///วัตถุมงคล/เครื่องราง...เริ่มหน้า 72..//

รายการที่909 พระพรหมพลิกชะตา นะเมตตา สะท้านฟ้า หลวงปู่นะ วัดหนองบัว ชัยนาท
วัตถุมงคลของเกจิอาจารย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายล้วนมีจริง สามารถช่วยดลบันดาลได้อย่างอัศจรรย์ หลวงปู่เป็นสุดยอดเกจิอาจารย์ตามรอยบูรพาจารย์อย่าง หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงปู่เคลือบ วัดหนองกะดี่ หลวงปู่เสือ วัดมหาเมฆ หลวงปู่จั่น วัดท่านจั่น ที่ท่านได้ปฏิบัติกรรมฐานชั้นสูงสุด เชี่ยวชาญชำนาญเวทย์ เล่นแร่แปรธาตุ ปกป้องคุ้มครอง ช่ำชอง คงกระพัน ชาตรี มหาอุด สุดยอดหมากกลเปลี่ยนชะตา แคล้วคลาด แต่งคนแต่งทัพด้วยฌานบารมี ท่านสามารถสัมผัสพลังเหนือโลก แม้แต่ทวยเทพเทวายังต้องมารักษา ศีลของท่านนั้นใสสะอาดดุจแก้วมณีโชติ ท่านบรรจุพลังปลุกเสกกสิณไฟไล่สิ่งอปมงคล กสิณลมเสริมทัพรอบครอบจักรวาล กสิณดินเบิกพระเนตร กสิณน้ำเพื่อความร่ำรวย ด้วยท่านเป็นพระที่แสนเรืองเวทย์เมตตา แม้ใครมีวัตถุมงคลเคารพศรัทธาท่านก็จะพบประสบผลสำเร็จ โชคลาภเมตตาค้าขายเจริญก้าวหน้าด้วยยศฐาบรรดาศักดิ์ แคล้วคลาดปลอดภัยเป็นสุดยอด โดดเด่นด้วยพุทธคุณเป็นพระผู้มีฌานบารมีเพียบพร้อมประกอบศีล จริยวัตรอันงดงาม ปลุกเสกวัตถุมงคลครบองค์ประกอบ ด้วย ธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ สามารถดึงกสิณเบิกตาที่สามพลังเหนือโลก ท่านเจนจบยอดยันต์ตรีนิสิงเหหมากกลซ่อนชะตาชีวิตลิขิตแห่งพรหม รวมแล้วได้ 25 ทั้ง 4 ด้าน เป็นยันต์ที่ถูกเชิญลงมาเพื่อพลิกชะตา ด้วยบารมีแห่งพระพรหม พรหมนั้นเป็นผู้ลิขิตชะตาฟ้า สามารถกลับร้ายกลายเป็นดี เป็น เทพสร้างสรรค์บันดาลโลก มวลหมู่เทวดา นางฟ้า มนุษย์ จะทุกข์หรือสุขตามลิขิตแห่งพรหม พรหมที่หลวงปู่เมตตาปลุกเสกให้เป็นเอกในราชา การเปลี่ยนแปลงโชคชะตาด้วยอาถรรพ์ ดอกไม้ 12 ชนิด ที่เป็นประกาศิตแห่งพรหม ได้แก่ ดอกบัวขาว ดอกพุทธรักษาขาว ดอกเข็มขาว ดอกรักขาว ดอกกุหลาบขาว ดอกบานไม่รู้โรย ดอกมะม่วงขาว ดอกโป๊ยเซียนขาว ดอกลีลาวดีขาว ดอกเงินขาว ดอกพุดขาว สำคัญยิ่งถือว่ามีอนุภาพสูงสุด คือ ดอกมะลิขาว แรงสุดในดอกมงคลอาถรรพ์ มีอานุภาพต่อมวลมนุษย์ ทวยเทพทั้งผอง ต้องยอมสยบ แม้มารก็พบรัก ด้วยไม่มีผู้ใดต้านทานมนต์ โอม ปิโย ร ส ที่หลวงปู่นะร่ำเรียนมาอย่างช่ำชองถ่องแท้ หลวงพ่อจำลองแห่งวัดคงคา ได้รวบรวมไม้ดอกมาเป็นมวลสารหลักต้องว่าด้วยมนต์แห่งคงคา ราชะ โต วา มาในยุคปัจจุบันนี้ หลวงปู่เล็งเห็นคนจนได้รับความทุกข์ยากลำบากไม่สบาย จึงได้เมตตาจัดสร้างพระพรหมพลิกชะตา ขุนแผนนะสะท้านฟ้า สุดยอดตะกรุดนักปราชญ์ที่ชาญฉลาด ท่านได้ทุ่มพลังปลุกเสกจนออกมาเป็นเอก ดึงพลังเสกแห่งฟ้าครบรอบ 12 ราศี ครบรอบ 12 นักษัตรย์ ขุนแผนนะสะท้านฟ้ารวมสุดยอดมวลสารที่หลวงพ่อจำลอง แห่งวัดคงคา ได้รับมา ผงเมตตา 5 พุทธคุณเกื้อหนุนนำดวง ว่านดอกไม้ทอง ผงอิทธิเจ 108 ว่านมงคล 108 ผงพุทธคุณ ขุนแผนหลวงปู่นะนั้นแตกต่าง ใช้แล้วรวย ใช้แล้วเฮง ใช้แล้วดี ใช้แล้วจึงจะรู้ว่าปาฏิหาริย์นั้นมีจริง ตะกรุดนักปราชญ์ เข้มขลัง ดังใจปรารถนา วัตถุมงคลนามทั้งสามได้บังเกิดตามลิขิตแห่งฟ้า พระพรหมพลิกชะตา ขุนแผนนะสะท้านฟ้า ตะกรุดนักปราชญ์ รับรองว่าใช้แล้วร่ำรวยเงินทอง ร่ำรวยวาสนา ร่ำรวยมหาเสน่ห์ อุปเท่ห์ด้วยหมากกลซ่อนชะตา พลิกยาจกให้เป็นผู้ดี พลิกเศรษฐีให้เป็นเจ้าสัว พลิกคนชั่วให้เป็นคนดี พลิกเจ้าหนี้ให้เป็นคนรัก พลิกคนอกหักให้สมหวัง เพราะพลังพุทธคุณ ด้วยว่าฌานสมาธิจิต หลวงปู่ตั้งจิตปลุกเสกรุ่นนี้ให้ แกร่งกล้า เกรียงไกร กึกก้อง เก่งกาจ ก้าวล้ำนำสมัย ฉลาดทันคน ด้วยมนต์พลิกชะตา โอม ปิโย ร ส มหาเสน่ห์ขุนแผนนะสะท้านฟ้า สุ นะ โม โล นำพาวาสนาด้วยตะกรุดนักปราชญ์ โอม สุ จิ ปุ ลิ
บูชา 200 บาท

