"บุญออฟโรด"ธารน้ำใจ..ไผ่ร้อยกอจาก...วงการพระ

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 27 พฤศจิกายน 2008.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,487
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headnews vAlign=top>"บุญออฟโรด" ธารน้ำใจ ไผ่ร้อยกอจาก...วงการพระ


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top height=4></TD></TR><TR><TD class=dessubmmenu1><CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ทั้งนี้ จะมีการรเปิดตัวอัลบั้มชุด เด็กหลังเขา และคุณครูของหนูอยู่ไหนโดย พยัพ คำพันธุ์ (ประธานชมรมออฟโรด BUNKER) สีเผือก คนด่านเกวียน สุนารี ราชสีมา พร้อมศิลปินรับเชิญพิเศษ วงคาราบาว วงมาลีฮวนน่า อี๊ดฟุตบาท คนโคจร ภายในงานมีโชว์รรถออฟโรดสวยๆ และคลาสสิก ที่หาดูยากนับร้อยคัน ตั้งแต่เวลา ๑๕.๐๐ น.เป็นต้นไป


    "เมื่อเกือบ ๒๐ ปีที่แล้ว หนังเรื่องครูบ้านนอกอาจจะทำให้ใครพอนึกถึงความยากลำบากการเรียนหนังสือของนักเรียน และการเดินทางไปสอนหนังสือของครูผู้เสียสละได้เป็นอย่างดี เป็นเรื่องเหลือเชื่อ ณ พ.ศ.๒๕๕๑ ยังมีโรงเรียนอีกหลายสิบแห่งที่ยากลำบากกว่าโรงเรียนในหนังครูบ้านนอกเสียอีก

    โดยเฉพาะโรงเรียนบ้านหินตั้ง มีระยะทางเพียง ๗๐ กม.จากตัวเมืองกาญจนบุรี แต่ต้องใช้เวลาในการเดินทางด้วยเท้า ๓ วันเต็มๆ เพื่อจะมาต่อรถเข้าเมือง" นี่คือคำยืนยันของนายพยัพ ซึ่งได้เข้าไปสัมผัสธรรมชาติ และชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง ที่ซ่อนตัวอยู่ในผืนป่าอนุรักษ์ทุ่งใหญ่นเรศวร บริเวณแนวเขตชายแดนไทย-พม่า


    <CENTER>[​IMG]</CENTER>


    ส่วนความเป็นมาของการจัดงานครั้งนี้ นายพยัพบอกว่า เมื่อเร็วๆ นี้ พบว่าชาวบ้านและเด็กๆ โรงเรียนบ้านหินตั้ง หมู่ ๖ บ้านจะแก ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี มีความเป็นอยู่ที่อัตคัดขาดแคลนมาก เด็กทุกคนใส่เสื้อผ้าเก่าๆ รองเท้าก็ไม่มีใส่ ส่วนอาหารการกินนอกจากพืชไร่ที่ปลูกกันเองแล้ว อย่างอื่นแทบไม่รู้จัก ทุกคนอยู่กันอย่างยากไร้ ในขณะที่ห้องน้ำมีเพียง ๒ ห้อง ในสภาพที่แทบจะใช้การไม่ได้

    ทางคณะที่ร่วมเดินทางไปจึงช่วยกันบริจาคเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อให้สร้างห้องน้ำเพิ่ม

    "รายได้ทั้งหมดในการจัดงานครั้งนี้จะไปให้ความช่วยเหลือ ด้วยการนำเสื้อผ้าตลอดทั้งเครื่องนุ่งห่ม พร้อมสมุด หนังสือเรียน และอาหารแห้ง ทั้งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เครื่องปลากระป๋อง ไปบริจาค สร้างความดีใจให้แก่เด็กๆ ร่วม ๓๐๐ ชีวิตที่เพิ่งได้เห็นผู้ใหญ่ใจดีจากในเมือง ไปให้ความช่วยเหลือ

    ซึ่งหลังจากให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว สมาคมผู้นิยมพระฯ ยังได้จัดตั้งโครงการธารน้ำใจ ไผ่ร้อยกอ เพื่อหารายได้ไปช่วยเด็กๆ ด้อยโอกาสเหล่านั้นให้เป็นจริงเป็นจังมากขึ้น" นายพยัพกล่าว

    นอกจากโครงการธารน้ำใจ ไผ่ร้อยกอแล้ว ยังมีชาวออฟโรดอีกหลายชมรมดำเนินกิจกรรมการกุศลในลักษณะเดียวกัน เช่น นายพงศทร สุพรรณพงศ์ เว็บมาสเตอร์ออฟโรดตีนโต (www.teentoa.com) บอกว่า ที่ผ่านมาสมาชิกของเว็บซึ่งเป็นชาวออฟโรดได้ร่วมกันจัดกิจกรรมทำบุญทำกุศลหลายครั้ง เช่น สร้างพระให้ตำรวจตระเวนชายแดน อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เลี้ยงอาหารกลางวันเด็กที่โรงเรียน ตชด.

