บางทีการดูดวง...มันก็น่าเบื่อ...

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย bumbimnick, 25 มีนาคม 2010.

  1. bumbimnick

    bumbimnick เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +160
    กระทู้นี้อยากให้คนที่ชอบดูดวงมากๆอ่านนะคะ

    เมื่อก่อนเราเป็นคนที่ชอบให้คนอื่นดูดวงให้

    ก็อยากจะรู้อยากจะถามเค้าไปหมด บางทีเค้าก็ตอบบ้าง ไม่ตอบบ้าง แต่เราก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไร

    และบางทีก็ทำให้เราแปลกใจ ว่าทำไมเขาจึงไม่ค่อยตอบ

    บางทีตอบก็ตอบแบบสั้นๆ ไม่ได้ตำตอบชัดเจนเหมือนที่เราหวังไว้

    แต่ตอนนี้พอเราเริ่มดูดวงเป็น ก็รู้แล้วว่า

    ทำไมบางครั้งหมอดูเหล่านั้นก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง

    บางทีก็ขี้เกียจตอบ ตอบอะไรสั้นๆ

    ------------------------------------------------------------

    เพราะคน 1 คน และคนบางคน อยากให้เราตอบคำถามแบบคาดหวังกับเราไว้ว่า

    "เราล่วงรู้อนาคตของเขา และเราสามารถตอบเขาได้ทุกอย่าง"

    ซึ่งในหลักความเป็นจริงแล้ว "ไม่ใช่"

    หมอดูเป็นักพยากรณ์ตามหลักสถิติ เขาใช้หลักสถิติที่ได้ร่ำเรียนมาตอบคุณได้

    และแน่นอน ไม่ใช่ทุกคำถามบนโลกนี้...

    หมอดูต้องเจอกับคนมากมาย ถ้าสมมุติ 1 คน ถาม 1 คำถาม

    วันนึงเจอคน 50 คน ก็ 50 คำถาม

    แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่ คน 1 คน ย่อมอยากรู้หลายเรื่อง

    จึงไม่ใช่ 1 คน 1 คำถาม แต่เป็น 1 คน หลายสิบคำถาม

    บางคนก็ถามลามไปถึงญาติพี่น้อง "แฟนของเพื่อน ของน้องเมีย โดนคดี ไม่ทราบจะหลุดมั้ย"

    อย่างนี้ก็เคยมี

    เข้าใจว่าคนเดือดร้อนต้องการที่พึ่งทางใจ

    สำหรับหมอดูมืออาชีพเรื่องนี้คงเป็นเรื่องธรรมดา

    เข้าใจสำหรับคนที่ถามคำถามตามปกติ ไม่มีหมอดูคนไหนรำคาญคุณแน่นอน

    แต่สำหรับคนที่ถามคำถามแบบอยากรู้เรื่องทั้งโลก....

    หมอดูรำคาญแน่นอน

    และพอหมอไม่ตอบ นั่นล่ะปัญหา เพราะจะโดนว่า อย่างเช่น

    "ไม่แม่นนี่หว่า ไม่แน่จริง" โดนสบประมาทต่างๆ

    และนั่นหล่ะ เหตุผลที่ทำให้เกิด "ความน่าเบื่อ"

    หมอดู ไม่ต่างจากหมอรักษาโรค

    พวกเขาต้องวินิจฉัย ถ้าหมอเก่ง ก็แม่น รักษาได้ถูกต้องตามโรค

    แต่ถ้าหมอมือใหม่ แน่นอนหล่ะ มันก็ต้องมีผิดพลาด

    นี่ยังไม่เกี่ยวกับหมอดูมั่วๆอีกมากมาย

    เหมือนหมอที่มาเิปิดคลินิกเถื่อน ไม่ผิดกัน

    ที่เราอยากบอกแบบนี้ เพราะเราได้อยู่กับหมอดูดังท่านหนึ่ง

    ท่านไม่ชอบดูดวงเลย....พอเราเจอแต่ละคนที่มาหาท่าน มาให้ท่านดูดวง

    ก็รู้แล้ว ว่าทำไมท่านไม่ชอบดู จะดูก็เฉพาะคนที่เดือดร้อนจริงๆ

    บางคนถามวกไปวนมาไม่รู้จบ ดูกันทั้งวันยังไม่พอใจด้วยซ้ำ

    อยากให้ทุกคนที่ชอบดูดวง "ใช้วิจารณญาณในการดู"

