กราบครูบา กราบพ่อหลวง ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
ปกิณกะพระเครื่อง ธรรมะ และวัดวาอาราม
ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ปู ท่าพระ, 5 ธันวาคม 2014.
หน้า 3 ของ 18
-
-
ขอบคุณคุณเหน่ง คุณน้องใหม่2008 น้องนิกด้วยครับ -
-
บุพกรรมในอดีต
ท่านพระสีวลีเถระ ครั้งพระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ ไปวิหาร ยืนฟังธรรมอยู่ท้ายบริษัท เห็นพระศาสดาทรงสถาปนาภิกษุรูปหนึ่ง ไว้ในตำแหน่งเป็นยอดของเหล่าภิกษุ ผู้มีลาภ คิดว่า แม้เราก็ควรเป็นอย่างนั้นบ้าง ในอนาคต
จึงนิมนต์พระทศพล ถวายมหาทาน ๗ วัน กระทำความปรารถนาว่า ด้วยการกระทำกุศลกรรมนี้ ข้าพระองค์ไม่ปรารถนาสมบัติอย่างอื่น แต่ข้าพระองค์ พึงเป็นยอดของเหล่าภิกษุ ผู้มีลาภ เหมือนอย่างภิกษุที่พระองค์ทรงสถาปนาไว้ ในตำแหน่งเอตทัคคะ ในศาสนาของพระพุทธเจ้า พระองค์หนึ่งในอนาคตกาล
พระศาสดาทรงเห็นว่า ไม่มีอันตรายสำหรับความปรารถนานั้น จึงพยากรณ์ว่า ความปรารถนาของท่านนี้ จักสำเร็จ ในสำนักของพระพุทธเจ้าพระนามว่าโคตรมะ ในอนาคต แล้วเสด็จกลับ ท่านทำกุศลตลอดชีพ แล้วเวียนว่ายอยู่ในเทวโลกและมนุษยโลก ครั้งพระวิปัสสีพุทธเจ้า ท่านบำเพ็ญกุศลจนตลอดชีวิต ท่องเที่ยวในเทวโลกและมนุษยโลก มาถือกำเนิดในบ้านตำบลหนึ่ง ไม่ไกลกรุงพันธุมดี
แข่งขันถวายทาน
สมัยนั้น ชาวเมืองพันธุมดี แข่งขันกับพระราชา ถวายทานแด่พระทศพล วันหนึ่ง คนเหล่านั้น ร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวถวายทาน คิดว่า ทานที่เราให้ครั้งนี้ ไม่มีอะไรบ้าง เห็นน้ำผึ้งและเนยแข็งขาดไป จึงส่งบุรุษผู้หนึ่ง ไปดักในทางจากชนบทเข้าไปในเมือง คอยทีอยู่ หากมีผู้ใดนำของสองสิ่งนี้มา ก็ให้จัดการซื้อ
สมัยนั้น ท่านนำเนยแข็งและน้ำผึ้ง ผ่านมาทางนั้นพอดี บุรุษนั้น จึงเจรจาขอซื้อ แต่ท่านไม่ยอมขาย แม้ว่าจะให้ราคาถึงหนึ่งพันกหาปณะ พอท่านทราบว่า เนยแข็งและน้ำผึ้ง จะนำไปถวายพระภิกษุสงฆ์ อันมีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ก็มีความประสงค์จะมีส่วน ในการบุญอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ด้วย
พอได้รับอนุญาต ท่านก็ได้นำเงินไปซื้อของเผ็ดร้อน ๕ อย่างมาบดจนละเอียด กรองคั้นเอาน้ำส้ม จากนมส้มแล้วคั้นรวงผึ้งลงในนั้น ปรุงกับผงเครื่องเผ็ดร้อน ๕ อย่าง แล้วใส่ไว้ในใบบัวใบหนึ่ง จัดห่อ แล้วถือมานั่ง ณ ที่ไม่ไกลพระศาสดา คอยจังหวะที่จะนำเข้าไปถวายพระศาสดา
เมื่อโอกาสนั้นมาถึงตน จึงไปเฝ้าพระศาสดา กราบทูลว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า นี้เป็นทุคคตบรรณาการ ของข้าพระองค์ ขอพระองค์โปรดกรุณารับของสิ่งนี้ ของข้าพระองค์เถิด พระศาสดาทรงอนุเคราะห์ท่าน ทรงรับของถวายนั้นด้วยบาตรหิน ที่ท้าวมหาราชทั้ง ๔ ถวายแล้ว ทรงอธิษฐานให้ของที่นำมาถวายนั้น เพียงพอแก่ภิกษุจำนวน ๖๘,๐๐๐ องค์
ท่านถวายบังคมพระศาสดา เมื่อเสวยเสร็จแล้ว ยืนอยู่ ณ ที่สมควรข้างหนึ่ง กราบทูลว่า ข้าพระองค์ พบพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว วันนี้ชาวเมืองพันธุมดี นำสักการะมาถวายพระองค์ แม้ข้าพระองค์ พึงเป็นผู้ถึงความยอดทางลาภ และเป็นยอดทางยศ ในภพที่เกิดแล้วๆ ด้วยผลแห่งกรรมนี้
พระศาสดาตรัสว่า ความปรารถนาจงสำเร็จอย่างนั้นเถิด กุลบุตร แล้วทรงกระทำอนุโมทนาภัตร แก่กุลบุตรนั้นและแก่ชาวเมือง แล้วเสด็จกลับไป ท่านกระทำกุศลจนตลอดชีพแล้ว เวียนว่ายอยู่ในเทวโลกและมนุษยโลก
สมัยพุทธกาล
ในพุทธุปบาทกาลนี้ ท่าน บังเกิดเป็นโอรสของพระนางสุปปวาสา ผู้เป็นพระราชธิดา ของพระเจ้ากรุงโกลิยะ จำเดิมแต่พระราชโอรส มาถือปฏิสนธิในครรภ์พระมารดา ทำพระมารดาให้สมบูรณ์ด้วยลาภสักการะเป็นอันมาก
