บังสุกุลเป็น-บังสุกุลตาย

'บังสุกุลเป็น-บังสุกุลตาย'

'หลวงพ่ออุดม'ไขปริศนา ทำไมต้อง'บังสุกุลเป็น-บังสุกุลตาย'



<!--lead-->

วัดประสิทธิเวช หรือที่ชาวบ้านมักเรียกกันติดปากว่า วัดเก่า หรือ วัดบางปลากด เพราะสมัยแรกชื่อจริงชื่อ วัดบางปรากฏ ตามชื่อหมู่บ้าน แล้วมาเปลี่ยนทีหลังว่า วัดประสิทธิเวช เปลี่ยนเมื่อ พ.ศ.ใด ไม่ทราบ ไม่มีหลักฐาน

<!--lead-->ปัจจุบันวัดประสิทธิเวช ตั้งอยู่หมู่ ๑๐ ต.บางปลากด อ.องครักษ์ จ.นครนายก ในเนื้อที่ ๒๑ ไร่ ๓ งาน ๓๕ ตารางวา ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของที่ว่าการอำเภอองครักษ์ ระยะทางประมาณ ๑๒ กิโลเมตร ได้เริ่มก่อสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.๒๒๒๓ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.๒๒๓๓

ต่อมาอุโบสถหลังเก่าชำรุดทรุดโทรม ไม่สามารถบูรณะซ่อมแซม จึงได้รื้อถอนออก และได้สร้างอุโบสถหลังใหม่ในที่เดิมเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๐ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๒ และได้ประกอบพิธีผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิตอุโบสถหลังใหม่เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๔

วัดประสิทธิเวช มีผู้เล่าสืบต่อๆ กันมาว่า แต่เดิมมีอุบาสกใจบุญผู้หนึ่งชื่อว่า นายสิทธิ ภรรยาชื่อ นางเวช ได้เป็นผู้นำริเริ่มก่อสร้างขึ้นเป็นครั้งแรก วัดจึงเปลี่ยนชื่อใหม่ว่า วัดประสิทธิเวช ตามชื่อผู้ริเริ่มก่อสร้างมาถึงปัจจุบัน

เจ้าอาวาสวัดที่ปกครองวัด แต่เดิมไม่ทราบแน่ชัดว่ามีผู้ใดบ้าง เพราะประวัติวัด และหลักฐานใดๆ ก็ไม่มี มาทราบภายหลังเท่าที่มีผู้จำได้สมัยหลวงพ่อทา (พระครูศรัทธาภินันท์) อดีตเจ้าคณะแขวงอำเภอองครักษ์ ท่านได้บันทึกหลักฐานไว้เท่าที่จำได้ไว้ดังนี้ คือ

พระอาจารย์ไม้ พระอาจารย์กุ้ย พระอาจารย์เจียม พระอาจารย์โป้ย พระครูศรัทธาภินันท์ (ทา จนฺทปญฺโญ) พระปลัดหร่าย พรหมโชโต พระครูประสิทธิศีลวัฒน์ (ปล้อง อุตฺตโร) และ พระพิมลศีลาจาร หรือที่รู้จักกันในนาม หลวงพ่ออุดม

หลวงพ่ออุดม ถือเป็นพระภิกษุสงฆ์ที่รอบรู้และแตกฉานทั้งด้านศาสนธรรม และศาสนาพิธี ประกอบภารกิจในการเผยแผ่ศาสนาอย่างต่อเนื่อง มีการทำพิธีในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเป็นเนืองนิจ รวมทั้งประกอบภารกิจด้านสาธารณูปการของวัดประสิทธิเวช เป็นอารามที่มีความสมบูรณ์ทุกด้าน เป็นศรีสง่างามแก่ จ.นครนายก และเป็นที่ชื่นชมศรัทธาของประชาชนที่ผ่านไปมา