    ใช้เหตุผลบนการดูดวง ไม่ใช่หวังพึ่งหมอดูทุกอย่าง

    ทุกสิ่งอยู่ที่เรากระทำ สิ่งที่เราเป็นคือสิ่งที่เราเชื่อ

    อย่างมงาย อย่าหลงไหล และดูดวงแต่พอดี

    ไม่ใช่ทุกคนที่เราอยากจะบอก แต่บางคนที่งมงายมากๆ

    ไม่ใช่เพราะหมอดูเบื่อ แต่เพื่อให้คุณมีความสุขและความทุกข์ตามที่ชีวิตควรจะเป็น

    ปล. สำหรับคนที่ดูดวงแต่พอดี อย่าซีเรียสกับกระทู้นี้นะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2010
  2. bumbimnick

    bumbimnick เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +160
    ถ้าอ่านแล้วงง ไม่เข้าใจ อย่าคิดอะไรนะคะ

    บางครั้งมันก็เป็นแค่ความอัดอั้นตันใจ

    ที่คิดว่าหมอดู 90% ต้องรู้สึกกัน

    ต่อให้เค้าอยากจะช่วยเหลือและทำเพื่อคนอื่นมากแค่ไหน
     
  3. WhiteCarpet

    WhiteCarpet Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +69
    ขอบคุณที่ได้ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา ให้กับผู้ที่ชอบดูดวงทั้งหลาย เพราะเป็นคนหนึ่งในนั้นเหมือนกัน
    เมื่อก่อนชีวิตมีแต่ทุกข์ ก็หันเข้าหาการดูหมอเช่นเดียวกัน แต่พอท่านใดพูดไม่ได้ดั่งใจที่ตั้งไว้
    หรือมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว ก็เป็นการว่ากล่าวว่าหมอดูท่านนั้น ไม่แม่น ไม่ได้ตั้งใจดูบ้างหล่ะ
    บางท่านก็พูดน้อยเหลือเกิน คนดูก็ต้องการให้อธิบายให้กระจ่าง แต่บางท่านก็พูดให้เป็นปริศนาให้ไขต่อไปอีก อีกทั้งผู้ที่เป็นทุกข์นั้นต้องการกำลังใจ ต้องการความหวัง แต่เมื่อหมอดูท่านใดเห็นแล้วว่าเป็นวิบากกรรม ก็ให้แก้ไขด้วยการปฏิบัติภาวนา ก็ไม่ทำ แต่กลับหันเข้าหาหมอดูท่านอื่นๆ ต่อไป ทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยเหตุและผลโดยทั้งสิ้น
    แต่วันนี้...ไม่ได้วิ่งหาหมอดูแล้ว แต่ยึดมั่นในพระรัตนตรัย ดั่งที่ท่านหมอดู หรือ ผู้มีญาณทั้งหลาย ท่านได้แนะนำให้กระทำ วันนั้นยังไม่เห็นเท่าไหร่ เพราะใจเป็นทุกข์ อยากให้ได้คำตอบที่ตนต้องการ เมื่อไม่ได้ดั่งใจ ก็วิ่งหาต่อไป แต่วันหนึ่งหยุดวิ่ง และมองที่ใจตนเอง ว่าจริงๆ แล้ว ตนเองต้องการอะไรกันแน่ นั่นแหละคือจุดเร่ิมต้น
     
