บทสวดมนต์สอนเจ้ากรรมนายเวร

ในห้อง 'รวมบทสวดมนต์และคาถา' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 8 มิถุนายน 2008.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    บทสวดมนต์สอนเจ้ากรรมนายเวร
    โดย พระอาจารย์ ดร.สิงห์ทน นราสโภ วัดวรเชษฐ์ อยุธยา


    บทสวดมนต์นี้เพื่อให้เกิดพลังคุ้มครองตัวเองและผู้ป่วย

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (สวด 3 จบ)
    อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถาเทวะมะนุสสานัง พุทโธภะคะวาติ(พุทธคุณ)
    สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วัญญูหีติ(อ่านว่า วิญญูฮีติ) (ธรรมคุณ)
    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ (สังฆคุณ)

    สัพเพ สัตตา อะเวราโหนตุ อัพภยาปัชฌา โหนตุ อะนีฆาโหนตุ สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ (เมตตา)
    สัพเพ สัตตา สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ (กรุณา)
    สัพเพ สัตตา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ (มุทิตา)
    สัพเพ สัตตา กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนิ กัมมะพันธุ กัมมะปฏิสสะระณา ยัง กัมมัง
    กริสสันติ กัลญาณัง วา ปาปะกังวา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ (อุเบกขา)
    ทุกกโต ทุกขะฐานันติ วะทันติ พุทธา
    นะ หิ เวเรนะ เวรานิ สะมันตีธะ กุทาจะนัง อะเวเรนะ จะ สัมมันติ เอสะ ธัมโม สะนันตะโนฯ
    พุทโธ พุทธัง รักษา ธัมโม ธัมมัง รักษา สังโฆ สังฆัง รักษาฯ พุทโธ พุทธัง อะระหัง
    ธัมโม ธัมมัง อะระหัง สังโฆ สังฆัง อะระหัง ฯ พุทโธ พุทธัง กัณหะ ธัมโม ธัมมัง กัณหะ
    สังโฆ สังฆัง กัณหะ อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง ภะวันตุเม (สวดเพื่อผู้อื่น ภะวันตุ เต)
    นะสาเปเส พุรุอะกัง ปะริปัตตัง ปะริขันตัง มัจจุราชา นะ ภาสะติ มัจจุราชา นะ ปัสสะติฯ
    สุญญะโต โลกัง อะเวกขัสสุ บุญชู ( สมมุติคนป่วยชื่อ บุญชู )
    สะทา สะโต เอวัง โลกัง อเวกขันตัง มัจจุราชา นะ ปัสสะติฯ
    อิมัง สัจจะ วาจัง อธิฎฐามิ ทุติยัมปิอิมัง สัจจะ วาจัง อธิฎฐามิ ตะติยัมปิอิมัง สัจจะ วาจัง อธิฎฐามิ
    โย ทัณเฑนะ อทัณเฑสุ อัปปะทฎเฐสุ ทุสสะติ ทะสันนะมัญญัตตะรัง ฐานัง ขิปปะเมวะ นิคัจฉะติ
    เวทะนัง ผะรุสัง ชานิง สะรีสัสสะวะ เภทะนัง คะรุกัง วาปิอาพาธัง จิตตักเขปัง วะปาปุเณ
    ราชะโต วา อุปะสัคคัง อัพภักขาณัง วะ ทารุณัง ปะริกขะยัง วะ ญาตีนัง โภคานัง วะ ปะภังคุณัง
    อะถะวาสสะ อะคะรานิ อัคคิ ฑะหะติ ปาวะโก กายัสสะ เภทา ทุปปัญโญ นิระสัง โส อุปะปัชชติฯ
    หันทะทานิ ภิกขะเว อามันตะยามิ โว ขะยะ วะยะ ธัมมา สังขารา อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถาติ
    อะยัง ตะถาคะตัสสะ ปัจฉิมา วาจาฯ
    อุทิฎฐัง โข เตนะ ภะคะวะตา ชานะตา ปัสสะตา อะระหะตา สัมมาสัพพุทเธนะ โอวาทะ
    ปาติโมกขัง ตีหิ คาถาหิ ปะระมังตะโป ตีติกขา นิพพานัง ปะระมัง วะทันติ พุทธา นะ หิ
    ปัพพะชิโต ปะรูปะฆาตี สะมะโณ โหติ ปะรัง วิเหฐะยันโต สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง
    กุสะลัสสูปะสัมปะทา สจิตตะปะริโยทะปะนัง เอตัง พุทธานะสาสะนังฯ อนูปะวาโท อนูปะฆาโต
    ปาฎิโมกเข จะ สังวะโร มัตตัญญุตา จะ ภัตตัสมิง ปันตันจะ สะยะนาสะนัง
    อะธิจิตเต จะอาโยโค เอตัง พุทธานะสาสะนันติฯ

