ้านเมือง พบได้ใน แม่น้ำและทะเลสาบ ชอบที่จะอยู่ท่ามกลางสายฝน มังกรได้รับการยกย่องว่า เป็นผู้สร้างกฎแห่งความใจบุญ และเป็นสิ่งที่เสริมสร้างความมั่นใจ และความเชื่อมั่นให้แก่กษัตริย์ในราชวงศ์ชิงกษัตริย์จะนั่งบนบัลลังก์มังกร เดินทางโดยเรือมังกร เสวยอาหารบนโต๊ะมังกร และบรรทมบนเตียงมังกร



    ข้อมูลและภาพจากวิกิพีเดีย
     
  8. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ความรักกับรถเมล์ 5555 :p
    บางป้าย...ก็เงียบเหงาพิกลยังไงก็ไม่รู้
    บางป้าย...ก็จอแจด้วยผู้คน
    บางคน...รอจนชั่วชีวิตก็ยังไม่มา
    บางคน...รอแป๊บเดียวก็ได้ขึ้น
    บางคน...ขึ้นแล้วถึงรู้ว่าผิดคัน
    บางคน...ขึ้นครั้งแรกก็ขึ้นถูก
    บางคน...ขึ้นๆ ลงๆ หลายรอบกว่าจะขึ้นถูกคัน
    บางคน...นั่งไปถึงป้ายสุดท้ายถึงจะรู้ว่าขึ้นผิดคัน

    :D:D:D:D:D
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    คาถาหลวงอิติสุคโต หลวงพ่อโอภาสี

    “อิติสุคโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปฐวีคงคา พระภุมมะเทวา ขะมามิหัง”

    กล่าวอย่างน้อย3ครั้ง หรือกล่าวเรื่อยไปขณะเดินทางยิ่งดี ค้าขายสวดทุกครั้งที่เปิดร้าน

    จุดธูปบอกเจ้าที่อธิษฐานให้ขายดีมีกำไร เดือดร้อนใจก็สวดอโหสิกรรมเจ้ากรรมนายเวร ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ด้วย

    ท่านว่าการบวงสรวงต่างๆ อธิษฐานสิ่งใดเทวดาท่านจะอนุเคราะห์สุดความสามารถ

    เจ้ากรรมนายเวรได้ยินจะยอมอโหสิกรรมให้ จึงดีทางเมตตาและคุ้มครองภัย

    สวดประจำจะหมดทุกข์หมดโศก โรคภัยไข้เจ็บจะหาย ครอบครัวเป็นสุข เทวดาคุ้มครอง.

    สำหรับตัวศรพระรามแล้วจะเรียกว่าคาถามหาเย็น บ้านไหนเรือนไหนภูมิที่ไม่ดี

    มีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ จงเร่งรีบสวด เทอญ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ชาคริยานุโยค คือส่วนประกอบของความเพียร

    ภิกษุ ท ! ภิกษุเป็นผู้ตามประกอบในธรรมเป็นเครื่องตื่น เป็นอย่างไรเล่า ?

    ภิกษุ ท ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมชำระจิตให้หมดจดสิ้นเชิงจากอาวรณียธรรม (กิเลสที่กั้นจิต) ด้วยการเดินจงกรม ด้วยการนั่ง ตลอดวันยังค่ำไปจนสิ้นยามแรกแห่งราตรี,

    ครั้นยามกลางแห่งราตรี นอนอย่างราชสีห์(คือ) ตะแคงข้างขวา เท้าเหลื่อมเท้า มีสติสัมปชัญญะในการลุกขึ้น,

    ครั้นยามสุดท้ายแห่งราตรี ลุกขึ้นแล้ว ชำระจิตให้หมดจดสิ้นเชิงจากอาวรณียธรรม ด้วยการเดินจงกรมและการนั่ง อีก.

    ภิกษุ ท ! อย่างนี้แล ชื่อว่าภิกษุเป็นผู้ตามประกอบในธรรมเป็น เครื่องตื่น.