 

รายการที่910 ขี้ผึ้งมหามงคล หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน ศรีสะเกษ
ย้อยยุค
บูชา 200 บาท

 

รายการที่911 เหรียญหลวงพ่อเพิ่ม วาจาสิทธิ์ วัดสรรเพชร อ.สามพราน จ.นครปฐม ปี ๒๕๑๘ (รุ่น ๔)
หลวงปู่เพิ่มนั้นท่านเป็นสหธรรมมิก และ มีความสนิทสนมกับ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม และ ได้แลกเปลี่ยนความรู้กันอยู่ตลอด ตั้งแต่ตอนที่ท่านเพิ่งย้ายมาอยู่วัดสรรเพชร (สรรเพชญ) ถ้ามีลูกศิษย์จากอำเภอสามพราน นครปฐม ไปกราบไปขอของดีจากหลวงพ่อเงิน หลวงพ่อเงินท่านจะบอกว่า ไม่ต้องมาไกลหรอก หลวงปู่เพิ่ม วัดสรรเพชร ท่านก็เก่งไม่เบาเลยทีเดียว อีกทั้งหลวงปู่เพิ่มท่านยังได้มีการพบปะ แลกเปลี่ยน ทดลองวิชากับ หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ อีกด้วย ทั้งได้รับนิมนต์เข้าร่วมพิธีปลุกเสกร่วมกับทางวัดกลางบางแก้ว หลายครั้ง หลายคราด้วยครับ เหรียญนี้สร้างเมื่อ ปี18 ออกที่วัดสรรเพชร ท่านมรณะภาพในปี 2526
บูชา 200 บาท

 