    คำแปลบทสวดมนต์สอนเจ้ากรรมนายเวรและเพื่อให้เกิดพลังคุ้มครองตัวเองและผู้ป่วย
    ขอให้สรรพสัตว์ผู้เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกัน
    ทั้งหมดทั้งสิ้น อย่ามีเวรต่อกันเลย อย่าพยาบาทปองร้ายกันเลย อย่ามีความ
    ทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย ขอให้มีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัย
    ทั้งสิ้นเถิด (แผ่เมตตา)
    ขอให้สรรพสัตว์ ฯลฯ จงพ้นจากความทุกข์โดยประการทั้งปวงเถิด(แผ่กรุณา)
    ขอให้สรรพสัตว์ ฯลฯ อย่าได้ปราศจากและอย่าได้พลัดพรากจากสมบัติและบุคคล
    ที่เป็นที่รัก ที่ตัวมีอยู่เถิด (แผ่มุทิตา)
    สรรพสัตว์ ฯลฯ มีกรรมเป็นของตน มีกรรมเป็นทายาท มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์
    มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย ทำกรรมใดไว้จะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วก็ตาม จักได้รับผลแห่งกรรมนั้น(แผ่อุเบกขา)
    พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ต่างตรัสสอนไว้ว่า ทำทุกข์แก่ท่าน ทุกนั้นจะมาถึงตน
    เวรจะไม่ระงับด้วยการไม่จองเวร มันเป็นเช่นนี้ไม่ว่าในกาลเวลาใดก็ตามหรือไม่ว่ากาลไหน ๆ ก็ตาม เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร เท่านั้น ที่กล่าวมานี้เป็นคำสอนที่สืบต่อกันมาตั้งแต่ก่อนพุทธกาลแล้ว (ซึ่ง
    พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ต่างก็ทรงยอมรับว่ามันเป็นจริงอย่างนั้น)
    ขอคุณพระศรีรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ ปกป้องคุ้มครองรักษา ทั้งคุณญาณบารมีของพระอริยะผู้ทรงอภิญญาทั้งหลาย ช่วยปกป้องคุ้มครอง ช่วยให้มีอายุยืนยาว มีผิดพรรณผ่องใส มีความสุข และ
    มีพลังคุ้มครอง เป็นเหตุให้เกิดพลังปาฏิหาริย์อันเป็นอัศจรรย์ ทำให้พญามัจจุราช(เจ้ากรรมนายเวร) ไม่พูดถึง
    และมองไม่เห็น(ข้าพเจ้าหรือผู้ป่วย)
    นี่แน่ บุญชู (สมมุติว่า คนป่วยชื่อ บุญชู) เธอจงมองโลกหรือตัวเองให้ว่างเปล่า ไม่มีตัวตน เมื่อเข้าใจมองโลก
    หรือตัวเองว่า ว่างเปล่า(ไม่มีตัวตน) มัจจุราช (เจ้ากรรมนายเวร) จะมองไม่เห็น
    ขอกล่าวย้ำ อธิฐานขอให้เป็นจริงอย่างนั้นอย่างแท้จริง ขอกล่าวย้ำเป็นครั้งที่ 2 เป็นครั้งที่ 3
    ผู้ใดประทุษร้ายหรือคิดร้ายต่อผู้ไม่เคยคิดร้ายต่อ ลงโทษผู้ที่ไม่เคยทำความผิดย่อมได้รับภัยร้ายแรง 10 ประการ อย่างใดอย่างหนึ่ง อย่างทันตาเห็น คือ
    ๑. ได้รับทุกขเวทนา หรือทุกข์ทรมานอย่างแรงกล้า
    ๒. สรีระร่างการถูกทำลาย
    ๓. เจ็บป่วยอย่างหนัก
    ๔. มีจิตฟุ้งซ่านอย่างหนัก อาจถึงกับเป็นบ้า
    ๕. ถูกทางราชการทำโทษอย่างรุนแรง
    ๖. ถูกกล่าวหาว่ามีความผิดอย่างร้ายแรง
    ๗. ญาติเสียชีวิตแทน
    ๘. ทรัพย์สมบัติมีอันพินาศฉิบหาย
    ๙. ไฟป่าหรือไฟไหม้บ้านชนิดไม่ทราบสาเหตุ ไม่น่าจะเกิดภัยเข่นนั้น
    ๑๐. ตายไปแล้วยังตกนรกชดใช้กรรมต่อ
    มานี่ซิ ภิกษุทั้งหลาย มา ณ บัดนี้ ฉันขอเตือนพวกเธอทั้งหลายว่าสังขารทั้งหลาย (คือสิ่งที่ประกอบด้วย รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ปรุงแต่งให้เป็นตัวตน) มีความเสื่อมสิ้นสลายไปเป็นธรรมดา พวกเธอพึงดำรงชีวิตอยู่
    ด้วยความไม่ประมาท (คือให้มีสติควบคุมเสมอ อยู่กับปัจจุบันด้วยความมีสติเสมอ)
    นี่เป็นคำสอนครั้งสุดท้าย ก่อนที่พระพุทธองค์จะปรินิพพานซึ่งตรัสสอนด้วยความเป็นห่วง
    พระพุทธองค์ผู้ทรงไว้ซึ่งพระมหากรุณาธิคุณ ทรงตรัสรู้เห็นแจ้ง กำจัดกิเลสโดยพระองค์เอง ได้ทรง แสดงโอวาทปาฏิโมกข์ คือหลักคำสอนสำหรับผู้จะปฏิบัติตนเพื่อความหลุดพ้นจากกิเลส เป็นหลักการโดยย่อว่า ผู้ที่มุ่ต่อพระนิพพาน อันเป็นบรมสุข ต้องมีความอดทน เพียรพยายามเผาทำลายกิเลสให้สิ้นไป เพียรพยายามด้วยความ
    อดทนอดกลั้นอย่างแรงกล้าจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย (หากจะเร่งปฏิบัติเพื่อบรรลุเป้าหมาย) บำเพ็ญตัวเป็นนักบวชก็ขอให้เป็นนักบวชที่แท้จริง ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน สงบกาย วาจา ใจ ไม่เบียดเบียนใคร ไม่ทำบาปโดยประการทั้งปวง ทำแต่กุศล ชำระจิตใจให้สะอาดผ่องใส ทั้งไม่กล่าวใส่ร้ายใคร ไม่ทำร้ายใคร รักษาศีลของตน
    ให้บริสุทธิ์ รู้จักประมาณตนในการฉัน การบริโภค (ใช้สอยปัจจัย ๔) ยินดีอยู่อาศัยในที่เงียบสงัด เพียรพยายามบำเพ็ญภาวนาให้เกิด ภาวนามยะปัญญา ที่แท้จริง
    นี่แหละคือคือสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย (จบ)