แต่อยู่ในครรภ์พระมารดาถึง ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน (เพราะบุรพกรรมในอดีตชาติ เคยปฏิบัติตามคำแนะนำของมารดา โดยให้กองทัพปิดล้อมเมืองหนึ่ง ทำให้ประชาชนเมืองนั้นเดือดร้อนอดอยาก) จึงประสูติ เวลาประสูติก็ประสูติง่ายที่สุด เปรียบประดุจน้ำไหลออกจากหม้อ ด้วยอำนาจแห่งพุทธานุภาพ
กล่าวคือ เมื่อพระนางมีครรภ์แก่ ครบกำหนดประสูติแล้ว ได้เสวยทุกขเวทนาลำบากมาก พระนางจึงให้พระสวามีบังคมทูลพระบรมศาสดา พระองค์ตรัสพระราชทานให้พรว่า พระนางสุปปวาสา ผู้เป็นพระราชธิดาของพระเจ้ากรุงโกลิยะ จงเป็นหญิงมีความสุข ปราศจากโรคาพยาธิ ประสูติพระราชบุตรผู้หาโรคมิได้เถิด
พระนางสุปปวาสาก็ได้ประสูติพระราชบุตร พร้อมกับขณะที่พระศาสดาตรัสพระราชทานพร เมื่อประสูติแล้วพระญาติได้ขนานพระนามว่า “สีวลีกุมาร” เพราะระงับจิตที่เร่าร้อน ของพระประยูรญาติทั้งหมด
ส่วนพระนางสุปปาวาสา นึกถึงเหตุการณ์ที่เป็นมาแล้ว มีความปรารถนาจะถวายมหาทานสัก ๗ วัน จึงให้พระสวามีไปอาราธนานิมนต์ พระภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน เพื่อรับภัตตาหารในบ้าน ๗ วัน พระราชสวามี ก็ไปตามความประสงค์ของนาง แล้วได้ถวายมหาทานตลอด ๗ วัน (สีวลีกุมารนั้น นับตั้งแต่วันที่ประสูติ ได้ถือธมกรกกรองน้ำถวายพระตลอด ๗ วัน)
เมื่อสีวลีกุมารเจริญวัยขึ้นแล้ว ได้ออกผนวชในสำนักของท่านพระสารีบุตร ได้บรรลุผลสมตามความปรารถนา คือ ได้บรรลุพระอรหัตผล เป็นพระอเสขบุคลในพระพุทธศาสนา
บรรลูพระอรหัตผลขณะปลงผมเสร็จ
นัยว่า ท่านได้บรรลุมรรคผลตั้งแต่เมื่อเวลาปลงผม คือ เมื่อเวลามีดโกนจรดลงศีรษะครั้งที่หนึ่ง ได้บรรรลุโสดาปัตติผล ครั้งที่สองได้บรรลุสกทาคามี ครั้งที่สามได้บรรลุอนาคามิผล ปลงผมเสร็จ ก็ได้บรรลุพระอรหัตผล
เอตทัคคะในทางผู้มีลาภมาก
ตั้งต้นแต่นั้นมา ท่านเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยปัจจัยสี่ (เพราะอานิสงส์ที่เคยถวายน้ำผึ้งและเนยแข็งเป็นการปิดท้าย แด่พระวิปัสสีพุทธเจ้าและภิกษุสงฆ์ทั้งหลาย) ทั้งภิกษุทั้งหลาย ก็พลอยไม่ขัดข้องด้วยปัจจัยลาภ เพราะอาศัยท่าน
เพราะเหตุนั้น พระบรมศาสดาจึงทรงยกย่องว่า เว้นพระตถาคต เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ฝ่ายข้างผู้มีลาภมาก (ลาภีนํ ยทิทํ สีวลี)
ที่มา:ธรรมพีเดีย
-
Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี
พระผงรุ่น 500 อรหันต์
(่จากหนังสือ สรณะในดวงใจ หน้า 97 - 103)
พระผงรุ่นสุปฏิปันโน สร้างในปี 2536 ส่วนพระผงรุ่น 500 อรหันต์สร้างปี 2537 ทั้ง 2 รุ่นนี้มีมวลสารสำคัญคือผงพระธาตุพระอรหันต์ 500 องค์เหมือนกัน ต่างกันตรงที่ว่าในรุ่นสุปฏิปันโน ผงพระธาตุพระอรหันต์ 500 องค์ผสมเป็นมวลสารเป็นเนื้อพระทั้งองค์ แต่รุ่น 500 อรหันต์ มวลสารสำคัญทั้งหมดจะเป็นก้อนอยู่ในองค์พระ(เหมือนไส้ซาละเปา)
ที่ผมทราบเพราะบังเอิญพระผงรุ่น 500 อรหันต์ของผมองค์นึงแตกหัก เลยทำให้เห็นด้านในองค์พระว่ามีเป็นลักษณะไส้อยู่ด้านในก้อนนึง เป็นมวลสารสำคัญของรุ่นนี้ ส่วนองค์พระที่หุ้มอยู่มีลักษณะคล้ายเนื้อแป้งเพราะงั้นรุ่นนี้จึงแตกหักได้ง่ายมากครับ -
Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี
พระผง "รุ่นสังฆาฏิรวม" 22 สุปฏิปันโน สร้างในปี 2536 มีทั้งหมด 4 พิมพ์คือ พิมพ์สมเด็จองค์ปฐม, พิมพ์หลวงพ่อโสธร พิมพ์พระแก้วมรกตทรงเครื่องฤดูร้อนและพิมพ์พระภควันปติ และเป็นชุดพิเศษ 6 องค์ ด้านหน้าและด้านหลังองค์พระโรยเกศาของพระสุปฏิปันโนทั้ง 22 องค์ที่ปั่นผสมรวมกัน
พระเครื่องรุ่นนี้เป็นพระผงรุ่นแรกที่คุณอรรณพ กอวัฒนาผู้จัดสร้างได้ใช้ผ้าสังฆาฏิของพระสุปฏิปันโน 22 องค์ที่นำมาปั่นจนเป็นผงละเอียดและผสมมวลสารต่างๆมาทำเป็นองค์พระ
ผงสังฆาฏิที่นำมาป่นละเอียดผสมจัดสร้างพระเครื่องชุดนี้ประกอบไปด้วย ผงสังฆาฏิของ