รายการที่912 เหรียญหลวงพ่อขอม หลังพระพุทธโคดม จ.สุพรรณบุรี เหรียญพุ่มข้าวบิณฑ์พระพุทธโคดม ปี2510
หลวงพ่อขอม นามเดิมท่านชื่อ เป้า แต่เพื่อนๆเรียกท่านว่า ขอม เมื่อท่านก้าวเข้าสู่ร่มกาสาวพัสร์แล้ว พระขอม หรือ อนิโชภิกษุ ได้จำพรรษาอยู่ที่ วัดบางสาม ท่านได้ตั้งหน้าศึกษาพระธรรมวินัย ด้วยความเอาใจใส่อย่างยิ่ง และปฏิบัติตนในศีลาจารวัตร เป็นอย่างดีอยู่หลายปี จนกระทั่งได้มี สำนักสงฆ์สร้างขึ้นใหม่แห่งหนึ่ง มีชื่อเรียกตามชาวบ้านว่า ” วัดไผ่โรงวัว ” ด้วยเหตุที่นี่ไม่มีสมภารเจ้าวัด บรรดาชาวบ้านย่านนั้น ซึ่งจับตาดู พระขอม มาตั้งแต่ต้น ลงความเห็นพ้องต้องกันว่า ผู้ที่สมควรได้รับตำแหน่ง สมภารวัดใหม่นี้ ไม่มีท่านใดเหมาะสมเท่า พระขอม เมื่อลงความเห็นดังนี้ ต่างก็พากันไปนิมนต์ พระขอม ให้ไปจำพรรษาอยู่ที่ วัดไผ่โรงวัว พระขอม ซึ่งเคยเป็นที่คุ้นเคยกับ พุทธบริษัทที่นั่น มิอาจขัดศรัทธา จึงย้ายไปจำพรรษาอยู่ที่วัดนั่นเป็นเวลา 2 ปี แต่วัดไผ่โรงวัวแห่งนี้ ก็ขาดสถานศึกษาเล่าเรียนทางด้านพระพุทธศาสนา เพราะเป็นวัดพึ่งสร้างใหม่ เรื่องนี้ทำให้ พระขอม พิจารณาตนเอง และเห็นว่าอันธรรมวินัยของพระศาสดานั้น ท่านยังเข้าไม่ถึงพอที่จะเป็น สมภารเจ้าวัดได้ หากผู้ศรัทธา ยังประสงค์จะให้ท่านเป็นผู้นำของวัดนี้อยู่ ท่านก็จำต้องเสาะแสวงหาความรู้เพิ่มเติม

ดังนั้น พระขอม จึงขอย้ายไปจำพรรษาอยู่ที่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ซึ่งอยูในตัวเมืองสุพรรณบุรี แล้วไปศึกษาพระปริยัติธรรมที่ วัดประตูสาร ใกล้ๆกับวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ที่ท่านจำพรรษาอยู่นั่นเอง การศึกษาพระปริยัติธรรมของ พระขอม ดำเนินไป 3 ปี ท่านก็สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก อันเป็นความรู้ชั้นเถรภูมิ คราวนี้ท่านกลับมาสู่ วัดไผ่โรงวัว อีกครั้งหนึ่ง อย่างสมภาคภูมิ กลับมาอย่างผู้พร้อมที่จะบริหาร ภารกิจให้พระศาสนาอย่างเต็มที่

วัดไผ่โรงวัวเป็นวัดใหม่ จึงยังไม่ถึงพร้อมทุกๆด้าน คือไม่มัอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย กุฏิที่อยู่จำพรรษาของพระภิกษุสามเณร ก็เป็นกระต๊อบมุงจากเก่าๆ มีอยู่เพียง 2 หลัง ศาลาการเปรียญที่เป็นที่บำเพ็ญกุศลของทายกทายิกา เป็นเพียงเรือนไม้ไผ่หลังคามุงจาก อาศัยพื้นดินเป็นพื้นของศาลา น่าอนาถใจยิ่ง

ภาระของพระขอม คือต้องปรับปรุงศาสนสถานแห่งนี้ให้น่าพักพิงสมกับเป็นวัด เพื่อจะได้เป็นหนทางนำไปซึ่งการปรับปรุงจิตใจของชาวบ้านผู้ศรัทธา และเนื่องจากบรรดาชาวบ้านต่างมีศรัทธา พระขอม เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว งานปรับปรุงก่อสร้างขั้นแรกจึงผ่านไปได้ไม่ยาก เริ่มด้วยการถมดิน ไม่ให้น้ำท่วมวัดได้ เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นที่ลุ่มมาก ถึงฤดูฝนคราใดน้ำท่วมทุกปี และท่วมมากขนาดเรือยนต์เรือแจวแล่นถึงกุฏิได้ เมื่อถมดินเสร็จ ท่านได้จัดการขุดสระน้ำ สำหรับเป็นที่สรงน้ำ และน้ำดื่มของพระภิกษุสามเณร และเพื่อชาวบ้านทั้งหลายจะได้อาศัยใช้-กินโดยทั่วไป แล้วซ่อมกุฏิที่ชำรุดทรุดโทรม สร้างศาลาการเปรียญ สร้างโบสถ์ จัดสรรให้เหมาะสมเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม สมกับคำว่า ” วัด ” ทำให้ศรัทธาของชาวบ้านยิ่งเพิ่มมากขึ้น นับตั้งแต่ พระขอม ได้บวชเป็นพระสงฆ์ ท่านมีความตั้งใจมั่น ดังที่เรียกว่า มโนปณิธาน เรื่องนี้ท่านกล่าวกับผู้ใกล้ชิดว่า :

