บุพเพชาติปางก่อนที่มีเวรกรรม ของหลวงปู่จันทา ถาวโร วัดป่าเขาน้อย จ.พิจิตร

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย แดนโลกธาตุ, 7 กันยายน 2006.

  1. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    [​IMG]


    บุพเพชาติปางก่อน
    หลวงปู่จันทา ถาวโร
    วัดป่าเขาน้อย อ. วังทรายพูน จ. พิจิตร
    โพสท์ในลานธรรมเสวนา กระทู้ที่ 006630 - โดยคุณ : mayrin [ 4 ต.ค. 2545]
    [​IMG]
    ในตอนเย็นวันหนึ่งนั่งแปล ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร จนจบแล้วก็เข้าที่ไหว้พระสวดมนต์อุทิศส่วนบุญ จากนั้นก็นั่งภาวนาวันนั้นจิตรวมใหญ่
    พอจิตสงบลงก็มีแสงสว่างกระจ่างแจ้งเกิดขึ้นแล้วพระธรรมก็ยกเพศนักบวชมาให้เห็นยืนอยู่ตรงหน้า แหมรูปร่างสวยงาม แต่ไม่ใหญ่โตนะ มีขนาดเท่ากับปัจจุบันนี้แหละ แล้วพระธรรมก็พูดขึ้นว่า
    "นี่แหละ สมบัติของท่าน ยกเอามาให้ดูเป็นสมบัติที่ดี ตั้งแต่ชาติปางก่อนโน้น สมัยศาสนาของพระพุทธเจ้าสิขี ก่อนพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ขึ้นไปอีก ๕ พระองค์ นั่นแหละ
    ท่านได้ไปบวชในศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์นั้น ตั้งแต่เป็นเณรไปตลอดจนถึงวันตาย นั่นแหละ ไม่หวั่นไหวในเรื่องโลกสงสาร พอใจใฝ่ฝันในการทำความดี เพราะเบื่อหน่ายในภพชาติสังขารที่ได้ไปอบายเสียเป็นส่วนมาก
    ได้มีโอกาสทำคุณงามความดีเพียงชาติเดียวเท่านั้น และก็ได้มอบกายถวายชีวิตรักษาเพศพรหมจรรย์ไว้ บวชจนตลอดชีวิต ไม่สึกไปสร้างโลก ไม่หวั่นไหวในเรื่องกิเลสทั้งนั้น จนกระทั่งได้เอาผ้าเหลืองห่อร่างเข้ากองไฟไปเลยนะในชาตินั้น
    นั่นแหละ เป็นปัจจัยใหญ่ที่ชาตินั้นได้บวชทำคุณงามความดีไว้ ได้ศึกษาพุทธวจนะ ฝังไว้ที่ใจ ไม่สาบสูญหายไปไหนหรอก มาชาตินี้ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เรียนหนังสือก็ตามที แต่คุณงามความดีที่ได้ทำไว้ก็ดลบันดาลให้มาได้บวชอีก ถ้าชาตินั้นไม่ได้บวช มาชาตินี้ก็ไม่ได้บวชนะ"
    ทีนี้ก็กำหนดถามพระธรรมต่อไปว่า "ชาตินี้ภพนี้จะไปพระนิพพานตามพระพุทธเจ้าได้ไหม ?"
    "แล้วแต่เหตุปัจจัยนะ"
    "อะไรคือเหตุ อะไรคือปัจจัย?"
    "เหตุ คือ การประพฤติปฏิบัติสมถกรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐาน เดินยืนนั่ง พิจารณาธาตุขันธ์น้อมลงสู่ไตรลักษณ์เห็นแจ้งประจักษ์อย่างนั้น นี่เรียกว่า การประกอบเหตุดี"
    "ปัจจัย ได้แก่ บุญกุศลแต่ชาติปางก่อนโน้น ถ้ามันสมดุลกันแล้วก็ไปได้ บุญกุศลนั้นจะเป็นเครื่องตัดกระแสของสงสารไปได้"
    "ถ้าปัจจัยเต็มแล้ว แต่ขาดเหตุ ก็ไปไม่ได้ หรือว่า เหตุพร้อมแล้ว แต่ขาดปัจจัย ก็ไปไม่ได้เช่นกัน ฉะนั้น มันต้องพร้อมมูลทั้งสองอย่างมันจึงจะไปได้ นั่นแหละ ไม่ต้องสงสัย"
    "แต่ถึงจะไปได้หรือไม่ได้ก็ตามที ก็อย่าได้หวั่นไหวในการประพฤติปฏิบัติศาสนธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ไม่ว่าจะทำน้อยหรือมากก็เป็นบุญเป็นกุศลเป็นนิสัยเป็นปัจจัยทั้งนั้น"
    นั่นแหละ พระธรรมพูดขึ้นมาอย่างนั้นแล้วก็ดับสูญไป
    ถ้ามีผู้ถามว่า "อยากจะสึกไปสร้างโลกกับเขาอีกหรือไม่?"
    "โอ๋... อย่าคิดเสียเลย เสียเวลาภาวนา ชาติก่อนเคยเป็นมาอย่างไร ชาตินี้ก็จะเป็นอย่างนั้น ในชาติปางก่อนเคยบวชอยู่จนตายในเพศพรหมจรรย์ หามเข้ากองไฟไปเลย ชาตินี้ก็จะไปอย่างนั้น"
    เห็นพระเณรอยากสึก มาขอสึก แล้วก็รู้สึกใจหายนะ ใจร้อน สงสารเมตตา เพราะอินทรีย์อ่อน บารมีธรรมอ่อน สติปัญญาก็อ่อน ตัดวัฏฏสารกระแสแห่งความทุกข์ไม่ได้
    ก็ไปตามเวรตามกรรมเถิดไม่ว่ากัน พอหันกลับมามองเพศพรหมจรรย์แล้ว ก็รู้สึกเย็นตา เย็นใจนะ ใจสบาย นี่เป็นเพราะปัจจัยเก่าสร้างสมมาอย่างนั้น
    จากนั้นจิตก็รวมอีก พระธรรมก็ยกบุพเพชาติมาให้เห็นอีก
    เป็นจระเข้ใหญ่ นอนอยู่ในถ้ำ จึงถามว่า "นี่คืออะไร ?"
    "นี่แหละ ปุพเพ อะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุ ชาติภพของท่านที่เป็นมาแต่ชาติปางก่อนโน้น"
    "เป็นอย่างนี้ก็เป็นหรือ ?"
    "เป็น"
    "เพราะเหตุใดจึงเป็น ?"
    "เพราะกลืนกินยาพิษ ความโลภโกรธหลงนั้นคือยาพิษใหญ่ ฉาบทาจิตใจไว้ ไม่มีที่พึ่ง คือ พุทโธ ธัมโม สังโฆ และ ศีลธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ดังนั้น เมื่อตายแล้วจึงไปเสวยภพชาติเป็นจระเข้"
    "นานเท่าใด ?"
     

แชร์หน้านี้

Loading...