1. พระเดชพระคุณ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
2. หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง
3. ครูบาพรหมจักโก (พระสุพรหมยานเถระ)วัดพระพุทธบาทตากผ้า
4. ครูบาอินทจักโก (พระสุธรรมยานเถระ) วัดน้ำบ่อหลวง
5. ครูบาคำแสน (หลวงปู่คำแสนใหญ่) วัดสวนดอก
6. ครูบาคำแสน (หลวปู่ครูบาคำแสนเล็ก) วัดดอนมูล
7. ครูบาบุญทึม พรหมเสโน วัดจามเทวี
8. ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย
9. ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง
10.หลวงปู่หล้า ตาทิตย์ วัดป่าตึง
11.ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี
12.ครูบาชัยยะวงศา วัดพระบาทห้วยต้ม
13.หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรี
14.หลวงปู่สี ฉันทศิริ วัดเขาถ้ำบุนนาค
15.หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง
16.หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง
17.หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่
18.ท่านเจ้าคุณ นรฯ วัดเทพศิรินทราวาส
19.หลวงพ่อแช่ม วัดตากล้อง
20.หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ
21.ครูบาเจ้าเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์
22 ท่านอาจารย์โกวิน วัดไผ่รื่นรมย์
คุณอรรณพได้นำพระผงชุดนี้ไปให้หลวงปู่วงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้มปลุกเสกที่่วัดครั้งนึงแล้ว และต่อมาหลวงปู่วงศ์ยัังเมตตาไปบ้านคุณอรรณพทำพิธีปลุกเสกให้อีกครั้งนึงด้วย หลังจากนั้นท่านได้นำพระชุดนี้ไปให้อาจารย์โกวิน วัดไผ่รื่นรมย์ปลุกเสก และยังเข้าพิธีอธิษฐานจิตของหลวงพ่อเกษม เขมโก อีกด้วยครับ หลังพิธีทั้งหมดแล้วคุณอรรณพได้ถวายพระผงชุดนี้จำนวนหนึ่งให้แก่หลวงปู่วงศ์นำออกให้บูชาที่วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
-
-
-
น้อมกราบครูบวงศ์ ขอบคุณครับพี่อ๊ะ
แวะเอาข้อมูลพระมาแนะนำเพื่อนๆด้วยคร๊าบบพี่โญ -
พระผงสุปฏิปันโน เพิ่มข้อมูลจากส่วนพี่วรรณอีกนิดนะครับ
พิธีพุทธาภิเษกครั้งที่ ๑
ภายหลังจากทำพระผงรุ่นนี้สำเร็จแล้วได้นำมาเข้าพิธีพุทธาภิเษกครั้งใหญ่ของหลวงพ่อ เมื่อวันที่ ๑๑ - ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๖ ซึ่งหลวงพ่อได้ให้ชื่อพระผงรุ่นนี้ว่า “พระสุปฏิปันโน” และท่านได้พูดว่า “เป็นพระผงที่วิเศษที่สุด ดีมากและหายาก”
พระผงรุ่นพิเศษ
หลังจากนั้นข้าพเจ้าได้ทำพระผงรุ่นพิเศษด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง โดยผสมผงพระธาตุเพิ่มมากขึ้น และฝังพระธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า พระธาตุพระสิวลี และพระธาตุข้าว รวมทั้งพระธาตุพระอรหันต์ ๕๐๐ องค์ ให้เป็นพระธาตุแต่ละองค์อย่างชัดเจน ทำทั้งหมดประมาณ ๔๐๐ องค์
ในวันหนึ่งขณะที่ข้าพเจ้ากำลังทำพระผงอยู่ ได้นำพระผงที่ปั๊มเสร็จแล้วไปผึ่งบนโต๊ะไว้กลางแจ้ง แล้วทำงานอื่นต่อไป ได้ยินเสียงแกรกกราก หันไปดูปรากฏงูขนาดใหญ่ประมาณเท่างูเหลือม มาแผ่พังพานอยู่ใกล้บริเวณที่ตากพระผงไว้ เป็นงูที่มีหนวดด้วย มาขดอยู่นานหลาย ชั่วโมง พอดีเป็นเวลาพลบค่ำแล้วยังไม่ไปข้าพเจ้าจึงเข้าบ้านปิดประตู รุ่งเช้าขึ้นมาก็ไม่เห็นแล้ว เมื่อเล่าเรื่องนี้ให้หลวงพ่อฟัง ท่านบอกว่าพญานาคจากเขาสามร้อยยอดมาดู และมาโมทนากับการทำพระครั้งนี้
พิธีพุทธาภิเษก ครั้งที่ ๒
เมื่อทำพระผงเสร็จแล้ว ได้นำไปเข้าพิธี… พิธีพุทธาภิเษกใหญ่ที่วัดพระพุทธบาทห้วยต้มโดยมีองค์หลวงพ่อและพระในวัดทำพิธีตั้งแต่ตอนค่ำวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๓๗ จนถึงรุ่งเช้าของวันที่ ๒๗ มีนาคม เมื่อนำพระผงกลับมาถึงบ้านข้าพเจ้าได้สำรวจดูก่อนที่จะเก็บเข้าที่ ได้เห็นพระผงบางองค์เป็นประกายเหมือนโรยด้วยเกล็ดเพชรละเอียด ๆ ซึ่งผิดไปจากองค์อื่น ๆ และมีกลิ่นหอมคัดออกมาได้ ๑๐ องค์
เมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๓๗ ข้าพเจ้าได้นำพระผงปาฏิหาริย์ไปถวายหลวงพ่อ หลวงพ่อพิจารณาดู แล้วบอกว่าเกล็ดเพชรใสแสดงถึงสมองของพระอรหันต์ ปรากฏขึ้นเพื่อบอกว่า “ทำถูกแล้ว” หลวงพ่อเรียกว่า “พระพุทธสาวกะชนะและดับภัย” ท่านอธิบายต่อไปอีกดังนี้
“ที่มีประกายขึ้นมาเป็นปาฏิหาริย์ เพราะพระอรหันต์ท่านแสดงให้เห็นว่าพระผงนี้มีพระธาตุพระอรหันต์จริง เพื่อผู้ที่นำไปบูชาจะได้ไม่สงสัย ท่านแสดงความเป็นอรหันต์ให้เห็นให้รู้ว่าเป็นพระธาตุของพระอรหันต์ ท่านได้เผยแผ่บารมีที่ท่านได้สร้างไว้ให้คนเอาไปบูชาเป็นมงคลศรัทธาสาวกะผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ จะได้ดวงตาเห็นธรรม ดังกิเลสได้เป็นอรหันต์ แล้วแต่ผู้นับถือเอาไปปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่จะรุ่งเรืองดีไป
คุณวิเศษอย่างที่สอง คือปลอดภัย ใครเอาไปบูชาก็ปลอดภัย
อย่างที่สาม แล้วแต่ความปรารถนา จะปรารถนาหาโชคลาภก็ขอให้สมปรารถนาขอได้ทุกอย่าง ขอพระอรหันต์ทั้ง ๕๐๐และพระอรหันต์อีกจำนวนมากนับไม่ได้ที่มีพระธาตุอยู่ในองค์พระนี้ให้ช่วย ส่วนการได้ปัญญา ทางธรรม
นั้นแล้วแต่ปรารถนา ขอให้มีปัญญาเฉลียวฉลาด คิดอะไรให้สมปรารถนาอย่างที่คิด คิดยาวสาวกว้าง ไม่คิดสั้น เห็นสั้น ที่มีเกล็ดเพชรขึ้นมาเป็นของสบายใจ เป็นการฉลองศรัทธาผู้ที่นับถือศาสนาเจริญต่อไป
มวลสารต่าง ๆ ที่นำมาสร้างพระนี้เป็นของหายาก นำมาจากนานาทิศา เอามาจากประเทศของพระพุทธเจ้าหรือประเทศของพระอรหันต์ ธาตุทุกอย่างที่เอามาผสมก็มาจากที่ไกล อินเดีย ลังกา ประเทศไทย ถ้าจะตั้งใจไปเอามาได้หมดเงินไปหลายหมื่นหลายแสน กำลังใจกำลังแรงทีไปเอามาก็ทุ่มเทไปมากมาย ถึงแม้นพวกเราจะนำพระธาตุทั้งหมดมาทำพระอีก ก็จะได้พระผงอย่างเดิมจะทำให้เป็นปาฏิหาริย์เช่นนี้อีกทำไม่ได้ ที่มีไม่มากก็พอแสดงให้รูเหตุเท่านั้น”
คุณวิเศษของพระผงรุ่น “พระสุปฏิปันโน”
จากคำบอกเล่าของผู้ที่นำไปบูชา และจากประสบการณ์ของข้าพเจ้า (พ.ศ. ๒๕๓๗ -๒๕๕๐) เป็นดังที่หลวงพ่อได้บอกไว้ คือ
๑. ควบคุมความประพฤติให้อยู่ในกรอบที่ดีงาม ผู้ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอยู่แล้ว จะได้ธรรมะที่เฉียบแหลมยิ่งขึ้น
๒. ปลอดภัย ผู้ที่ประสบอุบัติเหตุต่าง ๆ จะปลอดภัย ผู้ที่มีเคราะห์หนักจะกลายเป็นเบา
๓. ผู้ที่ทำกิจการค้าขาย เมื่อถึงจุดอับ นำพระผงไปบูชาแล้วกิจการเจริญรุ่งเรืองดี ขึ้นมาก
๔. ผู้ที่บูชาด้วยความเคารพ จะปรากฏพระธาตุสีขาวขึ้นเป็นองค์เล็ก ๆ ประปรายอยู่ ทั่วองค์
คุณประโยชน์ในปัจจุบันและอนาคต
๑. เงินที่ได้จากผู้ที่บูชาพระผงไปจะนำไปร่วมสร้างเจดีย์ชะเวดากองไทย ที่หลวงพ่อกำลังก่อสร้างอยู่ในขณะนี้ (พ.ศ. ๒๕๕๐)
๒. พระผงส่วนใหญ่ประมาณ ๒๐,๐๐๐ องค์ หลวงพ่อให้บรรจุไว้ในพระเจดีย์ชะเวดากองที่ ตำบลหนองวัวเฒ่า ในอนาคตประมาณ ๑,๐๐๐ ปี ข้างหน้า จะมีคุณค่ามหาศาล
บันทึกโดย แน่งน้อย ธีระชาติ
-
ตัวประสานน่าจะต่างกันครับพี่ปู ครูบาข่ายใช้ครั่งเป็นตัวประสาน
ส่วนพระปิดตา ปลดหนี้ ครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน โรยทับทิม ใช้อะไรไม่ทราบเหมือนกันครับ
พระปิดตา "ปลดหนี้"
ครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน
ด้านหน้าโรยทับทิม
ด้านหลังมีข้อความ "ปลดหนี้" "ดวงดี ยติโก"
มวลสาร
- ดอกไม้ ธูปเทียน และผงธูปที่ใช้บูชาพระประธาน 19 วันสำคัญ
ในวันที่ 10 พ.ย. 2554 (ประเพณียี่เป็ง-ลอยกระทง) ได้แก่
วัดพระธาตุดอยสุเทพ, วัดพระธาตุดอยคำ, วัดพระธาตุศรีจอมทอง,
วัดเจีดีย์หลวง, วัดสวนดอก, วัดพระสิงห์, วัดชัยพระเกียรติ, วัดอุปคุต,