” อาตมาได้ฟังพระท่านเทศน์ว่า บุคคลผู้ใดเลื่อมใส ได้สร้าง พระพุทธรูป จะเล็กเท่าต้นคาก็ได้ โตกว่าต้นคาก็ดี ผู้นั้นจะได้เป็นพรหมเป็นอินทร์ หมื่นชาติแสนชาติ ถ้าเกิดเป็นมนุษย์ ก็จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ หมื่นชาติแสนชาติ ผู้นั้นจะไม่เป็นผู้ตกต่ำเลย จนตราบเท่าเข้าสู่พระนิบพาน ถ้าผู้ใดสร้าง พระพุทธรูป ด้วยทองคำ ผู้นั้นจะได้เกิดเป็นองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า….”

ด้วยมโนปณิธานนี้เอง ทำให้ หลวงพ่อขอม คิดเริ่มสร้าง พระพุทธโคดม ด้วยทองสัมฤทธิ์ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในปี พ.ศ 2500 หลวงพ่อขอมเริ่มบอกบุญแก่ญาติโยม ใช้เวลา 2 ปี กว่าจะเริ่มสร้างได้ เนื่องจากเป็นงานใหญ่มาก ถึงต้องใช้เวลาสร้างทั้งหมด 12 ปี จึงแล้วเสร็จในปี พ.ศ 2512

หลังจากนั้น ท่านก็เริ่มสร้าง สิ่งก่อสร้างอีกหลายอย่าง เช่น สังเวชนียสถาน 4 ตำบล แดนสวรรค์ แดนนรก เมืองกบิลพัสดุ์ และอีกหลายๆอย่างด้วยกัน ดังที่พบเห็นกันทุกวันนี้ มีลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดเคยถาม หลวงพ่อขอมว่า จะสร้างสิ่งก่อสร้างไว้มากมายเพื่ออะไร ท่านตอบว่า ” อาตมาสร้างไว้เพื่อให้ผู้ศรัทธา และอนุชนรุ่นหลัง ได้ศึกษาเรื่องราวของพุทธประวัติ ” นอกจากงานก่อสร้างแล้ว หลวงพ่อขอม ท่านยังเป็นนักเขียน นักแต่ง ที่มีความสามารถไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าด้านงานก่อสร้าง ผลงานของท่านปรากฏอยู่หลายเรื่อง เฉพาะที่จัดพิมพ์แจกเป็นธรรมทานไปแล้วก็มีเรื่อง ธรรมทูตเถื่อน พุทธไกรฤกษ์ สมถะ และ วิปัสสนา
บูชา 200 บาท

 

รายการที่913 พระสมเด็จรุ่นแรก หลวงพ่อเผือก วัดลาดพร้าว ปี2517 เนื้อผง กทม.
หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ปลุกเสก
หลวงพ่อเผือก พระเกจิ อดีตเจ้าอาวาสวัดลาดพร้าว ระหว่าง พ.ศ.2445-2480 รวม 35 ปีท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อทอง แห่งวัดราชโยธา เช่นเดียวกับหลวงปู่พัก ธมฺมทตฺโต ซึ่งในอดีตเคยพายเรือไปขึ้นท่าน้ำหน้าวัดราชโยธา เพื่อเรียนวิชากับหลวงพ่อทองเช่นเดียวกัน สำหรับประสบการณ์พระเครื่องหลวงพ่อเผือกมีเรื่องเล่าว่า ครั้งหนึ่งมีงานวัด และมีพิธีปล่อยผ้าแพรลูกโป่ง ซึ่งทางคณะผู้จัดงานได้ผูกพระสมเด็จของหลวงพ่อเผือกติดไปด้วย ผ้าแพรพร้อมลูกโป่งลอยไปถึงปราจีนบุรี มีคนเห็นแล้วเกิดคึกคะนอง หยิบปืนมายิงลูกโป่ง ปรากฏว่ายิงไม่ออก เมื่อลูกโป่งหมดลมร่วงลงมา ได้มีคนพบพระสมเด็จของหลวงพ่อเผือกผูกติดอยู่ด้วย จึงได้ติดตามมายังวัดลาดพร้าวเพื่อกราบท่านถึงที่วัด
บูชา 200 บาท