  4. WhiteCarpet

    WhiteCarpet Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +69
    เรื่องบางเรื่อง เมื่อเป็นวิบากกรรม เป็นวาระที่ต้องชดใช้อยู่ หมอดูท่านก็ไม่สามารถจะช่วยอะไรได้ นอกเสียจาก ให้ปฏิบัติภาวนาเพื่อตัวคนดูเอง และการปฏิบัตินั้นแหละ ที่จะทำให้ความเร่าร้อนในใจ ความทุกข์ทรมาณที่เกิดขึ้นอยู่ ณ วินาทีนั้น ค่อยๆ แผ่วเบาลง และเมื่อเบาลง หรือจิตเบาสบายเมื่อไหร่ ก็จะเริ่มเห็นแล้วว่ากำลังเผชิญกับปัญหาอะไร พอมีสติ ปัญญาเกิด ปัญหาเหล่านั้นที่เห็นก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายๆ ที่จะแก้ไข สำหรับเจ้าของปัญหานั้นๆ
     
  5. สายลมมิถุน

    สายลมมิถุน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +316
    เวลาคนทุกข์ใจมากๆ ปรากฎว่าหมอดูเป็นที่พึ่งสุดท้าย ถ้าเจอหมอไม่มีคุณธรรม ซวยไป
     
  6. WhiteCarpet

    WhiteCarpet Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +69
    สำหรับหมอดูที่ท่านทำเพื่อช่วยเหลือในผู้คนได้พ้นทุกข์นั้น เจตนาและความปรารถนาเป็นเช่นนั้น เพราะนั่นคือการสร้างบุญบารมี และ วิบากกรรมของท่านที่ท่านต้องทำหน้าที่นี้เช่นกัน เมื่อก่อนไม่เข้าใจว่า เวลาถามคำถามประมาณเดิมๆ ถามแล้วถามเหล่า วนเวียนอยู่กับคำถามเหล่านั้นตลอดเวลา ท่านก็ตอบบ้าง หรือไม่ ก็หายไปเลย นั่นเพราะ คำตอบท่านให้มาแล้ว แต่ผู้ถามต่างหากที่มองไม่เห็นคำตอบนั้น แล้วก็เวียนถามอยู่เรื่อย จนท่านเหล่านั้นต้องหยุด เพื่อให้ผู้ถามมองเห็นใจตนเองก่อน แล้วจะเห็นคำตอบที่ท่านได้ให้ไว้ นั่นแหละ เมื่อเห็นแล้ว ทุกข์ที่เจออยู่ก็จะค่อยๆ จางหายไป
     
  7. WhiteCarpet

    WhiteCarpet Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +69
    อึดอัดใจเหมือนกัน พอได้เล่า แล้วเล่ายาวเลย
     
  8. WhiteCarpet

    WhiteCarpet Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +69
    หมอดู หรือ ผู้มีญาณ ท่านเป็นเพียงผู้ชี้แนะ แต่ผู้ที่จะกระทำให้ตนเองไปในแนวทางใดทางหนึ่งนั้น คือ ผู้ถามนั่นเอง เพราะหมอดู หรือ ผู้มีญาณ ท่านไม่ได้เป็นผู้วิเศษที่จะสามารถเสกความสุข ความสมปรารถนา ให้กับคนอื่นๆ ได้ เพราะมนุษย์ที่เกิดมามีลมหายใจทุกๆ คนนั้น เกิดมาก็มีกรรมด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น จึงเป็นเรื่องปกติธรรมดา ที่จะเผชิญกับความทุกข์ ที่บางครั้งก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า เอ๊ะ เราก็ไม่เคยทำความเดือดร้อนในใคร แต่ทำไมเราก็เจอปัญหาแบบนี้ ทุกข์แบบนี้ นั่นคือ ภพชาตินี้ แต่ที่ไม่เห็นล่ะ ผู้ถามรู้หรือเปล่า ว่าเคยทำกรรมใดๆ ไว้ จึงต้องเผชิญกับปัญหา หรือ ทุกข์อยู่ในขณะนั้น
     