    รวมทั้งจัดกิจกรรมกระตุ้นต่อมโฟโร ๒๐๐๘ โดยนำรายได้มอบให้พระอุดมประชาทรพระอาจารย์อลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี เป็นเงินกว่าแสนบาท



    <CENTER>[​IMG]</CENTER>


    ในขณะที่ชมรม ๒๒ นอ ซึ่งมีสมาชิกชาวออฟโรดทั้งหมด ๑๙๑ คัน และนายรัฐศักดิ์ พลสิงห์ เลขาธิการ บอกว่า กิจกรรมหนึ่งที่สมาชิกของชมรมดำเนินการอยู่ในขณะนี้ คือ สร้างโรงเรียนบ้านตุเบ อ.แม่ระมาด จ.ตาก ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ไปสร้างโรงเรียนบ้านสมอจาบน อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ โดยเงินสนับสนุนในการสร้างโรงเรียนมาจากสมาชิกไปร่วมกันบอกบุญกันเป็นทอดๆ

    ทั้งนี้ การสร้างโรงเรียนแต่ละครั้งใช้เงินไม่ต่ำกว่าหลักแสนบาท การเดินทางไปช่วยโรงเรียนไกลปืนเที่ยงแต่ละแห่งเป็นไปอย่างยากลำบาก บางแห่งใช้เวลาเดินเป็นวัน แม้จะเหนื่อยจนสายตัวแทบขาด แต่สมาชิกทุกคนก็ไม่เคยท้อ พร้อมเดินทางกลับออกมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม และอิ่มบุญ กับความภูมิใจในการปฏิบัติภารกิจลุล่วงอย่างที่ตั้งใจไว้

    เสียงเพรียกจากบ้านหินตั้ง


    เพื่อให้ชาวบ้านหินตั้งได้อ่านออกเขียนได้ สำนักงานการประถมศึกษาอำเภอสังขละบุรี ได้ร่วมมือกับตำรวจตระเวนชายแดน พร้อมทั้งชาวบ้าน ซึ่งนำโดย ศุภชัย พนาอุดม จัดตั้งโรงเรียนขึ้น โดยเริ่มแรกใช้ชื่อว่า "โรงเรียนบ้านจะแก" เปิดทำการสอนขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๒๖ มีนักเรียนจำนวนทั้งสิ้น ๔๖ คน หลังจากเปิดทำการสอนได้เพียงแค่ปีเดียว โรงเรียนก็ต้องปิดตัวลง เพราะขาดการสนับสนุนทางด้านต่างๆ จากภาครัฐ แต่ยังดีที่ได้ความช่วยเหลือจากครูอาสาสมัคร เข้ามาสอนให้จนถึงสิ้นปีการศึกษา ๒๕๒๗
    <CENTER>[​IMG]</CENTER>


    เมื่อถึงปีการศึกษา ๒๕๒๘ จึงได้ย้ายโรงเรียนมาอยู่ในสถานที่ปัจจุบัน ซึ่งได้รับทุนช่วยเหลือจากภาคเอกชน สร้างอาคารเรียนที่ทำจากไม้ไผ่ หลังคามุงหญ้าแฝก พร้อมทั้งจัดหาโต๊ะ เก้าอี้ และอุปกรณ์การเรียนการสอนที่จำเป็นให้ และได้เปลี่ยนชื่อเป็น "โรงเรียนบ้านหินตั้ง" ตามสถานที่ ซึ่งมีหินตั้งเป็นแท่งตรงเด่นตระหง่านอยู่ด้านหน้า ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ปัจจุบันสร้างอาคารปูน ยกพื้นสูง แทนที่อาคารไม้หลังเดิม เปิดสอนตั้งแต่ระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษาตอนต้น มีนักเรียนทั้งหมดกว่า ๓๐๐ คน โดยมี นายภูมี เชนยะวานิช เป็นผู้อำนวยการ พร้อมครูผู้ช่วย ๑๖ คน และนักการภารโรง ๑ คน

    "โรงเรียนแห่งนี้อยู่ในป่าลึก การเดินทางลำบากที่สุดในประเทศไทย หน้าฝนรถไม่สามารถเข้าออกได้ ใครอยากเข้าเมืองต้องใช้เวลาเดินเท้าอย่างน้อย ๓-๔ วัน ถ้าเลือกได้ไม่มีใครมาเป็นครูที่นี่ แม้ว่าทุกคนจะมาสอนที่นี้ด้วยจิตวิญญาณของความเป็นครูร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ไม่มีครูคนไหนอยู่นานเกิน ๒ ปี ก็ย้ายออกจากพื้นที่ไปสอนโรงเรียนอื่นๆ ตัวผมเองก็คิดย้ายออกจากพื้นที่เหมือนกัน โดยในปีการศึกษาที่ผ่านมามีครูย้ายออกไป ๕ คน

    จากนั้นก็มีชุดใหม่มาแทนสลับอยู่อย่างนี้ตั้งแต่เปิดโรงเรียนมา ด้วยเหตุที่ว่ามีความยากลำบากและมีความอดอยากสุดเกินจะบรรยาย เชื่อหรือไม่ว่าแค่เกลือแกงถุงละ ๒ บาท ที่ชาวออฟโรดไปมอบให้ชาวบ้านก็ยกมือไหว้ท่วมหัวแล้ว บ้านไหนที่มีน้ำปลากินถือว่าบ้านนั้นมีตังค์" นี่คือคำยืนยันของนายภูมี

    เรื่องและภาพ "ไตรเทพ ไกรงู"​

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2008
  2. ตักศิลา

    ตักศิลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    498
    ค่าพลัง:
    +440
    อยากเป็นส่วนร่วมด้วย เงินน้อยครับแต่มีแรงยังไงก็ติดต่อมานะครับในข้อความส่วนตัวก็ได้

    อนุโมทนาสาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...