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้หลายคนเดินทางไปกราบนมัสการ พระเทพวิทยาคม(หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา หลวงพ่อคูณบอกว่า 'ไม่ต้องมาหากูดอก ให้ไปหาหลวงพ่ออุดมก็เหมือนได้มาหากู'

พิธีกรรมอย่างหนึ่งที่เหล่าบรรดาลูกศิษย์นิยมทำ คือ 'บังสุกุลเป็น-บังสุกุลตาย' รวมทั้งอาบน้ำมนต์ ถวายสังฆทาน จนบุคคลภายนอกหลายคนอาจมองว่าจะเป็นพุทธพาณิชย์ ในขณะที่หลวงพ่ออุดมยืนยันว่า ทั้งหมดเป็นแรงศรัทธาล้วนๆ ของประชาชน

หลวงพ่ออุดมได้อนุญาตให้สัมภาษณ์แบบ คม ชัด ลึก ดังนี้

* ทำไมหลวงพ่อคูณถึงได้บอกให้ญาติโยมมากราบหลวงพ่อแทนครับ ?

-ก็เมื่อประมาณ ๒๐ กว่าปีที่ผ่านมา อาตมาได้เป็นพระสงฆ์รูปหนึ่งที่ได้ไปร่วมนั่งปรกปลุกเสกกับหลวงพ่อคูณ และก็มีหลวงพ่ออื่นๆ ทั้งหมด ๑๙ รูปด้วยกัน ในพิธีพุทธาภิเษกที่วัดพระแก้ว อาทิ หลวงพ่อเปิ่น หลวงพ่ออุตตมะ หลวงพ่อลำใย ฯลฯ สมัยนั้นอาตมาได้บวชเป็นพระภิกษุสงฆ์พรรษาที่ ๒๐ ตอนนั้นถือว่าอาตมากับพระอีกรูปหนึ่งเป็นพระพรรษาน้อยที่สุด ที่ร่วมในพิธีพุทธาภิเษกครั้งนั้น

* หลวงพ่อได้เจอหลวงพ่อคูณบ่อยไหมครับ ?

-อาตมาถือว่าเป็นพระสายเดียวกัน การพบปะกับหลวงพ่อคูณสมัยก่อนก็เจอกันหลายครั้ง ระยะหลังมานี้ก็ไม่ค่อยได้เจอท่านสักเท่าไร อาจเป็นเพราะอาตมาอยู่ไกลกันมากกว่า ตอนนี้ท่านก็หายป่วยแล้ว อาตมาก็ยังไม่ได้เจอท่านเลย ยิ่งตอนนี้มีประชาชนเดินทางมาทำบุญกันที่วัดเป็นจำนวนมาก อาตมาเองก็ต้องอยู่วัด ญาติโยมมากันเขาก็อยากเจออาตมา ทำให้อาตมาไม่ค่อยได้ไปไหนเหมือนแต่ก่อน

* คนมาเข้าพิธีบังสุกุลเป็น-บังสุกุลตายเพื่ออะไรครับ ?

-นั่นแหละมันเป็นแรงศรัทธาของตัวเขา ใครมาทำบุญในพิธีบังสุกุลเป็น-บังสุกุลตาย หลายคนเขาสมหวังสำเร็จตามที่เขาหวังกัน เขาเข้ามาทำพิธีแล้วชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เขาก็จะชักชวนเพื่อนที่มีทุกข์มาร่วมในพิธี อาตมาอยากจะบอกว่า ญาติโยมที่เดินทางมาวัด มาทำบุญกันมากมายแบบนี้ ทางวัดไม่ได้ป่าวประกาศหรือโฆษณาให้คนเข้ามาทำบุญกัน แต่พวกเขามาทำเพราะความศรัทธา ยิ่งถ้าเป็นช่วงเทศกาล หรือวันปีใหม่ สงกรานต์ มีคนมาทำบุญเข้าพิธีหลายพันคนต่อวัน

* มีญาติโยมเดินทางมาเข้าพิธีมากแค่ไหนครับ ?