  9. WhiteCarpet

    WhiteCarpet Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +69
    หมอดู หรือ ผู้มีญาณ บางท่านเห็นแต่ไม่สามารถพูดได้ เพราะบางอย่างก็เป็นความลับของสวรรค์บ้าง เป็นกรรมที่ผู้นั้นกำลังต้องชดใช้บ้าง และท่านก็ได้นำให้เห็นทางพ้นทุกข์นั้น คือ การนำพุทธพจน์ของพระพุทธเจ้า มาใช้ในการดำเนินชีวิต แล้วผู้ที่ได้ดำเนินตามนั้น จะเห็นเป็นจริงดั่งที่พระองค์ท่านทรงตรัสไว้ สวรรค์ และ นรก อยู่ในที่ที่เดียวกัน คือ ใจ เหมือนดั่งเช่น พระอริยสงฆ์ ทั้งหลายท่านกล่าวไว้ว่า สุข และ ทุกข์ อยู่ที่ใจของเราทั้งสิ้น อยู่ที่เราจะหยิบสิ่งใดขึ้นมาให้กับตัวเอง

    ทั้งหมดที่เขียนนี่ ในมุมของคนชอบดูหมอเหมือนกัน และ ปัจจัตตังที่เกิดขึ้นกับตนเองเช่นกัน
     
  10. WhiteCarpet

    WhiteCarpet Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +69
    ในส่วนของผู้มีญาณ ที่ท่านสร้างบารมี ด้วยการช่วยคน โดยการดูให้ฟรีนั้น จงพิจารณาสักนิดเถอะ ก่อนที่จะให้ท่านดูให้
    1. ท่านทำด้วยใจที่ปราถนาช่วยคนจริงๆ สิ่งที่ได้คือบุญบารมีต่อตัวท่าน และครูบาอาจารย์ของ ท่าน ฉะนั้นสิ่งที่ท่านแนะนำ จะไม่เกินไปกว่าการปฏิบัติภาวนา เพราะนั่นคือ คำตอบที่แท้จริง และเป็นที่สุดของคำตอบแล้ว (ต่อเมื่อผู้ถามได้นำไปปฏิบัติและค้นพบได้ด้วยตนเอง)
    2. ท่านต้องช่วยคนอีกมากมายหลายคน จึงอย่าถามในคำถามเดิมๆ หรือ ประมาณเดิม เมื่อท่านตอบแล้ว นั่นคือ คำตอบเดียวที่ท่านให้ไว้ ปล่อยให้ท่านเหล่านั้น ได้มีนำเวลาที่มีอยู่ได้ช่วยคนอื่นที่ทุกข์เช่นเราต่อไป
    3. ถามใจตัวเองก่อนว่าปรารถนาคำตอบแบบใด แล้วถ้าคำตอบที่จะได้จากท่านนั้นไม่ตรงใจ รับได้หรือได้เปล่า ถ้ารับไม่ได้ จงอย่าได้ไปหา หรือ โทรหา ท่านเหล่านั้นเลย ให้ท่านได้นำเวลาตรงนั้นไปช่วยผู้คนที่ทุกข์อื่นๆ ต่อไปเถิด
     