วัดดวงดี, วัดศรีเกิด, วัดเชียงมั่น, วัดเชียงยืน, วัดลอยเคราะห์,
วัดดับภัย, วัดชัยมงคล, วัดหมื่นล้าน, วัดหมื่นเงินกอง, วัดหม้อคำตวง,
วัดวุฒิราษฎร์(วัดบ้านฟ่อน)
- ดอกไม้ ธูปเทียน และผงธูปที่ใช้บูชารูปเหมือนครูบาศรีวิชัย
บริเวณเชิงดอยสุเทพ ในวันที่ 10 พ.ย. 2554
(ประเพณียี่เป็ง-ลอยกระทง)
- เกศา ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน
- จีวร ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน
- เมี่ยง ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน
- ตัวต่อเงินอธิษฐานจิตโดยครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน
- กาฝากไม้มงคล ได้แก่ กาฝากไม้ขนุน, กาฝากไม้คูณ, กาฝากไม้รัก,
และกาฝากไม้มะยม
- ว่านไก่แดง
- ไม้กฤษณา
- ทรายทับทิมจาก อ.จอมทอง
- พระบูชาอุปคุตล้านนาเนื้อว่าน
- พระบูชาบัวเข็มล้านนาเนื้อว่าน
- พระบูชาสีวลีล้านนาเนื้อว่าน
พิธีพุทธาภิเษกมวลสาร
- วันเสาร์ที่ 5 พ.ย. 2554 ณ อุโบสถพระเจ้า 100 ปี
วัดป่าแพ่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ในพิธีพุทธาภิเษกและ
เทวาภิเษกเหรียญและรูปหล่อท้าวเวสสุวรรณ
ครูบาสิทธิ อภิวัณโณ วัดปางต้นเดื่อ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่
โดยพระเกจิอาจารย์ 9 องค์ ได้แก่ ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน,
ครูบาสิทธิ วัดปางต้นเดื่อ, ลป.ทอง วัดพระธาตุศรีจอมทอง,
ครูบาสุข วัดป่าซางน้อย, ครูบาตั๋น วัดย่าพ่าย,
พระครูอุปถัมภ์ศาสนคุณ วัดป่าแพ่ง, ครูบาสาย วัดท่าไม้แดง,
ครูบาอินถา วัดยั้งเมิน, ลพ.ลออ วัดบ้านไร่
- วันจันทร์ที่ 28 พ.ย. 2554 ตรงกับวันขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 เวลา
09.28 น. ซึ่งเป็นวันอมริสสโชค วัดราชาโชค อธิษฐานจิตปลุกเสก
เดี่ยวโดยครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน
- วันอาทิตย์ที่ 8 ม.ค. 2555 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4
อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวโดยครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน -
สวัสดีคุณปู และทุกๆท่าน
ตามอ่านอยู่ ผมว่าเข้าท่าดี จัดเป็นข้อมูล เรื่องเล่า ประวัติ ที่มาของครูบาอาจารย์ วัด สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ตลอดจนวัตถุมงคล เผื่อว่าใครอยากทราบข้อมูลก็มาค้นหาได้ สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ -
ขอบคุณครับพี่ตี๋ -
เหรียญสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังษี) หลัง พระมหาพุทธพิมพ์ ปี 2521 วัดไชโยวรวิหาร
ในปีพ.ศ.๒๕๒๑ มีพิธีพุทธาภิเษกครั้งยิ่งใหญ่ของวัดไชโย ในงานสมโภช ๑๙๐ปีแห่งชาตะของสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) วันที่ ๒๔-๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๒๑ ตรงกับวันแรม ๑๐-๑๑ ค่ำเดือน๑๒
โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตาญาณ สมเด็จพระสังฆราช(วาสนมหาเถระ) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพฯ ทรงเป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย
และมีสมเด็จพระพุฒาจารย์(เสงี่ยม) วัดสุทัศน์เทพวราราม กรุงเทพฯ เป็นองค์ดับเทียนชัย
รายนามพระคณาจารย์ เจริญพระพุทธมนต์ บริกรรมภาวนาและสวดพุทธาภิเษก ดังนี้
๑.หลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูล เชียงใหม่
๒.หลวงปู่สุด วัดกาหลง สมุทรสงคราม
๓.หลวงปู่เปรื่อง วัดสุวรรณภูมิ สุพรรณบุรี
๔.พระราชมงคลมุนี วัดชัยมงคล อ่างทอง
๕.พระมหาพุทธพิมพาภิบาล วัดไชโย อ่างทอง
๖.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม.