 

รายการที่914 เข็มกลัดชุบทองลงยา หลวงพ่อศรีเมือง จ.สมุทรสาคร ขนาด 25x35x3 มม.
บูชา 200 บาท

 

รายการที่915 เหรียญพระครูสาธกธรรมคุณ (หลวงพ่อลั้ง) วัดอัมพาราม ชลบุรี เนื้ออัลปก้า
***หลวงพ่อลั้ง ท่านเป็นศิษย์สายตรงของหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ชลบุรี ท่านเป็นที่นับถือของชาวบ้านมาก ประสบการณ์มากมายไม่แพ้อาจารย์ของท่าน ในสมัยที่หลวงพ่ออี๋ พุทฺธสโร สร้างปลัดขิก ท่านจะมีศิษย์ผู้ทำหน้าที่จารปลัดให้ท่านหลายคน โดยเเต่ละคนจะจารเอกลักษณ์ไม่เหมือนกัน หลังจากนั้นหลวงพ่ออี๋ ก็จะทำการปลุกเสก ปลัดขิกอีกครั้ง โดยแบ่งได้ดังนี้
1. ลายมือหลวงพ่ออี๋
2. ลายมือ อ. ลั้ง
3. ลายมือหลวงตาพัน (หลานหลวงพ่ออี๋)
4. ลายมือ อ. หงุ่น
5. ลายมือ อ. เณร
6. ลายมือ ครูสุข ซึ่งลายมือใกล้เคียงกับหลวงพ่ออี๋ที่สุด อดีตท่านเป็นครูสอนเด็กวัด ต่อมาก็บวชเป็นลูกศิษย์และอยู่ใกล้ชิดหลวงพ่ออี๋มากครับ

ประวัติโดยย่อ
หลวงพ่อพระครูสาธกธรรมคุณ ฉายา สุทสสฺโน เจ้าอาวาสวัดอัมพาราม เจ้าคณะอำเภอสัตหีบจังหวัดชลบุรี สถานะเดิม ชื่อ ลั้ง นามสกุล แซ่ตั้ง เกิด ปีเถาะ วันที่๓ เดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๘ บิดาชื่อ นายฮก แซ่ตั้ง มารดาชื่อ นางพริ้ง แก้วแดง บ้านอำเภอ ตำบลนาจอมเทียน จังหวัดชลบุรี อุปสมบท วันที่ ๒๐ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๒ ณ วัดนาจอมเทียน พระครูวรเวทมุนี (หลวงพ่ออี๋) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดสันติพระสมุห์เข้ม เป็นกรรมวาจาจารย์ อุปสมบทแล้ว จำพรรษาอยู่วัดสันติธาราวาส (ทุ่งละหาน) ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี พร้อมกับเริ่มดำเนินการก่อสร้างวัดอัมพาราม (บ้านอำเภอ) ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่วัดทุ่งละหาน ศึกษาพระธรรมวินัยจนจบนักธรรมชั้นเอก และศึกษาวิชาโหราศาสตร์ พยากรณ์ชะตาชีวิต และศึกษาวิชาไสยศาสตร์คาถาอาคมโดยตรงจากหลวงพ่ออี๋ เช่นลงปลัดขิก เสกปลัดขิก ที่โด่งดังอยู่ทุกวันนี้ และยังรักษาโรคภัยไข้เจ็บด้วย คาถาอาคมเสก เป่าน้ำมนต์ พ่นน้ำหมาก และยังรักษาผู้ป่วยเกี่ยวกับเส้น เดินไม่ได้ ด้วยการใช้ขวานคัด สามวันหาย เป็นที่รู้จักกันทั่วไป หลวงพ่อได้มรณะภาพ วันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๓๓ เวลา ๐๖.๔๕ น. รวมสิริอายุได้ ๗๕ ปี พรรษา ๕๐ พรรษา
บูชา 200 บาท

 

รายการที่916 เหรียญรุ่นพิเศษหลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี
พระราชอุดมมงคล หรือ “พระมหาอุตตมะรัมโภภิกขุ” หรือที่รู้จักกันทั่วไปในนามของ “หลวงพ่ออุตตมะ” พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดกาญจนบุรี ทั้งยังเป็นพระภิกษุสงฆ์ชาวมอญ ผู้มีบทบาทผู้นำคนสำคัญของชาวมอญพลัดถิ่นที่สังขละบุรี
ปิดครับ