  11. koymoo

    koymoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    2,068
    ค่าพลัง:
    +7,066
    โดยส่วนตัวเชื่อว่า คนเรามักจะหันหน้าเข้าหาดวงเพราะต้องการที่ปรึกษาหรือที่พึ่งทางใจ โดยอาจมี อวิชชา เป็นสาเหตุหลัก การดูดวง ก็เหมือนกับเจ้าของกระทู้บอกว่า คำนวณตามสถิติ แต่อย่าลืมว่า พระพุทธเจ้า ท่านสอนว่า อัตตาหิ อัตตโนนาโถ ไม่ใช่ ถ้าไม่สบายใจให้ดูดวงนะ อะไรประมาณนั้น อีกอย่าง การดูดวง เหมือนเป็นการเพิ่มกิเลสของคน และยิ่งทำให้คนเบี่ยงเบนออกไปจากพระธรรมคำสอนมากขึ้น โดยส่วนตัวเมื่อก่อนก็ชอบดูดวงมาก แต่พอโตขึ้น ก็ถามตัวเองว่า ดูไปเพื่ออะไร ในเมื่อหมอดูไม่สามารถมากำหนดชะตาชีวิตของเราได้ นอกจากมันสมอง สองมือ และบุญของเราเท่านั้น ดังนั้น การดูดวงก็เหมือนเป็นการหที่พึ่งทางใจอย่างหนึ่งของคนไทยที่มีมาแต่นมนานเท่านั้น หนำซ้ำยังทำให้คน "หลง" มากขึ้นอีกด้วย เหมือนกับคนป่วยที่เครียด และไม่รู้จะปรึกษาใคร ก็อาจจะพึ่งจิตแพทย์ หรือบางคนก็อาจเลือกพึ่ง หมอดู...

    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคนด้วยนะคะ ไม่เชื่อแต่ก็ไมได้ลบหลู่

    โมทนา
     
  12. WhiteCarpet

    WhiteCarpet Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +69
    ก่อนหน้านี้ มีงานประจำทำอยู่ก็ทุกข์เพราะเจ้าของบริษัท ทุกข์เพราะเพื่อนร่วมงาน ทุกข์เพราะญาติ ทุกข์เพราะคนในครอบครัว เครียดตลอดเวลา หายใจเร็ว เดินเร็ว มองแต่คนรอบข้างตลอดเวลา เหนื่อยมาก จนสุดท้าย ลาออกจากงาน เข้าใจว่า ทุกอย่างจะสบายขึ้น
    แต่......พอลาออกมาแล้ว กับทุกข์หนักกว่าเดิมอีก ทุกข์เพราะไม่รู้ว่าจะได้งานเมื่อไหร่ ทุกข์เพราะไม่รู้ว่าช่วงเวลาที่ตกงานอยู่ จะมีเงินมาผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ใช้จ่ายในครอบครัวหรือเปล่า พอทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ เครียดหนักกว่าเดิมอีก ก็วิ่งหาหมอดู ผู้มีญาณทั้งหลาย
    หวังจะให้ท่านเหล่านั้น ช่วยชี้ทางในพ้นทุกข์ให้ เสียเงินไปเยอะมากๆๆ กับการดูหมอ
     
  13. bumbimnick

    bumbimnick เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +160
    ขอบคุณ คุณ whiteCarpet ที่ช่วยใ้ห้คำพูดของเรานั้นกระจ่างขึ้น

    ตอนแรกที่โพสกระทู้นี้ คิดไว้ว่าจะต้องโดนต่อต้านจากหลายๆท่าน

    แต่ก็ตัดสินใจโพส เพราะอย่างน้อยหากเตือนสติท่านใดได้สักคน

    เราก็ถือว่าได้บุญแล้ว และหากจะโดนต่อว่าอย่างไร ก็ยินดีจะรับฟังค่ะ
     
  14. WhiteCarpet

    WhiteCarpet Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +69
    อ่านหนังสือ เข็มทิศชีวิต ของคุณนิฐินาถ ก็ไม่เข้าใจ อ่านกี่รอบก็ไม่เข้าใจ จนผ่านมาหลายเดือน ความทุกข์ก็กองสุมอยู่ในใจ จนกระทั่งนึกถึงคำพูด ของผู้มีญาณทั้งหลายที่ได้เคยคุยด้วย ที่แนะนำให้สวดมนต์ภาวนา รักษาศีล จึงได้เริ่มทำ และทำมาเรื่อย ใช้เวลาไม่นาน ใจที่เคยเร่าร้อน ก็สบายขึ้น มองเห็น “ใจ” ของตัวเองมากขึ้น จนตอนนี้ความเร่าร้อนเหล่านั้นหายไปเกือบจะหมดแล้ว ทั้งๆ ที่ หนี้สินก็ยังคงเท่าเดิม แต่ปัญหาคลายไปเกือบหมดแล้ว
    วันนี้อ่านหนังสือ เข็มทิศชีวิต อีกรอบ แปลกดี อ่านคราวนี้กลับเข้าใจ ในเจตนาที่ผู้เขียน เขียนเพื่อให้เพื่อนร่วมโลกของเขาพ้นทุกข์เช่นเดียวกัน สุดท้ายคำว่า “ตน เป็นที่พึ่งแห่งตน” นั่นเป็นของแท้และแน่นอน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2010
  15. WhiteCarpet

