บวชเณรชาวเขา ใช้ "ธรรมะ" สร้าง "คนดี"

ภาณุพงศ์ รังสิกุล สโมสรไลออนส์ ดุสิต กรุงเทพฯ เล่าถึงการเข้ามาร่วมโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน โดยเน้นอุปถัมภ์ชาวไทยภูเขาว่า

"เราทำโครงการร่วมกับตำรวจชายแดนทั่วประเทศ ทั้งหมด 12 ใน 14 กองกำกับการ เพราะมองว่าพื้นที่ชายแดนเป็นพื้นที่เสี่ยง ซึ่งเด็กๆ เหล่านั้น เราเชื่อว่าไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดก็ตาม ถ้าได้มีโอกาสเข้าศึกษาธรรมแล้วจะทำให้เขาเป็นคนดี

ปีนี้มีบรรพชาสามเณรทั้งหมดประมาณ 360 รูป เฉพาะทางภาคเหนือ คือที่เชียงราย เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน 131 รูป มากสุดคือ ที่วัดฝั่งหมิ่น 75 รูป ส่วนทางภาคใต้ก็มี 2 จังหวัด คือ ชุมพร และนครศรีธรรมราช เชื่อว่าปีหน้าจะขยายพื้นที่ลงภาคใต้มากกว่านี้

เราพยายามติดต่อวัดที่มีโครงการอยู่แล้ว ให้เด็กได้ใช้เวลาช่วงปิดเทอมมาศึกษาธรรม โดยเน้นการปฏิบัติเพื่อจะสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เลย"

สำหรับเด็กที่จบชั้นประถม 6 ถ้าอยากเรียนต่อ ภาณุพงศ์ว่า จะประสานกับทางวัดให้ได้บวชเรียนต่อ โดยจะอุปถัมภ์ให้สูงที่สุดเท่าที่เด็กจะเรียนได้ โดยมีข้อแม้คือ ต้องอยู่ในสมณเพศเท่านั้น เพราะส่วนใหญ่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนจะมีแค่ประถม 6 โครงการนี้เท่ากับเป็นการเปิดโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กในพื้นที่อีกทางหนึ่ง

นางอ่อง ไลเฮิ้ง ชาวไทยใหญ่ วัย 32 ปี จากหมู่บ้านเทอดไท พาแม่อุ๊ยและครอบครัวมาร่วมงานบวชลูกชาย เล่าว่า

ที่บ้านมีด้วยกัน 9 คน ลูกชาย คือ ด.ช.ลาอ่อง อายุ 13 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.6 ปีนี้ลงมาบวชพร้อมกับเพื่อนๆ โรงเรียนเดียวกันประมาณ 28 คน ซึ่งปกติชาวไทยใหญ่จะมีประเพณีบวชเณรอยู่แล้ว แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายคนหนึ่ง 3,000-4,000 บาท ครั้งนี้มาบวชเพราะครูบอกว่าบวชให้กับสมเด็จย่าและในหลวง เสร็จพิธีบวชแล้วจะกลับเลยพร้อมกับรถครู

อีกด้านหนึ่ง 3 สาววัยรุ่นชาวไทยใหญ่ คือ ด.ญ.เก่ง อุ่นคำ ด.ญ.หอมนวล หย่าคำ และ ด.ญ.สรัญญา ธรากรทิพย์ นักเรียนชั้นประถม 6 โรงเรียนเจ้าพ่อหลวงอุปถัมภ์ 3 บ้านเทอดไท บอกว่า เดินทางมากับรถของครู มาด้วยกัน 2-3 คน เพราะปีนี้นอกจากน้องชายแล้ว ที่โรงเรียนยังมีเพื่อนๆ มาบวชภาคฤดูร้อนถึง 30 คน

น้องเก่งเล่าว่า ทราบข่าวการบวชเณรเพราะพระอาจารย์ที่วัดฝั่งหมิ่นไปบอกข่าวถึงที่โรงเรียน และบอกว่าใครสมัครใจบวชก็มาได้ โดยทางโรงเรียนมีรถรับส่งที่วัดและโรงเรียน

ส่วนเรื่องที่จะเปิดให้ผู้หญิงบวชชีพราหมณ์ น้องเก่งว่าสนใจเหมือนกัน เพราะอยากบวชให้พ่อแม่"