-ถ้าเป็นวันธรรมดาก็ตกประมาณสามสี่ร้อยคน ถือว่าน้อย หากเปรียบเทียบกับวันเสาร์อาทิตย์ เพราะวันหยุดสุดสัปดาห์จะมีญาติโยมเดินทางมาทำบุญเข้าพิธีกันเป็นจำนวนมาก ตามที่ลูกศิษย์ได้ประเมินมาให้ฟังก็ตกประมาณสองสามพันคนต่อวัน ทุกวันนี้ก็มีคนเดินทางมาวัดตลอดทั้งวัน มากันตั้งแต่เช้ายันค่ำ ตรงนี้ถือเป็นภาระหน้าที่ของอาตมา และพระจะต้องช่วยกันให้ญาติโยมมีกำลังใจ

* พิธีบังสุกุลเป็น-บังสุกุลตายให้อะไรกับคนที่มาเข้าพิธีครับ ?

-เป็นการสะเดาะเคราะห์ให้กับตัวเองตามความเชื่อของคนโบราณ และยังเป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว รวมทั้งทำบุญให้กับตัวเราเอง เป็นความเชื่อที่มีการปฏิบัติกันมานานหลายร้อยปีมาแล้ว บังสุกุลตาย ก็หมายถึงว่า สิ่งที่ไม่ดีในชีวิตของเราที่ประสบมา พอเข้าร่วมในพิธี ก็เพื่อให้สิ่งเหล่านี้ผ่านพ้นไป ส่วนการบังสุกุลเป็นก็เหมือนกับการให้ชีวิตใหม่ของเรา เหมือนเป็นการเกิดใหม่

มีคนถามอาตมาว่า เข้าพิธีแล้วดีอย่างไร อาตมาอยากจะบอกว่า มันอยู่ที่คนมีประสบการณ์ของคนที่มาเข้าร่วมพิธีมากกว่า อาตมาบอกไม่ได้ว่ามันดีอย่างไร บางคนเขาก็กลับไปทำมาหากินแล้วเจริญรุ่งเรือง ไม่มีอะไรที่ติดขัด ทำอะไรก็จะราบรื่นไปหมด เขาก็กลับมาทำบุญที่วัดเรื่อยมา

* มีบุคคลสำคัญมาเข้าพิธีบ้างหรือเปล่าครับ ?

-มี หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล (ท่านมุ้ย) ท่านก็มาทำบุญกับทางวัดเป็นประจำ ตอนนี้ท่านถ่ายภาพยนตร์อยู่ ก็เลยยังไม่มีเวลามาวัด แต่ยังมีอีกหลายคนที่มีชื่อเสียง บางคนเป็นถึงรองปลัดกระทรวงกลาโหม ก็มาร่วมในพิธี รวมทั้งนายทหารเป็นจำนวนมาก ที่มาร่วมพิธีนี้เช่นกัน

* จริงๆ พิธีนี้ทำแล้วเป็นการเสริมดวงด้วยหรือเปล่าครับ ?

-อาตมาขอบอกว่า ทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้ต้องมีความศรัทธามาเป็นอันดับหนึ่ง หรืออย่างน้อยการทำพิธีนี้มันก็เป็นการสร้างเสริมกำลังใจกันมากกว่า และเมื่อคนเรามีกำลังใจแล้วจะทำอะไรก็มักจะประสบความสำเร็จเสมอ

* การเข้าพิธีบังสุกุลเป็น-บังสุกุลตาย สามารถทำได้บ่อยแค่ไหน ?