    WhiteCarpet Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +69
    ยินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะก็ตั้งใจจะตั้งกระทู้เหมือนกัน แต่เราไม่ใช่หมอดู เป็นเพียงผู้ปฏิบัติตามแนวทางขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเห็นเป็นจริงดั่งที่พระพุทธองค์ท่านกล่าวไว้
    จึงเข้าใจคุณ และเข้าใจคนดูเช่นกัน ดีแล้ว ชอบแล้ว อนุโมทนาสาธุด้วย เป็นกุศลแล้ว
     
  16. bumbimnick

    bumbimnick เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +160
    ่ยังไงก็อยากให้เดินหน้าหาธรรมมะกันดีกว่าจริงๆค่ะ
     
  17. sZerETleK

    sZerETleK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2007
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +126
    ธรรมะสามารถให้ในสิ่งที่แม้เราก็ไม่ได้คาดหวัง ไม่ได้คิดว่ามันจะต้องได้
     
  18. ภวโลกร้อน

    ภวโลกร้อน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    444
    ค่าพลัง:
    +1,272
    เมื่อก่อนก็ชอบดูหมอมากคนหนึ่ง...ดูทุกที่ที่ว่าแม่นแต่ไม่นานมานี้..ได้เจอคนๆหนึ่งมีคำพูดอยู่คำหนึ่งซึ่งเราได้ถามคนๆหนึ่งเชื่อว่าท่านคงมีญาณว่า อนาคตเราจะเป็นอย่างไร..ท่านตอบว่าหากคนเรารู้อนาคตได้ทุกคนก็ดีน่ะสิ..จะได้ไม่ทุกข์กัน
    ไม่มีใครสามารถรู้อนาคตของใครได้..แต่ที่รู้ได้คือเราควรทำปัจุบันให้ดีที่สุด..เพราะว่าปัจจุบันเป็นเหตุแห่งอนาคต...เราทำอะไรก็ได้อย่างนั้น..บางทีการดูดวงก็เหมือนเราเอาอนาคตไปขึ้นกับหมอดู..แต่ไม่ใช่กับทุกคนนะคะ..แต่ส่วนตัวเราเริ่มมองเห็นแล้วว่าอะไรที่เกิดกับเราคือกฎแห่งกรรม.เราทำกรรมอะไรไว้ก็ต้องรับมัน..
    ไม่ต้องไปหาหมอดูหรอกค่ะ..
     
  19. ฤดูใบไม้ผลิ

    ฤดูใบไม้ผลิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,036
    ค่าพลัง:
    +1,723
    ทาน ศีล ภาวนา เอาให้ถึง พร้อม.....มี สติ ปัญญา ทุกๆเมื่อ นอกจากนั้น ไม่มีอะไรจะทำอะไรเราได้
     
  20. pimenax

    pimenax สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +8
    ท่าน bumbimnick

    ฝากเพื่อนท่านช่วยดูให้ผมหน่อยสิครับ ตอนนี้รู้สึกสับสนในเรื่องงาน จะลุยต่อในงานที่ทำอยู่ตอนนี้ดีหรือป่าว

    15 เม.ย. 2529 13:01 สตูล

    ขอบคุณครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...