    สฬา. สํ. ๑๘/๒๒๑/๓๑๙ , อริยสัจจากพระโอษฐ์ ภาคปลาย หน้า ๑๑๕๑
     
  11. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    15 พ.ย. 2015

    ฟ้ามืดครึ้มแต่เช้ามาสองวันแระ แล้วเราก็รู้สึกเหมือนจะไม่สบายครั่นเนื้อครั่นตัว มันร้อนอบอ้าวเหมือนมีใครมาปิดบังมวลอากาศบริสุทธิ์ไว้ เดินออกไปดูด้านนอกเห็นเมฆดำครอบคลุม (อย่างกับหนังญี่ปุ่น) ก็เลยกำหนดจิตดูได้รู้ที่มาที่ไป นึกในใจเล่นๆ ว่า กระแสไม่ดีพวกนี้จงกระจายหายไปให้หมด แล้วถ่ายรูปท้องฟ้ามาฝากกัน กระซิบนิดนึง ตอนนี้ฟ้าแจ้งจางปางแล้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เพื่อนที่แสนดี;)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ยุคนี้เป็นยุคอภิญญา ต้องยอมรับกันหนอตามที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านบอกไว้ ดังนั้น ความเป็นไปได้ที่จะมีคนที่มีอภิญญาเกิดขึ้นในยุคนี้มีมากมาย แต่ก็มีได้แค่อภิญญา ๑-๕ เท่านั้น ซึ่งยังเป็นโลกียธรรม อันเกิดจากการอบรมสมถภาวนา สามารถฝึกให้มีได้สำหรับผู้ที่เคยได้มาแล้วในอดีต พอมารื้อฟื้นก็ได้กลับมาโดยง่าย

    อภิญญาญาณ ๑-๕ สำหรับปุถุชนนั้น (ผู้ที่ไปเรียนมาโดยเฉพาะ) มักจะนำไปใช้ในทางลาภยศสรรเสริญ แต่สำหรับอริยชน (ผู้บรรลุธรรม เข้าสู่ความเป็นพระหรือเข้าสู่กระแสนิพพาน ตั้งแต่พระโสดาบันไปจนถึงพระอนาคามี) จะนำไปใช้ในการพิจารณาธรรม เผยแพร่ธรรม การนำไปใช้ในการเผยแพร่ธรรม ได้แก่ ตาทิพย์หูทิพย์ อภิญญาญาณที่ล่วงรู้วาระจิต การรู้อดีตชาติ การรู้อนาคต การรู้การจุติของสัตว์ หรืออิทธิวิธี แสดงฤทธิ์ต่างๆ เพื่อกำราบผู้ที่เป็นมิจฉาทิฐิต่างๆ ให้เข้าสู่ทางธรรมที่เป็นสัมมาทิฐิ เป็นต้น

    ดังนั้น อภิญญาสำหรับปุถุชนนั้น เมื่อนำไปใช้ผิดทาง เป็นมิจฉาทิฐิ ก็มีทางเสื่อมไปในที่สุด

    แต่สำหรับอริยชนแล้ว นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในทางธรรมแก่ตนเองและผู้อื่น ทั้งนี้ เพื่อเจริญความรู้ยิ่งนั้นให้ถึงอภิญญาหก (อาสวักขยญาณ ความรู้ที่ทำให้อาสวกิเลสถึงความสิ้นไป) เป็นอริยชนขั้นสูงสุด ขั้นสุดท้าย คือ อรหันต์นั่นเอง
     
  14. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ได้มาอีกแล้วค่ะ มีคนให้มา พอรู้ว่าเรากำลังปั้นพระประธานให้สำนักปฏิบัติธรรม เค้าก็หยิบสิ่งหนึ่งขึ้นมากำแล้วอธิษฐานจากนั้นหย่อนลงฝ่ามือเรา แล้วเอ่ยปากขอร่วมสร้างพระประธานด้วย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    อิทธิ ความสำเร็จ, ความรุ่งเรืองงอกงาม; อำนาจที่จะทำอะไรได้อย่างวิเศษ

    ฤทธิ์ อำนาจศักดิ์สิทธิ์, ความเจริญ, ความสำเร็จ, ความงอกงาม, เป็นรูปสันสกฤตของ อิทธิ;
    ฤทธิ์ หรือ อิทธิ คือ ความสำเร็จ ความรุ่งเรือง มี ๒ คือ
    ๑. อามิสฤทธิ์ อามิสเป็นฤทธิ์, ความสำเร็จหรือความรุ่งเรืองทางวัตถุ
    ๒. ธรรมฤทธิ์ ธรรมเป็นฤทธิ์, ความสำเร็จหรือความรุ่งเรืองทางธรรม