 

รายการที่917 เหรียญสร้างตึกพยาบาล พิมพ์ใหญ่ เนื้อทองแดง หลวงปู่แหวน ปี.๒๕๒๑ หลัง ภปร.
***เหล่าคณะลูกศิษย์ร่วมกันจัดสร้าง เพื่อหาปัจจัยไปสมทบทุนสร้างอาคารโรงพยาบาลและเพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสครบรอบ 90 ปีของหลวงปู่
บูชา 200 บาท

 

รายการที่918 เหรียญพระชัยนาทมุณี(นวม)ในงานฉลองพระอุโบสถวัดฝาง รุ่นหนึ่ง เนื้ออัลปาก้า
บูชา 200 บาท

 

รายการที่919 สมเด็จ9ชั้นข้างยันต์พุทโธ ปางมารวิชัย เนื้อผงสีขาว ไม่ทราบวัดครับ
บูชา 200 บาท

 

รายการที่920 เหรียญพ่อจ้อย วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ สุราษฎร์ธานี ปี2521
วัตถุมงคลของหลวงพ่อพุทธคุณ... ดีทุกด้าน...ครอบจักรวาลครับ
(จ้อยหลวงพ่อ ฐิตปุญโญ)
อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ และ อดีตเจ้าคณะอำเภอดอนสัก
วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ ต.ดอนสัก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี

ท่านเจ้าคุณ พระกิตติมงคลพิพัฒน์ ท่านมีนามเดิมว่า จ้อย นามสกุล พันธุ์อุดม ต่อมาท่าน พระครูวอน (ไม่ทราบฉายา) ผู้เป็นอา ได้เปลี่ยนนามสกุลใหม่เป็น ไกรวงศ์ ท่านเกิดเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ.2448 ตรงกับวันพุธ ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 4 ปีมะเส็ง ณ บ้านหัวรอ ตำบลม่วงงาม อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา เป็นบุตร นายนวล - นางห้อง พันธุ์อุดม มีอาชีพกสิกรรม ท่านเป็นบุตรคนเดียวของพ่อแม่

การศึกษาท่านได้รับการศึกษาที่ วัดมะขามคลาน ตำบลม่วงงาม อำเภอเมืองสงขลา มีท่านพระครูวอน พุทธสโร เป็นผู้สอน ท่านมีความสนใจใฝ่รู้เป็นอย่างมาก และท่านได้ศึกษาวิชาความรู้ต่าง ๆ เช่น วิชาภาษาไทย ภาษาบาลี อักษรขอม เวทมนตร์ คาถาอาคม โหราศาสตร์ และแพทย์แผนโบราณ

ชีวิตในวัยหนุ่มของท่านท่านตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี เนื่องจากพ่อไปมีภรรยาใหม่ และท่านได้หลงผิดไประยะหนึ่ง จนถึงกับได้กระทำกรรมที่ไม่ดี จนถึงกับทำให้พ่อแม่ญาติมิตรเดือดร้อนไปด้วย บิดาจึงส่งให้ไปอาศัยกับน้าสาวที่อำเภอดอนสัก ด้วยอำนาจบุญกุสลบารมีที่ท่านเคยสั่งสมไว้จึงทำให้ท่านได้พบกัลยาณมิตรแนะนำ จนกระทั่งเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ท่านจึงได้กลับไปอุปสมบทที่จังหวัดสงขลา จนกระทั่งครบ 1 พรรษา ท่านจึงลาสิกขากลับมาอยู่ที่ดอนสักตามเดิม และต่อมาท่านได้แต่งงานกับ นางสาวพัว อยู่ครองชีวิตสร้างฐานะครอบครัวจนกระทั่งมีบุตรธิดาด้วยกัน 9 คน ท่านประกอบอาชีพทำนา ทำสวน และเผาถ่าน ต่อมาได้เป็นแพทย์ประจำตำบลดอนสัก

ต่อมาได้รับการอุปสมบทเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นการบวชแก้บน ที่วัดดอนยาง หมู่ที่ 7 ตำบลท่าทอง อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีพระอธิการเริ่ม ฐานิโย เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูประจักษ์วรคุณ เจ้าอาวาสวัดประสพ ตำบลท่าทอง อำเภอกาญจนดิษฐ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์, พระอธิการวัด วัดนทีวัฒนาราม ตำบลชลคราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า จิตปุญฺโญ