    ปาฏิหารย์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการสวดมนต์ เพียงแต่สวดบทย่อที่พระอาจารย์ได้จัดให้ลูกศิษย์พิมพ์แจกแก่ผู้สนใจและตั้งใจสวดมนต์อย่างจริงจัง เพียงแต่สวดดังที่ปรากฎ ก็ปรากฎเป็นปาฏิหารย์ขึ้นถึง 3 ครั้ง คือ
    คุณอภิญญา แห่งเมืองซูริค สวิตเซอร์แลนด์ ได้รับการบอกเล่าจากคุณญาณวี ซึ่งเป็นหัวหน้าทัวร์นำคณะไปแสวงบุญที่อินเดีย ไปเจอกันที่เมืองเดลฮี ก่อนจากกันได้รับบทสวดมนต์ไป 1 แผ่น คณะของคุณญาณวี กลับเมือวงไทยก่อน ขณะอยู่บนเครื่องบินผู้ร่วมคณะท่านหนึ่งชื่อ มยุรี เกิดอาการช็อคน้ำลายฟูมปาก ได้พยายามช่วยโดยเอาสร้อยเจ้าแม่อุมาและสร้อยพระแขวนให้ ปรากฎสร้อยขาดทั้งพระและเหรียญเจ้าแม่อุมาก็หลุดออกมาชนิดที่ไม่น่าจะหลุดได้ ได้อธิษฐานขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยครั้นแล้วก็นึกถึงแผ่นกระดาษที่ได้รับจาก พระอาจารย์สิงห์ทน จึงเอาออกมาดู ปรากฎว่าเป็นบทสวดมนต์สอนเจ้ากรรมนายเวร และเพื่อให้เกิดพลังคุ้มครองตัวเองและผู้ป่วย จึงได้นำมาสวดภาวนา ก็ปรากฎผลว่า คุณมยุรีฟื้นขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ ถ้าไม่เรียกว่าปาฏิหารย์แล้วจะเรียกว่าอะไร
    นอกจากนั้นในวันที่ไปประกอบพิธีทางศาสนา ณ ศูนย์บัลวี กำลังจะสร้างขึ้นใหม่ ณ บ่อน้ำร้อนเวียงป่าเป้า จ.เชียงราย คุณหมอบรรจบและคุณหมอลลิตาก็เล่าให้ฟังถึงปาฏิหารย์ของบทสวดมนต์ดังกล่าวว่า มีปลาพิเศษราคาเป็นหลายหมื่นเกิดอาการหงายท้องกำลังทำท่าจะตาย พอนึกถึงบทสวดมนต์ดังกล่าว เมื่อสามารถเกิดปาฏิหารย์ช่วยให้คนสลบฟื้นได้คงจะใช้กับปลาได้ จึงนำบทสวดมนต์ดังกล่าวมาภาวนา พอสวดภาวนาไปพร้อมกับเอามือจับที่ปลา ลูบคลำปลา พร้อมกับสวดภาวนาไปเรื่อยๆ ก็เกิดปาฏิหารย์อย่างไม่คาดฝัน ปรากฎว่าปลาถ่ายออกมาแล้วพลิกตัวแหวกว่ายไปได้ คืนสู่สภาวะปกติ แต่ก่อนปลาตัวนั้นพอเห็นคุณหมอบรรจบจะหนี หลังจากคุณหมอช่วยให้มันหายป่วย พอคุณหมอบรรจบเข้าไปหามัน มันจะมาหาให้ลูบคลำอย่างมีความสุข จะไม่เรียกว่าเป็นปาฏิหารย์จากบทสวดมนต์ดังกล่าวแล้วจะเรียกว่าอะไร เพียงแต่สวดสั้น ๆ ยังมีปาฏิหารย์ดังกล่าว หากสวดใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมง ดังที่พระอาจารย์เคยสวดสืบชะตาแล้วมันจะไม่เกิดปาฏิหารย์ได้อย่างไร
     