    บุญฤทธิ์ ความสำเร็จด้วยบุญ, อำนาจบุญ

    อิทธิปาฏิหาริย์ ปาฏิหาริย์คือฤทธิ์, แสดงฤทธิ์ได้เป็นอัศจรรย์ เช่น ล่องหน ดำดิน เหาะได้ เป็นต้น
    (ข้อ ๑ ในปาฏิหาริย์ ๓)

    อิทธิวิธา, อิทธิวิธิ แสดงฤทธิ์ได้ต่างๆ เช่น นิรมิตกายคนเดียวเป็นหลายคน หลายคนเป็นคนเดียว
    ล่องหน ดำดิน เดินน้ำ เป็นต้น (ข้อ ๑ ในอภิญญา ๖, ข้อ ๓ ในวิชชา ๘)

    วิชชา ๘ คือ
    ๑. วิปัสสนาญาณ ญาณในวิปัสสนา
    ๒. มโนมยิทธิ ฤทธิ์ทางใจ
    ๓. อิทธิวิธิ แสดงฤทธิ์ได้ต่างๆ
    ๔. ทิพพโสต หูทิพย์
    ๕. เจโตปริยญาณ รู้จักกำหนดใจผู้อื่นได้
    ๖. ปุพเพนิวาสานุสติ
    ๗. ทิพพจักขุ ตาทิพย์ (=จุตูปปาตญาณ)
    ๘. อาสวักขยญาณ


    ที่มา พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
    ขอบคุณภาพจาก http://1.bp.blogspot.com/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • BS29.jpg
      BS29.jpg
      ขนาดไฟล์:
      97.5 KB
      เปิดดู:
      29
  16. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    คืนวันอังคารที่ 13 พ.ย.61 ฝันใกล้รุ่ง มีคนนำจดหมายมาให้เราแล้วบอกให้นำไปให้ผู้หนึ่ง ขณะที่รับซองจดหมายมาถือไว้ก็มีอีกผู้หนึ่งเข้ามาถามว่า ผู้นั้นให้เราทำอะไร เราก็ตอบไปว่าให้นำจดหมายไปส่งให้ผู้หนึ่ง ผู้ถามนั้นแสดงความโกรธกระชากซองจดหมายจากมือเรา จนจดหมายขาดออกเป็นสองท่อน ทำให้เราเห็นชื่อผู้รับที่จ่าไว้ที่หน้าซอง....มันเป็นชื่อในอนาคตของเราเอง. ชื่อนั้นคือ........;)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤศจิกายน 2018
  17. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    อรัญญานี..จะคอยพี่...อยู่ที่นี่
    แม้ร้อยปี....นานเท่านาน....ยังคงหวัง
    ขอเฝ้าคอย...แม้จะสิ้น....ลมพลัง
    ชาติหน้ายัง...คงคอยพี่...อยู่ที่เดิม



    ถ้ำผานางคอยอยู่ที่บ้านผาหมู อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 40 กิโลเมตร เป็นถ้ำธรรมชาติขนาดใหญ่นี้มีความสวยงาม มีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า ถ้ำนางคอย ปัจจุบันจึ่งมักนิยมเรียกว่า ถ้ำผานางคอย ตัวถ้ำอยู่บนผาสูงประมาณ 50 เมตร หน้าถ้ำมีลานหินกว้าง ตัวถ้ำมีความลึก ที่มีลักษณะยาวขนานไปในระดับพื้นดินประมาณ 150 เมตร กว้างประมาณ 20 เมตร ภายในถ้ำเป็นพี้นดินเรียบ บางตอนมีเหวลึก ผนังถ้ำมีหินงอก หินย้อยที่สวยงาม ส่งแสงสะท้อนเป็นประกายระยิบระยับ เมื่อต้องแสงสว่างไปตลอดความยาวของถ้ำ เมื่อเกือบถึงปากสุดของถ้ำที่ทะลุมีทางออกกว้าง ปริเวณกลางถ้ำมีหินงอกขนาดใหญ่มีลักษณะคล้ายผู้หญิงอุ้มลูกไว้ในอ้อมแขน เรียกว่า ผานางคอย เป็นจุดสำคัญของถ้ำนี้ เกือบถึงปลายถ้ำมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ให้ประชาชนได้นมัสการ