ท่านบวชเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ.2490 โดยท่านเล่าให้ศิษยานุศิษย์ฟังว่า ในระหว่างที่บวชอยู่นั้น ท่านคิดจะลาสิกขาถึง 2 ครั้ง แต่ในที่สุดท่านได้พิจารณาเห็นว่า เมื่อได้หลีกออกจากเครื่องพันธนาการในเพศคฤหัสถ์แล้ว ไม่สมควรที่จะวิ่งกลับเข้าไปหาเครื่องพันธนาการ คือกิเลสตัณหาอีก จึงได้ตัดสินใจอยู่ครองสมณเพศ บำเพ็ญประโยชน์ทั้งส่วนตน ส่วนพระพุทธศาสนา ส่วนสังคมและท้องถิ่นอย่างสมบูรณ์ตลอดมา นับว่าเป็นการเจริญตามรอยบาทพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ในฐานะที่ท่านเป็นพระภิกษุสงฆ์ในบวรพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง
บูชา 200 บาท

 

รายการที่921 สมเด็จหลวงพ่อพูล วัดสังฆราชาวาส อ.เมือง จ.สิงห์บุรี
กิตติคุณของหลวงพ่อพูน มีมากมายหลายสิ่งหลายประการ อาทิเช่น วาจาศักดิ์สิทธิ์ พระผงใบลานเรืองชื่อเนื่องจากท่านเป็นพระปฏิบัติเคร่งในพระธรรมวินัยเสกอะไรชาวบ้านก็ต่างโจทก์ขานว่าท่านขลัง ท่านศักดิ์สิทธิ์ ตำรายาหมอท่านก็ไม่เป็นสองลองใครเพราะได้ร่ำเรียนมาจากสำนักท่านพระครูอินทรมุนี (โต) วัดประศุข อำเภอ อินทร์บุรี ซึ่งพระครูท่านนี้ เสด็จพ่อ ร.๕ ยังให้ความเคารพและเคยเขียนชมในหนังสือประพาสต้น ปี ๒๔๔๙ ไว้ ว่าพระครูอินทรมุนีท่านเก่งเรื่องหมอเป็นนัก แม้ว่าใกล้จะถึงกาลมรณภาพ ท่านได้ทำใบพินัยกรรมเตรียมการณ์ไว้ว่า ถ้าตัวท่านมรณภาพแล้วไม่ต้องจัดงานศพ เพราะไม่อยากให้ หมู เป็ด ไก่ วัว ต้องถูกฆ่าเพื่อนำมาทำอาหารถวายพระ โดยร่างสรีระของหลวงพ่อพูนบรรจุใส่หีบและบรรจุไว้ในกุฏิเรือนไม้ประดับประดาตกแต่งอย่างสวยงาม จนมาถึงปี ๒๔๙๕ จึงได้มีการจัดสร้างอนุสาวรีย์และย้ายสรีระหลวงพ่อไปบรรจุไว้ในอนุสาวรีย์ จวบจนทุกวันนี้
ปิดครับ

 

รายการที่922 พระสมเด็จ อาจารย์จวง วัดเสนานฤมิตร หนองแค จ.สระบุรี ปี2500
บูชา 200 บาท

 

รายการที่923 รูปถ่าย หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นครปฐม ขนาด 1 นิ้ว รุ่นสร้างสะพาน ปี30
ปิดครับ

 

รายการที่924 พระพิมพ์วันทา เนื้อผงผสมชานหมากหลังลายเซ็นต์ พระสังฆราช องค์ที่19 วัดบวร ก.ท.ม สร้างในโอกาสครบีที่19 แห่งการสถาปนาพระสังฆราช พ.ศ.2551 มีเกสา
ปิดครับ

 

รายการที่925 พระสมเด็จเนื้อว่านยาผสมดินหรดาน หลวงปู่โต๊ะ วัดลาดตาล วัดตะลุ่ม
(ว ต ล ) อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ปี2519
หลวงปู่โต๊ะ วัดลาดตาล สุพรรณบุรี ท่านเป็นเกจิยุคเดียวกันกับ หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ จากหนังสือคุณหนุ่มสุพรรณ ท่านเป็นพระสหธรรมิกกับหลวงพ่อมุ่ย ท่านนับได้ว่าเป็นต้นสายของพุทธาคมของพระเถระรุ่นหลังในเขตอำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณมาตั้งแต่ หลวงพ่อถิร หลวงพ่อแต้ม รวมทั้งหลวงพ่อเจริญ วัดธัญญวารีครับ
ปิดครับ