  2. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

    พร้อมนี้ได้แนบ file บทสวดและธรรมเทศนา ของหลวงปู่สิงห์ทน วัดวรเชษฐ มานะคะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. TUK2800

    TUK2800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,766
    ค่าพลัง:
    +1,161
    [​IMG]อนุโมทนา สาธุ
    --------------------------------------------------------------------
    ศีลมีเจตนาเป็นพื้นฐาน
    ถ้าผู้ไม่มีเจตนาจะงดเว้นแล้ว
    ศีลทั้งหมดก็จะไม่มีในบุคคลผู้นั้นเลย
    เจตนาจะมีก็เพราะผู้นั้นเห็นโทษในข้อนั้นๆ เสียก่อนจึงงดเว้น
    พระพุทธเจ้าตรัสเทศนาว่า เจตนาตัวเดียวเป็นศีล

    [หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี]
     
  4. DD.

    DD. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    556
    ค่าพลัง:
    +103
    [​IMG]อนุโมทนาสาธุ
     
  5. TJ69

    TJ69 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    436
    ค่าพลัง:
    +152
    ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ [​IMG]<!-- / message -->
    <!-- / message -->
     
  6. pupaka

    pupaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2010
    โพสต์:
    167
    ค่าพลัง:
    +165
    ขออนุโมทนาบุญค่ะ
    ได้นำบทสวดนี้ไปใช้สวดให้แก่ผู้ป่วยคนหนึ่งซึ่งเดินไม่ได้ ขยับตัวเองไม่ได้เลย
    สวดให้ตอนเช้า หลังจากสวดให้ไม่นานคนป่วยสามารถยกเท้าได้
    และสวดต่อให้ คนป่วยสามารถเขยิบตัวนั่งได้เองค่ะ
    ปาฏิหารย์จริง ๆค่ะ
    ขอขอบคุณมากค่ะที่นำบทสวดนี้มาลงไว้ให้ค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...