    ตำนานที่ ๑

    ณ ถ้ำแห่งนี้เองที่มีตำนานความรักระหว่างทหารต่ำศักดิ์กับเจ้าหญิง(เจ้านาง)สูงศักดิ์คู่หนึ่ง เรื่องมี อยู่ว่า เมื่อ พ.ศ.1700 อาณาจักรแสนหวีมีความเจริญรุ่งเรืองมาก(สันนิษฐานว่าแสนหวีในที่นี้คือแสนหวีที่สิบสอง ปันนาหรือที่เชียงรุ่ง ไม่ใช่แสนหวีหลวงเมืองเงี้ยว) กษัตริย์ปกครองอย่างสงบสุข พระองค์ทรงมีราชธิดาองค์หนึ่งมี สิริโฉมงดงามมาก มีน้ำพระทัยดี มีพระนามว่า เจ้าหญิงอรัญญานี ครั้งหนึ่ง เจ้าหญิงได้เสด็จโดยชลมารคแล้วเรือล่มหัวหน้าฝีพายได้ช่วยเหลือเจ้าหญิงไว้ได้ ทั้งสองจึงเกิดรักกัน จนเจ้าหญิงทรงครรภ์ พระราชบิดาทราบเรื่องก็ทรงพิโรธ จึงได้ขังเจ้าหญิงไว้ แต่ฝ่ายชายก็หาโอกาสช่วยพาหนีลงมาทางใต้ โดยมีกองทหารไล่ตามอย่างกระชั้นชิด เมื่อมาทันที่หุบเขาแห่งหนึ่ง เจ้าหญิงถูกยิงด้วยธนู ฝ่ายชายจึงพาไปหลบซ่อนในถ้ำเพื่อรักษาพยาบาล เจ้าหญิงเห็นว่าทหารกำลังตามมา จึงให้ฝ่ายชายหนีไปก่อน และบอกว่าจะคอยฝ่ายชายอยู่ในถ้ำนี้ตลอดไป ถ้ำนี้จึงได้ชื่อว่า ถ้ำผานางคอย หรือถ้ำนางคอย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ตำนานที่ ๒

    อีกตำนานบอกว่า หัวหน้าฝีพายพานางหนีไปอยู่ในถ้ำ และออกไปหาอาหาร เคราะห์ร้ายทหารตามมาพบและจัดการสังหารเขาเสีย องค์หญิงรู้ว่า สามีคงเสียชีวิตแล้ว จึงตั้งอธิษฐานว่า จะรอคอยให้สามีกลับมาตลอดไป ด้วยอานุภาพสัจจะ นางจึงกลายเป็นหิน เงยหน้ามองปากถ้ำ รอคอยการกลับมาของชายคนรักจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้.

     
  19. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ตำนานที่ ๓
    อีกตำนานบอกว่า เมื่อเจ้าครองนครทรงทราบก็สั่งให้ทหารออกติดตามคนทั้งสอง ทหารขี่ม้าทันทั้งสองคนที่ซอกเขาแห่งหนึ่ง และยิงธนูไปหมายจะเอาชีวิตชายหนุ่ม แต่ธนูพลาดไปถูกนางอรัญญนีได้รับบาดเจ็บสาหัส สามีของนางจึงพานางเข้าไปหลบซ่อนอยู่ในถ้ำ นางอรัญญนีรู้ตัวว่า คงไม่รอดชีวิต จึงขอร้องให้สามีหนีเอาตัวรอดโดยให้สัญญาว่าจะรออยู่ที่ถ้ำแห่งนี้ตลอดไป ชาย หนุ่มจึงจำใจต้องจากไปตามคำขอร้องของนาง ส่วนนางอรัญญนีก็นั่งมองดูสามีควบม้าหนีห่างไปจนลับตา และสิ้นใจตายอยู่ในถ้ำแห่งนั้นลานที่นางนั่งดูสามีควบม้าจากไปนั้น ต่อมาเรียกว่า ลานนางคอย ส่วนถ้ำแห่งนั้นก็ได้ชื่อว่า ถ้ำผานางคอย
     
  20. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ท้าวพันแสง และท้าวพันตา เป็นพญานาคที่เฝ้าอยู่ ณ ถ้ำแห่งนี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...