-การเข้าร่วมพิธีหลายคนก็ทำกันหลายครั้ง มันอยู่ที่ว่าเขาทำกันไปแล้วชีวิตเขาดีขึ้นแค่ไหน ถ้าเขายิ่งศรัทธาก็จะทำบุญเข้าพิธีกันบ่อยขึ้น พอคนนี้มาแล้วชีวิตดีขึ้น เขาก็พูดต่อๆ กันไป ส่วนใหญ่จึงพากันมาตามพลังศรัทธา

* พิธีอาบน้ำมนต์ดีอย่างไรครับ ?

-ก็คงไม่ต่างอะไรกับคนเราที่มีความทุกข์ ก็อยากจะได้อะไรมาเสริมดวงชะตาให้เป็นความโชคดี บางคนมีทุกข์มาก พอมาอาบน้ำมนต์แล้วเขาก็โล่งใจสบายใจกลับไปบ้าน อาตมาอาบน้ำมนต์ให้กับญาติโยมมาแล้วเป็นเวลา ๑๐ ปี ทุกวันนี้ก็ยังมีคนมาอาบน้ำมนต์กันเป็นจำนวนมาก

* แล้วต้องเสียปัจจัยเท่าไรครับ ?

-เรื่องนี้ทางวัดเราไม่มีการเก็บปัจจัยใดๆ ทั้งสิ้น อาตมาอยากให้ทุกคนเข้าวัด มาทำบุญกันตามแรงศรัทธา มีมากทำมาก มีน้อยทำน้อย บางคนมาวัดอยากทำสังฆทาน ทางวัดก็ให้ทำแล้วแต่ศรัทธา ๒๐ บาทก็สามารถถวายสังฆทานได้ เพราะปัจจัยทั้งหมดก็นำไปสร้างเสนาสนะให้กับทางวัด

เมื่อปี ๒๕๓๐ สร้างอุโบสถหลังใหม่ ลักษณะทรงไทย มีช่อฟ้าใบระกา ปิดกระจกทาทองสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ใช้งบประมาณก่อสร้างทั้งหมดกว่า ๔ ล้านบาท เชื่อไหมว่าแรงศรัทธาทำให้ทางวัดใช้เวลาการก่อสร้างประมาณปีเศษๆ อุโบสถหลังใหม่ก็เสร็จ เป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าจะสร้างเสร็จเร็วกว่าที่คิด อันนี้อาจมาจากแรงศรัทธาของญาติโยม เพราะทางวัดไม่ได้มีปัจจัยใดๆ เลย นอกจากปัจจัยจากการทำบุญของญาติโยมเท่านั้น

* ทำไมคนชอบมาขอพรจากหลวงพ่อทาครับ ?

-เป็นความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน เพราะท่านเป็นอดีตเจ้าอาวาส ใครเป็นพ่อค้าแม่ค้ามาขอให้ขายของดีๆ แล้วก็ประสบความสำเร็จตามที่เขาขอกัน ต่างคนต่างก็มาแก้บนกัน บางคนไม่อยากเป็นทหารก็มาบนกัน แล้วแคล้วคลาดจากการเป็นทหาร ก็พากันมาแก้บน บางคนมาเพราะมีทุกข์ก็มาขอให้หลวงพ่อท่านช่วย เรียกได้ว่าปากต่อปาก พูดต่อกันไป ตามความเชื่อความศรัทธาที่เขามีกันต่างๆ นานา

* แล้วเรื่องปาฏิหาริย์มีจริงไหมครับ ?

-สิ่งศักดิ์สิทธิ์ สิ่งที่เป็นปาฏิหาริย์ อาตมาว่ามันมีจริง แต่เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถมองเห็นกันได้ เพราะมันไม่มีตัวตน แต่คนที่สัมผัสในความรู้สึกเหล่านี้ก็ต้องอยู่ที่ใจของแต่คนว่ามีความเชื่อมั่นกันแค่ไหน รวมทั้งมีความศรัทธาในสิ่งที่เขากราบไหว้กันเพียงใด พวกเขามาไหว้หลวงพ่อทา แล้วเป็นไปตามพรที่ขอไว้ก็ทำให้ยิ่งเป็นแรงศรัทธาให้กับตัวเองอย่างมาก ทำให้พวกเข้าวัดมาไหว้หลวงพ่อทาอย่างต่อเนื่อง

* หลวงพ่อออกวัตถุมงคลให้เช่าหรือเปล่าครับ?