๗.หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม กาญจนบุรี
๘.หลวงพ่อน้อย วัดหนองโพธิ์ นครสวรรค์
๙.พระครูประสานนวกิจ วัดพระนอนจักร์สีห์ สิงห์บุรี
๑๐.หลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ ชัยนาท
๑๑.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี
๑๒.หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม นครปฐม
๑๓.ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า ลำพูน
๑๔.พระครูศรีรัตนาภิวัฒน์ วัดวิเศษชัยชาญ อ่างทอง
๑๕.พระครูอดุลสุดกิจ วัดโคกพุทธา อ่างทอง
๑๖.พระครูใบฎีกาเจริญ วัดอ่างทองวรวิหาร อ่างทอง
๑๗.หลวงพ่อสำเนียง วัดเวฬุวนาราม นครปฐม
๑๘.หลวงพ่อยงยุทธ วัดเขาไม้แดง ชลบุรี
๑๙.หลวงพ่อสด วัดหางน้ำสาคร ชัยนาท
๒๐.หลวงพ่อคูณ วัดสระแก้ว นครราชสีมา
๒๑.พระอธิการสน วัดไทร อ่างทอง
๒๒.หลวงพ่อทอง วัดก้อนแก้ว ฉะเชิงเทรา
๒๓.หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จันทบุรี
๒๔.พระอาจารย์จำเนียร วัดละมุด อ่างทอง
๒๕.หลวงปู่วัน อุตตโม วัดถ้ำอภัยดำรงค์ธรรม สกลนคร
๒๖.หลวงปู่สิม พุทธจาโร วัดสันติสังฆารามพรรณานิคม สกลนคร
๒๗.หลวงปู่คำแหง จนฺทสาโร วัดป่าสุวรรณนิเทศทรงธรรม ร้อยเอ็ด
๒๘.หลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ลพบุรี
๒๙.พระราชสุวรรณโมลี วัดต้นสน อ่างทอง
๓๐.พระราชสังวรญาณ(เจ้าคุณสนิท) วัดศีลขันธาราม อ่างทอง
๓๑.พระวิเศษชัยสิทธิ์ วัดอ่างทองวรวิหาร อ่างทอง
๓๒.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
๓๓.หลวงปู่เส่ง วัดกัลยาณมิตร กทม.
๓๔.หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม สิงห์บุรี
๓๕.หลวงพ่อจรัล วัดอัมพวัน สิงห์บุรี
๓๖.พระครูสิริปัญญาธร วัดตูม อยุธยา
๓๗.หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง สมุทรสาคร
๓๘.พระครูวิบูลคุณาวัตร วัดน้อย อ่างทอง
๓๙.พระครูวิรัตนธรรมวัตร วัดรางฉนวน อ่างทอง
๔๐. พระอาจารย์ผ่อง จินดา วัดจักรวรรดิ์ราชาวาส กทม.
๔๑.พระอาจารย์บัว วัดแสวงหา อ่างทอง
๔๒.หลวงพ่อชม วัดอินทราราม ชัยนาท
๔๓.หลวงพ่อบาง วัดหนองพลับ สระบุรี
๔๔.หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นครปฐม
๔๕.หลวงปู่พล วัดหนองคณฑี สระบุรี
๔๖.หลวงพ่อพุทธิ วัดวงศ์พาสน์ อ่างทอง
๔๗.หลวงพ่อสวน วัดบางกระดาน ตราด
๔๙.พระอาจารย์สมภพ วัดสาลีโข นนทบุรี
๕๐.หลวงปู่แว่น วัดป่าสุทธาวาส สกลนคร
๕๑.หลวงปู่ธูป วัดสุนทรธรรมทาน กทม.
