บุญเก่ากับปัญญา

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมวิวัฒน์, 8 กันยายน 2019.

  1. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,267
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,012
    FB_IMG_1567940516773.jpg
    บุญเก่ากับปัญญา


    "เราจะเห็นได้ว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้มีส่วนประกอบสำคัญอยู่สองส่วน ก็คือ บุญเก่ากับปัญญา ถ้าสองส่วนนี้ลงตัวเมื่อไร ความเป็นสัมมาทิฐิจะเกิดขึ้นทันที จะว่าไปแล้วพวกเราทั้งหลายก็ยังไม่มั่นคงในส่วนของสัมมาทิฐิ เพราะว่ายังจัดอยู่ในประเภท "เบื่อ ๆ อยาก ๆ" ตอนไหนที่เราเบื่อแปลว่า มีสัมมาทิฐิ มีสัมมาสังกัปปะ สัมมาทิฐิคือเห็นสิ่งนี้ถูก สิ่งนี้ควร เราต้องปฏิบัติตามนั้น สัมมาสังกัปปะก็คือ คิดในทางที่ถูกที่ควร อย่างเช่นว่า คิดจะออกจากกาม คิดจะไปให้พ้นจากความทุกข์ เป็นต้น

    ถ้าเราตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติในขณะที่ผลบุญเข้ามา เราก็จะได้อะไรชนิดเห็นหน้าเห็นหลังอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าผลบุญเข้ามา เรายังทำประเภท "ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง" เมื่อวาระเลยไปก็ต้องรอรอบใหม่ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเราทำบุญเอาไว้มากน้อยแค่ไหน ช้าเร็วแค่ไหน บางคนต้องใช้เวลาหลายสิบปี

    สมัยที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านยังสอนกรรมฐานอยู่ มีโยมอยู่คนหนึ่งทุ่มเททำบุญมา ๔๐ กว่าปี สร้างโบสถ์ สร้างศาลา สร้างวิหาร สร้างเจดีย์ มาเป็นเงินนับไม่ถ้วน โดยมีความเข้าใจว่า ถ้าทำทั้งหลายเหล่านี้แล้วจะได้เป็นพระอรหันต์ โดยที่ไม่รู้ว่า ความเป็นพระอรหันต์นั้นอยู่ที่การชำระใจให้หมดกิเลส สิ่งที่ท่านทำเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของการชำระใจเท่านั้น ก็คือการตัดความโลภจากใจ โดยการสละทรัพย์สินทำสิ่งดี ๆ ให้กับพระพุทธศาสนา แต่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องการตัดความโกรธ ตัดความหลงเลย จนกระทั่งวาระบุญกุศลเข้ามา อายุก็ ๖๐-๗๐ ปีแล้ว ถึงจะได้รู้ว่าวิธีที่ถูกต้องเป็นอย่างไร

    ฉะนั้น...ถ้าพวกเรายังประมาทอยู่ เกิดว่ารอบบุญของเราหลายสิบปีขึ้นมา เห็นหลุดวงโคจรไปเยอะแล้ว บางคนถึงขนาดเปลี่ยนศาสนาไปเลยก็มี"

    เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนกันยายน ๒๕๖๑
    สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี
     

แชร์หน้านี้

Loading...