-อาตมาไม่ได้สร้างวัตถุมงคล เครื่องรางของขลังให้เช่าบูชา ถ้ามีก็ฉลองอายุเป็นที่ระลึกวันเกิดเท่านั้น เอาไว้แจกให้กับญาติโยมที่มาทำบุญ ที่เห็นมีให้เช่าบูชากันในวัดก็มาจากแรงพลังศรัทธาของลูกศิษย์ เขาศรัทธากันเขาก็มาขออนุญาตสร้างวัตถุมงคลต่างๆ ออกมาแล้วถวายให้กับทางวัด เช่น สาลิกา ตะกรุด ที่ลูกศิษย์สร้างมาถวาย ก็เพื่อให้กับญาติโยมบางคนมาวัดแล้วต้องการมีเครื่องราง พระเครื่องกลับไปบูชาเป็นที่ระลึก เครื่องรางเหล่านี้ก็ยังคงมีอยู่ เพราะคนเราไม่ได้สนใจพระธรรมเพียงอย่างเดียว

* วัตถุมงคลในมุมมองของหลวงพ่อมีไว้เพื่ออะไรครับ ?

-หลายคนเชื่อกันว่า มีวัตถุมงคลไว้แล้วสบายใจ บางคนแขวนพระเครื่องแล้วก็เกิดความมั่นใจ หรือบางคนเดินทางไปไหนก็แคล้วคลาดปลอดภัย สิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนคอยเตือนสติไม่กระทำสิ่งที่ประมาท แม้บางคนแขวนพระแล้วแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุ ก็เกิดจากพลังศรัทธา ความมั่นใจในองค์พระ จนทำให้เกิดเป็นปาฏิหาริย์

* ระหว่างนี้หลวงพ่อยังต้องการทำอะไรอีกครับ ?

-ตอนนี้อาตมายังอยากทำอะไรอีกมากมายแล้ว อาทิ สร้างศาลาอเนกประสงค์ บนเนื้อที่ ๒ ไร่ อยู่ในเนื้อที่ ๕๒ ไร่ ที่ต้องใช้ปัจจัยในการก่อสร้างประมาณ ๒๙ ล้านบาท เพื่อใช้เป็นสถานที่ประชุมพระสงฆ์ในภาค ๑๒ รวมทั้งเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ทำบุญของญาติโยมที่มาวัด

* ส่วนใหญ่หลวงพ่อจะให้ธรรมะข้อใดกับญาติโยมครับ ?

-ขอให้อยู่เย็นเป็นสุข ขอให้เจริญ เจริญ ขอให้ประสบความสำเร็จ ความโชคดี ขอให้มีความสุขกายสุขใจ เย็นกาย เย็นใจ และสิ่งที่อาตมาอยากให้ทุกคนมีมากที่สุดก็คือ ศีลทั้งห้าข้อนั้นแหละ เป็นที่ประเสริฐมากที่สุด ใครมีเอาไว้ติดตัวชีวิตเจริญรุ่งเรืองอย่างแน่นอน

--------ล้อมกรอบ----------

ชาติภูมิหลวงพ่ออุดม

หลวงพ่ออุดม สุทฺธสีโล อายุ ๖๓ ปี พรรษา ๔๒ ชื่อเดิม อุดม ยิ้มย่อง เกิดวันศุกร์ ๑๙ มิถุนายน ๒๔๘๕ ปีมะเมีย ณ บ้านเลขที่ ๖ หมู่ ๑๐ ต.บางปลากด อ.องครักษ์ จ.นครนายก บิดาชื่อ โชติ มารดาชื่อ เริ่ม