ที่มา:ร้านดอกแก้ว
-
Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี
-
Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี
เหรียญทำน้ำมนต์ ปี 2532
้
หลวงพ่อทำพิธีพุทธาภิเษก" เหรียญทำน้ำมนต์ " เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน 2532 ที่วิหารแก้ว 100 เมตร เวลาประมาณ 6 โมงเย็น
ถัดไปอีก 2 วันเป็นงานเป่ายันต์เกราะเพชร ครั้งที่ 13 ในวันเสาร์ 5 ที่ 2 ธันวาคม 2532 พิธีมีขึ้นที่ศาลา 4 ไร่
จากวิดีโอเทปวันพิธีปลุกเสกเหรียญทำน้ำมนต์และวันพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร ผมถอดคำเฉพาะบางตอนที่หลวงพ่อกล่าวถึงที่มาการสร้างและอานุภาพเหรียญน้ำมนต์ไว้ดังนี้ครับ
ขอถอดความแบบย่อเอาแต่ใจความที่ผมคิดว่าสำคัญๆ นะครับ
ในพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรวันที่ 2 ธันวาคม 2532 รอบแรก หลังจากหลวงพ่อได้แนะนำเรื่องการรับและรักษายันต์เกราะเพชรจบแล้ว ท่านได้พูดถึงเรื่องเหรียญทำน้ำมันต์ให้ฟังประมาณนี้ว่า
ช่วงเดือนตุลา ร่างกายท่านเคลียด มีอาการป่วยมาก ท่านขึ้นไปวิมานท่านบนแดนพระนิพพานแล้วตัดสินใจว่าถ้าร่างกายไม่ดีก็จะไม่กลับ พระพุทธองค์ท่านก็มายับยั้ง ท่านบอกกับหลวงพ่อว่าให้เป็นหมอเอาไหม หลวงพ่อบอกว่าร่างกายแบบนี้เป็นหมอไม่มีใครเชื่อถือ เป็นหมอยา หมอพิธีกรรม ท่านไม่อยากเป็นเพราะจิตใจเป็นกังวล ไม่มีสุข
ท้ายสุดพระท่านบอกว่า ถ้าทำน้ำมนต์อย่างเดียว รักษาได้ทุกโรคเอาไหม หลวงพ่อก็ว่าถ้ารักษาโรคภัยไข้เจ็บทางกายอย่างเดียวเอา แต่ยังไม่พอใจนัก ต้องรักษาโรคทรัพย์จางได้ด้วย พระพุทธองค์ท่านก็เรียกพระสารีบุตรมาให้สอนหลวงพ่อ พระสารีบุตรท่านว่าเคยสอนแล้วเมื่อปี 2504 แต่หลวงพ่อบอกว่าตอนนั้นทำครั้งเดียวเลิกไปเลย ก็สอนกันใหม่ และพระสารีบุตรท่านก็ติดตามมาสอนหลวงพ่อต่ออีก 3-4 วัน รักษาโรคได้ทั้งทางกายและทางใจพวกคุณไสย พวกผีเข้าเจ้าสิง
หลวงพ่อพูดแนะนำว่า " ถ้าผู้หญิงมีครรถ์ ให้ทานน้ำมนต์ทุกวันก่อนจะหลับ อธิษฐานก่อน วันละอึกก็พอ อธิษฐาน ขอให้บุตรในครรค์จงเป็นผู้แข็งแรงไม่มีโรค และมารดาก็ไม่มีโรคด้วย แข็งแรงปลอดภัย เวลาเจ็บท้องใหม่ๆ ดื่มซัก 1 อึก อธิษฐานว่า ขอให้คลอดง่าย อย่างนี้ก็จะคลอดง่าย "
" ถ้าญาติโยมพุทธบริษัทต้องการลาภจากค้าขายทำมาหากิน ถ้าค้าขาย ตอนเช้าไปพรมหน้าร้าน ว่าคาถาตามหนังสือที่แนะนำไปให้ ถ้าต้องการปลูกผักปลูกหญ้า หรือข้าวกล้าทั้งหลายจะลงทำนา เอาน้ำมนต์ไปลงก่อนจะมีผลดีมาก "
" ยันต์นี้มีรูปอาตมาอยู่ด้วย เป็นอันว่าท่านอนุญาติให้ทำ ท่านก็ตั้งราคาเสร็จ เหรียญที่มียันต์นี่ ท่านตั้งราคาบอกว่าใช้ราคาเกิน 30 บาทไม่ได้ "
ในพิธีพุทธาภิเษกเหรียญทำน้ำมนต์ที่วิหาร 100 เมตรในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2532 หลวงพ่อเล่าตอนนึงว่า
" ทีแรกไม่ให้ทำเลย ไม่ให้แจกเลย(หมายถึงว่าพระท่านไม่ให้ทำเหรียญ ให้ทำเฉพาะแผ่นยันต์อย่างเดียว ทำน้ำมนต์แล้วให้คนมาตักไปเอง ประมาณๆนี้) เพราะกำลังใจคนเราไม่เท่ากัน นี่พระพุทธเจ้าเองนะ ต่อมาขอร้องเข้า คุยกันตั้งแต่ตี 2 ถึงตี 4 เอางี๊ก็แล้วกัน คุณทำได้แต่ทำได้ไม่เกินครั้งนึงไม่เกินพันองค์ เลยบอกท่านว่าถ้าไม่เกินพันองค์นี่มันตีกันแน่ เดี๊ยวก็ขึ้นราคากัน คนที่ได้ไป ก็ไปขึ้นราคากับคนไม่ได้ เลยขออนุญาติท่านเป็นพิเศษว่า เฉพาะรับงานเป่ายันต์คนมาก พันองค์คงไม่ไหว ท่านก็เลยอนุมัติว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกให้เป็นพิเศษให้ 3 หมื่นองค์ แต่ว่าต่อไปจะทำอีก ครั้งต่อไปจะได้ไม่เกินพันองค์ "
หลวงพ่อท่านบอกเพิ่มเติมว่า " บูชาทำน้ำมนต์รักษาโรคทุกอย่าง ค้าขายก็ได้ หาลาภก็ได้ ปลอดภัยก็มี ทุกอย่างท่านบอกทุกอย่าง วิชานี้โดยตรงผู้ให้คือพระสารีบุตร แต่ว่าการทำคือพระพุทธเจ้าทำ "
-