 

รายการที่926 พระสิวลีเคลือบแชลค หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติ ปี๒๕๕๐
หลวงพ่อเฉลิม เขมทัสสี บวชพระเมื่อปี 2487 มีหลวงพ่ออั้น เป็นอุปัชฌาย์ บวชหลังสมเด็จพระมหาธีราจารย์ (พระมหานิยม) วัดชนะสงคราม แค่ 3 เดือน ทั้งสองรูปนี้แหละที่ช่วยกันทำพระขุนแผนเคลือบให้หลวงพ่ออั้น พร้อมด้วยหลวงพ่อใหญ่ หลวงปู่สี วัดสะแก หลวงพ่อเฉลิมและพระมหานิยม ปลุกเสกเมื่อปี 2496 นำเงินไปบูรณะโบสถ์ในยุคนั้น

30 กันยายน 2556 ครบรอบวันเกิดหลวงพ่อเฉลิม เขมทัสสี หรือพระครูสังฆรักษ์เฉลิม คณะศิษย์จัดงานบำเพ็ญกุศลฉลองอายุวัฒนมงคล 90 ปี ถวายที่ศาลาการเปรียญวัดพระญาติการาม 10.00 น. พระเทพรัตนากร (เจ้าคุณแวว) เจ้าคณะจังหวัดอยุธยา ประธานสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์ 108 รูป จากนั้นพระสงฆ์รับทักษิณานุปทาน คณะศิษย์และผู้มีเกียรติเข้าถวายสักการะหลวงพ่อเฉลิม

หลวงพ่อเฉลิมได้ตั้งกองทุนสนับสนุนการเรียนของเด็กนักเรียน และเยาวชนที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้มีโอกาสได้เรียนหนังสือ ชื่อทุนเรียนดีพระครูสังฆรักษ์เฉลิม ตั้งแต่ชั้นประถม มัธยมถึงอุดมศึกษาจนจบมหาวิทยาลัย ปีนี้ 2556 แจกทุนรวมทั้งสิ้น 1,314,000 บาท แยกเป็นระดับมัธยมต้น 30,000 บาท ระดับมัธยมปลาย 540,000 บาท ระดับปริญญาตรี 704,000 บาท ระดับปริญญาโท 40,000 บาท ปัจจุบันหลวงพ่อเฉลิม ได้ตั้งกองทุนนี้ไว้ได้แล้วเป็นเงินถึง 82.5 ล้านบาท ท่านตั้งใจจะให้ได้ 100 ล้าน

ทุนเรียนดีหลวงพ่อเฉลิมเรียนจบไปแล้ว มีปริญญาเอก 1 คน ปริญญาโท 6 คน และปริญญาตรี 46 คน กำลังศึกษารับทุนอยู่อีกดังนี้ มัธยมต้น 6 คน มัธยมปลาย และ ปวช. 90 คน ปริญญาตรี 88 คน และปริญญาโท 4 คนนับว่าหลวงพ่อเฉลิมเป็นอริยสงฆ์ที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม เป็นพระสุปฏิปันโนอันพึงกราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ
ปิดครับ

 

รายการที่927 เหรียญหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ ด่านขุนทด นครราชสีมา นั่งหงษ์นับแบงค์ เนื้อนวะ รุ่น พิเศษครบรอบ 72 ปี สร้างปี 2537 ตอกโค๊ต กล่องเดิม
เกจิดังของเมืองไทย รุ่นมงคล เด่นค้าขายโชคลาภ เหรียญฉลุออกแบบได้งดงามมาก
คุณกันทิมา@บุญ ปิดครับ

 

รายการที่928 พระหลวงพ่อโสธร เนื้อหล่อเรซิ่น ผสมธนบัตรชนิด500
หลวงพ่อโสธร ท่านศักสิทธิ์มากโดยเฉพาะด้านคุ้มครองจากภยันตรายต่างๆ มีความร่มเย็นเป็นสุขตลอดชีวิต อีกทั้งมีเมตตา มหานิยม ซื้อง่ายขายคล่อง นำมาซึ่งโภคทรัพย์ รุ่นนี้สร้างด้วยเนื้อหล่อเรซิ่นผสมธนบัตร ที่ผ่านการทำพิธีมานานหลายปี ถือว่าเป็นของที่ศักสิทธิ์ที่หายาก หลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร ฉะเชิงเทรา
บูชา 200 บาท