อุปสมบทเมื่อวันจันทร์ที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๐๖ ณ พัทธสีมา วัดประสิทธิเวช โดยมีพระครูวิจิตรธรรมประภาต วัดองครักษ์ธรรมปัญญาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูอรุณธรรมประโชติ วัดอรุณฉายาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูปล้อง อุตฺตโร (พระครูประสิทธิศีลวัฒน์) วัดประสิทธิเวช เป็นพระอนุสาวนาจารย์ จำพรรษาอยู่ที่วัดประสิทธิเวชตลอดมา ได้ปฏิบัติศาสนกิจและพัฒนาวัดโดยได้รับความร่วมมืออย่างดีทั้งจากคณะกรรมการ ฝ่ายสงฆ์และคฤหัสถ์ จนได้รับตราตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดประสิทธิเวช เมื่อวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๓๖ และได้รับตราตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอองครักษ์ และพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นโท พ.ศ.๒๕๔๓

การศึกษา พ.ศ.๒๔๙๕ สำเร็จชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ร.ร.วัดประสิทธิเวช พ.ศ.๒๕๑๔ สอบได้นักธรรมชั้นเอก จากสำนักเรียน เจ้าคณะจังหวัดนครนายก พ.ศ.๒๕๑๕ สำเร็จการฝึกอบรม ร.ร.พระสังฆาธิการ ส่วนภูมิภาค ณ วัดอุดมธานี พ.ศ.๒๕๑๖ สำเร็จการฝึกอบรม หน่วยพัฒนาการทางจิต จากจิตตภาวันวิทยาลัย บางละมุง จ.ชลบุรี รุ่นที่ ๙ มีความรอบรู้ชำนาญการในเรื่องนวกรรม และการก่อสร้างพัฒนาวัด

ผลงานที่ได้รับการยกย่อง พ.ศ.๒๕๓๖ เป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง จากกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.๒๕๓๗ ได้รับการยกย่องเป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง ที่มีผลงานดีเด่น จากกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ ได้รับพระราชทานพัดยศ เกียรติบัตร จากสมเด็จพระสังฆราช พ.ศ.๒๕๓๘ วัดได้รับยกย่องเป็นอุทยานการศึกษา พ.ศ.๒๕๔๐ วัดได้รับยกย่องให้เป็นลานวัด ลานใจ ลานกีฬา เพื่อเลิกยาเสพติด

พ.ศ.๒๕๔๒ ได้รับรางวัลเสมาธรรมจักร บุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ต่อสังคม สาขาส่งเสริมผู้ปฏิบัติธรรม จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พ.ศ.๒๕๔๓ ได้รับประทานฯ ปริญญาพุทธศาสตร์ บัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ณ โอกาสนี้ ขอเชิญศิษยานุศิษย์ร่วมงานแสดงมุทิตาสักการะหลวงพ่ออุดม ในวันอาทิตย์ที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๔๘ โดยคณะกรรมการวัดได้จัดพิธีทำบุญฉลองอายุครบ ๖๓ ปี ถวายแด่หลวงพ่อ สอบถามรายละเอียดได้ที่วัดประสิทธิเวช โทร.๐-๓๗๓๓-๒๑๑๓, ๐-๑๙๔๗-๒๒๒๒, ๐-๑๘๒๗-๒๑๖๒

----เบิล์ฟ------

'อาตมาอยากจะบอกว่ามันอยู่ที่คนมีประสบการณ์ของคนที่มาเข้าร่วมพิธีมากกว่า อาตมาบอกไม่ได้ว่ามันดีอย่างไร บางคนเขาก็กลับไปทำมาหากินแล้วเจริญรุ่งเรือง ไม่มีอะไรที่ติดขัด ทำอะไรก็จะราบรื่นไปหมด'

--------///////---------

0 เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง 0 0 ภาพ วิญญ วณิชชากร 0