พุทธธาภิเษก พระกริ่งชินบัญชรบัวรอบและเททองหล่อหลวงปู่ทิมองค์ใหญ่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๕
ในมณฑลพิธีได้นำชุดพระกริ่งชินบัญชรบัวรอบ เหรียญเจริญพรบน – ล่าง หล่อโบราณ รูปหล่อโบราณและพระชุดที่จะมอบให้กับผู้ทำบุญทอดกฐินสามัคคีวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ที่วัดละหารไร่มาปลุกเสกอย่างเข้มขลังอีกครั้งหนึ่ง
การเททองหล่อรูปเหมือนชิ้นแรกครั้งนี้จึงเป็นการปลุกเสกวาระที่ ๔ วัตถุมงคลชุดนี้จะปลุกเสกให้ครบ ๕ ครั้ง โดยครั้งที่ ๕ หลวงปู่บัว วัดเกาะตะเคียน สุดยอดเกจิอาจารย์ของภาคตะวันออกปลุกเสกเดี่ยวให้ ที่วัดเกาะตะเคียน จ.ตราดในวันอันเป็นมหาชัย ซึ่งเป็นวาระสุดท้าย โดยหลวงปูบัวจะรวมธาตุตั้งธาตุทั้ง ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ และธาตุทองให้ยังเกิดเป็นรูป นามอันศักดิ์สิทธิขึ้นตามแบบฉบับหรือตำราดังเดิมของหลวงปู่ทิม ซึ่งเหมือนกับพิธีการอันศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่บัวเช่นกัน
เมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๕ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันมรณภาพครบ ๓๗ ปี ได้ประกอบพิธีทักษิณานุประทาน ระลึกถึงหลวงปู่ทิม พร้อมกับทอดผ้าป่าสามัคคีและประกอบพิธีหล่อรูปเหมือนชิ้นแรกของรูปหล่อหลวง ปู่ทิมโดยมี นายประชา เตรัตน์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาไทย อดีตนายอำเภอบ้านค่ายและผู้ว่าราชการจังหวัดระยองเป็นประธานในงานนี้มูลนิธิ หลวงปู่ทิม อิสริโก ได้นำพระกริ่งชินบัญชรบัวรอบ พระปิดตาปุ้มปุ่ย เหรียญเจริญพรย้อนยุด รูปเหมือนกาโม สมเด็จพรายดำ พรายขาวเข้าพิธีปลุกเสกอีกครั้งในมลฑลพิธี หล่อรูปเหมือนชิ้นแรกโดยสุดยอดพระเกจิอาจารย์ นั่งปรกปลุกเสก ๔ ทิศ ประกอบด้วย
-หลวงปู่คำบุ นั่งปรกทิศเหนือ
-หลวงพ่อก๋งเตื่องจากเกาะกงนั่งปรกทิศตะวันออก
-หลวงพ่อสินวัดละหารไร่ นั่งปรกทิศตะวันตก
-หลวงปู่อาด เทพเจ้าทะเลพัทยานั่งปรกทิศใต้
วันอาทิตย์ที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ หลวงปู่แขก หรือพระมงคลสุธี สุดยอดพระเกจิอาจารย์ เมืองพิษณุโลก เดินทางมามูลนิธิหลวงปู่ทิม เพื่อปลุกเสกเดี่ยวอีกองค์หนึ่งของวัตถุมงคลชุดพระกริ่งชินบัญชรบัวรอบ เหรียญเจริญพรย้อนยุคหล่อโบราณ เพราะชื่อท่านเป็นมหามงคล “พระมงคลสุธี” หลังจากนั่งปลุกเสกเตโชธาตุเป็นหลัก
วันพฤหัสบดี ที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ หลวงปู่บุญมา วัดถ้ำโพงพาง ชุมพร ก็ทำพิธีปลุกเสกเดี่ยว
วัตถุมงคลชุดพระกริ่งบัวรอบที่มูลนิธิเป็นผู้สร้าง จะนำ รายได้ไปสมทบทุนสร้างรูปเหมือนหลวงปู่ทิมที่ใหญ่ที่สุดในโลกและใช้ใน กิจการมูลนิธิฯ ต่อไป
-เหรียญเจริญพรบน+ล่าง เนื้อทองคำ ตามจอง
-เหรียญเจริญพรบน เนื้อเงิน สร้าง 555 เหรียญ
-เหรียญเจริญพรล่าง เนื้อเงิน สร้าง 555 เหรียญ
-เหรียญเจริญพรบน หล่อโบราณ สร้าง 1000 เหรียญ
-เหรียญเจริญพรล่าง หล่อโบราณ สร้าง 1000 เหรียญ
-
เหรียญนี้สร้างประมาณปี54-55 เป็นช่วงท้ายๆของท่าน ท่านคงรู้ล่วงหน้าว่าอีกไม่นานจะละสังขารเลยเอาตะกั่วเก่าของท่านทั้งหมดที่
สะสมเอาไว้มาทำเป็นเหรียญหล่อตะกั่วนี้ขึ้นมา และท่านก็ปลุกเสกในกุฏิตลอดไม่เคยออกให้บูชา จนท่านไม่สบายทางรองเจ้าอาวาส
เลยนำเหรียญนี้ใส่บาตรให้บูชาประมาณ300เหรียญ เพื่อนำเงินมาเป็นค่ายา ซึ่งพอคนแถววัดรู้ข่าวก็มาเช่าบูชากันจนหมดในเวลาไม่นาน
ส่วนรอยจาร หลวงพ่อทองให้รองเจ้าอาวาสเป็นคนจารเนื่องจากท่านมีปัญหาเรื่องสุขภาพ จำนวนการสร้างทั้งหมดไม่เกิน500เหรียญครับ
เหรียญนี้มีเป็นแบบหล่อและแบบปั้ม เหรียญนี้เป็นเหรียญหล่อซึ่งหายากกว่ากันมากครับ...
-
สวัสดีครับคุณปูและพี่ๆน้องๆทุกท่านครับบบบบบ ^__^
แสดงความยินดีกับกระทู้ใหม่ด้วยครับ แล้วจะมาแจมด้วยนะครับ
หน้า 3 ของ 18